ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149687 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

06 พฤษภาคม 2024 | 09:17:39 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgTreasure BoxesMy Small & Humble Audio System (ของเล่นปีศาจลายคราม)
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 25
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: My Small & Humble Audio System (ของเล่นปีศาจลายคราม)  (อ่าน 169545 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #150 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2011 | 10:58:59 PM »

ดูแล้ว มันโหลดเตี้ย น่าเสียวใส้แทนครับ
เห็นคุณโปโลตูนบ่นว่าอยากได้นี่ครับ
เฮียป่องว่าไง
ได้แอมป์เสียงดีไปแล้ว อิ่มจิตเลยนะ...
หัวเข็มที่มีบอดี้ทรงเตี้ยทั้งหลายหมดสิทธิ์เข้าคู่กับโทนอาร์มของผมแน่นอนครับ เพราะอาร์มมันถูกออกแบบมาอย่างพิลึกพิลั่นจริง ๆ
ถ้าพลิกแพลงใช้แผ่นรอง (spacer) หนุนคั่นระหว่างเฮดเชลล์กับหัวเข็มเพื่อเพิ่มความสูง ก็คงลดปัญหาไปได้บ้าง
แต่ก็จะเพิ่มมวลของหัวเข็มขึ้นมาอีกโดยไม่จำเป็น
เอาเป็นว่าถอดเก็บไว้ก่อนดีกว่า
ไว้รอหาเทิร์นเทเบิ้ลกับอาร์มเหมาะ ๆ อีกสักชุดมาเข้าคู่กับมันครับ
บันทึกการเข้า
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #151 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2011 | 09:13:16 AM »

ดูแล้ว มันโหลดเตี้ย น่าเสียวใส้แทนครับ
เห็นคุณโปโลตูนบ่นว่าอยากได้นี่ครับ
เฮียป่องว่าไง
ได้แอมป์เสียงดีไปแล้ว อิ่มจิตเลยนะ...
อยากได้อยู่ แต่กลัวมันจะหรูเกินสำหรับผมอ่ะครับ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #152 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2011 | 10:05:52 AM »

ได้มีโอกาสไปเจอ headshell damper ของ clubwood (cw) ซึ่งทำด้วยไม้เนื้อดีน้ำหนักเบา (0.7-1.0 กรัม) มีความหนา 2 มม. ผมคิดว่าคงนำมาใช้หนุนเพื่อเพิ่มความสูงให้ DL-103R และปรับปรุงคุณภาพเสียงของหัวเข็มให้ดีขึ้น (ตามที่ผู้ผลิตกล่าวอ้าง) เดี๋ยวผมจะลองสั่งมาใช้ดู ถ้าเวิร์ค ผมก็เล่น DL-103R ได้โดยไร้กังวลครับ

บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #153 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2011 | 08:56:22 AM »

หัวเข็ม Denon DL-103R มีผู้ใจบุญรับไปดูแลแทนแล้ว ด้วยความขอบพระคุณอย่างสูงครับ ยิ้มกว้างๆ
ที่เข้ามาแทนที่ก็คือ Denon DL-304 และ Benz Micro ACE SL (Low Output)
tonearm ที่ใช้อยู่ไม่ใช่เป็นของดีหรือวิเศษอะไรนัก เพราะว่ายังมีอาร์มยี่ห้ออื่นและรุ่นอื่นอีกมากมายที่ดีกว่าของผม
แต่ทุกครั้งที่ผมได้มีโอกาสเปลี่ยนหัวเข็มใหม่ ก็พบความตื่นเต้นและความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงที่ได้ยินไปในทางที่ดีขึ้นเสมอ

หัวเข็มที่ใช้และสะสมอยู่ตอนนี้
Ortofon MC 15 Super Mk. II (ปลดประจำการ และเก็บเข้ากล่อง)
Dynavector DV-20XH
Denon DL-304
Benz Micro ACE SL (Low Output)

เผอิญได้ไปเจอแหล่งขายหัวเข็มที่ผมสามารถซื้อได้ในราคาที่ดี ผมจึงกะว่าจะทยอยสะสมหัวเข็มไปเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปีนี้ครับ
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #154 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2011 | 04:42:46 PM »

อัพเดทล่าสุด
14 ก.ค. 54 (วันชาติฝรั่งเศส)

เทิร์นเทเบิ้ลซิสเต็ม
1. ปลดประจำการหัวเข็ม Ortofon MC15 Super Mk II ซึ่งใช้ต่อเนื่องมาร่วม 8 ปี
2. นำ Dynavector DV-20XH เข้าประจำการ
3. กองหนุนและกำลังสำรอง คือ Denon DL-304 และ Benz Micro ACE SL
4. สายสัญญาณจากปรีฯโฟโนเข้าแอมป์ กลับมาใช้ van Den Hul D-102 Hybrid Mk III (เส้นสีเหลือง) เหมือนเดิม

ผลจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยครั้งนี้ คือ ได้เสียงที่ประณีตและละเมียดละไม (refined) มากกว่าเดิม ปลายเสียงแหลมทอดไปไกลขึ้น โดยเฉพาะเสียงร้องจากริมฝีปากของนักร้องหญิงและเสียงรอดไรฟัน (ประเภทเสียง sss...) หัวเข็มรุ่นนี้ให้เสียงทุ้มต่ำเป็นตัวเป็นตนและชัดเจนกว่าเดิม (ดังที่เขาว่าเบสเป็นลูก ๆ) ในขณะที่สายของ van Den Hul รุ่นนี้ก็ให้เสียงที่ "ครบ" แต่ออกไปทางความนุ่มนวล ไม่แข็งกร้าว (สมกับที่ได้รางวัล Best Product of the Year 1998 จาก What Hi-Fi? ของอังกฤษมาแล้ว) ทำให้ผมนั่งฟังเพลงถึงตีสองตีสามได้เกือบทุกคืนในช่วงนี้ ยิ้มกว้างๆ

ใครที่มีเครื่องเสียงและรู้สึกเครียดหรือเบื่อหน่ายกับเรื่องการบ้านการเมืองในช่วงนี้ หยุดรับข่าวสารทุกอย่างสักพัก แล้วหันมาใส่ใจดูแลปรับปรุงซิสเต็มของตนเองโดยไม่ต้องลงทุนมากนัก อาจจะเจออะไรดี ๆ และได้ผลทันตาเห็นดังเช่นที่ผมเจอก็ได้ครับ

My System Update (14/07/11)

1. Roksan Kandy K2 integrated amplifier (125 watts/ch @ 8 ohm)

2. Denon DCD-2560 GL CD player (Gold Limited Edition)

3. Turntable System
- Audio Linear TD-4001 turntable
- Dynavector DV-505 tonearm
- Moving Coil Cartridges: Ortofon MC 15 Super Mk II, Dynavector DV-20XH, Denon DL-304, Benz Micro ACE SL

4. Lehmann Audio Black Cube MM & MC phono pre-amp (regular version)

5. TEAC V-1010 3-head cassette deck

6. Wharfedale EM 93 bookshelf two-way loudspeakers
 
7. Cables
7.1 Speaker cables: Supra Ply 3.4
7.2 Interconnect Cables
- From CD player to amplifier: Black Rhodium "Coda"
- From phono pre-amp to amplifier: van Den Hul D-102 Mk III Hybrid
- From cassette deck to amp: Audioquest Topaz
7.3 A/C Cables
- For Integrated Amp: IeGO L70530
- For phono pre-amp: Monster PowerLink 300

8. Accessories
8.1 MRZ TVSS (Transient Voltage Surge Suppressor) Model T-6 (ชุดปลั๊กรางระบบป้องกันไฟกระชาก)
8.2 AUDIO ARTS speakers stands
8.3 Turntable rack lamp
8.4 Record brushes, LP cleaning kit, stylus cleaners, stylus force gauges, bubble level, cartridge alignment gauge etc.
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #155 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2011 | 10:09:50 AM »

อัพเดทล่าสุด 15 ส.ค. 54

ช่วง ลอง วีคเอนด์ วันแม่แห่งชาติที่ผ่านมา ผมไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย อยู่บ้านดูหนังและฟังเพลงลูกเดียว และถือโอกาสเปลี่ยนและลองเล่นหัวเข็มใหม่ที่ซื้อไว้ได้สักระยะหนึ่งแล้ว คือ Benz Micro ACE SL ซึ่งเป็นหัวเข็ม MC แบบ low output (0.4 mV) แทน Dynavector DV-20XH ที่ใช้อยู่เดิม และก็เป็นไปตามคาด เพราะทุกครั้งที่เปลี่ยนหัวเข็มใหม่ ผมจะได้เสียงในสไตล์ที่แตกต่างไปจากเดิมและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเสมอ และคราวนี้ก็เช่นกัน ผมได้เสียงที่ดียิ่งกว่าเดิมจากการเปลี่ยนหัวเข็มเป็น Benz ACE SL โดยเฉพาะในแง่ความสะอาดเกลี้ยงเกลาของเนื้อเสียงและแรงปะทะที่ดีขึ้น พร้อมทั้งรายละเอียดหยุมหยิม ซึ่งผมรู้สึกว่าได้ยินมากกว่าที่เคยได้ยินจากหัวเข็มเก่าที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ ทำให้ผมฟังอัลบั้ม Ciclos ของ Canarios (ลองเพลย์แผ่นคู่) และ Inferno ของ Metamorfosi ได้สนุกและมีอรรถรสมากกว่าเดิม

เมื่อเปรียบเทียบกับ Dynavector DV-20XH ที่ใช้อยู่และเพิ่งถูกถอดออกไป ผมว่า DV-20XH ให้เสียงที่มีความเป็นดนตรีสูงก็จริง แต่เสียงของมันดูจะ "เลอะ" กว่า และไม่สะอาดเปิดโปร่งเท่า Benz ACE SL ทั้ง ๆ ที่ราคาของหัวเข็มทั้งสองยี่ห้อนี้ก็สูสีกัน คือ เป็นหัวเข็มในระดับราคาไม่เกิน US$ 700 แต่ตอนนี้ราคา MSRP ของ Benz ACE SL ในอเมริกาอยู่ที่ US$ 900 แล้ว โชคดีที่ผมได้มาในราคาไม่เกิน US$ 500 (ของมือหนึ่ง)

ช่วงนี้เพิ่ง burn-in หัวเข็มอันใหม่นี้ไปได้ราว 10 กว่าชั่วโมงเท่านั้น ระยะเบิร์น-อินประมาณ 40 ชั่วโมง หลังพ้นระยะนี้ไปแล้ว คาดว่าเสียงจะเข้ารูปเข้ารอยและมีเสถียรภาพมากขึ้นอีก

เมื่อพูดถึงรูปร่างความสวยงามน่าใช้ Benz ACE SL ก็ไม่เป็นรองหัวเข็มที่ออกแบบสวยงามยี่ห้ออื่น เพราะบอดี้ของมันถูกหุ้มไว้ด้วยโครงอะคริลิกสี่เหลี่ยมสีแดงใส ทำให้สามารถมองเห็นเครื่องเคราภายในตัวเรือนหัวเข็มได้ แต่ถ่ายรูปยากชะมัด ผมได้ลองถ่ายรูปแล้ว แต่ได้ภาพไม่สวยเลย เพราะสีแดงมันสะท้อนไฟแฟลช ถ่ายภาพออกมาจึงได้สีแดงผิดเพี้ยนไปมากกว่าที่เห็นตามความเป็นจริง ผมจะพยายามถ่ายใหม่อีกครั้ง และรูปที่เห็นนี้เป็นภาพแทน ถ้าเป็นหัวเข็มจริง สีจะแดงเข้มและสดใสกว่าที่เห็นในภาพเยอะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 สิงหาคม 2011 | 10:21:10 AM โดย ปีศาจลายคราม » บันทึกการเข้า
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #156 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2011 | 10:51:18 AM »

ยินดีด้วยครับ
ได้ของดี ราคาถูก  ยิ้มกว้างๆ
เบ็นซ นี่เป็นของประเทศสวิสฯ ใช่ไหมครับ..
บันทึกการเข้า

ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #157 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2011 | 11:45:05 AM »

ยินดีด้วยครับ
ได้ของดี ราคาถูก  ยิ้มกว้างๆ
เบ็นซ นี่เป็นของประเทศสวิสฯ ใช่ไหมครับ..
ใช่ครับ หัวเข็มซีรี่ย์ส ACE (Advanced Cartridge Engineering) และรุ่นสูง ๆ ของ Benz ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ แต่ถ้าเป็นซีรี่ย์สเล็กสุดของเขาอย่างรุ่น MC Gold และ Silver จะผลิตในโรงงานที่ญี่ปุ่นครับ

หัวเข็มรุ่นนี้ติด Class B $$$ ของ Stereophile และได้รับประกาศให้เป็น Editor's Choice ของ The Absolute Sound ตั้งแต่ปี 2005-2011 ทีเดียวเชียวครับ ยิ้มกว้างๆ

http://www.elusivedisc.com/prodinfo.asp?number=BENZACEL
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 สิงหาคม 2011 | 02:16:09 PM โดย ปีศาจลายคราม » บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #158 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2011 | 12:40:04 PM »

ถ่ายรูปมาดีที่สุดได้เพียงเท่านี้ เพราะโดนแสงไฟสะท้อนจากทั้งโคมไฟข้างเครื่องและไฟแฟลชกล้อง ครั้นปิดไฟแฟลชแล้ว ภาพก็ดูมืด ไม่ค่อยชัดครับ







บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #159 เมื่อ: 27 กันยายน 2011 | 12:31:03 PM »

อัพเดทล่าสุด 27 ก.ย. 54

ผมรู้สึก "เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า" อีกครั้ง

เมื่อราวสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ กับชุดเครื่องเสียงของตัวเอง คือ

1. ทำความสะอาดชั้นวางเครื่องเสียง เพราะฝุ่นเริ่มจับหนาแล้ว (บ้านไม่ติดแอร์ จึงมีฝุ่นค่อนข้างมาก) ผมคิดว่าใครที่รักจะเล่นเครื่องเสียงหรือมีเครื่องเสียงอยู่แล้ว จะขี้เกียจไม่ได้ ต้องคอยปัดกวาดเช็ดถูบริเวณรอบ ๆ ที่วางเครื่อง บางทีเจอซอกเล็กซอกน้อย ก็ทำความสะอาดมันยากอยู่เหมือนกัน ได้ยินเล่ากันมาว่า เศรษฐีไฮเอนด์คนหนึ่งให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดชุดเครื่องเสียงของตนเองในห้องฟัง ด้วยความไม่รู้ แม่บ้านผู้นั้นเอาไม้ขนไก่ไปปัดกวาดบนเทิร์นเทเบิ้ล และไม้ขนไก่ก็ไปสะกิดเอาปลายเข็มหลุดออกจากหัวเข็มราคาหลักแสนของเศรษฐีผู้นั้น

2. นอกจากจะได้ทำความสะอาดชั้นวางเครื่องเสียงแล้ว ผมก็ยังทดลองถอดเปลี่ยนสายสัญญาณ interconnects สลับเข้าออกระหว่างยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้สองสามยี่ห้อ เพื่อดูว่ายี่ห้อใดเสียงจะน่าฟังที่สุด ระหว่าง Audioquest Topaz II, Black Rhodium Coda และ van den Hul D-102 Mk. III Hybrid ปรากฏว่า ผมชอบเสียงของ van den Hul มากที่สุด เพราะมัน smooth ลื่นไหล และอิ่มแน่นกว่าใครเพื่อน ก็เลยใช้สายคู่นี้เป็นสายเชื่อมจากโฟโนปรีแอมป์ Black Cube ไปยังอินทิเกรตเตดแอมป์ ส่วนสาย Black Rhodium Coda ก็สลับไปใช้กับเครื่องเล่นซีดีแทน

3. ท่านใดมีหรือชอบเล่นเส้นสาย (สายสัญญาณและสายลำโพง) หลากหลายยี่ห้อกันบ้าง? ผมเองมีสายลำโพงอยู่แค่สองสามยี่ห้อเท่านั้น คือ Supra Ply 3.4 (ซึ่งใช้เป็นตัวยืนพื้นมาหลายปีแล้ว), Black Rhodium Jive ซึ่งใช้อยู่พักหนึ่งแล้วถอดเก็บ และ Audioquest Indigo 2 ซึ่งผมเคยใช้มันอยู่พักหนึ่ง นานมากแล้ว และทอดทิ้งให้มันนอนขดอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ใช้งานนานหลายปี เพราะเปลี่ยนไปใช้สาย Supra กับ Black Rhodium แทน แต่ความจริงแล้ว ในยุคหนึ่งนั้น Audioquest Indigo 2 ได้ชื่อว่าเป็นสายลำโพงระดับคุณภาพอ้างอิงแต่ราคาประหยัด (ผมซื้อมาราคาเมตรละ 500 บาท เมื่อปี 2541) ด้วยความที่มันเป็นสายลำโพงกลม มีขนาดค่อนข้างเขื่อง ไม่ flexible ดัดงอได้ไม่ง่ายนัก และทำขั้วสายหรือ terminate ไว้ไม่ค่อยดี ผมจึงทิ้งมันไว้ ไม่ได้สนใจมันอยู่หลายปี จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมคิดถึงมันขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ จึงจัดแจงนำมันออกมาทำขั้วสายลำโพงแต่ละข้างเสียใหม่โดยใช้ banana plugs เก่า ๆ ที่มีอยู่ (เดิมมันถูกเข้าหัวแบบก้ามปูไว้อย่างหยาบ ๆ และใช้วัสดุไม่ค่อยดีนัก ซึ่งผมไม่ได้เป็นคนทำ) การนั่งปอกปลายสายลำโพงยี่ห้อนี้ใหม่นั้นไม่ง่ายเลย เพราะสายแต่ละเส้น ที่ปลายข้างหนึ่งมีขั้วดำและแดง โดยแต่ละขั้วมีสายทองแดงแบบ solid core hyperlitz ย่อย ๆ อยู่สี่เส้น ดังนั้น ที่ปลายข้างหนึ่งของสายลำโพง ผมจะต้องปอกปลายสายย่อยทั้งหมดแปดเส้น (ดำกับแดง) แล้วจับแยกตามสีเป็นสี่เส้นย่อยต่อหนึ่งสี จากนั้นจึงฟั่นรวมกันให้เป็นหนึ่งขั้ว สายลำโพงหนึ่งเส้นมีปลายสองข้าง จึงต้องปอกปลายสายย่อยทั้งหมด 16 เส้น ถ้าสายลำโพงสองเส้นก็คูณสองเข้าไป รวมเป็นการปอกปลายสายใหม่ 32 ครั้ง ใช้เวลาทำสองคืน คืนละหนึ่งเส้น -- ลำบากครับ สำหรับคนที่ไม่เป็นอิเล็กทรอนิกส์อย่างผม แลบลิ้น

ครั้นพอเอาบานาน่าแจ็คเข้าปลายสายทุกข้างและนำไปต่อเล่นระหว่างแอมป์กับลำโพงแล้ว ผลลัพธ์มันช่างคุ้มค่าจริง ๆ ผมมีความรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ถูกทอดทิ้งหรือขาดการติดต่อไปนานมาก เพราะสายออดิโอเควสท์ที่เคยเล่นเมื่อหลายปีก่อน ยังไงมันก็ยังมีบุคลิกของออดิโอเควสท์ที่สายยี่ห้ออื่นให้ไม่ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของรายละเอียดและความเป็นกลาง รวมทั้งเสียงเบสส์ที่หนักแน่น ในที่สุด ผมจึงเก็บสาย Supra และ Black Rhodium เข้ากรุ (อาจเป็นการเข้ากรุอย่างถาวรก็ได้) และเรียกใช้บริการจากออดิโอเควสท์ เพื่อนเก่า เหมือนเมื่อหลายปีก่อนครับ

