spacer.png, 0 kB
John McLaughlin and Mahavishnu Orchestra (AFM)
Top Ten Songs from Genesis (Analog Kid)
5 Greatest Major Fusion Jazz Albums from 70's (AFM)
The Red Stratocaster and EMGs (AFM)
Diggin' Deeper "Shine On You Crazy Diamond - Pink Floyd" (AFM)
Roger Waters - Amused to Death (AFM)
Porcupine Tree - Fear of a Blank Planet (Parid)
Top Ten Songs from Yes (Analog Kid)
Top Ten Songs from King Crimson (Analog Kid)
Aviv Geffen - Blackfield : Part I (Parid)
The Rise and Fall of Queensryche (Lilium)
13 Essential Albums of “Extreme Progressive Metal” (Lilium)
Eloy Albums Guide (PSLK)
13 Greatest Rhythm Section Albums (AFM)
Robert Fripp's Soundscapes Technique (AFM)
Penguin Cafe Orchestra (Panyarak)
Penguin Cafe Orchestra & Simon Jeffes (Polotoon)
Mike Oldfield (Panyarak)
John Cale (Panyarak)
Philip Glass - Part I (Panyarak)
Philip Glass - Part II (Panyarak)
Van der Graaf Generator (Panyarak)
Sally Oldfield (Panyarak)
Family (Panyarak)
Renaissance & Annie Haslam (Panyarak)
Strawberry Fields Forever by George Martin (Winston)
Syd Barrett (Panyarak)
Peter Gabriel (panyarak)
Telecasters plus Les Paul Goldtop & Gretsch Duo Jet (AFM)
7 Phases in Prog Heads Life (Analog Kid)
Aviv Geffen - Blackfield : Part II (Parid)
Aviv Geffen - Blackfield : Part III (Parid)
Pink Floyd's Back Up Role
Ayreon - 01011001 (Parid)
Roger Waters – Amused to Death (Parid)
Snowy White & His Guitar : Interview (AFM)
Rick Wakeman (panyarak)
Coldplay - Viva la Vida (parid)
Jeff Beck - Blow By Blow & Wired (AFM)
Interview with \"Dredg\" (Lilium)

spacer.png, 0 kB
spacer.png, 0 kB
Home arrow 13 Essential Albums of “Extreme Progressive Metal” (Lilium)
13 Essential Albums of “Extreme Progressive Metal” (Lilium) PDF Print E-mail
Written by Agent Fox Mulder   
Friday, 21 March 2008

 13 Essential Albums of “Extreme Progressive Metal”

Written by Lilium
20 มีนาคม 2551


พูดถึงดนตรี Extreme Progressive Metal แล้วเชื่อว่าหลายๆท่านในเว็บบอร์ดนี้คงจะส่ายหน้าและเบือนหน้าหนีแน่นอน เพราะมันคือแนวดนตรีโปรเกรสสีฟที่อาจจะเรียกได้ว่า “โหดร้ายที่สุด” เพราะชื่อมันก็บอกอยู่แล้วคือการนำเอาสัดส่วนของดนตรีแบบโปรเกรสสีฟมาผสมกับดนตรีเอ็กซ์ตรีมเมตัลโหดๆแต่ละ
ประเภท ไม่ว่าจะเป็น Death Metal, Black Metal, Thrash Metal หรือ Grindcore ซึ่งถ้าไม่มีพื้นฐานเรื่องแนวดนตรีเหล่านี้มาก่อนก็คงจะรับได้ยากครับ

อย่างไรก็ตามดนตรีแนวนี้ก็เหมือนกับทุกแนว ที่จะมีการยกย่องผลงานอันเป็นที่สุดเอาไว้ จะ 5, 10 หรือร้อยชุดก็แล้วแต่ ซึ่งผมที่ค่อนข้างจะชื่นชอบดนตรีแนวนี้เป็นพิเศษก็จะมาลองจัด 13 สุดยอดอัลบั้มของแนวดนตรี Extreme Progressive Metal ดูครับ ถึงไม่ชอบยังไงอ่านเป็นความรู้ประดับไว้ก็ได้ครับ...อิอิ
ป.ล. ทั้ง 13 อัลบั้มนี้ไม่เรียงลำดับดีมากไปหาน้อยนะครับ
ป.ล. ทั้ง 13 อัลบั้มนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผมเท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงจากการโหวตอัลบั้มยอดเยี่ยมที่ใหน จะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยอย่างไรก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ
 

1. Edge of Sanity – The Spectral Sorrow (1993)

Edge of Sanity คือวงโปรเกรสสีฟ/เมโลดิคเดธเมตัลจากสวีเดน โดยมีแกนนำเป็นนักดนตรีมากความสามารถอย่าง Dan Swano ซึ่งหลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไม่เลือกงานคลาสสิคตลอดการอย่าง Crimson (ทั้งอัลบั้มมีเพลงเดียว ยาว 40 นาทีกว่าๆ) ก็เพราะว่าบางทีความที่มันมีเพลงเดียวยาวเกินไปนั้น ทำให้ผมไม่สามารถมองภาครวมของอัลบั้มได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง อีกทั้งอัลบั้ม The Spectral Sorrow ก็เป็นการผสมผสานกันอย่างแนบเนียนของดนตรีเดธเมตัลหนักๆแต่เปี่ยมด้วยเมโลดี้งดงาม ริฟฟ์กีตาร์สวยๆกับสัดส่วนดนตรีที่หลากหลายแบบโปรเกรสสีฟได้อย่างแนบเนียนลงตัวที่สุด ที่สำคัญคือสามารถฟังได้ทุกเพลงโดยไม่ต้องกดข้ามเลยครับ


2. Opeth – Blackwater Park (2001)
คิดว่าหลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อวงนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นวงโปรเกรสสีฟเมตัลที่มีซาวนด์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองจริงๆ บทหนักก็เอาซะโหด บทขายอารมณ์มัวหมองก็ทำได้อารมณ์มากๆ และที่สำคัญคือบทนุ่มนวลอ่อนหวานแบบ Camel ที่ทางวงสามารถนำมาผสมผสานได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งจะว่ากันตามจริงแล้วอัลบั้มของวงนี้อยู่ในเกณท์ดีมากทุกชุด แต่ผมยกให้อัลบั้มนี้เพราะดูจะเป็นการพัฒนาการของวงที่ชัดเจนที่สุด เป็นงานที่ลงตัวกลมกล่อมพอดีๆระหว่างความโหดเหี้ยมและความนุ่มนวล และที่สำคัญคืออัลบั้มนี้โปรดิวซ์และได้รับการขัดเกลาซาวนด์โดยปรมาจารย์โปรเกรสสีฟยุคใหม่อย่าง Steven Wilson แห่งวง Porcupine Tree ครับ


3.Dan Swano – Moontower (1999)
นี่คืองานเดี่ยวของ Dan Swano แกนนำหลักของวง Edge of Sanity ที่ได้แนะนำไปในข้างต้นแล้ว อัลบั้มนี้ในตอนแรกได้ถูกเตรียมเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอัลบั้มของ Edge of Sanity ชุดต่อไป แต่ไม่ทันไรก็ต้องมาแตกวงซะก่อน เขาจึงนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาปรุ่งแต่งเพิ่มเติมเป็นงานเดี่ยวของเขาเองซะเลย ซึ่งดนตรีในอัลบั้มนี้มีความคล้ายคลึงกับงานของ Edge of Sanity อยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วมันงดงามกว่า นุ่มนวลกว่า และมีความเป็นโปรเกรสสีฟมากกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะการเพิ่มเติมเสียงซินธ์ เปียโนและอคูสติกกีตาร์เข้ามามากขึ้น อ้อ....เสียง Moog และ Synth ในอัลบั้มนี้ย้อนยุคไปคล้ายคลึงกับที่วงโปรเกรสสีฟร๊อคยุค 70’s ใช้กันเลยครับ

