ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149702 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

10 พฤษภาคม 2024 | 05:37:49 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgBreatheขออนุญาตส่งข่าวชมรมใหม่ครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 8
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขออนุญาตส่งข่าวชมรมใหม่ครับ  (อ่าน 54939 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 09:56:31 AM »

ขอบคุณครับ คุณ Edosh?ma ที่กรุณาแลกเปลี่ยน+เผื่อแผ่  ปัญญา กัน เป็นประโยชน์ในวงกว้าง ครับ ยิ้ม....เดี๋ยวผมจะนำเรียน ประธานฯ ให้ทราบเพื่อ เสวนะ , เสวนา กันต่อไปครับ
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 12:09:42 PM »


แต่ก่อนผมก็เป็นคอ เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างพอสมควรเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะวรรณคดี หรือ หนังสือตำรับตำรา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ มีกิเลสชนิดใหม่ๆให้สนใจมากมาย จนแทบหลงลืมความอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นไปเสียหมดสิ้นแล้วละครับ เหตุปัจจัยเปลี่ยน ความสนใจก็เปลี่ยน สงสัยคงต้องสร้างเหตุและปัจจัยที่หนุนนำขึ้นมาใหม่บ้างแล้วหละ (สักวัน หวังว่า).   ยิงฟันยิ้ม
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นของประธานฯ ดังนี้ครับ.....
กิเลสไม่มีใหม่ ในกาลไหนๆก็ไม่มีใหม่ เพราะมีบัญญัติเอาไว้ว่า กิเลสมี หนึ่งพันห้าร้อยอย่าง ตัณหามี 108 อย่าง แต่ที่คุณเข้าใจว่ามีกิเลสชนิดใหม่ๆนั้น น่าจะเป็นเหตุจูงใจพิเศษเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับกิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้วครับ ถ้าสนใจลองเสาะหามาอ่านนะครับ...ขอบคุณครับ ยิ้ม

ขอบคุณครับผม ยิ้มเท่ห์ คำว่า "กิเลส" ของผม ใช้มุ่งหมายไปในเชิงโดยอรรถ มากกว่าโดยพยัญชนะ เป็นไปในเชิงสำนวนมากกว่าจะมุ่งหมายที่ตัวศัพท์ครับผม  ยิงฟันยิ้ม น่าจะเหมือนที่พี่สมบุญพูดนั่นแหละครับ "กิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎก" ถ้าเอาแบบดื้อๆก็ต้องบอกว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีกิเลสและตัณหา มีแต่อักขระที่จารึกธรรมคำสอน (เป็นรูป แค่รูปเฉยๆไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือตัณหา) กิเลสและตัณหานั้น หามีอยู่ในพระไตรปิฏกไม่ แต่มีต่อเมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกันกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แบบผิดๆ อะไรทำนองนั้นครับ หวังว่าจะพูดถูกนะครับ ยิงฟันยิ้ม
ประธานฯ ได้เสวนา มาดังนี้ครับ.-
ขอคารวะท่านหนึ่งจอก เพราะว่าท่านเป็นคนแก่กล้าทางอักษรศาสตร์และทางพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วย ที่ท่านเสวนามานั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีกิเลสตัณหาอย่างที่ท่านว่า เพราะมีแต่ตัวอักษรจารึกไว้เท่านั้น แต่ตัวอักษรคือ เครื่องหมายแทนคำพูดเปรียบประดุจเหมือนเทปอัดเสียงเพราะสมัยพุทธกาลไม่มีเครื่องบันทึกเสียงและเอดิสันยังไม่เกิด ตัวอักษรก็คือช่องทางสื่อสารที่มนุษย์ใช้แทนคำพูดเท่านั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย แล้วก็พระไตรปิฎกก็ไม่มี มีแต่กระดาษหรือใบลานที่จารไว้เพื่อกันลืมเท่านั้นล่ะครับ ...แล้วก็กิเลสกับตัณหาเกิดขึ้นเพราะคนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้หรือมีไม่ครบ กิเลสตัณหามันก็เบาบางลง ว่างๆเขียนมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 01:45:30 PM »


แต่ก่อนผมก็เป็นคอ เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างพอสมควรเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะวรรณคดี หรือ หนังสือตำรับตำรา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ มีกิเลสชนิดใหม่ๆให้สนใจมากมาย จนแทบหลงลืมความอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นไปเสียหมดสิ้นแล้วละครับ เหตุปัจจัยเปลี่ยน ความสนใจก็เปลี่ยน สงสัยคงต้องสร้างเหตุและปัจจัยที่หนุนนำขึ้นมาใหม่บ้างแล้วหละ (สักวัน หวังว่า).   ยิงฟันยิ้ม
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นของประธานฯ ดังนี้ครับ.....
กิเลสไม่มีใหม่ ในกาลไหนๆก็ไม่มีใหม่ เพราะมีบัญญัติเอาไว้ว่า กิเลสมี หนึ่งพันห้าร้อยอย่าง ตัณหามี 108 อย่าง แต่ที่คุณเข้าใจว่ามีกิเลสชนิดใหม่ๆนั้น น่าจะเป็นเหตุจูงใจพิเศษเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับกิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้วครับ ถ้าสนใจลองเสาะหามาอ่านนะครับ...ขอบคุณครับ ยิ้ม

ขอบคุณครับผม ยิ้มเท่ห์ คำว่า "กิเลส" ของผม ใช้มุ่งหมายไปในเชิงโดยอรรถ มากกว่าโดยพยัญชนะ เป็นไปในเชิงสำนวนมากกว่าจะมุ่งหมายที่ตัวศัพท์ครับผม  ยิงฟันยิ้ม น่าจะเหมือนที่พี่สมบุญพูดนั่นแหละครับ "กิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎก" ถ้าเอาแบบดื้อๆก็ต้องบอกว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีกิเลสและตัณหา มีแต่อักขระที่จารึกธรรมคำสอน (เป็นรูป แค่รูปเฉยๆไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือตัณหา) กิเลสและตัณหานั้น หามีอยู่ในพระไตรปิฏกไม่ แต่มีต่อเมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกันกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แบบผิดๆ อะไรทำนองนั้นครับ หวังว่าจะพูดถูกนะครับ ยิงฟันยิ้ม
ประธานฯ ได้เสวนา มาดังนี้ครับ.-
ขอคารวะท่านหนึ่งจอก เพราะว่าท่านเป็นคนแก่กล้าทางอักษรศาสตร์และทางพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วย ที่ท่านเสวนามานั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีกิเลสตัณหาอย่างที่ท่านว่า เพราะมีแต่ตัวอักษรจารึกไว้เท่านั้น แต่ตัวอักษรคือ เครื่องหมายแทนคำพูดเปรียบประดุจเหมือนเทปอัดเสียงเพราะสมัยพุทธกาลไม่มีเครื่องบันทึกเสียงและเอดิสันยังไม่เกิด ตัวอักษรก็คือช่องทางสื่อสารที่มนุษย์ใช้แทนคำพูดเท่านั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย แล้วก็พระไตรปิฎกก็ไม่มี มีแต่กระดาษหรือใบลานที่จารไว้เพื่อกันลืมเท่านั้นล่ะครับ ...แล้วก็กิเลสกับตัณหาเกิดขึ้นเพราะคนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้หรือมีไม่ครบ กิเลสตัณหามันก็เบาบางลง ว่างๆเขียนมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม

พอดีมีโอกาสได้เคยบวชเรียน ได้เรียนภาษาบาลีอยู่ 2 ปี ครับ เลยพอได้พื้นฐานด้านภาษามานิดหน่อย ส่วนพระไตรปิฏกก็พอคุ้นเคยบ้าง เปิดอ่านหยิบอ่านพอสมควรครับ พื้นฐานทางพระธรรมคำสอนก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับผม.

เห็นบ่นว่าไม่มีเรื่องคุย ชวนเฮียสมบุญฯคุยกับเรื่องเหล่านี้และเรื่องหนังนอกกระแสได้เลย  เพราะเฮียแกหาคนคุยเรื่องแบบนี้ยากอยู่
แวะเข้าคุยบ่อยนะ
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 02:22:43 PM »

ถ้าอยากคุยหรืออ่านเรื่องหนังแบบที่คุยว่าลองเข้าไปดูที่ http://homecinema2010.blogspot.com เฮียสมบุญฯแวะเข้าไปคุยบ่อย
เจ้าของบ้านเป็นเพื่อนผมเองครับ
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 02:25:56 PM »


แต่ก่อนผมก็เป็นคอ เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างพอสมควรเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะวรรณคดี หรือ หนังสือตำรับตำรา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ มีกิเลสชนิดใหม่ๆให้สนใจมากมาย จนแทบหลงลืมความอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นไปเสียหมดสิ้นแล้วละครับ เหตุปัจจัยเปลี่ยน ความสนใจก็เปลี่ยน สงสัยคงต้องสร้างเหตุและปัจจัยที่หนุนนำขึ้นมาใหม่บ้างแล้วหละ (สักวัน หวังว่า).   ยิงฟันยิ้ม
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นของประธานฯ ดังนี้ครับ.....
กิเลสไม่มีใหม่ ในกาลไหนๆก็ไม่มีใหม่ เพราะมีบัญญัติเอาไว้ว่า กิเลสมี หนึ่งพันห้าร้อยอย่าง ตัณหามี 108 อย่าง แต่ที่คุณเข้าใจว่ามีกิเลสชนิดใหม่ๆนั้น น่าจะเป็นเหตุจูงใจพิเศษเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับกิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้วครับ ถ้าสนใจลองเสาะหามาอ่านนะครับ...ขอบคุณครับ ยิ้ม

ขอบคุณครับผม ยิ้มเท่ห์ คำว่า "กิเลส" ของผม ใช้มุ่งหมายไปในเชิงโดยอรรถ มากกว่าโดยพยัญชนะ เป็นไปในเชิงสำนวนมากกว่าจะมุ่งหมายที่ตัวศัพท์ครับผม  ยิงฟันยิ้ม น่าจะเหมือนที่พี่สมบุญพูดนั่นแหละครับ "กิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎก" ถ้าเอาแบบดื้อๆก็ต้องบอกว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีกิเลสและตัณหา มีแต่อักขระที่จารึกธรรมคำสอน (เป็นรูป แค่รูปเฉยๆไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือตัณหา) กิเลสและตัณหานั้น หามีอยู่ในพระไตรปิฏกไม่ แต่มีต่อเมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกันกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แบบผิดๆ อะไรทำนองนั้นครับ หวังว่าจะพูดถูกนะครับ ยิงฟันยิ้ม
ประธานฯ ได้เสวนา มาดังนี้ครับ.-
ขอคารวะท่านหนึ่งจอก เพราะว่าท่านเป็นคนแก่กล้าทางอักษรศาสตร์และทางพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วย ที่ท่านเสวนามานั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีกิเลสตัณหาอย่างที่ท่านว่า เพราะมีแต่ตัวอักษรจารึกไว้เท่านั้น แต่ตัวอักษรคือ เครื่องหมายแทนคำพูดเปรียบประดุจเหมือนเทปอัดเสียงเพราะสมัยพุทธกาลไม่มีเครื่องบันทึกเสียงและเอดิสันยังไม่เกิด ตัวอักษรก็คือช่องทางสื่อสารที่มนุษย์ใช้แทนคำพูดเท่านั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย แล้วก็พระไตรปิฎกก็ไม่มี มีแต่กระดาษหรือใบลานที่จารไว้เพื่อกันลืมเท่านั้นล่ะครับ ...แล้วก็กิเลสกับตัณหาเกิดขึ้นเพราะคนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้หรือมีไม่ครบ กิเลสตัณหามันก็เบาบางลง ว่างๆเขียนมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม

พอดีมีโอกาสได้เคยบวชเรียน ได้เรียนภาษาบาลีอยู่ 2 ปี ครับ เลยพอได้พื้นฐานด้านภาษามานิดหน่อย ส่วนพระไตรปิฏกก็พอคุ้นเคยบ้าง เปิดอ่านหยิบอ่านพอสมควรครับ พื้นฐานทางพระธรรมคำสอนก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับผม.

เห็นบ่นว่าไม่มีเรื่องคุย ชวนเฮียสมบุญฯคุยกับเรื่องเหล่านี้และเรื่องหนังนอกกระแสได้เลย  เพราะเฮียแกหาคนคุยเรื่องแบบนี้ยากอยู่
แวะเข้าคุยบ่อยนะ

ถ้าอย่างนั้น อยากจะขอรบกวนพี่สมบุญ ผู้กว้างขวางสักนิดหน่อยครับ  พี่สมบุญน่าจะอยู่ในแวดวงหนังสือเก่า หรืออะไรทำนองนั้น คือว่าผมสนใจหนังสือ "มิลินทปัญหา" ที่ตีพิมพ์ในสมัยราชการที่ 7 ในงานพระราชทานเพลิงศพของใครคนหนึ่ง (ที่พอๆจะจำได้ก็คือ แกน่าจะเป็นเจ้าของโรงพิมพ์) ผมพยายามหามาเป็นเจ้าของมาอย่างยาวนาน แต่หาไม่ได้สักที จะไปขโมยเอามาจากห้องสมุดของวัด (ที่เคยเจอเคยอ่าน) ก็ใช่ที่ แถมสภาพกระดาษก็ค่อนข้างเก่า จะเอาไปให้ร้านถ่ายจากต้นฉบับบ ทำเป็นอีกเล่มคงจะไม่ได้ ถ้ายังไงถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ก็ฝากพี่สมบุญช่วยๆ สอบถามเพื่อนฝูงในวงวรรณกรรมให้ด้วยครับผม ว่าพอจะหาซื้อหนังสือเก่าเล่มนี้ได้ที่ไหนบ้าง ยิงฟันยิ้ม ส่วนเรื่องหนังนอกกระแส ช่วงนี้ผมค่อนข้างไม่ได้ดูหนังเลยครับ แต่หนังที่ผมดูส่วนใหญ่ คงเอาไปคุยกับใครเค้าไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่ดีนั่นแหละครับ เพราะหนังที่ผมดู ผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง เป็นภาษาญี่ปุ่นบ้าง เยอรมันบ้าง อังกฤษบ้าง สวีเดน นอร์เวย์ ไปโน้น ดูสนุกดูเอาบรรยากาศ อาศัยจินตนาการล้วนๆ ไอ้จะไปคุยกับใคร ก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องครับ.  ร้องไห้


ขอบคุณครับ อย่าเรียกผมว่าผู้กว้างขวางเลยครับ ถ้าเรื่องหนังล่ะก็ ผม พอได้/พอตัว พอสมควรครับ ยิ้มกว้างๆ แต่ถ้าเป็นแวดวงหนังสือเก่าล่ะก็ผมยัง " สติปัญญาขาดแคลนอย่างแร้นแค้น " อยู่ครับ ยังต้องฝึกปรือเพลงกระบี่อีกแยะครับ ยิ้มกว้างๆ...หนังสือเล่มนี้ เดี๋ยวผมจะถามไปทางประธานฯ ครับ ว่าพอจะทราบแหล่งหรือไม่  สำหรับผมขอแนะนำว่า วันที่ 29 มีค. - 8 เมย.55 นี้ไปที่ศูนย์ฯสิริกิตต์ นะครับ(เดินทางสะดวกมากๆด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน)มีงานหนังสือแห่งชาติครับ เมื่อไปถึงขอให้ไปที่ชั้นบนนะครับจะเป็นร้านขายหนังสือเก่ามีอยู่ประมาณ 5 - 10 ร้าน ผมคิดว่าอาจจะมีก็ได้ครับ ผมเองจะไปพรุ่งนี้ช่วงบ่ายครับ.....หนังนอกกระแสที่ว่าดูเรื่องอะไรมาบ้างครับ ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 มีนาคม 2012 | 02:28:44 PM โดย Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า » บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 03:11:42 PM »


แต่ก่อนผมก็เป็นคอ เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างพอสมควรเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะวรรณคดี หรือ หนังสือตำรับตำรา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ มีกิเลสชนิดใหม่ๆให้สนใจมากมาย จนแทบหลงลืมความอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นไปเสียหมดสิ้นแล้วละครับ เหตุปัจจัยเปลี่ยน ความสนใจก็เปลี่ยน สงสัยคงต้องสร้างเหตุและปัจจัยที่หนุนนำขึ้นมาใหม่บ้างแล้วหละ (สักวัน หวังว่า).   ยิงฟันยิ้ม
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นของประธานฯ ดังนี้ครับ.....
กิเลสไม่มีใหม่ ในกาลไหนๆก็ไม่มีใหม่ เพราะมีบัญญัติเอาไว้ว่า กิเลสมี หนึ่งพันห้าร้อยอย่าง ตัณหามี 108 อย่าง แต่ที่คุณเข้าใจว่ามีกิเลสชนิดใหม่ๆนั้น น่าจะเป็นเหตุจูงใจพิเศษเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับกิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้วครับ ถ้าสนใจลองเสาะหามาอ่านนะครับ...ขอบคุณครับ ยิ้ม

ขอบคุณครับผม ยิ้มเท่ห์ คำว่า "กิเลส" ของผม ใช้มุ่งหมายไปในเชิงโดยอรรถ มากกว่าโดยพยัญชนะ เป็นไปในเชิงสำนวนมากกว่าจะมุ่งหมายที่ตัวศัพท์ครับผม  ยิงฟันยิ้ม น่าจะเหมือนที่พี่สมบุญพูดนั่นแหละครับ "กิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎก" ถ้าเอาแบบดื้อๆก็ต้องบอกว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีกิเลสและตัณหา มีแต่อักขระที่จารึกธรรมคำสอน (เป็นรูป แค่รูปเฉยๆไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือตัณหา) กิเลสและตัณหานั้น หามีอยู่ในพระไตรปิฏกไม่ แต่มีต่อเมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกันกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แบบผิดๆ อะไรทำนองนั้นครับ หวังว่าจะพูดถูกนะครับ ยิงฟันยิ้ม
ประธานฯ ได้เสวนา มาดังนี้ครับ.-
ขอคารวะท่านหนึ่งจอก เพราะว่าท่านเป็นคนแก่กล้าทางอักษรศาสตร์และทางพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วย ที่ท่านเสวนามานั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีกิเลสตัณหาอย่างที่ท่านว่า เพราะมีแต่ตัวอักษรจารึกไว้เท่านั้น แต่ตัวอักษรคือ เครื่องหมายแทนคำพูดเปรียบประดุจเหมือนเทปอัดเสียงเพราะสมัยพุทธกาลไม่มีเครื่องบันทึกเสียงและเอดิสันยังไม่เกิด ตัวอักษรก็คือช่องทางสื่อสารที่มนุษย์ใช้แทนคำพูดเท่านั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย แล้วก็พระไตรปิฎกก็ไม่มี มีแต่กระดาษหรือใบลานที่จารไว้เพื่อกันลืมเท่านั้นล่ะครับ ...แล้วก็กิเลสกับตัณหาเกิดขึ้นเพราะคนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้หรือมีไม่ครบ กิเลสตัณหามันก็เบาบางลง ว่างๆเขียนมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม

พอดีมีโอกาสได้เคยบวชเรียน ได้เรียนภาษาบาลีอยู่ 2 ปี ครับ เลยพอได้พื้นฐานด้านภาษามานิดหน่อย ส่วนพระไตรปิฏกก็พอคุ้นเคยบ้าง เปิดอ่านหยิบอ่านพอสมควรครับ พื้นฐานทางพระธรรมคำสอนก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับผม.

เห็นบ่นว่าไม่มีเรื่องคุย ชวนเฮียสมบุญฯคุยกับเรื่องเหล่านี้และเรื่องหนังนอกกระแสได้เลย  เพราะเฮียแกหาคนคุยเรื่องแบบนี้ยากอยู่
แวะเข้าคุยบ่อยนะ

ถ้าอย่างนั้น อยากจะขอรบกวนพี่สมบุญ ผู้กว้างขวางสักนิดหน่อยครับ  พี่สมบุญน่าจะอยู่ในแวดวงหนังสือเก่า หรืออะไรทำนองนั้น คือว่าผมสนใจหนังสือ "มิลินทปัญหา" ที่ตีพิมพ์ในสมัยราชการที่ 7 ในงานพระราชทานเพลิงศพของใครคนหนึ่ง (ที่พอๆจะจำได้ก็คือ แกน่าจะเป็นเจ้าของโรงพิมพ์) ผมพยายามหามาเป็นเจ้าของมาอย่างยาวนาน แต่หาไม่ได้สักที จะไปขโมยเอามาจากห้องสมุดของวัด (ที่เคยเจอเคยอ่าน) ก็ใช่ที่ แถมสภาพกระดาษก็ค่อนข้างเก่า จะเอาไปให้ร้านถ่ายจากต้นฉบับบ ทำเป็นอีกเล่มคงจะไม่ได้ ถ้ายังไงถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ก็ฝากพี่สมบุญช่วยๆ สอบถามเพื่อนฝูงในวงวรรณกรรมให้ด้วยครับผม ว่าพอจะหาซื้อหนังสือเก่าเล่มนี้ได้ที่ไหนบ้าง ยิงฟันยิ้ม ส่วนเรื่องหนังนอกกระแส ช่วงนี้ผมค่อนข้างไม่ได้ดูหนังเลยครับ แต่หนังที่ผมดูส่วนใหญ่ คงเอาไปคุยกับใครเค้าไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่ดีนั่นแหละครับ เพราะหนังที่ผมดู ผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง เป็นภาษาญี่ปุ่นบ้าง เยอรมันบ้าง อังกฤษบ้าง สวีเดน นอร์เวย์ ไปโน้น ดูสนุกดูเอาบรรยากาศ อาศัยจินตนาการล้วนๆ ไอ้จะไปคุยกับใคร ก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องครับ.  ร้องไห้


ขอบคุณครับ อย่าเรียกผมว่าผู้กว้างขวางเลยครับ ถ้าเรื่องหนังล่ะก็ ผม พอได้/พอตัว พอสมควรครับ ยิ้มกว้างๆ แต่ถ้าเป็นแวดวงหนังสือเก่าล่ะก็ผมยัง " สติปัญญาขาดแคลนอย่างแร้นแค้น " อยู่ครับ ยังต้องฝึกปรือเพลงกระบี่อีกแยะครับ ยิ้มกว้างๆ...หนังสือเล่มนี้ เดี๋ยวผมจะถามไปทางประธานฯ ครับ ว่าพอจะทราบแหล่งหรือไม่  สำหรับผมขอแนะนำว่า วันที่ 29 มีค. - 8 เมย.55 นี้ไปที่ศูนย์ฯสิริกิตต์ นะครับ(เดินทางสะดวกมากๆด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน)มีงานหนังสือแห่งชาติครับ เมื่อไปถึงขอให้ไปที่ชั้นบนนะครับจะเป็นร้านขายหนังสือเก่ามีอยู่ประมาณ 5 - 10 ร้าน ผมคิดว่าอาจจะมีก็ได้ครับ ผมเองจะไปพรุ่งนี้ช่วงบ่ายครับ.....หนังนอกกระแสที่ว่าดูเรื่องอะไรมาบ้างครับ ยิ้ม

ครับ ประธานฯ แจ้งมาว่า ขอแนะนำให้ไปที่ร้านหนังสือเก่าที่บริเวณอยู่ในตึกแถวริมคลองหลอด(จำชื่อร้านไม่ได้) ให้ตั้งต้นที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์เดินเลียบบนฟุตบาทไปทางซ้ายประมาณ 2 - 3 คูหา + ร้านหนังสือเก่าที่สวนจตุจักร + ร้านหนังสือเก่าที่เวิ้งนครเขษม + ร้านหนังสือเก่าที่วังบูรพาหลังห้างเมอรี่คิงส์เดิม ครับ ....หรือในความเห็นของผมขอเพิ่มเติมว่า ลองไปที่หอสมุดของวัดใหญ่ๆ เช่น วัดบวร ฯลฯ หรือไปที่ หอสมุดแห่งชาติ นะครับ สองแห่งนี้คงต้องเสียเวลานั่งอ่านที่นั่น ถ้าหากว่ามี ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 03:21:18 PM »

ถ้าอยากคุยหรืออ่านเรื่องหนังแบบที่คุยว่าลองเข้าไปดูที่ http://homecinema2010.blogspot.com เฮียสมบุญฯแวะเข้าไปคุยบ่อย
เจ้าของบ้านเป็นเพื่อนผมเองครับ
+1 ครับ ลองเข้าไปอ่านไปคุยกันนะครับ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 03:29:23 PM »


แต่ก่อนผมก็เป็นคอ เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างพอสมควรเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะวรรณคดี หรือ หนังสือตำรับตำรา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ มีกิเลสชนิดใหม่ๆให้สนใจมากมาย จนแทบหลงลืมความอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นไปเสียหมดสิ้นแล้วละครับ เหตุปัจจัยเปลี่ยน ความสนใจก็เปลี่ยน สงสัยคงต้องสร้างเหตุและปัจจัยที่หนุนนำขึ้นมาใหม่บ้างแล้วหละ (สักวัน หวังว่า).   ยิงฟันยิ้ม
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นของประธานฯ ดังนี้ครับ.....
กิเลสไม่มีใหม่ ในกาลไหนๆก็ไม่มีใหม่ เพราะมีบัญญัติเอาไว้ว่า กิเลสมี หนึ่งพันห้าร้อยอย่าง ตัณหามี 108 อย่าง แต่ที่คุณเข้าใจว่ามีกิเลสชนิดใหม่ๆนั้น น่าจะเป็นเหตุจูงใจพิเศษเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับกิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้วครับ ถ้าสนใจลองเสาะหามาอ่านนะครับ...ขอบคุณครับ ยิ้ม

ขอบคุณครับผม ยิ้มเท่ห์ คำว่า "กิเลส" ของผม ใช้มุ่งหมายไปในเชิงโดยอรรถ มากกว่าโดยพยัญชนะ เป็นไปในเชิงสำนวนมากกว่าจะมุ่งหมายที่ตัวศัพท์ครับผม  ยิงฟันยิ้ม น่าจะเหมือนที่พี่สมบุญพูดนั่นแหละครับ "กิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎก" ถ้าเอาแบบดื้อๆก็ต้องบอกว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีกิเลสและตัณหา มีแต่อักขระที่จารึกธรรมคำสอน (เป็นรูป แค่รูปเฉยๆไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือตัณหา) กิเลสและตัณหานั้น หามีอยู่ในพระไตรปิฏกไม่ แต่มีต่อเมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกันกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แบบผิดๆ อะไรทำนองนั้นครับ หวังว่าจะพูดถูกนะครับ ยิงฟันยิ้ม
ประธานฯ ได้เสวนา มาดังนี้ครับ.-
ขอคารวะท่านหนึ่งจอก เพราะว่าท่านเป็นคนแก่กล้าทางอักษรศาสตร์และทางพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วย ที่ท่านเสวนามานั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีกิเลสตัณหาอย่างที่ท่านว่า เพราะมีแต่ตัวอักษรจารึกไว้เท่านั้น แต่ตัวอักษรคือ เครื่องหมายแทนคำพูดเปรียบประดุจเหมือนเทปอัดเสียงเพราะสมัยพุทธกาลไม่มีเครื่องบันทึกเสียงและเอดิสันยังไม่เกิด ตัวอักษรก็คือช่องทางสื่อสารที่มนุษย์ใช้แทนคำพูดเท่านั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย แล้วก็พระไตรปิฎกก็ไม่มี มีแต่กระดาษหรือใบลานที่จารไว้เพื่อกันลืมเท่านั้นล่ะครับ ...แล้วก็กิเลสกับตัณหาเกิดขึ้นเพราะคนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้หรือมีไม่ครบ กิเลสตัณหามันก็เบาบางลง ว่างๆเขียนมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม

พอดีมีโอกาสได้เคยบวชเรียน ได้เรียนภาษาบาลีอยู่ 2 ปี ครับ เลยพอได้พื้นฐานด้านภาษามานิดหน่อย ส่วนพระไตรปิฏกก็พอคุ้นเคยบ้าง เปิดอ่านหยิบอ่านพอสมควรครับ พื้นฐานทางพระธรรมคำสอนก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับผม.

เห็นบ่นว่าไม่มีเรื่องคุย ชวนเฮียสมบุญฯคุยกับเรื่องเหล่านี้และเรื่องหนังนอกกระแสได้เลย  เพราะเฮียแกหาคนคุยเรื่องแบบนี้ยากอยู่
แวะเข้าคุยบ่อยนะ

ถ้าอย่างนั้น อยากจะขอรบกวนพี่สมบุญ ผู้กว้างขวางสักนิดหน่อยครับ  พี่สมบุญน่าจะอยู่ในแวดวงหนังสือเก่า หรืออะไรทำนองนั้น คือว่าผมสนใจหนังสือ "มิลินทปัญหา" ที่ตีพิมพ์ในสมัยราชการที่ 7 ในงานพระราชทานเพลิงศพของใครคนหนึ่ง (ที่พอๆจะจำได้ก็คือ แกน่าจะเป็นเจ้าของโรงพิมพ์) ผมพยายามหามาเป็นเจ้าของมาอย่างยาวนาน แต่หาไม่ได้สักที จะไปขโมยเอามาจากห้องสมุดของวัด (ที่เคยเจอเคยอ่าน) ก็ใช่ที่ แถมสภาพกระดาษก็ค่อนข้างเก่า จะเอาไปให้ร้านถ่ายจากต้นฉบับบ ทำเป็นอีกเล่มคงจะไม่ได้ ถ้ายังไงถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ก็ฝากพี่สมบุญช่วยๆ สอบถามเพื่อนฝูงในวงวรรณกรรมให้ด้วยครับผม ว่าพอจะหาซื้อหนังสือเก่าเล่มนี้ได้ที่ไหนบ้าง ยิงฟันยิ้ม ส่วนเรื่องหนังนอกกระแส ช่วงนี้ผมค่อนข้างไม่ได้ดูหนังเลยครับ แต่หนังที่ผมดูส่วนใหญ่ คงเอาไปคุยกับใครเค้าไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่ดีนั่นแหละครับ เพราะหนังที่ผมดู ผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง เป็นภาษาญี่ปุ่นบ้าง เยอรมันบ้าง อังกฤษบ้าง สวีเดน นอร์เวย์ ไปโน้น ดูสนุกดูเอาบรรยากาศ อาศัยจินตนาการล้วนๆ ไอ้จะไปคุยกับใคร ก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องครับ.  ร้องไห้


ขอบคุณครับ อย่าเรียกผมว่าผู้กว้างขวางเลยครับ ถ้าเรื่องหนังล่ะก็ ผม พอได้/พอตัว พอสมควรครับ ยิ้มกว้างๆ แต่ถ้าเป็นแวดวงหนังสือเก่าล่ะก็ผมยัง " สติปัญญาขาดแคลนอย่างแร้นแค้น " อยู่ครับ ยังต้องฝึกปรือเพลงกระบี่อีกแยะครับ ยิ้มกว้างๆ...หนังสือเล่มนี้ เดี๋ยวผมจะถามไปทางประธานฯ ครับ ว่าพอจะทราบแหล่งหรือไม่  สำหรับผมขอแนะนำว่า วันที่ 29 มีค. - 8 เมย.55 นี้ไปที่ศูนย์ฯสิริกิตต์ นะครับ(เดินทางสะดวกมากๆด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน)มีงานหนังสือแห่งชาติครับ เมื่อไปถึงขอให้ไปที่ชั้นบนนะครับจะเป็นร้านขายหนังสือเก่ามีอยู่ประมาณ 5 - 10 ร้าน ผมคิดว่าอาจจะมีก็ได้ครับ ผมเองจะไปพรุ่งนี้ช่วงบ่ายครับ.....หนังนอกกระแสที่ว่าดูเรื่องอะไรมาบ้างครับ ยิ้ม


อย่างที่บอกไปครับ ว่าผมไม่ค่อยได้ดูหนังมากนัก ดูแค่บางช่วง ช่วงไหนสนใจเป็นพิเศษก็หามาดูหลายๆเรื่องติดต่อกัน แต่ถ้าช่วงไหนไม่ได้สนใจก็จะปล่อยห่างหายไปเลย 4 เดือน 5 เดือน 6 เดือนไปโน้นเลยครับ หนังที่ผมหามาดูส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าครับ ยกตัวอย่างหนังที่ผมชอบ ซึ่งดูนานมากแล้ว เช่น Beste Zeit , Rakugo Musume , Yukinojo Henge ,The Burmese Harp ,Fancy Dance, 10 Questions for the Dalai Lama , The Samurai Trilogy เป็นต้น พูดง่ายๆก็คือ ผมเ้น้นหาดูหนังญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ทั้งเก่าทั้งใหม่ ถ้าดูรูปปกหรือตัวอย่าง มีรูปแบบที่พอจะดูได้ ไม่รู้สึกเกลียด ก็จะดูครับ ส่วนหนังต่างประเทศอื่นๆ แล้วแต่ว่าไปสะดุดเจอเรื่องใดครับ ถ้าสนใจขึ้นมาถึงจะหามาดูครับ.
ดูงาน/ชอบงานของ คูโรซาว่า + โอสุ ด้วยหรือไม่ครับ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 04:56:38 PM »

ถ้าอยากคุยหรืออ่านเรื่องหนังแบบที่คุยว่าลองเข้าไปดูที่ http://homecinema2010.blogspot.com เฮียสมบุญฯแวะเข้าไปคุยบ่อย
เจ้าของบ้านเป็นเพื่อนผมเองครับ

ขอบคุณครับผม เหมาะสำหรับคอหนังมากทีเดียว แค่เจอลิงค์ของ Criterion ก็ชอบแล้วครับ
ปล. ผมเกลียดมากเลย ปกแผ่นบลูเรย์แบบนี้ เมื่อตอนที่ผมไปซื้อแผ่นหนัง ซื้อเก็บ เห็นหนังที่ชอบปกสวยก็ซื้อเก็บ เช่นเรื่อง Seven years in tibet ,House of Flying Daggers เป็นต้น แต่มีหนังที่ชอบเรื่องหนึ่งเป็นบลูเรย์ แต่ปกฟ้าๆแบบนี้แหละครับ ผมเกลียดมากเลย ซื้อไม่ลงจริงๆ ออกแบบให้สวยๆกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร.



หรือถ้าเป็นบลูเรย์ ก็ติดบอกแบบของ Criterion ยังงี้ยังได้ สวยกว่าแยะ



โซนี่คงคิดว่าการออกแบบแพ็คเกจกล่องใส่แผ่นบูลเรย์ให้ผู้บริโภคต้องเลือกข้างระหว่างกล่องสีน้ำเงินคือฟอร์แม็ตบูลเรย์
และกล่องสีแดงคือฟอร์แม็ต HD-DVD เหมือนกับเลือกเชียร์มวยมุมแดงหรือน้ำเงิน กล่องบูลเรย์ที่ใช้กันอยู่นั้นเป็นกล่องมาตรฐาน
ของฟอร์แม็ตบูลเรย์สีน้ำเงิน  แต่ก็มีแพ็คเกจกล่องอื่นๆด้วยแล้วแต่ค่ายหนังจะทำกันออกมาเพื่อดึงดูดเงินบริโภคพวกกิ๊ฟเซ็ทแบบดีวีดี
หรือแพ็คเกจสวยๆก็มีแยะไป กล่องโลหะสวยๆหรือกล่องกระดาษแข็งมีให้เลือกซื้อเหมือนเช่นยุดดีวีดี  เพียงแต่ว่าเราอาจจะยังไม่คุ้น
กับแพ็คเกจรุ่นมาตรฐานของกล่องบูลเรย์
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 09:37:32 PM »

ถ้าอยากคุยหรืออ่านเรื่องหนังแบบที่คุยว่าลองเข้าไปดูที่ http://homecinema2010.blogspot.com เฮียสมบุญฯแวะเข้าไปคุยบ่อย
เจ้าของบ้านเป็นเพื่อนผมเองครับ

ขอบคุณครับผม เหมาะสำหรับคอหนังมากทีเดียว แค่เจอลิงค์ของ Criterion ก็ชอบแล้วครับ
ปล. ผมเกลียดมากเลย ปกแผ่นบลูเรย์แบบนี้ เมื่อตอนที่ผมไปซื้อแผ่นหนัง ซื้อเก็บ เห็นหนังที่ชอบปกสวยก็ซื้อเก็บ เช่นเรื่อง Seven years in tibet ,House of Flying Daggers เป็นต้น แต่มีหนังที่ชอบเรื่องหนึ่งเป็นบลูเรย์ แต่ปกฟ้าๆแบบนี้แหละครับ ผมเกลียดมากเลย ซื้อไม่ลงจริงๆ ออกแบบให้สวยๆกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร.



หรือถ้าเป็นบลูเรย์ ก็ติดบอกแบบของ Criterion ยังงี้ยังได้ สวยกว่าแยะ



โซนี่คงคิดว่าการออกแบบแพ็คเกจกล่องใส่แผ่นบูลเรย์ให้ผู้บริโภคต้องเลือกข้างระหว่างกล่องสีน้ำเงินคือฟอร์แม็ตบูลเรย์
และกล่องสีแดงคือฟอร์แม็ต HD-DVD เหมือนกับเลือกเชียร์มวยมุมแดงหรือน้ำเงิน กล่องบูลเรย์ที่ใช้กันอยู่นั้นเป็นกล่องมาตรฐาน
ของฟอร์แม็ตบูลเรย์สีน้ำเงิน  แต่ก็มีแพ็คเกจกล่องอื่นๆด้วยแล้วแต่ค่ายหนังจะทำกันออกมาเพื่อดึงดูดเงินบริโภคพวกกิ๊ฟเซ็ทแบบดีวีดี
หรือแพ็คเกจสวยๆก็มีแยะไป กล่องโลหะสวยๆหรือกล่องกระดาษแข็งมีให้เลือกซื้อเหมือนเช่นยุดดีวีดี  เพียงแต่ว่าเราอาจจะยังไม่คุ้น
กับแพ็คเกจรุ่นมาตรฐานของกล่องบูลเรย์
+1 ครับ ก็นับเป็นความชอบเฉพาะตัวอย่างหนึ่งเช่นกันครับ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 09:43:52 PM »


แต่ก่อนผมก็เป็นคอ เรื่องประวัติศาสตร์อยู่บ้างพอสมควรเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะวรรณคดี หรือ หนังสือตำรับตำรา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ มีกิเลสชนิดใหม่ๆให้สนใจมากมาย จนแทบหลงลืมความอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นไปเสียหมดสิ้นแล้วละครับ เหตุปัจจัยเปลี่ยน ความสนใจก็เปลี่ยน สงสัยคงต้องสร้างเหตุและปัจจัยที่หนุนนำขึ้นมาใหม่บ้างแล้วหละ (สักวัน หวังว่า).   ยิงฟันยิ้ม
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นของประธานฯ ดังนี้ครับ.....
กิเลสไม่มีใหม่ ในกาลไหนๆก็ไม่มีใหม่ เพราะมีบัญญัติเอาไว้ว่า กิเลสมี หนึ่งพันห้าร้อยอย่าง ตัณหามี 108 อย่าง แต่ที่คุณเข้าใจว่ามีกิเลสชนิดใหม่ๆนั้น น่าจะเป็นเหตุจูงใจพิเศษเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับกิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้วครับ ถ้าสนใจลองเสาะหามาอ่านนะครับ...ขอบคุณครับ ยิ้ม

ขอบคุณครับผม ยิ้มเท่ห์ คำว่า "กิเลส" ของผม ใช้มุ่งหมายไปในเชิงโดยอรรถ มากกว่าโดยพยัญชนะ เป็นไปในเชิงสำนวนมากกว่าจะมุ่งหมายที่ตัวศัพท์ครับผม  ยิงฟันยิ้ม น่าจะเหมือนที่พี่สมบุญพูดนั่นแหละครับ "กิเลสและตัณหานั้นมีอยู่ในพระไตรปิฎก" ถ้าเอาแบบดื้อๆก็ต้องบอกว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีกิเลสและตัณหา มีแต่อักขระที่จารึกธรรมคำสอน (เป็นรูป แค่รูปเฉยๆไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือตัณหา) กิเลสและตัณหานั้น หามีอยู่ในพระไตรปิฏกไม่ แต่มีต่อเมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกันกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แบบผิดๆ อะไรทำนองนั้นครับ หวังว่าจะพูดถูกนะครับ ยิงฟันยิ้ม
ประธานฯ ได้เสวนา มาดังนี้ครับ.-
ขอคารวะท่านหนึ่งจอก เพราะว่าท่านเป็นคนแก่กล้าทางอักษรศาสตร์และทางพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วย ที่ท่านเสวนามานั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะว่าในพระไตรปิฎกนั้นไม่มีกิเลสตัณหาอย่างที่ท่านว่า เพราะมีแต่ตัวอักษรจารึกไว้เท่านั้น แต่ตัวอักษรคือ เครื่องหมายแทนคำพูดเปรียบประดุจเหมือนเทปอัดเสียงเพราะสมัยพุทธกาลไม่มีเครื่องบันทึกเสียงและเอดิสันยังไม่เกิด ตัวอักษรก็คือช่องทางสื่อสารที่มนุษย์ใช้แทนคำพูดเท่านั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย แล้วก็พระไตรปิฎกก็ไม่มี มีแต่กระดาษหรือใบลานที่จารไว้เพื่อกันลืมเท่านั้นล่ะครับ ...แล้วก็กิเลสกับตัณหาเกิดขึ้นเพราะคนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้หรือมีไม่ครบ กิเลสตัณหามันก็เบาบางลง ว่างๆเขียนมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม

พอดีมีโอกาสได้เคยบวชเรียน ได้เรียนภาษาบาลีอยู่ 2 ปี ครับ เลยพอได้พื้นฐานด้านภาษามานิดหน่อย ส่วนพระไตรปิฏกก็พอคุ้นเคยบ้าง เปิดอ่านหยิบอ่านพอสมควรครับ พื้นฐานทางพระธรรมคำสอนก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับผม.

เห็นบ่นว่าไม่มีเรื่องคุย ชวนเฮียสมบุญฯคุยกับเรื่องเหล่านี้และเรื่องหนังนอกกระแสได้เลย  เพราะเฮียแกหาคนคุยเรื่องแบบนี้ยากอยู่
แวะเข้าคุยบ่อยนะ

ถ้าอย่างนั้น อยากจะขอรบกวนพี่สมบุญ ผู้กว้างขวางสักนิดหน่อยครับ  พี่สมบุญน่าจะอยู่ในแวดวงหนังสือเก่า หรืออะไรทำนองนั้น คือว่าผมสนใจหนังสือ "มิลินทปัญหา" ที่ตีพิมพ์ในสมัยราชการที่ 7 ในงานพระราชทานเพลิงศพของใครคนหนึ่ง (ที่พอๆจะจำได้ก็คือ แกน่าจะเป็นเจ้าของโรงพิมพ์) ผมพยายามหามาเป็นเจ้าของมาอย่างยาวนาน แต่หาไม่ได้สักที จะไปขโมยเอามาจากห้องสมุดของวัด (ที่เคยเจอเคยอ่าน) ก็ใช่ที่ แถมสภาพกระดาษก็ค่อนข้างเก่า จะเอาไปให้ร้านถ่ายจากต้นฉบับบ ทำเป็นอีกเล่มคงจะไม่ได้ ถ้ายังไงถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ก็ฝากพี่สมบุญช่วยๆ สอบถามเพื่อนฝูงในวงวรรณกรรมให้ด้วยครับผม ว่าพอจะหาซื้อหนังสือเก่าเล่มนี้ได้ที่ไหนบ้าง ยิงฟันยิ้ม ส่วนเรื่องหนังนอกกระแส ช่วงนี้ผมค่อนข้างไม่ได้ดูหนังเลยครับ แต่หนังที่ผมดูส่วนใหญ่ คงเอาไปคุยกับใครเค้าไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่ดีนั่นแหละครับ เพราะหนังที่ผมดู ผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง เป็นภาษาญี่ปุ่นบ้าง เยอรมันบ้าง อังกฤษบ้าง สวีเดน นอร์เวย์ ไปโน้น ดูสนุกดูเอาบรรยากาศ อาศัยจินตนาการล้วนๆ ไอ้จะไปคุยกับใคร ก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องครับ.  ร้องไห้


ขอบคุณครับ อย่าเรียกผมว่าผู้กว้างขวางเลยครับ ถ้าเรื่องหนังล่ะก็ ผม พอได้/พอตัว พอสมควรครับ ยิ้มกว้างๆ แต่ถ้าเป็นแวดวงหนังสือเก่าล่ะก็ผมยัง " สติปัญญาขาดแคลนอย่างแร้นแค้น " อยู่ครับ ยังต้องฝึกปรือเพลงกระบี่อีกแยะครับ ยิ้มกว้างๆ...หนังสือเล่มนี้ เดี๋ยวผมจะถามไปทางประธานฯ ครับ ว่าพอจะทราบแหล่งหรือไม่  สำหรับผมขอแนะนำว่า วันที่ 29 มีค. - 8 เมย.55 นี้ไปที่ศูนย์ฯสิริกิตต์ นะครับ(เดินทางสะดวกมากๆด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน)มีงานหนังสือแห่งชาติครับ เมื่อไปถึงขอให้ไปที่ชั้นบนนะครับจะเป็นร้านขายหนังสือเก่ามีอยู่ประมาณ 5 - 10 ร้าน ผมคิดว่าอาจจะมีก็ได้ครับ ผมเองจะไปพรุ่งนี้ช่วงบ่ายครับ.....หนังนอกกระแสที่ว่าดูเรื่องอะไรมาบ้างครับ ยิ้ม


อย่างที่บอกไปครับ ว่าผมไม่ค่อยได้ดูหนังมากนัก ดูแค่บางช่วง ช่วงไหนสนใจเป็นพิเศษก็หามาดูหลายๆเรื่องติดต่อกัน แต่ถ้าช่วงไหนไม่ได้สนใจก็จะปล่อยห่างหายไปเลย 4 เดือน 5 เดือน 6 เดือนไปโน้นเลยครับ หนังที่ผมหามาดูส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าครับ ยกตัวอย่างหนังที่ผมชอบ ซึ่งดูนานมากแล้ว เช่น Beste Zeit , Rakugo Musume , Yukinojo Henge ,The Burmese Harp ,Fancy Dance, 10 Questions for the Dalai Lama , The Samurai Trilogy เป็นต้น พูดง่ายๆก็คือ ผมเ้น้นหาดูหนังญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ทั้งเก่าทั้งใหม่ ถ้าดูรูปปกหรือตัวอย่าง มีรูปแบบที่พอจะดูได้ ไม่รู้สึกเกลียด ก็จะดูครับ ส่วนหนังต่างประเทศอื่นๆ แล้วแต่ว่าไปสะดุดเจอเรื่องใดครับ ถ้าสนใจขึ้นมาถึงจะหามาดูครับ.
ดูงาน/ชอบงานของ คูโรซาว่า + โอสุ ด้วยหรือไม่ครับ ยิ้ม

Akira Kurosawa ต้องบอกว่าเป็นแฟนผู้กำกับคนนี้เลยครับ (ดาราชอบเป็นพิเศษก็ต้อง Toshiro Mifune) ชอบหลายเรื่องครับ เช่น Yojimbo , Seven Samurai, Dreams เป็นต้น ส่วน Yasujiro Ozu ไม่ีคอยชอบสักเท่าไหร่ครับ การดำเนินเรื่องของหนังดูนิ่งๆแปลกๆ ไม่ค่อยตื่นเต้นหรือมีสีสรรมากนัก เรียบร้อยเรียบง่ายแปลกๆ ที่ดูและพอจะจำได้ก็น่าจะมีเรื่อง Equinox Flower กับเรื่อง Floating Weeds เท่านั้นครับ.
+1 ครับ งานของทั้งสองท่านนี้ผมเน้นเก็บเป็นคอลเล็คชั่นเลยครับ...เราสามารถเห็นความเป็นมนุษย์แท้ๆได้จากงานของทั้งสองท่านนี้ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 28 มีนาคม 2012 | 11:00:07 PM »

เห็นไหมว่า "เรื่องคุยย่อมมีเสมอหากได้มิตรที่รู้ใจ" ผมเข้าใจที่บ่นว่าไม่มีเรื่องคุยเพราะในเว็บเรามีกระทู้กับเรื่องรา่วนับร้อยนับพันกระทู้
คงต้องมีบ้างที่มีเรื่องเป็น "คอเดียวเดียวกัน" ลองๆหากระทู้อื่นๆดูบ้างน่าจะมีเรื่องราวอีกมากมายที่มีคนอยากคุยด้วย
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 08:57:15 AM »

เห็นไหมว่า "เรื่องคุยย่อมมีเสมอหากได้มิตรที่รู้ใจ" ผมเข้าใจที่บ่นว่าไม่มีเรื่องคุยเพราะในเว็บเรามีกระทู้กับเรื่องรา่วนับร้อยนับพันกระทู้
คงต้องมีบ้างที่มีเรื่องเป็น "คอเดียวเดียวกัน" ลองๆหากระทู้อื่นๆดูบ้างน่าจะมีเรื่องราวอีกมากมายที่มีคนอยากคุยด้วย
+1 ครับ ....สุรารสเลิศ เช่น เรมี่ มาร์แตง/ไวน์ขวดละ 3 แสน แบบ เสธฯ...ก็มิมีค่าอันใดเลย/เสพไม่รื่นรมย์  หากผู้ร่วมวงเสพมิใชุ่้ ผู้รู้ใจ/รู้คอ/คอเดียวกัน ตรงกันข้ามสุราราคาแพงนั้นอาจทำให้ทะเลาะเบาะแว้งจนถึงขั้นห้ำหั่นกันก็อาจเป็นได้....(ความเห็นเฉพาะตัวนะครับ) ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sombunประธานชมรมคนรักหนังเก่า
Close To The Edge
******
กระทู้: 1409



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 09:02:49 AM »

ขออนุญาตนำเสนอ " คำคม วันละคำ " ครับ ยิ้ม

****การศึกษาประวัติศาสตร์ เรียนรู้งานกับตัวบุคคล เท่ากับเรียนที่จะรู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้ง********

****ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ถึงมีผู้รู้ทักท้วงการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ อย่ามีลักษณะ " สอนให้จำ ทำให้เชื่อ " ในที่สุดก็พากันเชื่ออย่างเชื่องๆ*****

- จากคอลัมน์ สยามประเทศไทย และ งานเป็นเงา ใน นสพ. มติชน ฉบับ 29 มีค.55
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012 | 11:42:15 AM »

คำคมวันนี้...ของผู้หญิงยุดไฮเทค

"ไม่หล่อ พอทน   แต่....จน...ห้ามจีบ!"

เอามาจาก Facebook ของสาวๆยุดแห่งวัฒนธรรมโลกออนไลน์
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 8
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery