ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149733 กระทู้ ใน 4436 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

20 พฤษภาคม 2024 | 08:51:11 PM
  แสดงกระทู้
หน้า: 1 ... 967 968 [969] 970 971 ... 973
14521  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 12:50:22 PM
Title: Eloy Live (1978, Double LP EMI Electrola 1C 064-32 934/35 Made in Germany)
 
Track Listing: Poseidon's Creation (From "Ocean"); Incarnation Of The Logos (From "Ocean"); The Sun Song (From "Dawn"); The Dance In Doubt And Fear (From "Dawn"); Mutiny (From "Power And The Passion"); Gliding Into Light And Knowledge (From "Dawn"); Inside (From "Inside"); Atlantis' Agony At June 5th 8498. 13 P.M. Gregorian Earthtime (From "Ocean")
 
Musicians: Frank Bornemann (guitars, lead vocals); Klaus-Peter Matziol (bass guitars, vocals); Detlev Schmidtchen (keyboards); Jurgen Rosenthal (drums & percussions)

Personal Rating: ***1/2

Worlds atomize and oceans evaporate in eternity!
Man erects out of the darkness,
laughs into the glimmering light and disappears...
(Introductory speech at the beginning of the song "Poseidon's Creation" in "Eloy Live")

Eloy Live (1978) เป็นอัลบั้มคู่บันทึกการแสดงสดเมื่อครั้งที่ Eloy ออกทัวร์เพื่อโปรโมทผลงานชุด Ocean ในประเทศเยอรมนี บ้านเกิดของพวกตน ดังจะเห็นได้ว่าในอัลบั้มไลฟ์วชุดนี้มีเพลงจากงานชุด Ocean บันทึกอยู่เกือบทั้งหมด ยกเว้นเพลง Decay Of The Logos (อันที่จริง Eloy ก็เล่นเพลงนี้บนเวทีด้วยเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลและปัญหาทางเทคนิคบางประการ ทำให้เพลง Decay Of The Logos ถูกตัดออกไป) นอกจากนั้นก็มีเพลงจากอัลบั้มชุด Dawn, Power And The Passion และ Inside ในอัลบั้มการแสดงสดชุดนี้ สมาชิกวงทุกคนยังฟอร์มสดและฝีไม้ลายมือยังเฉียบคม เพลงทุกเพลงเล่นได้ใกล้เคียงกับเพลงในสติวดิโออัลบั้ม จะมีพิเศษก็ในบางเพลงอย่าง The Sun Song ซึ่งใช้เวลาพูดแนะนำในช่วงต้นเพลงเป็นภาษาเยอรมันค่อนข้างนาน ทำให้ค่อนข้างน่าเบื่อในช่วงแรก (เพราะฟังภาษาเยอรมันไม่ออก???), เพลง The Dance In Doubt And Fear ที่เน้นการบรรเลงดนตรีโดยปราศจากเนื้อร้อง เพลงนี้เป็นเพลงโปรดเพลงหนึ่งของผม ซึ่งสมัยก่อนมักจะได้ยินเปิดออกอากาศในรายการ Top Teen Talent อยู่บ่อย ๆ, เพลง Mutiny (จากชุด Power And The Passion) และเพลง Inside (จากชุด Inside) ทั้งสองเพลงนี้น่าสนใจตรงที่เล่นสดโดยไลน์อัพชุดใหม่ (ไม่ใช่ไลน์อัพชุดเดิมที่เล่นเพลงนี้ในสติวดิโอ) และเล่นได้ใกล้เคียงกับของเดิมมาก, น่าเสียดายที่คุณภาพเสียงของอัลบั้มชุดนี้ไม่สู้จะดีนัก คือ เสียงออกจะแบนฟุ้งไปหน่อยและความดังของเสียงในแต่ละเพลงไม่สมานเสมอกัน สาเหตุเท่าที่ทราบจากข้อมูลที่ได้มาคือปัญหาด้านเทคนิคและไฟฟ้าบนเวที ทำให้ต้องมีการแต่งซ่อมเพลงบางเพลงในสติวดิโอกันในภายหลัง แต่ก็เป็นอัลบั้มแสดงสดที่น่าสนใจมากของ Eloy ในยุครุ่งเรือง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนใหม่หรือผู้ที่ต้องการจะทำความรู้จักผลงานของ Eloy ในเบื้องต้น อัลบั้มแสดงสดชุดนี้เปรียบเสมือนชุดรวมเพลงที่ยอดเยี่ยมชุดหนึ่งของ Eloy เลยทีเดียว

14522  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 12:49:34 PM
Title: Ocean (1977, LP EMI Electrola 1C 064-32 596 Made in Germany)
 
Track Listing: Poseidon's Creation; Incarnation Of The Logos; Decay Of The Logos; Atlantis' Agony At June 5th 8498. 13 P.M. Gregorian Earthtime
 
Musicians: Frank Bornemann (electric, acoustic & effect guitars, vocals); Klaus-Peter Matziol (bass guitars); Detlev Schmidtchen (keyboards); Jurgen Rosenthal (drums & percussions)

Personal Rating: ****1/2

หลังจากประสบความสำเร็จมากพอสมควรกับอัลบั้มชุด Dawn แล้ว ในปีต่อมาคือ 1977 Eloy จึงได้ออกผลงานอีกชุดหนึ่งซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่มีอยู่เดิม อัลบั้มชุดนี้มีชื่อว่า Ocean และยังเป็นคอนเส็พท์อัลบั้มเช่นเดียวกับชุดก่อน โดยในชุดนี้ Eloy ได้กล่าวถึงกำเนิด ความเจริญ ความเสื่อม และการล่มสลายของทวีปแอตแลนติสซึ่งจมหายไปในท้องสมุทรตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ อัลบั้มชุดนี้มีเพลงทั้งหมดสี่เพลง ได้แก่ Poseidon's Creation, Incarnation Of The Logos, Decay Of The Logos และ Atlantis' Agony At June 5th 8498. 13 P.M. Gregorian Earthtime ตามลำดับ ทุกเพลงเล่นได้ยอดเยี่ยมและประณีตตามแบบฉบับของซิมโฟนิคโพรเกรสสีฟว์ เครื่องดนตรีทุกชิ้นที่เล่นมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน -- ไม่ว่าจะเป็นกลองและเพอร์คัสชั่นสารพัดชนิดซึ่งเล่นโดย Jurgen Rosenthal ในสไตล์ของ Neil Peart แห่งวง Rush (ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างมือกลองทั้งสองคนนี้ ใครลอกทางกลองของใครกันแน่ เพราะสไตล์คล้ายกันจริง ๆ), ลีดกีตาร์ที่ได้รับอิทธิพลจาก David Gilmour (ในเพลง Poseidon's Creation), fretless bass ที่เล่นด้วยชั้นเชิงแพรวพราวโดย Klaus-Peter Matziol และคีย์บอร์ด/ซินธ์นานาชนิดที่สร้างความหรูหรา สวยงามและซับซ้อนให้กับบทเพลงชุดนี้ และฝีมือการริฟฟ์และโซโลคีย์บอร์ดของ Detlev Schmidtchen ในอัลบั้มชุดนี้มีพัฒนามากขึ้นกว่าในชุด Dawn เสียอีก -- จังหวะจะโคนดนตรีของอัลบั้มชุดนี้ส่วนใหญ่สนุกสนาน ขึงขังอลังการ ยกเว้นเพลงสุดท้าย Atlantis' Agony At June 5th 8498. 13 P.M. Gregorian Earthtime ซึ่งเป็นเพลงที่ยาวที่สุดของอัลบั้ม แต่ในช่วงอินโทรถึงกลางเพลงดูออกจะเนิบ ๆ เอื่อย ๆ ไปสักหน่อย เพราะเป็นการเล่นกับเสียงคีย์บอร์ด อิเล็กทรอนิกส์เอฟเฟคท์ และเสียงพูดเหมือนเสียงประกาศิตที่ลอยมาจากท้องฟ้าเบื้องบนจนฟังดูน่าเบื่อ โดยรวมแล้วถือเป็นงาน symphonic progressive ที่นักวิจารณ์ทั่วไปต่างยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดของ Eloy แต่โดยความเห็นส่วนตัว ผมกลับชอบความกลมกลืนต่อเนื่องของอัลบั้มชุด Dawn มากกว่า

แถมท้ายให้นิดหนึ่งคือหน้าปกในแบบแฟนตาซีอาร์ตของชุดนี้ซึ่งวาดออกมาในโทนสีน้ำเงินของมหาสมุทร เป็นอาร์ตเวิร์คที่สวยงามมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีแผ่นไวนิล ซึ่งปกเป็นแบบ gatefold ดูดีและน่าสะสมมากเลยทีเดียว

14523  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 12:48:54 PM
Title: Dawn (1976, LP EMI Electrola 064-31 787 Made in Germany)
 
Track Listing: Awakening; Between The Times; Memory Flash; Appearance Of The Voice; Return Of The Voice; The Sun Song; The Dance In Doubt And Fear; Lost!??? (Introduction); Lost (The Decision); The Midnight Fight/The Victory Of Mental Force; Gliding Into Light And Knowledge/The Dawn
 
Musicians: Frank Bornemann (guitars, vocals); Klaus-Peter Matziol (Rickenbacker bass); Detlev Schmidtchen (keyboards, guitars); Jurgen Rosenthal (drums & percussions)

Personal Rating: ****1/2

อัลบั้มที่ออกถัดมาในปี 1976 คือชุด Dawn ซึ่งเปรียบเสมือนอรุณเบิกฟ้าแห่งยุค symphonic progressive ที่แท้จริงของ Eloy หลังจากที่ได้ออกอัลบั้มชุด Power And The Passion ในปี 1975 โดยต่อมาได้มีการยุบวงชั่วคราวพร้อมกับการไล่ผู้จัดการวงคนเดิม คือ Jay Partridge ออกไป ทางต้นสังกัด คือ EMI Electrola เห็นว่าผลงานชุด Power And The Passion มียอดขายที่ดีพอสมควร จึงให้โอกาสแก่ Frank Bornemann ในการฟอร์มวง Eloy ขึ้นมาอีกครั้ง โดยทีมนักดนตรีชุดใหม่ของ Eloy ในยุคนี้ได้แก่ Frank Bornemann (vocals, guitars), Klaus-Peter Matziol (bass guitar), Detlev Schmidtchen (keyboards, guitars) และ Jurgen Rosenthal (drums & percussions, อดีตมือกลองของ Scorpions ในงานชุด Fly To The Rainbow) ซึ่งถือเป็นไลน์อัพที่แกร่งและมั่นคงที่สุดในยุครุ่งเรือง นอกจากนี้ Eloy ยังได้รับการสนับสนุนด้านดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้าจากบริษัทต้นสังกัด ทำให้ดนตรีในชุด Dawn นี้มีความประณีตเลิศหรูอลังการกว่าผลงานในชุดก่อน ๆ ภาคเนื้อร้อง (lyrics) ดูแลโดย Jurgen Rosenthal มือกลอง แต่เครดิตในการทำดนตรีเป็นของสมาชิกทุกคนในวง

จากการที่ได้สมาชิกที่เป็นเลือดใหม่ทั้งสามคนมาร่วมงาน ทำให้ดนตรีในงานชุดนี้มีสีสันแตกต่างผิดแผกไปจากผลงานในชุดก่อน ๆ ฝีมือและลวดลายในการเล่นกลองของ Rosenthal ละม้ายคล้ายคลึงกับ Neil Peart แห่งวง Rush มาก เต็มไปด้วยเทคนิค ลูกเล่น และมีความละเอียดซับซ้อนแพรวพราว, การเดินเบสส์ของ Klaus-Peter Matziol นิยมใช้ Rickenbacker ซึ่งให้โทนเสียงที่อุ่นหนาและมีพลังหนักแน่น, Detlev Schmidtchen ซึ่งเดิมเล่นกีตาร์ แต่พอมาสังกัดอยู่วงนี้จึงรับหน้าที่เล่นคีย์บอร์ดนานาชนิด และเล่นออกมาได้ดีพอสมควร

ผลงานชุดนี้เป็นคอนเส็พท์อัลบั้มอีกชุดหนึ่ง ผมไม่แน่ใจว่า Eloy ต้องการจะสื่อถึงอะไร, เพราะดูจากเนื้อเพลงที่ให้มาด้วยนั้น เป็นภาษาอังกฤษที่อ่านแล้วเข้าใจยาก -- จะว่าจงใจเขียนให้ดูเข้าใจยากและกำกวม หรือภาษาอังกฤษของคนเยอรมันอย่าง Rosenthal นั้นเป็น broken English อันนี้ก็สุดที่จะเดา (คล้าย ๆ กับเนื้อร้องที่เขียนโดย Jon Anderson ของวงเยส) -- แต่พอจะจับความได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ จิตวิญญาณ เรื่องราวเหนือจริง ความสับสน การต่อสู้ของจิต และการตรัสรู้ (โดยใช้คำว่า Dawn เป็นสัญลักษณ์?) หรืออาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอภิปรัชญา (metaphysics) ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการเอ่ยชื่อตัวละครที่ชื่อ Jeanne (ในอัลบั้ม Power And The Passion) ด้วย จึงไม่แน่ใจว่าผลงานชุดนี้เป็นภาคสองต่อจาก Power And The Passion หรือเปล่า?

หากตัดความยากและกำกวมของภาษาออกไป ผลงานชุดนี้ถือเป็นงานดนตรี symphonic progressive ที่ยอดเยี่ยมงดงามมากไม่แพ้ผลงานคลาสสิกของวง Yes และถือเป็นมาสเตอร์พีซชุดหนึ่งของ Eloy เลยก็ว่าได้ ดนตรีเล่นได้ดีทุกชิ้นและใช้เครื่องดนตรีมากมายหลายชนิด ทำให้เสียงที่ได้ออกมานั้นมีความหลากหลายและซับซ้อน เสมือนพรมที่ถูกถักทอมาอย่างวิจิตรบรรจง แต่เสียอยู่นิดเดียวเท่านั้นคือภาคคีย์บอร์ดซึ่งฟังดูเนือย ๆ ชอบกล ไม่ค่อยเร้าใจเท่าที่ควร เสียงร้องของ Bornemann มักถูกตำหนิจากเจ้าของภาษาหรือ native speaker ว่า เป็นภาษาอังกฤษที่เป็นสำเนียงเยอรมันหรือ thick accent มากไปหน่อย แต่โดยส่วนตัว ผมว่าเสียงของเขามีเสน่ห์ครับ เพลงเด่นในชุดนี้ได้แก่ Awakening ซึ่งเริ่มต้นก็มีเสียงเอฟเฟ็คท์กัมปนาทครั่นครืนของลมฟ้าอากาศ, Between The Times ร็อคมัน ๆ จังหวะจะโคนคล้ายผลงานยุคแรกของ Scorpions, The Sun Song ซึ่งมีสำเนียงคีย์บอร์ดในแบบตะวันออกคล้ายของ Kitaro, The Dance In Doubt And Fear ซึ่งมีเนื้อร้องยาวและร้องในลักษณะพูด dialogue มากกว่า, Lost (The Decision) เพลงร็อคที่ฟังแล้วติดหูง่ายอีกเพลงหนึ่ง และโครงสร้างไม่ซับซ้อนมาก, The Midnight Fight/The Victory Of Mental Force จังหวะจะโคนคึกคักสนุกสนานเต็มไปด้วยความสับสน, Gliding Into Light And Knowledge ซึ่งโทนเพลงออกหวาน เศร้า ดื่มด่ำ โหยหา และเต็มไปด้วยอารมณ์, การบันทึกเสียงยอดเยี่ยม ฟังดูโปร่งกระจ่างและสะอาดหูกว่าชุด Ocean ซึ่งถือเป็นงานชิ้นสุดยอดของ Eloy เสียอีก, อย่างไรก็ดี ผลงานชุดนี้ต้องฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะทุกเพลงต่างเรียงร้อยเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง จะขาดไปเสียเพลงใดเพลงหนึ่งมิได้ -- และนี่คือผลงานระดับเอกอันถือเสมือนเป็นเพชรงามเลอค่าเม็ดหนึ่งแห่งโลกดนตรี progressive rock -- เอาไปเลยครับ สี่ดาวครึ่ง สำหรับผลงานอันยอดเยี่ยมชุดนี้

14524  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 12:47:56 PM
Title: Power And The Passion (1975, LP EMI Electrola 1C 064-29 602 Made in Germany)
 
Track Listing: Introduction; Journey Into 1358; Love Over Six Centuries; Mutiny; Imprisonment; Daylight; Thoughts Of Home; The Zany Magician; Back Into The Present; The Bells Of Notre Dame
 
Musicians: Detlef Schwaar (guitar); Frank Bornemann (guitar, vocals); Manfred Wieczorke (organ, moog synth, mellotron, piano); Luitjen Janssen (bass); Fritz Randow (drums)

Personal Rating: ***

ผลงานลำดับถัดไปของ Eloy ซึ่งออกในปี 1975 คืออัลบั้มชุด Power And The Passion และเป็นคอนเส็พท์อัลบั้มชุดแรกของ Eloy อีกด้วย โดยแต่ละเพลงจะร้อยเรียงกันต่อเนื่องกันเป็นเนื้อหาที่กล่าวถึงการเดินทางย้อนเวลาสู่อดีตในปีค.ศ. 1358 ของชายหนุ่มที่ชื่อ Jamie จากการหลงไปดื่ม time-eroding drug ที่พ่อของตนเองได้ปรุงเอาไว้ เมื่อ Jamie ได้หลงยุคมาถึงศตวรรษที่ 14 (ซึ่งฉากตามท้องเรื่องน่าจะเป็นประเทศฝรั่งเศส) ที่นั่นเขาได้พบรักกับหญิงสาวนามว่า Jeanne ซึ่งมีคู่หมั้นคู่หมายเป็นบุตรชายของหัวหน้าเขตปกครองซึ่งใช้กฎเหล็กในการปกครองชาวบ้าน แต่หญิงสาวที่ชื่อ Jeanne มิได้รักชายดังกล่าว บิดาของ Jeanne แอบซ่องสุมกำลังคนในหมู่บ้านเพื่อก่อการกำเริบต่อต้านหัวหน้าผู้ปกครอง และ Jamie ก็ได้เข้าร่วมในการต่อต้านครั้งนี้ด้วย แต่ในที่สุดก็ถูกจับขังคุก และได้รับความช่วยเหลือจากจอมขมังเวทย์ The Zany Magician ซึ่งช่วยให้ Jamie เดินทางข้ามเวลากลับสู่ปัจจุบันได้สำเร็จ และทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำและความอาลัยของ Jamie ที่มีต่อ Jeanne (ในบทสนทนาตอนหนึ่งระหว่าง Jamie กับ Jeanne มีการกล่าวถึงกัญชา ซึ่ง Jamie ได้พกติดตัวมาและได้ยื่นให้ Jeanne สูบเพื่อผ่อนคลายความเครียดด้วย)

เดิมที Eloy มุ่งหมายให้งานชุดนี้เป็นอัลบั้มคู่ แต่ผู้จัดการวงตัวแสบ Jay Partridge ไม่ยอม จึงทำออกมาได้แค่อัลบั้มเดี่ยวอย่างน่าเสียดาย (ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาคอนเส็พท์ขนาดนี้อำนวยให้ทำเป็นอัลบั้มคู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว) อย่างไรก็ดี ผลงานชุดนี้นอกจากจะเป็น concept album ชุดแรกของ Eloy แล้ว ยังมีการเพิ่มมือกีตาร์เข้ามาช่วยงานอีกหนึ่งคน คือ Detlef Schwaar และใช้คีย์บอร์ดหลากชนิดขึ้น เช่น moog, string synths, mellotron (ผมพยายามฟังเสียง mellotron จากงานชุดนี้อยู่หลายเที่ยวแล้ว แต่ยังฟังไม่ออกสักทีว่าเล่นอยู่ไหนช่วงไหนกันแน่) ซึ่งสร้างสีสันให้ดนตรีมีกลิ่นอายและบรรยากาศที่ดูขลังในแบบ Gothic สมกับที่ย้อนกลับไปในยุคโบราณ เพลงเด่นของอัลบั้มชุดนี้ ได้แก่ Love Over Six Centuries ซึ่งมี dialogue เสียงสนทนาระหว่าง Jamie กับ Jeanne มีการโซโล minimoog และริฟฟ์เสียงกีตาร์ในสำเนียงของ Uriah Heep ซึ่งอาจทำให้นึกถึงเพลง Gypsie ขึ้นมาทันที, เพลง Mutiny ซึ่งโดดเด่นด้วยการโซโล minimoog และ string synths, เพลง Daylight ที่ฟังแล้วนึกถึงเพลง Aqualung ของ Jethro Tull, เพลง The Zany Magician ซึ่งเล่นในสไตล์ heavy metal และมีเสียงร้องบาดแหลมและฟังดูแปลก และปิดท้ายด้วยเพลง The Bells Of Notre Dame อันเป็นตอนที่ Jamie ได้เดินทางกลับสู่ยุคปัจจุบันได้สำเร็จ นอกจากนี้ บางช่วงบางตอนของอัลบั้มชุดนี้ฟังแล้วอาจนึกถึง Uriah Heep และ Manfred Mann's Earth Band ขึ้นมาตะหงิด ๆ แม้จะเป็นงานที่ออกจะขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนของ Eloy ในการทำคอนเส็พท์อัลบั้ม ซึ่งจะมีต่อไปอีกหลายชุดหลังจากผลงานชุดนี้

14525  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 12:47:09 PM
Title: Floating (1974, LP EMI Electrola 1C 064-29 51 Made in Germany)
 
Track Listing: Floating; The Light From Deep Darkness; Castle In The Air; Plastic Girl; Madhouse
 
Musicians: Frank Bornemann (guitar, vocals); Manfred Wieczorke (organ, guitar); Luitjen Janssen (bass); Fritz Randow (drums)

Personal Rating: ***1/2

Floating (1974) เป็นผลงานที่เปรียบเสมือนอัลบั้มคู่แฝดของ Inside ความดิบและหนักหน่วงในสไตล์เฮฟวี่โพรเกรสสีฟว์ยังมีให้ได้ยินเฉกเช่นอัลบั้มชุดก่อน แต่ในอัลบั้ม Flaoting นี้ได้ลดทอนภาคเนื้อร้องลงไป และเน้นการแจมดนตรีเป็นหลัก ภาคคีย์บอร์ดส่วนใหญ่ยังคงใช้ hammond organ อยู่ และโชว์ทักษะการเล่นและสีสันแพรวพราวมากกว่าชุดก่อน เพลงเปิดชุดนี้คือ ไทเทิลแทร็ค Floating ซึ่งเริ่มต้นก็ได้ยินเสียงแผดกระหน่ำอันนำไปสู่การร่วมแจมอย่างเมามันของเครื่องดนตรีทุกชิ้น เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงสั้น ๆ ไม่ยาวมากและเล่นได้จังหวะจะโคนกระชับดีมาก, เพลง The Light From Deep Darkness มีความยาวประมาณ 14 นาทีกว่า อาจถือได้ว่าเป็น highlight ของงานชุดนี้ เมื่อได้ยินเสียงออร์แกนเริ่มต้นเพลงนี้ก็ให้นึกถึงดนตรีร็อคในแบบฉบับต้นทศวรรษที่ 70 แล้ว ดนตรีจะเริ่มจากความอ่อนเบาในช่วงแรกเพื่อไปสู่ความหนักหน่วงในแบบฉบับเฮฟวี่แทบจะตลอดทั้งเพลง โดยมีเสียงออร์แกนบรรเลงคลออย่างยอดเยี่ยม, เพลง Castle In The Air มีท่อนร้องสั้น ๆ คล้ายเสียงพูดมากกว่า ในส่วนที่เหลือเป็นการดวลและแจมดนตรีอันสุดมัน เพลงนี้ใช้กีตาร์เล่นสองตัว, เพลง Plastic Girl กลับไปสู่ความเป็น psychedelic อีกครั้ง แต่เพลงนี้พิเศษตรงที่เริ่มมีการนำเอา moog synthesizer มาเล่นหยอดไว้ในเพลงด้วย (ซึ่งจะพบว่าเสียง moog จะมีบทบาทในอัลบั้มชุดต่อไปของ Eloy) และเพลงปิดท้าย Madhouse ยังคงความเป็น heavy prog ที่เข้มข้น มันสะใจ ใส่กันไม่ยั้ง ฟังดี ๆ จะได้ยินองค์ประกอบดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Jethro Tull และ Uriah Heep แฝงมาด้วย นักวิจารณ์หลายคนมองว่าผลงานชุดนี้อ่อนด้อยกว่า Inside และเดินตามรอยชุด Inside จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นงานคู่แฝดกัน แต่ในส่วนตัวของผม ผลงานชุดนี้คือความสนุกสนาน ความมันและความสะใจ สรุปว่าถ้ามีและชอบเพลงในชุด Inside แล้ว ก็ต้องหาผลงานชุดนี้มาไว้ในครอบครองเช่นกัน

14526  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 12:46:03 PM
Title: Inside (1973, LP EMI Electrola 1C 062-29 479 D Made in Germany)
 
Track Listing: Land Of Nobody; Inside; Future City; Up And Down
 
Musicians: Frank Bornemann (guitar, vocals, percussions); Manfred Wieczorke (organ, guitar, vocals, percussion); Wolfgang Stocker (bass); Fritz Randow (drums, percussion, acoustic guitar, flute)

Personal Rating: ***1/2

เริ่มจากผลงานชุด Inside (1973) ซึ่งเป็นงานเก่าที่สุดที่ผมได้ฟัง ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ Eloy ได้ออกอัลบั้มแรกคือ Eloy ซึ่งเป็นแนวฮาร์ดร็อค/ไซคิเดลิค แต่ความเป็น progressive ที่แท้จริงเริ่มฉายแววจากชุด Inside นี้ หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนสมาชิกบางคนในวง และแกนนำของวง คือ Frank Bornemann (guitar/lead vocals) ได้เข้ามารับหน้าที่ร้องนำเต็มสูบ อัลบั้มชุดนี้มีเพลงทั้งหมดสี่เพลง ได้แก่ Land Of Nobody ซึ่งมีความยาวเต็มหน้าแรกของแผ่นไวนิล, Inside, Future City และ Up And Down ดนตรีเป็นแนว heavy progressive rock ในแบบฉบับของต้นยุคปี 70 และเสียงร้องตลอดจนภาคดนตรีบางส่วนได้รับอิทธิพลจากดนตรีของ Jethro Tull (เข้าใจว่าน่าจะมาจากความฮ็อตของอัลบั้ม Thick As A Brick) ภาคคีย์บอร์ดใช้ hammond organ เล่นโดยฝีมือของ Manfred Wieczorke (guitar/keyboard) และสามารถริฟฟ์และโซโลได้มันถึงใจมาก เพลงยาว Land Of Nobody เป็นเพลงระดับอีพิคที่มีหลายรสชาติในเพลงเดียวกัน ทั้งช้า เร็ว หนักหน่วง และลึกลับดำมืด ดูเหมือน Frank Bornemann จะพยายามลอกเลียนสไตล์เสียงร้องของ Ian Anderson แห่ง JT เพลงไทเทิลแทร็ค Inside มีท่อนบรรเลงและโซโลออร์แกนที่ดิบและมันมาก ในอดีตเพลงนี้ได้รับการเปิดออกอากาศบ่อยในรายการวิทยุ Top Teen Talent เพลง Future City เน้นดนตรีไปในแบบอะคูสติก มีเสียงเพอร์คัสชั่นที่แพรวพราวและการดวลกันอย่างมันหยดของกีตาร์สองตัวในช่วงกลางเพลง และปิดฉากด้วยเพลงสุดท้าย Up And Down ซึ่งมีเสียงร้องออกไปในทางไซคิเดลิคและมีเนื้อหาที่คิดว่าจะเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองในยุคนั้น โดยสรุป Inside ถือเป็นอัลบั้มระดับแลนด์มาร์คของ Eloy ในการที่จะก้าวไปสู่ความเป็นวงดนตรี progressive rock ชั้นนำของเยอรมนีและของโลกในเวลาต่อมา

14527  ThaiProg / Treasure Boxes / Re: กรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 11:31:45 AM
รายการที่มีเครื่องหมายดอกจัน * หมายความว่า มีมากกว่าหนึ่งก็อปปี้ครับ
14528  ThaiProg / Breathe / Re: การแนบไฟล์ต่างๆ & ภาพ เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 11:18:02 AM
วิธีการเหมือนเดิมที่ใช้ในบอร์ดเก่าหรือเปล่า? ช่วยอธิบายโดยละเอียดและเป็นขั้นตอนหน่อยครับ
14529  ThaiProg / Breathe / Re: ขอแสดงความยินดีกับบ้านใหม่ เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:50:51 AM
จะพยายามตอบครับแต่คำตอบอาจไม่เหมือนเดิม หรือไม่ครบถ้วนเหมือนเดิม
ไม่เป็นไรครับ คุณ panyarak แค่ช่วยกันคนละนิดละหน่อยก็เกินพอแล้วครับ
14530  ThaiProg / Breathe / Re: ประกาศ Webboard ใหม่ เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:48:50 AM
1. รบกวน web admin ช่วยใส่วันสถาปนาเว็บไว้ที่หน้าแรกด้วย (Established June 29, 2007 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)

2. อย่าลืม hit rate counter ตัวนับสถิติการเข้าชมด้วยนะครับ
14531  ThaiProg / Treasure Boxes / แนะนำอัลบั้มหัวกะทิของวง Eloy จากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:44:47 AM
เดิมได้เขียนแนะนำผลงานที่น่าสนใจของ Eloy ทั้งสิบชุดไว้ในบอร์ดเก่า แต่ข้อมูลเดิมไม่ได้สูญหายไปไหน และจะนำมารวบรวมไว้ในหัวข้อนี้ต่อไปครับ
14532  ThaiProg / Treasure Boxes / แนะนำอัลบั้มแปลกและหายากจากกรุสมบัติปีศาจลายคราม เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:41:18 AM
เดิมผมได้เขียนแนะนำผลงานแปลกแต่ดีและน่าฟังไว้ในบอร์ดเก่า จึงขอยกเอาผลงานเหล่านี้มาประมวลไว้ในหัวข้อนี้ตามลำดับต่อไปครับ
14533  ThaiProg / Breathe / Re: แนะนำตัวกันหน่อยย เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:33:53 AM
ชื่อจริง - ไพบูลย์
ชื่อเล่น - เพื่อน ๆ และน้อง ๆ มักเรียกว่า (พี่) พอก
อาชีพ - ที่ปรึกษา, ล่าม, นักแปล
ความสนใจยามว่าง - สะสมงานดนตรี prog โดยเฉพาะ symphonic prog ยุค 70 ตลอดจนแนวอื่น ๆ ที่โปรดปราน, เครื่องเสียง, ประมูลหาแผ่นเสียงที่ชอบ, อ่านหนังสือ, ทำอาหาร, เลี้ยงเมียและแมว

น้อง ๆ หลายคนคงได้เคยเห็นตัวจริงของผมแล้วในงานมีตติ้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2550 ที่ผ่านมา และผมยินดีที่ได้รู้จักสมาชิกทุกคนครับ
14534  ThaiProg / Keep Talking / ใครชอบอัลบั้ม Song Of Seven ของ Jon Anderson กันบ้างครับ เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:26:43 AM
โดยรวม แม้อัลบั้มผลงานเดี่ยวของชุดนี้ของจอน แอนเดอร์สัน จะไม่ใช่โพรเกรสสีฟว์จ๋าและออกในช่วงต้นปี 80 แต่ฟังแล้วสดใสและน่ารักดี โดยเฉพาะเพลง For You For Me และ Everybody Loves You แถมบันทึกเสียงได้ดีอีกต่างหาก ไม่ทราบว่ามีใครชอบผลงานชุดนี้กันบ้างครับ
14535  ThaiProg / Keep Talking / วงดนตรีอะไรบ้างที่เล่นเลียนแบบสไตล์ของ ELP เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2007 | 10:04:56 AM
มาช่วยกัน list วงดนตรีหรือศิลปิน prog ที่เล่นดนตรีในแนวหรือสไตล์ของ Emerson Lake & Palmer กันดีกว่าครับ (เนื่องจากวงนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนไม่น้อย) ไม่จำเป็นต้องเป็นวง trio ก็ได้นะครับ เพียงแต่ขอให้มีสไตล์เสียงที่ท่านได้ยินแล้วต้องนึกถึงวง ELP ทันที (โดยมากมักจะเป็นเสียงคีย์บอร์ดของ Emerson เป็นหลัก) ผมจะฟังข้อเสนอของท่านอื่นก่อน แล้วค่อยเสริมทีหลังครับ
หน้า: 1 ... 967 968 [969] 970 971 ... 973
ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery