ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149730 กระทู้ ใน 4436 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

18 พฤษภาคม 2024 | 09:56:23 AM
หน้า: 1 2 [3] 4
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Your Top Albums of 2010??  (อ่าน 30334 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2010 | 10:33:02 AM »

Allmusiclovers ::: 10*2/10+2/2000+10

Fog's Best 12 Songs of The Year

สวัสดีครับมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย ถึงคราวของผมเสียทีที่จะลง 12 เพลงที่โปรดปรานที่สุดประจำปีนี้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่ลำบากใจยิ่งที่จะเลือก ผมจึงคิดว่าเอาเฉพาะงานของปีนี้ก็ละกัน เพราะลำพังปีนี้ก็มีเพลงดีๆมากมายนับไม่ถ้วนให้ฟังกันแล้วละครับ เอาละ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลากัน เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเพลงอะไรกันบ้าง

Boom Boom Satellites - Back On My Feet
http://www.youtube.com/watch?v=O8y8OCeKdIs
งานอิเลกโทรนิกร็อคที่ดุเด็ดเผ็ดมันแบบนี้ผมไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่นัก จำได้ว่าคุณ Daryl Palumbo ได้แนะนำมานานแล้ว แต่กว่าผมจะได้ฟังก็ชุดใหม่นี่เอง และเพลงนี้ก็กลายเป็น First Impression ให้กับผมไปในที่สุด พอไปเห็นชื่อวงนี้ในซาวด์แทร็คหนัง Saw 3D เข้าก็รู้ได้ว่าวงนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน และวงนี้ก็มีจุดดีอย่างหนึ่งคือ พวกเขาทำงานออกมาเป็นภาษาอังกฤาทั้งหมดจึงสามารถฟังเข้าใจได้ง่ายด้วย แต่ถ้าไม่เอาเนื้อร้องก็มีดนตรีนี่ละครับที่สะใจถึงกึ๋น

Yazima Beauty Salon - Nihon No Mikata
http://www.youtube.com/watch?v=-tYi4cNhQZw
หนึ่งในเพลงที่ผมฟังบ่อยที่สุดประจำปี ด้วยความที่ตัวดนตรีกับเสียงร้องมันลงตัวไปหมด และเพลงก็เร็วเสียจนอยากลุกออกมาเต้นดิสโก้กันให้ได้ เรียกว่าสามสาวใหญ่ (แตกหนุ่ม) กลุ่มนี้มีแววมาแต่เปิดตัวแล้ว แต่พอเห็นชื่อแล้วถึงกับอึ้งทีเดียวเพราะน้าๆสามคนนี้เป็นรุ่นใหญ่ในวงการเพลงของญี่ปุ่นเสียด้วย เรียกว่าถึงจะแก่แล้วก็ยังมีพลังทำงานกันจริงๆฮะ

Miho Fukuhara feat. Sleepy.ab - Apologies
http://www.youtube.com/watch?v=1fpH57g83M4
ถ้าไม่ได้ Noisy แนะนำมานี่ผมคงไม่ได้รู้จักมิโฮะจังคนนี้อย่างแน่นอน รวมถึงเพลงนี้ด้วย ในอัลบั้มนี้ยามปกติเธอจะมาเป็นสาวอาร์แอนด์บีแสนเข้มข้นที่มีเสียงร้องเทียบเคียงกับสาวผิวสีฝั่งอเมริกันเลยละ แต่พอมาเจอเพลงนี้เข้า เธอก็เปลี่ยนโทนเสียงให้ดูสะอาดและหม่นยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ากับดนตรีโพสร็อคหม่นสวยของ Sleepy.ab รวมถึงการดูเอ็ตของมิโฮะจังกับนักร้องของฝั่ง Sleepy นี่ก็ไม่เลวทีเดียวครับ ช่างน่าชื่นชมยิ่ง

Kokia - Dugong No Sora
http://www.youtube.com/watch?v=YyB6ZC7GyKE
ไม่เสียแรงที่เป็นศิลปินรุ่นเก๋าของวงการเพลงสำหรับเจ๊ Kokia คนนี้ ที่สามารถนำกลิ่นอายตะวันออกมาผสานกับความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัวชนิดที่น่าขนลุก โดยเฉพาะเสียงร้องของเธอที่สดใสราวกับเสียงสวรรค์ก็ไม่ปาน เอามาประกอบกับดนตรีที่ช้า ล่องลอย และพลิ้วไหว แต่มีความหนักแน่นอยู่ในตัว ผลออกมาก็คือ งานเพลงกึ่งไซเบียนท์ที่งดงามราวกับได้อยูในทะเลกับพะยูน (เหมือนกับชื่อเพลง)

Steve Roach - The View from Here
http://www.youtube.com/watch?v=pqX_W63xN70
ความจริงแล้วผมจะเอา Nightbloom ที่เป็นเพลงเดียวยาวชั่วโมงกว่าๆที่ทำกับ Mark Seelig มาลง แต่คงหาคลิปไม่ได้ อาจเป็นเพราะเพลงยาวเกินไปกระมัง จึงได้เพลงนี้มาแทน ซึ่งคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากสำหรับตำนานแอมเบียนท์-โดรนคนนี้ละ เวลาอยู่เงียบๆผมมักจะเอาเพลงของแกมาเปิดประจำ มันทำให้รู้สึกสงบและเยือกเย็นยิ่งขึ้น

เป้ อารักษ์ - ไม่รู้
http://www.youtube.com/watch?v=kMg0ajQCi1c
แฟนผมบอกว่างานเดี่ยวชุดนี้ของคุณเป้ไม่เพราะเลย แต่ผมกลับคิดว่าไอ้ที่ไม่เพราะนี่มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขานะ เพราะงานนี้เขาก็ทำเองคนเดียวหมดด้วย และสิ่งที่เขาจะนำเสนอจริงๆก็คือเนื้อหาที่เสียดสีสังคมแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันมากกว่าที่จะมาทำเพลงให้เพราะแบบโดนใจวัยรุ่น และสิ่งที่เขาเสนอนั้นก็ตรงไปตรงมาดีด้วย นี่คือ "จิตใจ" ของเพลงนั่นเอง

John Zorn - Enchantress
http://www.youtube.com/watch?v=mEKPL-aov2c
ช่วงหลังๆมานี่พี่ซอร์นแกเริ่มจะทำงานเพลงเพราะๆออกมามากขึ้นเรื่อยๆ สงสัยแกคงอยากจะพักจากงานโหดๆที่เคยทำมาแต่ปางก่อนจนกระทั่งถึงซีรี่ส์ล่าสุดอย่าง Moonchild นี่เอง แต่เพลงนี้คือซีรี่ส์ที่ล่าสุดของ Alhambra ที่จะนำพาเรากลับไปสู่สามัญ คือเป็นเพลงแจ๊สปกติที่สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก และมีเมโลดี้ที่ไพเราะและชวนติดตาม และเราจะได้รู้ว่าพี่แกก็แต่งเพลงเพราะๆเป็นเหมือนกัน

Alcest - Sur L'Océan Couleur De Fer
http://www.youtube.com/watch?v=t7PEaTbi8iI
ท่าน Neige กะแต่งเพลงนี้เพื่อเป็นเพลงพิฆาตชัดๆ สำหรับแทร็คสุดท้ายของอัลบั้ม Ecailles De Lune นี้มีแต่เพียงเสียงกีต้าร์ที่เดินคอร์ดอยู่เรื่อยๆคอยรองรับเสียงร้องที่หม่นหมองและล่องลอย และตอนประมาณท้ายๆเพลงถึงจะเอาเสียงคีย์บอร์ดเสริมบรรยากาศเข้าไปให้เข้มข้นขึ้นไปอีก ผมละนึกอยากจะตั้งฉายาให้ท่าน Neige ว่า "เจ้าพ่อแทร็คสุดท้าย" จริงๆ เพราะแทร็คสุดท้ายของแต่ละชุเนั้นก็ไพเราะเหนือคำบรรยาย (Tir Nan Og จากชุดก่อนก็เช่นกัน)

Anathema - A Simple Mistake
http://www.youtube.com/watch?v=jn-VabI6O68
การกลับมาของ Anathema คราวนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก แม้ตัวเพลงจริงๆนั้นจะดูเก่าไปนิดก็ตาม (เพลงนี้พวกเขาเคยเอาขึ้นเล่นมาหลายคอนเสิร์ตก่อนที่จะมาทำเป็นอัลบั้มเสียอีก) และที่ไม่ธรรมดาก็คือการเอาเพลงนี้มาทำเป็นซีรี่ส์ต่อเนื่องกับ Angels Walk Among Us และมี Presence เป็น Interlude คอยเชื่อมต่อระหว่างสองเพลงนี้ และอีกอย่างก็คือทางวงได้มือดีอย่างพี่สตีแว่น วิลสันมาร่วมโปรดิวซ์ด้วย ทำให้โปรดักชั่นที่ออกมานั้นงดงามมาก และเพลงนี้ก็คือเพลงโปรดประจำอัลบั้มของผมไปโดยปริยาย