4. Atheist – Elements (1993)
Atheist คือวงดนตรีกลุ่มแรกๆที่นำดนตรีแจ๊สมาผสมผสานกับดนตรีเทคนิคัลเดธ/แธรชได้อย่างลงตัวเคียงข้างกับวงอย่าง Cynic ซึ่งดนตรีที่ออกมานั้นจะค่อนข้างแปลกหูเอามากๆ คือมีความหนักในแบบเดธ/แธรชแต่กลับมีการใช้ไลน์เบสแบบแจ๊สมาผสมผสาน มีทั้งกีตาร์แบบฟลาเมงโก้ หรือกำลังอัดหนักๆอยู่ก็มีการเบรกอารมณ์ไปเล่นแจ๊สงามๆคั่นกลางเลยก็มี รวมถึงมีโครงสร้างดนตรีที่ซับซ้อนแบบโปรเกรสสีฟอีกด้วย ซึ่งอัลบั้ม Elements นี้เป็นอัลบั้มสุดท้ายของวงและเป็นอัลบั้มที่นำแจ๊สเข้ามาผสมได้เนียนและเข้มข้นที่สุดด้วยครับ

5. The Ocean – Aeolian (2005)
กลุ่มดนตรี The Ocean มากับแนวดนตรีที่เรียกว่า Epic Progressive Sludgecore (ผมนิยามเอาเองนะครับ) ซึ่ง Sludgecore ก็คือการนำริฟฟ์หนักภูผาถล่มหนืดยืดยานแบบดูมมาผสมกับกับความรุนแรงก้าวร้าวของฮาร์ดคอร์ ซึ่ง The Ocean นั้นได้ผสมความซับซ้อนแบบโปรเกรสสีฟและความโหดร้ายของเดธเมตัลเข้าไปอีก รวมทั้งมีเนื้อเพลงในลักษณะมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งในอัลบั้มนี้มีความหนักแน่นมากกว่าชุดก่อนๆ แต่ละเพลงก็อัดกันยาวนานพอสมควร บางทีอัดกันลูกเดียว 7-8 นาทีก็มี วงนี้ไม่มีนักร้องนำหลักนะครับ แต่จะมีการเชิญนักร้องหลายๆคนมาร้องนำแทน ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ได้ลงขันนักร้องมาแหกปากโวยวายกันไว้มากถึง 9 คน ซึ่งแต่ละคนก้จะสำรอก กรีดร้อง แหกปากด้วยเสียงที่แตกต่างหันไป ซึ่งเท่าที่อธิบายมานี้ก็คงจะคิดว่าเพลงมันจะต้องขัดหู โกลาหล ปั่นป่วนมากแน่นอน แต่เปล่าเลยครับ ทุกเพลงอัดกันได้ลื่นไหลเหลือเชื่อเลยทีเดียว เป็นอัลบั้มที่ฟังแล้วเบื่อยากมากๆครับ (อาร์ตเวิร์กทำได้วิจิตรมากครับวงนี้)


6. Cynic – Focus (1993)
เจ้าของตำนานอันลือลั่นแห่งวงการโปรเกรสสีฟเมตัล วงดนตรีที่เล่นดนตรีได้ประหลาดและไม่เหมือนใครสุดๆ จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีวงใหนเล่นเหมือนสักที อัลบั้ม Focus ที่เป็นอัลบั้มเดียวที่ทางวงฝากผลงานไว้นั้น เป็นจุดศูนย์รวมของทั้งโปรเกรสสีฟเมตัล, เดธเมตัล, แจ๊สเมตัล รวมถึงไซเบอร์เมตัลมาผสมผสานกันได้อย่างน่าทึ่ง ฝีมือของนักดนตรีฉกาจฉกรรจ์มากๆ และน่าจะเป็นวงดนตรีเมตัลวงแรกๆที่นำเอา Chapman Stick มาเล่นอีกด้วย


7. Mastodon – Blood Mountain (2006)
วงโปรเกรสสีฟเมตัลรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองมากๆ เป็นอีกวงที่สามารถสร้างซาวนด์เอกลักษณ์ของตนเองได้ แถมการแต่งเพลงก็ยังออกมาในรูปแบบของคอนเซปต์อัลบั้มเสียด้วย ดนตรีในอัลบั้ม Blood Mountain นั้นร้ายกาจมากครับ มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบโปรเกรสสีฟที่ผสมผสานความเข้มข้นของแธรชเมตัลและความโจ๊ะชวนโยกของฮาร์ดคอร์ไว้ได
้อย่างลงตัวที่สุด และไม่โหดร้ายอะไรมากนัก บางทีก็มีท่อนหนืดๆแบบดูมเมตัลอีกด้วย ซึ่งอัลบั้ม Blood Mountain นั้นเป็นคอนเซปต์เกี่ยวกับคนหลงป่าอยู่บนเกาะลึกลับที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด ภัยธรรมชาติ และอดอยากหิวโหยจนเห็นภาพหลอน อัลบั้มนี้ตื่นเต้นทั้งดนตรีและเนื้อหาครับ

