ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149733 กระทู้ ใน 4436 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

19 พฤษภาคม 2024 | 08:22:42 PM
  แสดงกระทู้
หน้า: 1 2 [3]
31  ThaiProg / Any Colour You Like / Re: มีใครชอบเกม Tekken บ้างครับ? เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 09:19:14 PM
ยังไงก็ยังยึดมั่นกับ kazuya แล้วอ่ะ เล่นมาตั้งแต่ภาคแรก
32  ThaiProg / Outside The Wall / Re: 10 อัลบั้มที่ทรงอิทธิพลกับชีวิต, ผูกพัน และหลงรักที่สุดในโลกใบนี้ของคุณ เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 09:10:09 PM
1.Radiohead - The Bends (1995)



ผมว่านี่เป็นงานที่ใครอยากเริ่มฟัง Radiohead เพลงไม่ต้องปีนบันไดฟังยากจนเกินไปอย่าง ok computer หรือช่วงหลังจากนั้น คุณต้องการเพลงมันส์ๆ เพลงซึ้งๆ ร๊อคตลาดแตก หรือ เพลงช่างคิดที่เริ่มต้นในชุดนี้ แล้วคำพูดที่เคยมีคนดูถูกพวกเค้าว่า "พวกมันดับแน่ เพราะไม่มีเพลงอย่าง creep" นั้นจะกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะทันที

street spirit (fade out) คือเพลงที่แสดงอารมณ์ล่องลอยของคุณพี่เท่ง เถิดเทิง thom yorke ได้ถึงพริกถึงขิงที่สุดจากชุดนั้น


2.Small Faces - Ogden's Nut Gone Flakes (1968)



concept อัลบั้มงานชิ้นสุดท้ายของทางวงโดยไม่ตั้งใจ เมื่อพบว่าเวลาเล่นในแผ่นเจ๋งมาก อัลบั้มก็ขึ้นอันดับ 1 uk charts ทั้งเงินทั้งกล่องประเคนมาให้ถึงสี่หนุ่มวง"หน้าเล็ก"  

แต่พอนำเพลงเหล่านั้นไปเล่นสดกับเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะเล่นออกมามันช่างซับซ้อนสับสน  จนทำให้ steve marriott นักร้องนำ-มือกีต้าร์ ลาออกจากวงไปในที่สุด พวกเค้าเปิดอัลบั้มด้วยเพลง power ballad ยุคแรกๆของโลกดนตรีร๊อค อย่าง "afterglow (of your love)" แค่เสียงท่อนร้องว่า Love Love is all around me Everywhere Love has come to touch my soul With someone who really cares ก็ละลายใจแล้ว

หรือเพลงอย่าง lazy sunday afternoon ในแนว psychedelic pop ด้วยเสียงร้องสำเนียง cockney เชิงเล่าเรื่อง และหน้า side b ที่เป็นงาน concept psychedelic rock เพลงกึ่งนิทานกับการผจญภัยของ happiness stan ให้เสียงบรรยายโดย stanley unwin ดาราตลกอังกฤษชื่อดัง happiness stan ผู้กำลังหาคำตอบว่าทำไมดวงจันทร์เหลือครึ่งเดียว แล้วถ้ามันเหลือครึ่งเดียวความสุขจะหายไปด้วยมั้ย  

3.Badfinger - Wish You Were Here (1974)



อัลบั้มที่กลับมาท๊อปฟอร์มอีกครั้งของ badfinger และชุดสุดท้ายที่วางแผงขณะ pete ham ยังมีชีวิตอยู่

ช็อตเด็ด อยู่ที่ in the meantime, some other time ที่โชว์ลีลา symphonic rock ย่อยๆ น้องๆ elo อย่างไรอย่างนั้น และบทเพลงที่ฟังแล้วฮุกโดนคุณแน่ๆ อย่าง know one knows

น่าเสียดายอัลบั้มชุดนี้นำพาไปสู่โศกนาฏกรรมเสียแทนที่จะเป็นความสำเร็จอย่างที่วงที่ทุ่มเท่ควรจะได้




4.Primal Scream - XTRMNTR (2000)



หากมีคนถามว่า เพลงเต้นรำ สังวาสกับ ร๊อคแอนด์โรลล์ ดิบๆ จะเกิดลูกออกมาเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้คือ primal scream

แม้ทางวงจะมาถูกหวยกับเพลงแนวเต้นรำก็ปาเข้าไปชุดที่ 3 อย่าง screamadelica เข้าไปแล้ว แต่ชุดที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขานำดนตรี electronica รากแตก ผสมกับ ดนตรี hard rock ดิบๆ แรงๆ ผลที่ได้คือ อัลบั้มชุดนี้ของทางวง

ด้วย content เนื้อหาที่เอียงไปทางการเมืองสุดกู่ยิ่งกว่าชุดไหน ว่าด้วยคอนเสร็ปของการ เอารัดเอาเปรียบและกดขึี่ของ ผู้มีอำนาจทางการเมือง และ ทรราชย์ ด้วยเนื้อหาเคร่งเครียดผิดวิสัยขี้เหล้า เมายา ไม่สนโลก อันเป็นภาพลักษณ์ของทางวง แต่นี่ล่ะคืองานเข้มๆ โดนๆ ยิ่งกว่างานชุดไหนจะให้ได้จาก primal scream อีกสองปีถัดมาทางวงกลับมาอีกครั้งว่า ด้วยเรื่องการก่อการร้าย และความหวาดกลัวของโลกหลังเหตุการณ์ 11 กันยา ใน evil heat

ว่ากันว่า ถ้า john cale ได้ฟังงานชุดนี้เขาคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปนเหน็บ ว่า "ไอ้พวกเวรตอนกูทำแบบนี้เสือกมาด่ากูดีนัก แหมต้องรอให้ถึง primal scream มาทำพวกมึงถึงจะ get สาดดด...."
5.Smashing Pumpkins - Siamese Dream (1993)



อัลบั้มชุดนี้เกิดขึ้นในภาวะความวุ่นวายของทางวง บิลลี่ คอร์แกนรับหน้าที่เล่นกีต้าร์เกือบทั้งหมดในชุดนี้ จึงเต็มไปด้วยเสียง noise reverb effect delay ของกีต้าร์จากฝีมือบิลลี่เกือบทั้งหมด เพราะ เจมส์ เกิดอาการติสต์แตก งอน ดีอาร์ซี่ มือเบสและแฟนสาวของวงในช่วงนั้นด้วย และ จิมมี่ แชมเบอร์ลิน เริ่มออกอาการจั่งซี้มันต้องฉีดเข้าเส้น

ทำให้งานโดยรวมดูรุนแรงเกรี้ยวกราดและบ้าคลั่ง ใส่ไม่ยั้งเหมือนคนระบายความอึดอัดในจิตใจ แม้แต่เพลงช้าอย่าง disarm หรือ soma ก็รู้สึกได้ตรงนั้น

แน่นอนไม่มีใครไม่พูดถึง single ฮิตจากชุดนั้นอย่าง cherub rock และ ที่ว่าการอำเภอ เอ๊ย! today ที่ทำให้คณะ ฟักทองเละ รู้จักไปทั่วโลก ความเกรี้ยวกราดใน silverfxxx / geek usa/ mayonaise (หนึ่งในไม่กี่เพลงที่ james ยอมเลิกงอแงลงมาช่วยขย่มขยี้ จับขึ้นค่อม guitar กับ billy)

 นั้นคงสามารถระบายความรู้สึกของตัวบิลลี่ ในช่วงนั้นได้ แต่ใครจะปฏิเสธว่านี่เป็นงานที่กลมกล่อม มันส์ๆ แรงๆ ที่ทางวงมอบให้ แม้จะไม่อลังการหรือเหมือนนี่มันพลังจักรวาลแล้ว อย่าง mellon collie...

6.The Innocent - ครั้งนี้ของพี่กับน้อง (1986)



หลายคนคงชอบงานที่ทางวงโชว์ฝีไม้ลายมือทางดนตรี ของ พี่ๆวง ดิ อินโนเซ้นท์ อย่าง "โลกใบเก่า" หรือ "10 นาฬิกา" มากกว่า แต่ผมคิดว่างานชุดนี้ดูละมุลและพอดีสำหรับทางวงที่สุด

ด้วยท่วงทำนองเพลงป๊อปยุค 80's ที่คาดว่าทั้งพี่สันและพี่โอม สองแกนหลักในการแต่งเพลงได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยในงานชุดนี้ โดยเฉพาะจากฝั่งอังกฤษและในเครือจักรภพ อย่าง housemartins, aztec camera, the pastels, colour field, air supply  หรือแม้กระทั่งงานเพลงไทยของ พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ที่พี่โอมเคยไปทำงานร่วมด้วย

ทำให้งานชุดนี้ อบอวลไปด้วยเสียงซินธ์และคีย์บอร์ด พาร์ทกีต้าร์ของพี่โอมในชุดนี้ไม่โชว์โซโล่หวือหวาเหมือนชุดก่อนหน้า (โลกใบเก่า)