Pain of Salvation - Innocence
http://www.youtube.com/watch?v=VgkO9kSd82o
พี่แดเนียลเริ่มจะย้อนยุคไปกันใหญ่แล้วสิ งานนี้แกทำออกมาได้ดีและไม่ได้ทิ้งเอกลักษณ์ของวงออกไปมากนัก และที่ผมเลือกเพลงนี้มาก็เพราะเสียงร้องของแกในช่วงท่อนพีคที่ทำเอาผมเสียน้ำตามาหลายต่อหลายรอบ รวมถึงเนื้อหาที่เน้นอารมณ์และความรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม แลเพลงนี้อาจเป็นศูนย์กลางของอัลบั้มไปเลยก็ได้กระมัง

Julie Christmas - If You Go Away
http://www.youtube.com/watch?v=fG0vr0fXjlc
ยากนักที่จะหาอัลบั้มที่ออกมาช่วงปลายปีและจะหลงรักได้ถึงขนาดนี้ แต่เจ๊จูลี่ คริสมาสก็ได้สำแดงเดชแล้วในงานเดี่ยวของเธอนี้เอง และเพลงนี้ก็เป็นเพลงคัฟเวอร์ซึ่งเธอทำออกมาได้อย่างหม่นหมองและอ้างว้าง แต่ก็ชวนหลงไหลยิ่งในน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์

The Ocean - The Almightiness Contradiction
http://www.youtube.com/watch?v=PW7cQCOw-fk
"There's no one here who knows it all if there's nothing there beyond the world we know..." รักเพราะประโยคนี้จริงๆครับ...กับภาคดนตรีที่ล้ำลึกกว่าใน Heliocentric ด้วย

ปิดท้ายสั้นๆ

ขอให้สนุกกับการฟังเพลงครับ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

ShadowServant
Images & Words
****
กระทู้: 631


TROLLKASTEL!


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 | 05:21:11 AM »

นี่คือลิสต์ที่ผมเขียนไว้สำหรับกิจกรรม Best Song 0f 2010 ของกรุ้ป AllMusicLovers แล้วอยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆพี่ๆชาวไทยพร๊อกบางท่านที่ไม่ได้เล่นเฟซบุคได้อ่านกันด้วยครับ  ยิ้มเท่ห์



Noisy Noisery's Best of 2010:

สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบพระคุณพี่หมอ Winston ก่อนเลยที่ให้โอกาสผมโพสต์เปิดกิจกรรมพิเศษครั้งนี้ครับ ซึ่งจริงๆแล้วกิจกรรม Best of 2010 ของ AML ได้กำหนดให้เลือกเพลงที่ถูกใจมากที่สุดในรอบปีของแต่ละคนโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นงานที่ออกในปี 2010 เท่านั้น ...แต่สำหรับผมแล้ว ลำพังปี 2010 ปีเดียวก้มีงานเยี่ยมๆออกมาให้ฟังกันมากมายจนเลือกกันแทบไม่หวาดไม่ใหวแล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับลิสต์ยอดเยี่ยมของผมประจำปีนี้ก็จะเป็นงานที่ออกในปี 2010 ล้วนๆครับ ซึ่งจะมีเพลงอะไรบ้าง จะตรงใจใครท่านใหนบ้างหรือเปล่า ก็ลองชมลองฟังกันดูนะครับ ยิ้มกว้างๆ

1. Here Sometimes - Blonde Redhead

แม้ว่าพวกเขา (และเธอ) จะลดดีกรีความดิบของดนตรีลงไปเรื่อยๆจนแทบไม่เหลือแล้วในชุดนี้ แต่ซาวนด์ซินธ์ป๊อปลอยๆหวานๆของวงในปัจจุบันก็ยังคงมัดใจผมได้เสมอ อย่างในเพลงนี้ที่ทุกอย่างมันช่างกลมกล่อมลงตัวมากๆ ทั้งความอ่อนดยนละมุนละไมของภาคดนตรี กับเสียงร้องฝันๆเจืออารมณ์หมองเศร้าเล็กน้อยของเจ๊ Kazu Makino ทำให้บทเพลงนี้ควรค่าแก่การเปิดฟังซ้ำไปซ้ำมาตลอดทั้งปี (และอาจจะอีกหลายปี) เลยจริงๆ

http://www.youtube.com/watch?v=_1E_y4g-3mM

2. The Waiting's Over - Raised by Swans

หากทีการจัดอันดับที่หมองเศร้าทุกข์ระทมระทวย ที่สุดประจำปีนี้ อัลบั้ม No Ghostless Place ของ Raised by Swans ก็น่าจะติดอันดับต้นๆกับเขาด้วยแน่นอน ด้วยดนตรีอินดี้ป๊อปนวยนาดเชื่องช้า เจือท่วงทำนองลอยหม่นของดนตรีโพสต์ร๊อค และการเรียบเรียงดนตรีแบบ "Less is More" ทำให้ได้อารมณ์เศร้าล้ำลึกแบบหนังเมโลดราม่าชั้นดี อย่างในเพลงนี้ที่เล่นเรียบๆนิ่งๆเจื้อแจ้วไปเรื่อยๆ แต่พอถึงตอนท้ายสุด น้ำตาก็นองหน้าโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว ...ซึ่งสำหรับผมแล้ว นี่คือบทเพลงที่ทำให้ต่อมน้ำตาของผมสั่นใหวได้มากที่สุดในรอบปีนี้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=phNo1TPUvWg

3. Shadows in Bloom - Games

จริงๆ แล้วหากจะบอกว่า Games เป็นวงหน้าใหม่ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะมันคือการร่วมงานกันเฉพาะกิจระหว่าง Dan Lopatin แห่ง Oneohtrix Point Never กับ Joel Ford แห่ง Tiger City นี่เอง ซึ่งอีพีชุดแรกของพวกเขาก็ทำให้ผมต้องตกตะลึง เข้าอย่างจัง ด้วยซาวนด์ดนตรีซินธ์ยุค 80's แบบเน้นๆขลังๆไม่เจือสารหนู โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ผมต้องย้อนกลับมาฟัง ซ้ำแล้วซ้ำอีกนับครั้งไม่ถ้วน แม้มันจะมีความยาวเพียงสองนาทีกว่าๆเท่านั้น แต่ทุกๆสุ้มเสียงที่ทั้งสองบรรจงปั้นแต่งขึ้นมาอย่างบรรจง มันทิ่มแทงทะลุเข้าไปในทุกโสตประสาทในร่างกาย เกิดเป็นความรู้สึกเหนือคำบรรยาย เหมือนได้เข้าไปล่องลอยอยู่ในความฝันอันสวยงามแห่งยุค 80's จริงๆเลยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=SBbrSJv3_S0

4. IHNFSA - Kyte

ความหนานุ่มของซินธ์และท่วงทำนองสังเคราะหืคือเสน่ห์อันเย้ายวนของบทเพลงนี้อย่างแท้จริง แล้วพอมาเจอกับเสียงร้องที่อ่อนโยนแต่แฝงความเศร้าหมองเอาแบบปิดไม่มิดอย่างนี้ มันจึงเป็นส่วนประกอบของบทเพลงที่ถูกสรรค์สร้างมาให้ผมหลงรักโดยแท้ แม้ในทุกวันนี้แนวทางดนตรีของวงจะเปลี่ยนแปลงไปจากโพสต์ร๊อคลอยๆในอัลบั้มแรกๆอยู่พอสมควร แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวข้องที่จะทำให้ผมรักบทเพลงของพวกเขาน้อยลงอยู่ดี

http://www.youtube.com/watch?v=uuDAyrMi3j8

5. Albatross - Sambassadeur

สวีดิชป๊อประดับเยี่ยม ที่ชื่อค่าย Labrador ก็คงพอการันตีความเนี้ยบได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่สำหรับเพลงนี้ ผมถือว่าพวกเขาทำการเรียบเรียงดนตรีออกมาได้งดงามและโดดเด่นอย่างแท้จริง คือเอาแค่เสียงเครื่องสายก็แทบละลายแล้วครับ ยิ่งมาเข้าท่อนร้องที่ประกอบไปด้วยเมโลดี้และเสียงร้องสุดไพเราะที่ทำให้ผมนึกถึงบทเพลงของ Julee Cruise ได้ในทุกหางเสียงแบบนี้ หากไม่รักก็เกินไปหน่อยแล้วล่ะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=n2BgNKoa2RA