8. Gorguts – Obscura (1998)
นี่คือวงที่เปรียบเสมือนต้นแบบของวงเทคนิคัลบรูตัลเดธทั้งหลาย ด้วยความโหดของดนตรีที่ใกล้เคียงบรูตัลเดธ เทคนิคของนักดนตรีที่เต็มเปี่ยม และความซับซ้อนของดนตรีที่ยากจะคาดเดา อีกทั้งบางทียังผสมแจ๊สเข้าไปอีก ทำให้อัลบั้ม Obscura นี่เป็นอัลบั้มที่สุดโกลาหลและชวนเวียนหัวมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามถ้าต้องการศึกษาดนตรีโปรเกรสสีฟ/เทคนิคัลเดธพันธุ์โหดล่ะก็ อัลบั้มนี้ถือเป็นต้นตำรับและไม่ควรมองข้ามไปเลยจริงๆครับ

9. Voivod – Phobos (1997)
ถ้าจะถามถึงวงแธรชเมตัลสุดโปรดของผมล่ะก็ต้องวง Voivod นี้เลยครับ พวกเขาคือวงแธรชหัวก้าวหน้าที่ไม่เหมือนใคร คือแทนที่จะไปเล่นเทคนิคัลแธรช เหยาะแจ๊สแบบวงอื่นๆ แต่ Voivod กลับเลือกที่จะนำดนตรีไซคีเดลิกมาผสมผสานแทน!!! ลองนึกดูว่าการนำเอาความมันส์แบบแธรชเมตัลมาผสมกับความเมา หลอกหลอนแบบไซคีเดลิกแล้วมันจะเป็นอย่างไร ผลที่ได้คือเพอร์เฟคต์สุดๆครับ โดยเฉพาะอัลบั้ม Phobos ที่วงเปลี่ยนนักร้องนำใหม่เป็น Eric Forrest ที่มีเสียงร้องก้าวร้าวกว่าคนก่อนอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงความหนักหน่วงที่มากขึ้นและยังใส่ความเป็นไซคีเดลิกมากขึ้นอีก นี่จึงเป็นหนึ่งในอัลบั้มแธรชเมตัลที่ผมหลงใหลที่สุดตลอดกาลเลยครับ

10. Between the Buried and Me – Colors (2007)
ผมออกตัวเลยว่าไม่ค่อยชอบดนตรีเมตัลคอร์ที่มีอยู่เกลื่อนตลาดสักเท่าไร เพราะกี่วงๆมันก็เล่นออกมาเหมือนกันหมดเลย แต่พอมาได้ฟัง Between the Buried and Me แล้วผมก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า วงเมตัลคอร์ที่กล้าแตกต่างและหัวก้าวหน้าก็ยังมีอยู่นะเออ!!!
ดนตรีของวงนี้ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือการนำ Muse + Opeth + Converge + Mastodon มาผสมรวมกันแล้วเขย่าๆออกมาเป็น Between the Buried and Me นั่นเอง ซึ่งใน Colors อัลบั้มล่าสุดนั้นทางวงมีพัฒนาการขึ้นมาก เล่นดนตรีได้แนบเนียนขึ้นเยอะครับ เป็นอัลบั้มที่ฟังแล้วไม่หงุดหงิดง่ามเท้าเหมือนวงเมตัลคอร์ทั่วไปเลย ในทางกลับกันจะคิดว่า นี่แหละ คือสุดยอดวงโปรเกรสสีฟเมตัลรุ่นใหม่ตัวจริง!!!!!

11. Death – Symbolic (1995)
นี่คือผู้สร้างสรรค์แห่งวงการเดธเมตัลตัวจริงเสียงจริง นอกจากจะเป็นวงดนตรีกลุ่มแรกๆที่เริ่มเล่นเดธเมตัลแล้ว ยังเป็นผู้พัฒนาให้เดธเมตัลก้าวไปไกลกว่าที่เคยเป็นอีก ทั้งนี้ความดีความชอบต้องยกให้ Chuck Schuldiner มือกีตาร์และแกนนำหลักของวงผู้ล่วงลับครับ ซึ่งในอัลบั้ม Symbolic นั้นเป็นเดธเมตัลที่มีมูฟเมนต์หลากหลาย มีความเป็นโปรเกรสสีฟมาก แต่ดนตรีก็ไม่ชวนปวดหัวเท่าพวกเทคนิคัลเดธสักเท่าไร ที่สำคัญคือภาคกีตาร์ในอัลบั้มนี้คือสุดยอดของจริง ลีดกันได้เมามันส์และงดงามมากๆ เป็นวงเดธเมตัลเพียงไม่กี่วงที่ผมยกย่องฝีมือการลีดกีตาร์อย่างสุดๆครับ

12. Sigh – Hangman’s Hymn (2007)
ปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ชอบดนตรีแบล๊คเมตัลเท่าไรนัก โดยเฉพาะเสียงร้องที่โหดแบบกรีดแหลม ซึ่งสำหรับผมแล้วมันรับได้ยากจริงๆครับ แต่สำหรับ Sigh นั้นกลายเป็นวงแบล๊คที่ผมหลงใหลและเทิดทูนสุดๆ ด้วยการเล่นดนตรีแบล๊คที่ไม่เหมือนใคร คือการนำเอาดนตรีแบล๊คมาผสมกับดนตรีคลาสสิคได้อย่างลงตัวจริงๆ (ไม่ได้โอ่อ่าหรือหรูหราแบบ Dimmu Borgir หรือ Cradle of Filth นะครับ เพราะดนตรีวงนี้หนักหน่วง เข้มข้น และซับซ้อนกว่ามาก) รวมถึงมีการทดลองหลายๆอย่างแบบอวองต์-การ์ดในเพลง มีเมโลดี้ที่มืดหม่นสวยงาม มูฟเมนต์หลากหลาย รวมทั้งบางทียังมีเสียงเมลโลตรอนโผล่มาบางช่วงให้ตื่นเต้นอีกด้วย จนลืมเสียงร้องกรีดๆไปเลย ยิ่งอัลบั้มใหม่ที่มีการพัฒนาการและมีความลงตัวมากขึ้นจากอัลบั้มเก่าๆหลายขุมนั้น ทำให้อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มอีกชุดที่ได้ฟังแล้ววางไม่ลงครับจะว่าวงนี้เป็นวงแบล๊คที่ผมชอบที่สุดตลอดกาลเลยก็ว่าได้ครับ

13. Mercenary – 11 Dreams (2004)
นี่คือฮีโร่ของผมครับ พวกเขาคือวงเมตัลลูกผสมชั้นยอดจากเดนมาร์กที่สามารถครองใจผมได้ในตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง เพราะว่าการฟังเพลงของวงนี้เป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง คือเราจะได้ยินซาวนด์ดนตรีแนวต่างๆหลากแนวรายล้อมไปหมด หันไปทางซ้ายเจอเมโลดิคเดธ หันไปทางขวาเจอเพาเวอร์เมตัล มองไปข้องหน้าเจอโปรเกรสสีฟ มองไปข้างหลังเจอแธรชเมตัล มองขึ้นไปบนฟ้ากลับเจอกอธิคเมตัลอยู่ลิบๆซะงั้น ซึ่งทุกอย่างได้ถูกหล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียนอยู่ในอัลบั้ม 11 Dreams นี่แล้วครับ คือฟังดูอาจเหมือนมั่ว แต่ถ้าฟังเผินๆแบบไม่คิดอะไรมาก เราก็จะคิดแค่ว่านี่คือโปรเกรสสีฟเมตัลชั้นเยี่ยมที่เปี่ยมไปด้วยความลงตัวที่สุดวงหนึ่ง และให้ตายสิ...เพลงมันติดหูทุกเพลงเลยครับ!!!!
Last Updated ( Friday, 21 March 2008 )
spacer.png, 0 kB
spacer.png, 0 kB
spacer.png, 0 kB
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Sellers in Clothing