Arena The Visitor (Studio Album, 1998)
Written by Lilium ( Visarute Virojanawat)
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2550
Rating :




Track Listings:
1. A Crack In The Ice (7:25)
2. Pins And Needles (2:46)
3. Double Vision (4:24)
4. Elea (2:36)
5. The Hanging Tree (7:09)
6. A State Of Grace (3:26)
7. Blood Red Room (1:47)
8. In The Blink Of An Eye (5:29)
9. (Don't Forget To) Breathe (3:40)
10. Serenity (2:10)
11. Tears In The Rain (5:43)
12. Enemy Without (5:05)
13. Running From Damascus (3:44)
14. The Visitor (6:13)
Total Time: 59:37
Line-up/Musicians:
- Paul Wrightson / vocals
- John Mitchell / guitars and backing vocals
- Clive Nolan / keyboards and backing vocals
- John Jowitt / basses and backing vocals
- Mick Pointer / drums
Review:
สำหรับชื่อวง Arena แล้ว ถ้าเป็นผู้ที่ฟังดนตรีโปรเกรสสีฟมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ก็คงจะเคยได้ยินชื่อวงนีโอ-โปรเกรสสีฟระดับแถวหน้าวงนี้มาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยนะครับนะครับ ซึ่งสมาชิกที่เด่นๆของวงนี้คงไม่ใช่ใครนอกเสียจากจะเป็น Clive Nolan มือคีย์บอร์ดฝีมือดีในสายนี้ที่เคยมีเครดิตร่วมงานกับหลายต่อหลายคน รวมถึง Mick Pointer อดีตมือกลองของ Marillion ซึ่งสองคนนี้ก็ถือว่าเป็นเสาหลักของวงมาตั้งแต่แรกด้วยครับ
ส่วนในด้านของผลงานนั้น ทางวงมีผลงานดีๆออกมาหลายชุด แต่อัลบั้มที่ติดตรึงอยู่ในใจของผมมากที่สุดก็คือ The Visitor นี่แหละครับ
The Visitor เป็นอัลบั้มชุดที่ 3 ซึ่งทางวงมีความต้องการจะทำเพลงให้มีบรรยากาศที่มืดมนและเป็น Drama มากขึ้น (ตั้งแต่หน้าปกเลย) แล้วพวกเขาก็ไม่พลาดครับ อัลบั้มนี้มีบรรยากาศที่หม่นมืดตลอดทั้งอัลบั้มจริงๆ
เปิดอัลบั้มด้วยเพลง A Crack in the Ice ที่มีจังหวะแบบมิดเทมโป หนักแน่นมีพลังและมืดมน รุกเร้าอารมณ์ได้ดีครับ ท่อนคอรัสติดหู มีแอบโซโล่อคูสติกกีตาร์ตอนกลางเพลงด้วย ลีลากีตาร์ของ John Mitchell ทำให้ผมนึกถึง David Gilmour ขึ้นมาตงิดๆเลยครับ ต่อด้วย Pins and Needles เพลงช้าๆ ขายอารมณ์ความยาว 2 นาทีซึ่งเชื่อมไปยังเพลง Double Visions เพลงจังหวะค่อนข้างเร็วที่วาดลวดลายคีย์บอร์ดและกีตาร์กันได้งดงามมากๆครับ เสียงร้องของ Paul Wrightson อาจไม่มีเอกลักษณ์มากนัก แต่เข้ากับบทเพลงได้ดีครับ ต่อเนื่องด้วย Elea และ The Hanging Tree เป็นเพลงช้า บรรยากาศดาร์คและมืดมนสุดๆ มีท่วงทำนองที่โหยหาและกีตาร์โซโล่ที่บาดใจดีมากๆ แทร๊คอย่าง In the Blink of an Eye และ Running from Damascus นั้นติดกลิ่นอายเมทั่ล ดุดันกว่าเพื่อน โดยเฉพาะในแทร๊คแรกที่ Clive Nolan ได้โชว์ฝีมือคีย์บอร์ดแบบเต็มๆ (โดยเฉพาะตอนที่เล่น Moog) เป็น Killer Track ของอัลบั้มนี้ได้เลยครับ ส่วนเพลงหลังนั้นมีดีที่ติดหูและริฟฟ์กีตาร์/คีย์บอร์ดที่สุดจะเมโลดิก ฟังสนุกและใหลลื่นดี ซึ่งทั้งสองเพลงก็ยังคงไม่ทิ้งบรรยากาศที่หม่นมืดไปครับ Serenity เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์สั้นๆที่งดงามมากๆ ฟังแล้วนึกถึงเพลง Castellorizon ของ David Gilmour เลยล่ะครับ ซึ่งต่อเนื่องกับเพลงช้าๆเศร้าๆอย่าง Tears in the Rain ที่ฟังดูสิ้นหวังทางด้าน Enemy Without เป็นเพลงที่สดใสที่สุดในอัลบั้มนี้ครับ (แต่ถึงกระนั้นก็ยังแอบมืดมนเล็กๆอยู่ดี) จังหวะกลางๆติดหูดีครับ ท่อนคอรัสทำมาเพื่อให้ร้องตามกันได้ไม่ยาก ก่อนจะปิดท้ายกันด้วยไตเติ้ลแทร๊ค The Visitor ที่ให้ความรู้สึกเหมือนใกล้หลุดพ้นจากอุโมงค์ที่ดำมืด ก่อนที่ John Mitchell จะมาโซโล่กีตาร์ที่งดงาม โหยหวน และบาดใจสุดๆ ในช่วง 3 นาทีสุดท้ายของเพลง (ฟังยังไงก็ยังกับ David Gilmour เลย) เป็นการปิดท้ายที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจจริงๆครับ
สำหรับคอนีโอ-โปรเกรสสีฟและผู้ที่ชื่นชอบดนตรีโปรเกรสสีฟที่เน้นเรื่องบรรยากาศของเพลงนั้น ผมไม่อยากให้พลาดอัลบั้มนี้เลยครับ ชื่อของ Clive Nolan คงไม่ต้องการันตีอะไรกันมาก ส่วนฝีมือกีตาร์ของ John Mitchell นั้นก็เจ๋งพอตัว ซึ่งเชื่อว่าแฟนเพลงของวงอย่าง Marillion, Pendragon, Pink Floyd ไปจนถึง Shadow Gallery และ Dream Theater คงไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