6. เพลงส่วนตัว - Inspirative

ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ถือว่ามีผลงานเพลงไทยเยี่ยมๆออกมาให้ฟังกันไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หากจะให้ผมเลือกสักเพลงเข้ามาติดในลิสต์นี้ ผมขอเลือกบทเพลงจากวงโพสต์ร๊อคเลือดไทยที่ทำให้ผมรู้สึกว่างานเพลงของบ้านเราก็สามารถเอาไปเทียบกับนานาประเทศได้อย่างไม่น้อยหน้า ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าผมชอบผลงานชิ้นนี้มากกว่าโพสต์ร๊อคจากต่างประเทศอีกหลายต่อหลายวงเสียอีก ด้วยการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกว่างเปล่าปนสับสนและสิ้นหวังผ่านทางตัวโน้ตดนตรีได้อย่างประณีตละเอียดอ่อนและงดงาม แม้จะมีเสียงร้องประกอบอยู่บ้าง แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและใกล้ชิดแบบแปลกๆได้อยู่เหมือนกัน ซึ่งจากผลสรุปที่ออกมา มันแสดงให้เห็นถือความตั้งใจในการทำงานแบบเกินร้อยของสมาชิกวง จนได้ออกมาเป็นผลงานดนตรีระดับคุณภาพที่ควรได้รับการสนับสนุนอย่างมากจริงๆครับ

http://www.youtube.com/watch?v=Z4YW_xOqPq8

7. Þau hafa sloppið undan þunga myrkursins - Olafur Arnalds

ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดศิลปินจากประเทศไอซ์แลนด์แล้ว เราคงพอจะคาดหวังความงดงามดั่งสวงสวรรค์ในงานประพันธ์ของเขาได้แน่ๆ ซึ่งบทเพลงที่เขานำเสนอนั้นเป็นโมเดิร์นคลาสสิคัลที่ดำเนินเรื่องด้วยเสียงเปียโนอันพลิ้วไหวและเครื่องสายสวยจับจิต ร้อยบรรเลงตัวโน้ตที่ถูกคัดสรรเรียบเรียงมาอย่างดี แล้วโปะเข้าไปด้วยการบิวด์อารมณ์แบบดนตรีโพสต์ร๊อค ทำให้งานชิ้นนี้ฟังแล้วราวกับเป็น Sigur Ros ภาคคลาสสิคัลยังไงยังงั้น ซึ่งหากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลและอยากไปสัมผัสกับบรรยากาศอันสุดแสนจะบรรยายของประเทศไอซ์แลนด์สักครั้งในชีวิต บทเพลงของ Olafur Arnalds จะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นที่จะช่วยเพิ่มความอยากของคุณให้เป็นทวีคูณครับ

http://www.youtube.com/watch?v=IZ46TN7uxwc

8. Light and Solitude - Envy

บทเพลงจากอัลบั้มใหม่แกะกล่องของวงโพสต์ร๊อค/โพสต์ฮาร์ดคอร์เลือดซามูไรที่ทำดนตรีได้อ่อนหวานขึ้นทุกอัลบั้ม และเพลงนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการเรียบเรียงดนตรีโพสต์ร๊อคที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนละมุนละไมจากกีตาร์สองตัวที่สอดประสานความหวานใสเข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งตัวโน้ตที่หลอมรวมความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวและแสงสว่างแห่งความหวังอันอบอุ่นไว้ด้วยกันสมกับชื่อเพลง ก่อนจะไประเบิดอารมณ์พรั่งพรูอย่างหนักหน่วง กราดเกรี้ยว แต่เปี่ยมล้นอารมณ์ความรู้สึกในช่วงท้ายของบทเพลง ทำให้ทุกๆท่วงทำนองของเพลงนี้จะดังก้องระงม ประทับอยู่ในหัวจิตหัวใจของคุณไปตราบนานเท่านาน

http://www.youtube.com/watch?v=94_uWL3zfMI

9. High Hopes - Team Ghost

โปรเจคต์ใหม่เอี่ยมอ่องของ Nicolas Fromageau อดีตสมาชิก M83 ผู้มากความสามารถ กับบทเพลงชูเกส/โพสต์ร๊อคที่ยังคงความล่องลอยเวิ้งว้างอลังการในแบบของวงเก่าของเขาไว้อย่างเต็มเปี่ยม แต่มีการเพิ่มเติมบรรยากาศเศร้าสลดเข้าไปอยู่ หลายขนานพอสมควร แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอุปาทานรึเปล่า แต่ผมฟัง High Hopes ของวงนี้ทีไรแล้วจะต้องนึกถึง High Hopes ของ Pink Floyd ไปด้วยทุกที ด้วยอารมณ์ของเพลงที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่ต่างรูปแบบแนวทางของดนตรีกันไปเท่านั้นเอง

http://www.youtube.com/watch?v=e9zmKQFmliE

10. So Sad - RiLF

เมื่อสมาชิกจากยอดวงแห่งซีนอินดี้ญี่ปุ่นอย่าง Anoice กับ Matryoshka มารวมตัวกันทำงานเพลง ผลที่ได้ก็คือบทเพลงระดับมหาเสน่ห์ที่เฉียบไปเสียทุกแง่มุมจริงๆ ซึ่งในเพลงนี้คุณจะได้พบกับดนตรีอินดี้ป๊อปชั้นเลิศที่หยิบยืมความหม่นมืดและเข้มขลังในแบบโพสต์พังค์เก่าๆเข้ามาได้อย่างแนบเนียน อีกทั้งยังมีเวียงไวโอลินสุดหยาดเยิ้มบาดหัวจิตหัวใจแทรกเข้ามาอีก แล้วในเมื่อส่วนประกอบต่างๆมันยอดเยี่ยมขนาดนี้ จะห้ามใจไม่ให้รักยังไงใหว?

http://www.youtube.com/watch?v=fwaXu0BdvLA

11. My Piggish Girl Died Miserably - My Dead Girlfriend

บทเพลงแสนไพเราะจากวงชูเกสพันธุ์แท้แดนปลาดิบ ดนตรีไม่มีอะไรใหม่ แต่เล่นเคารพวงรุ่นเดอะอย่าง My Bloody Valentine และ Slowdive ได้อย่างงดงามหมดจด ด้วยกำแพงกีตาร์ที่ทั้งหนาแน่น ล่องลอย บ้าคลั่ง และรกหูในเวลาเดียวกันแบบที่คอชูเกสคุ้นเคยกันดี กับเสียงร้องลอยละล่องสุดขอบฟ้าที่ตัดกับดนตรีแบบสุดขั้ว เป็นเสน่ห์แสนล้ำเลิศที่คอดนตรีแนวนี้ยากจะปฏิเสธได้ลงคอจริงๆ

http://soundcloud.com/noiseviscerated-lilium/06-my-piggish-girl-died-miserably-1

12. Two Roses - Matsui Jurina & Matsui Rena (from SKE48)

บอกไว้ก่อนว่านี่คือความคลั่งใคล้ส่วนตัวนะครับ ...คือขบวนการสาวเจป๊อป SKE48 ก็ออกซิงเกิ้ลในปีนี้มาจำนวนหนึ่ง แต่แทรํคที่ประทับใจผมมากที่สุดกลับเป็นเพลงคู่ของสองสาวนามสกุลเดียวกัน (แต่ไม่ได้เป็นญาติกัน) ที่กำลังฮอตเกินหน้าเกินตาเพื่อนๆในกลุ่มในช่วงนี้ และบทเพลงที่เธอทั้งสองได้รับมอบหมายให้ร้องนั้นก็เป็นอีเลกโทรป๊อปที่ยอดเยี่ยมเกินคาด มีการเรียบเรียงดนตรีที่งดงามหรูหราและฟังดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บวกกับเอ็มวีที่ทำออกมาแบบเรียบๆแต่สวยงามน่าชม มันจึงเข้าป้ายเพลงโปรดอันดับหนึ่งประจำแคมป์ SKE48 ประจำปีนี้ของผมแบบนอนมาเลยทีเดียวครับ

http://v.youku.com/v_show/id_XMjE3ODk4ODI0.html

ก็จบแล้วครับ สำหรับลิสต์ของผม ขอบคุณทุกท่านที่คอยตามอ่านตามฟังมาถึงตรงนี้ ...แล้วต่อไปนี้ผมจะเป็นฝ่ายรอติดตามชมลิสต์ของท่านบ้างล่ะครับ ยิ้มกว้างๆ

Source: http://www.facebook.com/photo.php?pid=255231&o=all&op=1&view=all&subj=267068439104&aid=-1&id=100001117803357&oid=267068439104#!/photo.php?fbid=150678334979426&set=t.100001117803357


ไม่ได้เข้ามานานเลยฮะๆๆๆ เพิ่งจะเห็นของ Lilium/Noisy จัดก็ที่นี่แหละ AML ว่างๆ ถึงได้เข้าไปเล่น

อยากบอกว่านอกจาก Blonde Redhead แล้วเพลงอื่นยังไม่เคยฟังเลยฮะๆๆๆ
บันทึกการเข้า



กลับมาด้วยความเพี๊ยนกว่าเดิม
ShadowServant
Images & Words
****
กระทู้: 631


TROLLKASTEL!


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 | 05:45:36 AM »

ปีนี้คิดว่าฟังเพลง (ที่อยู่ในปีเดียวกัน) เยอะกว่า 2009 แต่กลับรู้สึกว่าเจออัลบั้มที่ชอบน้อยกว่าปีที่แล้วอีก
ลองลิสท์ที่น่าจะ top มาเล่น ๆ ก่อนฮะๆๆๆ


Alcest - Ecailles De Lune
Anathema - We're here because we're here
Aiko - Baby
Plingmin - Life is beautiful
Minori Chihara - Sing All Love
Megumi Hayashibara - Choice
Moon Safari - Lover's end
Angra - Aqua
Haruka Tomatsu - Rainbow Road
Stick Men - Soup

Kalafina - Red Moon
Darkwater - Where Stories End
Arcade Fire - The Suburb
Kamelot - Poetry for the Poisoned
Linkin Park - A Thousand sun
Mystery Jet - Serotonin
The Black Noodle Project - Ready to go
The Brilliant Green - Blackout
Yugen - iridule
The Psychedelic Ensemble - The Myth of Dying
Haken - Aquarius
Quantum Fantay - Bridges of Kukuriku
Ciccada - A Child in the Mirror
Nana Mizuki - IMPACT EXCITER
Neil Young - Le Noise


รู้สึกจะยังไม่ครบ แต่นอกนั้นคงถือว่าไม่ควรค่าแก่การจำ แฮ่ ๆๆๆ
(เจอชื่อภาษาญี่ปุ่นในนี้เกิน 30% อย่าตกใจ พักหลัง ๆ appreciate แนวนี้เยอะมาก)

(แอบเข้ามาอีดิทเพิ่ม 1 ครั้ง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ธันวาคม 2010 | 02:15:01 AM โดย ShadowServant » บันทึกการเข้า



กลับมาด้วยความเพี๊ยนกว่าเดิม
Not.Now.John
Fragile
***
เพศ: ชาย
กระทู้: 381


Philosophy


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #33 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2010 | 08:47:35 PM »

Spock's Beard - X
Anathema - We're here because we're here
My chemical romance - danger days
bodyslam - คราม
บันทึกการเข้า

ShadowServant
Images & Words
****
กระทู้: 631


TROLLKASTEL!


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2010 | 02:17:04 AM »

นิตยสารสุดป๋า เดอะ โรงลิ่งสโตน เผย 30 อัลบั้มแห่งปี 2010 แล้วนะฮะ

มันเป็นแบบเปิดอ่านเลยลิสท์ลำบาก ตามลิงค์นี้ไปเลยฮะ
http://www.rollingstone.com/music/lists/30-best-albums-of-2010-20101213
บันทึกการเข้า



กลับมาด้วยความเพี๊ยนกว่าเดิม
ไอ้ใบ้ตาเดียว
Fragile
***
กระทู้: 436



ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2010 | 02:51:23 AM »

^
^
ที่ 1 ตามคาดจริงๆ พี่ Kanye West เห็นหลายๆเวปให้คะแนนเต็มทั้งนั้น
บันทึกการเข้า

Mad..
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 184



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2010 | 09:00:42 AM »

^
^
ที่ 1 ตามคาดจริงๆ พี่ Kanye West เห็นหลายๆเวปให้คะแนนเต็มทั้งนั้น


แต่ผมยอมรับว่าไม่ชอบเพลงแนว Hip-Hop, R&B ฝั่งมะกันเท่าไรเลย  เบื่อมากเวลาพวกนี้ขึ้นชาร์ตเป็นว่าเล่น

แต่ก็นะ  ดนตรีของคนส่วนใหญ่นี่นะ

ปล. Envy ชุดใหม่ Recitation  เพราะดีแฮะ
บันทึกการเข้า
undeaʇh
Fragile
***
เพศ: ชาย
กระทู้: 467



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #37 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2010 | 10:24:45 AM »

นั่งนึกอยู่นานกับTop Album เพราะปีนี้ถือว่าฟังเพลงน้อยมากๆ
เลือกมาได้แค่ 5 อัลบั้ม
1.Decrepit Birth : Porarity ถึงจะไม่หนักหน่วงสมัยที่Derek Boyerยังอยู่ แต่ก็ได้ความเป็นMelodicเพิ่มเข้ามา
2.Immolation : Majesty and Decay สมราคารุ่นใหญ่จริงๆ Ross Dolandและทีมงานสร้างสรรค์ผลงานดีๆอีกแล้วครับท่าน
3.Athiest : Jupiter ฟังครั้งแรกถ้าไม่ดูชื่อวงนี่ คิดว่าเป็นวงแธรชนะ riff กีตาร์ออกไปทางนั้นจริงๆ แต่ก็ยังเลือกมา
4.Shining : Blackjazz เป็นอัลบั้มที่ไม่สามารถให้คำจำกัดความได้เลยจริงๆ
5.Cynic : Re-traced(EP) เอ่อ วงนี้เป็นFusion jazzใช่มั้ยเนี่ย ไม่ใช่cynic ที่เคยรู้จักเลย แต่เลือกเพราะชื่อวงจริงๆ555
บันทึกการเข้า

Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #38 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2010 | 10:02:56 PM »

@Shadow ไม่ลองวง Cicada ที่เป็น Mod. Classical จากไต้หวันหน่อยรือ ยิ้มกว้างๆ

@Undeath ::
Shining :: งานดีที่ถูกลืม...
Cynic :: เดี๋ยวคงกลับมาเหมือนเดิมละฮะ เพราะอีพีนี่เหมือนเป็นรีมิกซ์มากกว่า
บันทึกการเข้า

ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 12:29:16 AM »

Lilium's 25 Best Albums of 2010

(ไม่เรียงลำดับนะครับ)

 1. Grinderman - Grinderman 2 (Garage Rock)



จริงๆแล้ว Grinderman นี่ไม่ใช่วงหน้าใหม่อะไรที่ใหนเลย แต่มันก็คือวง Nick Cave and the Bad Seeds ที่ถูกย่อส่วนลงมาเป็นสี่คนนั่นเอง ซึ่งโปรเจคต์นี้เป็นการสนอง Need ของตัวนิคในการทำดนตรีการาจร๊อค ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทุกเพลงในอัลบั้มทำออกมาได้มันส์เข็ดฟันแบบโคตรๆ เครื่องดนตรีทุกชิ้นบรรเลงบรรลัยใส่กันแบบหนักแน่นเต็มที่ไม่มียั้ง อักทั้งยังมีการสอดใส่บรรยากาศหลอนโอสถแบบไซคีเดลิกเข้ามาให้พอเมาๆกรึ่มๆ กันด้วย งานนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน Nick Cave หรือไม่ แต่หากคุณชื่นชอบเพลงร๊อคที่มีสีสันดนตรีจัดจ้านล่ะก็ งานนี้ไม่ควรพลาดจริงๆครับ

2. Raised by Swans - No Ghostless Place (Post-Rock, Melancholic Rock)



เหนือคำบรรยายทั้งปวง สำหรับอัลบัมเต็มชุดที่สองจากแคนาเดี้ยนแบนด์ ที่แม้จะลดความเร่งเร้าในดนตรีจากชุดที่แล้ว จนแทบจะเหลือแต่เพลงนิ่งเนิบไปหมดทั้งอัลบั้ม แต่ด้วยดนตรีแบบนี้มันทำให้ความนิ่งเหงาเศร้าซึมถูกส่งผ่านออกมาได้อย่างงด งามและหยดย้อยกว่าที่เคย มันเป็นทำอัลบั้มที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าทำไมโลกเราม่างเศร้าได้ขนาดนี้วะ ...แล้วคุณก็จะตกหลุมรักมันได้ด้วยเหตุนี้แหละ

3. Heaven in Her Arms - Paraselene (Screamo, Post-Rock, Experimental)



อย่าให้ชื่อแนว Screamo ที่พะยี่ห้อไว้มาทำให้คุณหลงผิดว่าจะเจองานแบบ Underoath, Saosin หรือ Alesana เด็ดขาด เพราะเหล่าชายฉกรรจ์ผู้เก็บกดจากแดนอาทิตย์อุทัยกลุ่มนี้จะพาคุณไปเยือนโลก ที่ดนตรีสครีโมอยู่ในฟอร์มที่ทั้งมืดหม่น เคร่งเครียด และเป็นศิลปะได้มากที่สุดเท่าที่มันจะเป็นได้ มันไม่มีความสนุกสนานในอัลบั้มนี้ มันมีแต่ดนตรีภาคดนตรียืดยาน หนักอึ้ง แต่ก็แฝงไว้ด้วยความงดงามล่องลอยแบบสุดจะบรรยาย นอกจากนี้การหยิบยืมบรรยากาศหม่นหลอนของดีเปรสสีฟแบล๊คเข้ามาก็ยิ่งทำให้งาน ชุดนี้ขมึงเกลียวยิ่งขึ้นเป็นกอง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้กล่าวมานั้นได้ถูกส่งผ่านมาพร้อมเสียงกรีดร้องอัน เจ็บปวดทรมาณ กลายเป็นงานเพลงที่จะทำให้วันดีๆของคุณแปรเปลี่ยนกลายเป็นนรกดำทะมึนได้ใน ชั่วพริบตาเลยทีเดียว

4. Deadhorse - We Can Create Our Own World (Post-Rock)



เพียงแค่อัลบั้มเต็มชุดแรก ก็ทำให้คอโพสต์ร๊อคทั้งหลายเนื้อเต้นกันไปตามๆกันแล้ว สำหรับวงหน้าใหม่แกะกล่องจากเพนซิลวาเนียวงนี้ ดนตรีโพสต์ร๊อคในแบบของพวกเขานั้นมีความเป็น Epic จัดแบบที่เราคุ้นเคยกันดีจากวงอย่าง Mono โดยจุดเด่นของพวกเขาคือซาวนด์ยิ่งใหญ่อลังการที่ถูกส่งผ่านมากับเมโลดี้สุด ชอกช้ำชวนสิ้นหวัง ทำให้อัลบั้มนี้มีบรรยากาศแบบ Apocalyptic ฟุ้งกระจายอยู่เต็มไปหมด นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกเสียงเปียโนและออร์แกนเข้ามาเพื่อสร้างความวิจิตร งดงามให้กับบทเพลงอยู่ตลอด ทำให้งานชุดนี้มีความโดดเด่นมากขึ้นด้วย ...ถึงแม้จริงๆแล้วมันจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เหนือความคาดหมายใดๆก้ตาม สำหรับมาตรฐานของดนตรีแนวนี้ แต่มันก็เป้นอัลบั้มโพสต์ร๊อคชั้นดีที่สามารถฟังได้ยาวๆต่อเนื่องทั้ง อัลบั้มโดยไม่มีสะดุดเลยแม้แต่นิด

5. Games - That We Can Play EP (Chillwave, Synthpop)



โปรเจคต์เก๋ๆชิ้นนี้เป็นการร่วมงานกันระหว่างสองคนเก่งในแวดวงอินดี้ อย่าง Dan Lopatin จาก Oneohtrix Point Never และ Joel Ford จาก Tiger City โดยงานนี้เป้นการปลุกผีดนตรีซินธ์ป๊อปซาวนด์บนความคึกคักแบบฟังค์ที่ทำออกมา ได้บรรยากาสยุค 80's แบบเต็มเหนี่ยว ไม่ว่าจะเป็นเสียงอนาล๊อกซินธ์หรือกลองโปรแกรมแข็งๆไร้วิญญาณ แต่กลับฟังแล้วได้อารมณ์เป็นทั้งสุด ซึ่งเมื่อมาเจอกับเมโลดี้แสนหยดย้อยและภวังค์เคว้งในแบบ Chillwave แล้ว ยิ่งทำให้ผลงานเล็กๆชุดนี้ยิ่งฟังยิ่งเพลิดเพลินเจริญอารมณ์จนอยากจะย้อน กลับมาฟังอีกเป็นสิบเป็นร้อยครั้งจริงๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2011 | 12:33:12 AM โดย 1 i 1 i v m » บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #40 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 12:40:04 AM »

6. Emeralds - Does it Look Like I'm Here? (Ambient, Progressive Electronics)



ในยุค "ของเก่าเล่าใหม่" อย่างยุค 2010's นี้ ซาวนด์อนาล๊อกซินธ์ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายศิลปินนิยมนำมาใช้เพิ่มสีสันให้ กับดนตรีของตัวเอง ซึ่งสำหรับ Emeralds อันเป็นการร่วมงานกันของสามยอดฝีมืออย่าง Mark McGuire, John Elliott และ Steve Hauschildt ก็เป็นการนำเสนอดนตรีอีเลกทรอนิกส์สายแอมเบียนท์ผ่านเสียงซินธ์ซาวนด์เก่า แก่แต่จัดจ้าน บนสำเีนียงแบบ Berlin School ของศิลปินรุ่นลุงอย่าง Tangerine Dream, Klaus Schulze, Ash Ra Tempel, Harmonia หรือ Wolfgang Riechmann ทำให้อัลบั้มชุดนี้ฟังแล้วได้บรรยากาศความขลังแบบต้นตระกูลแห่งสายธารดนตรี อีเลกทรอนิกส์อย่างเข้มข้นและสมจริงเป็นที่สุด

7. ภูมิจิต - Bangkok Fever (Indie Rock, Post-Punk)



ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายเยอะทีเดียวสำหรับอัลบั้มชุดใหม่ของวง "ภูมิจิต" มันเป็นงานพวกเขาได้ค้นพบสุ้มเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นั่นคือการนำซาวนด์ดนตรีอินดี้ร๊อคเจือกลิ่นโพสต์พังค์มาผสมกับบรรยากาศแบบ ลูกทุ่งไทยๆได้อย่างลงตัว รวมไปถึงเนื้อหาที่จริงจังและตรงไปตรงมาแบบเพลงเพื่อชีวิต จุดเด่นอีกอย่างของอัลบั้มนี้คือการเีีรียงร้อยเนื้อหาและอารมณ์เพลงได้ลื่น ไหลต่อเนื่อง โดยเป็นคอนเซปต์อัลบั้มแบบหลวมๆ (ตามความเข้าใจของผม) ที่เริ่มต้นด้วยการใฝ่ฝันมองหาอนาคตของคนในชนบท ก่อนจะเข้ามาเผชิญกับธีมเนื้อหาหลักของอัลบั้มคือการตีแผ่เรื่องราวชีวิต บัดซบและการเอาตัวรอดในสังคมเมืองกรุงที่ทั้งโหดร้าย วุ่นวาย และสับสนอย่างตรงไปตรงมา การจะฟังอัลบั้มนี้ให้ได้อรรถรสสูงสุดคือต้องฟังให้ต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้น จนจบ แล้วจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์อันยากที่จะปฏิเสธจริงๆครับ

8. Lillies and Remains - MERU EP (Post-Punk)



น่าแปลกใจเหมือนกันนะครับ สำหรับประเทศที่วงการอินดี้แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยแนวดนตรีที่ทั้งหลากหลาย และสร้างสรรค์อย่างญี่ปุ่นนั้น กลับไม่ค่อยปรากฏการข้องแวะกับแนวโพสต์พังค์แท้ๆสักเท่าไรเลย (เท่าที่เห็นก่อนหน้านี้ก็มี Ogre You Asshole วงนึงล่่ะ) ซึ่งสำหรับ Lillies and Remains ก็เป็นวงอายุน้อยอีกวงที่แสดงให้เห็นว่าประเทศนี้ก็ทำดนตรีโพสต์พังค์ดีๆกับ เขาได้เหมือนกัน โดยอีพีชุดล่าสุดนี้ก็ทำให้ผมนึกถึงงานชุดหลังๆของวงอย่าง Editors ได้เลย เพราะพวกเขาบรรจงขัดเกลางานชุดนี้โดยการเพิ่มเมโลดี้สวยจับใจเข้ามาในแทบทุก เพลง อีกทั้งคีย์บอร์ดยังมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นกว่าเคย นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกเสียงเครื่องสายเข้ามาเพิ่มความวิจิตรและอ่อนช้อย ให้กับบทเพลงด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขาหนีห่างจากความเป็นโพสต์พังค์แท้ๆไปมากเหมือน กัน แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง นี่คืองานดนตรีที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการไม่หยุดนิ่งแถมยังเปี่ยมไปด้วยความ ไพเราะอันน่าประทับใจอีกด้วยครับ

9. Magic Lantern - Platoon (Psychedelic, Space Rock)



Magic Lantern ถือเป็นวงดนตรีวงหนึ่งที่ยึดมั่นในแนวทางและอุดมการณ์ทางดนตรีของตัวเองได้ อย่างเหนียวแน่นเป็นที่สุด ตั้งแต่อัลบั้มสองชุดก่อนหน้านี้ที่พวกเขานำเสนอดนตรีแบบไซคีเดลิก/สเปซร๊อค ยุค 70's แท้ๆ ตามอิทธิพลของวงรุ่นลุงอย่าง Hawkwind, Amuul Duul II, Gong และอีกมากมาย และสำหรับอัลบั้มชุดนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันยังคงเป็นการแจมดนตรีที่ในบรรยากาศโอสถหลอนจิตที่ลอยคละคลุ้งไปทั่ว พร้อมกับการบันทึกเสียงแบบโลไฟ ทำให้ได้ฟีลย้อนยุคเหมือนอยู่ในช่วงต้น 70's จริงๆ แต่ด้วยดนตรีที่ยืดยาวและเหมือนไร้ทิศทางในแต่ละเพลง ทำให้งานชิ้นนี้อาจจะเป็นของหน้าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนแนวนี้อยู่บ้าง เหมือนกัน แต่สำหรับใครที่รู้ตัวว่าหลงใหลในดนตรีประเภทมัวเมาแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่ แล้ว ...นี่คืออาหารทิพย์สำหรับประสาทการรับฟังของคุณเลยครับ

10. Blonde Redhead - Penny Sparkles (Dreampop, Synthpop)



แม้ว่าจะเปลี่ยนซาวนด์ดนตรีของวงจากยุคแรกๆไปมากจนแทบไม่เหลือกลิ่นอาย ความดิบแบบเดิมๆแล้วแม้แต่นิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังไงๆทั้งเขาและเธอก็ยังมีไอเดียและความจริงใจทำ เพลงที่ล้นเหลือไม่มีวันหมดอยู่ดี ในอัลบั้มชุดนี้เราจะได้ยินเสียงแต่ซินธ์ที่แทบจะมาทดแทนเสียงกีตาร์เสีย เกือบหมด รวมไปถึงโครงสร้างดนตรีในแต่ละเพลงที่เน้นไปที่ความนุ่มนวลล่องลอยของท่วง ทำนองเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมว่ามันก็เข้ากันได้ดีที่สุดแล้วสำหรับสไตล์การร้องแบบเย็นๆลอยๆของเจ๊ Kazu Makino ในปัจจุบันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มันยิ่งช่วงส่งเสริมให้เพลงของ Blonde Redhead มีความเซ็กซี่เฉพาะตัวอย่างบอกไม่ถูกอีกด้วย ซึ่งจริงๆแล้วถ้าใครที่ติดตามและยอมรับการเปลี่ยนแปลงในแนวทางดนตรีของพวก เขามาตั้งแต่สองอัลบั้มที่แล้ว ก็คงจะหลงรักอัลบั้มนี้ได้ไม่ยากเลยครับ
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 12:43:26 AM »

11. Candy Claws - Hidden Lands (Psychedelic, Lo-Fi, Dreampop)



อัลบั้มบรรยากาศหาดทราย สายลม สองเรา ที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปีนี้ของผม มันเป็นงานดนตรีที่ความมัวเมาและชวนฝันได้มาหลอมรวมอยู่ด้วยกันภายใต้ซาวนด์ แตกซ่านแบบโลไฟที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างบอกไม่ถูก อัลบั้มชุดนี้โดดเด่นด้วยเสียงร้องชายหญิงที่หยอกล้อโต้ตอบกันแบบลอยๆเหมือ นอยุ่ในความฝัน บวกด้วยเพอร์คัชชั่นแปลกหูและเสียงซินธ์กระป๋องๆที่ชวนให้เคลิ้มอย่างไม่มี ที่สิ้นสุด แถมยังได้บรรยากาศชายทะเลในเขตร้อนชื้นแบบภาคใต้ของบ้านเีราอีกด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าหากอัดอัลบั้มนี้ลงเทป แล้วเอายัดใส่เครื่องเล่นเทปถูกๆไปนอนฟังริมชายหาดบนเกาะสักเกาะนึงแถวๆ กระบี่หรือพังงาคงจะได้อารมณ์ไม่น้อยเลยล่ะ

12. Red Box - Plenty (Art Pop)



อัลบั้มเต็มชุดแรกของอดีตวงอาร์ตป๊อปที่สร้างชื่อเสียงมาพร้อมกับกระแส ซินธ์์ป๊อป/นิวเวฟในยุค 80's แต่พวกเขากลับสร้างความแตกต่างโดยการนำเสน่ห์ของดนตรีเวิลด์มิวสิคมาผสมผสาน ได้อย่างลงตัว ก่อนที่อีกสี่ปีให้หลังพวกเขาจะกลับมากับอัลบั้ม Motive ที่ลดความหลากหลายในดนตรีลง แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเพลงป๊อปชั้นดี จนเมื่อเวลาล่วงปีถึง 20 ปี วงกล่องแดงได้กลับมาอีกครั้งพร้อมสมาชิกวงที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวคือ Simon Toulson-Clarke กับแนวดนตรีที่เปลี่ยนไปอีก โดยเขาได้ลดทอนสัดส่วนของดนตรีสังเคราะห์ลงไปจนหมดสิ้น แล้วแทนที่ด้วยความละเมียดละไมจากอคูสติกกีตาร์ เปียโน และเครื่องสายที่ถูกแต่งแต้มอย่างประณีตบรรจงและลงตัวไปเสียหมด ทางด้านตัวเพลงส่วนใหญ่ก็จะเป็นบัลลาดช้าๆนุ่มๆที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและ ผ่อนคลาย จะมีบางเพลงที่เ่พิ่มดีกรีความหนักแน่นของกีตาร์และเสียงร้องขึ้นมาหน่อย ก็กลายเป็นบัลลาดชั้นดีที่ทั้งไพเราะและทรงพลังได้ใกล้เคียงกับวงอย่าง Blackfield เลยทีเดียว แต่สำหรับเพลงที่หวานซึ้งกินใจที่สุดสำหรับผมคงหนีไม่พ้น Brighter Blue ที่ไซมอนแต่งให้ลูกของเขาเอง เป็นอคูสติกบัลลาดที่งดงามเหนือคำบรรยายทั้งปวงจริงๆ ...หากคุณไม่ต้องการจะฟังอะไรนอกจากความไพเราะงดงามของบทเพลงแบบล้วนๆจริงๆ นี่คืออัลบั้มที่จะชวนให้คุณเปิดฟังได้เพลินๆบ่อยๆแบบไม่รู้จักเบื่อเลยครับ

13. Arcade Fire - The Suburbs (Indie Rock, Art Pop)



ยอมรับว่าตอนที่ฟังอัลบั้มนี้ในครั้งแรกก็แอบมีเหวอๆอยู่บ้างเหมือนกัน ด้วยความที่คุ้นเคยในสำเนียงบาโร้คป๊อปก้องกังวานอลังการประสานเลเยอร์ใน อัลบั้มก่อนๆ พอมาเจอกับความเรียบง่าย (จากการฟังเพียงผิวเผิน) แบบนี้ก็ทำเอางงได้เหมือนกัน แต่ทว่าจากการฟังกลับไปกลับมาหลายต่อหลายเที่ยว ผมก็พบว่าอัลบั้มนี้มีเสน่ห์ในตัวของมันเองอย่างน่าทึ่ง ที่ชัดๆเลยคือความหลากหลายของเพลงในอัลบั้มซึ่งมีให้ฟังหมดทั้งโฟล์คป๊อป เนียนๆในไตเติ้ลแทร๊ค, Wasted Hour และ Deep Blue ร๊อคจัดจ้านใน Ready to Start, Empty Room และ Month of May แทร๊คอาร์ตๆแอบอลังการอย่าง Rococo หรือ Suburban War หรือแทร๊คเด็ดๆดีดเด้งอย่าง Half Light II และ Sprawl Two ที่หยิบเอาเสน่ห์ของซินธ์ป๊อปเข้ามาผสมได้อย่างอร่อยหูเป็นที่สุด โดยรวมแล้วงานชุดนี้อาจจะสู้ Funeral หรือ Neon Bible ไม่ได้ในแง่ความอาร์ตอันแสนวิเศษวิโส แต่ The Suburbs ก้มีความดีในแง่ที่เป็นงานอินดี้ชั้นเยี่ยมที่ฟังแล้วดูดีขึ้นในทุกๆครั้ง ที่เปิดฟัง ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่าไอเดียและความสามารถในการทำเพลงของพวกเขายังคงเหนือ ชั้นและยังยากจะหาใครมาเสมอเหมือนได้อยู่ดี

14. Salem - King Night (Dark Electro, Shoegaze, Dubstep)



อาจจะเรียกได้ว่า Salem คือหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่ม Witch House เลยก็ว่าได้ ดังจะเห็นได้จากปกติที่ศิลปินกลุ่มนี้จะไม่ค่อยออกผลงานกันเป็นตัวเป็นตนสัก เท่าไร แถมบางคราวยังได้รับเสียงตอบรับในแง่ที่ว่าเป็นเทรนด์ดนตรีที่เน้นเอาแปลกไป วันๆเท่านั้น (ซึ่งผมว่าเป็นความเห็นเชิงลบไปหน่อย) แต่สำหรับ Salem แล้ว พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคือของจริง ด้วยการออกอัลบั้มเต็มมาเขย่าวงการ แถมยังได้รับการตอบรับที่ดีไม่น้อยเลยด้วย ดนตรีในอัลบั้มนี้เป็นเหมือนทุกสิ่งที่จะนิยามตัวตนของ Witch House ได้ ด้วยดนตรีอีเลกทรอนิกส์อันสกปรก หม่นมืด และหลอกหลอน ที่ใช้จังหวะกรึ่มๆแบบ Dubstep ที่ถูกใข้เพื่อเพิ่มความเคร่งเครียดโดยเฉพาะ ส่วนเสียงซินธ์มืดทะมึนนั้นก็เล่นถล่มกันจัดจ้านแบบไม่มีอ่อนข้อเลยสักนิด ทุกเพลงล้วนแต่ติดหูและทรงพลัง และจะฝังตัวเองลงในหน่วยความจำของสมองคุณในเวลาที่รวดเร็วเลยเชียวล่ะ

15. My Dead Girlfriend - Ixtab (Shoegaze)



ดูจากแค่ชื่อวงก็คงพอจะบอกเป็นนัยๆได้แล้วว่ามันต้องได้แนวคิดอะไร บางอย่างมาจาก My Bloody Valentine แน่ๆ ...ใช่ครับ วงหกจากแดนปลาดิบโดยอิทธิพลจากวงอย่าง MBV, Ride และ Slowdive นั้นคละคลุ้งเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นจังหวะเชื่องช้าอ้อยอิ่ง กำแพงกีตาร์ลอยหม่นแตกดังสนั่นลั่นทุ่ง ไปจนถึงเสียงร้องลอยๆของนักร้องสาวที่ถูกมิกส์ให้จมไปกับวังวนแห่งกีตาร์ที่ ดังผ่านทะลุแก้วหูแบบแทบไม่ปล่อยช่องว่างให้หายใจ ขณะที่บางเพลงก็มีซาวนด์กีตาร์ใสปิ๊งให้ผ่อนคลายหูกันบ้างเหมือนกัน ...นี่คืองานที่คอชูเกสทุกคนต้องร้องว้าวด้วยความถูกใจ และจะติดตามฟังมันตั้งแต่ต้นจนจบอัลบั้มด้วยเวลาที่ผ่านไปรวดเร็วแบบไม่รู้ ตัวเลยครับ
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #42 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 12:47:36 AM »

16. Envy - Recitation (Post-Rock, Screamo)



ชื่อ Envy นั้นเรีัยกได้ว่าพะยี่ห้อเป็นเทรดมาร์กได้เลยสำหรับการเป็นผู้บุกเบิกนำ อิทธิพลของดนตรีโพสต์ร๊อคมาผสมเข้ากับดนตรีสครีโมได้อย่างลงตัว ตั้งแต่อัลบั้มแรกๆที่สัดส่วนอยู่ที่ Screamo 80% Post-Rock 20% จนมาถึงอัลบั้มชุดปัจจุบันที่สัดส่วนของโพสต์ร๊อคถูกเพิ่มเข้ามาจนจนกลาย เป็น Screamo 20% Post-Rock 80% ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้แฟนเพลงของวงต้องเบือนหน้าหนีแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ก็ต้องยอมรับว่านี่คือแนวทางใหม่ของพวกเขาที่ต้องการจะเน้นความประณีตงดงาม และเอาใจใส่ในเรื่องอารมณ์ของบทเพลงมากขึ้น ซึ่งต้องยอมรับอีกแหละว่าพวกเขาทำได้ดีเอามากๆ ที่เห็นได้ชัดๆคือกีตาร์ที่คอยแต่งแต้มเมโลดี้สวยงามหยดย้อยสุดชีวิตแบบไม่ มีทีท่าว่าจะหมดไอเดียเรื่องท่วงทำนองเอาง่ายๆ สำหรับแฟนๆที่ต้องการฟังอะไรที่รุนแรงกระแทกกระทั้นก็อาจจะผิดหวังอยู่สัก หน่อย ....แต่เอาจริงๆ Envy เขาก็ไม่ได้เน้นเรื่องนั้นมาตั้งนานพอสมควรแล้วไม่ใช่รึ?

17. Dinosaur Feathers - Fantasy Memorial (Folk Pop, Lo-Fi, Psychedelic)



อัลบั้มเต็มชุดแรกโดยทริโอป๊อปแบนด์เก๋ๆจากนิวยอร์คที่นำเอาเสน่ห์ของ เพลงป๊อปยุคปลาย 50's ต้น 60's มาประยุคใช้ในดนตรีของตัวเองจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ชวนฟังแบบสุดๆ ดนตรีโดยรวมของพวกเขาก็เป็นป๊อปสดใสกรุ่นกลิ่นไอแสงแดดที่ขลับเคลื่อนด้วย อคูสติกกีตาร์ จังหวะกลองสนุกสนาน และสไตล์การร้องแบบ Sing-Along สนุกสนานที่ติดหูได้เร็วไว บวกกับความใสซื่อไร้เดียงสาของป๊อปยุคโบราณ ทำให้อัลบั้มนี้กลายเป็นอัลบั้มปาร์ตี้สำหรับฤดูร้อนที่ร้อนตับแล่บแต่ก็ เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและความสดใสซาบซ่านอะไรอย่างนั้นได้เลยทีเดียว

18. Shinsei Kamattechan - To Kill a Friend (Indie Rock, Shoegaze, Experimental)



อีกหนึ่งวงญี่ปุ่นที่หลุดลอยเข้ามาในลิสต์ผมได้แบบเซอร์ไพรส์นิดๆ เพราะในตอนแรกต้องบอกตามตรงว่าผมไม่เก็ทบทเพลงของวงนี้เลยสักนิด ทั้งๆที่พวกเขานำเสนอออกมาแบบตรงไปตรงมาโคตรๆแล้ว กล่าวคือดนตรีของพวกเขา (และเธอ) นั้นเป็นร๊อคพุ่งทะยานที่ความพลุ่งพล่านในแบบพังค์อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกีตาร์ที่ใสกันพุ่งๆแรงๆตรงๆได้อารมณ์ฮึกเหิมดีชะมัด แต่ไอ้ที่มันรู้สึกขัดๆก็เห็นจะเป็นเสียงเปียโนใสๆที่ถูกใส่เข้ามา ฟังแล้วรู้สึกขัดหูแปลกๆ รวมไปถึงเสียงร้องที่เหมือนร้องกันแบบเล่นๆมันส์ๆ หรือบางเพลงที่มีเมโลดี้ร้องน่ารักสดใสแบบเพลงเด็กๆ (โดยเฉพาะเพลงที่ผู้หญิงร้องนำ) จนรู้สึกระแวงแปลกๆว่ามันจะมาไม้ใหนกันแน่วะเนี่ย (ยิ่งผมฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออกอยู่ด้วย) พอไปลองค้นข้อมูลมาก็ถึงบางอ้อว่าพวกเขาตั้งใจจะนไเสนอเนื้อหาที่รุนแรง อย่างการฆาตกรรม การทำร้ายร่างกาย หรือแม้แต่เรื่องเศร้าทุกข์ระทมที่ทำให้จิตใจบอบช้ำ โดยสื่อออกมาอย่างสนุกสนานเหมือนกับมันเป็นเรื่องเล่นๆ!!! โอ้โห.. ทีนี้เก็ตเลยครับ ตอนนี้ก็ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเพลงมันถึงฟังดูน่ารักปนโรคจิตได้อย่างนี้ คราวนี้พอเข้าใจคอนเซปต์ของพวกเขาผมก็ฟังอัลบั้มนี้ได้อย่างเพลินเพลินใขเป้ นยิ่งนัก และในเมื่อยิ่งฟังยิ่งเสพติดขนาดนี้ อัลบั้มบ้าๆบอๆชุดนี้ก็ไำด้เข้ามาสิงอยู่ในลิสต์ของผมแบบช่วยไม่ได้นี่แหละ ครับ

19. The Dillinger Escape Plan - Option Paralysis (Mathcore)



บอกตามตรงว่าผมเพิ่งได้ฟังอัลบั้มชุดนี้เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ทั้งๆที่ผลงานมันออกมาได้นานพอสมควรแล้ว และผมก็ไม่ได้สนใจจะฟังมันสักที เำพราะจริงๆก็ต้องยอมรับว่าช่วงหลังๆผมค่อนข้างห่างเหินกับดนตรีประเภทนี้มา นานพอสมควรทีเดียว ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังครั้งแรกก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับมันสักเท่าไร จนเมื่อได้ฟังกลับไปกลับมาสองสามรอบ จึงได้รู้ว่ามันก็มีดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน โดยดนตรีในชุดนี้ก็ยังคงเป็นแมธคอร์ที่เล่นกันด้วยไทม์ซิกเนเจอร์แปลกๆชวน ให้มึนแบบที่เคยคุ้นเคยกันดี แต่สิ่งที่ดูจะเปลี่ยนไปบ้างก็คือ พวกเขาลดทอนการทดลองแนวดนตรีแปลกๆ (ที่ยอดเยี่ยมมากๆ) อย่างในอัลบั้ม Miss Machine และ Ire Works ไป และหันไปใส่ใจกับความหนักแน่นและท่วงทำนองที่ไหลลื่นอร่อยหูมากขึ้น โดยจะมีหลายๆเพลงที่พวกเขาเขียนทำนองออกมาได้ติดหูมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยที เดียว อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ยังมีอะไรที่แปลกใหม่คอยแต่งแต้มเป็นสีสันอยู่เหมือนกัน อย่างเช่น Widower บทเพลงโปรเกรสสีฟกึ่งอัลเทอร์เนทีฟความยาวหกนาทีที่ฟังดูซีเรียสจริงจัง หรือเพลงอย่าง Parasitic Twins ที่ฟังปราดเดียวก็รู้ว่ามันเป็นการคารวะต่อ Nine Inch Nails กันแบบโจ่งแจ้งเลยทีเดียว อัลบั้มชุดนี้ถือว่ายังได้มาตรฐานที่ดีของวง เป็นผลงานที่ฟังได้เพลิดเพลินไหลลื่นต่อเนื่องดีครับ

20. Inspirative - Memories Come Rushing Up to Meet Me Now (Post-Rock)



บอกได้เลยว่าสุดยอดจริงๆครับ สำหรับอัลบั้มเต็มชุดแรกของวงโพสต์ร๊อคห้าชิ้นสายเลือดไทยแท้วงนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นงานที่แตกต่างหรือฉีกหนีไปจากวงแนวๆนี้อีกเป็นร้อย เป็นพันวงบนโลกใบนี้ แต่มันก็เป้นงานที่แสดงให้เห็นถึงความประณีตและตั้งอกตั้งใจในการผลิตผล งานอย่างแท้จริง ทั้งในด้านโปรดักชั่นที่ทำออกมาได้ดีมีมาตรฐาน และที่สำคัญที่สุดคือภาคดนตรีที่ทุกๆท่อน ทุกๆตัวโน้ต ถูกสรรค์สร้างและเรียงร้อยออกมาได้อย่างงดงามเหลือล้น ฟังแล้วกินใจไปเสียทุกเพลง เรียกว่าเพราะงานนี้ เราจึงสามารถพูดได้แบบเต็มปากเต็มคำเลยว่า "โพสต์ร๊อคไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก" จริงๆนะนี่
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 12:51:45 AM »

21. Midlake - The Courage of Others (Folk Rock)



เรียกว่าปรับอารมณ์จากผลงานชุดก่อนกันไม่แทบไม่ทันเลยทีเดียว หลังจากอัลบั้มที่แล้ว อินดี้แบนด์จากเท็กซัสวงนี้ได้รังสรรค์บทเพลงโฟล์คป๊อป/ร๊อคฟังเพลินเจริญหู ให้ได้ฟังกันเพลินเสียเต็มอัลบั้ม พอมาอัลบั้มชุดนี้ จู่ๆอารมณ์ซึมเศร้าเหงาแฮงค์ก็คืบคลานเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียอย่าง นั้น ตั้งแต่แทร๊คจั่วหัวอัลบั้มอย่าง Acts of Man ที่อืดเอื่อยนวยนาด บวกกับเสียงร้องที่หดหู่สิ้นหวังเสียยิ่งกว่าอะไรดี ซึึ่่่งเมื่อฟังไปเรื่อยๆจนจบอัลบั้มก็จะพบว่าเพลงมันก็เป็นไปในทิศทางนี้ เสียหมด ดังนั้นผมก็พอเข้าใจว่าทำไมแฟนๆบางคนถึงไม่ค่อยปลื้มงานชุดนี้กันเท่าไรนัก แต่สำหรับผมเองซึ่งโปรดปรานบทเพลงซึมๆประมาณนี้เป็นทุนอยู่แล้ว ก็พลอยตกหลุมรักอัลบั้มชุดนี้แบบง่ายๆเลยล่ะ

22. Whirl - Distressor EP (Shoegaze)



ชูเกสรุ่นใหม่ที่ทำงานคารวะบรรพบุรุษอย่าง My Bloody Valentine และ Slowdive ได้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู  (อ้าว... แค่นั้นเร่อะ !!?)

23. Amia Venera Landscape - The Long Procession (Progressive, Post-Hardcore, Post-Metal, Ambient)



เท่าที่เคยผ่านตาผ่านหูมา ก็มีโพสต์ฮาร์ดคอร์หลายๆวงที่พยายามทำงานเพลงให้แปลกใหม่ ฉีกหนีจากความซ้ำซากจำเจแบบเก่าๆ ซึ่งก็มีหลายวงที่ทำออกมาได้ดี และก็มีอีกหลายวงเช่นกันที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยเข้าท่าเท่่าไร ...แต่สำหรับวงโนเนมจากอิตาลีวงนี้ สำหรับผมแล้ว พวกเขาคือเพชรในตมอย่างแท้จริง เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะพวกเขาจำงานฉีกกรอบได้อย่างงดงามหมดจดและลงตัวได้ขนาด นี้ งานดนตรีของพวกเขาคือหม้อจับฉ่ายแสนอร่อยที่จับเอาโปรเกรสสีฟเมทัลคอร์ เนียนๆแบบ Between the Buried and Me มาปรุงร่วมกับส่วนผสมที่ล่องลอยของโพสต์เมทัล สอดแทรกด้วยแอมเบียนท์มืดหม่นที่มาเป็นแอมเบียนท์เนื้อๆจริงๆ ไม่ใช่แค่รองพื้น!!! โดยทั้งหมดถูกปกคลุมไว้ด้วยบรรยากาศที่เคร่งเครียดซีเรียสจริงจังอย่างเป็น ธรรมชาติ การเรียบเรียงดนตรีของพกวเขาจัดว่าอยู่ในระดับเอบวก มีการผ่อนหนักผ่อนเบาเปลี่ยนอารมณ์กันอย่างรู้จังหวะเวลา อีกทั้งยังมีการแต่งแต้มท่วงทำนองสวยๆแบบไม่มีขาด ทำให้หลายๆเพลงที่ยาวเหยียดนั้นฟังเพลินจนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปแปปเดียวจริงๆ ...นี่คืองานดนตรีเอ็กซ์ตรีมรุ่นใหม่ที่เป็นความก้าวหน้าตามนิยามคำว่า Progressive อย่างแท้จริง เป็นตัวจริง และเสียงจริงครับ!!!

24. The Lost Rivers - My Beatific Vision (Shoegaze, Post-Punk, Noise Rock)



ถ้าปีที่แล้วเรามีผลงานของ A Place for Bury Strangers ที่ออกมาให้ทั้งคอชูเกสและคอโพสต์พังค์ได้ซื้ดปากไปตามๆกัน ในปี 2010 นี้เราก็มี The Lost Rivers เป็นตัวสานต่อความยอดเยี่ยมนั้นเช่นกัน ด้วยอิทธิพลความหม่นอันแสนเท่ของดนตรีโพสต์พังค์รุ่นเดอะแบบ Joy Division ที่ถูกนำมาเร่งปฏิกิริยาความอึกทึกจนถึงขีดสุดด้วยซาวนด์ชูเกสสูตรแรงที่มี ดีกรีความน้อยส์อยู่ในระดับสูง เรียกว่าหลายๆเพลงนั้นกีตาร์มันใส่กันจนแก้วหูแทบแตกเป็นเสี่ยงๆเลยทีเดียว คือถ้าประสาทหูไม่แกร่งพอ ผมไม่แนะนำให้เปิดอัลบั้มนี้ใส่หูฟังด้วยโวลุ่มสูงๆเป็นเลยครับ ไม่งั้นคุณอาจจะต้องเสียงซ่าๆดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวตลอดทั้งคืนเลยก็เป็น ได้ (เพราะตัวเองก็เคยแล้ว 55)

25. Rogue Valley - Crater Lake (Folk Rock)



ถ้างานของ Midlake ข้างบนนั้นมันชวนให้ห่อเหี่ยวหมดเรี่ยวแรงจนเกินไป ผมขอแนะนำให้เปลี่ยนมาฟังอันนี้แทนครับ เพราะอัลบั้มนี้คืออินดี้โฟล์คชั้นดีที่เปี่ยมล้นไปด้วยความไพเราะละมุนละไม ทั้งในภาคดนตรีและเสียงร้อง แม้มันอาจจะไม่ได้น่ารักน่ากอดเหมือนผลงานเก่าๆของ Midlake หรืออาจจะไม่เฉียบโดนแบบ Okkervil River แต่มันก็ล้นไปด้วยบรรยากาศแห่งความอบอุ่นบนความเรียบง่ายที่ฟุ้งกระจายไป ทั่ว คือบอกได้เลยว่าเพราะทุกเพลงจริงๆครับ อยากให้ลองฟังกันดู แล้วคุณจะตกหลุมรักเหมือนผมนี่แหละ
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
ไอ้ใบ้ตาเดียว
Fragile
***
กระทู้: 436



ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 01:03:40 AM »

เลื่อนอ่านมันส์เลยผม ในนี้รู้สึกว่า ผมจะได้ฟังประมาณ 6-7 ชุด
ว่าแล้วก็ไปหาอันอื่นๆมาฟังมั่งดีฝ่า

บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery