ความจริงแล้วชุด Damnation ก็ไม่ไ่ด้ 70's จ๋าขนาดนั้นหรอกนะครับ แต่เพลงก็นุ่มนวลเพราะทุกเพลงเลย (ได้บรรยากาศคล้ายๆ Porcupine Tree เหมือนกันครับ)
ขอลองสรุปลักษณะเด่นของแต่ละอัลบั้มไว้ตรงนี้เลยนะครับ
ยุคแรกOrchid - มีความเป็นเดธเมทั่ลค่อนข้างมาก แต่ก็ฟังดูไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไปนัก และมีเพลงยาวเกินสิบนาทีถึงสี่เพลงด้วยกัน (มีอีกเพลงที่ยาวเฉียด 10 นาทีไปนิดเดียว) รวมทั้งโครงสร้างของบทเพลงก็ค่อนข้างซับซ้อนและมีความเป็นโปรเกรสสีฟสูงมาก เรียกว่าค้นพบซาวนด์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ตั้งแต่อัลบั้มแรกเลยทีเดียว
Morningrise - ชุดนี้เริ่มมีการใช้เสียงร้องคลีนมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเป็นอคูสติกหมองเศร้ามากขึ้นอีกด้วย ไฮไลท์อยู่ที่มหากาพย์ Black Rose Immortal ที่มีความยาวกว่ายี่สิบนาที ทั้งโหดร้าย สวยงาม และหมองเศร้า ส่วนเพลงปิดท้ายอัลบั้มอย่าง To Bid You Farewell ก็เป็นอคูสติกบัลลาดอันไพเราะที่ได้อารมณ์แบบงานยุคหลังๆอยู่พอสมควร โดยส่วนตัวแล้วผมให้ชุดนี้เป็นงานที่ดีที่สุดในยุคแรกของวงครับ
My Arms, Your Hearse - คอนเซปต์อัลบั้มชุดแรกของวง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการมองโลกผ่านดวงตาของวิญญาณเร่ร่อน (คอนเซปต์คล้ายๆกับ Deadwing ของ Porcupine Tree) ความยาวของเพลงถูกตัดทอนให้สั้นลง (ทุกเพลงยาวไม่ถึง 10 นาที) และมีความเป็นเดธเมทั่ลสูงมาก ริฟฟ์กีตาร์ก็หนักโหดขึ้นกว่าชุดก่อนๆอยู่พอสมควร มันเป็นอัลบั้มที่เปี่ยมไปด้วยโทสะอย่างแท้จริง โดยส่วนแล้วคิดว่านี่คืออัลบั้มที่โหดที่สุดของวงนี้เลยครับ
Still Life - อัลบั้มส่งท้ายยุคแรกของวง มีลักษณะเป็นคอนเซปต์อัลบั้มเช่นเดียวกับชุดที่แล้ว แต่คราวนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความรักของชายผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า ดนตรีในอัลบั้มนี้ฟังดูกลมกล่อมลงตัวขึ้นเยอะ มีแนวทางเดียวกับงานในยุคหลังๆ (เพียงแต่ไม่มีคีย์บอร์ดเท่านั้นเอง) แฟนเพลงบางคนถึงกับยกให้นี่เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของวงเลยทีเดียว (แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบอัลบั้ม Morningrise มากกว่าครับ)
ยุคกลาง
Blackwater Park - ในชุดนี้ทางวงได้เชิญ Steven Wilson แห่งวง Porcupine Tree มานั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ ผลลัพท์ที่ได้คือดนตรีที่เป็นโปรเกรสสีฟมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยพี่สตีฟได้เพิ่มเติมเสียงคีย์บอร์ดเพื่อสร้างสีสันและมิติใหม่ๆให้กับบทเพลงของวงด้วย งานชุดนี้มีความกลมกล่อมลงตัวมาก ฟังไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป จึงไม่แปลกใจที่หลายๆคนจะติดใจ Opeth หลังจากที่ได้ฟังอัลบั้มนี้ครับ
Deliverance / Damnation - อัลบั้มคู่ที่แบ่งแยกแนวดนตรีในแต่ละแผ่นอย่างชัดเจน ใน Deliverance นั้นอัดแน่นไปด้วยบทเพลงโปรเกรสสีฟเดธเมทั่ลที่หนักหู (แต่มีชั้นเชิงและน่าฟัง) ได้อารมณ์แบบงานในยุคแรกๆอยู่พอสมควร ส่วน Damnation นั้นจะเน้นไปที่เพลงโปรเกรสสีฟร๊อคช้าๆ สวยงาม เน้นบรรยากาศ มีเมโลดี้ไพเราะน่าฟังทุกเพลง แถมยังเป็นชุดแรกที่ทางวงเริ่มบันทึกเสียง Mellotron ลงในบทเพลงอีกด้วย (เล่นโดยพี่ตีฟ) และอัลบั้มคู่นี้ก็เป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ Steven Wilson โปรดิวซ์ให้ครับ
ยุคปัจจุบันGhost Reveries - หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงกับอัลบั้มคู่ ทางวงก็ก้าวหน้าต่อไปอีกขั้นด้วยกับรับ Per Wiberg มือคีย์บอร์ดออกทัวร์เข้ามาเป็นมือคีย์บอร์ดถาวร ผลที่ได้คือเสียงคีย์บอร์ดที่โดดเด่นขึ้น (เสียง Mellotron คละคลุ้งไปหมด) เซนส์การแต่งเพลงของ Mikael Akerfeldt ก็พัฒนาขึ้นมาก เขาสามารถทำให้เพลงยาวๆทั้งหลายของวงฟังติดหูได้ในเวลารวดเร็ว ในอัลบั้มนี้ยังบรรจุเพลงบัลลาดที่ไพเราะที่สุดของวงอย่าง Isolation Years เอาไว้อีกด้วย
Watershed - อัลบั้มล่าสุด มีการเปลี่ยนตำแหน่งมือกีตาร์และมือกลองเล็กน้อย ทำให้ภาคกลองในอัลบั้มนี้ฟังดูซับซ้อนดุดันขึ้นผิดหูผิดตา แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมๆจากอัลบั้มที่แล้วเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน เพลงส่วนใหญ่ติดหูได้ไม่ยาก มีการผ่อนหนักผ่อนเบาในแต่ละเพลงอย่างชาญฉลาด สำหรับคอพร๊อกที่อารมณ์อ่อนใหวก็คงจะได้ปลื้มกับเพลงบัลลาดสุดงดงามละเมียดละไมอย่าง Burden เป็นแน่แท้
สำหรับมือใหม่ก็ลองเลือกดูละกันครับว่าจะเริ่มต้นที่อัลบั้มใหนก่อนดี