ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149686 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

05 พฤษภาคม 2024 | 04:48:51 AM
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: EAGLES Live In Bangkok 2011  (อ่าน 30796 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dr. buska
The Dark Side of the Moon
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 1225



ดูรายละเอียด
« ตอบ #75 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011 | 08:57:00 AM »

ช่วงเล่นเพลง Witchy Woman ท่าน Glen Frey อุตส่าห์ เป็นคนเล่น guitar solo แต่ท่อนแรก ดันเสียงไม่ออก ได้ยินแต่ guitar rhythm จากคนอื่น
พอเข้าช่วงที่ Don Henley ร้อง ไฟหลี่ลง มี crew วิ่งไปบนเวทีคงไปเสียบสายให้ ผมเห็น Glen หันตะแคงไปทางซ้าย คอยมองดูว่าใช้ได้รึยัง จนสามารถ  solo ท่อนอื่นๆได้ชัดเจน เมื่อเล่น solo ท่อนต่อๆมา
ถ้าใครมองดูแต่ภาพจากใหญ่ และไม่สังเกต คงไม่ทราบเหตุการณ์นี้ บนเวที
บันทึกการเข้า

เพชร วิปลาส
Oxygene
********
เพศ: ชาย
กระทู้: 2982


วันนี้จะฟังเพลงอะไรดีน้อ...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #76 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011 | 12:51:54 PM »

ช่วงเล่นเพลง Witchy Woman ท่าน Glen Frey อุตส่าห์ เป็นคนเล่น guitar solo แต่ท่อนแรก ดันเสียงไม่ออก ได้ยินแต่ guitar rhythm จากคนอื่น
พอเข้าช่วงที่ Don Henley ร้อง ไฟหลี่ลง มี crew วิ่งไปบนเวทีคงไปเสียบสายให้ ผมเห็น Glen หันตะแคงไปทางซ้าย คอยมองดูว่าใช้ได้รึยัง จนสามารถ  solo ท่อนอื่นๆได้ชัดเจน เมื่อเล่น solo ท่อนต่อๆมา
ถ้าใครมองดูแต่ภาพจากใหญ่ และไม่สังเกต คงไม่ทราบเหตุการณ์นี้ บนเวที

จังหวะนี้ไม่พลาดครับ ผมยังแซวให้ขงปี่ฟังเลยว่าน้าเกล็นงานเข้าซะแล้ว  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า


เป็นความทรงจำดีๆที่ครั้งนึงเราเคยไปถึงแกรมมี่มาแล้ว...

เชิญชม collection โมเดลของผม  
ขายซีดี, ดีวีดีเพลง  .  .
dr. buska
The Dark Side of the Moon
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 1225



ดูรายละเอียด
« ตอบ #77 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2011 | 02:07:36 PM »

คลิปข่าวจาก thai PBS

http://www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=294453&content_category_id=683

ผมให้ความเห็นเป็นกลุ่มที่สอง
ผมยืนหน้าบวมอยู่ริมด้านซ้ายของจอ แต่ที่ดูอ้วนเพราะใส่ back support อยู่ในเสื้อ
จริงๆผมขาวทั้งบ้าน พอดี ย้อมผมเลยไม่ขาวเหมือนพี่ชาย
บันทึกการเข้า

เพชร วิปลาส
Oxygene
********
เพศ: ชาย
กระทู้: 2982


วันนี้จะฟังเพลงอะไรดีน้อ...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #78 เมื่อ: 02 มีนาคม 2011 | 08:00:27 PM »

รายงานสด EAGLES Live In Bangkok ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

      กลับมาอีกครั้งสำหรับวงดนตรีขวัญใจมหาชนชาวไทย ซึ่งยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลงบ้านเรา เพราะถ้าวัดจากยอดจองตั๋วแล้ว รายนี้ Sold out ล่วงหน้าก่อนงานจะเริ่มร่วมๆสองสัปดาห์เลยทีเดียว เป็นการวัดเรตติ้งกันจะๆและชนะอย่างแจ่มแจ้งกับงานใหญ่สาม-สี่งานที่มาชนกันจังๆในช่วงนี้

      แม้พญาอินทรีแสดงสดนั้นจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ "Must seen before die" สำหรับผม แต่เอาเข้าจริงๆตัวผมนั้นดันติดลูกประมาทเพราะถือว่าบ้านใกล้ ออกจากบ้านตอนหกโมงนิดๆกว่าแต่กว่าจะเข้าไปถึงอิมแพคได้ปาไปเกือบทุ่มครึ่ง (ปกติแค่ ๑๕ นาทีก็เหลือเฟือ) นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว เลยอดมาเก็บบรรยากาศเลย  แลบลิ้น

      สายจากพี่สิทธิ์รายงานมาว่ามีของที่ระลึกขายหลายอย่าง ผมสอยเสื้อทัวร์มา ๑ ตัว หลายคนเดินผ่านไปผ่านมาบ่นว่าแพง แต่ผมว่าราคาคิดแล้วคุ้มเพราะถูกกว่าสั่งเวปนอก (๓๕ เหรียญไม่รวมค่าส่งอีก ๘ เหรียญ) แต่สั่งในเวปสู้อันนี้ไม่ได้ เพราะอยากได้เสื้อทัวร์ที่มีชื่อประเทศตัวเอง แหมใส่ไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนาหรือพบปะชาวต่างประเทศ เท่จะตาย จะได้โม้ว่าอีเกิ้ลส์นี่ก็มาเล่นบ้านเฮาเหมือนกันนา



      ได้เสื้อก็เจอเรื่องหงุดหงิดอีกครั้ง เพราะว่าต้องเอาบัตรกระดาษไปแลกบัตรพลาสติกที่เคาน์เตอร์เพื่อเข้าไปในงาน ซึ่งผมไม่ทราบว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงต้องใช้เวลานานมากในการออกตั๋ว ผมยืนรอนานกว่าสิบห้านาที โฆษกก็นับเวลาถอยหลังไปเรื่อยๆว่าคอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว จนในที่สุดทางทีมงานต้องยอมให้ใช้บัตรกระดาษเข้างานไปก่อนแล้วค่อยมาแลกบัตรพลาสติกที่หลัง (ไม่งั้นมีเหตุจลาจลแน่ๆ)

        เข้าไปก็เจอพี่สิทธิ์, พี่ชายพี่สิทธิ์และน้องอั้มรออยู่แล้ว เวทีโล่งมาก (จริงๆคือไม่มีอะไรเลย) นั่งรอไม่นานคอนเสิร์ตก็เริ่มบรรเลงด้วย Seven Bridges Road จากนั้นทางวงก็ออกมาในลุคสบายๆสไตล์ใครสไตล์มัน ลุงดอน (เฮนลีย์) ดูฉุขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลุงเกล็นยังคงคอนเซ็ปท์หนุ่มคันทรีร็อคไว้เหนียวแน่น ป๋าทิมยังแต่งเท่เหมือนเดิมแต่ไม่รู้ลืมเซ็ทผมก่อนขึ้นเวทีหรือเปล่า ส่วนลุงโจมาแบบเฮฟวี่เต็มสูบ มองไกลๆนึกว่า Zakk Wyde เสียอีก  ยิ้มกว้างๆ ส่วน Steuart Smith นั้นถูกถีบไปอยู่มุมขวาสุดของเวทีเช่นเคย อย่างว่าแหละครับมือปืนรับจ้างนี่นา แม้จะมีส่วนอยู่บ้างในอัลบั้มใหม่แต่ก็ไม่ได้นับญาติว่าเป็นพญาอินทรีกับเค้าด้วย



       ระบบเสียงของอิมแพคยังเป็นแบบ "ได้อย่าง-เสียอย่าง" คือ เสียงร้อง, กีตาร์, คีย์บอร์ด, เครื่องเป่าชัดเจนดี แต่เสียงกลองกับเบสจมจนแทบไม่ได้ยินเลย ซึ่งเป็นอย่างงี้ตั้งแต่วันงานแคลปตันเมื่อสี่วันก่อน

       ซิงเกิ้ลจากชุดล่าสุดที่คุ้นหู แต่เป็นเพลงเก่าเก็บไว้ไม่ได้ออกตั้งแต่อัลบั้มแรกอย่าง How Long ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าทางวงยังไม่ฟิตเต็มร้อยเท่าที่ควร ทั้งในแง่ของ performance และการประสานเสียง เพลงต่อมา I Don't Want to Hear Anymore ยิ่งเห็นได้ชัดกับป๋าทิมที่เสียงร้องยังไม่เข้าที่ดีนัก แต่จบเพลงก็อดอมยิ้มไม่ได้ที่อยู่ๆแกยกมือไหว้เฉยเลย ซึ่งก็เรียกเสียงปรบมือได้ลั่นฮอลล์

        เล่นมาได้ 3 เพลง Steuart Smith โซโล่คนเดียวเลยครับ ใช้งานคุ้มจริงๆ

        เสียงทรัมเปตลอยมาแผ่วๆ ก่อนค่อยๆดังขึ้นเพื่อกรุยทางเข้าสู่เพลงชาติประจำวงอย่าง Hotel California น้องอั้มทักว่าทำไมมาเร็วจัง ซึ่งเพลงนี้ไฮไลท์ก็จะไปอยู่ที่ลุงโจประสานกีตาร์กับน้าสมิธที่เรียกเสียงปรบมือจากแฟนเพลงได้อย่างล้นหลามตามธรรมเนียม



         Peaceful Easy Feeling เพลงถัดมาที่น้าเกล็นขอขายมุขเก่า โดยท่อนโซโล่กลางเพลงแกพูดประโยค "Who likes country rock in Bangkok Thailand" เลียนแบบ The Millennium Concert (หาฟังได้ในซีดีแผ่นที่ ๔ ในชุดรวมเพลง Selected Works: ๑๙๗๒–๑๙๙๙) ก่อนจะปิดไฟให้เวทีมืดสร้างบรรยากาศให้กับ I Can't Tell You Why ที่ฟังแล้วคิดถึงกีตาร์โซโล่หวานจับใจใน Hell Freezes Over ขึ้นมาทันที (น้าสมิธแกเล่นได้แข็งมากในความคิดของผม) ก่อนจบเพลงก็เพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าเกล็น เฟรย์แกนั่งเล่น Fender Rhode อยู่ที่ด้านหน้าเวที

        Witchy Woman ที่น้าเกล็นอุตสาห์ตั้งใจมาโซโล่กีตาร์กลับงานเข้าเสียงขาดหายไปตอนท่อนกลางที่เป็นพระเอกซะงั้น เห็นแกหันหลังให้เวทีปรับอยู่นานจนจบท่อนโซโล่นั่นแหละครับ กีตาร์แกถึงได้กลับมาปกติอีกครั้ง  ยิ้มกว้างๆ จบเพลงน้าเกล็นรีบชวนคุยเรื่องเก่าๆ ว่าเพลงต่อไปผมแต่งไว้นานมากๆ ประมาณจะเรียกบรรยากาศเก่าๆว่างั้นเถอะ ซึ่ง Lyin' Eyes ก็คือเพลงที่ว่าซึ่งเรียกบรรยากาศแบบคันทรีร็อคกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะต่อด้วยงานเดียวของลุงดอนอย่าง The Boys of Summer ซึ่งบนเวทีที่ไม่มีอะไรตกแต่งบนฉากหลังนั้น แท้จริงแล้วปล่อยไว้ให้เป็นที่ฉายโปรเจคเตอร์ประกอบเพลงนี่เอง

        In The City เป็นเพลงที่ปกติผมไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก แต่วันนี้ประทับใจมาก เพราะว่าลุงโจแกมาแบบ "ท็อปฟอร์ม" กับเสียงร้องที่แข็งแรงและโซโล่แบบปล่อยของชุดใหญ่จนไม่อยากเชื่อว่าผ่านวัยแซยิดไปหลายปีดีดัก ก่อนลุงดอนจะออกมาหน้าเวทีอีกครั้งโดยลักษณะเหมือนคนเมาเพื่อที่จะบอกว่าจะขอเล่นเพลงสุดท้ายในช่วงนี้แล้วจะกลับมาใหม่แบบยาวๆ แล้วก็ปิดครึ่งแรกไปกับ The Long Run

        ช่วงพักครึ่งผมก็รีบไปแลกบัตรพลาสติกแล้วก็สอบถามเรื่องคอนเสิร์ตซานตาน่า ปรากฎว่าบัตรเหลือบานตะไทก็เลยว่าจะมาดูอีกสักงาน เพราะอยากดู "เทวทิตย์" เล่นสดสักครั้งในชีวิต

        สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือแทนที่ผมจะได้เห็นแฟนเพลงแค่รุ่นลุงรุ่นป้า ผมกับเจอสาวๆน่ารักๆวัยรุ่นเยอะมากๆในคอนเสิร์ตนี้ ดีใจครับที่สาวๆในบ้านเรายังฟังเพลงแบบนี้กันอยู่ไม่ได้หลงตามกระแสไปเสียหมด

        ครึ่งหลังโชว์เริ่มตรงเวลาแป๊ะ ทางวงเริ่มต้นด้วยลูกเก่งของการประสานเสียงใน No More Walks in the Wood ซึ่งคิดว่าทางวงคงจะเครื่องร้อนแล้ว เพราะประสานเสียงกันแต่ละทีเล่นเอาขนลุกเลยทีเดียว ก่อนที่จะยิงยาวกับเพลงอัลบั้มใหม่อย่าง Waiting in the Weed, No More Cloudy Days หลังจบเพลงน้าทิมจะด้วยการอ้อนแฟนเพลงบ้านเราด้วยประโยคภาษาไทยน่ารักๆอย่าง "สนุกไหมครับ" และประโยคที่ทำเอาอิมแพคแทบแตกอย่าง "ผมรักคนไทย" ก่อนจะเข้าสู่เพลงที่แฟนเพลงในฮอลล์วันนั้นชื่นชอบกันมากที่สุดอย่าง Love Will Keep Us Alive เพราะทั้งเสียงปรบมือ เสียงกรี๊ดสนั่นลั่นฮอลล์ ยิ่งสาวๆที่นั่งด้านหลังวี๊ดว๊ายกันใหญ่ว่าชั๊นชอบเพลงนี้อย่างโน้นอย่างนั้น  ยิ้มกว้างๆ และร่วมร้องเพลงนี้ไปกับน้าทิมจนกระหึ่มฮอลล์ เสียงกีตาร์โซโล่แข็งๆจากน้าสมิธทำเอาผมนึกถึงดอน เฟลเดอร์อีกครั้ง  และคืนนี้น้าทิมคงเป็นพระเอกในใจแฟนเพลงชาวไทยอย่างไม่ต้องสงสัยเลย  ยิงฟันยิ้ม

        ลุงดอนกลับมาเรียกเรตติ้งกับเพลงคีย์ C อย่าง Best of My Love ลุงเกล็นไม่ยอมให้แฟนๆหยุดเคลิ้มด้วย Take it to the Limit ก่อนที่ทางวงจะทิ้งเวทีให้เงียบสักอึดใจก่อนที่จะปล่อยเพลงที่ผมคิดว่าเล่นได้ดีที่สุดในค่ำคืนนี้และเป็น Title track ของอัลบั้มล่าสุดอย่าง Long Road Out Of Eden ซึ่งเป็นสิบกว่านาทีที่งดงามมากๆสำหรับผม เพราะไม่เคยเห็นพญาอินทรีเล่นสดในรูปแบบที่ไหลลื่นโชว์ชั้นเชิงการเรียบเรียงและฝีมือดนตรีแบบนี้มาก่อนเลย



         จบจากเพลงนี้ก็กลายเป็น "Joe Walsh show" ขนานแท้ เพราะไล่ตั้งแต่ Walk Away (James Gang cover), One of These Nights, Life's Been Good (Joe Walsh cover), Dirty Laundry (Don Henley cover), Funk #49 (James Gang cover) ลุงโจแกเหมาทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งเล่นกีตาร์ เพลงไหนที่ไม่ได้ร้องก็ป่วนเวทีซ้ายทีขวาที ฉากหลังของเวทีนอกจากภาพประกอบสวยๆแล้วยังมีการฉายฟุตเตจของวงสมัยยุค ๗๐ ให้ได้รำลึกความหลังกันอีกด้วย

          เสียงบ่นอุบจากด้านหลัง ทำไมไม่เคยได้ยินเพลงพวกนี้เลยว้า...  ยิ้มกว้างๆ

          Heartache Tonight และ Life in the Fast Lane เป็นสองเพลงปิดท้าย พญาอินทรีหันหลังเดินเข้าเวที ไฟบนเวทีดับลงเป็นสัญญาณว่าต้อง "อังกอร์" กันแล้ว

         เสียงปรบมือ โห่ร้องดังอยู่ไม่นาน ไฟก็สว่างขึ้นอีกครั้ง พญาอินทรีค่อยๆเดินเข้าประจำที่ น้าเกล็นกล่าวขอบคุณแฟนเเพลงที่ออกมาร่วมสนุกและมีช่วงเวลาที่ดีๆร่วมกันในค่ำคืนนี้ ก่อนปล่อยเพลงฮิตยุคแรกอย่าง Take It Easy และเพลงปิดที่เป็นขาประจำไปแล้วอย่าง Desperado จบเพลงนี้พญาอินทรีทิ้งเวทีแล้วเดินขอบคุณแฟนๆกันคนละมุมสองมุม ก่อนมารวมกันหน้าเวทีโค้งคำนับให้แฟนๆอีกครั้ง ก่อนจะเดินลับไปหลังเวที ทิ้งให้แฟนเพลงเอมอิ่มกับมวลความสุขที่พวกเขาได้ทิ้งไว้ให้ แฟนเพลงเพลงหลายคนยังนั่งอยู่กับที่คล้ายจะตักตวงบรรยากาศแบบนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด

         จนกว่าจะพบกันใหม่...พญาอินทรี  


--------------------
ขอบคุณภาพประกอบจากไทยรัฐและกรุงเทพนิวส์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มีนาคม 2011 | 05:29:53 PM โดย เพชร วิปลาส » บันทึกการเข้า


เป็นความทรงจำดีๆที่ครั้งนึงเราเคยไปถึงแกรมมี่มาแล้ว...

เชิญชม collection โมเดลของผม  
ขายซีดี, ดีวีดีเพลง  .  .
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery