Thai Progressive Rock Community

ความยาวของเพลง prog ก็มีอุปสรรคในยุคแผ่นเสียง บางครั้งเพลงยาวมาก เนื้อที่บันทึกเสียงในหน้าแรกไม่พอ ต้องยกไปต่อหน้าใหม่ อย่างเช่น เพลง Karn Evil 9 ต้องยกส่วน First Impression Part 2 ไปต่อที่หน้าสอง ทั้ง ๆ ที่เป็นเพลงเดียวกัน แต่พอมายุค CD เพลงนี้ถูกเชื่อมต่อกลายเป็นเพลงเดียวตลอด ไม่มีเว้นวรรค

อยากทราบว่ามีเพลง prog เพลงอื่นแบบนี้ที่เล่นไม่จบหน้าแรก (แผ่นเสียง) และต้องเล่นต่อหน้าถัดไปอีกบ้างไหมครับ?

ทราบมาก็มี Medecine Man ของ Barclay James Harvest ที่เหลือก็ดุกระทู้เก่านี่ได้เลยครับ

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=4205.0

เพลงในยุคก่อน บางทียาวมาก แต่ก็จบได้ในหน้าเดียว แต่กระทู้นี้มุ่งเน้นถามถึงเพลงยาวในยุคแผ่นเสียงที่จบไม่ได้ในหน้าแรก และต้องยกไปต่อในหน้าถัดไป -- ความหมายไม่เหมือนกันเสียทีเดียวครับ

อย่างเพลง Medicine Man ของ BJH ที่ยกตัวอย่างมานั้น เป็น live มีความยาวสิบนาทีกว่า บรรจุใน E.P. หน้าแรกไม่หมด ต้องตัดไปบันทึกต่อที่หน้าสอง คนฟังถ้าจะฟังเพลงนี้ต่อต้องกลับหน้าแผ่นเสียงเพื่อเล่นต่อ แต่พอมาถึงยุค CD เราจะได้ฟังเพลงนี้โดยสมบูรณ์ ไม่ถูกตัดต่อ จากชุด Endless Dreams ครับ

ผมกลับมองว่าสมัยก่อนเมื่อแผ่นเสียงเป็นฟอร์แมทหลักในการฟังเพลง นักดนตรีก็ถูกข้อจำกัดข้อนี้ในการทำเพลงเช่นกัน กล่าวคือต่อให้มีจินตนาการอยากทำเพลงยาวแค่ไหน แต่ก็จำใจต้องทำออกมาเป็นเป็นสองภาคแยกออกจากกันเพื่อที่จะสามารถนำมาใส่แ่ผ่นเสียงเพื่อการขายได้ ยกตัวอย่างง่ายๆก็อย่างพวกอัลบั้ม ambient ทั้งหลายของ Brian Eno หรือไม่ก็ Tubular Bells, Hergest Rigdge, Ommadawn เป็นต้น เวลาฟังเราจึงได้ฟังเป็น part 1 กับ part 2 แยกกันเสมอ ไม่มีการ fade out, fade it เพราะมันฟังแล้วขัดๆหู ศิลปินส่วนจึงเลือกที่จะทำให้เป็นสองพาร์ทแยกขาดออกจากกันไปเลย

The Swan Is A Murderer Part I & II - Cherry Five
Amarok - Mike Oldfield (เล่นยาวเหยียดทั้งเพลง ถ้าฟัง CD จะไม่รู้สึกว่าถูกตัด แต่ถ้าใครมี LP เพลงนี้โดนตัดเป็นสองท่อนแน่นอน)
The Dream Nebula Part I & II - Nektar

และผมสงสัย Thick As A Brick ว่ามันคงจะกินความยาวต่อเนื่อง 2 หน้าแผ่นเสียง แต่ถูกตัดเป็นหน้า A & B เพราะมีการค่อย ๆ fade เสียงท้ายแผ่นไวนิลหน้า A และค่อย ๆ ดังขึ้นมาอีกเมื่อเริ่มหน้า B

Grobschnitt - Solar Music (Live) เล่นสดต่อเนื่องประมาณ 55 นาที แผ่นเสียงต้องพลิกไปอีกหน้าหนึ่งเพื่อฟังต่อให้จบ ส่วนซีดีผมคาดว่าคงมีการตัดต่อหรือ edit ให้กลมกลืนดังเช่นที่เล่นในโชว์ครับ

(http://www.vintageprog.com/grob5.jpg)

Grobschnitt - Ballermann เพลง Solar Music Part 1,2 ในแผ่นที่ 2 เข้าองค์ประกอบหรือมั้ยครับ

ความยาวของสติวดิโอเวอร์ชั่น Part 1 และ 2 รวมกัน ประมาณ 33 นาที ผมว่าเข้าองค์ประกอบ และถ้าได้ดูวีดิโอแสดงสด Solar Music Live พวกเขาเล่นต่อเนื่องตลอด 55 นาที โดยไม่หยุดพักเลยครับ

Rubycon - Tangerine Dream
ทั้งอัลบั้มมีเพลงยาวประมาณ 40 นาทีต่อเนื่อง แต่ถูกแบ่งออกเป็น 2 parts ด้วยข้อจำกัดการทำ LP ในสมัยก่อนครับ

เครดิตภาพ www.vintageprog.com

(http://www.vintageprog.com/tang6.jpg)

Thick As A Brick และ A Passion Play ของ Jethro Tull ทั้งอัลบั้มมีเพลงอยู่เพลงเดียว ถ้าเป็นแผ่นเสียงต้องพลิกแผ่นไปที่หน้าสองเพื่อเล่นต่อ แต่ถ้าเป็นซีดีก็คงต่อเชื่อมเป็นเพลงเดียวกันได้สนิทมั้งครับ (ผมไม่มีอัลบั้มทั้งสองชุดนี้ในรูปแบบซีดี)

อันที่จริงอยากจะบอกว่าแผ่นเสียงมันก็ไม่ได้ดีทุกอย่างเสมอไปหรอกครับ ผมว่าดีอยู่เรื่องเดียว คือเสียงที่เป็นอนาล็อก ส่วนซีดีก็มีข้อดีของมัน คือ สามารถรวบเพลงในแผ่นเสียงทั้งสองหน้าให้อยู่ในซีดีแผ่นเดียวโดยมีความต่อเนื่องกลมกลืนได้ เพลงในแผ่นเสียงที่ยังเล่นไม่จบในหน้าแรกแล้วเราต้องลุกไปกลับแผ่นเพื่อเล่นในหน้าต่อไป (ด้วยความเสียอารมณ์) นั้น เมื่อเป็นซีดี วิศวกรเสียงเขาจะตัดต่อหรือ edit ให้เพลงนั้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจบเพลง ผมชอบข้อดีข้อนี้ของแผ่นซีดี จึงทำให้คิดได้ว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ละอย่างมีข้อดีก็ย่อมต้องมีข้อเสีย เป็นเรื่องธรรมดาครับ

รู้สึกว่าเพลง Quichotte (อ่านว่า "กีโฮเต้") Part 1 & 2 ในอัลบั้มแสดงสด Quichotte หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Pergamon (Live at the Palast Der Republik, GDR) ของ Tangerine Dream นั้นเล่นยาวต่อเนื่องเป็นเพลงเดียวประมาณ 46 นาที แต่พอถูกตัดเป็นแผ่น LP มันถูกแยกออกเป็น Part 1 & 2 พอดีมีแผ่นซีดีอยู่ด้วย แต่ยังหาไม่เจอ ถ้าพบแล้วจะลองฟังซีดีเทียบดู เพราะซีดีสามารถเชื่อมเพลงยาวที่เคยถูกแยกส่วนใน LP ให้ต่อเนื่องเป็นเนื้อเดียวกันได้ครับ

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/1295/cover_1232217102008.jpg)