KILLING BONO หนังที่คนรักยูทู และดนตรียุค 80 ห้ามพลาดชื่อหนังอาจจะทำให้แฟนๆ วงยูทูรู้สึกคุ้นๆ และชื่อโบโนของหนังเรื่องนี้ ก็คือโบโนคนเดียวกับที่เป็นนักร้องนำของวงยูทูอย่างที่คิดไว้นั่นแหละ แล้วเรื่องราวของหนังก็เกี่ยวข้องกับยูทูไม่น้อยเหมือนกัน
Killing Bono เป็นเรื่องของสองพี่น้อง นีล-ไอวาน แมคคอร์มิก ที่เรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกันกับพอล ฮิวสัน, แลร์รี มุลเลน จูเนียร์, อดัม เคลย์ตัน และเดวิด โฮเวลล์ เอฟแวนส์ ซึ่งทั้งสี่คนคือสมาชิกของวงยูทูในเวลาต่อมา ทั้งนีลและสมาชิกของยูทู ที่ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า เดอะไฮพ์ ก็มีเป้าหมายที่จะตั้งวงดนตรีเหมือนๆ กัน และหวังว่าจะได้เซ็นสัญญาอัดแผ่นเสียงไม่ต่างกัน
แต่แล้ววงพี่น้องแมคคอร์มิก ที่นีลมั่นอกมั่นใจมากว่าเหนือกว่าเดอะไฮพ์ กลับไปไม่ถึงไหน เต็มที่ก็แค่ได้ออกทัวร์ แถมไม่เคยมีอัลบั้มออกเป็นชิ้นเป็นอัน ผิดกับยูทูที่กลายเป็นซูเปอร์ สตาร์ระดับโลก ส่วนพวกเขาค่อยๆ หายไปกับกาลเวลา ทั้งๆ ที่ยูทูก็พยายามยื่นมือมาช่วยวงของแมคคอร์มิกอยู่หลายๆ ครั้งในฐานะคนบ้านเดียวกัน
แน่นอนว่างานนี้มีทำอะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางหรือผิดพลาดเกิดขึ้น ถึงทำให้พี่น้องแมคคอร์มิกไปไม่ได้ไกล ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องความผิดพลาดส่วนตัวทั้งนั้น แต่แทนที่จะโทษตัวเอง นีลกลับโทษโบโน ทำให้พยายามจะทำอย่างที่ชื่อเรื่องบอกไว้ Killing Bono
หนังทำออกมาแบบงานเบาสมอง มีอารมณ์ขันแบบตลกร้าย ตั้งแต่ใบปิดที่ล้อเลียนปกอัลบั้ม Boy กับ War ของยูทู และมีที่มาจากหนังสือชื่อ Killing Bono: I Was Bono's Doppelganger ของนีล แมคคอร์มิก ที่เขียนจากชีวิตจริงอีกที แต่เมื่อเป็นหนัง อะไรหลายๆ อย่างก็ถูกเสริมเติมแต่งเข้ามา ซึ่งจากที่ทางแมคคอร์มิกเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอน ท้ายๆ ของหนัง แต่ก็เข้าใจว่าทำขึ้นมาเพื่อให้ดูสนุกและมีสีสันมากขึ้น เพราะหากเป็นอย่างชีวิตจริงทั้งหมด เข้าใจว่าหนังน่าจะจบอย่างจืดชืด
หนังก็ทำออกมาได้สนุกในระดับหนึ่ง และมากขึ้นไปอีกระดับสำหรับคนที่โตมาพร้อมกับการฟังเพลงสากลในยุค 80 ชอบวงยูทู ที่จะมีมุกเฉพาะยุคให้ได้ขำมากมาย โดยเฉพาะการคัดเลือกนักแสดงนั้น ถือว่าทำได้แทบจะเป๊ะเลยทีเดียวสำหรับบรรดาสมาชิกวงยูทู ขณะที่บรรยากาศ แฟชั่น สภาพบ้านเมืองก็ให้อารมณ์แบบยุค 80 เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงแบ็กกี้ เสื้อตัวโคร่งๆ แล้วกับดารานำของเรื่อง เบน บาร์นส์ ที่รับบทเป็นเจ้าชายแคสเปียนในหนังชุดนาร์เนีย นี่คือบทที่ดีที่สุดและเล่นดีที่สุดของเขาก็ว่าได้ ตัวเรื่องเองแม้จะเกี่ยวข้องกับยูทูเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วมันก็คือเรื่องของทุกคนที่ใฝ่ฝันจะเป็นดาว ที่บางครั้งก็ต้องแข่งขันกับเพื่อนที่โตมาด้วยกันซึ่งทำให้ชีวิตมีอคติบังตา จะว่าไปแล้วเรื่องของแมคคอร์มิกกับโบโนก็คือเรื่องราวในแบบศัตรูที่รักนั่นเอง
ดูแล้วก็ต้องมาบอกกันว่าถ้าเป็นแฟนยูทู หรือฟังเพลงในยุค 80 เป็นล่ำเป็นสัน นี่คืองานห้ามพลาด แค่เห็นบรรยากาศ แฟชั่นในหนัง ก็เล่นเอายิ้มแก้มปริแล้วล่ะ.--จบ--
คอลัมน์: นพปฎล พลศิลป์ ดนตรีมีเหตุ: KILLING BONO หนังที่คนรักยูทู และดนตรียุค 80 ห้ามพลาด
ที่มา ไทยโพสต์
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=13019.msg355850;topicseen#new