(ภาพแทน)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 กันยายน 2011 | 12:45:06 PM โดย ปีศาจลายคราม » บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #160 เมื่อ: 27 กันยายน 2011 | 04:46:36 PM »

สายของยี่ห้อ Audioquest จัดว่าเป็นยี่ห้อที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรานานแล้ว  มีตั้งแต่รุ่นซีรี่ส์ราคาไม่แพงจนถึงราคาแพงๆ
สมัยก่อนผมเคยเล่นสายลำโพงของยี่ห้อนี้รุ่นมิดไนท์เป็นไบร์วายซึ่งซื้อสายมือสองแบบราคาถูกมากๆ  เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ผมจะเล่าว่าทำไมผมถึงได้ซื้อสายลำโพงรุ่นนี้มาในราคาถูกมาก 1000 บาทกับสายลำโพงไบร์วายยาวข้างละ 10 ฟุต( 3 เมตร)
สมัยก่อนผมเคยไปทำงานอยู่ที่ศรีราชา ชลบุรีซึ่งตอนนั้นมีห้างโรบินสันเปิดใหม่ๆ ที่ทำงานผมใกล้กับห้างฯ ช่วงกลางวัน
ผมต้องไปหาอะไรกินเป็นประจำเพราะที่ศรีราชามีห้างฯเดียวเท่านั้น  ผมเดินเล่นดูสินค้าต่างๆตามร้านที่มาเปิด บังเอิญไปเจอกับร้านขายสินค้า
มือสองรู้สึกว่าจะเป็นร้านแรกๆที่มาเปิดขายสินค้ามือสองเช่นนี้  ร้านนี้ขายสินค้าเก่าทุกประเภทมีของที่ใช้งานทั่วไปพวกกล้อง,นาฬิกา,ปากกาฯลฯ
อะไรแบบนี้และพวกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือเครื่องเสียง มีเครื่องเสียงมียี่ห้อดังๆเอามาวางขายด้วยเหมือนกัน
ผมก็เลยสนใจร้านนี้เป็นพิเศษเพราะอะไรรู้ไหมครับ   คนขายไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องเสียงเลย ผมได้ซื้ออินทีเกรทแอมป์ราคาของใหม่เป็นแสนบาท
แต่ผมซื้อมาได้ในราคาแค่ 30,000 บาทเท่านั้น เดี๋ยวค่อยมาเล่าประเด็นนี้ให้อ่านกัน  มาว่าถึงสายลำโพงก่อนว่าทำไมผมถึงซื้อได้ถูก
พอผมซื้ออินทีเกรทแอมป์จากร้านนี้คนขายก็เริ่มสนิทกับผมมีอะไรมักจะโทรมาบอกว่าสนใจเครื่องเสียงชิ้นนี้ไหมมีคนเอามาฝากขายอะไรแบบนี้
มีอยู่วันผมเห็นสายลำโพงกองๆอยู่รวมกันสายไฟสายสัญญาณราคาถูกๆ  ผมก็ไปเห็นสายลำโพง Audioquest รวมอยู่ด้วยซึ่งได้หยิบขึ้นมาดูแล้ว
ถามคนขายว่าขายเท่าไร คนขายบอกว่า 2500 หรือ 3000 บาทจำไม่ได้แล้ว  ผมต่อเลยว่าสายไฟอะไรขายแพงขนาดนี้แค่  500 บาทก็พอแล้ว
คนขายบอกผมว่าเป็นสายดีนะ  ผมก็บอกว่าอย่างนั้นให้เต็มที่ 1000 บาทก็แล้วกัน คนขายลังเลอยู่พักก็บอกว่าตกลง  ผมดีใจมากที่ซื้อสายลำโพง
Audioquest รุ่นมิดไนท์ไบร์วายมาใช้ในราคาถูกมาก  พอใช้อยู่สักพักมีคนมาขอซื้อต่อ 8000 บาทผมรีบขายโดยไม่ลังเลเลยครับ
บันทึกการเข้า
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #161 เมื่อ: 27 กันยายน 2011 | 05:18:12 PM »

+1
สมหละ..
พ่อค้าตัวจริงเลยนะเชียว
ว่างๆจับของดีราคาถูกมาฝากบ้างเน้อทั่น

ปล. ไม่เอาเทป กับเกงยีนส์ นะจ๊ะ 555
บันทึกการเข้า

ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #162 เมื่อ: 27 กันยายน 2011 | 05:18:59 PM »

สายของยี่ห้อ Audioquest จัดว่าเป็นยี่ห้อที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรานานแล้ว  มีตั้งแต่รุ่นซีรี่ส์ราคาไม่แพงจนถึงราคาแพงๆ
สมัยก่อนผมเคยเล่นสายลำโพงของยี่ห้อนี้รุ่นมิดไนท์เป็นไบร์วายซึ่งซื้อสายมือสองแบบราคาถูกมากๆ  เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ผมจะเล่าว่าทำไมผมถึงได้ซื้อสายลำโพงรุ่นนี้มาในราคาถูกมาก 1000 บาทกับสายลำโพงไบร์วายยาวข้างละ 10 ฟุต( 3 เมตร)
สมัยก่อนผมเคยไปทำงานอยู่ที่ศรีราชา ชลบุรีซึ่งตอนนั้นมีห้างโรบินสันเปิดใหม่ๆ ที่ทำงานผมใกล้กับห้างฯ ช่วงกลางวัน
ผมต้องไปหาอะไรกินเป็นประจำเพราะที่ศรีราชามีห้างฯเดียวเท่านั้น  ผมเดินเล่นดูสินค้าต่างๆตามร้านที่มาเปิด บังเอิญไปเจอกับร้านขายสินค้า
มือสองรู้สึกว่าจะเป็นร้านแรกๆที่มาเปิดขายสินค้ามือสองเช่นนี้  ร้านนี้ขายสินค้าเก่าทุกประเภทมีของที่ใช้งานทั่วไปพวกกล้อง,นาฬิกา,ปากกาฯลฯ
อะไรแบบนี้และพวกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือเครื่องเสียง มีเครื่องเสียงมียี่ห้อดังๆเอามาวางขายด้วยเหมือนกัน
ผมก็เลยสนใจร้านนี้เป็นพิเศษเพราะอะไรรู้ไหมครับ   คนขายไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องเสียงเลย ผมได้ซื้ออินทีเกรทแอมป์ราคาของใหม่เป็นแสนบาท
แต่ผมซื้อมาได้ในราคาแค่ 30,000 บาทเท่านั้น เดี๋ยวค่อยมาเล่าประเด็นนี้ให้อ่านกัน  มาว่าถึงสายลำโพงก่อนว่าทำไมผมถึงซื้อได้ถูก
พอผมซื้ออินทีเกรทแอมป์จากร้านนี้คนขายก็เริ่มสนิทกับผมมีอะไรมักจะโทรมาบอกว่าสนใจเครื่องเสียงชิ้นนี้ไหมมีคนเอามาฝากขายอะไรแบบนี้
มีอยู่วันผมเห็นสายลำโพงกองๆอยู่รวมกันสายไฟสายสัญญาณราคาถูกๆ  ผมก็ไปเห็นสายลำโพง Audioquest รวมอยู่ด้วยซึ่งได้หยิบขึ้นมาดูแล้ว
ถามคนขายว่าขายเท่าไร คนขายบอกว่า 2500 หรือ 3000 บาทจำไม่ได้แล้ว  ผมต่อเลยว่าสายไฟอะไรขายแพงขนาดนี้แค่  500 บาทก็พอแล้ว
คนขายบอกผมว่าเป็นสายดีนะ  ผมก็บอกว่าอย่างนั้นให้เต็มที่ 1000 บาทก็แล้วกัน คนขายลังเลอยู่พักก็บอกว่าตกลง  ผมดีใจมากที่ซื้อสายลำโพง
Audioquest รุ่นมิดไนท์ไบร์วายมาใช้ในราคาถูกมาก  พอใช้อยู่สักพักมีคนมาขอซื้อต่อ 8000 บาทผมรีบขายโดยไม่ลังเลเลยครับ

ผมก็รู้จักรุ่น Midnight Hyperlitz เช่นกัน เป็นรุ่นใหญ่กว่า Indigo แต่ตอนนั้นผมซื้อไม่ไหว เพราะราคาต่อเมตรออกจะสูงเกินไป กลัวว่าจะเข้าทำนองขี่ช้างจับตั๊กแตน ก็เลยเลือกใช้รุ่น Indigo แทนครับ
บันทึกการเข้า
อั๋น501
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #163 เมื่อ: 27 กันยายน 2011 | 08:07:42 PM »

สายของยี่ห้อ Audioquest จัดว่าเป็นยี่ห้อที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรานานแล้ว  มีตั้งแต่รุ่นซีรี่ส์ราคาไม่แพงจนถึงราคาแพงๆ
สมัยก่อนผมเคยเล่นสายลำโพงของยี่ห้อนี้รุ่นมิดไนท์เป็นไบร์วายซึ่งซื้อสายมือสองแบบราคาถูกมากๆ  เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ผมจะเล่าว่าทำไมผมถึงได้ซื้อสายลำโพงรุ่นนี้มาในราคาถูกมาก 1000 บาทกับสายลำโพงไบร์วายยาวข้างละ 10 ฟุต( 3 เมตร)
สมัยก่อนผมเคยไปทำงานอยู่ที่ศรีราชา ชลบุรีซึ่งตอนนั้นมีห้างโรบินสันเปิดใหม่ๆ ที่ทำงานผมใกล้กับห้างฯ ช่วงกลางวัน
ผมต้องไปหาอะไรกินเป็นประจำเพราะที่ศรีราชามีห้างฯเดียวเท่านั้น  ผมเดินเล่นดูสินค้าต่างๆตามร้านที่มาเปิด บังเอิญไปเจอกับร้านขายสินค้า
มือสองรู้สึกว่าจะเป็นร้านแรกๆที่มาเปิดขายสินค้ามือสองเช่นนี้  ร้านนี้ขายสินค้าเก่าทุกประเภทมีของที่ใช้งานทั่วไปพวกกล้อง,นาฬิกา,ปากกาฯลฯ
อะไรแบบนี้และพวกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือเครื่องเสียง มีเครื่องเสียงมียี่ห้อดังๆเอามาวางขายด้วยเหมือนกัน
ผมก็เลยสนใจร้านนี้เป็นพิเศษเพราะอะไรรู้ไหมครับ   คนขายไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องเสียงเลย ผมได้ซื้ออินทีเกรทแอมป์ราคาของใหม่เป็นแสนบาท
แต่ผมซื้อมาได้ในราคาแค่ 30,000 บาทเท่านั้น เดี๋ยวค่อยมาเล่าประเด็นนี้ให้อ่านกัน  มาว่าถึงสายลำโพงก่อนว่าทำไมผมถึงซื้อได้ถูก
พอผมซื้ออินทีเกรทแอมป์จากร้านนี้คนขายก็เริ่มสนิทกับผมมีอะไรมักจะโทรมาบอกว่าสนใจเครื่องเสียงชิ้นนี้ไหมมีคนเอามาฝากขายอะไรแบบนี้
มีอยู่วันผมเห็นสายลำโพงกองๆอยู่รวมกันสายไฟสายสัญญาณราคาถูกๆ  ผมก็ไปเห็นสายลำโพง Audioquest รวมอยู่ด้วยซึ่งได้หยิบขึ้นมาดูแล้ว
ถามคนขายว่าขายเท่าไร คนขายบอกว่า 2500 หรือ 3000 บาทจำไม่ได้แล้ว  ผมต่อเลยว่าสายไฟอะไรขายแพงขนาดนี้แค่  500 บาทก็พอแล้ว
คนขายบอกผมว่าเป็นสายดีนะ  ผมก็บอกว่าอย่างนั้นให้เต็มที่ 1000 บาทก็แล้วกัน คนขายลังเลอยู่พักก็บอกว่าตกลง  ผมดีใจมากที่ซื้อสายลำโพง
Audioquest รุ่นมิดไนท์ไบร์วายมาใช้ในราคาถูกมาก  พอใช้อยู่สักพักมีคนมาขอซื้อต่อ 8000 บาทผมรีบขายโดยไม่ลังเลเลยครับ


ผมขอใช้พื้นที่ของกระทู้"ของเล่นปีศาจฯ" เล่าถึงเรื่องที่ผมเคยซื้ออินทีเกรทแอมป์มือสองจากร้านของสินค้าเก่าที่ห้างโรบินสันศรีราชา ชลบุรี
เป็นอินทีเกรทแอมป์จากฝั่งยุโรปยี่ห้อ Primare ซึ่งตอนนั้นมีบริษัทนำเข้ามาขายในบ้านเราแต่แทบไม่เป็นที่รู้จักและไม่แพร่หลายหลังจากนั้น
ยี่ห้อ Primare ก็หายไปจากตลาดเครื่องเสียงในบ้านเราพึ่งจะมีบริษัทที่นำเข้ากลับมาใหม่ ผมจำชื่อรุ่นไม่ได้แล้วอินทีเกรทแอมป์ 100 วัตต์
ต่อข้างเป็นดูอัลโมโน Fully Balanced ให้คุณภาพเสียงที่ดีมากต่างกับอินทีเกรทแอมป์ที่ผมเคยฟังมา  ครั้งแรกคนขายบอกผมว่าเป็นของเพื่อน
เจ้าของห้างฯฝากขายไว้ตั้งราคาไว้ 60,000 บาทสภาพใหม่มากแทบไม่ได้ใช้งานเลย  ผมเคยเห็นโฆษณาก็เลยติดต่อสอบถามราคาจากษริษัท
ที่จัดจำหน่ายพอรู้ราคาของใหม่แล้วหนาวเลย 120,000 บาทราคา ณ ตอนนั้นปี 95หรือ 96ค่าเงินบาทไม่ใช่เท่าเวลานี้  ผมก็เลยนัดไปลองฟัง
ที่บริษัทซึ่งเป็นเหมือนบ้านคนรวยแต่ชอบเล่นเครื่องเสียงใช้บ้านเป็นโชว์รูมไม่ได้ทำธุรกิจขายเครื่องเสียงเป็นหลักแค่ขายเครื่องเสียงเป็นงานอดิเรก
เท่านั้น  พอผมได้ฟังเสียงจนเป็นที่พอใจแล้วก็กลับไปที่ร้านขายสินค้าเก่าที่ศรีราชาและบอกกับคนขายว่าผมขอต่อรองราคาฝากบอกเจ้าของเครื่อง
ด้วยว่าในศรีราชาไม่มีใครซื้อหรอกนอกจากผมเพียงคนเดียวที่กล้าซื้อถ้าให้ราคาตามที่ผมต้องการ 30,000 บาท คนขายบอกว่าทำไมผมต่อราคา
แยะขนาดนี้  ผมก็บอกแล้วแต่ถ้าไม่อยากขายก็ไม่เป็นไร  พอ 2-3 วันต่อมาคนขายโทรมาบอกว่าเจ้าของตกลงขายให้มายกไปได้เลย  ผมก็ไปที่ร้าน
เพื่อไปทดลองฟังเสียงก่อนว่าเครื่องมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าหลังจากนั้นก็ยกใส่รถกลับบ้านเลยด้วยความดีใจเดี๋ยวค่อยกลับมาเล่าต่อถ้าพี่ปีศาจฯ
ไม่ว่าอะไรที่ใช้กระทู้ส่วนตัวของพี่ปีศาจฯมาเล่าเรื่องส่วนตัวของผมแทน
บันทึกการเข้า
ปีศาจลายคราม
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 14376


Reap What You Sow


ดูรายละเอียด
« ตอบ #164 เมื่อ: 28 กันยายน 2011 | 08:38:30 AM »


ผมขอใช้พื้นที่ของกระทู้"ของเล่นปีศาจฯ" เล่าถึงเรื่องที่ผมเคยซื้ออินทีเกรทแอมป์มือสองจากร้านของสินค้าเก่าที่ห้างโรบินสันศรีราชา ชลบุรี
เป็นอินทีเกรทแอมป์จากฝั่งยุโรปยี่ห้อ Primare ซึ่งตอนนั้นมีบริษัทนำเข้ามาขายในบ้านเราแต่แทบไม่เป็นที่รู้จักและไม่แพร่หลายหลังจากนั้น
ยี่ห้อ Primare ก็หายไปจากตลาดเครื่องเสียงในบ้านเราพึ่งจะมีบริษัทที่นำเข้ากลับมาใหม่ ผมจำชื่อรุ่นไม่ได้แล้วอินทีเกรทแอมป์ 100 วัตต์
ต่อข้างเป็นดูอัลโมโน Fully Balanced ให้คุณภาพเสียงที่ดีมากต่างกับอินทีเกรทแอมป์ที่ผมเคยฟังมา  ครั้งแรกคนขายบอกผมว่าเป็นของเพื่อน
เจ้าของห้างฯฝากขายไว้ตั้งราคาไว้ 60,000 บาทสภาพใหม่มากแทบไม่ได้ใช้งานเลย  ผมเคยเห็นโฆษณาก็เลยติดต่อสอบถามราคาจากษริษัท
ที่จัดจำหน่ายพอรู้ราคาของใหม่แล้วหนาวเลย 120,000 บาทราคา ณ ตอนนั้นปี 95หรือ 96ค่าเงินบาทไม่ใช่เท่าเวลานี้  ผมก็เลยนัดไปลองฟัง
ที่บริษัทซึ่งเป็นเหมือนบ้านคนรวยแต่ชอบเล่นเครื่องเสียงใช้บ้านเป็นโชว์รูมไม่ได้ทำธุรกิจขายเครื่องเสียงเป็นหลักแค่ขายเครื่องเสียงเป็นงานอดิเรก
เท่านั้น  พอผมได้ฟังเสียงจนเป็นที่พอใจแล้วก็กลับไปที่ร้านขายสินค้าเก่าที่ศรีราชาและบอกกับคนขายว่าผมขอต่อรองราคาฝากบอกเจ้าของเครื่อง
ด้วยว่าในศรีราชาไม่มีใครซื้อหรอกนอกจากผมเพียงคนเดียวที่กล้าซื้อถ้าให้ราคาตามที่ผมต้องการ 30,000 บาท คนขายบอกว่าทำไมผมต่อราคา
แยะขนาดนี้  ผมก็บอกแล้วแต่ถ้าไม่อยากขายก็ไม่เป็นไร  พอ 2-3 วันต่อมาคนขายโทรมาบอกว่าเจ้าของตกลงขายให้มายกไปได้เลย  ผมก็ไปที่ร้าน
เพื่อไปทดลองฟังเสียงก่อนว่าเครื่องมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าหลังจากนั้นก็ยกใส่รถกลับบ้านเลยด้วยความดีใจเดี๋ยวค่อยกลับมาเล่าต่อถ้าพี่ปีศาจฯ
ไม่ว่าอะไรที่ใช้กระทู้ส่วนตัวของพี่ปีศาจฯมาเล่าเรื่องส่วนตัวของผมแทน
เชิญตามสบายเลยครับ
ผมเองก็รู้จักแอมป์ยี่ห้อ Primare ซึ่งคุณภาพดี เมืองนอกชื่นชม แต่ราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ โดยทั่วไป
ไม่ทราบใครมีราคาของอินทิเกรตเตดแอมป์รุ่น I32 ของเขาบ้างครับ? เห็นแล้วอยากได้จัง ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 25
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery