ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149687 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

05 พฤษภาคม 2024 | 07:42:02 PM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgOutside The Wall10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ  (อ่าน 102270 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไอแอมตองสาม
Close To The Edge
******
กระทู้: 1492


aka TONG MAYER


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2009 | 02:45:57 PM »

1.The Beatles - Help!
2. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon
3. Eric Clapton - Unplugged
4. John Mayer - Continuum
5. Simon & Garfunkel - Bridge Over Troubled Water
6. Michael Jackson - Thriller
7. Dire Straits - Brother In Arms
8. Coldplay - Viva La Vida
9. Michael Jackson - Thriller
10. Boston - Boston

 ยิงฟันยิ้ม

6. Michael Jackson - Thriller
9. Michael Jackson - Thriller

ซ้ำกันครับ  ยิ้มกว้างๆ

อันที่ 2 อาจจะเป็นเวอร์ชั่นฉลองครบ 25 ปี 55

แก้แล้วนะครับ อายจัง  ขยิบตา
บันทึกการเข้า

ขออภัย ต่อไปจะไม่ล่้วงเกิน.
Life Seeker
Selling England By The Pound
**
เพศ: ชาย
กระทู้: 140



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2009 | 12:33:29 AM »

1.  The Wall - Pink Floyd
2.  Close to the Edge - Yes
3.  Appetite for Destruction - Guns N' Roses
4.  A Night at the Opera - Queen
5.  Wish You Were Here - Pink Floyd
6.  Selling England by the Pound - Genesis
7.  OK Computer - Radiohead
8.  Led Zeppelin IV - Led Zeppelin
9.  Black Holes and Revelations - Muse
10.  Art of Life - X Japan
บันทึกการเข้า

The poet and the painter casting shadows on the water as the sun plays on the infantry returning from the sea.
kerenski_t
In The Court Of The Crimson King
*
เพศ: ชาย
กระทู้: 57



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: 12 สิงหาคม 2009 | 07:24:50 PM »

1.Pinkfloyd - Dark Side Of The Moon(24 year ago)
Produce By Pinkfloyd
Recorded at Abbay Road Studio,London
Between June 1972 and January 1973 อัลบั้มนี้เกิดก่อนผมประมาณ 10 เดือน(หลังจากบันทึกเสียงเสร็จ January 1973)  ผมได้ฟังหลังจากนั้นมาประมาณ 12 ปี แต่เนื่องจากความเป็นเด็กทำให้ยังเข้าไม่ถึง.............ฟังแล้วชอบ..แต่ก็ไม่ซาบซึ้งกับอัลบั้มนี้เท่าไรนัก
2.Pinkfloyd - The Wall... (24 year ago)
3.Metalica - Kill 'em all (23 year ago)
4.Marillion -  Misplaced childhood..เป็นอัลบั้มแรกๆที่ทำให้ผมหันมาฟัง Prog อย่างจริงๆจังหลังจากอยู่กับ metal มานาน(15 year ago)
5.Pendragon -  The World (15 year ago)เป็นความต่อเนื่องจาก(4.)
6.Dream Theater -  Images and words(15 year ago)
7.Shadow Gallery -  Shadow Gallery(15 year ago)
8.Enigma - The Cross Of Changes(15 year ago) ผลพวงในอิทธิพลของสื่อจากสิ่งที่เราเรียกว่ามิวสิควีดีโอ และ ขอบคุณพี่มาโนช พุฒตาลสำหรับ การเปิด MV สวยๆในเพลง The Eyes Of Truth
9.Blind Guardian - Imaginations From The Other Side(13 year ago) ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งความรู้สึกก็ยังคงเหมือนกับได้ฟังเป็นครั้งแรกเสมอ...และจำได้ว่าเงินเดือนแรกของชีวิตการทำงานออก...ก็รีบไปซื้อ CD ชุดนี้ทันที
10.Arena - Songs From The Lion's Cage(12 year ago)
บันทึกการเข้า
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 12 สิงหาคม 2009 | 08:33:11 PM »

ดูเหมือนอัลบั้ม The Wall จะเป็นที่ผูกพันธ์ของหลายๆคนเลยนะครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Not.Now.John
Fragile
***
เพศ: ชาย
กระทู้: 381


Philosophy


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2009 | 07:26:25 PM »

10เพลงที่ผูกพัน ทรงอิทธิพลที่สุดเหรอ
1.daniel powter-daniel powter 6 years
เพลงfree loop เป็นเพลงที่ผมสามารถเล่นโชว์ในงานได้ตลอด  และเป็นอัลบั้มแรกที่ตัดสินใจซื้อเอง

2.helloween-keeper of the seven keys part1  5 years
อัลบั้มmetalอัลบั้มแรกที่ซื้อมาจากฟิวเจอร์รังสิต   อัลบั้มที่ผมหลงใหล และหวงแหนที่สุดของผม

3.green day-dookie 4 years
ผมรู้จักกรีน เดย์ ครั้งแรกตอนได้ดูmv basket case  เป็นpower chord ที่เท่มากๆ  อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ทำให้ผมตั้งวงกับเพื่อนด้วย

4.yes-the ladder 4 years   
อัลบั้มprogressive อัลบั้มแรกที่ได้ฟัง  หลังจากได้คอนเสิร์ทที่ house of blueของyes มาจากอาจารย์ซึ่งตอนท้าย
มีเพลงhomeworld ที่ใช้เกมเป็นmvประกอบแล้ว  วันหนึ่ง  ไปเดินที่ฟิวเจอร์ เจอร้านขายแผ่นมีthe ladderพอดี  ควักเงินตลอดอาทิตย์ไปซื้อหมดเลย

5.queen-the day at the race  4years
ถึงไม่มีแผ่นแท้ผมก็ยังรักอัลบั้มนี้มาตลอด  somebody to love เป็นเพลงที่จะต้องฟังทุกครั้งเมื่อเปิดmp3  ถึงแม้ช่วงนี้จะเอียนแล้วก็เถอะ

6.George gershwin-rhapsody in blue 3 years
ฟังครั้งแรกจากdisney 2000 ตอนนั้นไม่รูจักเพลงนี้หรอก  แต่เป็นเพลงที่มีทำนองติดหูมาตลอด6ปีจนได้รู้ชื่อเพลงจากnodame

7.original soundtrack tarzan (disney)2years
8.original soundtrack mulan (disney)2years
9.bon jovi-crossroad          1years
10.pink floyd final cut         1years
 
บันทึกการเข้า

ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #35 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2009 | 08:09:53 PM »

อ้างถึง
1.daniel powter-daniel powter 6 years
เพลงfree loop เป็นเพลงที่ผมสามารถเล่นโชว์ในงานได้ตลอด  และเป็นอัลบั้มแรกที่ตัดสินใจซื้อเอง

อัลบั้มนี้รีลีสเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่ใช่เหรอครับ  ฮืม
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
JM-Sarn
Phi
Close To The Edge
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 1340


โฮมุ Homu ほむ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2009 | 08:56:52 PM »

10เพลงที่ผูกพัน ทรงอิทธิพลที่สุดเหรอ
1.daniel powter-daniel powter 6 years
เพลงfree loop เป็นเพลงที่ผมสามารถเล่นโชว์ในงานได้ตลอด  และเป็นอัลบั้มแรกที่ตัดสินใจซื้อเอง

งานอะไรเหรอครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 สิงหาคม 2009 | 09:17:42 PM โดย JM-Sarn » บันทึกการเข้า







Forget the power of technology and science, for so much has been forgotten, never to be re-learned. Forget the promise of progress and understanding, for in the grim dark future there is only war. There is no peace amongst the stars, only an eternity of carnage and slaughter, and the laughter of thirsting gods. - Warhammer 40,000 Universe
62140
In The Court Of The Crimson King
*
กระทู้: 10


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #37 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2009 | 10:22:33 PM »

iron maiden - live after death
ชรัส - แมลงปอ
scorpion- tokyo tape
queen- jazz
omd- crush
style council - cafe blue
eagles - lives
henry mancini - hangin out with henry mancini
the cure -wish
howard jones= human's lib

ปีเฉลี่ย 20+
บันทึกการเข้า
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2009 | 08:34:00 PM »

ขออภัย โพสต์ผิดกระทู้  ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 ตุลาคม 2009 | 05:47:36 PM โดย polotoon » บันทึกการเข้า

kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 04:51:43 PM »

1 Pink Floyd - The Wall
2. Travis - The Man Who
3. Bee Gees - One Night Only
4. The Beatles - Abbey Road
5. Oasis - Definitely Maybe
6. U2 - The Joshua Tree
7. Led Zeppelin - IV
8. Peter Gabriel - 3
9. Roger Waters - Amused To Death
10. Pink Floyd - Dark Side Of The Moon
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 ตุลาคม 2009 | 07:49:10 PM โดย kongbei » บันทึกการเข้า
winston
The Dark Side of the Moon
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 1016


Imagine there's no stairway to heaven


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #40 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 06:21:45 PM »

1 Pink Floyd - The Wall
2. Travis - The Man Who
3. Bee Gees - One Night Only
4. The Beatles - Abbey Road
5. Oasis - Definitely Maybe
6. U2 - The Joshua Tree
7. Led Zeppelin - IV
8. Peter Gabriel - 3
9. Roger Waters - Amused To Death


เอาให้ครบ 10 สิครับ หรือว่า The Wall นับ 2?
บันทึกการเข้า

Facebook group สำหรับคนรักเพลงทุกรูปแบบ.....

http://tinyurl.com/allmusiclovers
winston
The Dark Side of the Moon
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 1016


Imagine there's no stairway to heaven


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 06:33:07 PM »

555 จำไม่ได้ว่าตอบกระทู้นี้ไปหรือยัง และขี้เกียจกลับไปค้น ตอบใหม่ด้วยอารมณ์ตอนนี้ดีกว่า

1.The Beatles/1962-1966 เพราะเป็นเทปม้วนแรกที่ซื้อ และเป็นเพลง pop-rock ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยฟังมาจนทุกวันนี้

2.The Beatles/Abbey Road จุดบรรจบของฝีมือและไอเดียของสี่เต่าทอง

3.Art Pepper Meets The Rhythm Section การบันทึกเสียงที่สมจริงจนน่าขนลุก อิมโพรไวส์กำลังงาม ชอบทั้งเสียงแซ็กของอาร์ทและเสียงกลองของฟิลลี่โจโจนส์

4.Pink Floyd/Dark Side Of The Moon มันไม่ใช่อัลบั้ม มันคือชีวิต

5.Derek and the dominos/Layla กวีจะเขียนกลอนได้ไพเราะที่สุดยามผิดหวังในรัก เฉกเช่นเดียวกับนักกีต้าร์บลูส์จะกรีดสำเนียงสะท้านทรวงที่สุดก็ตอนอกหัก(และติดยา)นี่ล่ะคร้าบ

6.Quartetto Itlaiano/Beethoven-The Late Quartets ความยิ่งใหญ่ของดนตรีคลาสสิกกับเครื่องดนตรีแค่สี่ชิ้นที่เต็มไปด้วยฝีมือและปฏิภาณโดยไม่ต้องมีผู้นำวง

7.Led Zeppelin-BBC Sessions ดิบสดด้วยพลังหนุ่มของราชันย์แห่งดนตรีเฮฟวี่ตลอดกาล ไม่สมบูรณ์แน่นอนแต่สะใจ(ว่ะ)

8.The Yes Album แม้จะไม่มีริค เวคแมน แต่เพลงชุดนี้สุดขีดจริงๆครับ

9.Eagles Their Greatest Hits 1971-1975 รวมฮิตแค่ 10 เพลง แต่คุณภาพหายห่วง ฟังได้ทุกสถานการณ์ไม่มีเบื่อ

10.Michael Jackson-Thriller มันมีดีกว่าคำว่า"เบสต์ เซลเลอร์" นัก
บันทึกการเข้า

Facebook group สำหรับคนรักเพลงทุกรูปแบบ.....

http://tinyurl.com/allmusiclovers
kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 07:47:10 PM »

1 Pink Floyd - The Wall
2. Travis - The Man Who
3. Bee Gees - One Night Only
4. The Beatles - Abbey Road
5. Oasis - Definitely Maybe
6. U2 - The Joshua Tree
7. Led Zeppelin - IV
8. Peter Gabriel - 3
9. Roger Waters - Amused To Death


เอาให้ครบ 10 สิครับ หรือว่า The Wall นับ 2?

จริงๆใส่ไป 10 แล้วครับ ชุดที่ 10 คือ Mike Oldfield - Ommadawn แต่มาแก้ไขทีหลังครับ คิดว่ายังไม่ใช่พอ
บันทึกการเข้า
Toptopo
In The Court Of The Crimson King
*
เพศ: ชาย
กระทู้: 43


thom237@hotmail.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 09:10:09 PM »

1.Radiohead - The Bends (1995)



ผมว่านี่เป็นงานที่ใครอยากเริ่มฟัง Radiohead เพลงไม่ต้องปีนบันไดฟังยากจนเกินไปอย่าง ok computer หรือช่วงหลังจากนั้น คุณต้องการเพลงมันส์ๆ เพลงซึ้งๆ ร๊อคตลาดแตก หรือ เพลงช่างคิดที่เริ่มต้นในชุดนี้ แล้วคำพูดที่เคยมีคนดูถูกพวกเค้าว่า "พวกมันดับแน่ เพราะไม่มีเพลงอย่าง creep" นั้นจะกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะทันที

street spirit (fade out) คือเพลงที่แสดงอารมณ์ล่องลอยของคุณพี่เท่ง เถิดเทิง thom yorke ได้ถึงพริกถึงขิงที่สุดจากชุดนั้น


2.Small Faces - Ogden's Nut Gone Flakes (1968)



concept อัลบั้มงานชิ้นสุดท้ายของทางวงโดยไม่ตั้งใจ เมื่อพบว่าเวลาเล่นในแผ่นเจ๋งมาก อัลบั้มก็ขึ้นอันดับ 1 uk charts ทั้งเงินทั้งกล่องประเคนมาให้ถึงสี่หนุ่มวง"หน้าเล็ก"  

แต่พอนำเพลงเหล่านั้นไปเล่นสดกับเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะเล่นออกมามันช่างซับซ้อนสับสน  จนทำให้ steve marriott นักร้องนำ-มือกีต้าร์ ลาออกจากวงไปในที่สุด พวกเค้าเปิดอัลบั้มด้วยเพลง power ballad ยุคแรกๆของโลกดนตรีร๊อค อย่าง "afterglow (of your love)" แค่เสียงท่อนร้องว่า Love Love is all around me Everywhere Love has come to touch my soul With someone who really cares ก็ละลายใจแล้ว

หรือเพลงอย่าง lazy sunday afternoon ในแนว psychedelic pop ด้วยเสียงร้องสำเนียง cockney เชิงเล่าเรื่อง และหน้า side b ที่เป็นงาน concept psychedelic rock เพลงกึ่งนิทานกับการผจญภัยของ happiness stan ให้เสียงบรรยายโดย stanley unwin ดาราตลกอังกฤษชื่อดัง happiness stan ผู้กำลังหาคำตอบว่าทำไมดวงจันทร์เหลือครึ่งเดียว แล้วถ้ามันเหลือครึ่งเดียวความสุขจะหายไปด้วยมั้ย  

3.Badfinger - Wish You Were Here (1974)



อัลบั้มที่กลับมาท๊อปฟอร์มอีกครั้งของ badfinger และชุดสุดท้ายที่วางแผงขณะ pete ham ยังมีชีวิตอยู่

ช็อตเด็ด อยู่ที่ in the meantime, some other time ที่โชว์ลีลา symphonic rock ย่อยๆ น้องๆ elo อย่างไรอย่างนั้น และบทเพลงที่ฟังแล้วฮุกโดนคุณแน่ๆ อย่าง know one knows

น่าเสียดายอัลบั้มชุดนี้นำพาไปสู่โศกนาฏกรรมเสียแทนที่จะเป็นความสำเร็จอย่างที่วงที่ทุ่มเท่ควรจะได้




4.Primal Scream - XTRMNTR (2000)



หากมีคนถามว่า เพลงเต้นรำ สังวาสกับ ร๊อคแอนด์โรลล์ ดิบๆ จะเกิดลูกออกมาเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้คือ primal scream

แม้ทางวงจะมาถูกหวยกับเพลงแนวเต้นรำก็ปาเข้าไปชุดที่ 3 อย่าง screamadelica เข้าไปแล้ว แต่ชุดที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขานำดนตรี electronica รากแตก ผสมกับ ดนตรี hard rock ดิบๆ แรงๆ ผลที่ได้คือ อัลบั้มชุดนี้ของทางวง

ด้วย content เนื้อหาที่เอียงไปทางการเมืองสุดกู่ยิ่งกว่าชุดไหน ว่าด้วยคอนเสร็ปของการ เอารัดเอาเปรียบและกดขึี่ของ ผู้มีอำนาจทางการเมือง และ ทรราชย์ ด้วยเนื้อหาเคร่งเครียดผิดวิสัยขี้เหล้า เมายา ไม่สนโลก อันเป็นภาพลักษณ์ของทางวง แต่นี่ล่ะคืองานเข้มๆ โดนๆ ยิ่งกว่างานชุดไหนจะให้ได้จาก primal scream อีกสองปีถัดมาทางวงกลับมาอีกครั้งว่า ด้วยเรื่องการก่อการร้าย และความหวาดกลัวของโลกหลังเหตุการณ์ 11 กันยา ใน evil heat

ว่ากันว่า ถ้า john cale ได้ฟังงานชุดนี้เขาคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปนเหน็บ ว่า "ไอ้พวกเวรตอนกูทำแบบนี้เสือกมาด่ากูดีนัก แหมต้องรอให้ถึง primal scream มาทำพวกมึงถึงจะ get สาดดด...."
5.Smashing Pumpkins - Siamese Dream (1993)



อัลบั้มชุดนี้เกิดขึ้นในภาวะความวุ่นวายของทางวง บิลลี่ คอร์แกนรับหน้าที่เล่นกีต้าร์เกือบทั้งหมดในชุดนี้ จึงเต็มไปด้วยเสียง noise reverb effect delay ของกีต้าร์จากฝีมือบิลลี่เกือบทั้งหมด เพราะ เจมส์ เกิดอาการติสต์แตก งอน ดีอาร์ซี่ มือเบสและแฟนสาวของวงในช่วงนั้นด้วย และ จิมมี่ แชมเบอร์ลิน เริ่มออกอาการจั่งซี้มันต้องฉีดเข้าเส้น

ทำให้งานโดยรวมดูรุนแรงเกรี้ยวกราดและบ้าคลั่ง ใส่ไม่ยั้งเหมือนคนระบายความอึดอัดในจิตใจ แม้แต่เพลงช้าอย่าง disarm หรือ soma ก็รู้สึกได้ตรงนั้น

แน่นอนไม่มีใครไม่พูดถึง single ฮิตจากชุดนั้นอย่าง cherub rock และ ที่ว่าการอำเภอ เอ๊ย! today ที่ทำให้คณะ ฟักทองเละ รู้จักไปทั่วโลก ความเกรี้ยวกราดใน silverfxxx / geek usa/ mayonaise (หนึ่งในไม่กี่เพลงที่ james ยอมเลิกงอแงลงมาช่วยขย่มขยี้ จับขึ้นค่อม guitar กับ billy)

 นั้นคงสามารถระบายความรู้สึกของตัวบิลลี่ ในช่วงนั้นได้ แต่ใครจะปฏิเสธว่านี่เป็นงานที่กลมกล่อม มันส์ๆ แรงๆ ที่ทางวงมอบให้ แม้จะไม่อลังการหรือเหมือนนี่มันพลังจักรวาลแล้ว อย่าง mellon collie...

6.The Innocent - ครั้งนี้ของพี่กับน้อง (1986)



หลายคนคงชอบงานที่ทางวงโชว์ฝีไม้ลายมือทางดนตรี ของ พี่ๆวง ดิ อินโนเซ้นท์ อย่าง "โลกใบเก่า" หรือ "10 นาฬิกา" มากกว่า แต่ผมคิดว่างานชุดนี้ดูละมุลและพอดีสำหรับทางวงที่สุด

ด้วยท่วงทำนองเพลงป๊อปยุค 80's ที่คาดว่าทั้งพี่สันและพี่โอม สองแกนหลักในการแต่งเพลงได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยในงานชุดนี้ โดยเฉพาะจากฝั่งอังกฤษและในเครือจักรภพ อย่าง housemartins, aztec camera, the pastels, colour field, air supply  หรือแม้กระทั่งงานเพลงไทยของ พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ที่พี่โอมเคยไปทำงานร่วมด้วย

ทำให้งานชุดนี้ อบอวลไปด้วยเสียงซินธ์และคีย์บอร์ด พาร์ทกีต้าร์ของพี่โอมในชุดนี้ไม่โชว์โซโล่หวือหวาเหมือนชุดก่อนหน้า (โลกใบเก่า)

กลับกลายเป็นว่าเป็นงานที่แฟนเพลงมหาภาคให้การต้อนรับดีที่สุดของทางวง เพลงทำนองไม่โชว์มากมายจนล้น แต่สัมผัสคล้องจองด้วยเนื้อร้องของพี่สัน และบทบาทการทำหน้าที่ร้องเพลงเยอะกว่าชุดใดของ พี่สายชล ระดมกิจ และชุดนี้นี่เองที่เป็นชุดแรกที่ทางวงไม่นำเพลงเก่าลูกกรุง ลูกทุ่ง มาร้องคัฟเวอร์ใส่เลย แสดงให้เห็นถึงการมองพิถีพิถันรักษาภาพรวมของอัลบั้ม

เพลง มือที่สาม น่าจะเพลงที่ได้เห็นการเล่น jam  ระหว่างกันของสมาชิกวงว่าฝีมือแต่ละคนเป็นอย่างไร

ป.ล. มีใครไม่ใจละลายบ้าง เมื่อเพลง "ฝากรัก" ถูกเปิดขึ้น  ยิ้มเท่ห์


7.Soulwax: Any Minute Now (2004)



Soulwax คือวงดนตรี alternative rock จาก เบลเยี่ยม นำโดยสองพี่น้องอาร์ทตัวพ่อ อย่าง stephen และ david dawaele หรือที่คอเพลงเต้นรำรู้จักพวกเขาในงาน side project ในชื่อ 2 many dj's ที่เปิดคอนเสิร์ตไปทั่วโลก ยกเว้นประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ไม่นับ สิงคโปร์

งานลำดับที่ 3 ที่ทิ้งห่างจากงานอัลบั้ม much against everyone's advices ถึง 5 ปี พวกเขากลับมาดนตรีในรูปแบบ electro rock ที่เต็มไปด้วยบีทเร้าใจอย่าง e-talking /any minute now/ miserable girl และเพลง dance punk  ที่ร้องแจมกับ nancy whang จากวง lcd soundsystem ใน ny excuse

พวกเขาออกอัลบั้มกันน้อยมาก 3 ชุดในรอบ 14 ปี ที่ออกผลงานกันมา เปลี่ยนสมาชิกวงกันทุกชุด มีเพียงสองพี่น้อง และ มือเบส stefaan van leuwen ที่เป็นแกนหลัก

เน้นไปที่แสดงสดมากกว่าและงาน remix ให้คนอื่น ถ้าเรียกพวกเขาว่าเป็น modern dog ของเบลเยี่ยมคงทำให้พวกคุณเห็นภาพชัดเจน การออกงานแล้วแต่อารมณ์ อ่องานทุกชิ้นของพวกเขาแนวเพลงเปลี่ยนทุกชุด ใครจะรู้เลยว่าชุดแรกของพวกเขา leave the story untold เป็นแนว grunge! และ produced โดย chris goss ผู้ปลุกปั้น queen of the stone age และ kyuss

8.ฤทธิพร อินสว่าง: ก้าวที่สอง (1989)



ก้าวที่สองของนักร้องนักแต่งเพลง ฝีมือดี หลังจากประสบความสำเร็จมากมาย จนเจ้าตัวถึงกับอึ้ง ในชุดก้าวแรก ที่มีเพลงอย่าง ใบไผ่ / เธอผู้ห่างไกล / เรือ ด้วยท่วงทำนองดนตรี hard rock และ folk rock

มาในงานชุดที่สอง ฤทธิพรกระโจนเข้าหาดนตรีร๊อคที่ตลบอบอวลด้วย synth และ progressive rock ในหลายๆเพลง จากฝีมือของกลุ่ม บัตเตอร์ฟลาย ในการเรียบเรียงดนตรี ทำให้ชุดนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของพี่บ๊อบเลยก็ว่าได้

power ballad ในคราบ synth rock อย่าง เพียงความหลัง/ ธุลี/ ด้วยรักและศรัทธา synth pop สนุกๆ ใน อกหักอีกต่างหาก/ เตลิด/ บางที บางครั้ง  ไปถึง progressive rock ที่ปุ้ม วงตาวัน โชว์ฝีมือการพรมนิ้วบน keyboard จนคุณต้องร้องสุโค่ย ใน เรือ ภาค 3

ใครบอกว่าพี่บ๊อบเป็นศิลปินแนวเพื่อชีวิต ผมขอเถียงเลย พี่เขาน่ะป๊อปร็อคเต็มสตรีมเลย และมาก่อนยุค เสก โลโซ

9.Sleeper 1: Difference Part 1 / Difference Part 2 (2005-2006)



นับตั้งแต่วงตาวัน กับ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ที่เคยสร้างงาน concept อัลบั้มออกมาเป็นรูปธรรมเราก็ไม่ค่อยเห็นใครสร้างงานลักษณะนั้นอีก จนการมาถึงของ เกรียงไกร วงษ์วานิช มือกีต้าร์วง friday กับงานเดี่ยวของเขาในนาม sleeper 1 ผลงานอัลบั้มเต็ม ลำดับ 2-3 ในเวลาไล่เลี่ยกัน

ใช่แล้วมันเป็นอัลบั้มคู่ ที่ว่าด้วยความแตกต่าง เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของหนุ่ม สาว แปลกหน้าคู่หนึ่ง ที่บังเอิญมาพบกันในลิฟท์ และมีภูมิหลังของความต่างทางด้านกายภาค (ฝ่ายชายมีหัวใจทั้งสองข้าง!)

ฝ่ายหญิงเธอเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก และ ไม่มีหัวใจ (ในด้านกายวิภาค) อยู่ในตัวเธอเลย อันส่งผลต่อความรู้สึกของเธอด้วยที่เคว้งคว้าง ตามแบบฉบับคนในเมืองหลวง

เพลงโดยรวมอยู่ในโทน alternative rock และ indie pop แต่ผูกเรื่องราวในแบบดนตรี progressive rock

ผมว่านี่เป็นงานอาจจะฟังยากกว่าชุดที่แล้วของเขาใน sleeping letter แต่ด้านเนื้อหากลับมองเห็นและดูเป็นรูปธรรมกว่าเข้มข้นกว่า งานชุดแรก

จะผิดอะไรมั้ย ผมว่า ถ้า roger waters (พ.ศ.นี้ ที่แอ้บแบ้วเหลือเกิน) ทำงานอัลบั้มกับ cornelius โดยเขียนเพลงออกมาจากแรงบันดาลใจนิยายรัก ของ haruki murakami ผลที่ได้ออกมาก็เหมือนงานชุดนี้นี่เอง....(กรุณาทำเสียงแบบรายการ tv champion)
10.Cornelius: 69/96 (1995)



cornelius หรือ keigo oyamada กับผลงานชุดที่สองของเขา ที่ออกมาในปลายปี 1995 โดยได้แรงบันดาลใจจากบรรยากาศในหนัง cults ตระกูล roger corman และค่าย toho บวกกับเพลง hard rock กระแทกใจในวัยเด็กของเค้าที่ได้อิทธิพลมาจาก led zeppelin, black sabbath, bloodrock, ac/dc ทำให้เกิดงานชุดนี้ขึ้นมา

เสียง sampling จากหนังยุค 70's แขกรับเชิญชั้นอ๋องอย่าง jimmy pages ในเพลง 69 girl meets cassette หรือ hide แห่ง x-japan ที่มาโชว์ลีดกีต้าร์แจมร่วมกับ cornelius ในเพลง heavy metal thunder ก็แทบจะร้องว่าสุโค่ย แล้ว และแสดงให้เห็นว่า cornelius สนใจ sound noise sampling และดนตรีที่ไม่จำกัดขอบเขตในความสนใจเขา ก็มาจากชุดนี้

อ่อ cornelius มีชื่อเสียงก่อน ตา beck hensen จะออกอัลบั้มเสียอีก ตั้งแต่สมัย flipper's guitar ดังนั้นใครบอกว่า cornelius รับอิทธิพลมาจาก beck  นั้น ผิดอย่างแรง!!!!!!!

ตัดใจ:

อัสนี-วสันต์: บ้าหอบฟาง (1986)





งานที่แฟนเพลงของสองพี่น้องที่ราบสูงถวิลหา ในวันที่อัสนี เสียงยังไม่ร้องยานคางมาก และไม่ค่อยเน้นเนื้อหาจิ๊กโก๋ อกหัก ยกเว้นเพลง บอกแล้ว

แต่งานในชุดนี้เต็มไปด้วยการตั้งกระทู้ถามสังคม และ วิพากษ์มากกว่า
เช่น พฤติกรรมคนอวดรำ่อวดรวย ใน บ้าหอบฟาง
 การสู้ชีวิตของคนต่างจังหวัดใน เพลงของเขา
เพลงไทยสากลเก่าๆ ฝีมือการเขียนของ ครูผี-อัสนี พลจันทร์ ใน "เดือนเพ็ญ" ที่พี่ป้อมเรียบเรียงเพลงไทยสากลเนิบๆ เพลงนี้ ให้กลายเป็นเพลง power ballad ทรงพลัง ประสานกับ chorus หญิง คู่บุญ อย่าง สีส้ม-สีฟ้า ที่ฟังแล้วทำเอาขนลุกกว่าเวอร์ชั่นไหนๆ

หรือ เพลงที่กำลังบอกว่าอย่าลืมสิ่งดีๆ ที่เราหลงลืมไปแล้ว อย่าง น้ำเอยน้ำใจ  แต่ผมขี้เกียจมาถูกเยาะเย้ยถากถางว่า เพลงไตเติ้ลแทร็คทำนองไปพ้องกับเพลงของวง yes เหมือนแฟนเพลงของ สองพี่น้องที่ราบสูง นี่ มีกรรมไปหมด เขียนชมก็ว่า...ว่าฟังเพลงไม่มีการพัฒนา เฮ้อ


ทั้งหมดนี้มันมีสรรพคุณเป็นเช่นนั้นผมถึงหลงรักมัน และ เหมือนมันมีเรื่องราวและชีวิตอยู่ในอัลบั้มนั้นๆ ด้วย

ป.ล. ว่าจะเขียนใหม่ดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 ตุลาคม 2009 | 09:57:53 PM โดย Toptopo » บันทึกการเข้า
horizoner
In The Court Of The Crimson King
*
เพศ: ชาย
กระทู้: 13



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #44 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2009 | 12:35:25 AM »

สวัสดีครับ
ประเดิมโพสแรก ขอร่วมแจมด้วยคน


10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต

1. Enigma - The Cross Of Changes

อัลบั้มที่ 2 จากชายลึกลับ
เสียงสวดมนต์ บนบีทแบบ electronic ผ่าน reverb จนฉ่ำ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวได้อย่างประหลาด
ได้ฟังอัลบั้มนี้เป็นเทปที่ก๊อปมาจากเพื่อนอีกที ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย
เพลงที่ยังนึกถึงเสมอ Return to Innocence, Silent Warior, The Dream of the dolphin


2. DaftPunk - Discovery

อัลบั้มที่โผล่มาท่ามกลางกระแส cut&paste ของดนตรี electronic ช่วงปี 2000
ด้วยลูกเล่นตัดต่อยำชิ้นส่วนเพลงของชาวบ้านมาเป็นเพลงของตัวเอง

เทคนิคการตัดคำพูดเป็นคำๆแล้วเอามาเรียงกันเป็นท่วงทำนอง ในเพลง Harder, Better, Faster, Stronger
คือเพลงที่เด็ดที่สุดเท่าที่ DaftPunk เคยทำมา ส่วนตัวผมยกเพลงนี้ขึ้นหิ้งไปแล้ว



3. Babble - Ether(1996)

การทดลองทำเพลง electronic ผสมทำนอง world music ของ 2 สมาชิกวง Thomson Twins
นอกจากกลิ่นโรตีที่คุณจะได้จากอัลบั้มนี้แล้ว ส่วนของ sound ทำออกมาได้ลอยๆหลอนๆดีทีเดียว



4. เอกรงค์2 - จิรพรรณ อังศวานนท์/สินนภา สารสาส

ผลงานของคนไทยที่คุณยกไปเทียบกับต่างชาติได้แบบไม่อาย
เป็นผลงานรวมเพลงประกอบจินตลีลา "นิพพานอิเลคทริค"
และ เพลงประกอบการวาดภาพ โดย อ.ประเทือง เอมเจริญ ชื่อ "ปรากฏการณ์"
เป็นงานที่ผสมผสานศิลปะหลายๆแขนงเข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นงานทดลองโดยแท้จริง
ส่วนของ "นิพพานอิเลคทริค" ภาคดนตรีเป็น progressive rock ที่มีกีตาร์และ synthesizer เป็นตัวเอก
บวกกับเสียงร้องทรงพลังของ พัชรา ดิล่า
"ปรากฏการณ์" แบ่งอารมณ์เพลงเป็นช่วงๆ คลอด้วยเสียง cello ไล่เรียงอารมณ์ ขมวด
และคลี่คลายที่ flight ซึ่งเป็นการปิดท้ายที่สมบูรณ์มาก เพลง flight อุดมไปด้วย odd time signature แต่ฟังลื่นใหลมาก

ปล.แผ่นตีตรา sony
screen ที่แผ่นว่าใช้เทคโนโลยี SBM (Super Bit Mapping) เสียงที่ฟังมีรายละเอียดดีมาก
แต่สกรีนแผ่นบางมากครับ ขนาดผมเก็บไว้แทบจะไม่แตะแผ่นต้นฉบับ มันยังลอกเลย เสียดายมาจนทุกวันนี้  ร้องไห้



5. พราย - เจ้าหญิงแห่งดอกไม้ เจ้าชายแห่งทะเล

อัลบั้มคู่ ของชายที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมากที่สุดคนนึง ทั้งมุมมองของขบถ และความเศร้าของชีวิต



6. สุรสีห์ อิทธิกุล - คนดนตรี

อัลบั้มที่แม่บอกให้ซื้อ  ยิงฟันยิ้ม  และน่าจะเป็นอัลบั้มแรกที่ควักตังซื้อเอง
จากที่เคยฟังแค่เพลงโปรโมทอย่าง ปราสาททราย, ต้นไม้, ตะเกียง
เมื่อวันคืนผ่านไปผมกลับพบว่า เพลงอื่นๆในอัลบั้มก็มีความไพเราะและมีความหมายดีๆแฝงไว้มากมาย



7. DreamTheater - Images and Words

อัลบั้มแรกๆที่เปิดโลกทัศน์ของผมเกี่ยวกับดนตรี progressive
อัลบั้มที่ถูกเพื่อนท้วงติงว่า เพลงอะไร เล่นก็ไม่ยอมเล่นให้จบ (ไม่สนเว๊ย ตรูชอบของตรู)
อัลบั้มที่มีส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดระหว่างความหนักแน่นของ rock และความมี melody ที่ลื่นใหล



8. Mike Oldfield - Discovery

เป็นศิลปินที่ผมฟังงานต่อเนื่องมากที่สุด และได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของผลงานจาก progressive rock เปลี่ยนแปลงไปจนเป็น newage
ตัดสินใจเลือกอัลบั้มนี้ มากกว่าอัลบั้มยุคหลังที่เป็น newage เพราะชอบเพลง และเสียงกลองของ Simon Philips



9. Angra - Holy Land

แค่อัลบั้มที่ 2 พวกเค้าก็โชว์ความเจ๋ง ด้วยการจับเอาจังหวะแบบลาติน มาผสมกับ Melodic Metal
เกิดเป็นเพลง Melodic Metal ที่มีเครื่องเคาะกระฉึกกระฉักแบบลาตินได้ไงไม่รู้



10. Vangelis - Voice

ราบเรียบ และสงบเสงี่ยม บทเพลง Ask The Mountains ฟังดูนุ่มนวล และเศร้าสร้อยจริงๆ




อัลบั้มที่ถูกคัดออก

1. Various - Path: An Ambient Journey from Windham Hill

ถูกตัดออกไปตามกฎอย่างน่าเสียดาย เพราะผมหาอัลบั้มของแต่ละศิลปินในนั้นไม่ได้
บทเพลง The White Spirit ของ Uman เป็นอีกเพลงที่ผมได้อะไรหลายอย่างในแง่เสียงจากมัน

2. วงตาวัน - 12ราศี

เป็นอัลบั้มที่เมื่อก่อนฟังบ่อยมาก

3. Jarre.................
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery