Winter Rose
In The Court Of The Crimson King
กระทู้: 33
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009 | 05:52:58 PM » |
|
อาจต้องปรับไวยกรณ์หน่อยนะครับ ค่อยๆหัดไปครับ เอาใจช่วย ผมเองก็มั่วเยอะเหมือนกันแหละครับ เลยต้องกลบเกลื่อนด้วยการแต่งเนื้อร้องที่เข้าใจยากไว้ก่อน (ง่ายๆก็คือ มั่ว นั่นแหละครับ) ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะ อกหัก เห้อออ ต้องแต่งเพลง ให้มัน สื่ออารมณ์ มากกว่า นี้แล้วสินะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Winter Rose
In The Court Of The Crimson King
กระทู้: 33
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 18 มีนาคม 2009 | 05:46:44 PM » |
|
มีด?
ตื่นมาอีกครั้ง แสงสว่างเริ่มส่องเข้ามาในห้อง
ฉันลุกขึ้นมานั่งบนที่นอน นี่นะหรอ..มันหมดหนทางแล้ว
สินะสายตาของฉันพล่ามัว ฉัน งง งวย กับสิ่งที่ฉันเป็น
ห้องฉันหมุ่นไปหมดจิตใจฉันเริ่มดำมืด
ห้องของฉันเริ่มกลายเป็นสีเทา ฉัน เริ่มลุกขึ้นจาก เตียง
ฉัน เดิน เซไปเซมา มาถึงประตู มือฉันเริ่มเย็นชา
บรรยากาศ ภายนอกทำให้ฉันรู้สึกหนาว
ฉันคิดอะไรไม่ออก โลกนี้คงไม่มีใครเข้าใจในตัวฉันแล้ว
....ฉันหมดหนทาง....
คมมีดเริ่ม กรีดลงบนคอ ของฉัน
...เจ็บนิดเดียวคงไม่เป็นไร...
ความรู้สึกของฉันเริ่มจางหาย
อากาศรอบๆตัวเริ่มเย็นลง
ฉันขยับมือไม่ได้
เลือดค่อยๆไหลออกมา
ดวงตาของฉันค่อยๆหลับลงไป.....
นี่เป็นความรู้สึกครั้งสุดท้ายของฉันจริงหรอ
คงไม่มีใครอยากอยู่เคียงข้างฉัน
นี่นะหรือคือจุดจบของฉัน
ถึงอย่างไงความรู้สึกครั้งสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่
ฉันอยากจะได้ความรักจากใครซักคน
แต่ตอนนี้มันเหลือเพียง อากาศ ที่คอยเป็นเพื่อนฉัน
คมมีดเริ่ม กรีดลงบนคอของฉัน
...ความรู้สึก เริ่มจางหาย...
ครั้งนี้คงสุดท้ายแล้ว
อากาศรอบตัวฉันเย็นลง
ร่างกายฉันขยับไม่ได้
เลือดค่อยๆไหลออกมา
ดวงตาของฉันค่อยๆหลับไป
ฉันคงไม่ตื่นมาอีกครั้ง เรื่องของฉัน ขอให้จบเพียงเท่านี้
หรือ ว่าฉันตายไปแล้ว จริงๆ...?
ฉันรู้สึกว่าภาพในสมอง ขาวโผลน ไปหมด ตัวฉันเริ่มลอยขึ้นเหนือพื้น
หัวใจของฉันเริ่มหยุดเต้น ลงช้าๆ
ความตาย ของฉันมันคง จบเพียงเท่านี้..หรือว่ามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2009 | 04:38:36 PM » |
|
"Saitama Summer Sky"
Lyrics by: คุณนิชิซาวะ (aka Lilium)
The more we grow, the more we need We catch the diffrent lane on the streets The more we suffer, the more we hope The more nostalgia we've to cope Far from home, shouting the silent name It must be her name, my little eternal flame
Hope the wind will be my deliverance Send my love, the pure substance The nicest summer sky I've seen I shout your name....
The more we live, the more we lend I borrowed white rabbits from your fences Taking care, feeding well Giving love everytime until the tail The sunshine, the flowers blooming in my groves It must be her love In the atmosphere above
Hope the sky will be the resonance... ...of our hearts together relevance The nicest summer day I've been I shout your name....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 กรกฎาคม 2009 | 04:40:35 PM โดย คุณนิชิซาวะ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2009 | 05:21:24 PM » |
|
"Monster"
Lyrics by: คุณนิชิซาวะ
*I can hear the inner scream Screeching like scratching concrete Cut down into the core of dream My eyes bleed in the bloodful stream
Maybe it hides behind the wall Maybe it crawling on the floor Maybe it flying in the air Maybe it lives inside my hair The inner voices keep on haunting every night Encourage me to decide, to give up and die or to fight Like the slipstream of sonic wave comes into my brain Like a knife cut through my skull, the method of brain drain
(*)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2009 | 05:59:46 PM » |
|
"Waltz"
Lyrics by: คุณนิชิซาวะ
The song of love Playing quietly, inner house Something was missing, the one was missing Lost in space
Lost in dementia Wondering around with no one here Cannot touch, cannot feel The lost is real
Nightfall has come and the hopeless cry has done I'm one with silence all around
The song about love Chopin still painting his hands on the keys The melodies' perfection, But one was missing Lost in Space
Eyes still unclear The Spirals led to the void of tears Cannot bring it all back again I'm lost again
And I realised The lost is real The dead is real....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 กรกฎาคม 2009 | 10:47:39 PM โดย คุณนิชิซาวะ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Layla F Mulder
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2009 | 05:38:55 PM » |
|
"Saitama Summer Sky"
Lyrics by: คุณนิชิซาวะ (aka Lilium)
The more we grow, the more we need
The more we suffer, the more we hope
ชอบจังเลยครับ เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Blackfield ใช่ไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2009 | 06:21:54 PM » |
|
"Saitama Summer Sky"
Lyrics by: คุณนิชิซาวะ (aka Lilium)
The more we grow, the more we need
The more we suffer, the more we hope
ชอบจังเลยครับ เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Blackfield ใช่ไหมครับ ก็มีส่วนครับ เพลงนี้เป็นเนื้อเพลงที่ Simple ที่สุดเท่าที่ผมเคยแต่งมาเลย เนื้อหาเกี่ยวกับการตามล่าหาฝันของตัวเองในแดนไกลที่ต้องแลกด้วยความห่างไกลจากคนที่เรารัก แต่เพลงนี้ค่อนข้างมองโลกในแง่ดีนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Layla F Mulder
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 02 กันยายน 2009 | 08:44:36 PM » |
|
วันก่อนนั่งเซ็งๆ ในห้องอบรม ISO 14001 ก็เลยแต่งเพลงบลูส์ขำๆ ขึ้นมาหนึ่งเพลง เอาไว้เล่นฮาๆ กับกีตาร์อคูสติก ช่วงนี้ชอบเพลง Love in Vain ที่เป็นคัฟเวอร์เวอร์ชั่นของ Rolling Stones ในอัลบั้ม Sticky Fingers ก็เลยนึกอยากแต่งเพลงบลูส์ในสไตล์อคูสติกแบบนี้ไว้เล่นบ้าง โดยเนื้อเพลงก็พูดถึงการทำงานหนัก แบบที่เพลงบลูส์หลายเพลงเคยพูดถึง เช่น Five Long Years ที่พูดถึงคนที่ทำงานในโรงงานเหล็ก "I got a job in a steel mill, shucking steel like a slave. Five long years, every Friday I come straight back home with all my pay." หรือในเพลง Since I've Been Loving You ของ Led Zeppelin "Working from seven to eleven every night, It really makes life a drag, I don't think that's right." ที่สงสัยว่านายคนนี้คงทำงานที่ 7-Eleven แน่ๆ เพราะทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม ก็เลยลองแต่งเพลงบลูส์ในสไตล์การทำงานของตัวเองดูบ้างครับ ว่าจะออกแบบเป็นแบบไหน และผลที่ได้ก็คือ.....