กลับกลายเป็นว่าเป็นงานที่แฟนเพลงมหาภาคให้การต้อนรับดีที่สุดของทางวง เพลงทำนองไม่โชว์มากมายจนล้น แต่สัมผัสคล้องจองด้วยเนื้อร้องของพี่สัน และบทบาทการทำหน้าที่ร้องเพลงเยอะกว่าชุดใดของ พี่สายชล ระดมกิจ และชุดนี้นี่เองที่เป็นชุดแรกที่ทางวงไม่นำเพลงเก่าลูกกรุง ลูกทุ่ง มาร้องคัฟเวอร์ใส่เลย แสดงให้เห็นถึงการมองพิถีพิถันรักษาภาพรวมของอัลบั้ม

เพลง มือที่สาม น่าจะเพลงที่ได้เห็นการเล่น jam  ระหว่างกันของสมาชิกวงว่าฝีมือแต่ละคนเป็นอย่างไร

ป.ล. มีใครไม่ใจละลายบ้าง เมื่อเพลง "ฝากรัก" ถูกเปิดขึ้น  ยิ้มเท่ห์


7.Soulwax: Any Minute Now (2004)



Soulwax คือวงดนตรี alternative rock จาก เบลเยี่ยม นำโดยสองพี่น้องอาร์ทตัวพ่อ อย่าง stephen และ david dawaele หรือที่คอเพลงเต้นรำรู้จักพวกเขาในงาน side project ในชื่อ 2 many dj's ที่เปิดคอนเสิร์ตไปทั่วโลก ยกเว้นประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ไม่นับ สิงคโปร์

งานลำดับที่ 3 ที่ทิ้งห่างจากงานอัลบั้ม much against everyone's advices ถึง 5 ปี พวกเขากลับมาดนตรีในรูปแบบ electro rock ที่เต็มไปด้วยบีทเร้าใจอย่าง e-talking /any minute now/ miserable girl และเพลง dance punk  ที่ร้องแจมกับ nancy whang จากวง lcd soundsystem ใน ny excuse

พวกเขาออกอัลบั้มกันน้อยมาก 3 ชุดในรอบ 14 ปี ที่ออกผลงานกันมา เปลี่ยนสมาชิกวงกันทุกชุด มีเพียงสองพี่น้อง และ มือเบส stefaan van leuwen ที่เป็นแกนหลัก

เน้นไปที่แสดงสดมากกว่าและงาน remix ให้คนอื่น ถ้าเรียกพวกเขาว่าเป็น modern dog ของเบลเยี่ยมคงทำให้พวกคุณเห็นภาพชัดเจน การออกงานแล้วแต่อารมณ์ อ่องานทุกชิ้นของพวกเขาแนวเพลงเปลี่ยนทุกชุด ใครจะรู้เลยว่าชุดแรกของพวกเขา leave the story untold เป็นแนว grunge! และ produced โดย chris goss ผู้ปลุกปั้น queen of the stone age และ kyuss

8.ฤทธิพร อินสว่าง: ก้าวที่สอง (1989)



ก้าวที่สองของนักร้องนักแต่งเพลง ฝีมือดี หลังจากประสบความสำเร็จมากมาย จนเจ้าตัวถึงกับอึ้ง ในชุดก้าวแรก ที่มีเพลงอย่าง ใบไผ่ / เธอผู้ห่างไกล / เรือ ด้วยท่วงทำนองดนตรี hard rock และ folk rock

มาในงานชุดที่สอง ฤทธิพรกระโจนเข้าหาดนตรีร๊อคที่ตลบอบอวลด้วย synth และ progressive rock ในหลายๆเพลง จากฝีมือของกลุ่ม บัตเตอร์ฟลาย ในการเรียบเรียงดนตรี ทำให้ชุดนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของพี่บ๊อบเลยก็ว่าได้

power ballad ในคราบ synth rock อย่าง เพียงความหลัง/ ธุลี/ ด้วยรักและศรัทธา synth pop สนุกๆ ใน อกหักอีกต่างหาก/ เตลิด/ บางที บางครั้ง  ไปถึง progressive rock ที่ปุ้ม วงตาวัน โชว์ฝีมือการพรมนิ้วบน keyboard จนคุณต้องร้องสุโค่ย ใน เรือ ภาค 3

ใครบอกว่าพี่บ๊อบเป็นศิลปินแนวเพื่อชีวิต ผมขอเถียงเลย พี่เขาน่ะป๊อปร็อคเต็มสตรีมเลย และมาก่อนยุค เสก โลโซ

9.Sleeper 1: Difference Part 1 / Difference Part 2 (2005-2006)



นับตั้งแต่วงตาวัน กับ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ที่เคยสร้างงาน concept อัลบั้มออกมาเป็นรูปธรรมเราก็ไม่ค่อยเห็นใครสร้างงานลักษณะนั้นอีก จนการมาถึงของ เกรียงไกร วงษ์วานิช มือกีต้าร์วง friday กับงานเดี่ยวของเขาในนาม sleeper 1 ผลงานอัลบั้มเต็ม ลำดับ 2-3 ในเวลาไล่เลี่ยกัน

ใช่แล้วมันเป็นอัลบั้มคู่ ที่ว่าด้วยความแตกต่าง เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของหนุ่ม สาว แปลกหน้าคู่หนึ่ง ที่บังเอิญมาพบกันในลิฟท์ และมีภูมิหลังของความต่างทางด้านกายภาค (ฝ่ายชายมีหัวใจทั้งสองข้าง!)

ฝ่ายหญิงเธอเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก และ ไม่มีหัวใจ (ในด้านกายวิภาค) อยู่ในตัวเธอเลย อันส่งผลต่อความรู้สึกของเธอด้วยที่เคว้งคว้าง ตามแบบฉบับคนในเมืองหลวง

เพลงโดยรวมอยู่ในโทน alternative rock และ indie pop แต่ผูกเรื่องราวในแบบดนตรี progressive rock

ผมว่านี่เป็นงานอาจจะฟังยากกว่าชุดที่แล้วของเขาใน sleeping letter แต่ด้านเนื้อหากลับมองเห็นและดูเป็นรูปธรรมกว่าเข้มข้นกว่า งานชุดแรก

จะผิดอะไรมั้ย ผมว่า ถ้า roger waters (พ.ศ.นี้ ที่แอ้บแบ้วเหลือเกิน) ทำงานอัลบั้มกับ cornelius โดยเขียนเพลงออกมาจากแรงบันดาลใจนิยายรัก ของ haruki murakami ผลที่ได้ออกมาก็เหมือนงานชุดนี้นี่เอง....(กรุณาทำเสียงแบบรายการ tv champion)
10.Cornelius: 69/96 (1995)



cornelius หรือ keigo oyamada กับผลงานชุดที่สองของเขา ที่ออกมาในปลายปี 1995 โดยได้แรงบันดาลใจจากบรรยากาศในหนัง cults ตระกูล roger corman และค่าย toho บวกกับเพลง hard rock กระแทกใจในวัยเด็กของเค้าที่ได้อิทธิพลมาจาก led zeppelin, black sabbath, bloodrock, ac/dc ทำให้เกิดงานชุดนี้ขึ้นมา

เสียง sampling จากหนังยุค 70's แขกรับเชิญชั้นอ๋องอย่าง jimmy pages ในเพลง 69 girl meets cassette หรือ hide แห่ง x-japan ที่มาโชว์ลีดกีต้าร์แจมร่วมกับ cornelius ในเพลง heavy metal thunder ก็แทบจะร้องว่าสุโค่ย แล้ว และแสดงให้เห็นว่า cornelius สนใจ sound noise sampling และดนตรีที่ไม่จำกัดขอบเขตในความสนใจเขา ก็มาจากชุดนี้

อ่อ cornelius มีชื่อเสียงก่อน ตา beck hensen จะออกอัลบั้มเสียอีก ตั้งแต่สมัย flipper's guitar ดังนั้นใครบอกว่า cornelius รับอิทธิพลมาจาก beck  นั้น ผิดอย่างแรง!!!!!!!

ตัดใจ:

อัสนี-วสันต์: บ้าหอบฟาง (1986)





งานที่แฟนเพลงของสองพี่น้องที่ราบสูงถวิลหา ในวันที่อัสนี เสียงยังไม่ร้องยานคางมาก และไม่ค่อยเน้นเนื้อหาจิ๊กโก๋ อกหัก ยกเว้นเพลง บอกแล้ว

แต่งานในชุดนี้เต็มไปด้วยการตั้งกระทู้ถามสังคม และ วิพากษ์มากกว่า
เช่น พฤติกรรมคนอวดรำ่อวดรวย ใน บ้าหอบฟาง
 การสู้ชีวิตของคนต่างจังหวัดใน เพลงของเขา
เพลงไทยสากลเก่าๆ ฝีมือการเขียนของ ครูผี-อัสนี พลจันทร์ ใน "เดือนเพ็ญ" ที่พี่ป้อมเรียบเรียงเพลงไทยสากลเนิบๆ เพลงนี้ ให้กลายเป็นเพลง power ballad ทรงพลัง ประสานกับ chorus หญิง คู่บุญ อย่าง สีส้ม-สีฟ้า ที่ฟังแล้วทำเอาขนลุกกว่าเวอร์ชั่นไหนๆ

หรือ เพลงที่กำลังบอกว่าอย่าลืมสิ่งดีๆ ที่เราหลงลืมไปแล้ว อย่าง น้ำเอยน้ำใจ  แต่ผมขี้เกียจมาถูกเยาะเย้ยถากถางว่า เพลงไตเติ้ลแทร็คทำนองไปพ้องกับเพลงของวง yes เหมือนแฟนเพลงของ สองพี่น้องที่ราบสูง นี่ มีกรรมไปหมด เขียนชมก็ว่า...ว่าฟังเพลงไม่มีการพัฒนา เฮ้อ


ทั้งหมดนี้มันมีสรรพคุณเป็นเช่นนั้นผมถึงหลงรักมัน และ เหมือนมันมีเรื่องราวและชีวิตอยู่ในอัลบั้มนั้นๆ ด้วย

ป.ล. ว่าจะเขียนใหม่ดีกว่า
33  ThaiProg / Breathe / Re: ข่าวเศร้า ร้าน J.U. ปิดกิจการ !! เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 06:28:44 PM
ร้านใหญ่ๆที่มีเงินทุนมาก มีสินค้ามากมายหลากหลาย มีพนักงานเดินกันขวักไขว่ (แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง..คอยจ้องแต่ว่าใครจะขโมยของ)
ไม่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้ เวลาเลิกลาไป ไม่นานคนก็ลืม

แต่ร้าน JU เป็นร้านเล็กๆ (จริงๆน่าจะเรียกว่าซุ้มแบบถาวรมากกว่า) เจ้าของขายเอง มีความรู้เรื่องดนตรี และเป็นกันเอง
มีลูกค้าขาประจำมากเสียกว่าร้านใหญ่ๆอีก อยู่มาได้ยาวนายหลายสิบปี จำเป็นต้องเลิกลาไปเพราะปัญหาสุขภาพ
ไม่ใช่เพราะไปไม่รอดเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจดังเช่นร้านใหญ่ๆ
เวลาจากไป มีแต่คนคิดถึง จนอาจจะเรียกว่าเป็นหนึ่งในร้านเทปและ ซีดี ที่กลายเป็นตำนานของคนฟังเพลงหลายรุ่นหลายสมัยเลยก็ว่าได้

เสียดายเหมือนกันครับ...และขอให้เจ๊จูมีจิตใจที่เข้มแข็งไว้ต่อสู้กับโรคภัยด้วยครับ


ประโยคข้างบนเห็นด้วยเลยครับ พวกร้านใหญ่ๆอย่าง ขอพูดเลยล่ะกันไม่อ้อมค้อม แกรม พารากอน กับ บีทูเอส สาขาเซ็นทรัลทั้งหลายแหล่ (ยกเว้น central world กับพนักงานบางคน)  ตัวดีเลยร้านใหญ่มาก แต่พนักงานมีไว้เพื่อกินเงินเดือนและเอาซีดีใส่ลงช่องเท่านั้น แล้วมีหน้ามาบอกทุกครั้งว่าสนใจตัวไหนสอบถามได้นะครับ/ค่ะ แล้วพอบอกออกไป ที่ไม่ใช่ศิลปินไทย ศิลปินฝรั่งแว้นท์ที่คนไทยนิยม หรือ เคป๊อป เสือกทำหน้าเอ๋อใส่ ทำหน้างงๆ ใส่  เพื่อ.... ทั้งๆที่คำตอบของผมที่อยากได้ คือ ได้ครับ/ค่ะ เดี๋ยวจัดการให้ หรือพาไปยังที่ๆที่วางซีดีศิลปินคนนั้นวางอยู่  สุดท้ายก็ต้องไปค้นเอง แล้วดันมีด้วยนะ (ผมหาแผ่น รวมฮิต velvet underground ปกดำที่ออกมาเมื่อปี 89) แล้วพอหยิบเสร็จ เสือกมีหน้าเดินมาเสนอโปรโมชั่นยัดเยียดให้ซื้อศิลปินเคป๊อป หรือรวมฮิตโคตรเพลงรักที่มีแต่เซ็ตเดิมๆ  ด้วยนะ โอ่....พวกเมิงมาเพื่อแดกเงินเดือน คอยแค่ทำหน้าเหยียดใส่ลูกค้าที่ไม่ได้แต่งตัวภูมิฐาน ท่องโปรโมชั่นเป็นนกแก้วนกขุนทอง แล้วก็ทำหน้าเอ๋อใส่ลูกค้าแท้ๆ

ผมเคยไปซื้อร้านเจยูไม่ค่อยบ่อยครับ ตอนเข้ากรุงเทพฯ เพราะไม่ได้พิศมัยเพลงเมทัลหนักๆ มากมาย จะไปที่ร้านโดเรมีมากกว่า ทั้งสองร้านเป็นร้านเล็กๆ โดยสาววัยใหญ่เช่นกันทั้งสองร้าน แต่ความรู้และคลังเพลงแน่นเพียบ ชนิดร้านใหญ่ๆ พนักงานหลายคนยังไม่สามารถพอเท่าเจ๊สองคน อยากสั่งแผ่น import ไหนบอกมาจัดให้จะ eu หรือ usa ขอให้บอก
ทุกวันนี้ผมเองก็ไม่อยากให้โดเรมี โดนเหมือนเจยู แม้ใครๆก็รู้ว่าแถวสยามค่าที่แพงบรรลัย

ที่เชียงใหม่ ผมพยายามไปอุดหนุน ทิพย์เนตร เอนเตอร์เทนไพรส์  มีไม่กี่ร้านแล้วในเชียงใหม่ที่เป็นคลังเพลงมหาศาล พนักงานมีความรู้ทุกคน หยิบได้

ลาก่อน เจยู ขอให้เจ๊จูสุขภาพแข็งแรงนะครับ
34  ThaiProg / Breathe / Re: แนะนำตัวกันหน่อยย เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 05:12:05 PM
สวัสดีครับเป็นสมาชิกใหม่ของห้องนี้ครับชื่อ top username toptopo ครับ
ชื่อเล่น top
E-mail : thom237@hotmail.com
msn: เหมือนข้างบน
ปัจจุบัน : นักศึกษาปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่
อายุ 21 ปี

ศิลปินที่ชอบ: Pink Floyd (Roger Waters-Era), Radiohead, Cornelius, Yellow Magic Orchestra, Butterfly, Muse, Malice Mizer, Queen Of The Stone Age, Soulwax, L'Arc~en~Ciel, Primal Scream, Tame Impala, Queen, New Order, Manic Street Preachers, Smashing Pumpkins, CSS แล้วก็พวกงานตราแผ่นเสียง creation, harvest, kitsune, play it again sam ประมาณนี้พอดีกว่า เยอะเกิน 5555

Genre: Progressive Rock, Art Rock, Alternative Rock,  Britpop, Hard Rock, Glam Rock, Shibuya Kei except K-Pop 555
 

เรียนคณะอะไรครับเนี่ย ผมก็เด็กเชียงใหม่ครับ
กลับบ้านที่ไรไปนั่งบราสเซอรี่ตลอด ฮ่าๆ  ยิ้มเท่ห์

คณะนิเทศฯ ครับ แต่ผมชอบไปนั่งร้าน มินิม่อล กับ วอร์มอัพ มากกว่า แล้วก็ร้านขันอาษา เสียดายร้านหลังเพิ่งปิดไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

ยินดีที่ได้รู้จักครับ
35  ThaiProg / Keep Talking / Re: Jan Hammer เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 02:18:34 PM
งานเขาในยุคแรกๆ จะออกไปทาง jazz fusion มากกว่า ตั้งแต่สมัย mahavishanu orchestra แล้ว

หรืองานดนตรี fusion ไปเลย มีมาถูกหวยโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองจากทำเพลงธีมประกอบ ซีรี่ยส์ฝรั่งเรื่อง miami vice ในแนว electro
36  ThaiProg / Keep Talking / มีใครฟังงานของ Les Rallizes Dénudés บ้างมั้ยครับ เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 02:14:44 PM



วงดนตรีชื่ออ่านยากเห็นชื่อแล้วนึกว่ามาจาก ฝั่งยุโรป แต่ไมใช่เลยครับ พวกเขาเป็นวงร๊อคญี่ปุ่นครับ เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเพลงในแนว experimental music , avant garde และ psychedelic rock มาตั้งแต่ปลายยุค 60's แล้้ว

พวกเขาแทบจะออกอัลบั้มน้อยมาก จะเน้นเล่นโชว์ไลฟ์มากกว่า แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคนบันทึกการแสดงสดปั้มขายเอาไว้ด้วย หรืออัดเพลงไว้กระจัดกระจายมากกว่าจะออกแผ่นลองเพล์ย

นอกจากแนวดนตรีทดลองที่แหวกกว่าบรรดาศิลปินญี่ปุ่นในยุคนั้นแล้ว เรื่องแนวคิดทางการเมืองพวกเค้าก็ซ้ายสุดด้วยเช่นกัน เช่น Moriaki Wakabayashi มือเบสคนแรกของวงที่ร่วมกับกลุ่ม JRA (Japanese Red Army) จี้เครื่องบิน สายการบิน เจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 351 เพื่อลี้ภัยไปยังเกาหลีเหนือ (Yoshimi Tanaka หนึ่งในสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย JRA ถูกจับได้ที่เมืองไทย)

Takashi Mizutani ฟร้อนแมนและมือกีต้าร์ของวงเกือบร่วมก่อการครั้งนั้นด้วยแต่โชคดีที่เค้าปฏิเสธและเลือกที่จะไปแสดงโชว์ซึ่งมีในวันที่ก่อเหตุพอดี

อาจเพราะแนวคิดทางการเมืองของพวกเค้าด้วยก็ได้ ทำให้ทางวงไม่ได้ดังมากมายในวงกว้างในญี่ปุ่น หรือค่ายเพลงใหญ่ๆ จะนำพวกเค้ามาออกแผ่นให้ เพราะขยาดในทัศนคติที่แสดงออกมาของทางวง สื่อมวลชนบางแห่งเขียนตีข่าวใส่ไข่พวกเค้ากับพรรคคอมมิวนิสต์ญี่ปุ่น หรือกลุ่มผู้ก่อการร้าย jra ว่ามีส่วนรู้เห็นในเหตุวินาศกรรม วางระเบิดตึกสำนักงาน ของ mitsubishi และ hitachi*


 แต่เรื่องงานดนตรีมีแฟนเพลงเฉพาะกลุ่มติดตามดูการแสดงสดของพวกเค้า และแฟนเพลงเฉพาะกลุ่มนี่ล่ะ ที่ส่วนใหญ่ในนั้นเป็นศิลปินหัวก้าวหน้า หรืออนาคตคนทำงานศิลปะ งานเพลงทางเลือกในอนาคตของญี่ปุ่นด้วย

สื่อมวลชนมักนำ Les Rallizes Dénudés ไปเปรียบกับ elp, pink floyd หรือ hawkwind ที่เน้นการทดลองทางเสียงเพลงผสมสื่อศิลปะ การแสดงสดบนเวทีที่รุนแรงบ้าคลั่ง ปรับแอมป์เสียงดัง จนเจ้าของสถานที่แทบจะลมจับ

ผลงานของ Les Rallizes Dénudés ที่วางแผงออกมาเป็นทางการและเป็นรูปธรรม

Oz Days Live (1973)

'67-'69 Studio et Live (1991)

Mizutani/Les Rallizes Dénudés (1991)

'77 Live (1991)

ซึ่งจะเป็นงานแสดงสดหรือ อัลบั้มรวมซิงเกิ้ลที่ทำกระจัดกระจายในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาของทางวงมากกว่าจะเป็น studio อัลบั้มจริงๆ จังๆ

Les Rallizes Dénudés ประกาศสลายวงในปี 1996 จากสาเหตุการอิ่มตัวในนามของวง แต่ทางวงก็ยังขึ้นโชว์ในงานเทศกาลทางดนตรีต่างๆ ในโอกาสพิเศษบ้างเช่นกัน



Takashi Mizutani = ฟร้อนท์แมนของ Les Rallizes Dénudés





*
(พวก ่jra อ้างว่าสองบริษัทนี้เป็นปีศาจในคราบนายทุนที่เอารัดเอาเปรียบในทางธุรกิจ ที่เรียกกันว่าระบบผู้อุปถัมถ์ทางการเงินหรือ zaibatsu อันเป็นหนึ่งในระบบศักดินาของญี่ปุ่นด้วย ท้งๆที่ระบบนี้ถูกทำลายลงในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว หลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม และสหรัฐอเมริกา เข้ามารื้อระบบทางสังคมญี่ปุ่นเกือบหมด)
37  ThaiProg / Keep Talking / Re: สามสี่วันมานี้ ท่านฟังดนตรี prog อะไรกันบ้าง? เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 01:15:19 PM
Malice Mizer: Merveilles

Malice Mizer: Bara No Seidou (Church Of Rose)
38  ThaiProg / Any Colour You Like / Re: ชาวไทยพร๊อกดูบอลกันอ๊ะป่าว? เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 01:13:28 PM
เสียใจกับแฟนหงส์เมื่อคืนด้วยนะครับ ผมว่า เชลซีต่อบอลกันลื่นมากกว่า

ิ่อ่อผมสาวก เร้ด อาร์มี่ Manchester United เช่นเดียวกับพวก Stone Roses, Happy Mondays และ New Order ครับ  ยิ้มเท่ห์

39  ThaiProg / Any Colour You Like / Re: Prog Ost. Movie เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 01:11:19 PM
28 days later ก็ดีนะครับ มี Brian Eno มาแจมกับ John Murphy ด้วย
40  ThaiProg / Keep Talking / Re: X Japan - Art Of Life เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 01:04:05 PM
ลิขสิทธิ์อัลบั้ม dahlia จริงๆแล้วผู้จัดจำหน่ายที่แท้จริงที่ญี่ปุ่น คือสังกัด warner music japan แต่ด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบที่เมืองไทย จัดจำหน่ายโดย sony music แทน ซึ่งในตอนนั้น sony music thai หรือ epic thai ค่อนข้างใจปล้ำ ศิลปินญี่ปุ่นคนไหนกำลังนิยมก็ปั้มออกมาขาย ทั้งๆที่ บางศิลปินต้นสังกัดก็ไม่ใช่ sony อย่าง glay ตอนนั้นพวกเขาอยู่กับ pony canyon (สิทธิ์ในเมืองไทยที่ทำได้คือ s.stack)

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม wea ไทย ในตอนนั้น ถึงไม่ได้สิทธิ์ อัลบั้ม dahlia ทั้งๆ ที่ตอนนั้น x-japan นำ vanity label คือ platinum records (คนละอันกับบ้านเรานะ) ดูแลโดย wea หรือ polygram (กับศิลปินในอาณัติโยชิกิ บางคน) ให้กับงานของทางวงหรืองานเดี่ยวของสมาชิกในวงเช่น hide เป็นต้น

ดังนั้นเป็นไปได้ว่า อัลบั้ม blue blood กับ jealousy ที่ sony นำออกมารีได้ เพราะเป็นผลงานที่ทางวงทำกับ สังกัด sony จริงๆ แต่กับ dahlia นั้นเป็นของ warner sony thai ตอนนั้นซื้อสิทธิ์มาแค่จัดจำหน่ายเท่านั้น ส่วนจะรีหรือไม่ นั่นเป็นสิทธิ์ของ โยชิกิ (เจ้าของค่าย platinum records) หรือ ทาง วอร์เนอร์ แม้มันจะดูข้ามหน้าข้ามตา wea ไปซะหน่อย (wea ไทย นะ wea ไทย ทำไมถึงไม่สนใจ ตอนนั้นมัวแต่โปรโมต ทอม ดันดี อยู่นั้นแหละ วู้)
41  ThaiProg / Keep Talking / Re: American prog rock artists ที่ท่านรู้จักมีใครหรือวงใดบ้าง? เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 12:33:38 PM
อย่าลืม mars volta ด้วยนะครับ  ยิ้มกว้างๆ แม้สองหนุ่มหัวฟู จะอยู่ตะเข็บชายแดนเม็กซิโกหน่อย แต่ก็นับเพราะมาจากมลรัฐเท็กซัส

silversun pickups,  my morning jacket, explosions in the sky, battles ด้วย

แนะนำรุ่นใหม่ๆ แล้วกันครับ แม้บางวงจะกระเดียกไปทาง experimental หรือ psychedelic เสียหน่อย
42  ThaiProg / The Song Remains The Same / Re: สี่ห้าวันมานี้ ท่านฟังดนตรี Classic Rock อะไรกันบ้าง? เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 12:24:53 PM
Badfinger - Wish You Were Here

Big Star - 1st Record

The Innocent - โลกใบเก่า

Yellow Magic Orchestra - Naughty Boys

The Hollies - I Can't The Bottom From The Top (Single)

Aztec Camera feat. Mick Jones (The Clash) - Good Morning Britain (Single)

Soulwax VS. Michael Jackson - Saturday Jeans (Mash Up Song)

Guns N' Roses VS. The Beatles - Sgt.Pepper And The Paradise City (Mash Up Song)
43  ThaiProg / Breathe / Re: แนะนำตัวกันหน่อยย เมื่อ: 05 ตุลาคม 2009 | 12:13:00 PM
สวัสดีครับเป็นสมาชิกใหม่ของห้องนี้ครับชื่อ top username toptopo ครับ
ชื่อเล่น top
E-mail : thom237@hotmail.com
msn: เหมือนข้างบน
ปัจจุบัน : นักศึกษาปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่
อายุ 21 ปี

ศิลปินที่ชอบ: Pink Floyd (Roger Waters-Era), Radiohead, Cornelius, Yellow Magic Orchestra, Butterfly, Muse, Malice Mizer, Queen Of The Stone Age, Soulwax, L'Arc~en~Ciel, Primal Scream, Tame Impala, Queen, New Order, Manic Street Preachers, Smashing Pumpkins, CSS แล้วก็พวกงานตราแผ่นเสียง creation, harvest, kitsune, play it again sam ประมาณนี้พอดีกว่า เยอะเกิน 5555

Genre: Progressive Rock, Art Rock, Alternative Rock,  Britpop, Hard Rock, Glam Rock, Shibuya Kei except K-Pop 555
 
หน้า: 1 2 [3]
ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery