ต่อไป »

[.. polotoon ..]

เชื่อว่าสมาชิกหลายท่านมีวัฒนธรรมในการฟังเพลงแบบร่วมสมัยไปแล้ว ไม่ยึดติดกับรูปแบบเก่าที่มักจะฟังและสะสมควบคู่กันไป สมัยนี้มาเร็วไปเร็วไม่ยึดติดกับตัวตนเท่าไร เรื่องสะสมไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการฟัง ชอบก็ฟังเบื่อก็ลบทิ้ง ทำให้ผมคิดถึงรูปแบบของงานเพลงในยุคสมัยต่อๆไป อนาคตถ้าบ้านเราควบคุมสื่อที่ละเมิดลิขสิทธ์ได้มากกว่านี้แล้ว การดาวน์โหลดแบบถูกกฎหมายขยายวงกว้างขึ้น เราจะมีเพลงฟังกันในอุปกรณ์ฟังเพลงติดตัวเท่านั้น ไม่มีสื่อที่ต้องพกพาให้รุ่มร่ามวุ่นวายใช่ไหมครับ เคยได้ยินว่าจะเป็นยุคที่ live show เฟื่องฟู live band เป็นที่ยอมรับ ความสุขกับของสะสมจะยังคงอยู่รึเปล่า

ส่วนตัวผม ถ้าไม่ได้มีความจำเป็น หรือไม่ได้รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆมากๆก็ยังคงเก็บและชื่นชมของสะสมเก่าๆอยู่ครับ
ยังนึกถึงช่วงเวลาที่ซื้อเทปม้วนใหม่กลับมาแกะฟังพร้อมกับนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับดนตรีไปอย่างมีความสุข
แล้วท่านอื่นๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ

สมาชิกที่มีหรือไม่มีประสบการณ์ต่างแดนก็ตาม หรือที่ติดตามข่าวคราวทางเมืองนอกอย่างใกล้ชิดช่วยเล่าหรือทำนายทิศทางการฟังเพลงในอนาคตให้ฟังหน่อยนะครับ

[The Black Tulip]

ความเห็นผมนะครับ
 ในฐานะผู้ฟังเพลงคนหนึ่ง
    โอกาสที่จะค้าขายแบบเดิมๆ จะยากขึ้น วัฒนธรรมการฟังเพลงฟรีจะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม
      ผู้ฟังมีโอกาสจ่ายเงินน้อยลง หรือจ่ายเท่าเดิม แต่ได้ปริมาณเพลงเพิ่มขึ้น(ไม่เกี่ยวกับคุณภาพ)
       

[.. polotoon ..]

ครับ ผมยังคิดว่า อนาคตอาจจะไม่มีใครต้องการสะสมอะไรให้ต้องเปลืองที่เก็บ คืออาจจะฟังแบบที่ไม่ต้องโหลดมาเก็บเสียด้วยซ้ำไปครับ แถมมีให้เลือกฟังได้ตลอดเวลากับจำนวนมากมายมหาศาล เดินไปที่ไหน อาจต้องการเพียงอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ เป็นสื่อให้เชื่อมต่อแล้วเลือกฟังได้ทันที อยากฟังเมื่อไหร่ ค่อยเลือกใหม่ ที่ไหน เมื่อไรก็ได้ครับ เราอาจจะแทบไม่มีโอกาสหรือความต้องการที่จะฟังอัลบั้มใดๆทั้งอัลบั้มเลยก็ได้ครับ เราอาจะฟังศิลปินรายใดๆในขณะเดียวกันก็มีรูปภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวให้ดูได้ตลอด จนเรารู้สึกเฉยๆกับการจะฟังอะไรแปลกใหม่ อาจจะเพียงเลือกอารมณ์ทเพลงที่ต้องการ หรือบอกอารมณ์ของเราไป ก็มีเพลงตอบสนองอารมณ์นั้นกลับมา คนเราอาจจะมีช่วงลำตัวที่ใหญ่ขึ้นแล้วส่วนอื่นๆลีบเล็กลงหมด เคลื่อนไหวด้วยเครื่องเหาะไปมา โอย ....

[ปีศาจลายคราม]

เคยคุยกับพ่อค้าแผ่นเสียงและซีดีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง เขาบอกว่าตัวเขาเองใช้อุปกรณ์ฟังเพลงแบบพกพาเป็นสื่อในการฟังโดยส่วนใหญ่เพราะมักจะขับรถยนต์ไปโน่นมานี่ และวัฒนธรรมการฟังเพลงของชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับการฟังเพลงผ่านสื่อพกพาขนาดจิ๋วมากขึ้นทุกที ในอนาคตการดาวน์โหลดเพลงฟังและเก็บไว้ในสื่อขนาดกะทัดรัดคงเป็นที่นิยมมากขึ้นแน่นอน แต่ผมไม่ใช่คนตามกระแสหรือเปลี่ยนแปลงวิถีส่วนตัวง่าย ๆ ผมยังเชื่อมั่นและให้ความสำคัญกับการฟังเพลงผ่านระบบเครื่องเสียงที่บ้าน, ไม่เคยใช้วอล์คแมนหรือ mp3 หรือ ipod, ไม่เคยดาวน์โหลดเพลงฟัง เพราะใช้อุปกรณ์พวกนี้ไม่เป็นเลย -- อาจจะฟังดูว่าเป็นคนตกยุคและย่ำอยู่กับที่ -- แต่ผมมองว่า หากเราจะเดินตามกระแสการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ตลอด มันเหนื่อยครับ, สู้ยึดมั่นกับสิ่งที่เราเชื่อถือหรือศรัทธาและทำให้ดีที่สุดดีกว่าครับ

[.. polotoon ..]

นึกอยู่แล้วว่าคุณปีศาจหัวอนุรักษ์ต้องมาแนวนี้
ถ้าเว็บเราพูดถึงอัลบั้มไหนแล้วก็มีรูปประกอบเต็มไปหมดทั้ง clip ต่างๆให้คลิ๊กดูได้ทันที มีให้ฟังได้ทันใจ ก็ดีไม่น้อยนะครับ ดูเหมือนเรื่องของการฟังจะพัฒนาขึ้นสวนทางกับเรื่องของการสะสมนะครับ

[.. polotoon ..]

ลองสังเกตดูสมาชิกในเว็บเราจะมีกลุ่มของ
1.   mini lp cd
2.   cd
3.   vinyl
4.   high quality music file
ท่านใดมีรสนิยมแตกต่างจากนี้บ้างไหมครับ
ส่วนผมเอง อยู่ในกลุ่ม 2 – 4 ซะส่วนใหญ่ มี jam กลุ่ม 1 อยู่บ้างในบางทีครับ

[.. polotoon ..]

มีใครคิดแบบผมบ้างไหมครับ ผมรู้สึกว่ามีเวลาฟังเพลงน้อยลง และก็มีเพลงให้ฟังมากเกินไป คือผมฟังมันไปเรื่อย ชอบดนตรีอยู่หลายแนว และก็นิยมโหลดเพลงฟังด้วย สาเหตุก็เพราะบางครั้งก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เช่นบางอัลบั้มนั้นหาซื้อยากเย็น หรือไม่ก็ราคาสูงเกินควรเมื่อเทียบเคียงกับงานชุดอื่นๆ แต่ในทางกลับกันกลับหาโหลดได้ไม่ยากนัก ทีนี้ก็พาลทำให้ทั้งโหลดมาฟัง มาเก็บ รวมทั้งซื้อหามาฟัง มาเก็บอีก ก็เลยมีที่ยังไม่ได้ฟังอยู่มากพอสมควร ดอกาสที่จะได้ฟังเพลงที่อยากฟังจริงๆก็น้อยลง เพราะแพ้ความอยากรู้อยากฟังงานที่ยังไม่เคยฟังอีกมาก ความสุขจากการฟังก็เลยดูเหมือนจะลดลง บางครั้งได้เปิดเพลงที่ชอบฟังสักรอบหนึ่ง มันช่างชื่นใจนักครับ

[ไม่ประสงค์ออกนาม]

เคยคุยกับพ่อค้าแผ่นเสียงและซีดีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง เขาบอกว่าตัวเขาเองใช้อุปกรณ์ฟังเพลงแบบพกพาเป็นสื่อในการฟังโดยส่วนใหญ่เพราะมักจะขับรถยนต์ไปโน่นมานี่ และวัฒนธรรมการฟังเพลงของชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับการฟังเพลงผ่านสื่อพกพาขนาดจิ๋วมากขึ้นทุกที ในอนาคตการดาวน์โหลดเพลงฟังและเก็บไว้ในสื่อขนาดกะทัดรัดคงเป็นที่นิยมมากขึ้นแน่นอน แต่ผมไม่ใช่คนตามกระแสหรือเปลี่ยนแปลงวิถีส่วนตัวง่าย ๆ ผมยังเชื่อมั่นและให้ความสำคัญกับการฟังเพลงผ่านระบบเครื่องเสียงที่บ้าน, ไม่เคยใช้วอล์คแมนหรือ mp3 หรือ ipod, ไม่เคยดาวน์โหลดเพลงฟัง เพราะใช้อุปกรณ์พวกนี้ไม่เป็นเลย -- อาจจะฟังดูว่าเป็นคนตกยุคและย่ำอยู่กับที่ -- แต่ผมมองว่า หากเราจะเดินตามกระแสการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ตลอด มันเหนื่อยครับ, สู้ยึดมั่นกับสิ่งที่เราเชื่อถือหรือศรัทธาและทำให้ดีที่สุดดีกว่าครับ

ผมว่าถ้าอนาคตคน(ทั้งโลก)ดาวน์โหลดเพลงจาก BitTorrent กันหมด ตลาด CD ที่ญี่ปุ่นก็ไม่ตายครับ (เพียงแต่กระทบยอดขายบ้างเล็กน้อย) สังเกตุจากเดือนๆนึงนี่มี CD ออกมาเป็นร้อยๆ Title โดยที่ CD single จะราคา 1000 yen / อัลบั๊ม 2500-3000 yen (ถ้าแผ่นคู่นี่ยิ่งแล้วเลย) ถ้าซื้อหมดนี่ขี้ไหลเลย (ขออภัยที่ไม่สุภาพ) ผมยอมรับครับว่าส่วนใหญ่ฟังเพลงจากเครื่องเล่น iPod ทว่าเพลงทั้งหมดผม rip เองกับมือ เสียงใสกิ๊ก (ขอโม้หน่อย) ส่วนแผ่นผมก็เก็บใส่ชั้นโชว์(ตัวเองและแฟน)อย่างดีครับ 

[.. polotoon ..]

โชคดีนะครับ ที่มีแฟนที่เข้าใจกันอย่างดี  

[ไม่ประสงค์ออกนาม]

ลองสังเกตดูสมาชิกในเว็บเราจะมีกลุ่มของ
1.   mini lp cd
2.   cd
3.   vinyl
4.   high quality music file
ท่านใดมีรสนิยมแตกต่างจากนี้บ้างไหมครับ
ส่วนผมเอง อยู่ในกลุ่ม 2 – 4 ซะส่วนใหญ่ มี jam กลุ่ม 1 อยู่บ้างในบางทีครับ

ผมจะอยู่แถวๆ 1-2 ครับ Mini-LP นี่ซื้อบางชุดในแต่ล่ะซีรีย์ ไม่ได้หวดหมด แต่จะว่าไปซีรีย์ที่ผมมีครบเลยคือ Italitan Rock ที่ BMG ทำออกมา III ซีรีย์แรก รวมทั้งหมด 30 แผ่น (เป็นเงิน 24,000 บาท เล่นเอากินแกลบแทนข้าวเลย) Mini-LP นี่กรณีแผ่น Progressive Rock ยุคเก่าๆพวก '70s ถ้าวงใหม่ๆอาจจะแค่ข้อ 2 CD-audio ธรรมดา (วงใหม่ๆผมไม่ค่อยได้ซื้อเท่าไหร่) ส่วนเพลงป็อปสาวๆญี่ปุ่นนี่ซื้อมาบานเบอะเลยครับ โดยราคานี่ก็โหดได้ใจอยู่ไม่น้อย (ถูกสุด $26 แพงสุด-ไม่อยากคิด) ล่าสุดผมรออัลบั๊มแรกของ Satomi Takasugi ออกวันที่ 20 เดือนหน้าแล้ว (จองไปแบบผลิตรอบแรกไปแล้วด้วย)



ขอโม้ต่ออีกหน่อยนะครับ ถ้าใครเป็นแฟทเพลงญี่ปุ่น และเคยฟัง single ของศิลปินคนนั้นบ้างแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งออกอัลบั๊ม เพลงที่ตัดมาเป็น Single เหล่านั้นพอมาอยู่ในอัลบั๊ม จะถูกแก้ไขให้กลายเป็น Album Version ซึ่งกว่า 80% เน่าและแย่กว่าเดิม (เขาจะให้คนซื้อแผ่น Single ด้วย) แต่ชุดที่ผมว่าไปข้างบนนี่ใจดีมากๆเลยครับ เพราะเธอให้ Single ver. ทุกเพลง ที่สำคัญไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า 20/02 อัลบั๊มเต็มชุด Garden ออกแล้ว she ยังไม่วายปล่อย Single อีกแผ่นวางคู่กันไปด้วย (Single ที่ปล่อยวันที่ 20 ไม่ถูกบรรจุในอัลบั๊ม) เล่นเอาผมโดน 2 เด้งเลยเดือนหน้า 

[.. polotoon ..]

คุณไม่ประสงค์ไม่ต้องแจ้งราคาก็ได้เดี๋ยวตาผมจะร้อนเอา   
้อ้อ โพสต์ปกอัลบั้มสาวๆบ่อยๆ ผมคงได้ฟังเป็นเพื่อนด้วยแน่เลย
ฟัง do as infinity รึเปล่าครับ ผมว่าเสียงร้องถึงใจดี ดนตรี pop rock มีชั้นเชิงน่าติดตามดีครับ

[เพชร วิปลาส]

ตัวผมเองแม้จะตามเทคโนโลยี เพราะมีการดาวน์โหลดเพลงมาฟัง เพราะอยากศึกษาวงใหม่ๆ หรือเพลงที่หาซื้อไม่ได้

แต่ว่าถ้าเป็นวงโปรด ยังไงก็ต้องตามเก็บ เพราะว่ามีความสุขเวลาหยิบแผ่น, เทปออกมาเปิดแล้วก็นั่งอ่านปก ร้องตามเนื้อในปก ดูรูปใน booklet นั่งเรียงนั่งจัดกล่องซีดีเล่น หยิบเข้าหยิบออกมันอยู่อย่างนั้น และจะเซ็งมากถ้าเพลงชุดนั้นที่ซื้อมาออกแบบปกห่วย หรือว่าไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรพิเศษ

เป็นความสุขที่ใครไม่เคยจะไม่เข้าใจจริงๆครับ

[.. polotoon ..]

ตัวผมเองแม้จะตามเทคโนโลยี เพราะมีการดาวน์โหลดเพลงมาฟัง เพราะอยากศึกษาวงใหม่ๆ หรือเพลงที่หาซื้อไม่ได้

แต่ว่าถ้าเป็นวงโปรด ยังไงก็ต้องตามเก็บ เพราะว่ามีความสุขเวลาหยิบแผ่น, เทปออกมาเปิดแล้วก็นั่งอ่านปก ร้องตามเนื้อในปก ดูรูปใน booklet นั่งเรียงนั่งจัดกล่องซีดีเล่น หยิบเข้าหยิบออกมันอยู่อย่างนั้น และจะเซ็งมากถ้าเพลงชุดนั้นที่ซื้อมาออกแบบปกห่วย หรือว่าไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรพิเศษ

เป็นความสุขที่ใครไม่เคยจะไม่เข้าใจจริงๆครับ

ผมล่ะคนนึงที่เข้าใจครับ นึกถึงค่าย CB.. สมัยก่อนที่ทำปกได้ค่อนข้างแย่ ตักปกไม่เรียบร้อย พิมพ์ปกเบลอๆ ตัวหนังสืออ่านไม่ออก เสียงก็ไม่ค่อยดี รายละเอียดก็ไม่มีขึ้นทันทีเลยครับ   

[The Black Tulip]

ย้อนอดีตไปเมื่อหลายๆปีก่อน แค่มีเพลงฟังก็พอใจแล้ว จะเป็น Format อะไรก็ได้ เสียงไม่ดีก้ได้
  ไม่น่าเชื่อนะครับ เวลาผ่านไป เดี๋ยวนี้เริ่มสะสมแผ่น เลือกที่จะเก็บแผ่นเสียง แค่นั้นไม่พอ ยังเลือกอีก เลือกแผ่นเสียงดีๆ สภาพดีๆ แถมต้องมีหลายชุดอีก
  

[kongbei]

ก็ยังเหมือนเดิมครับคือโหลดมาฟังชุดไหนชอบก็เก็บ ชุดไหนที่หาโหลดไม่ได้ก็เสี่ยงดวงไปซื้อเลยครับ และต้อง Rip 320 kbps เท่านั้นครับ