Thai Progressive Rock Community

พอดีผมเจอคลังสมบัติเข้า เป็นเพลงของวง Tool เกือบทุกอัลบัมเลย
เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มฟังจากอัลบัมไหนก่อนดี เลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ หน่อย
ว่า อัลบัมไหนที่เหมาะสำหรับการเิริ่มต้นที่จะฟังผลงานของวงนีั้้ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำครับ

ผมชอบ Undertow มากที่สุด รวมทั้ง music video ของอัลบั้มนี้ด้วย

ผมชอบอัลบั้ม Aenima ครับ แต่ถ้าจะเริ่มฟังนี่ผมว่าเริ่มต้นจากอัลบั้ม 10,000 Days ซึ่งเป็นชุดล่าสุดก็ดีครับ เพราะผมว่าชุดนี้ฟังง่ายกว่าชุดอื่นๆนะครับ

ส่วนผมเริ่มจาก Lateralus ครับ (อ่าว คำตอบไปคนละทางกันหมดเลย)
ความจริงจะบอกว่าเริ่มจากอัลบั้มนี้ก็ไม่เชิง ต้องบอกว่าเริ่มจากเพลง Ticks And Leeches จะดีกว่า เพลงนี้กลองยอดเยี่ยมเหลือเกิน แต่ผมฟังวงนี้ไปได้ไม่มากเกิน 2 เพลง อันต้องเปลี่ยนไปฟังอย่างอื่นทุกที ผมรับดนตรีหนักๆ ซาวน์กีตาร์บาดๆ ไม่ค่อยได้ ฟังแล้วรู้สึกเวียนหัว โดยเฉพาะวงนี้ซาวน์ทั้งหนักทั้งหลอนดีมาก

อัลบั้ม 10,000 Days ก็รู้สึกจะหนักเหมือนเดิม เพลงวงนี้โหดไปนิดเน้อ แต่ถ้าฟังเอากลองล่ะก็ ยอดเยี่ยมมากทีเดียวครับ

ได้ยินแว่วๆมาว่าคอนเสิร์ตของวงนี้ซาวนด์หนักบรรลัยเลยครับ ไม่ทราบว่าใครเคยผ่านตามาบ้างไหมครับ  ;)

เคยดูแต่ lateralus tour-bootleg dvd ครับ ระบบเสียงไม่ดีเลยไม่รู้ว่าหนักแค่ไหน ที่แน่ๆ เวทีจัดแบบศิลป์ดี ส่วนตัว Maynard นี่ยืนอยู่กับที่ข้างกลองไม่เดินไปไหนเลย แต่เคยอ่านวิจารณ์เหมือนกันว่าเล่นหนักโคตรๆ  ;)

แปะกระทู้เก่า

http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=1087.msg15500#msg15500

รบกวนพี่ "Sith" ให้ความรู้เกี่ยวกับ Tool   ด้วยครับ ขอร้องเถอะครับ

ชอบ Undertow คับ เริ่มฟังจากชุดนี้ด้วย ฟังยากจิงๆกว่าจะติดหู และมาฟังชุดล่าสุดก็ดีคับ

Tool เป็น prog metal ที่มาแปลกกว่าคนอื่นครับ ปกติวง prog metal โดยทั่วไปจะมาทางสาย heavy metal อย่าง Dream Theater ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ Tool มาทางสาย alternative metal (ซี่งมาจาก grunge อย่าง Soundgarden หรือ Alice in Chain อีกที) ดังนั้นจึงไม่มีโซโล่สิงห์นักปั่นหรือรัวกระเดื่องเร็วกว่าแสงแบบที่คุ้นๆกันแต่จะเต็มไปด้วยริฟฟ์หนักๆ(จริงๆ)แทน ยิ่งตอนที่ Tool เริ่มกลายพันธุ์เป็น prog metal นี่จะเน้นภาคจังหวะที่ซับซ้อนมากๆจนเป็นเอกลักษณ์ของวงไปเลย นับว่าเป็นวงที่ภาคจังหวะนำมาก่อนเลยโดยเฉพาะกลองเรียกว่าเป็นเครื่องดนตรีนำของวงเลย ส่วนกีต้าร์นั้นไม่หวือหวามากแต่จะเน้นริฟฟ์โหดๆมากกว่า นอกจากนั้นแล้ว Adam Jones ที่เป็นมือกีต้าร์นั้นเคยเป็น special effect designer ในวงการภาพยนต์มากก่อน ก็เลยเอาประสบการณ์มาวาง art concept ให้กับวงรวมไปถึงการทำ mv ด้วย ดังนั้นการเสพย์ Tool ควรเสพย์เป็นแพคเกจทั้ง audion-visual ไปด้วยเลย

อัลบั้มช่วงแรกๆอย่าง Opiate EP หรือ Undertow จะค่อนข้างดิบ ซึ่งต่อมาจะซับซ้อนมากขึ้นในชุด Ænima และ Lateralus ซึ่งเป็นชุดสุดยอดของวงทั้งสองอัลบั้มกินกันไม่ลงเท่าไร อัลบั้มล่าสุดนั้นจะอ่อนลงมาหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์เยี่ยม

วงนี้บ้านเรา ยังพอ มีเทป ขายอยู่รึเปล่า คับ ชุดไหนบ้าง ?

ร้าน JU มีแผ่นมือสองคุณภาพดีครบทุกชุด ราคาประมาณ 370 บาท แต่ขายหมดแล้วครับ

ให้คำจำกัดความวง Tool ได้อย่างตรงใจมากๆครับ  ;)

จริงๆแล้วอัลบั้มใหม่ของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมนะครับ โดนเฉพาะไตเติ้ลแทร๊คที่เป้นแทร๊คเน้นอารมณ์และบรรยากาศอย่างที่วงไม่ค่อยได้ทำบ่อยๆนัก จะเรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่แสดงความสุขุมลุ่มลึกมากขึ้นกว่าเดิมก็ว่าได้ครับ

บ้านเราเคยมีเทปออกแค่ชุดเดียวคือ Undertow ปกสวยมากๆเพราะเป็นปกนำเข้าผมยังเก็บอยู่เลย  :D

ฟ่างเคยดูเอ็มวีของวงนี้ในเอ็มทีวีอยู่ครั้งนึง มึนมากค่ะ ตีความหมายไม่ออก

ร้าน JU มีแผ่นมือสองคุณภาพดีครบทุกชุด ราคาประมาณ 370 บาท แต่ขายหมดแล้วครับ


เค้าเป็นคนกวาดไปเองแหละฮิๆ.... สภาพกิ๊กมาก คนขายแกกลับบ้านไปอยู่มาเลเลยขายมา บางตัวยังไม่แกะเลยอ่ะ :P

ถึงว่า ผมอยากได้อยู่แต่ขายหมดซะแล้ว ฝีมือพี่นี่เอง ;D ;D ;D

 ขอโทษครับ ใจร้อนไปนิด ตามจริง หยิบมา แค่ ชุดหลังมา แต่ติดมาด้วยเลย ไหนๆ แล้ว ยอมเสียหมดดีกว่าครับ... จนเลย ฮิๆ

โอยย ไำม่ใช่เรื่องที่ต้องขอโทษเลยครับ การฟังเพลงคือการลุ้นระทึกอยู่แล้ว  :D

 :D

เพิ่งสอยชุด Lateralus มาครับ อย่างที่บางท่านบอก ฟังทั้งหมดทีเดียวไม่ไหวจริง ๆ ครับ

...ทั้งเหนื่อย ...ทั้งลุ้น จะพูดยังไงดีครับ รบกวนกูรูในที่นี้ช่วยรีวิวอัลบั้มนี้ทีสิครับ...

บอกได้เลยว่า ฟังรวดเดียวจบนี่แทบจะเป็นลมชักตายครับ 5555+

ฟัง Ænima กับ Lateralus หลายรอบแล้วครับ แต่ยัง "งงๆ มึนๆ" อยู่ -_-"

ถ้าจะฟัง Lateralus ไม่ให้มึนมากแนะนำสูตรนี้ครับ กระชับและมันส์ดีครับ โดยเฉพาะช่วงต่อจาก Schism ไป Parabola เลยนี่สุดยอดครับ  :D

"The Grudge" – 8:36
"The Patient" – 7:13
"Schism" – 6:47
"Parabola" – 6:03
"Ticks & Leeches" – 8:10
"Lateralus" – 9:24
"Triad" – 8:46

ใช่ครับ แบบว่า มันหาจุดสิ้นสุดไม่ได้เลยครับ ไม่มีบทสรุป ไร้แก่นสาร อะไรหยั่งงั้นเลยครับ

Thanks krub. จะลองดูครับ  ;)

ไม่แน่นะครับถ้าฟังสูตรนี้แล้ว พอฟังจบอาจอยากกลับฟังใหม่อีกรอบทันทีเลยก็ได้

สูตรนี้ตัดพวกเพลง interlude ทั้งหลาย, เพลงอินโทรเยิ่นเย้อ รวมทั้งพวกเพลงสุดท้ายประเภททดลองที่ มักใส่ไว้ให้คนฟังรู้สึกอึดอัดเวลาฟังจบทุกอัลบั้มเหมือนจะตั้งใจ อาจจะขาดความสมบูรณ์ไปบ้าง ไว้ในกรณีต้องการความเพลิดเพลินเท่านั้น ถ้าต้องการความเป็นศิลป์จริงๆก็ต้องทนฟังทั้งอัลบั้มครับ ถ้าอัลบั้มนี้แยกเป็น 2 แผ่นมันคงจะดีกว่านี้แน่  ;)

ถูกต้องครับ พวกเพลงคั่น หรือพวก instrumel ระหว่างเพลงนั้น ทำเอาสมาธิแตกทุกทีครับ

10,000 days เข้าถึงได้มากกว่าครับ ถึงแม้จะดูหม่น ๆ กว่าก็เถอะ

ชอบ 10000 Days คับผม

ชุดนี้ฟังดูสุขุมลุ่มลึกมากขึ้นและเต็มไปด้วยความวิจิตรจริงๆครับ

ดีขึ้นครับ กระชับขึ้นมาหน่อย พอฟังมาถึงเพลง Traid สมาธิเกือบแตกครับ เฮ่อ

คราวหน้าก็ตัด Triad ออกเลยก็ได้ครับ ใจจริงก็อยากตัดออกแต่กลัวมันจะสั้นไปน่ะครับ เพราะเพลง Lateralus นี่เหมาะเป็นเพลงปิดอัลบั้มมากๆ ให้มีเพลงทดลองๆก่อนจบซักเพลงหน่อยก็ดีครับ  :D

จริงๆ ผมไม่ค่อยชอบทางของ Tools เท่าไหร่ แต่ชุดนี้ต้องยอมรับครับ Danny Carey แกเป็นมือกลองที่บ้าคลั่งจริงๆ ส่วนชุด Lateralus นี่ ทางวงเขาออกแบบลำดับเพลงมาให้ฟังได้สองแบบครับ แบบแรกคือลำดับตามในแผ่น อีกแบบหนึ่ง มีใครไม่รู้ไปสะกิดใจว่าเนื้อร้องกับดนตรีมันฟังดูแปลกๆ ก็เลยลองถอดรหัสออกมา แล้วเรียงลำดับเพลงใหม่ตามลำดับเลข Fibonacci (ที่เป็นรหัสใน Da Vinci Code นั้่นแหละ) ลองไปอ่านดูในนี้้ก็ได้ครับ http://www.peteofthestreet.net/sayz/C1151806467/E1494764863/

Tool ไม่มี s นะครับ  :D

ครับสูตร Fibonacci ในเพลง Laterlus เคยได้ยินมาครับว่าเปลี่ยนได้หลากหลายสูตรมากและสามารถเรียงเนื้อเรื่องใหม่ให้มีบทสุปที่ต่างกัน แต่ทางวง Tool ไม่เคยออกมายืนยันว่าพวกเขาเป็นคนคิดเรื่องการเรียงเพลงตามสูตรใหม่ๆครับ มีแต่พวกแฟนๆที่ตีความกันเอง  ;)

เหตุผลหนึ่งที่ผมชอบอัลบั้ม Lateralus ที่สุด เพราะว่าเป็นอัลบั้มที่มีซาวนด์สะอาดที่สุดครับ เสียงเบสกลองและเครื่องดนตรีอื่นๆฟังแยกออกจากกันอย่างชัดเจน อัลบั้มนี้เนื้อหาให้คนเรามองเข้าไปในร่างกายของเรา จากผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายในและก้นบึ้งของจิตใจมนุษย์ เหมือนที่เราเห็นปกอัลบั้มที่ทำออกมาได้สุดๆ เป็นภาพซ้อนของมนุษย์หลายๆชั้นจนถึงกระดูกเลย รวมทั้ง MV เพลง Schism ที่ผมว่าดีที่สุดเท่าที่ Tool เคยทำมาครับ  :)

โอ๊คคคคคคคคคคค  !!! ใครก็ได้ช่วยตีความหมาย ใจความ นัยยะของงาน  Lateralus และ 10,000 days คับ ฟังมาจน.....ปวดศีรษะแล้ว ไม่เข้าใจเลย  ตามจริงก็ ไม่เข้าใจตั้งแต่ชุดแรกๆ แล้ว เออ แปลนัยยะในชุดแรก ๆ ให้ด้วยก็ดีล่ะซิ... ฟังจับใจความยากไปนิดน่ะครับ สำเนียงเค้าด้วยกะมั่ง....

จัดไป

http://www.lyricinterpretations.com/lookat.php/bands/tool

ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ให้กำเนิดและความเห็นในกระทู้นี้นะครับ

ตอนนี้ผมเอนเองไปทาง Tool มากกว่า Pink Floyd ครับ หลังจากที่ได้ฟังชุด Lateralus
ว่าจะตามสอย AEnima ในเร็ววันครับ

Pink Flyod ล่าสุดผมไปได้มือสองชุด Division Bell โดยบังเอิญครับ ลังเลอยู่นานเลย
กลับมาฟังไป 3 รอบครับ ผิดหวังครับ คงต้องไปแก้ตัวอีกทีกับ The Wall, WYWH ตามที่ท่าน ๆ แนะนำครับ

แล้วก็ได้ดีวีดีผี Delicate... มาศึกษาครับ แต่ยังดูไม่หมด แต่ก็พอรับได้มากกว่า Division bell ครับ
ถ้าเป็นซีดีคู่นี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ เพลงเท่ากันไหม ซาวนด์เป็นอย่างไร

ช่วยเล่าประสบการณ์ ในการฟังงานของพวกเขาทีครับ ...บางที่ อาจจะเข้าใจได้ดีนะครับ  ขอบคุณครับ

อย่างที่ผมบอกครับคุณ jknoremorse มาทางสาย Metallica (Metal) นี่น่าจะไปทาง Tool นะดีแล้วครับ (แต่ก็ไม่น่ามาเปรียบเทียบกับ Pink Floyd อยู่ดี)

The Divison Bell เป็นอัลบั้มที่ดีมากๆที่ผมชอบมากๆ ถ้าไม่ไปเปรียบเีทียบกับงานระดับตำนานของวง เพระามันฟังดูสมัยใหม่และไม่ขลังเท่านั้นเองครับ

วง Tool ที่น่าสนใจคือชุด Lateralus และชุด Aenima ...  ดีนะครับ แต่แรก ๆ สำหรับคนที่เริ่งฟังน่าจะเริ่มที่ 10,000 Day นะครับ เพราะไม่ยาก และไม่ป่วนประสาทเท่าชุดข้างต้นนะครับ ...
แล้วเมื่อไหร่จะมีใครมาช่วงตีความของแต่ละอัลบั้มใหเล่ะนี่ เนื้อเพลงก็ขอบคุณนะครับ แต่ อยากได้คนเก่งๆ ช่วยที คอนเส็ปเขาว่าไงกันบ้างนะครับ  ขอบคุณคับ
  ::) ::)

ที่โพสต์ให้ไปไม่ใช่เนื้อเพลงนะครับ เป็นการตีความเพลงวง Tool ทุกชุดจากแฟนๆครับ ส่วนผมนี่ตีความได้ไม่คลอบคลุมทั้งอัลบั้มน่ะครับ เอาเท่าที่พอมองออกอย่างบางเพลงใน Lateralus นี่ดูเหมือนจะพูดถึง ความสัมพันธ์ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจขาดกันและกันได้ครับ ส่วน Aenima นี่ไม่ค่อยชอบเลยยังไม่ค่อยได้เจาะลึกครับ มีเรื่องเี่กี่ยวกับคำทำนายที่ประเทศอเมริกาจะมีน้ำท่วมและเรื่องบ้าๆบอๆแบบพิเรนทร์ก็มีครับ ส่วน 10,000 days นี่น่ามาจากการที่ Maynard สูญเสียคุณย่าของเขาที่ทนทุกข์ทรมานจากโรคร้ายอย่างยาวนานถึง 10,000 วันครับ ลองไปต่อยอดกันดูนะครับ  :)

Division Bell => พยายามแล้วครับ อารมณ์เดียวตลอดทั้งอัลบั้มแลยครับ ไม่มีความหลากหลาย
และดูไม่มีความเป็น  progressive เลยครับ  :-\ คิดหยั่งงั้นรึเปล่าครับ

ไปคุยต่อที่กระทู้ pink floyd ดีกว่านะน้อง

อ้างจาก: wicked man ที่ วันนี้ เวลา 04:10:03 PM วง Tool ที่น่าสนใจคือชุด Lateralus และชุด Aenima ...  ดีนะครับ แต่แรก ๆ สำหรับคนที่เริ่งฟังน่าจะเริ่มที่ 10,000 Day นะครับ เพราะไม่ยาก และป่วนประสาทเท่าชุดข้างต้นนะครับ ... แล้วเมื่อไหร่จะมีใครมาช่วงตีความของแต่ละอัลบั้มใหเล่ะนี่ เนื้อเพลงก็ขอบคุณนะครับ แต่ อยากได้คนเก่งๆ ช่วยที คอนเส็ปเขาว่าไงกันบ้างนะครับ  ขอบคุณคับ     ที่โพสต์ให้ไปไม่ใช่เนื้อเพลงนะครับ เป็นการตีความเพลงวง Tool ทุกชุดจากแฟนๆครับ ส่วนผมนี่ตีความได้ไม่คลอบคลุมทั้งอัลบั้มน่ะครับ เอาเท่าที่พอมองออกอย่างบางเพลงใน Lateralus นี่ดูเหมือนจะพูดถึง ความสัมพันธ์ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจขาดกันและกันได้ครับ ส่วน Aenima นี่ไม่ค่อยชอบเลยยังไม่ค่อยได้เจาะลึกครับ ส่วน 10,000 days นี่น่ามาจากการที่ Maynard สูญเสียคุณย่าของเขาที่ทนทุกข์ทรมานจากโรคร้ายอย่างยาวนานถึง 10,000 วันครับ ลองไปต่อยอดกันดูนะครับ

อุ๊ย ครับ ดีครับ... เหรอครับ หากมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเสนอมาด้วยพอจะไหมครับ   ส่วนเวบ ฯ ที่แนะนำ ครับ แล้วจะสานต่อ (แบบพยายามมากๆ หน่อย) ขอบคุณครับ

เนื้อเพลงพวกนี้ต้องตีความแบบหลายๆชั้นหน่อยนะครับ อย่างที่บอกคำทำนายน้ำท่วมนี่อาจว่าไปถึงการให้คนเรารู้จักพึ่งพาตนเอง เรียนรู้ที่จะเอาชีวิตรอด (learn to swim....from Aenima) จากสังคมอันเน่าเฟะในอเมริกา (LA ที่สมควรถูกล้างบาง อุกาบาตชนให้น้ำท่วม) ก็ได้ครับ

V
V
V
V

คือผมกลับคิดในแง่หลังว่างานชุด 10,000 day มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่ชุดก่อน ฟังแบบไม่ได้เก็บข้อมูลสักเท่าไหร่  แม้ชุดนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าที่ว่าเป็นการอุทิศ ฯ ให้กับญาติของผู้แต่งก็ตาม 

ไม่ทราบว่าคุณ jknoremorse ได้สอย Aenima มาหรือยังครับ ? ผมฟังไปฟังมานี่ก็ชอบมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว มันดูจะเป็นชุดที่ดุดันมากที่สุด แต่ก็อีกนั่นแหละมีเพลงบ้าๆบอๆคั่นเยอะกว่าชุดไหนๆเลย ยังไงก็ลองตัดต่อเองดูนะครับ เพลงเด่นๆก็มี Stinkfist,H,46 & 2,Aenima และเอพิคของวงอย่าง Third Eye ยาว 13 นาทีแต่ขอโทษเวลาแสดงสดนี่ยาว 20 นาที  :D

ผมว่าอาทิตย์นี้ถ้าไม่มีอะไีีีรกะทันหัน คงได้แวะไปที่ Music land ครับ เล็งไว้อยู่หลายอัลบั้มเหมือนกัน

ณ ตอนนี้ผมชอบ Lateralus มากกว่า 10,000 days แล้วครับ

ตรงกันข้ามเลยครับ ตอนที่ผมซื้อ 10,000 Days มาใหม่ๆพอเปิดฟังครั้งแรกแล้วก็ดองยาวเลยครับ เพราะเข้าไม่ค่อยถึง กอปรกับมาติดใจอัลบั้มอย่าง Aenima และ Lateralus มากกว่า แต่เอาไปเอามาพอผมเริ่มกลับมาฟังชุด 10,000 Days อีกครั้ง ผมก็ชักจะติดใจความละเอียดอ่อนและความเป็น Emotional กว่าอัลบั้มอื่นๆของมันมากขึ้นทุกทีแล้วครับ (ขณะที่สองอัลบั้มนั้นไม่ค่อยได้ฟังแล้วครับ)

อยากจะบอกว่าผมก็มีอาการแบบนี้กับ tool ทุกชุดคือฟังใหม่ๆไม่ชอบเอาเสียเลย แล้วก็ดองยาวแล้วมาชอบทีหลัง ไม่เว้นแม้แต่ lateralus ที่ฟังๆแรกๆนี่อยากขายทิ้งด้วยซ้ำ อาจจะบอกได้ว่าดนตรีของ tool ต้องใช้เวลานานในการเข้าถึงจริงๆ แล้วพอเราเข้าถึงได้ก็มีความรู้สึกที่ดีกับอัลบั้มนั้นๆแล้วพอเราเริ่มอิ่มตัวกับอัลบั้มนั้นเราก็จะเปลี่ยนกลับไปศึกษาอีกอัลบั้มนึงอย่างจริงๆจังๆแล้วก็จะพบความยอดเยี่ยมที่มันซ่อนอยู่ภายใน (ว่าแล้วต้องกลับไปทำสมาธิกับ 10,000 days อีกครั้ง เพราะผมชอบจริงๆแค่เพลง Vicarious, Jambi เท่านั้น ที่เหลือนี่แค่ชอบผ่านๆ สมาธิมักมาแตกเอาตอนเพลงสวดของเผ่าอะไรซักอย่างที่คั่นมาทุกที)

สรุปคือดนตรีของ tool ต้องใช้ความพยายามในการฟังมากๆ อาจมากกว่าวง prog บางวงด้วยซ้ำ อาจเพราะซาวนด์มันหนักด้วยจึงต้องใช้ความพยายามมากขึ้นอีก แถมยังมีเพลงคั่นแบบกวนประสาทที่เหมือนเป็นการทดสอบสมาธิของเราว่าจะแตกกระเจิงในระหว่างการฟังหรือไม่ ถ้าฟังตั้งแต่ต้นจนจบได้โดยที่สมาิธิไม่หลุดนี่แสดงว่าสมาธิดีมากๆ  ;)

เดี๋ยวนี้ผมฟัง 10,000 Days กับ Lateralus แบบไม่ต้องกดข้ามแทร็คครับ บางทีผมว่าแทร็ครก ๆ พวกนั้น มันก็เหมือนเป็นเพลงเบรคอารมณ์ในแต่ละเพลงให้แตกต่างกันไปน่ะครับ

ิอย่างที่คุณ Tron ว่ามา ช่วงแรก ๆ เราอาจจะยังฟังแล้วไม่ค่อยชิน หรือ เตะหูมาก
พอฟังไปเรื่อย ๆ ก็ติดไปเองครับ โดยรวม ๆ 2 ชุดนี้มีดีคนละอย่างครับ บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร
แต่ชอบ Lateralus มากกว่านิดหน่อยครับ

ครับ อาจเปรียบ Aenima / Lateralus / 10,000 days ได้ดั่ง Dark Side/ Wish you were here/The Wall (เว่อร์ไปมั๊ยเนี่ย) ที่ว่ามีดีไม่เหมือนกัน ไม่รู้จะเอามาเปรียบเทียบยังไง  ;D

ฟัง 10,000 DAYS กับ LATERALUS แล้วครับ ชอบชุดแรกมากกว่าครับ

ชุด Undertow ใช่มั้ยครับ (เห็นไม่ค่อยมีใครพูดถึงชุดนี้กันเลยแหะ)

ไม่ใช่ครับ ผมได้ฟังแค่สองชุด ชอบชุดแรกที่กล่าวก่อนมากกว่าครับ  ;D

ตอนนี้ผมกำลังฟัง AEnima อยู่ครับ กำลังติดลมวงนี้อยู่เลย ช้า ๆ หนัก ๆ เนิ่บ ๆ ไม่ทราบว่ามีวงไหนที่เล่นใกล้เคียงวงนี้ไหมครับ ท่านกูรูทั้งหลาย?

ช่วงนี้ผมต้องงดฟัง Metal เร็ว ๆ หนัก ๆ มันส์ ๆ สักพักครับ จนกว่างานชุดใหม่ของ Met, Slipknot, Trivium จะออกมากระแทกหูเดือนกันยานี้ครับ

ยังไงช่วยรีวิวงานชุด Opate กับ Undertow ทีนะครับ 2 ชุดนี้สงสัยต้องสั่งเองแล้วมั้งครับ บ้านเราหาไม่มีเลย

ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนครับวงนี้ นอกจากวง side project ของนาย Maynard นักร้องนำ Tool ที่ชื่อ A Perfect Circle ครับ แต่ก็สู้ Tool ไม่ได้หรอกครับ

ส่วน opiate/undertow นี่ผมเคยเห็นเกลื่อนเลยนี่ครับ แผ่นอเมริกาด้วย ค่อยๆหาดูอีกทีแล้วกันครับ

BKP?
Music land เหลือแต่ 10,000 days แผ่นเมกาคับ (แพ็คเก็จสีแตกต่างกับแผ่น EU นะครับ)

ตระเวนเลยครับ JU, Jedi, Musicland, BKP, Cap, Doreme, B2S

โอ้ย  ....  งั้นช่วยไรท์ทีสิครับ  :D

รบกวน คุณ Tron รีวิวงาน Untertow กับ Opiate ทีสิครับ  :D

เอากันงี้เลยเหรอครับ ได้ครับโนพรอมแพลมอยู่แล้วครับ

ไว้จะมารีวิวสั้นๆแล้วกันครับ ถ้าไม่ถึงกับชอบมากไม่ค่อยอยากออกความเห็นซักเท่าไหร่ครับ

ผมเริ่มชอบ Tool แล้วจริง ๆ คับ  :) นอกจากตัวงานเพลงแล้วก็ความเป็น Unique-Art ของเขาด้วย
ทีแรกผมกะจะถามถึง Discography ทั้งหมดด้วยซ้ำไป ฮิฮิ  :D
วงนี้นอกจาก MV แล้วยังไม่เคยออก Official Live concert ไช่ไหมครับ?

Discography แบบระเอียดยิบ รวมแผ่น promo ด้วยก็นี่ครับ

http://tooldiscography.com/

Official Live Concert ของวงนี้เป็นอะไรที่แฟนๆใฝ่ฝันมานาน แต่ไม่มีวี่แววมาก่อนเลย จึงมีแต่ bootleg dvd เกลื่อนกลาดในอีเบย์สมัยก่อน ซึ่งผมก็อดใจไม่ไหวสอยมาหนึ่งแผ่น แต่คุ้นๆว่าทางวงมีแพลนจะออกดีวีดีแสดงสดในทัวร์ชุดล่าสุดนี้แหละครับ ไม่ชัวร์นะครับ วงนี้เอาแน่นอนไม่ได้ครับ เล่นตัวมากๆ

สอย 10,000 days มาจาก musicland แล้วครับ ฮ่าๆ  ;D แพกเกจอลังการ

นานๆไปทีสอยอะไรมาบ้างครับ เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ  :D

สอยมาแผ่นเดียวนี่แหละครับ นานๆ ทีแม่จะเลี้ยงซักแผ่น (ปกติเก็บตังซื้อเอง พอดีผ่านอินทราสแควร์เลยแวะไปครับ)

คุณ 333 ได้ชุดนั้นไปคุ้มค่าแล้วครับแค่ 420 แผ่นเมกาด้วย ทีแรกผมกะไปสอยแผ่นนั้นเหมือนกัน เดิมมีแผ่น EU แล้ว

ผมไป Print lyric ของอัลบั้มนี้มาฟังแล้วอ่านไปด้วยมันส์ ๆ ขำๆ ดีครับ น้อง ๆ concept อัลบั้มเลยทีเดียว แต่อาจจะมีหลาย part หลายเรื่องราวน่ะครับ แนะนำอย่างนี้ครับ Vicarious, Jambi, The pot, Lipan Conjuring, Lost Keys (Blame Hofmann), Rosetta Stoned

ส่วน Wing for Marie กับ 10,000 days ก็ดีครับ แต่ดูเครียด ๆ ครับ   

เพลง Viginti Tres ที่ปิดอัลบั้ม 10,000 Days นี่อย่างหลอนเลยครับ ตอนผมเปิดชุดนี้ฟังตอนกลางคืนนี่ต้องรีบปิดอย่างด่วนเลย

Update กันหน่อยครับ
Tool guitarist, bassist begin writing next album

Brad Angle of Guitar World magazine recently conducted an interview with Tool guitarist Adam Jones. When asked how the songwriting process for the band's new album was coming along, Jones replied, "It's been coming along... great! [laughs] No, we've been on hiatus. I'm writing and [bassist] Justin [Chancellor]'s been writing, but [frontman] Maynard [James Keenan] has been working on his wine. We've all just been taking some time away from each other, which has been nice. I've also been working on producing some comics."

Tool has been on break from touring and writing since early 2008, following nearly two years of supporting their most recent studio album, 2006's "10,000 Days", which marked its first set of new material since 2001's "Lateralus".

In December, Maynard James Keenan revealed that he had been working with A Perfect Circle guitarist Billy Howerdel on new material for a possible new release. When asked about releasing the material or touring, he stated, "I doubt if we'll do any touring or, you know, do a full album," he said. "We might do some one-off shows here and there if the timing's right and it seems like a good vibe and a smart thing to do. But most likely we'll just kind of concentrate on, you know, one or two songs at a time, rather than investing all the time and money and effort into making those plastic discs that no one cares about anymore."

รอผลงานใหม่สำหรับวงนี้นี่ รอกันหายอยากทุกที ต้องแกล้งทำลืมๆไปเลย แต่ผมชอบครับวงที่ไม่ออกผลงานถี่ๆ มันทำให้ผลงานออกมาเน้นคุณภาพจริงๆ ไม่เน้นจะโกยท่าเดียวเหมือนบางวงที่ออกมันทุกปี

แต่ถ้าออกงานทุกปีแล้วออกมาเจ๋งเหมือนงานของ Steven Wilson นี่ผมว่าโอเคนะครับ  :D

ในกรณี Steve Wilson นี่ผมยกเว้นเพราะงานออกทุกปีแต่คนละโปรเจคครับ จริงๆผมไม่ได้แอนตี้ DT นะครับ ผมก็ชอบ DT บ้างเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าการออกงานทุกปี แถมออกดีวีดีตามออกมาตลอดนี่ มันดูธุรกิจไปหน่อย งานของวงนี้่เหมือนทำเร็วและไม่ค่อยมีความตื่นเต้นที่จะได้ฟังมากเท่าไหร่ แฟน DT อย่าโกรธนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว  :D

ผมว่าระยะห่างการออกสตูดิโออัลบั้มของ DT นี่ก็พอรับได้นะครับ ออกสม่ำเสมอแบบปีเว้นปี แต่ก็ยอมรับว่าไลฟ์ดีวีดีนี่ออกถี่มากไปครับ ทำให้ความขลังของไลฟ์อัลบั้มมันหายไปน่ะครับ

ใช่ครับ ดูอย่างวง Tool สิครับ แฟนๆทั่วโลกอยากดู Live DVD  ใจจะขาดเรียกว่าขอกันมาจะ 10 ปีแล้ว ทางวงยังใจแข็งไม่ทำออกมาเลย ทั้งๆที่การแสดงและการจัดเวทีของวงนี้เต็มไปด้วยศิลป์วงหนึ่ง จนมีพวก Bootleg สารพัดยุคที่เป็นแบบ Audience Shot มาขายทำเงินกันเป็นว่าเล่น

และอีกอย่างการทำงานออกมาถี่ไปมันทำให้แนวทางหรือซาวนด์ดนตรีออกมาไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมมากนักในช่วงรอยต่อแต่ละอัลบั้ม แต่ก็แล้วแต่คนชอบครับ   :D

Tool นี่ ตอนนี้ขอ Official live DVD ก่อนออกอัลบั้มใหม่ละกันครับ

+1 ครับ

สงสัยจะยากครับ แต่มั่นใจได้เลยว่าถ้าทางวงจะทำออกมาจริงๆมันจะไม่ใช่ live dvd ธรรมดาแน่ๆ มันต้องมีอะไรที่แปลกใหม่แน่นอน อาจต้องรอให้ Blu-ray เป็นฟอร์แมทพื้นฐานที่เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่กว่านี้ก็ได้

ไม่อยากซ้ำเติม DT นะครับ แต่ขออีกหน่อยเถอะครับ เพระาไอ้ Chaos & Motion ที่ทำออกมาแบบไม่จ้างช่างกล้องดีๆมาทำเป็นเรื่องราว ไม่มิกซ์เสียงใหม่ให้ฟังดูดีนี่ เหมือนเป็นการทำออกมาลวกๆ ต้นทุนต่ำๆ แต่เอากำไรเยอะๆ เพราะพี่แกออกมาทีมีแบบ 5 แผ่นราคาแพงด้วย มันดูไม่ดีเอาเสียเลย  :(

ถึงแม้ ถ้าทำเวอร์ชั่น 5 แผ่นแล้่ว 3 ซีดี ก็ไม่น่าจะให้เหมือน Live DVD เลย เพราะทำมาแล้วกับ Score

Update เพิ่มเติมของเจ้านักร้องนำจอมเพี้ยน (แล้วเจอกันวันวาเลนไทน์ครับ)

Tool frontman Maynard James Keenan is prepping his side project, Puscifer, for its live debut this weekend in Las Vegas. He told The Pulse of Radio that he expects all three shows to be very different from each other and from a Tool show. "As long as we're all communicating on the particular premise of the evening, it should be unique each night," he said. "That's the challenge. The challenge here is not to dig up demons and explore an album that you'll be listening to and playing backwards looking for messages for decades to come. This is more about being in the moment and trying to pull off something that's, in a way, far more volatile than something that's well planned out."

Puscifer, a loose collective of musicians, performance artists and comedians, will perform on Friday, Saturday, and Sunday (February 13, 14, and 15) at the The Pearl in the Palms Casino.

All three shows are sold out, but a limited number of Vip tickets are available through Ticketmaster. According to a press release, the $225 packages provide the holder with a premium seat, a pre-show meet and greet with the act, an autographed bottle of wine from Keenan's vineyard and a signed commemorative poster.

A mock press conference-style question-and-answer session with Maynard James Keenan about the forthcoming live debut of Puscifer in Las Vegas can be viewed below. The clip, which was produced by Mike King of Flea Circus Films in Los Angeles, is said to be "sort of a 'Dr. Strangelove' spoof" and features Laura Milligan, Maynard, Paul Greenberg, Jackie Harris, Paul Koslowski, Mark Fight, and Ron Lynch. It was shot in one afternoon with no rehearsals.

(http://i469.photobucket.com/albums/rr56/jknoremorse/3078502809_aab95b2678_o.jpg)

Puscifer นี่ผมชอบนะครับ ผมว่าเป็นไซด์โปรเจคต์ที่ฟังดูเข้าท่ากว่า A Perfect Circleเยอะเลย ใครชอบเพลงอีเล็กโทร/อินดัสเตรียลแบบกรึ่มๆเนียนๆไม่โฉ่งฉ่าง (ติดกลิ่น Trip-Hop เล็กน้อย) ก็คงจะหลงรักได้ไม่ยากครับ

สนับสนุนด้วยเสมอครับ Tool - APC.- ยัน Puscifer วงหลังยังไม่มีโอกาสได้สอยมาครับ แต่ ลองฟังมาบ้าง ยกนิ้วให้เลยครับวงเหล่านี้    :D

ผมไม่ค่อยชอบ A Perfect Circle ครับ ฟังแล้วง่วงนอนยังไงไม่รู้  ;D

ผมชอบ Imagine อยู่เพลงเดียวครับ ;D

เป็นเพลงคัฟเวอร์จากต้นฉบับของ John Lennon ที่ฟังดูหดหู่และสิ้นหวังผิดจากเวอร์ชั่นต้นฉบับแบบสิ้นเชิง ยิ่งถ้าดู MV ไปด้วยจะหดหู่มากๆ

ใช่ครับ ผมชอบนะคัฟเวอร์นี้ อารมณ์ออกมายังกะ Porcupine Tree  ;D

พูดถึงเรื่องคัฟเวอร์แล้ว ผมเพิ่งได้ฟัง Painkiller ที่คัฟเวอร์โดยวง Death แล้วก็ Love, Reign o'er Me คัฟเวอร์โดย Pearl Jam
ทำให้อยากตั้งกระทู้ใหม่เกี่ยวกับเพลงที่ถูกคัฟเวอร์แล้วชอบขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่รู้มีใครตั้งไปรึยังครับ ???

ไม่แน่ใจครับ แต่เหมือนจะมีตั้งแล้ว ลอง search ดูนะครับ

อารมณ์เพลงเหมือนเป็นการตอบโจทย์เวอร์ชั่นของ John Lennon ที่มีความหวัง โดยใช้เนื้อร้องเดิมแต่ใช้คอร์ด minor key แทนเปลี่ยนอารมณ์เป็นแบบไม่มีความหวังแล้ว หลังจากเวลาผ่านมาร่วม 20 ปี ทุกอย่างเหมือนจะเลวร้ายขึ้นเข้าไปอีก

=ผมว่า ชุดที่สาม อาจจะยังไม่ใช่คำตอบนะครับ   :o

สิ่งหนึ่งที่แปลกใจมากของวง Tool คือทำไมไม่มี bootleg ที่เป็นการแสดงออกทีวีเหมือนวงอื่นๆบ้าง หายังไงก็ไม่เจอเสียที

Tool and a Perfect Circle albums underway.

According to The Pulse of Radio, Tool frontman Maynard James Keenan told RollingStone.com on Thursday (June 10) that the band is "quietly working" on a new album that will be released "when it's ready." Asked if the group might possibly test out some new songs on the road this summer, Keenan said, "If it comes together, yeah, you'll hear some new stuff. If it's not ready, you won't." The band's summer trek kicks off on June 19 in New Orleans.

Keenan hinted that the tour might include some new visuals, although he also joked, "Maybe I'll just come out in my birthday suit. A 46-year-old naked dude running around onstage. Let's see how that goes over."

The singer, who's been working with side band Puscifer and tending to his vineyards for the last couple of years, also said that a fourth album from his other act, A Perfect Circle, is in the early stages, explaining, "We've got some riffs and some music. It's just basically playing it over and over again while driving and waiting for things to fall into place."

นับเป็นข่าวดีสำหรับแฟนเพลง เย้ เยส

เพิ่งรู้มาว่านักร้องนำ Maynard ไม่ชอบให้มีกล้องในการแสดงเลย รวมทั้งสปอร์ตไลท์ส่องเวทีด้วย เพราะมันทำให้เขาไม่สามารถร้องหรือถ่ายทอดเพลงซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้างหนักและลึกได้เต็มที่ (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากชีิวิตและด้านมืดของเขา) เวลาแกแสดงก็จะยืนอยู่ด้านในเวที (เห็นว่าถ้าเป็นไปได้แกอยากยืนหันหลังให้คนดูด้วยซ้ำ) ได้ยินอย่างนี้โอกาสที่เราจะได้เห็นการแสดงของวงออกมาทำขายคงจะยากมากแล้ว แต่อีกนัยหนึ่งทำให้วง Tool นี้กลายเป็นวงที่ไว้สำหรับเสพทางเสียงอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เวลาฟังเพลงของวงนี้เราจะจินตนาการไปได้ไม่มีที่ิ้สิ้นสุด ถือว่าเป็นวงที่ให้ความสำคัญกับศิลป์มากกว่าพาณิชย์อย่างแท้จริงครับ นับถือครับวงแบบนี้ปัจจุบันหาได้ยากจริงๆ

วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรพอได้ฟังอัลบั้ม 10,000 days แบบมีสมาธิจริงๆกลับเริ่มรู้สึกว่าชอบอัลบั้มนี้มากกว่า lateralus เสียแล้ว ที่ผ่านมาก็ชอบอยู่แ้ล้วระดับหนึ่ง แต่อาจะเป็นเพราะผมติดความอาร์ตของ lateralus มากไปนิดเลยไม่ค่อยอินกับ 10,000 days มากเท่าไหร่ที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าวันนี้พอมีสมาธิมากขึ้นเลยเหมือนได้เข้าไปลึกกว่าที่เคย จับได้ทุกเสียงและอารมณ์ในแต่ละเพลง สุดยอดจริงๆครับอัลบั้มนี้ จริงๆเรียกว่าแต่ละอัลบั้มวงนี้สุดยอดทุกชุดก็ว่าได้ครับ

ว่าแต่ใครเข้าไปหาข่าวอัลบั้มใหม่ของธูลแล้วเจอ Rick Rolled  ดักกันบ้างครับ 55555+

สืบเนื่องจากทฤษฏีคณิตศาสตร์ของ Fibonacci Sequence ที่ซ่อนรหัสมากมายในอัลบั้ม Lateralus และเพลงไตเติ้ลแทร๊คนั้น ตอนนี้ผมได้ทำการไรท์อัลบั้มนี้ขึ้นใหม่โดยเรียงตัวเลขแทร๊คให้เป็นไปตามหลักของ Fibonacci ที่ผมได้แนวคิดจากแฟนเพลงที่ทำวีดีโอประกอบใน youtube ตามวีดีโอข้างล่างนี้ โดยเขาบอกว่าถ้าเราฟังโดยเรียงแทร๊คใหม่ตามนี้คือ

6,7,5,8,4,9,13,1,12,2,11,3,10

6.   "Parabol"     3:04
7.   "Parabola"     6:03
5.   "Schism"     6:47
8.   "Ticks & Leeches"     8:10
4.   "Mantra"     1:12
9.   "Lateralus"     9:24
13.   "Faaip de Oiad"  2.39
1.   "The Grudge"     8:36
12.   "Triad"     8:46
2.   "Eon Blue Apocalypse"     1:04
11.   "Reflection"     11:07
3.   "The Patient"     7:13
10.   "Disposition"     4:46

เราจะได้รู้ว่าแต่ละเพลงที่จุดเริ่มและจุดจบที่ต่อเนื่องกันทั้งหมดตามความหมายของ Fibonacci Sequence ไว้ผมจะลองฟังแล้วมาบอกอีกทีครับ

http://www.youtube.com/watch?v=wS7CZIJVxFY
 

น่าสนใจดีนะครับ

เมื่อเช้าได้ฟังไปแล้ว บอกได้เลยว่ามันเวิร์คกว่ามากครับ อารมณ์เพลงต่อเนื่องมากกว่า เพลงบางเพลงต่อกันด้วยอย่าง The Grudge + Triad และเพลงอื่นๆด้วยไว้จะตั้งใจฟังอีกที ลองทำกันดูนะครับ แล้วจะชอบอัลบั้ม Lateralus มากขึ้น ที่แน่ๆผมว่าไอเดียของวงสุดยอดมาก แถมไม่เคยเปิดเผยให้แฟนๆรู้ด้วย สมกับเป็นสุดยอดวง progressive ในยุคนี้(สำหรับผมจริงๆ) ส่วนพวกแฟนเพลงที่ค้นหารหัสนี้ได้โคตรเทพจริงๆ

รหัส Fibonacci คือ theme หลักของอัลบั้มนี้คือการสื่อให้เห็นว่ามนุษย์เราที่เกิดมาควรใช้ชีวิตแบบรหัส Fibonacci ที่ต้องค้นหาทุกสิ่งรอบตัวและรู้ซึ้งในสิ่งที่ยังไม่รู้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ (Spiral out) ค้นหาจากภายในตัวเราจนถึงจักรวาลอันกว้างใหญ่ ผมว่ามันใกล้เคียงหลักศาสนาพุทธเลยนะ

ต้องยอมรับแนวคิดว่าล้ำลึกมากๆ เอ่อ แต่ไม่รู้ว่าถ้าฟังจากซีดีแล้วต้องคอยเปลี่ยนแทร็คอารมณ์ในการฟังมันจะต่อเนื่องรึเปล่า
เดี๋ยวตอนเย็นกลับบ้านไปจะลองดูมั่งดีกว่า ;D

เพิ่งซื้อแผ่นเสียงวงนี้ ได้ 2 ชุด คือ Aenima และ  Salival  ยังไม่ได้ฟัง

โห คุณหมอซื้อได้เท่าไหร่ครับ? ระวังของปลอมนะครับเกลื่อนมากในอีเบย์ โดยเพราะ Saliva นี่จริงๆไม่มีแผ่นเสียงเป็นทางการนะครับ ยังไงผมเตือนไว้ก่อนว่าคนที่ฟัง Tool ใหม่ๆอาจจะชอบยากนิดนึง เพราะฟังแล้วอาจรู้สึกเพลงมันเหมือนกันหมด อย่างผมนี่หลายปีเลยกว่าจะเริ่มเข้าถึงและจำแนกเพลงของเขาได้ แต่ถ้าให้แนะนำผมอยากแนะนำเริ่มที่ Lateralus ครับ

Aenima เพลงตรงๆดุดันมีเพลงเยี่ยมหลายเพลงเช่น Stinkfist, H, Eulogy, Forty Six & 2, Aenima และเพลงที่สุดยอดมากๆคือ Third Eye ที่ออกโปรเกรสสีฟยาว 13 นาทีครับ

Saliva เป็นรวมเพลงคัดออกที่ออกเป็นงานทดลองและแสดงสดที่หาฟังยากเช่น No Quarter ที่คัฟเวอร์จาก Led Zeppelin และที่่สุดยอกมากก็แน่นอนคือเพลง Third Eye เวอร์ชั่นแสดงสดที่สุดยอดกว่าในอัลบั้มครับ

ผมลองเรียงเพลงฟังแบบพี่สิทธิ์ทำแล้วเหมือนกันครับ เห็นด้วยว่าฟังแล้วไหลลื่นและต่อเนื่องกว่าเดิมมากทั้งในเรื่องของดนตรีและเนื้อหาครับ จากตอนแรกที่ฟังอัลบั้มนี้แล้วรู้สึกเหนื่อยระคนอึดอัดนิดๆ (แต่ก็ชอบนะ) คราวนี้กลายเป็นว่ามันลงตัวและยิดเยี่ยมไปหมดทุกรายละเอียดเลยจริงๆ

ส่วนในแง่ของเนื้อหาของอัลบั้มนี้ ผมว่ามันถูกเขียนออกมาอย่างประณีตบรรจงและลึกซึ้งมากครับ เขาสามารถนำเรื่องราวปรัชญาทางศาสนา จิตวิญญาณ การดำรงอยู่ การแสวงหาความรู้ที่จริงแท้ รวมไปถึงเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติมาโยงไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและเป็นศิลปะมากๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมหลายๆคนถึงยกย่องงานชุดใหนให้เป็นหนึ่งในงานโปรเกรสสีฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคปัจจุบันครับ

ใช่ครับ ปกติฟังอัลบั้มนี้รู้สึกชอบก็จริง แต่มันอึดอัดหลายช่วงเหมือนอารมณ์มันสะดุด โดยเฉพาะช่วงท้ายๆที่เข้าใจยากจนพาลไม่อยากฟังจบแผ่น เคยคิดว่าีที่ช่วงท้ายมีเพลงบรรเลงแปลกๆเยอะนี่มีไว้เพื่อโปะใ้ห้มันเต็มแผ่น 78 นาทีด้วยซ้ำ แต่พอได้เรียงเพลงตามหลักคณิคศาตร์ Fibonacci Sequence แล้วมันคนละเรื่องเลยจริงๆ เห็นพวกแฟนเพลงเขาบอกว่าถ้าฟังให้ดีช่วงจบแต่ละเพลงจะเหมือนมีเสียงที่เบาๆมาจะเชื่อมต่อไปอีกเพลงในรูปแบบ Fibonacci นี้ซึ่งผมก็ค้นเจอบ้างแล้วแต่ยังไม่ทุกเพลงเพราะเมื่อเช้าเปิดแบบเรื่อยๆไม่ได้ตั้งใจฟังทุกช่วง ผมว่าการฟังเพลงให้ได้อรรถรสเราต้องฟังให้ละเอียดให้เข้าใจสิ่งที่ศิลปินสื่อมาหรือต้องการให้เราค้นหาเองแบบนี้ ซึ่งบางครั้งมันก็ยากเหลือเกินแต่ก็รู้สึกท้าทายดีครับ

เพลงอินเทอร์ลูดท้ายอัลบั้มอย่าง Faaip de Oiad นี่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่ผมแทบจะไม่ฟังเลยนะครับ แต่คราวนี้พอมันมาอยู่คั่นกลางระหว่าง Lateralus กับ The Grudge แล้วกลับกลายเป็นทรานซิชั่นที่สุดยอดและยังชวนสะพรึงมากๆ ผมฟังแล้วแอบขนลุกเลยครับ และไอ้การที่มีเรื่องของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิจากต่างดาวมาแทรกเรื่องราวของปรัชญาอันลึกซึ้งแบบนี้ มันทำให้ผมนึกถึงสุดยอดอนิเมะเรื่อง Serial Experiments Lain ขึ้นมาทันทีเลยครับ

เห็นแบบนี้แล้ว Lateralus คืออัลบั้มของ Tool ที่ผมชอบที่สุดไม่เปลี่ยนใจไปหา 10,000 days แล้ว จริงๆก็ลังเลเหมือนกันวระหว่าง 10,000 days กับ Aenima อัลบั้มไหนจะเป็นอันดับสองรองจาก Lateralus ตัดสินใจยากมาก

6,7,5,8,4,9,13,1,12,2,11,3,10

6.   "Parabol"     3:04
7.   "Parabola"     6:03
5.   "Schism"     6:47
8.   "Ticks & Leeches"     8:10
4.   "Mantra"     1:12
9.   "Lateralus"     9:24
13.   "Faaip de Oiad"  2.39
1.   "The Grudge"     8:36
12.   "Triad"     8:46
2.   "Eon Blue Apocalypse"     1:04
11.   "Reflection"     11:07
3.   "The Patient"     7:13
10.   "Disposition"     4:46

แก้ไขนิดนึงนะครับ ผมดันใส่แทร็ค 4. Mantra ซ้ำในลิสต์ข้างบน

  เพิ่งซื้ออีกชุดคือ 10000 days

คุณหมอกะซื้อทุกชุดเลยใช่ไหมครับ? สุดยอดไปเลย

เอา Tool's collection ของผมมาให้ดูลเ่ล่นๆครับ

(http://img576.imageshack.us/img576/7737/cimg4987h.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/576/cimg4987h.jpg/)

Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)

แง๊ ...ง....  ผมอยากได้ Saliva's Box

ขอนำบทความ AML's The Artist : Tool ที่ผมลงไว้ใน FB เมื่อวันก่อนมาลงนะครับ

AML’s The Artist : Tool

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/5689.jpg)

Tool เป็นวงที่เกิดในช่วงที่กระแสดนตรีอย่าง Alternative และ Grunge กำลังมาแรงในต้นยุค 90’s แต่ด้วยซาวนด์ดนตรีที่ฟังดูเป็นเอกลักษณ์ด้วยซาวนด์อันหนักหน่วงในทุกอณูเสียง โดยในยุคแรกๆเพลงของวงอาจยังไม่มีความซับซ้อนมากนัก แต่จะมีเนื้อหาไปทางด้านมืดของมนุษย์ ซึ่งโดยรวมต้องบอกว่าแรกๆอาจฟังติดหูยากพอสมควร แต่มันเหมือนมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้วงนี้เป็นที่น่าติดตามตั้งแต่อัลบั้มแรก Undertow (1993) และอัลบั้มถัดมาอย่าง Ænema (1996) ที่เริ่มส่อให้การพัฒนาและแนวทางที่เริ่มจะเป็นโปรเกรสสีฟในแทร๊คเด่นๆ หลังจากความสำเร็จของอัลบั้มที่สองก็ออกบ๊อกเซ็ทที่ชื่อ Salival (2000) เป็นการคัดเพลงแสดงสดและเพลงที่ไม่อยู่ในอัลบั้มพร้อมกับดีวีดีรวมเอ็มวีในกล่องเดียว (โดยผลิตออกมาจำนวนจำกัดและกลายเป็นของหายากราคาสูงไปแล้ว) จนและอัลบั้มถัดมา Lateralus (2001) ที่ทำให้วง Tool ได้การยอมรับในวงกว้าง และความสำเร็จนี้เองที่ให้ทางวงมีตารางทัวร์ยาวเหยียดจนทิ้งช่วงมาหลายปีกว่าจะได้ฟังอัลบั้มล่าสุดอย่าง 10,000 days (2006) ที่ภาพรวมอาจเหมือนลดความซับซ้อนทางภาคดนตรีและเนื้อหา แต่ก็ถือว่ายังมีความซับซ้อนทางด้านอารมณ์เพลงตามมาตรฐานของวงซึ่งยังถือว่ายอดเยี่ยมเหมือนเดิม

ความโดดเด่นภาคดนตรีของวงที่เห็นได้ชัดคือภาคกลองของ Danny Carey ที่มีริธึ่มหนักแน่นและมีเทคนิดเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร กีตาร์ของ Adam Jones (ผู้มีบทบาทในการออกแบบ Visual Art ของวงด้วย) ที่ไม่มีการโซโล่ออะไรมาโชว์เลยแต่กลับทดแทนด้วยริฟฟ์ที่หนักแน่นเหมือนใช้เครื่องจักรเล่น เสียงร้องของ Maynard James Keenan ที่ไม่ได้เสียงสูงชวนแบบพวกโอลด์สคูลเมทัลแต่เป็นเสียงร้องที่ถ่ายทอดเนื้อหาเพลงที่สื่อถึงด้านมืดของมนุษย์และการถ่ายทอดแนวคิดที่ลึกและเข้าใจยากซึ่งเป็นธีมหลักของวงได้เป็นอย่างดี อีกประการหนึ่งที่ผมประทับใจวงนี้มากๆคือความเป็น privacy ที่ค่อนข้างสูงมาก ไม่ค่อยออกงานหรือปรากฏตัวออกสื่อให้เห็นกันบ่อยนัก และการแสดงสดที่แปลกตรงที่ตัว Maynard เองไม่ชอบที่จะให้มีกล้องวีดีโอหรือสปอร์ตไลท์ส่องไปที่ตัวแก และเขาเลือกที่จะยืนร้องอยู่ด้านในของเวทีข้างๆชุดกลองเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวในการร้องเพื่อที่จะมีสมาธิในการถ่ายทอดเนื้อหาเพลงออกมาได้เต็มที่ งานของวงทุกชิ้จะเน้นความปราณีตและใช้เวลาทำค่อนข้างนานดั่งที่เราได้เห็นความห่างของแต่ละอัลบั้มที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทำงานออกมาเป็นศิลปะมากกว่าจะเน้นการตลาดครับ

Sober
เพลงที่สร้างชื่อเสียงให้คนเริ่มรู้จัก Tool จากอัลบั้มเต็มชุดแรก Undertow ที่ออกมาในยุคกรันจ์กำลังเฟื่องฟู
http://www.youtube.com/watch?v=hglVqACd1C8

Disgustipated
เพลงปิดอัลบั้มแรก ผมเลือกเพลงนี้มาเพราะโดยส่วนตัวชอบงานทดลองแบบนี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=kOvwc8_QXiY

Stinkfist
ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มที่สอง Ænema อัลบั้มที่เริ่มได้รับเสียงวิจารณ์ตอบรับมากขึ้นไปอีกระดับ
http://www.youtube.com/watch?v=07pLGIgyfjw

Ænema
เพลงไตเติ้ลแทร๊คของอัลบั้มที่เป็นหนึ่งในเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวง แนวคิดของการล้างโลกหรือการที่สักวันการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะมาถึง
http://www.youtube.com/watch?v=uCEeAn6_QJo

Third Eye (live)
เพลงระดับมาสเตอร์พีซยาว 13 นาทีที่ปิดท้ายอัลบั้ม Ænema ที่เริ่มเห็นแนวทางโปรเกรสสีฟก่อนจะไปสานต่อในอัลบั้มถัดไป ขอนำเวอร์ชั่นแสดงสดจาก Salival box set ที่ผมว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเพลงนี้มาให้ลองฟังกันครับ ผมยกให้เพลงนี้เป็น Dark Side of The Moon ของ Tool เลยทีเดียว
http://www.youtube.com/watch?v=eH6mKLqe4Yc

You Lied (live)
ลองนำเพลงที่ทางวงนำมาแสดงสดเพลงคัฟเวอร์ของวงอื่นมาให้ฟังดูบ้าง จาก Salival box set เช่นกันครับ
http://www.youtube.com/watch?v=D8m9SnrjpYY&feature=related

Schism
มาถึงอัลบั้มอันลือลั่น Lateralus ที่เรียกว่าก้าวสู่ความเป็น progressive อย่างชัดเจนทั้งดนตรีและแนวคิดการนำเสนอ เพลงนี้มี time signature ที่แปลกและซับซ้อนมาก เนื้อหาเพลงก็ตีความยากเสียเหลือเกิน
http://www.youtube.com/watch?v=LRSLmlFqExU

Parabola
อีกเพลงเด่นจากอัลบั้ม Lateralus
http://www.youtube.com/watch?v=N1HbX8w0Djw&feature=related

Lateralus
อีกเพลงที่เรียกว่ามาสเตอร์พีชได้เหมือนกัน เพลงไตเติ้ลแทร๊คที่เป็นจุดศูนย์กลางของอัลบั้มที่ซ่อนรหัสและความหมายของแนวคิดเกี่ยวการใช้ชีวิตของมนุษย์เราที่ควรพยายามค้นหาความลับของจักรวาลและสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ รหัสที่ได้จาก time signature ในท่อนร้องจากเพลงสามารถนำเอาไปเรียงเพลงในอัลบั้มใหม่เพื่อที่จะได้ฟังอัลบั้มนี้ในแบบที่มันควรจะเป็น ความลับนี้ถูกค้นพบโดยเหล่าแฟนพันธ์แท้ทั้งหลายทั้งๆที่ทางวงไม่เคยออกมาเปิดเผยเรื่องนี้เลย ลองดูคลิปวีดีโอในเพลงนี้อธิบายแนวคิดไว้อย่างละเอียดครับ
http://www.youtube.com/watch?v=wS7CZIJVxFY

Vicarious
อัลบั้มล่าสุด 10,000 days ที่ยังคงความยอดเยี่ยมไว้เหมือนเดิม รู้สึกเหมือนซาวนด์จากอัลบั้มนี้จะหนักหน่วงกว่าอัลบั้มที่ผ่านๆมาด้วย
http://www.youtube.com/watch?v=UUXBCdt5IPg

ขออนุญาตเอาบทความของพี่ Tron ไปเผยแพร่ในบางเว็บนะครับ :D

ได้เลยครับ :D

ชอบริทึ่มกลองของวงนี้มากๆ ฟังเพลินดี บรรยากาศแต่ละอัลบั้มจะมีซาวน์ที่อึมครึมเป็นเอกลักษณ์ของวงติดมาเสมอ

Ainema
Artist :Tool

Some say the end is near.
Some say we'll see armageddon soon.
I certainly hope we will.
I sure could use a vacation from this

Bullshit three ring circus sideshow of
Freaks

Here in this hopeless fucking hole we call LA
The only way to fix it is to flush it all away.
Any fucking time. Any fucking day.
Learn to swim, I'll see you down in Arizona bay.

Fret for your figure and
Fret for your latte and
Fret for your lawsuit and
Fret for your hairpiece and
Fret for your prozac and
Fret for your pilot and
Fret for your contract and
Fret for your car.

It's a
Bullshit three ring circus sideshow of
Freaks

Here in this hopeless fucking hole we call LA
The only way to fix it is to flush it all away.
Any fucking time. Any fucking day.
Learn to swim, I'll see you down in Arizona bay.

Some say a comet will fall from the sky.
Followed by meteor showers and tidal waves.
Followed by faultlines that cannot sit still.
Followed by millions of dumbfounded dipshits.

Some say the end is near.
Some say we'll see armageddon soon.
I certainly hope we will cuz
I sure could use a vacation from this

Stupid shit, Silly shit, stupid shit...

One great big festering neon distraction,
I've a suggestion to keep you all occupied.

Learn to swim.

Mom's gonna fix it all soon.
Mom's comin' round to put it back the way it ought to be.

Learn to swim.

Fuck L Ron Hubbard and
Fuck all his clones.
Fuck all these gun-toting
Hip gangster wannabes.

Learn to swim.

Fuck retro anything.
Fuck your tattoos.
Fuck all you junkies and
Fuck your short memory.

Learn to swim.

Fuck smiley glad-hands
With hidden agendas.
Fuck these dysfunctional,
Insecure actresses.

Learn to swim.

Cuz I'm praying for rain
And I'm praying for tidal waves
I wanna see the ground give way.
I wanna watch it all go down.
Mom please flush it all away.
I wanna see it go right down.
I wanna watch it go right in.
Watch you flush it all away.

Time to bring it down again.
Don't just call me pessimist.
Try and read between the lines.

I can't imagine why you wouldn't
Welcome any change, my friend.

I wanna see it all come down.
put it down.
suck it down.
flush it down.

The best fan made video I've ever seen.

http://www.youtube.com/watch?v=7zV78IgXzB0

"นิพพาน คือความว่างอย่างยิ่งในธรรมชาติ แสงและเวลาทำให้มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ถ้าไม่มีแสงก็ไม่มีเวลา "นิพพาน" เป็นสภาวะที่อยู่เหนือแสงและเวลา การทำความเข้าใจนิพพานด้วยสมองจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะระบบประสาทก็ทำงานภายใต้อิทธิพลของแสงและเวลา นิพพานสามารถเข้าถึงได้ด้วยจิตเท่านั้น"

ฟังดนตรีของคณะ Tool อัลบั้ม Lateralus หลายรอบ ลองนึกเล่นๆว่าถ้า Adam Jones ใส่กีตาร์โซโล่ คิดว่าจะทำให้อารมณ์ของอัลบั้มนี้เปลี่ยนแปลงไปมั้ยครับ

ทุกอย่างใน Lateralus ตอนนี้น่าจะสมบูรณ์ที่สุดแล้วนะครับ มันมีความพอดีในตัวของมันแล้วน่ะครับ

ว่าแล้ว คิดถึงงานใหม่ของ Tool จริง ๆ ว่าต่อไปจะจัดรูปแบบ packaging ออกมายังไง

เปลี่ยนไปแน่นอนครับ และโดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ใส่ด้วยครับ เพราะมันอาจทำให้ดนตรีของ Tool โฉ่งฉ่างและมีสีสันเกินไป แล้วก็จะฟังดูไม่ขลังอย่างที่มันควรจะเป็นก็เป็นได้ ผมว่าดนตรีแบบนี้ก็มีเอกลักษณ์และตรงกับคอนเซปต์ของวงที่สุดแล้วครับ 

ตอบตรงใจครับ ดนตรีของ Tool ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนจริงๆ และผมไม่อยากให้ Tool เหมือนวงอื่นๆทั่วไปที่มีเหมือนถูกจำกัดว่าต้องมีโครงสร้างเพลงพื้นๆหรือมีโซโลกีตาร์เทพๆ ทั้งดนตรี เนื้อหา และการนำเสนอของวง Tool ไปไกลเกินกว่าโครงสร้างพื้นฐานพวกนั้นแล้ว

The Top 20 Maynard James Keenan Songs

Tool — "Third Eye"

The swooping final statement of Ænima traverses a trudging groove before opening up into a haunting refrain. Everything climaxes on Keenan's cataclysmic last words, "Prying open my third eye". The seemingly disparate elements work in unison to form a strange and superb examination of consciousness. This is just one of many examples why Tool keep 21st century music interesting.

Tool — "Prison Sex"

Its primal riffs are so dirty you'll feel like you need a shower after. By far, it's one of Undertow's most brilliant and brutal moments. However, Keenan's lyrics remain both cathartic and disturbing, diving into the horrors of abuse with jarring tunefulness.

Tool — "The Grudge"

On the Lateralus opener, the sound of a mechanical lift drops into a guttural guitar stomp that tribally builds into the frontman's distinct howl, "Wear the grudge like a crown". This vulnerable and vital epic sputters into elegant heaviness like only Tool can.

A Perfect Circle — "3 Libras"

Over a soft finger-picked acoustic melody, Keenan croons, "You don't see me at all". It's a tender moment of longing encased in a beautiful, blissful melody on A Perfect Circle's now classic debut, Mer De Noms. "3 Libras" illuminates the singer's massive vocal range and ability.

Puscifer — "Dear Brother"

From Puscifer's forthcoming Donkey Punch the Night EP, "Dear Brother" sees this collective build on the harmonies of Conditions of My Parole, while preserving both instrumental intricacy and that whacky sense of humor jumping from "Once more into the breach dear friend. Donkey punch the night away". That's one hell of a way to spend your evening quoting William Shakespeare and, well, donkey punching…

A Perfect Circle — "Blue"

"I didn't want to know," admits Keenan at the start of this Thirteenth Step gem. It's imagery of "turning blue", paint a harrowing picture of addiction leading into overdose that's as poignant as it is poetic. The singer's voice reverberates through the haze with real color beyond just "Blue".

Puscifer — "Monsoons"

This is as close to Keenan's Arizona sanctuary as you'll ever get. The lush electronics cackle under his soothing delivery as he pens something of a love letter or homage to the landscape and weather of the land around him. "Only you can bring the color in" remains one of his most beautiful choruses from Conditions of My Parole.

Tool — "Opiate"

"Opiate" shined a light on two important things very early in Keenan's "professional career" on Tool's debut the Opiate (EP). His knack for a hook popped through the perverted bass funk, but his sharp sense of humor peaked through as well announcing, "Deaf and blind and dumb and born to follow, let me lay my holy hand upon you". Lest we forget the totally weird, wild secret Satanic hymn it leads into tongue-firmly-planted-in-cheek.

Tool — "Jambi"

The most crushing moment of 10,000 Days is also its most melodic. Keenan sings, "I would wish it all away, if I thought I'd lose you just one day". It resounds beautifully with anyone who's ever lost someone.

Tool — "Rosetta Stoned"

On this 10,000 Days supernatural trip, Keenan tells a warped abduction story with gritty megaphone-style delivery that beams up into sardonic, heavy space and another soaring chorus.

Puscifer — "The Mission (M is For Milla Mix)" From "C" is For (Please Insert Sophomoric Genitalia Reference HERE) and Sound Into Blood Into Wine, "The Mission (M is For Milla Mix)" borders between Massive Attack sexiness and alternative sleaze. It drips sex appeal as Milla Jovovich—yes that Milla—hums and trades verses with Keenan over throbbing Danny Lohner production.

Tool — "Sober"

The music video still scares the shit out people to this day. However, Tool's breakout single from Undertow, rises from paranoid poetry into an almost orchestral buzz. Keenan's chorus is so catchy its blasphemous—in the best way possible.

Tool — "Undertow"

A surf-style guitar bleeds into a propulsive verse from Keenan. His voice will drown you in this one inside a wave of tangible emotion.

Tool — "H."

Ænima is a perfect record, and we could put every one of its songs on this list. Granted, that could be said of all of Tool's albums, but there's just something so special about that album. It really brought a generation into their world. "H." creeps along as Keenan sings, "I feel like this coming over like a storm again". He pulls everyone into the eye of that storm with impeccable delivery too.

A Perfect Circle — "Judith"

"Fuck your god," Keenan wails in the middle of this single—named after his mother, mind you. It's another catchy, corrosive anthem, and it properly introduced the world to Mer de Noms.

A Perfect Circle — "Orestes"

The imagery of "umbilical residue" and being pulled into "your perfect circle" is undeniably cinematic. Of course, everything builds into a murder of sorts, as well as some of the vocalist's most powerful song.

Tool — "Hooker With A Penis"

You want heavy? This is as heavy as it gets. Keenan confronts claims of "selling out" and "sucking up to the man" with visceral screaming and snide, venomous barbs. He makes a good point. We're all "the man". Yes, if you believe that, "you can point that fucking finger up your ass". Seeing Tool open shows with this is a thing of twisted beauty.

A Perfect Circle — "The Package"

A guitar resembling an eerie music box sound contributes to the paranoia of the beginning of the Thirteenth Step opener. Keenan takes on the role of an addict waiting for a fix. "I am what I'm after," he says. "Take just what I came for and I'm out the door again". It's an uncomfortable slow burn before it explodes into a heavy swaying stomp. Keenan pulls up the curtain on the timeless journey of Thirteenth Step here.

Tool — "Ænima"

Praying for a flood to overtake Los Angeles might resemble Travis Bickle's wish for a "real rain" in Taxi Driver, but it also makes for one of Tool's most enduring and timeless songs.

Puscifer — "Bohemian Rhapsody"

Keenan does Freddie Mercury proud with Puscifer's take on "Bohemian Rhapsody". It's recognizable, but it's also a little warped in true Puscifer fashion so the band's identity remains intact. Being able to hit those notes is divine. Naming the EP Donkey Punch the Night is too.

This has probably been posted here at some point in time, hell, for all I know, someone who posts here wrote this. In any case, I though I would show you all this website that someone pointed out to me, which has an alternate track order for the songs on Lateralus.

http://www.angelfire.com/ma4/question/insight7.html

The new order of the songs is:

Parabol
Parabola
Schism
Ticks & Leeches
Mantra
Lateralus
Faaip de Oiad
The Grudge
Triad
Eon Blue Apocalypse
Reflection
The Patient
Disposition

At first, I thought this new order wouldn't work quite so well, mainly because of the separation of Reflection-Disposition-Triad. However, the songs flow together surprisingly well, and I've noticed some similarities between songs to make connections that I had not previously made (The Grudge flows seamlessly into Triad and the songs sound strikingly similiar).

ok so what tool does for all the albums except undertow they started this with aenima is

they hide the album and band name in the song names to find the correct order you you have to rearrange the song names and also align the song names properly with one another (left or right alignment like in a text document) they give you hints in the album artwork and the music videos are actually instructional videos on how to arrange the songs the things in the videos are supposed to represent individual song names or letters

so for lateralus you are looking for TOOLLATERALUS in the song names so ill show you the 4 songs that make up the TOOL part to show you how to align them

these are the 4 songs (ive capitalized the TOOL letters)

[T]riad
the voice

• f god*

disp

• sition

ref[L]ection

*you have to translate faaip de oiad to english same thing with viginti tres on 10,000 days or else it doesnt work

so if you open a text document and type in those 4 songs in a mono spaced font like fixedsys and then right align the first 3 songs (as in just line up the last letter of each word with one another) and then line up the first letter of disposition and reflection youll see that TOOL is spelled out diagonally

now if you dont understand that heres a picture of what i mean

http://th09.deviantart.net/fs71/200H/f/2012/316/4/2/t_o_o_l_l_a_t_e_r_a_l_u_s_by_noitcnuflam-d57nhok.jpg

now theres another step you have to do with that
which is after you find the correct track list with the TOOL and LATERALUS you have to put the TOOL into the LA TE RA LUS like so

la O te L ra T lus O

and you get this

parabol
parabola

disposition

the patient
ticks & leeches

reflection

the grudge
mantra

triad

eon blue apocalypse
lateralus
schism

faaip de oiad

so thats what you do man you just find the letters and this took me a good 5 years to figure out how to do it and another 3 to figure out aenima lateralus 10,000 days and undertow (undertow doesnt follow this but there is a secret track list in the cd booklet if you look carefully) i didnt figure out salival yet

and the reason the album names are all weird is because i think tool names the songs then aligns them and looks for something that sort of resembles a word and names the album after it

well if you want to know how to do aenima 10,000 days or undertow let me know

also i hope i didnt ruin this for you but it took me like 8 years to figure this out i thought i could just save you alot of time

ฟังชุด Fear Innoculum จนถึงวันนี้ (ไม่ได้ฟังทุกวัน)
มาตรฐานเทียบเท่า 10,000 days, แตยังไม่ถึง Lateralus นะ