ต่อไป »

[ปีศาจลายคราม]

ผมจำได้ว่า ตอนที่อัลบั้ม Ring of Changes ของ Barclay James Harvest ออกใหม่ ๆ ในต้นยุค 80's นั้น มันออกไล่ ๆ กันมากับผลงานชุด Long Distance Vogager ของ The Moody Blues และสไตล์เพลงของทั้งสองอัลบั้มจากต่างวงกันนี้มีลักษณะคล้ายกันมาก คือ เป็น melodic rock ที่ประดับประดาด้วยดนตรีออร์เคสตร้า ผลลัพธ์ก็คืองานดนตรีร็อคที่แม้จะเอาใจตลาด แต่ก็คงไว้ซึ่งความวิจิตรสวยงามตระการโสต ตอนนั้นผมฟังผลงานทั้งสองชุดดังกล่าวนี้ไม่ทราบหรอกครับว่าใครเป็นโปรดิวเซอร์หรืออำนวยการผลิตให้ มาทราบในภายหลังว่าเป็น Pip Williams เช่นเดียวกับผลงานอีกสองชุดที่คลอดออกในอีกไม่กี่ปีถัดมา คือ ผลงานชุด Victims of Circumstance ของ BJH และ The Present ของ The Moody Blues ก็มี Pip Williams เป็นผู้ดูแลการผลิตให้เช่นกัน แนวดนตรีที่ออกมาก็คล้ายกัน ผมจึงได้มาคิดว่าโปรดิวเซอร์แต่ละคนจะมีสไตล์และเอกลักษณ์ทางดนตรีเป็นของตนเอง และมีส่วนกำหนดแนวทางดนตรีในผลงานของศิลปินที่ตนโปรดิวซ์ให้ ถ้าวงหรือคนใดได้โปรดิวเซอร์ดีมีฝีมือ ก็มีโอกาสดังหรือแจ้งเกิดได้ไม่ยาก วงร็อคหลายวงมีประวัติศาตร์ยาวนาน ออกผลงานหลายชุด ถ้าสังเกตดูดี ๆ คุณภาพผลงานแต่ละชุดไม่เท่ากัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลพวงจากการเปลี่ยนโปรดิวเซอร์ ดังนั้น ความสำคัญของโปรดิวเซอร์จึงเป็นสิ่งที่มิอาจถูกมองข้ามได้ ทุกครั้งที่ผมซื้อซีดีหรือแผ่นเสียง ผมมักจะพลิกดูชื่อโปรดิวเซอร์ ถ้าเป็นคนดัง ผลงานในอัลบั้มอาจมีเฮ คุณภาพเสียงอาจดีด้วย แต่ก็ไม่แน่ ในขณะเดียวกัน ถ้าโปรดิวเซอร์ชื่อไม่คุ้น อาจต้องลองฟัง อย่าเพิ่งร้องยี้ เพราะไม่แน่ว่าฝีมือโปรดิวซ์ของเขาอาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้ การดูหรือแอบมองเครดิตของโปรดิวเซอร์หรืออาจรวมไปถึง sound engineer ทำให้การฟังเพลงสนุกขึ้น เอาไว้ว่าง ๆ ผมจะนำเอาเรื่องราวของโปรดิวเซอร์แต่ละคนที่มีอิทธิพลต่อผลงานเพลงมาพูดคุยกัน หรือใครมีเรื่องราวทำนองนี้จะร่วมแชร์ก็ขอเชิญได้นะครับ