ศิลปิน: Cirkus
ชื่ออัลบั้ม: One
รูปแบบสื่อ: แผ่นเสียง (LP)
หมายเลขแผ่น: TOCK 001 (5 Hours Back Record, Made in England, Distributed in Japan by Edison)
ปีที่แรกออก/ปีที่ย้อนออก: 1973/1986
ระดับการให้คะแนนส่วนตัว: ***1/2
ทราบมาว่า เดิมที อัลบั้มที่เป็นแผ่นเสียง original ของ Cirkus ที่ชื่อสั้น ๆ ว่า One นี้ หายากมาก เพราะพิมพ์แผ่นออกมาจำนวนน้อยมาก ราคาค่างวดในตลาดจึงน่าจะแพง (ตามข้อมูลที่ได้ทราบมา ทางวงได้ออกต้นทุนเองเพื่อผลิตอัลบั้มชุดนี้ออกมาจำนวน 1000 copies) เดชะบุญที่ Edison/Music Visions แห่งประเทศญี่ปุ่นได้สั่งให้บริษัทแผ่นเสียง 5 Hours Back ในประเทศอังกฤษพิมพ์อัลบั้มชุดนี้ขึ้นมาใหม่อีกรอบหนึ่ง และสั่งเข้ามาขายในประเทศญี่ปุ่นพร้อมแนบ Obi ภาษาญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้ ยังทราบมาอีกว่า Black Widow Records ยังได้ปั๊มแผ่นเสียงชุดนี้ออกจำหน่ายเมื่อปี 2008 เช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักฟังและนักสะสมที่จะหาผลงานชุดนี้มาฟังหรือเก็บไว้ในคอลเล็คชั่นส่วนตัวอีกต่อไป ถ้าไม่ติว่าเป็นแผ่น reissued แล้วล่ะก็ รับรองว่าแผ่นนี้ราคาไม่แพงและหาไม่ยากแน่นอน
ผลงานชุดนี้ไม่ใช่ symphonic prog ที่เล่นกันยาว ๆ เป็นสิบนาทีขึ้นไปเหมือนวงอื่น ๆ ที่เราคุ้นเคย แต่ดนตรีในชุดนี้เป็นเพลงสั้น ๆ รวมทั้งหมดเก้าเพลงด้วยกัน ซึ่งแต่ละเพลงมีความยาวราว 4-5 นาทีเท่านั้น หลายเพลงฟังแล้วติดหูง่าย เช่น You Are เพลงเปิดอัลบั้มซึ่งเร็ว กระชับ ทรงพลัง และค่อนไปทางสไตล์พ็อพร็อค, เพลงถัดไปคือ Seasons ซึ่งออกแนวร็อคบัลลาดหวาน ๆ ฟังแล้วอาจหลงใหลได้ไม่ยาก, เพลง April '73 มีดีกรีความเข้มข้นของฮาร์ดร็อคขึ้นมาอีกนิด พ่วงด้วยลีดกีตาร์สำเนียง Robert Fripp เจ้าสำนัก King Crimson, เพลงปิดท้ายหน้าแรก A Prayer ซึ่งดูจากชื่อเพลงก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกี่ยวข้องกับศาสนา แต่อันที่จริงมีเนื้อหาในทำนองว่าผู้ชายซึ่งมีหัวใจเป็นหญิงสวดอ้อนวอนแกมตัดพ้อต่อพระเจ้าว่าเหตุใดจึงสร้างตนให้เกิดมาเป็นชายแต่มีจิตใจเป็นหญิง เพลงนี้ช่วงแรกอาจจะฟังดูอืดอาดน่าเบื่อ แต่ช่วงท้ายเป็นการปิดเพลงนี้ด้วยสรรพสำเนียงโอฬารแบบออร์เคสตร้า
เมื่อพลิกแผ่นเสียงไปหน้าที่สอง โดยเริ่มด้วยเพลง Brotherly Love ซึ่งมาในสไตล์เดียวกับ You Are เป็นเพลงที่รวดเร็ว แน่นกระชับ มีการเปลี่ยนจังหวะเบาและหนักสลับกันไปมา และติดหูง่าย โดดเด่นด้วยเสียงร้องนำและเทคนิคการดีดสายกีตาร์เบสส์อันหนักหน่วง, Those Were The Days เพลงร็อคชั้นเยี่ยมสไตล์ต้นยุค 70 อีกเพลงหนึ่งซึ่งมีจังหวะกลองกระแทกกระทั้นและโชว์การโซโลคีย์บอร์ดในช่วงท้าย, Jenny เพลงร็อคบัลลาดนุ่มนวลอีกเพลงหนึ่งซึ่งมีเนื้อหาเป็นบทสนทนาโต้ตอบกันระหว่างหญิงผู้อยากมีบุตรกับเด็กชายคนหนึ่งในสวนสาธารณะ มีใจความว่า Jenny ชวนเด็กชายให้มานั่งเล่นด้วย แต่เด็กคนนั้นตอบว่าแม่สั่งไว้ไม่ให้พูดกับคนแปลกหน้า และขอตัวไปเล่นกับเพื่อน ๆ ที่กำลังเรียกให้กลับไปเล่นเกม จุดเด่นของเพลงนี้คือการเน้นอะคูสติคกีตาร์ที่ไพเราะ คลอด้วยเสียงเปียโนชวนเคลิบเคลิ้ม และเสียงร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ เสียงโต้ตอบระหว่างผู้หญิงกับเด็กมีการแยกช่องลำโพงซ้ายขวา และสุดท้าย Title Track คือชื่อเพลงปิดท้ายอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ Breach และ Ad Infinitum เสมือนเป็นบทสรุปของเพลงทุกเพลงที่ได้เล่นมาแล้วก่อนหน้านี้ โดดเด่นด้วยสำเนียงกีตาร์ที่คุ้นหูในสไตล์ของ Robert Fripp
ดนตรีในอัลบั้มส่วนใหญ่มาจากการประพันธ์ของ Stuart (Stu) McDade ซึ่งเป็นมือกลอง/percussions และร้องประสานเสียง ส่วนที่รองลงมาก็เป็นผลงานของ Derek G. Miller มือคีย์บอร์ด นอกนั้นก็เป็นผลงานจากการประพันธ์ร่วมกันกับคนอื่นบ้าง
โดยรวมแล้วน่าจะเรียกได้ว่าเป็นผลงานในแนว melodic rock หรือ folk prog เสียมากกว่า หากจะให้เทียบเคียงก็น่าจะใกล้เคียงกับผลงานของ The Moody Blues, Barclay James Harvest ในด้านความละเมียดและอารมณ์เพลงที่แสนจะโรแมนติคแต่แฝงไว้ด้วยความเข้มข้นเร้าใจของท่วงทำนองและมนต์ขลังของกระแสดนตรีต้นยุค 70 และมีวงออร์เคสตร้าร่วมเล่นด้วยเพื่อแต่งเติมสีสันและความยิ่งใหญ่โอฬารให้กับเพลงหลายเพลงในอัลบั้มชุดนี้ อย่างไรก็ดี ความจัดจ้านของเสียงร้องของ Paul Robson นักร้องนำ บางครั้งทำให้อารมณ์เพลงขาดความละเมียด ประณีต และโรแมนติคไปเล็กน้อย (สำหรับผู้เขียนแล้ว ก็พอยอมรับได้)
คีย์บอร์ดที่ใช้ในผลงานชุดนี้มีทั้ง organ, piano และ mellotron แต่ดูเหมือน mellotron จะเป็นพระเอกในการสร้างบรรยากาศและสีสันให้ผลงานชุดนี้ดูโอฬารและเหนือกว่าผลงานเพลงร็อคตลาดทั่วไป และที่น่าสนใจก็คือ สำเนียงลีดกีตาร์ในบางเพลงฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะนึกถึง King Crimson ในยุคที่สอง (สมัยที่ John Wetton เป็นมือเบสส์)
ดังนั้น ใครที่ชอบเพลงอาร์ตร็อคสำเนียงเข้มข้นแต่แฝงด้วยความละเมียดแบบ The Moody Blues หรือ BJH และชอบเสียงอันอลังการตระการโสตของ mellotron แล้วล่ะก็ ผลงานชุดนี้ไม่น่าจะสร้างความผิดหวังให้ท่านครับ
(หมายเหตุ: เดิมได้ให้คุณค่า (value) อัลบั้มชุดนี้ไว้เพียงสามดาวเท่านั้น แต่จากการได้ฟังหลายเที่ยวจนซาบซึ้งและเห็นว่าเป็นผลงานที่สมควรจะได้คะแนนมากกว่านี้ จึงเพิ่ม personal rating ให้เป็นสามดาวครึ่งครับ)
แก้ไขเพิ่มเติมบทความโดย "ปีศาจลายคราม" เมื่อ 07/06/56
สงวนลิขสิทธิ์