นมบูดโผล่กาฬสินธุ์ พบเด็ก 4 รายปวดท้อง ตรวจเจอสารท็อกซิน

หน่วยงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคเมืองกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบนมกล่องยูเอชทีที่ อบต.กลางหมื่น เป็นผู้จัดซื้อ ผ่านเอเย่นต์นมโรงเรียน แจกจ่ายให้ นร.ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก พบนมกลับเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม ลักษณะเป็นวุ้น มีกลิ่นเหม็น เด็ก 4 รายดื่มเข้าไปเกิดปวดท้อง ทั้งที่ฉลากข้างกล่องตีหมดอายุ ม.ค.2548

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลกลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายนิยม วิไชโย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ได้เข้าตรวจสอบน้ำนมสด ยูเอชที ยี่ห้อ "คันทรีเฟรส แดลี่" ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กลางหมื่น ได้จัดซื้อผ่านเอเย่นต์นมโรงเรียนภายใน จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากเด็กนักเรียนภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้รับการแจกนมสดดังกล่าว แต่เมื่อนำไปบริโภคกลับพบว่า ไม่สามารถบริโภคได้ เนื่องจากสภาพน้ำนมที่ควรจะมีสีขาวได้กลายเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม ลักษณะเป็นวุ้น มีกลิ่นเหม็น และมีเด็ก 3-4 คนที่รับประทานเข้าไป จนเกิดอาการปวดท้อง กระทั่งครูภายในศูนย์เด็กเล็กต้องเรียกเก็บนมคืนและร้องเรียนผ่านฝ่ายประชาคมหมู่บ้าน และนายสุรเดช เคราะห์ดี สมาชิก อบต.กลางหมื่น ที่ดูแลศูนย์เด็กเล็ก ให้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง คคบ.กาฬสินธุ์ เข้ามาตรวจสอบ

นายนิยม วิไชโย คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบคุณภาพนมภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 40 หีบ และอีก 18 กล่อง พบว่า

รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ยังคงอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่วัน เดือน ปีที่ผลิต จะไปหมดอายุในวันที่ 28 ม.ค. 2548

อย่างไรก็ตามเมื่อทำการเปิดกล่องดู ก็พบว่า น้ำนมสดยูเอชทีมีสภาพน้ำนมเป็นสีน้ำตาลแทนที่จะเป็นสีขาว ทั้งยังเป็นวุ้นและมีกลิ่นเหม็น นอกจากนั้นเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ภายในน้ำนมมีสารท็อกซิน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคท้องร่วงอย่างรุนแรง และจะเก็บสินค้าเหล่านี้คืนทันที และทำการตรวจสอบไปยังเอเย่นต์นมรายนี้ ที่ทราบว่าอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ต่อไป

ด้าน นางนิรันด์ มนัทศิลา ผู้ปกครองในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กล่าวว่า ปัญหาคุณภาพน้ำนมได้เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2545 ขณะนั้นก็มีเด็กเล็กท้องเสียเป็นจำนวนมาก และการร้องเรียนในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทางจังหวัดเข้ามาตรวจสอบผู้ที่เป็นเอเย่นต์ส่งนม เพราะการส่งนมบูดทำให้เด็กเล็ก 4 คนท้องเสีย จึงต้องการให้ อบต.กลางหมื่น หาสาเหตุ และหากเป็นไปได้ควรที่จะเปลี่ยนแหล่งจัดซื้อนมใหม่ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ คคบ.กาฬสินธุ์ เก็บตัวอย่างไปแล้ว พบว่า ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอีก 2 แห่ง ที่ได้รับการแจกนมชุดนี้ และต้องการที่จะให้ทางจังหวัดโดยเฉพาะหน่วยงาน ส.ค.บ.ลงมาสืบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการหาประโยชน์กันระหว่างเจ้าหน้าที่ในระดับสาธารณสุขอำเภอ กับ อบต. เพราะเอเย่นต์ที่ส่งนมชุดนี้เป็นชุดเดียวกันกับที่ได้มีการส่งนมจนเกิดปัญหาเมื่อปี 2545 แต่ก็ยังสามารถกลับมาจำหน่ายได้เช่นเดิม

	ผู้เขียน	หัวข้อ: นมบูดโผล่กาฬสินธุ์ พบเด็ก 4 รายปวดท้อง ตรวจเจอสารท็อกซิน (อ่าน 3880 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้