Thai Progressive Rock Community

เห็นแต่กระทู้คุยเรื่องเครื่องเล่นแผ่นเสียง อยากทราบว่าสมาชิกเว็บ ใช้เครื่องเล่นแผ่นซีดียี่ห้ออะไรกันบ้าง และมีคำแนะนำอย่างไรครับ

sony ครับ เสียงก็โอเคนะ เปิดกับแอมป์หลอดพ่อ  ;D

JVC ครับ

ตอนซื้อมีแต่คนบอกว่าห่วย เบสบาง เสียงแหลมบาดหู ให้รายละเอียดเสียงไม่ครบ หนาบางไม่สมดุล (เค้าฟังกันออกขนาดนั้นเลยรึ  :D)
แต่ไม่น่าเชื่อนะครับห้องข้างๆมาบ่นเรื่องเสียงเบสเสียงกลองเข้าไปทะลวงโสตประสาทเค้าสองรอบแล้ว ทั้งๆที่ผมก็เปิดแค่ Volume 10 เอง (Volume สูงสุด 40)

เครื่องเล่นซีดีจริงๆ พังหมดแล้วจ้า เหลือแต่เครื่องเล่นดีวีดีเอามาเล่นซีดี

Sony ครับ


แนะนำให้ลองฟังดูก่อน โดยเอาแผ่นที่ฟังบ่อยๆไปลองก่อนครับ ลองไปเรื่อยๆจนถูกใจค่อยซื้อ ไม่ถูกใจหรือเฉยๆ อย่าซื้อครับ

 :D

+ 1  :D

Philips, Sony

ตอนนี้ที่บ้านใช้ชุดสเตอริโอเก่าคร่ำครึของ Sony อยู่ครับ (เก่าขนาดใหนไม่รู้ รู้แค่ว่าตั้งแต่จำความได้ก็เห็นมันตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าแล้ว) ซึ่งตอนนี้ก็ใช้ทั้งฟังซีดีและต่อเข้าคอมพิวเตอร์ครับ ชื่อรุ่นจำไม่ได้ ไว้จะกลับบ้านแล้วจะถ่ายภาพมาให้ชมนะครับ  :D

เคยซื้อเครื่องเล่น DVD มายี่ห้อนึง(ของไม่ค่อยมียี่ห้อเท่าไหร่) ใช้ไปซักพักหัวอ่านพังอ่านอะไรก็ไม่ได้

จริงที่บ้านผมมี Sony FH-L300 รุ่นเก่าแล้วครับเล่นได้แต่เทปคาสเสตต์ แต่ก็เคยใช้ต่อกับคอมเหมือนกัน(ผ่านช่องเสียบแจ๊ค CD ครับ)ใช้มานานตอนนี้แยกชิ้นส่วนลำโพงมาต่อกับคอมและแอมป์เบสของผมแทนครับ

เวลาฟังเพลงผมก็ฟังเอาจากคอมแล้วครับ ลำโพง Creative 2.1ch ธรรมดาดัดแปลงต่อ tweeter เสียงแหลมไปหน่อยนึงพอโอเคครับ

(จริงๆ ผมอยากได้แอมป์หลอดครับหรือไม่ก็ชุดโฮมฯดีๆซักชุดครับ  :D)

Onkyo รุ่นที่ใส่ได้ 6 แผ่น หน้ากากสีดำ ครับ ใช้มา 14 ปีแล้ว เวลาเล่นเพลงแรกๆ ของแต่ละแผ่นจะ skip น่ารำคาญ ซ่อมหลายครั้งแล้ว ก็ไม่หาย แต่ยังรักอยู่เพราะชอบเครื่องเสียงหน้ากากสีดำ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/cd2.jpg)

Denon DCD-2560 GL (Gold Limited Edition) โหลดแผ่นเดี่ยว หน้ากากสีทองแชมเปญ ด้านล่างมีฝาปิดซ่อนปุ่มฟังก์ชั่นต่าง ๆ เอาไว้ ด้านข้างทั้งสองด้านขนาบด้วยไม้ขัดขึ้นเงา (ไม่แน่ใจว่าไม้จริงหรือไม้วีเนียร์) ตัวเครื่องหนักมาก คงจะสิบกิโลกว่า ๆ ผมซื้อมาได้สิบกว่าปีแล้ว (มือสอง) ลองขึ้นชื่อว่าเดนอนแล้ว หายห่วง -- ฟังเพลงร็อคได้สะใจมาก -- ทุกวันนี้ยังมีคนตามหาเครื่องรุ่นนี้ในสภาพดีกันอยู่เลย ทั้ง ๆ ที่มันออกสู่ตลาดมานานนับสิบกว่าปีแล้ว


(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/025-1.jpg)

 
   เคยใช้ NAD monitor 5000 อยู่ 10 กว่าปี ตอนหลังไม่มีเวลาฟังเพลงเลยขายเครื่องเสียง
   ที่เล่นไปทั้งหมด   เวลาจะฟังซีดีก็ฟังจากเครื่องเล่นดีวีดี OPPO 980 H ซึ่งเป็นเครื่องที่ฟัง
   ซีดีได้ดีเครื่องหนึ่ง  แต่ถ้าเทียบกับเครื่องเล่นซีดีแล้ว เหมือนนั่งตุ๊กๆกับรถเก๋ง

    ขอแนะนำคนที่ฟังเพลงมากๆบ่อยๆให้ซื้อเครื่องเล่นซีดีมาเล่นโดยตรงจะดีกว่า โดยเฉพาะ
    เครื่องรุ่นใหม่  เครื่องเล่นซีดีจะพัฒนาขึ้นมามากสวนทางกับราคาที่ลดลง

ในอนาคตผมอยากได้เครื่องเล่นดี ๆ สักเครื่อง ที่คิดตอนนี้แค่ 2 channel ก็น่าจะโอเค อยากลองอุดหนุนเครื่องเล่นของไทยอย่าง Magnet เครื่องเล่นซีดีรุ่น CD-11 เหมือนกัน หน้าปัดสวยดี

ปัจจุบันใช้ Philips อยู่ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว อยากลอง JVC เหมือนกันครับ เพราะเคยใช้มาก่อน และคิดว่ามี functions ในการเล่น CD ดีกว่าของ Philips ครับ

   เครื่องเล่นซีดีที่เหมาะสำหรับคนเริ่มต้นเล่นเครื่องเสียง ผมขอแนะนำให้ลองฟัง 3 ยี่ห้อนี้ครับ
   ซึ่งคุณภาพ การใช้งาน และความทนทานพอๆกัน ต่างกันตรงลักษณะเสียงว่าชอบแบบไหน

    NAD  เสียงออกเรียบๆ นิ่มๆ เป็นกลางไม่เน้นเสียงใดเสียงหนึ่งเป็นพิเศษ

    MARANTZ  เสียงกลางจะเด่น หวาน นุ่มนวลน่าฟัง เสียงแหลมใสๆ

    ROTEL  เสียงจะละเอียด คมชัด เด็ดขาด

ชื่อดีมีสกุลทั้ง 3 ยี่ห้อเลย NAD ออกจะมีชื่อด้านนี้น้อยกว่าหน่อย Rotel น่าจะมีชื่อกว่าเพื่อนเลยครับ  :D

ที่บ้านผมใช้ Nad กับ Jadis ครับ

มีของดีอยู่แล้วนี่ครับ  :D

ถ้าฟังกับเครื่อง NAD แล้วไปเทียบกับฟังจากเครื่องเล่นดีวีดี Sony เสียงคนละเรื่องเลยครับ

+1 ครับ โดยเฉพาะ Jadis นี่ ไฮเอนด์เชียวนะจะบอกให้

มิน่าพี่panyarak ถึงฟังเพลงได้ตังมากมาย
เล่นฟังทีละ 6 แผ่น อย่างนี้นี่เองคร้าฟ
เดี๋ยวผีเพลง ต้องไปหา แบบ 10 แผ่นมาเล่นมั่งฮะ
เผื่อจะเก่งอย่างพี่ๆเขา


ของตัวเอง หรือป๊ะป๋าฮะ  :o
สุ(ด)โค่(ตร)ย

    รุ่นอะไรครับ แล้วใช้ลำโพงอะไรครับ อยากรู้

ของป๊ะป๋าฮะ

(http://www.vnav.net/files/t_marantz_cd_63mkii_ki_177.jpg)

Marantz รุ่นทวด 63 MKII KI ฟังไปก็กระโดดไปเป็นครั้งคราวครับ

พี่วินน่าจะยกเข้าห้างซ่อมเสียหน่อยนะครับ เสียดายของดีน่ะครับ  :)

ใช่ครับ น่าจะยกไปให้ศูนย์เขาตรวจซ่อมดูบ้าง -- อนุรักษ์ไว้หน่อยก็ดีครับ, เพราะรุ่นนี้ก็ชื่อดังไม่น้อยเลยทีเดียว แถมคุณภาพยังดีกว่าเครื่องเล่นซีดีหลายยี่ห้อหลายรุ่นที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้เสียอีก

รุ่นทวด KEN ISHIWATA SIGNATURE ป้ายทอง
ของเก่า ตอนนี้ ยังตั้ง 215 ปอนด์ เชียวนะครับ ทำเป็นเล่นไป
http://cgi.ebay.nl/ws/eBayISAPI.dll?ViewItem&item=200366535702

จะปล่อยก็บอกมา

อื้อ... พักนี้ท่านผีเพลงสวมวิญญาณของ "นายฟังเก่ง ขยันจ่ายตังค์" ซะแล้ว  :D

แนะนำร้านซ่อมหน่อยสิครับ บ้านผมอยู่แถวๆบางพลัด :) แต่ยังไม่อยากพรากมันนัก.... :D

ตอนนี้มี micro component ของ jvc อยู่ ฟังได้เรื่อยๆดี ส่วนเวลาออกไปข้างนอกก็ sony discman ครับ (ตัวดิสก์แมนอยู่มาประมาณหกเจ็ดปีได้)

ถ้าว่าง ๆ ก็เอาไปทิ้งไว้ที่ศูนย์ของ MRZ Standard ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Marantz โดยตรงจะชัวร์กว่าครับ

www.mrzstandard.com

ถ้า CD player ผมมี Yamaha แยกชิ้นอยู่ชุดนึง พ่อซื้อให้เมื่อราว 17-18 ปีก่อน ไม่รู้จะเรียกว่าเสียงดีหรือเปล่า แต่ก็ฟังทุกวัน ปัจจุบันยังไม่เจ๊งเลย ตอนนี้ไืม่ได้เปิดผมใช้เป็นที่วาง DVD player แทนครับ

พึ่งจะได้ onkyo dx-708 มาลองฟัง... ^^

ถ้าเมื่อก่อนก็ DVD ฟิลิปส์ ล่ะครับ

ผมไม่เคยซ่อมยี่ห้อนี้ด้วยซิครับ
แต่เข้าศูนย์ น่าจะดีที่สุด สำหรับรุ่นที่สร้างชื่อให้ มาร้านซ์ คงจะมีอะไรซับซ้อน กว่าเวอร์ชั่นปรกติ
แต่ควรจะถามเขาว่า มีค่าเปิดเครื่องไหม และต้องแจ้งราคาก่อนซ่อม อะไรแบบนี้นะครับ

แจ้งเป็นข้อมูลให้ทราบนะครับ ผมเคยเอา Surround Amplifier ไปซ่อมที่ศูนย์แถววังบูรพา ปรากฏว่า มันไม่หายดีนะครับ ใช้ได้อยู่เดือนกว่าๆพอพ้นประกันแล้วก็เป็นอีก แต่อาจเป็นเพราะมันจุกจิก ซ่อมยากกว่าก็ได้ครับ อย่างเรื่องซีดีกระโดดนี่ที่ทราบมาเกี่ยวกับอายุของหัวอ่าน หากสึกหรอหมดอายุการใช้งานแล้วอาจต้องเปลี่ยนใหม่ ( หายแน่ๆ ) แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงนิดหนึ่งครับ  :D

เครื่องอะไรที่เก่าแก่เป็นตำนาน ถ้าค่าซ่อมไม่แพงจนเกินไปนักและยังมีตัวแทนที่รับเซอร์วิสอยู่ ผมเห็นว่าสมควรจะซ่อมเพื่ออนุรักษ์ไว้ครับ

       SONY Compact AV System รุ่น DAV-S550 เป็น Home Theatre แบบไม่แยกชิ้นนะครับ 5.1 channal

ทั้ง AMP TUNER DVD อยู่ในเครื่องเดียว แบบ  3in1 จริงๆอยากเล่นแบบแยกชิ้นมากกว่า แต่ทุนไม่พอ  :D

เครื่องนี้ซื้อเมื่อประมาณปลายปี '47  ราคา 14000 กัดฟันกรอดๆกรามโป่งเลยกว่าจะตัดใจซื้อมาได้

แต่พอได้ใช้งานจริงแล้วถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผม ดูจากรูป

(http://www.uppicweb.com/i/it/spkconnectors.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=a30171b22c84c602fcea307044d624f0)

จะเห็นรูจั๊มป์ speakerลำโพงทั้ง 5 ช่่อง ดูคล้ายๆช่องเสียบ USB

และ sub woofer อีก 1 ช่อง (ในรูปเป็นรุ่นใกล้เคียงกันนะครับ รุ่นของผมมีsub wooferช่องเดียว)

ใช้ฟังแผ่นจากเครื่องปกติโดยตรง แต่เนื่องจาก SONY รุ่นนี้ค่อนข้างออกจะเป็นผู้ดีหน่อย(หรือจะเรียกว่าสำออยก็ได้ ;D)

ถ้าไปเจอแผ่น DVD หรือ CD ประเภทแผ่น write หรือ แผ่น ก็อป หรือกระทั่งแผ่นแท้บางแผ่นก็เจอมาแล้ว

หัวอ่าน อ่านไม่ได้ อ่านไม่ออก (สงสัยเจอแผ่นภาษาตุรกี  ;D) มันจะขึ้นที่ display ว่า can't play หรือไม่ก็ error ไปเลย

ผมจึงถอยเครื่องเล่น DVD LG รุ่น DVX 141 มาในราคา 1,400 (ราคาต่างกัน 10 เท่าเลย =_=!) เอาไว้เป็นตัวช่วยเวลา

SONY ไม่ยอมอ่านแผ่น

(http://www.uppicweb.com/i/ih/100_0389.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=d65aac256079ca0f850b84a8b279e448)

       ส่วนที่บอกว่าคุ้มนั้นก็คือเรื่องของการใช้งานที่หลากหลายครับ ผมมีไอ้เจ้าตัว AVerTV Box9 ซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณโทรทัศน์

และเป็นตัวรับเข้าและส่งออกทั้งสัญญาณภาพและเสียงในตัวเดียวกัน

(http://www.uppicweb.com/i/ii/averbox9.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=2cc76eb3c55ef7b58fb8a0dc8c6d0e60)

รูปด้านหลัง SONY DAV-S550 อีกซืกนึง

(http://www.uppicweb.com/i/iy/dsc_0306cliped.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=2d7bf5b3994ae43a8d796ae4219f4fc9)
 
จากรูปจะเห็นมีช่อง AUDIO IN และ VIDEO IN ทั้ง VIDEO 1และ2

VIDEO 1 เอาไว้ใช้สำหรับ DVD LG(สัญญาณภาพต่อเข้า AVerTV Box9 แล้วไปออกที่ Monitor) และ เครื่องเล่นเทป

VIDEO 2 เอาไว้ใช้สำหรับ ดู TV(สัญญาณภาพรับจาก AVerTV Box9 แล้วไปออกที่ Monitor) และ ต่อเข้าจาก computer

(ผมใช้หัวjackต่อแยกช่อง AUDIO ออกไปอีกอย่างละ 2 รู)

เวลา ฟังเทปหรือดูTV เลือกเอาเลยว่าจะดูแบบ STERIO หรือ 5.1 CHANNAL SURROUND SOUND

ดูจากคอมพ์ก็เหมือนกันครับ ยิ่งเวลาเล่นเกมส์พวกยิงกันอย่าง SFหรือSA กระหึ่มเลยครับ กระสุนรอบทิศทาง  ;)

(http://www.uppicweb.com/i/ip/100_0390.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=3400907b0ac854599bc9efa00bf9a31b)

ฟังซีดีจาก CD player หรือ DVD player มันต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ หรือว่าไม่ต่างกันเลย ช่วยอธิบายหน่อยครับ  ???

จากประสบการณ์อันน้อยนิด เท่าที่ฟังเปรียบเทียบกับเครื่องเล่น DVD ฟิลลิปส์มือหนึ่งราคา 1990 บาท กับ

CD Audio ออนเกียว มือสองราคา สองพันห้าร้อยบาท ก็แทบจะลืม DVD ไปเลยครับ  :o

  เท่าที่ถามผู้รู้ที่มีประสบการณ์
  เสียงที่ได้จากการฟัง CD จากเครื่องเล่น DVD เมื่อเปรียบเทียบจากเครื่องเล่น CD ที่ราคาเท่ากัน
  เสียงที่ได้จากการฟัง CDจากเครื่องเล่น CD ดีกว่ามากครับ

+1 ครับ หากอยากฟังเสียงที่ดีกว่า ลองหาซื้อเครื่องเล่นซีดีระดับพอใช้มาเล่น แล้วจะมีความสุขขึ้นอีกมากครับ  :D

+1 ครับ ยิ่งอัดเพลงจากเครื่องเล่นซีดีลงเทป (สมัยก่อน) เทียบกับอัดเพลงจากเครื่องเล่นดีวีดี ยิ่งเห็นชัดครับ

C.E.C

เหอ เหอ ... เป็นลูกโซ่ เลย  ::)

ใช้รุ่นไหนหรือครับพี่ รบกวนถ่ายรูปมาอวดหน่อยได้ไหม ยี่ห้อนี้ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ เป็นยี่ห้อเก่าแก่ของ Japan ตัวเทพๆนี่ค่าตัวหลักแสนเลยมั้ง (แต่ผมคงไม่มีปัญญาซื้อหรอก (http://img18.imageshack.us/img18/7694/ha13.gif) )

เอาคร่าวๆ
2000-5000 dvd
8000-15000 cd
15000-30000 cd
30000- cd
ลองแบ่งระดับแบบนี้ น่าจะเห็นความต่างครับ

พูดไป แล้วเหยียบนะครับ

(เหยียบพื้น ไม่ใช่เหยียบผม  :'()

ไม่เชื่อ ก็ทดลองได้(แบบวิทยาศาสตร์)
ไม่ได้บอกให้เชื่อ อย่างงมงาย

เครื่องเล่นซีดี ที่มีราคาสูง หรือแพงมากๆ
จะไม่นิยม ระบบใส่แผ่น แบบแลบลิ้น-ปลิ้นตา (ลิ้นชัก :P)

แต่จะใช้ระบบ ที่คนเก่งอิงลิช เรียกว่า Top-loaded mechanism
ผีแปลแบบไทยๆว่า ระบบฝาหม้อข้าว จะชาร์ป หรือนกยูงก็ได้

โดยมีเหตุผลว่า การออกแบบให้ ถาดซีดีเลื่อนเข้าออกบ่อยๆ มันหลวม (มีเหตุผล เหมือนรองเท้า)
และต้องมีการยกหัวอ่าน ขึ้น-ลง ในแนวตั้ง ทำให้มีข้อผืดพลาด

ดังนั้น การอ้าฝาขึ้น เอาแผ่นวางลงตรงๆ ในระบบหม้อข้าว
หัวอ่านออกแบบง่ายกว่า เพราะวิ่งแค่ เข้าๆ ออกๆ
ต่างจาก ระบบแลบลิ้น มีทั้งขึ้น-ลง เข้า-ออก

เอาละ ต่อไปเป็นความลับขั้นสุดยอด ระดับเทพโปรเกรสซีฟร็อคสวรรค์

ไอ้เครื่องที่ว่า Top-loaded mechanism เขาขายกันเป็นแสน
(http://www.audionautes.com/Altriprodotti/CEC/tl0x_1.jpg)

ส่วนเครื่อง ระบบฝาหม้อ ของผีเพลง ขายกันแค่หลักร้อย ถึงให้ฟรี ยังไม่มีใครเอา
ผีลองแล้ว ทั้งรุ่น 1 รุ่น2 (รุ่น3 รอถูกลงก่อน)
เสียงดีระดับ ซีดี 2-3 หมื่นบาท ได้อายละกัน
โดยเฉพาะ เพลย์1 รุ่นตัวถังเหลี่ยม เบส-แหลม ดีโคตร

จุ๊ๆๆ ทดลองได้เลย
แล้วค่อยมาอำขำผีเพลงนะ  ;) :-[ :-*

(http://i345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/playstation_evolution.jpg)

PS3 นี่เขาบอกว่าเป็นเครื่องเล่น Blu-Ray ที่ดีกว่าเครื่องเล่น Blu-Ray โดยเฉพาะอีก

ขอยืม มาลองหน่อยสิ
นะ  ;)

ผมไม่มีอ่ะพี่ อยากได้ซักเครื่องเหมือนกัน :-X

เอ้ออีกอันแนะนำเลย PS1 ตัวเหลี่ยมแบบที่พี่ผี ว่า เสียง โคตรเจ๋งเลยครับ (เคยเอามาลองเทียบกับคอมที่ใช้อยู่) เจ๋งมากสำหรับคนงบน้อยๆ ใครตังเหลือๆ ก็เอามาลองนะครับ ได้ทั้งเล่นเกม และฟังเพลง 555 (ต้องตัวเหลี่ยมนะ ไม่รู้ตอนนี้ ราคาเท่าไหร่ แต่คงไม่เกิน 3000 มั้ง) มันจะมีรุ่นแรกที่ใช้สาย AV ปกติได้ แต่เหลี่ยมรุ่นหลังๆ มันจะให้ใช้ สายสัญญาณของมัน(โซนี่) ซึ่งไม่ค่อยดี แต่ฟัง CD ก็เห็นผลอยู่ครับ ถ้าเทียบกับเครื่องเล่น dvd เดี๋ยวคืนนี้ผมจะเอามาลองเทียบกับ เครื่อง Sony คุณพ่อดีกว่า (รู้สึกเมืองนอกก็มีคนนำตัวเหลี่ยม ที่ไม่มีช่อง AV แบบรุ่นแรกไปโมครับ เขาบอกเวิร์คมาก)

เวลาเลือกแทร็ค ต้องมากดจากจอยสติ๊ก คงได้อารมณืไปอีกแบบ  ;D

กด R1 L1 ครับ ฮ่าๆ

สมัยพี่ ต้องนี่เลย
ขึ้น-ขึ้น-ลง-ลง-ซ้าย-ขวา-ซ้าย-ขวา-เอ-บี-ซีเล็ค-สตาร์ท  ::)

U,U,D,D,L,R,L,R,A,B,Select,Start นี่มันชื่อเพลงของ Deftones ในชุด Saturday Night Wrist นี่นา :D

เป็นสูตร คอนทร่า ครัฟพี่เหม่ง  ;D

แหงล่ะ สูตรนี้ตอนเด็กๆก็ใช้อยู่  ;D

งานมีตติ้ง น่าจะประกวดแข่งเล่นเกมส์ เนอะ

เอาสิครับ ขอเป็นเกมไฟติ้งแล้วกัน Tekken , Street อะไรแบบนี้อะ

ถ้าได้ก็โอเคครับ ผมอาสาแบก Ps2 ไป 5555

วินนิ่ง ไหม คร้าาบบบบบ

งั้นกระผมเอา PS3 ไปละกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ปล. ถึงพี่แจ็ค รอซื้อ PS3 Slim ดีกว่าครับ ถูกกว่าด้วย  :D

"ดีและถูก" งั้นเค้ารอด้าย...

มาดัน PS1 ต่อ (ลองได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย)

โปรดสังเกตุว่า แกนวางแผ่นของโซนี่
จะมีลูกปืนล็อคแผ่น 3 เม็ด ให้แน่น
ลำเลเซอร์ ก็เม็ดเบ้อเร่อ เมื่อเทียบกับของคอมฯ
ส่วนระบบขับถ่าย เอ้ย ขับเคลื่อน ก็ใหญ่ เกือบ ครึ่งหนึ่งของหม้อข้าว ทีเดียว
(http://i345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/DSC06515-1.jpg)

ส่วนแผ่นข้างๆ คือ N2O -nitrous oxide เล่นมา 10ปี แล้วไม่เบื่อเลยครัฟ
เพราะเพลงประกอบ แนวอีเล็คโทรนิค-แอมเบี๊ยนท์-เทร็นซ์ ของวง the crytal method ที่หลอนสุดๆ  :o
แถมยังเปิดเป็นแผ่นซีดีได้ด้วย งานดี+เสียงดี เจ๋งโคดๆ
นักโฆษณาบ้านเรา แอบเอาไปใช้หลายเพลง
ลองฟังดูครับ ได้ยินก็ต้องร้อง อ๋อ  ;D

นัดสะมาหลาฮ่าเฮนอกรอบเล่นเกมส์บ้านพี่แจ็คให้มันสะหวีวี่วีกันดีมั้ยพวกเรา

ปล. ภาษานี้พี่แจ็คอาจจะเข้าใจคนเดียวนะครับเนี่ย

มีเหมือนกัน

ผมก็มีเหมือนกันนะไม่ได้มีแต่ เครื่องเล่นแผ่นเสียง
ชองผม Audiolab 8000 cde ก็เข้ากันดีกะแอ็มป์ยี่ห้อเดียวกันครับ

NAD C515BEE

์ถึงวันนี้ผมก็หูตาสว่างเสียทีว่าการฟังซีดีจากเครื่องเล่นดีวีดีมันเทียบไม่ได้กับการฟังจากเครื่องเล่นซีดีจริงๆ ขอบคุณทุกท่านที่ชี้ทางสว่างครับ

จริงๆครับ ฟังจากเครื่องซีดีโดยตรงเสียงดีกว่ามาก

ได้ NAD S500 ที่นำไปซ่อมเปลี่ยนหัวอ่านกลับมาแล้ว ยังไม่ได้ต่อเลย

รุ่นนี้ เมื่อก่อนพี่ตามหาอยู่นะ
ที่แท้อยู่กับคุณพ่อน้องอั้มนี่เอง
ถ้าต่อเสียงออก ช่องบาล็านซ์ เสียงแทยอน จะใสสะอาดหวานจับใจตายกันทั้งหมู่บ้านเลย ขอบอก

ขอกระซิบบอกให้กิเลสพุ่งพล่าน
การต่อแบบธรรมดา คือ อัน-บาล็านซ์ หรือ RCA ที่มีสองเส้น แดง-ขวา / ขาว-ซ้าย
หรือจำง่ายๆ ก็ Red is Right หรือ มือคลำรูหลังเครื่อง รูขวา เสียบสายสีแดง / รูซ้าย เสียบสายสีขาว

แต่ที่นี่พวกมืออาชีพ หรือระดับพีเอ เขาจะต่อด้วยช่อง บาล็านซ์ หรือ XLR
ประโยชน์ คือตัดเสียงรบกวน หรือ น็อยซ์ฟลอร์ออกไป และทำให้สัญญาน มีความแรงขึ้นเป็น 2เท่า

น้อง kongbei ลองทดลองดูซิ ว่าเป็นอย่างที่กระซิบบอกไหม
อ้อ แอมป์ที่ต่อ ต้องมีช่องเข้าแบบ บาล็านซ์ ด้วยนะครับ  :)
แล้วจะรู้ว่า สวรรค์รำไรๆ มันเป็นยังไง

เห็นอ่านเจอว่าเครืืองเล่นเสียๆกันหลายคนเลยชักหวั่นๆแล้วครับ ว่าเจ้าเครืืองพวกนี้มันใช้กันนานแค่ไหนถึงเริ่มเสียกันครับ ผมเป็นพวกเกลียดการยกไปซ่อมน่ะ

  ซื้อเครื่องใหม่ มีประกัน ไม่น่ามีปัญหาครับ ไม่เสียง่ายๆหรอกครับ

เครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ๆ เทียบกับรุ่นก่อนๆ แตกต่างกันมากไหมครับ

ใช่ครับ ซื้อของแท้นะครับ ช่วยๆกัน ดีกว่าไปหิ้วมา
สว่นมากที่เสียๆ เพราะเวลาเราสลับสายสัญญาน แล้วไม่ปิดเครื่องนะครับ
หรือดวงซวยๆ ฟ้าผ่า แรงดันไฟในบ้านตก ก็อาจจะเสียได้
แต่ก็ซ่อมไม่ยากครับ ช่างไทยเก่งจะตาย

ลองสังเกตุว่าเวลาเราฟังเพลง เบสหนักๆ แสงไฟส่องสว่างวูบวาบไหม
ถ้ามี ต้องมีเครื่องคุมไฟ หรือ UPS มากันเครื่องเสียงพังครับ

แต่ของผมไม่มีนะ เครื่องที่ว่า อัดมันให้พังๆ จะได้เปลี่ยนรุ่นใหม่

ก็เหมือนคอมพิวเตอร์ครับ
รุ่นใหม่ๆ มักจะเสียงสะอาด(แฟล็ท) เน้นความระยิบระยับ เพราะตัวแปลงภาคดิจิตัล ก้าวหน้าขึ้นมาก
ส่วนรุ่นเก่าๆ จะให้เนื้อเสียงที่ข้น(ดาร์ก) กว่า ไม่ค่อยกรุ้งกริ้งนะครับ

คนสมัยใหม่ เขาจะเน้นดูภาค D/A กันเป็นหลักว่า ใช้ยี่ห้ออะไร แนวเสียงจะเป็นแบบนั้น
ซึ่งพวกคอมพิวเตอร์ ก็จะตามออกซาวด์การ์ด ตามมาติดๆครับ
ไม่รู้ใครจะแซงใคร ในอีก 5ปีข้างหน้า

      +1 ครับ  ซีดีรุ่นใหม่ให้รายละเอียดเสียงดีกว่ารุ่นเก่ามากครับ
      ซีดีรุ่นใหม่ราคาหมื่นกว่าบาทให้เสียงดีกว่ารุ่นเก่าราคาสองสามหมื่นเสียอีก
      คนจึงมักไม่นิยมซื้อซีดีมือสองที่เก่ามากๆ  ยกเว้นบางรุ่นที่เป็นที่ต้องการของ
      นักเล่น เช่น แนด 5000   มารานซ์ ซีดี 16 17

   ซีดีรุ่นนี้แนดตั้งใจนำมาสู้ในตลาดเครื่องเสียงระดับกลางค่อนไปทางสูง
   จึงควรน่าจะต่อแบบบาล้านซ์ตามที่คุณแจ็คว่า แต่แอมป์กับลำโพงต้องถึงด้วยนะครับ

    ลำโพง AR รุ่นไหนครับ ถ้ารุ่นเก่าจะเด่นทางด้านเสียงทุ้ม กลางเรียบ แหลมออกนิ่มๆ  ที่บอกว่ากลางเด่น
    เป็นที่ DENON หรือเปล่าครับ

   

    AR 18 ถ้าจำไม่ผิดเป็นลำโพงวางหิ้งตัวเล็กสุดใช่ไหมครับ  ผมเคยเล่น AR 94 อยู่นานชอบมาก
    เสียงนิ่มฟังสบายดี  คุณร้อคโบราณน่าจะเล่นเครื่องเสียงรุ่นใกล้ๆกับผมนะครับ ดีใจครับที่จะมี
    นักเล่นเครื่องเสียงเพิ่มในเว็ปอีกคน

    เก่งมากนะครับที่ทำใจไม่เปลี่ยนเครื่องได้นานเป็นสิบปี ของผมถ้ามีเงินทีไรฟังเสียงเครื่องเก่า
    ไม่ค่อยเพราะซะแล้ว

ถามนิดนึงนะครับ ในกรณีเราอยากเปลี่ยนลำโพงใหม่แต่เวลาไปลองที่ร้านเขาใช้แอมป์และเครื่องเล่นไม่เหมือนเรา แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถ้าซื้อไปแล้วเราจะได้เสียงแบบที่ฟังที่ร้านหรือไม่

     วิธีที่ดีที่สุดคือต้องยกแอมป์และเครื่องเล่นของเราไปลองเลยครับ(แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะห้องฟัง
     ตำแหน่งวางลำโพง สายต่างๆก็ไม่เหมือนที่บ้านเรา)

     ถ้าใช้ของที่ร้านทั้งหมด ก็ต้องใช้ประสบการ์ณการฟังของเราคาดคะเนเอาว่าถ้าเปลี่ยนเป็นเครื่องของเรา
     ที่ห้องฟังของเราเสียงจะออกมาในรูปแบบใด  ต้องเป็นคนที่ฟังเครื่องมามากและจับลักษณะเสียงของ
     แต่ละเครื่องออก  วิธีนี้ถึงจะฟังเก่งยังไงก็ได้แค่ 70-80%

     เคยเห็นนักฟังรุ่นใหญ่จะตกลงกับทางร้านให้ยกเครื่องไปลองฟังที่ห้องของตัวเองเลย อาจจะ 2-3 วัน
     ค่าใช้จ่ายแล้วแต่จะตกลงกัน

อันนี้เห็นด้วยครับ เป็นเหตุให้ผมต้องซื้อชุด 2 แชนแนลมาฟังจริงๆจังๆเสียที

เครื่องเล่นเลเซอร์โซนี่ของผมเวลาเล่นแผ่นซีดีแล้ว แผ่นซีดีจะติดอยู่กับแกนกลางในเครื่องเอาไม่ออก แก้ไขได้ไหมครับ  ::)

เปิดฝาบน
ดันสปริงลง
แกะแผ่นออกครัฟ

โอ พี่ ต้องเปิดฝา ทุกทีไปเลยหรือพี่ ไม่ไหวนาครับ เอาแบบแก้ไขให้แผ่นไม่ติดดีกว่าครับ   :D

ตอนนี้ร้านขายเครื่องเสียงไปเน้น โฮมเธียร์เตอร์กันนหมดแล้วครับ ที่เน้น ออดิโอ้ จริงๆ เหลือไม่กี่เจ้า แต่ที่เน้นก็มักเป็นชุด ไฮเอ็นด์ เกินเอื้อมจริงๆ


   +100  ทำให้คนรุ่นใหม่คิดว่าการฟังเพลงจากชุดโฮมเป็นเสียงที่ดีแล้ว และก็เสียดายลำโพง
   หลายยี่ห้อที่เติมสีสันและความจัดจ้านเพื่อตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่คุ้นกับเสียงคมชัดของคอม

   และก็อย่างที่คุณร้อคโบราณว่าครับ ออดิโอแท้ๆก็จะราคาแพงมาก สมัยนี้หาลำโพงเสียงดี
   ราคาต่ำกว่าสองหมื่นไม่มีเลย

ถึงวันนี้อยากรู้ครับว่าใครเปลี่ยนเครื่องเล่นซีดีไปบ้างแล้ว  ส่วนตัวผมยังคงใช้เครื่องเล่นซีดีตัวเก่าอยู่แล้วคงไม่คิดจะเปลี่ยนแล้ว

  ผมน่ะซิครับเปลี่ยน(จากการยุของใครก็ไม่รู้) เป็น DUNE MAX + DAC Magic :D

Denon DCD-2560 GL ตัวนี้ของผมอยู่ในประจำการมาแล้วเป็นปีที่ 14 (ซื้อต่อมาจากเพื่อน) ถึงไม่ใช่ไฮเอนด์แต่ก็ไม่ธรรมดา และเสียงดีจนผมไม่คิดจะเปลี่ยนครับ

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/025-1.jpg)

ข้างเครื่องเป็นไม้ปะกบอยู่ใช่ไหมรุ่นนี้ รู้สึกเคยฟังเสียงเหมือนกันสภาพเครื่องเล่นซีดีของพี่ปีศาจฯ ยังดูใหม่อยู่สงสัยรักษาดี

ใช่ครับ ด้านข้างเป็นกรอบไม้มันวาวทีเดียวและน้ำหนักมากเอาเรื่องเลยล่ะครับ รู้สึกว่าจะหนักกว่าแอมป์ Roksan ของผมเสียอีก

ขอยืมภาพแทนมาให้ดูช่องที่มีฝาปิดด้านล่างเครื่อง ซึ่งพอเปิดออกจะมีปุ่มฟังก์ชั่นเต็มไปหมดเลยครับ

(http://i281.photobucket.com/albums/kk238/jimko537/DENON-DCD2560GL-SLE.jpg)

จำไม่ได้ว่ามีช่องสัญญาณ XLR (บาลานซ์) ด้วยใช่ไหมครับ(เห็นจากรูปหลังเครื่อง)

ใช่ครับ ซีดีรุ่นนี้มีช่องบาลานซ์เอาท์พุทให้มาหนึ่งชุดด้วย แต่ผมไม่เคยใช้เลยครับ

ลองสังเกตบั้นท้ายเครื่องซีดีนะฮะ
สายไฟเค้าต่อติดตายมาเลย ถอดเปลี่ยนเพื่ออัพเกรดไม่ได้
เครื่องระดับนี้ (หรือแม้แต่ระดับราคาต่ำกว่า) ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ให้ถอดเปลี่ยนสายไฟเอ/ซีได้แล้ว
ผ่านไปแค่สิบกว่าปี
จำนวนคนบ้าสายไฟเอ/ซีมีสูงกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ ฮะ

เรื่องของเรื่อง ก็เพราะสายมันเก่าไง
พอเปลี่ยนสายไฟรุ่นใหม่ๆ เข้าไป กลับได้พื้นเสียงสงัดขึ้น
เลยตื่นเต้นกันใหญ่

ต้องเอาไป"เจาะท้าย" เปลี่ยนเป็นเต้าเสียบ 3ขา กันสนุกสนานเลย
ซึ่งเสียงก็เปลื่ยนจริงๆนะครัฟ ผมก็ฟังออก แต่ไม่ตื่นเต้น เพราะไม่มีตังค์ (ฮาฮะ)

บ้านผมยังใช้ปลั๊กสองขาอยู่เลย
เปลี่ยนสายไฟให้เครื่องไปก็เท่านั้น
แปะเอี่ย -- ไม่เห็นผลหรอกฮะ
ลงทุนเดินสายไฟใหม่ทั้งบ้านก็คงหลายหมื่น
ฮาไม่ลงฮะ :P

ขออนุญาตอัพเดท ปัจจุบันผมใช้เครื่องเล่นซีดี Audiolab 8200CD
ถึงแม้จะเล่นแผ่นเสียงเป็นส่วนใหญ่ แต่แผ่นซีดีก็ยังมีเก็บไว้จำนวนหนึ่ง เป็นแผ่นนอก ของแท้ ของดี และของหายากทั้งนั้น ก็จำเป็นต้องมีเครื่องไว้ให้เล่นสิครับ 555

(https://cdn.mos.cms.futurecdn.net/z5JkP4XTNDMoyxeadBbp8g-1200-80.jpg)

ดิจิตอลหรือจะสู้อนาล็อก?
เครื่องเล่นซีดีของผม ซื้อใหม่แกะกล่อง ซื้อทีหลังเครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยซ้ำ (ซื้อห่างกันปีกว่า ๆ) ใช้ฟังเพลงไปได้ไม่กี่ครั้ง ยังไม่ทันพ้นระยะ burn in เมื่อไม่นานมานี้ กะว่าจะเล่นซะหน่อย พอกดปุ่ม Power เท่านั้น ไฟไม่ติด เครื่องไม่ทำงาน ต้องส่งเข้าศูนย์ ในขณะที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงยังหมุนทำงานเป็นปกติ ไม่เคยเสีย ไม่เคยเข้าศูนย์ ยิ่งเล่น เสียงยิ่งดีวันดีคืนครับ

เครื่องเล่นซีดีเครื่องแรกในชีวิตของผมคือ Philips CD624 ราคาเท่าไหร่ผมจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าราคาไม่แพง เพราะตอนนั้นผมยังไม่ค่อยมีทุนเล่นเครื่องเสียง เพราะเพิ่งเข้าทำงานใหม่ ๆ หลังจากเรียนจบ ที่สำคัญคือเครื่องทำในเบลเยี่ยม ไม่ใช่ชื่อฝรั่งแต่ Made in China ดังที่หลายยี่ห้อส่วนใหญ่ทำกันอยู่ทุกวันนี้โดยอ้างว่าเพื่อลดต้นทุนการผลิตเรื่องค่าแรง จะได้ขายในราคาที่เหมาะสมได้ ผมไม่ได้ดูถูกสินค้าที่ผลิตในจีนหรอกนะครับ เพราะทุกวันนี้มาตรฐานและฝีมือการผลิตของจีนไปไกลแล้ว แต่ทว่าภาพลักษณ์ในอดีตมันยังฝังใจอยู่ เพื่อนผมคนหนึ่งซื้อแอมป์หลอดของจีนมาเล่น พอจะขายทิ้ง ขายยากมาก ประกาศขายเป็นปียังไม่มีคนซื้อเลย ผมนึกถึงเครื่องเล่นซีดีสมัยที่มันยังบูมอยู่ เอาสักก่อนปี 2540 ก็แล้วกัน หลายยี่ห้อยังมีทำในยุโรป อเมริกา หรือญี่ปุ่น อย่าง NAD หรือ Marantz สมัยนั้นก็ทำในญี่ปุ่น และค่อนข้างทนทาน และผมไม่ทราบเป็นอะไร เหมือนดวงชะตาไม่ถูกกับเครื่องเล่นซีดี แม้เครื่องเล่นซีดีนั้นจะใหม่ก็ตาม พอใช้ไปได้สักพัก เครื่องเสีย ใช้งานไม่ได้ ที่ยังไม่ได้เอาไปซ่อมก็ยังมีอยู่เลย ผิดกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ไม่เคยซ่อม จะมีก็แต่เปลี่ยนสายพานเท่านั้นครับ

เครดิตภาพ www.bangkokaudio.com

(https://www.bangkokaudio.com/topic_file/n36827622543420180219125430.jpg)

ใช้ของแพง ราคาเป็นหลักหมื่น เล่นได้ไม่เท่าไหร่ ไม่รักดี ใช้การไม่ได้ รอส่งซ่อม (ขี้เกียจเอาไปซ่อมด้วย) คราวนี้ลองใช้ของราคาถูก (ไม่ถึงหมื่น) ดูบ้างครับ Denon DCD-520AE

(https://img.tarad.com/shop/h/hificenterthailand/img-lib/spd_2015042761734_b.jpg)

ไม่ทราบมีใครคิดเหมือนผมบ้างหรือเปล่า... เทคโนโลยีดิจิทัลมีข้อดีอย่างหนึ่งคือ ยิ่งพัฒนา ยิ่งก้าวหน้า ยิ่งแพร่หลาย ยิ่งราคาถูกลง ยกตัวอย่างเครื่องเล่นซีดีประสิทธิภาพสูงระดับมิดเอนด์ถึงไฮเอนด์ ถ้าสัก 15-20 ปีก่อน ราคาก็คงจะแพงถึงแพงมาก เช่น เครื่องเล่นซีดี 24 bit รุ่นสูงหรือรุ่นท็อปของ Denon และนั่นคือเทคโนโลยีของเมื่อ 15-20 ปีก่อน เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้หยุดยั้งในการพัฒนา เมื่อมันสามารถพัฒนาไปไกลกว่าเทคโนโลยีเดิมเมื่อ 15-20 ปีก่อน และสามารถทำเป็น mass products ซึ่งผลิตเป็นจำนวนมากได้ ผู้บริโภคก็จะได้ใช้สินค้าที่มีราคาถูกลงและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยุคเก่า อย่างเครื่องเล่นซีดี Denon DCD-520AE ที่ผมได้มาในราคาไม่ถึงหมื่น (มีทอนหลายพัน) ผมว่าสุ้มเสียงดีใช้ได้เลยเมื่อแรกที่ออกจากกล่อง ผมว่าเผลอ ๆ รุ่น DCD-2560 GL ที่ผมกำลังส่งซ่อมอยู่อาจกินมันไม่ลงด้วยซ้ำ ทั้งที่ราคาแพงกว่า DCD-520AE มากมาย (ราคาหลายหมื่นเมื่อราวปี 2537) เทคโนโลยีดิจิทัล ยิ่งพัฒนา ประสิทธิภาพยิ่งสูงขึ้น และถ้าทำเป็น mass marketing ได้ ผู้บริโภคจะได้กำไร เพราะจะได้ใช้ของที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในราคาที่ถูกลงครับ

ไม่ทราบใครรู้จักช่างหรือร้านซ่อมซีดีที่มีฝีมือบ้างครับ? เครื่องเล่นซีดีของผมขัดข้อง สงสัยหัวอ่านจะเสื่อม ไม่ยอมอ่านแผ่น โทรไปติดต่อที่ศูนย์หรือ authorized distributor ของเครื่องยี่ห้อนี้ เขาเพียงแต่บอกว่าไม่รับ service เครื่องรุ่นเก่าของผมแล้ว รับเฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าอะไหล่ไม่น่าจะหายาก เพราะเคยเป็นรุ่นดังของวงการมาก่อน ใครทราบช่วยแจ้งข้อมูลด้วยนะครับ ขอบคุณ :)

แต่ก่อนมีเครื่องเล่นซีดีเพียงเครื่องเดียวอยู่ในชุดเครื่องเสียง แต่พอมาถึงตอนนี้ผมมีเครื่องเล่นซีดี 4 เครื่อง ต่างยี่ห้อต่างรุ่นกัน นึกอยากฟังเครื่องไหนก็ยกขึ้น rack และเปลี่ยนเอาตัวเก่าลงมา - จบ - ง่ายนิดเดียวครับ (เราน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะว่าควรจะมีเครื่องสำรองไว้ 555 :D)

เครื่องเล่นซีดีที่ปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ได้เล่น พอมาเปิดเล่นอีกทีก็รวนแล้ว เสียแล้ว ต้องส่งซ่อม (หาเรื่องเสียเงินโดยไม่รู้ตัว) มันก็เหมือนคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายแล้วป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ ผมจึงจำเป็นต้องพยายามเล่นซีดีสลับกับแผ่นเสียงบ้าง ให้มัน balance กัน เครื่องซีดีจะได้ไม่พังง่ายไงครับ 555

Marantz CD63 Mk2 KI Signature รุ่นนี้อายุน่าจะ 20 กว่าปีแล้ว ผมยอมรับว่าเพิ่งมีโอกาสได้ลองฟังจากการหาซื้อเครื่องที่ใช้แล้วมาเล่น ขอเรียนว่าชอบเนื้อร้องและโน้ตดนตรีที่ชัดเจน เข้มข้นและหนักแน่นที่เปล่งผ่านซีดีเครื่องนี้ และไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะต้องซื้อเครื่องเล่นซีดีอื่นที่ "ไฮเอนด์" กว่านี้ครับ

(https://cdn.mos.cms.futurecdn.net/d2etXVcQNez4T6LRUn3Hnd-970-80.jpg.webp)