Dairy Plant Blues by Agent Fox Mulder (31 August 2009)
Workin' at dairy plant Workin' all day long Workin' at dairy plant Workin' all day long Workin' on the shift I can't do no wrong
Keep my heart in Surge Tank Agitated for hours Keep my heart in Surge Tank Agitated for hours Heat it up and cool it down Till my head knock on the ground
Living with filling machines Krones, AVE, Gable Top Living with these filling machine Krones, AVE, Gable Top Empty bottle with lonely Then fill it with sorrow
อธิฐานศัพท์
Shift = การเข้ากะ, การทำงานเป็นกะ ที่โรงงานจะมีกะหลายกะมาก เนื่องจากมีระบบการผลิตแบบ 24 ชั่วโมง ดังนั้นสำหรับ Operator และ Worker ก็จะมีกะซอยยิบย่อยมาก แต่สำหรับระดับหัวหน้างานขึ้นไป จะมีกะหลักๆ ทั้งหมดอยู่สามกะ คือ กะเช้า (8.00-17.00) กะบ่าย (15.00-24.00) และกะดึก (23.00-8.00) ซึ่งในแผนกจะต้องมีสับเปลี่ยนกันแทบทุกสัปดาห์ เช่น สัปดาห์นี้เราจะได้มาอยู่กะเช้า อีกสัปดาห์ไปกะบ่าย สัปดาห์ต่อไปเป็นกะดึกอะไรแบบนี้ ซึ่งมีบางคนอาจจะแจ๊คพอตเกิดไปเจอการจัดคนที่ไม่สมดุล พนักงานลาหยุด งานมีปัญหา ฯลฯ ทำให้อาจต้องทำงานเข้ากะในแต่ละวันของสัปดาห์นั้นผสมกัน เช่น สัปดาห์นี้ทำทั้งกะเช้า กะบ่าย กะดึกตามแต่ละวันไปเลย ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับตัวและเวลานอนอย่างมาก เพราะอาจต้องนอนตื่นเช้า ตื่นบ่าย ตื่นดึก สลับกันไป หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้นอาจไม่ต้องนอนเลยก็เป็นได้
Surge Tank = แทงค์เก็บนมที่รับจากกระบวนการ Pasteurize และ Sterilize เพื่อพักรอ เตรียมส่งเข้าสู่ส่วน Filling หรือกระบวนการบรรจุนม ในโรงงานจะมีแทงค์เยอะมาก โดยเฉพาะในส่วนการผลิตก่อนเข้าสู่ส่วนบรรจุนั้น จะมีการรับส่งนมระหว่างแผนก การเก็บนมเพื่อกระบวนการต่างๆ ตามแต่ละแผนกเยอะไปหมด การเก็บนมหลักๆ ก็จะใช้แทงค์ขนาดใหญ่เป็นตัวเก็บ และการส่งนมก็จะใช้ท่อสแตนเลสท่อใหญ่ๆ ส่งจากแทงค์โน้นไปแทงค์นี้ ส่งจากเครื่องโน้นไปเครื่องนี้ ฯลฯ ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลที่เราเป็นกันบ่อยๆ ในหนัง คือมีท่อเดินไปมาเต็มไปหมด แล้วก็มีแทงค์สูงๆ ใหญ่ๆ แต่เปลี่ยนจากน้ำมันมาเป็นนมแทน
Agitate = การกวนนมด้วยใบพัดในแทงค์ ต่อจากแทงค์ตะกี้ ถ้าหากเราเก็บนมในแทงค์ นั่นหมายความว่าเราต้องมีการรักษาสภาพต่างๆ ของนมให้คงที่และเหมาะสม เราจะต้องหล่อเย็นแทงค์ด้วยน้ำเย็น เพื่อรักษาอุณหภูมิของนมให้อยู่ต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส หรือเราต้องกวนนมเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันในกรณีที่เราเพิ่ง Mix นมเสร็จใหม่ๆ หรืออาจจะกวนนมเพื่อป้องกันการตกตะกอน การแยกชั้นระหว่างไขมันกับน้ำนม ฯลฯ โดยเฉพาะกับนมบางรสชาติเช่น Cocoa ที่จะตกตะกอนง่ายมาก ดังนั้นจึงจะต้องมีการเปิดใบพัดกวนนมในแทงค์ให้เข้ากันเสมออยู่แทบจะตลอดเวลาที่มีการเก็บนมไว้ในแทงค์
Heat up = เพิ่มอุณหภูมิ Cool down = ลดอุณหภูมิ โดยธรรมชาติของนมแล้ว การเก็บรักษานมให้ได้เป็นเวลานาน จะต้องเก็บรักษาอยู่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส เพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์ในนมหยุดการเจริญเติบโต นมจะได้ไม่เสีย (โดยปรกติเชื้อจุลินทรีย์จะเติบโตได้ดีที่สุดในช่วงอุณหภูมิประมาณ 40 กว่าองศาเซลเซียส) ส่วนการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในนมนั้น จะฆ่าเชื้อได้ที่อุณหภูมิที่ 70 กว่าองศาเซลเซียสขึ้นไป สำหรับการทำ Pasterize ของทางโรงงานนั้น จะให้ความร้อนกับนมจนถึงอุณหภูมิ 130 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 3 วินาที ด้วยเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger) หลังฆ่าเชื้อเสร็จแล้ว ก็จะต้องลดอุณหภูมิของนมลงให้เหลือ 8 องศาเซลเซียส ภายในเวลาไม่กี่วินาที เพื่อการเก็บรักษานมให้มีความสดอยู่เสมอ ดังนั้นภายในโรงงานจะมีการ Heat และ Cool เยอะมาก และก็มีท่อร้อน ท่อเย็นเต็มไปหมด การให้ความร้อนก็จะใช้ Steam (ไอน้ำที่เกิดจากการต้มน้ำจนเดือดจัด อุณหภูมิประมาณ 150 องศาเซลเซียส) เป็นตัวแหล่งความร้อนหลัง ส่วนการให้ความเย็น จะใช้ Chill Water (น้ำเย็นจัดที่อุณหภูมิ 2-3 องศาเซลเซียส) เป็นตัวลดความร้อน ลองคิดดูว่าถ้าเราเป็นนม เจอแบบนี้ตลอดสลับไปสลับมา เราจะทุกข์ทรมาณแค่ไหน
Filling Machine = เครื่องบรรจุนม ในโรงงานจะมีเครื่องบรรจุนมในแผนกบรรจุเยอะมาก ทั้งบรรจุนมเปรี้ยว นมพาสเจอร์ไรส์ จนไปถึงนมสำหรับทำไอศครีม Soft Serve ของ McDonold (โคนละ 7 บาท ที่หลายคนคงเคยทาน) และโยเกิร์ต รวมกันแล้วก็มีประมาณ 10 กว่าเครื่อง แต่ละเครื่องจะมีหน้าที่หลักของมัน ว่าจะบรรจุนมชนิดใด ขนาดบรรจุเท่าไหร่ เป็นขวด เป็นแกลลอน เป็นถ้วย เป็นถุง ก็ว่ากันไป วันๆ พนักงานและหัวหน้างาน จนไปถึงผู้จัดการแผนก ก็ต้องขลุกอยู่กับเครื่องพวกนี้ทั้งวัน วันละหลายชั่วโมง ยิ่งกว่าครอบครัวหรือคนที่บ้านเสียอีก ในเพลงนี้มีการพูดถึงเครื่องบรรจุสามเครื่องด้วยกัน ซึ่งเป็นเครื่องบรรจุสำหรับนมพาสเจอร์ไรส์ทั้งหมด ขอแนะนำให้รู้จักแต่ละเครื่องดังนี้ครับ
Krones เครื่อง Krones จะมีทั้งหมด 2 เครื่อง โดยเราจะเรียกเป็นเครื่อง Krones 1 และ Krones 2 สำหรับ Krones 1 จะใช้บรรจุนมขวดขนาด 450 ml และ 830 ml สามารถบรรจุนมได้ 18,000 ขวดต่อชั่วโมง มีระบบล้างขวดอัตโนมัติก่อนการบรรจุ เครื่องปิดฝาอัตโนมัติ ตรวจเช็คระดับนมผิดปรกติและเช็คฝา ทำความสะอาดตัวเองได้ (คล้ายๆ เครื่องล้างรถอัตโนมัติประมาณนั้น) ขนาดของเครื่องก็ประมาณบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ ซักหลังสองหลัง ราคาของเครื่องไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด (เพราะยังไม่ได้ถาม) สำหรับ Krones 2 จะใช้บรรจุนมขวดขนาด 200 ml สามารถบรรจุนมได้ 36,000 ขวดต่อชั่วโมง (เร็วมากจนเหลือเชื่อ ในระดับที่ไม่สามารถเอามือหยิบขวดที่กำลังไหลออกจากเครื่องบรรจุได้โดยไม่ให้แถวมันล้ม) มีระบบล้างขวดอัตโนมัติก่อนบรรจุ เครื่องใส่ฟอยด์ เครื่องซีลฟอยด์ ตรวจเช็คระดับนมและการปิดฝาฟลอยด์ทุกขวด ที่ท้ายไลน์มีการจัดเรียงนมเข้าลังด้วย Robot ทำความสะอาดตัวเองได้ ขนาดของเครื่องประมาณบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ สามสี่หลังมาต่อกัน ราคาของเครื่องประมาณ 200 ล้านบาท นมพาสเจอร์ไรส์ขนาดขวด 200 ml, 450 ml และ 830 ml สามารถหาดูและซื้อทานได้ที่ 7-Eleven แทบทุกสาขาครับ
AVE เครื่องบรรจุนมแบบแกลลอนขนาด 2 ลิตร เป็นเครื่องใหม่ที่สั่งมาจากอิตาลี สามารถบรรจุนมได้ 3,000 แกลลอนต่อชั่วโมง มีระบบล้างแกลลอนอัตโนมัติก่อนบรรจุ มีเครื่องติดสติกเกอร์ที่แกลลอนแบบอัตโนมัติ ปิดฝาอัตโนมัติ ห้องที่เป็นห้องของเครื่องบรรจุนี้ก็เป็นระบบกึ่ง Clean Room เป็น Positive Air คืออากาศจะถูกเป่าออกด้านนอกห้องตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้มีเศษฝุ่นหรืออะไร เข้ามาในห้องได้ รวมถึงระบบการบรรจุแบบ ESL (Extend Shelf Life) เพื่อให้สามารถเก็บนมได้นานขึ้นกว่าปรกติ ราคาของเครื่องประมาณ 100 ล้านบาท นมพาสเจอร์ไรส์ขนาดแกลอน 2 ลิตร สามารถหาดูและซื้อทานได้ที่ 7-Eleven แทบทุกสาขาครับ ส่วนใหญ่ตาม 7-Eleven จะมีแต่รสจืดธรรมดาครับ ถ้าตามห้างอาจจะมี Low Fat, Non Fat, Cocoa ด้วย
Gable Top เครื่องบรรจุนมกล่องกระดาษขนาด 450 ml และ 946 ml สามารถบรรจุนมได้ 3,000 กล่องต่อชั่วโมง ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ในห้องบรรจุเย็นมาก (ไม่เกี่ยวนิ) ใช้บรรจุ Whipping Cream แบบกล่องด้วย ในเครื่องมีระบบขึ้นรูปกล่อง และซีลกล่องด้วยความร้อน ราคาไม่ทราบแน่ชัด แต่คงราคาไม่สูงมากเท่าไหร่ นมกล่องกระดาษขนาด 450 ml และ 946 ml สามารถหาดูและซื้อทานได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป (เซเว่นไม่มี) จะมีรสจืด, Low Fat, Non Fat, Meiji-O และ Premium รวมถึง Whipping Cream ครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 กันยายน 2009 | 08:57:12 AM โดย คุณหนูนางิ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2010 | 06:39:29 PM » |
|
วันนี้ได้มีโอกาสเขียนเนื้อเพลงบ้าง หลังจากที่ไม่ได้แตะมานาน (คราวนี้ได้อิทธิพลมาจาก Opeth เต็มๆ) Her Demonic HeirloomLyrics by: Lilium Obsessed Linger her nails along parched hairs Possessed Ripping inside the impured womb Abscessed Scratching the wound until bursting bleed Suppressed Demonic heirloom still cursing her breaths Broken and torn, buried for lovelorn, under the blackest pond Smokeskin swans, drakes and worms, swarming illusive corpse Negation, delegation The skeleton key to unlock ghosted mind from yesterworld *Swimming the ancient lake Wandering around the vultures cage Comb her hair down the awkward stream The demons still creeping her broken dreams Infested Worms splattered out the sinner's mouth Infected Inherited diseases from darkwater's edge Inflected The centipedes will guide her wicked ways Infuriated Black firestorm will burnt her haloed eyes down (*) **Lavenders and sediments Her beauty is her life-expensed A veil of maya revealed the scenes of death The truth is only a tearful decadence (**)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กุมภาพันธ์ 2010 | 06:42:31 PM โดย Lilium™ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2010 | 07:28:32 PM » |
|
A Night for All
Lyrics by: Lilium
One night for all, you deserve this thing To walk along the park, talking with willow winds The hours to come, one by one they walk into The nightmist town, they're all around
They're all seems diffrent, but same intention Nowhere to go but searching for illusion Fumbling in the dark, with blinded remarks With no begging for the sparks
*Whispering, the drone of the night It's invisible flight Showering, night rain over fire It's the endless flight Strowing, black seeds of vengeances It's the distant flight Drowning, down the core of pain It's our deepest flight
...Deep into the death of the night...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2010 | 02:08:41 AM โดย ▲∇ 1 i 1 i u m ∇▲ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Layla F Mulder
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2010 | 07:58:54 AM » |
|
'Tiny Dot' Written by Agent Fox Mulder on July, 03 2010
Where did it begins I don't know As you take all my heart and soul Still unclear I could not show Some of them really don't know And the world is turning slow Need to clarify what's in my heart Although it's hard for me to take
Let my heart sings, let the churchbells ring Everything turns into blue Kind of love is always true
Just a tiny dot in your picture Never fullfill your dream or any colour Wish I have no heart, so it won't break Wish I couldn't start, so I won't found any mistake
When the sun rises, my hope shines As you always keep me satisfy Since the bird fly, the wind is high See your love show, may make me blind And could you please don't deny Need you to walk by Anytime with me
Let my soul rolls, let the grass grows Even if the sky so bright Kind of truth is always blue
Just a tiny dot in your picture Never fullfill your dream or any colour Wish I have no soul, so I won't feel pain Wish I don't see your smile, so you won't pass me by
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2010 | 08:05:31 PM » |
|
Kali Yuga
Lyrics by: Lilium
In the shade of grey, it's a tone of your day Watching out the races, there's hatred filled the airspace Attitude flies, through one's life
Everywhere you go, like they said so There's violence, bullets shot the sky Battle sites, rotten rice, tortures devices, metropolis vice And when your God rolled the dice Then you'll lost the prices of your life
Hierarchy burns all the vital cards to be turned No life to return, from the parliament til' the birch And now I see, now I find
Everywhere I go, like they said so There's nothing left, but ruins to rule Lord of fools, bloodbath afternoon, screechy monsoon, science of doom Is there anyone to pay the price? When you're letting the blind guide your life
Send our messages to star, tell the heaven we've gone far Living earth likes a graveyard, all the power's fuckin' retarded All turns to dust, dust to dust....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กรกฎาคม 2010 | 08:07:51 PM โดย ((((l i l i u m))))™ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|