Thai Progressive Rock Community

ThaiProg => Outside The Wall => ข้อความที่เริ่มโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 06:23:24 PM



หัวข้อ: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 06:23:24 PM
เมื่อใกล้สิ้นปีแล้ว ก็เช่นเคยครับ  :D

Noisy's 30 Favourite Albums of 2011 (Not in Order)

(http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/385059_274337075946884_100001117803357_719647_516287428_n.jpg)

1. Dir En Grey - Dum Spiro Spero
 
Genre: Alternative / Experimental / Progressive Metal
 
Dir En Grey แข็งแกร่งและแก่กล้าขึ้นทุกครั้งที่ออกผลงานใหม่ จาก Uroboros อัลบั้มชุดก่อนที่ว่าเพอร์เฟคต์แล้ว พวกมันยังสามารถพัฒนาความหนักหน่วง สลับซับซ้อน และล้ำลึกขึ้นไปได้อีกระดับ พร้อมบรรยากาศมืดหม่นกดดันอารมณ์ต่อเนื่องทั้งชุด นี่คือสุดยอดอัลบั้มเมทัลประจำปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
 
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/382876_274337229280202_100001117803357_719648_797634869_n.jpg)

2. Lee Noble - Horrorism
 
Genre: Lo-Fi / Ambient / Experimental
 
หากมีการให้รางวัล Perfect Nighttime Album ประจำปีนี้ ผลงานชุดล่าสุดของชายหนุ่มจาก LA ผู้นี้ก็คงจะได้รางวัลชนะเลิศไปนอนกอดแน่นอน ด้วยม่านหมอกดนตรีแอมเบียนท์ที่คลุมเครือและหลอนแบบพองาม แต่ก็ไม่ได้หดหู่อะไรมากนัก เสริมด้วยเสน่ห์ของซาวนด์ดนตรีโลไฟที่ทำให้งานชิ้นนี้ฟังดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
 
(http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/378747_274337905946801_100001117803357_719650_1092824520_n.jpg)

3. Kreng - Grimoire
 
Genre: Dark Ambient / Chamber Music
 
ขนลุกอย่างคลาสสิค หลอกหลอนอย่างสวยงาม คือนิยามของอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งบริบทเหมาะกับดนตรีแบบนี้ที่สุดก็คงจะเป็นโรงแรมหลอนๆในหนังเรื่อง The Shining ไม่ก็ในฉากหนังสักเรื่องของ David Lynch กระมัง

(http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/383621_274338085946783_100001117803357_719651_1220572697_n.jpg)

4. Apparat - The Devil's Walk
 
Genre: Ambient Pop / IDM
 
เชื่อว่ามีแฟนๆหลายคนเหมือนกันที่ไม่ค่อยชอบที่ Apparat หันไปทำดนตรีประณีต นุ่มนวล ชวนฝันมากขึ้นจนความตื้ดแทบสลายหายไปหมดแบบนี้ แต่โดยส่วนตัวผมค่อนข้างถูกใจนะ มันฟังแล้วอิ่มอุ่นหัวใจดี จนบางทียังเผลอคิดไปเลยว่าถ้าวงอย่าง Coldplay อยากจะลองของทำซาวนด์ดนตรีประมาณนี้ก็อาจจะเข้าท่าก็ได้นะ
 
(http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/378042_274338192613439_100001117803357_719652_2134115839_n.jpg)

5. Fuck the Facts - Die Miserable
 
Genre: Grindcore / Progressive / Experimental
 
ปกติแล้วผมจะชอบโอลด์สกูลไกรนด์คอร์ดิบๆห้วนๆมากกว่านะ แต่ผลงานของ Fuck the Facts นี่ต้องยกเว้นหน่อย เพราะพวกเขา (และเธอ) มีซาวนด์เป็นของตัวของตัวเองมาก โดยเฉพาะงานชุดใหม่นี้ ที่จะว่าเป็นแมธคอร์มันก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้อลหม่านหรืออัดกันหัวทิ่มขนาดนั้น แต่มันก็มีความล้ำลึกอยู่พอตัว อธิบายยากครับ ลองฟังดูเลยดีกว่า

(http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/381610_274338285946763_100001117803357_719653_1478343406_n.jpg)

6. Merzbow - Dead Zone
 
Genre: Noise
 
แม้จะออกผลงานมากี่ร้อยชุดแล้วก็ไม่รู้ แต่ Masami Akita ยังคงทำผลงานได้โดดเด่น ไว้ลายเจ้าพ่อแห่ง Japanoise ได้เสมอ ซึ่งปีนี้ลุงแกก็ออกงานมาหลายชุดเหมือนกัน แต่ผมเองชอบชุดนี้เป็นพิเศษเพราะการตัดต่อซาวนด์ได้หลากหลาย ไม่เป็นระนาบเดียวกันหมด ฟังสนุกหูดี โดยคอนเซปต์ของงานชุดนี้ก็คือ Anti-Nuclear ซึ่งว่ากันว่าลุงแกลงมือมิกซ์งานชุดนี้ในวันรุ่งขึ้นหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เลยทีเดียว

(http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/378434_274338475946744_100001117803357_719654_1919911318_n.jpg)

7. Altar of Plagues - Mammal
 
Genre: Atmospheric / Post-Black Metal
 
สี่เพลงแห่งม่านหมอกมืดมิดที่งดงามเหลือคณานับ บทจะทะมึนก็เอาซะระทมจุกอก บทจะลอยก็ลอยได้อารมณ์จริงๆ งานนี้พวกเขาชิงตัดหน้าวงรุ่นพี่อย่าง Wolves in the Throne Room หรือแม้แต่วงรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง Deafheaven (ที่ต่างก็ออกงานดีๆในปีนี้เหมือนกัน) เข้ามาในลิสต์แบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยครับ

(http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/384729_274338585946733_100001117803357_719655_630630428_n.jpg)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/382926_274338682613390_100001117803357_719657_399095639_n.jpg)

8. Radiohead - The King of Limbs (+ Supercollider/The Butcher)
 
Genre: Experimental Rock
 
สารภาพว่าตอนที่ฟังอัลบั้มนี่แบบผ่านๆสองสามครั้งแรกนี่ผิดหวังนะครับ คือไม่คิดว่าวงดนตรีระดับ "ขึ้นหิ้ง" ที่ทำให้เราตื่นเต้นทุกครั้งที่ออกอัลบั้มชุดใหม่จะทำงานได้ "แค่นี้เอง" แ่ต่เมื่อมาลองพยายามฟังกับเฮดโฟนอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วกลับพบว่าอัลบั้มชุดนี้มันมีอะไรมากกว่าที่คิด แล้วยิ่งพอได้ดู Live from the Basement ก็ยิ่งทำให้ทรรศนคติที่มีต่ออัลบั้มนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลยครับ คือผมค่อนข้างถูกใจกับภาคริธึ่มประหลาดๆ (ที่ดูเหมือนพวกเขาจะเน้นกันมาก) รวมไปถึงซาวนด์อีเลกทรอนิกส์แบบอนาล็อกที่ทำออกมาได้แปลกไม่ซ้ำใคร หาตัวจับยาก ส่วนเพลงบัลลาดนิ่งๆอึนๆที่คิดว่าน่าเบื่อในตอนแรก กลับทวีความไพเราะมากขึ้นทุกครั้งที่ํฟัง คือพูดได้เลยว่ายิ่งฟังมากครั้งก็ยิ่งค้นพบสุ้มเสียงต่างๆที่ซุกซ่อนอยู่ แล้วก็จะยิ่งหลงรักมันมากขึ้นเท่านั้น
 
....ไม่ว่าวงดนตรีรุ่นหลังจะพยายามไล่ตามรอย Radiohead กันสักเท่าไร แต่แล้วเหล่าหัววิทยุก็จะก้าวล้ำหน้าคนอื่นไปอีกหนึ่งก้าวเสมอ นี่ล่ะมั้งครับ เราจึงขนานนามพวกเขาว่า "อัจฉริยะ"

(http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/392733_274338932613365_100001117803357_719658_1552364219_n.jpg)

9. The Oscillation - Veils
 
Genre: Psychedelic Rock / Krautrock
 
ส่วนตัวผมเป็นคนที่บ้าดนตรีหลอนยาจำพวกไซคีเดลิกและเคราท์ร็อคแบบฉบับยุค 70s เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาเจอ The Oscillation ซึ่งเป็นวงรุ่นใหม่ แต่สามารถเล่นดนตรีลักษณะนั้นได้อย่างเข้มข้นเต็มรสชาติ ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ครับ แม้สุ้มเสียงต่างๆใน Veils จะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการจากอัลบั้มชุดแรกเท่าไรนัก แต่มองในแง่ดี การที่พวกเขาคงคุณภาพและเอกลักษณ์ทางดนตรีไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าพอใจครับ

(http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/387292_274339075946684_100001117803357_719659_2083896183_n.jpg)

10. Opeth - Heritage
 
Genre: Progressive Rock
 
ด้วยความหลงใหลและคลั่งไคล้ในดนตรีโปรเกรสสีฟ ไซคีเดลิก ฮาร์ดร็อค โฟล์ค และฟิวชั่นแจ๊สยุค 70s อย่างโงหัวไม่ขึ้นของ Mikael Akerfeldt จึงทำให้เกิดอัลบั้มชุดนี้ขึ้นมา ซึ่งงานนี้ถือว่าเป็นงานตามใจตัวเองของตามิคเคลโดยแท้ เพราะทุกสุ้มเสียงในอัลบั้มล้วนแต่เป็นของวินเทจล้วนๆ และไม่ใช่โปรเกรสสีฟเดธเมทัลอย่างที่คุ้นเคยกัน ซึ่งแน่นอนว่ามีแฟนเพลงหลายๆคนที่ไม่ชอบ อันนี้ผมก็เข้าใจนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบมาก ก็เอาแค่เสียงวินเทจคีย์บอร์ดทั้งเมลโลตรอน แฮมมอนด์ออร์แกน และ Fender Rhodes ที่ถูกขนมาใช้อย่างเต็มที่นี่ก็ทำเอาผมแทบคลั่งแล้วครับ ส่วนโครงสร้างดนตรีนั้นอาจทำให้นึกถึงวงนั้นวงนี้มากมายทั้ง King Crimson, Genesis, Camel, Uriah Heep ไปจนถึง Weather Report นู่น แต่ผลลัพท์ที่ออกมาก็ฟังดูลงตัวดี
 
...ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าพี่แกจะทำดนตรีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่มีปัญหาหรอกนะครับ เชิญทำต่อไปได้ามสบายเลย!

(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/386020_274339219280003_100001117803357_719660_204735250_n.jpg)

11. M83 - Hurry Up, We're Dreaming
 
Genre: Synthpop / Dreampop
 
ไม่แน่ใจว่างานนี้พวกเขาอยากจะทำ Mellon Collie and the Infinite Sadness ฉบับซินธีไซเซอร์รึเปล่า แต่ที่แน่ๆต้องนับว่าหาญกล้ามากครับ ที่ริทำอัลบั้มแผ่นคู่เพลงเยอะๆแบบนี้ แล้วมันก็ฟังไพเราะดีทุกเพลงตั้งแต่ต้นแ่ผ่นแรกยันท้ายแผ่นสองเลยทีเดียว ซาวนด์อนาล็อกซินธ์พร้อมเมโลดี้หวานๆชวนฝันหอมฟุ้งกระจายทั่วอัลบั้มไปหมด นี่คือเสียงดนตรีจากสวรรค์โดยแท้

(http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/377939_274339362613322_100001117803357_719661_519200644_n.jpg)

12. Grouper - A I A: Dream Loss / Alien Observer
 
Genre: Psychedelic Folk / Lo-Fi / Drone / Ambient
 
นี่คือ "ดนตรีโฟล์คจากนอกโลก" ...เพราะถ้าอยู่ตามลำพังนอกโลกมันน่าจะรู้สึกเวิ้งว้าง เดียวดาย แบบสุดจะบรรยายเลยทีเดียว ซึ่งบทเพลงของ Grouper ให้ความรู้สึกแบบนั้นครับ
 
(http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/380511_274339692613289_100001117803357_719664_2000412824_n.jpg)

13. Balam Acab - Wander/Wonder
 
Genre: Ambient / Experimental / Downtempo
 
พูดถึงอัลบั้มที่ฟังแล้วชุ่มชื้นเย็นฉ่ำใจ ก็ต้องชุดนี้เลยครับ ฟังแล้วให้ความจินตภาพเหมือนเราไปดำผุดดำว่ายในน้ำเย็นเฉียบ ณ สระมรกตบนเกาะหรือในถ้ำลับแลสักแ่ห่งหนึ่งตามลำพังเลยทีเดียว
 
(http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/373814_274339802613278_100001117803357_719665_587061240_n.jpg)

14. Fovea Hex - Here is Where we Used to Sing
 
Genre: Psychedelic Folk / Ambient
 
โปรเจคต์ปัจจุบันของคุณป้า Clodagh Simonds ที่อดีตเคยร่วมงานในอัลบั้มเต็มชุดเดียวของวงโปรเกรสสีฟโฟล์คสุดคัลท์นาม Mellow Candle โดยโปรเจคต์ Fovea Hex นี้มีเหล่าจอมยุทธ์มาผลัดหน้ากันร่วมงานมากมายไม่ว่าจะเป็น Steven Wilson, Robert Fripp, Colin Potter, Brian Eno etc. ด้านดนตรีนั้นก็ยังยืนพื้นด้วยโฟล์คที่มีความเป็นแอมเบียนท์ผสมผสานอยู่ครึ่งต่อครึ่ง ทำให้งานหม่นหลอนกว่าสมัยเป็น Mellow Candle มาก ส่วนเสียงร้องของป้า Clodagh ก็ยังไพเราะเยือกเย็นไม่ต่างจากเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนเท่าไรเลย

(http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/380477_274340212613237_100001117803357_719666_1864304989_n.jpg)

15. Gang Gang Dance - Eye Contact
 
Genre: Neo-Psychedelia / Experimental / Electronics
 
วงดนตรีทดลองแปลกๆ (แต่ไม่ถึงกับพิลึกพิลั่นบ้าคลั่ง) ที่ผมชอบมากเป็นการส่วนตัวก็ยังคงสร้างผลงานได้คงเส้นคงวาเช่นเคย ถึงแ้ม้ว่าจะพะยี่ห้อไซคีเดลิกไว้ แต่ดนตรีของพวกเขากลับฟังสนุกมีสีสันมากกว่าจะหลอนยามัวเมา ส่วนสุ้มเสียงแบบตะวันออกก็เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างลงตัว งานนี้จะฟังเอาเพี้ยนก็ได้ จะฟังเอาเพลินก็ดีครับ


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 06:24:07 PM
(http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/390562_274342512613007_100001117803357_719683_738707455_n.jpg)

16. This Will Destroy You - Tunnel Blanket
 
Genre: Post-Rock / Drone / Dark Ambient
 
เรียกว่าเล่นเอาอึ้งกันไปเป็นแถบๆสำหรับอัลบั้มชุดใหม่ของ This Will Destroy You ที่ตอนแรกก็นึกว่าจะได้ฟังโพสต์ร็อคท่วงทำนองสวยงามพลิ้วไหวแบบงานชุดก่อนๆ แต่นี่พี่แกมาซะทะมึนผืดหูผิดตาเลย สุ้มเสียงแบบโดรนและดาร์กแอมเบียนท์ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศมืดหม่นกดดันอย่างไม่ปราณี ซึ่งงานชุดนี้ต้องใช้เวลาในการซึมซับครับ แถมเวลาฟังก็ควรฟังแบบต่อเนื่องทั้งชุด จึงจะได้ความรู้สึกของการดิ่งสู่วังวนแห่งความมืดมิดตามความตั้งใจของศิลปินอย่างแท้จริง

(http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/381885_274340399279885_100001117803357_719668_688587508_n.jpg)

17. Prurient - Bermuda Drain
 
Genre: Experimental / Noise / Electronics / Industrial
 
นาย Dominick Fernow คือสัตว์ประหลาดอัจฉริยะครับ นายคนนี้เวลาเล่นไลฟ์ตามงานน้อยส์ก็บ้าคลั่งป่าเถื่อนเหลือหลาย ส่วนเวลาทำอัลบั้มเดี่ยวก็สร้างซาวนด์ได้หลากหลายตั้งแต่น้อยส์กระจายทำลายประสาทรูหู นิ่งหม่นกดดัน ไปจนถึงงานอาร์ตๆที่ผสมผสานอิทธิพลดนตรีหลายๆชนิดไว้เฉกเช่นอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งเขาสามารถเอาซินธิไซเซอร์เท่ๆ ริธึ่มเครื่องจักรอินดัสเตรียล ซาวนด์บรรยากาศ และน้อยส์แสบๆมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวน่าทึ่ง ซึ่งนอกจาก Prurient แล้ว เขายังไปเป็นมือซินธ์ให้กับวงซินธ์ป๊อปสุดเท่อย่าง Cold Cave ที่ออกงานชั้นดีในปีนี้เหมือนกันอีกด้ว

(http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/388325_274340582613200_100001117803357_719669_665495778_n.jpg)

18. VHS Head - Midnight Section
 
Genre: Electronics / Plunderphonic
 
งานอีเลกทรอนิกส์เก๋ๆที่นำเอาแซมเปิ้ลจากทีวีและวิดีโอยุค 80s จำนวนมากมาตัดต่อดัดแปลง บนซาวนด์สังเคราะห์อีเลกโทร/ฟังค์กระด้างๆแต่ก็ดีดเด้งและได้บรรยากาศแบบย้อนยุคจริงๆ นี่อาจจะไม่ใช่งานที่ฟังเสนาะหูเท่าไรนัก แถมถ้าไม่ยังไม่คุ้นก้อาจจะปวดหัวเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไงงานชิ้นนี้ก็ทรงเสน่ห์เกินกว่าจะปฏิเสธลงครับ

(http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/387927_274340725946519_100001117803357_719670_1332909919_n.jpg)

19. Wormrot - Dirge
 
Genre: Grindcore
 
ไกรนด์คอร์พันธุ์แท้ไร้สิ่งเจือปน อัด ดิบ ดุ เดือด เร็ว ห้วน สั้น และมันส์ชิบหาย!! แล้วนี่ยังจะต้องการอะไรอีก!?

(http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/386230_274340845946507_100001117803357_719671_924853410_n.jpg)

20. Robocop - Robocop II
 
Genre: Grindcore / Powerviolence / Noise
 
ลุย!! ฆ่าม่าง!! ฆ่าม่างให้ตาย!! (แค่เนี้ย??)

(http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/384886_274340965946495_100001117803357_719672_1630124060_n.jpg)

21. Radar Men from the Moon - Intergalactic Dada & Space Trombones
 
Genre: Psychedelic / Space Rock / Stoner Rock
 
ทริโอแบนด์เลือดฮิปปี้จากเนเธอร์แลนด์ กับอัลบั้มเต็ม 5 เพลงที่แต่ละเพลงยาว 8-9 นาทีพอๆกันหมด เรื่องสาระหรือรายละเอียดทางดนตรีก็ไม่ต้องไปคิดอะไรกับมันมาก ไม่จำเป็นว่าจะต้องจำชื่อเพลงได้ด้วยซ้ำ เพราะสามหน่อนี้จะแจมดนตรีไหลไปเรื่อยเปื่อยเพลินๆตามอารมณ์แบบไม่มีจุดไคลแมกซ์ใดๆ กรูจะไหลไปเรื่อยๆแบบนี้ใครจะทำไม? ซึ่งใครที่ไม่ชอบก็คงจะไม่ชอบไปเลย แต่สำหรับใครที่หลงใหลและเข้าใจในการแจมดนตรีเรื่อยเปื่่อยแบบนี้ ก็คงจะฟังกันเพลินเลยล่ะ

(http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/385465_274341035946488_100001117803357_719673_769001021_n.jpg)

22. Claps - Wreck
 
Genre: Minimal Wave / Synthpop
 
อีกหนึ่งผลงานที่จะทำให้คอดนตรีซินธ์ยุค 80s ต้องซื้ดปากไปตามๆกัน ซึ่งใครที่ชื่นชอบดนตรีสายนี้ก็คงจะเข้าใจดีๆว่าอนาล็อกซินธีไซเซอร์และกลองโปรแกรมซาวนด์กระป๋องๆแบบนี้มันมีเสน่ห์ยังไง จริงๆปีนี้ก็มีงานของ Xeno & Oaklander ที่มาแนวคล้ายๆกัน แล้วก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันด้วย แต่ผมขอเลือก Claps เพราะฟังง่ายและติดหูกว่าครับ

(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/377922_274341129279812_100001117803357_719674_74158806_n.jpg)

23. Starlight Girls - EP
 
Genre: Psychedelic Pop / Retro Pop
 
ป๊อปมิวสิคที่น่ารักน่าหยิกที่สุดประจำพรรษานี้ในความเห็นของผม ผมชอบซาวนด์เรโทรป๊อปขี้เล่นแบบเกิร์ลกรุ้ปยุค 60s ที่พวกเขาและเธอเอามาเล่นประยุกต์ให้มันเก๋ไก๋เหมาะกับยุคสมัย โดยที่ไม่ต้องทิ้งความเก่าความโบราณไปเลยแม้แต่นิด ทั้งห้าเพลงในอีพีนี้คืออะไรสามารถติดหูได้ภายในการฟังเพียงรอบสองรอบ แล้วมันก็จะติดอยู่ในหูไปอย่างนั้น แต่กระนั้นไม่เคยเบื่อที่จะเปิดมันฟังอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลนจริงๆ

(http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/390526_274341322613126_100001117803357_719676_853342206_n.jpg)

24. Snowman - Absence
 
Genre: Experimental / Space Rock / Post-Rock
 
ไม่รู้จะนิยามดนตรีในอัลบั้มชุดนี้อย่างไรดีเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆมันเป็นส่วนผสมเคมีทางดนตรีที่ค่อนข้างแปลกเอาการ โดยพื้นฐานแล้วจะเป็นอาร์ตร็อคที่ปูพื้นด้วยริธึ่มกลองแปลกๆดังสนั่นเหมือนดนตรี Tribal ชนเผ่าต่างดาว? บวกด้วยซาวนด์สเคปอวกาศๆที่ทั้งหม่น หลอกหลอน เบาโหวง เวิ้งว้าง ห่างไกล แต่ก็ล่องลอยและชวนให้เคลิ้มฝันในเวลาเดียวกัน ส่วนเสียงร้องนั้นก้องสะท้อนกังวานเหมือนนั่งร้องเพลงในห้องน้ำทั้งอัลบั้ม ซึ่งหากดูจากที่อธิบายมาแล้วอาจจะคิดว่าเป็นดนตรีที่ประหลาดและฟังยาก แต่จริงๆแล้วมันกลับไพเราะน่าฟังอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะครับ

(http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc7/379103_274341409279784_100001117803357_719677_1834303190_n.jpg)

25. Ladytron - Gravity the Seducer
 
Genre: Synthpop
 
สำหรับวงนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ ดนตรีซินธ์ป๊อประดับคะแนน A+ ที่ครบเครื่องทั้งความเก๋และความเพราะ แม้จะไม่ได้สดใหม่จัดจ้านเหมือนงานยุคแรกๆแล้ว แต่พวกเขาและเธอเก๋าเกมจนเกินกว่าจะทำงานต่ำกว่ามาตรฐานออกมา และกาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า Ladytron คือของจริง แต่ไอ้ที่น่าผิดหวังก็คือผมอดดู Ladytron Live in Bangkok นี่สิ โคตรน่าเสียดายเลยครับ T T

(http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/376983_274341519279773_100001117803357_719678_901541014_n.jpg)

26. First Human Ferro - Homo Shargey
 
Genre: Dark Ambient / Lo-Fi
 
ในปีนี้มีงานดาร์กแอมเบียนท์ไม่มากเท่าไรที่โดดเด่นออกมาเหนือใคร นอกจากอัลบั้มล่าสุดของ Kreng แล้ว ก็เห็นจะมีงานแอมเบียนท์อวกาศของนาย Olegh Kolyada นี่ล่ะครับ เขารู้จักใช้เสน่ห์ของซาวนด์อนาล็อกและโลไฟให้เป็นประโยชน์ ทำให้งานฟังดูอิ่ม มีมิติ และดำดิ่งเข้าสู้ห้วงอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น

(http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/381066_274341629279762_100001117803357_719679_1945194821_n.jpg)

27. Destroyer - Kaputt
 
Genre: Sophisti-Pop
 
เรียกว่าประทับใจยาวตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีเลยทีเดียว สำหรับงานใหม่ของหนุ่มชาวแคนาเดี้ยนที่พาเราย้อนกลับไปสัมผัสกับสำเนียงป๊อปร็อคอันอ่อนโยน นุ่มนวล ละมุนละไมแบบที่เราเคยหลงรักจากศิลปินยุค 80s อย่าง Aztec Camera หรือ China Crisis กันอีกครั้ง เรียกว่างานนี้เพราะักันจนตายไปข้างเลยล่ะ
 
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/390242_274341862613072_100001117803357_719681_1412403238_n.jpg)

28. Acrylics - Lives and Treasure
 
Genre: Dreampop
 
อันนี้ก็พาเราย้อนอดีตไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เช่นเดียวกับอัลบั้มข้างบน แต่เป็นในสไตล์ดรีมป๊อปสุดบรรเจิดเพริดแพร้วที่ฟังไปฟังมาก็ยังหลอนๆอยู่ว่าตกลงตอนนี้เรากำลังอยู่ปีค.ศ.อะไรกันแน่เนี่ย?
 
(http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/378920_274341699279755_100001117803357_719680_1610677986_n.jpg)

29. Hysteraectomia - Parasitogenic Skin Diseases
 
Genre: Harsh Noise / Gorenoise
 
เมื่อสองสายพันธุ์น้อยส์พันธุ์โหดมาร่วมเพศกัน ความบรรเจิดสุดบรรลัยจึงบังเกิดขึ้น!!
 
(http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/388163_274342062613052_100001117803357_719682_1711169607_n.jpg)

30. Death Toll 80k - Harsh Realities
 
Genre: Grindcore
 
ตอกย้ำความระยำเหน่าเหม็นบัดซบของโลกใบนี้ให้สาสมสะใจด้วยเวลา 25 นาทีที่เร้าอารมณ์เดือดดิบเถื่อนข้างในจนแทบบ้า!!


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 07:14:52 PM
ดีจังครับ ได้มีบทความน่าอ่านอีกแล้ว ผมได้ฟัง 2 จาก 15 ชุดที่เหม่งแนะนำเอง :D


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 07:16:15 PM
ครึ่งหลัง ท่าทางจะยากหน่อย ผมไม่ได้ฟังเลย :D


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 07:21:50 PM
ถึงลิสต์นี้จะไม่ได้เรียงลำดับความชอบ แต่การเรียงอัลบั้มมันก็บอกเปนนัยๆอยู่บ้างครับ คือถ้าชุดใหนชอบมากๆจริงๆมันก็จะนึกออกก่อนอัตโนมัติครับ  ;)


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 07:37:42 PM
ถ้างั้นต้องรีบหา Dir En Grey - Dum Spiro Spero มาฟังเสียแล้ว :D


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: JKNoremorse ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 07:45:26 PM
ไม่น่าเชื่อว่าวง Dir En Grey (Japan) จะเป็นท็อปของเหม่งได้ มันดีขนาดไหนกันเชียว?  ???


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 07:51:09 PM
ไม่น่าเชื่อว่าวง Dir En Grey (Japan) จะเป็นท็อปของเหม่งได้ มันดีขนาดไหนกันเชียว?  ???

ต้องพิสูจน์ด้วยการหามาฟังทั้งชุดครับ  ;)

http://www.youtube.com/watch?v=ryrbrYSb8cs


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: JKNoremorse ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 08:09:19 PM
ไม่น่าเชื่อว่าวง Dir En Grey (Japan) จะเป็นท็อปของเหม่งได้ มันดีขนาดไหนกันเชียว?  ???

ต้องพิสูจน์ด้วยการหามาฟังทั้งชุดครับ  ;)

http://www.youtube.com/watch?v=ryrbrYSb8cs

เข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ ซาวนด์เมทัลดูทันสมัย ดูมีชั้นเชิง น่าสนใจครับ เหม่งรีวิวทั้งอัลบั้มให้ฟังหน่อยสิครับ
แล้ว .... ไปญี่ปุ่นมา สอยแผ่นยุ่นชุดนี้กลับมาด้วยใช่ไหมครับ


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 08:14:26 PM
ไม่น่าเชื่อว่าวง Dir En Grey (Japan) จะเป็นท็อปของเหม่งได้ มันดีขนาดไหนกันเชียว?  ???

ต้องพิสูจน์ด้วยการหามาฟังทั้งชุดครับ  ;)

http://www.youtube.com/watch?v=ryrbrYSb8cs

เข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ ซาวนด์เมทัลดูทันสมัย ดูมีชั้นเชิง น่าสนใจครับ เหม่งรีวิวทั้งอัลบั้มให้ฟังหน่อยสิครับ
แล้ว .... ไปญี่ปุ่นมา สอยแผ่นยุ่นชุดนี้กลับมาด้วยใช่ไหมครับ

อ๋อ แผ่นชุดนี้ผมฝากพี่สิทธิ์สั่งครับ ตอนไปญี่ปุ่นนี้ได้ชุดก่อนหน้าคือ Uroboros กับดีวีดีคอนเสิร์ตที่บูโดกันมาครับ

ส่วนรีวิว ถ้าว่างๆจะเขียนให้อ่านนะครับ  ;)


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: JKNoremorse ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 08:45:16 PM
ไม่น่าเชื่อว่าวง Dir En Grey (Japan) จะเป็นท็อปของเหม่งได้ มันดีขนาดไหนกันเชียว?  ???

ต้องพิสูจน์ด้วยการหามาฟังทั้งชุดครับ  ;)

http://www.youtube.com/watch?v=ryrbrYSb8cs

เข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ ซาวนด์เมทัลดูทันสมัย ดูมีชั้นเชิง น่าสนใจครับ เหม่งรีวิวทั้งอัลบั้มให้ฟังหน่อยสิครับ
แล้ว .... ไปญี่ปุ่นมา สอยแผ่นยุ่นชุดนี้กลับมาด้วยใช่ไหมครับ

อ๋อ แผ่นชุดนี้ผมฝากพี่สิทธิ์สั่งครับ ตอนไปญี่ปุ่นนี้ได้ชุดก่อนหน้าคือ Uroboros กับดีวีดีคอนเสิร์ตที่บูโดกันมาครับ

ส่วนรีวิว ถ้าว่างๆจะเขียนให้อ่านนะครับ  ;)

ขอบคุณครับ ถ้ามันเจ๋งจริง ๆ ผมว่าจะหวดแผ่นพี่ยุ่นซะหน่อย นาน ๆ จะเล่นซะที  :D


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: lunar ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 08:46:59 PM
 ;)ไกรดคอรเพียบเลย


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 16 ธันวาคม 2011 | 10:52:53 PM
เล่นจัดหนัก 30 อัลบั้มแบบนี้ตามฟังกันไม่ไหวเลยครับ แต่คงต้องจัด Dir En Greay พรุ่งนี้เช้าก่อนเลย เพราะตอนนี้ดึกคงไม่เหมาะ ส่วน Opeth นี่คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: panyarak ที่ 17 ธันวาคม 2011 | 01:17:10 PM
โดยที่ไม่มีข้อกำหนดแบบปีก่อนๆ ก็ขอนำเสนอผลงานที่ฟังแล้วประทับใจในปีนี้ แต่อาจจะวางตลาดก่อนปี 2011 โดยไม่เรียงลำดับใดๆ ทั้งสิ้นครับ (จะมาเพิ่มเติมต่อไป)

ดีวีดีแสดงสด

1. Ulver - The Norwegian National Opera - ผู้ที่ไม่เคยสัมผัสงานของวงนี้มาก่อน อาจจะแปลกใจว่า วงนี้เล่น prog ด้วยหรือ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a1-2.jpg)

2. Gary Numan - The Pleasure Principle Live -

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a11-2.jpg)

3. Le Orme - Live in Pennsylvania -

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a144.jpg)

4. New Trolls - Concerto Grosso Trilogy Live - การแสดงกลางแจ้งที่ช่างเลือกฉากหลังเป็นตึกที่เล่นแสงได้สวยงาม

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a145.jpg)

5. Peter Gabriel - New Blood Live in London - อีกผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักดนตรี perfectionist

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a140.jpg)

6. Brit Floyd - The Pink Floyd Tribute Show - ไม่มีของจริงให้ดู ก็ดูของเลียนแบบที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบ HD ก็ได้

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a150.jpg)

7. Daemonia - Dario Argento Tribute Live in Los Angeles - รวมเพลงจากหนังสยองขวัญจากยุค seventies ในบรรยากาศแสดงสด

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/dario.jpg)

8. Chicago & Earth Wind & Fire - Live at the Greek Theater - ไม่เคยคิดว่า 2 วงนี้จะเล่นคอนเสิร์ตร่วมกันได้มันส์ขนาดนี้

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/dario2.jpg)


Progressive Jazz

1. Michael Mantler with Jack Bruce, Marianne Faithfull & Robert Wyatt - Many Have No Speech

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a143.jpg)

Pop Rock & Gimmick Album Cover

1. Portugal.The Man - The Satanic Satanist - ปกซีดีและแผ่นเสียง คลี่ออกมาได้คนละแบบ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a131-1.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a134-1.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a133-1.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a132-1.jpg)

บันทึกการแสดงสด

1. Marillion - Early Stages

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a142.jpg)

2. Mono - Holy Ground Live in NYC

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a136-1.jpg)

3. Our Ceasing Voice - Live

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a128-1.jpg)

4. Steve Hackett - Live Rails

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a15-1.jpg)

5. Ultimate Zero Tour - Live

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a146.jpg)

6. Penguin Cafe - Live at Royal Albert Hall

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a116-1.jpg)

7. Chris Thompson - Acoustic

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a120-1.jpg)

8. Return to Forever - Live

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a122-2.jpg)

9. Deep Purple - BBC Sessions 69/70 - แค่แผ่นแรกก็เกินคุ้ม

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/aa2-1.jpg)


Ambient, Dark Ambient, Drone, Post Rock

1. Brian Eno - Drums between the Bells

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a139.jpg)

2. Our Ceasing Voice

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a126.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a129-2.jpg)

3. The Evpatoria Report - Maar

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a124-1.jpg)

4. Nosound - Sol29

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a12-2.jpg)

5. This Will Destroy You - Tunnel Blanket

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a13-2.jpg)

6. I Hear Sirens

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a148.png)

7. Deadhorse - We Can Create Our Own World

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a149.jpg)


Post Metal

1. A Storm of Light/Nadja - Primitive North - การทำ split album ที่กลมกลืน

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a130-1.jpg)

2. Battles - Mirrored

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a125-1.jpg)

3. Omega Massif - Karpetia - เพลงบรรเลงหนักๆ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a123-1.jpg)


Electronic

1. Richard Pinhas - Iceland - ให้บรรยากาศเยือกเย็นจับใจ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a113-1.jpg)

2. Richard Pinhas & Merzbow - Keio Line - ฟังแล้วเหมือนกำลังโดยสารรถไฟสายเคโอจริงๆ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a114-1.jpg) (http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a115-1.jpg)


Original Soundtrack

1. Sucker Punch - รวมเพลงคัฟเวอร์สุดประทับใจ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a16-1.jpg)

2. Red Riding Hood - บรรยากาศ Dark Ambient อันหนาวเหน็บ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a18-2.jpg)

3. Into the Wild -

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a19jgp.jpg)

4. Mary & Max - ชุดนี้ไม่ต้องดูหนัง นำมาฟังเล่นได้สบาย

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a17jgp-1.jpg)


Cover Songs

1. Pink Martini & Saori Yuki - 1969 - เสียงร้องของนักร้องคนโปรดเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ช่างไปได้ดีกับ Pink Martini จริงๆ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a110-1.jpg)

2. Zoffy - Pictures at an Exhibition - คัฟเวอร์ ELP แบบสุดเพี้ยน

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a112-1.jpg)

3. Tony Carey - The Stanilaus County Kid Vol. II - เพลงคัฟเวอร์แบบมีเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a119-1.jpg)


Progressive Rock

1. Steve Hackett - Beyond the Shrouded Horizon - ถ้าหย่าเมียแล้วออกผลงานได้ดีวันดีคืนขนาดนี้ น่าจะหย่าเสียตั้งนานแล้ว

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a14-2.jpg)

2. Ben Craven - Great & Terrible Potions

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/ben.jpg)


Hard Rock

1. Don Airey - A Light in the Sky - สวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบ Hammond Organ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a121-2.jpg)


Folk

1. Maddy Prior & the Carnival Band - Vaughn Williams Carols, Songs & Hymns

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a118-1.jpg)


เพลงคริสต์มาส

1. Pink Martini - Joy to the World

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/aa1.jpg)


Non-category (จัดเข้าแนวใดไม่ได้)

1. Penguin Cafe - A Matter of Life - คำยืนยันว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/a111-1.jpg)


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: undeaʇh ที่ 19 ธันวาคม 2011 | 09:52:59 AM
เห็นเหม่งและพี่ตั๊มจัดออกมานี่แต่ละคนฟังเพลงกันเยอะมากๆๆๆ ก็ขอแบ่งปันอัลบั้มที่ฟังแล้วรู้สึกประทับใจ 10 อัลบั้ม
(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/origin1.jpg)
Origin : Entity
กลับมาอีกครั้งกับ Technical Brutal Death Metal แต่ละบทเพลงบลาสต์กันหัวหลุดเลย

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/necroschristos.jpg)
Necros Christos : Doom of the Occult
คงไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ในแนวทาง Doom/Death แต่อิทธิพลของ Black Subbath ที่อบอวลในอัลบั้มนี้ก็เพียงพอที่จะนำมาเปิดฟังบ่อยๆ

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/abysmal_dawn1.jpg)
Abysmal : Leveling The Plain of Existence
ถือว่าว่าอยู่ในระดับพอตัวสำหรับอัลบั้มที่ 3  Technical Death Metal จาก California เสียงร้องทูโทน ทั้งกดต่ำในลำคอและแผดเสียง

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/anubis1.jpg)
Anubiz : A Tower of Silence
แปลกใจว่าทำไมในเว็บเราไม่มีใครพูดถึงอัลบั้มนี้เลย Neo Prog จาก Australia กลุ่มนี้เพราะเป็นอัลบั้มที่ฟังแล้วกลมกล่อม พอดีๆ

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/Venomfallenangels1.jpg)
Venom : Fallen Angel
ทหารแก่ไม่มีวันตาย

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/Surtur-Rising1.jpg)
Amon Amarth : Surtur Rising
ตำนานแห่งไวกิ้ง เมตัล คงกรีฑาทัพเข้าสู่สงครามไปอีกนานแสนนาน

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/mayan-quaterpast1.jpg)
Mayan : Quaterpast
ไม่แน่ใจว่าเป็น Side Project หรือเปล่า แต่การจับมือกันของ Mark Jansen (EPICA) Jack Driessen และ Sander Gommans (both ex-AFTER FOREVER) แต่ผลลัพธ์ก็คืออัลบั้มที่มี Riff แบบ Death Metal ที่ถูกโอบอุ้มด้วย Symphonic Power Metal

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/Deicide-To-Hell-With-God1.jpg)
Deicide : To Hell With God
ตามชื่ออัลบั้มเลย พาพระเจ้าไปทัวร์นรกกันเถอะ

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/autopsymacabre1.jpg)
Autopsy : Macabre Eternal
เวลาผ่านไป 20 กว่าปี จากอัลบั้ม Servered Survival ถึงอัลบั้มนี้ ไดโนเสาร์แห่งวงการเดธเมตัลยังคง ยืนหยัด ยืนยง

(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/carbon-based-anatomy1.jpg)
Cynic : Carbon Based Anatomy
เคยนึกสงสัยว่าทำไมอัลบั้ม Focus ในปี 1993 ไม่ได้การยอมรับจากแฟนเพลงเดธเมตัล คงเป็นเพราะแนวเพลงของคณะ Cynic มีลักษณะเป็นค้างคาว นกมีหู หนูมีปีก จะเป็นเดธก็ไม่เต็มตัว จะเป็นแจ็สก็ไม่ใช่ แต่ EP ชุดนี้ก็ทำให้แน่ใจว่าอย่างน้อยผมก็ยังติดตามพวกเขาต่อไปในแนวทางนี้

อัลบั้มที่ฟังแล้วเสียความรู้สึกแห่งปี
Morbid Angel : Illud Divinum Isanus คงเพราะตั้งความหวังไว้สูงกับอัลบั้มนี้แต่การกลับมาของ David Vincent ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ 
(http://i1209.photobucket.com/albums/cc388/Andorn1/morbidangel_illud1.jpg)













หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 19 ธันวาคม 2011 | 10:13:05 AM
คุณ undeath ฟังเพลง ชวนให้ death อีกแล้ว :D


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: Fog ที่ 24 ธันวาคม 2011 | 09:01:23 PM
1. Devin Townsend Project – Deconstruction/Ghost
เนื่องจากปีนี้พี่เหม่งเดวินออกถึงสองอัลบั้มในคราวเดียวกัน และถือเป็นสองชุดสุดท้ายในซีรี่ส์ DTP ที่มีแนวทางแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดย Deconstruction นั้นจะเป็นโปรเกรสสีฟเมทัลที่สุดแสนจะบ้าพลังโดยมีออร์เคสตร้านับร้อยคอย หนุนหลัง ส่วน Ghost ก็จะเน้นแอมเบียนท์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ไม่วายที่จะสอดแทรกความเป็นอะคูสติกไว้ด้วย ทั้งสองชุดนี้จะทำให้พี่เหม่งดูเป็น Perfectionist ไปในบัดดล ด้วยความที่ไม่แกจะทำอะไรหรือร่วมงานกับใคร แกก็เต็มที่กับงานนั้นมาก บวกกับพลังสร้างสรรค์ที่เปี่ยมล้น ฉะนั้นคำว่า “อัจฉริยะ” จึงน่าจะเหมาะกับแกดี

2. Opeth – Heritage
อัลบั้มนี้แม้จะฟังไม่บ่อยเท่าอัลบั้มอื่นๆในลิสต์ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งให้ความรู้สึกกลมกล่อม และงานชุดนี้ก็เป็นสัญญาณสู่การเดินทางครั้งใหม่ที่เกิดจากความหลงไหลใน ดนตรีย้อนยุคของไมเคล โอเกอร์เฟลต์ รวมถึงการเลิกสำรอกโดยถาวรของเขา แม้สิ่งนี้อาจจะสร้างความผิดหวังให้แกแฟนเก่าๆที่ชอบการสำรอกของเขามาแต่ เดิม รวมถึงอิทธิพลจากยุค 70s ที่มีมากขึ้นในทุกอณูของดนตรี (ซึ่งเริ่มจะมีมาตั้งแต่ตอนทำ Watershed) คงน่าจะเรียกได้ว่าทางวงได้ทำให้ดนตรีในยุคนั้นให้กลับมามีความเข้มขลังขึ้น อีกครั้ง

3. Anthem – Heraldic Device
ความจริงผมรู้จักลุงๆกลุ่มนี้มาได้สักพักแล้ว (แม้จะช้าไปหลายปี) เนื่องจากลุงไอโซ ซาคาโมโตะซึ่งเป็นแกนนำของวงนั้นก็เป็นนักร้องนำของวงอนิเมในตำนานอย่าง Animetal ด้วย สิ่งที่ทำให้ประทับใจในอัลบั้มก็คือ ภาคดนตรีที่เร้าใจชนิดทางวงลืมความแก่กันไปเลย ด้วยดนตรีที่รวดเร็วและดุดันในแบบเพาเวอร์เมทัล ผสานกับฮาร์ดร็อคจากยุค 80s ในบางโอกาส และลุงไอโซก็ร้องได้ทรงพลังเหมือนเคย เพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษในชุดนี้ก็เห็นจะเป็น Code of the Silence ซึ่งเป็นบรรเลงเพียงหนึ่งเดียวของอัลบั้ม ที่มีเมโลดี้ชวนฮึกเหิม และช่วงโซโลก็ทรงพลังไม่แพ้กัน พวกเขา “แก่แล้วแต่ยังไม่หมดไฟ” จริงๆ

4. Fleshgod Apocalypse – Agony
“Beauty & Brutality” (เท่านี้น่าจะพอแล้ว...)

5. Obscure Sphinx - Anaesthetic Inhalation Ritual
จากการค้นหาวงโพสร็อค/โพสเมทัลหน้าใหม่ๆตามเว็บ Bandcamp หรือตามแหล่งต่างๆที่ศิลปินเอาเพลงมาให้ฟังกันฟรีๆ (เนื่องด้วยในปีนี้ผมฟังแนวนี้ค่อนข้างมากเป็นพิเศษ) วงนี้ถือเป็นวงหนึ่งที่ทำงานออกมาได้ดีทีเดียว ด้วยสุ้มเสียงที่หนักแน่นบวกกับเมโลดี้ที่เรียบง่ายแต่ลงตัว รวมถึงนักร้องสาวที่สามารถร้องได้หลากหลายอารมณ์ โดยเธอคนนี้จะร้องเสียงสำรอกได้โดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้งานโดยรวมของทางวงนั้นมีความเกรี้ยวกราดมากขึ้น พวกเขาและเธอก็แทบจะทาบรัศมีวงรุ่นพี่ๆหลายๆวงได้เลยทีเดียว

6. Caroline – Verdugo Hills
ผมเห็นชื่อเธอครั้งแรกตอนที่เข้าไปดูในเว็บไซต์ของสังกัด Temporary Residence ซึ่งทีแรกก็ยังไม่เอะใจเท่าไหร่ แต่ภายหลังที่เห็นใบหน้าจริงๆก็ถึงกับอึ้งทันที เพราะหน้าตาของเธอออกไปทางเอเชียมากกว่าฝรั่งเสียอีก แถมพอมารู้ภายหลังว่าเป็นน้องสาวของโอลิเวีย ซึ่งเป็นนักร้องเจร็อคที่ดังมากอยู่ช่วงหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้เกิดความสนใจในตัวเธอมากขึ้น นั่นก็รวมถึงงานดนตรีของเธอด้วย อัลบั้มนี้เป็นงานอิเลกโทรนิกปนอะคูสติกที่ไพเราะชวนเคลิ้ม แต่ก็แฝงไปด้วยความเหงาอยู่ในตัว และเสียงร้องที่เบาและนุ่มนวลของเธอก็ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ เมื่อนำองค์ประกอบเหล่านี้มารวมกันจักทำให้เกิด “ความเหงาที่เพลิดเพลิน”

7. Dakota Suite – The Hearts of Empty/The North Green Down (with Emanuele Errante)
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมแพ้เสียงเปียโนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะงานเปียโนที่แฝงไปด้วยความเศร้าและเหงาอย่างเช่นที่วงนี้ได้ทำเอา ไว้ทั้งสองชุด โดย The Hearts… จะเน้นความเป็นแจ๊สที่เรียบง่ายแต่ยังอารมณ์เหงาๆอันเป็นเอกลักษณ์ ใช้เครื่องดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้นก็สามารถสร้างความลงตัวได้ แต่ The North… จะแตกต่างกัน เพราะเป็นดนตรีคลาสสิกร่วมสมัยที่ให้อารมณ์ที่ดำดิ่งยิ่งกว่า โดยมีเพื่อนซี้อย่างเอมานูเอล เอร์รันเต มาร่วมงานด้วย งานชุดหลังนี้ทางวงก็ทำขึ้นมาเพื่อไว้อาลัยแก่น้องสะใภ้ของสมาชิกคนหนึ่งใน วงที่เสียชีวิตไป ดนตรีที่เหงาหงอยและดำดิ่งแบบนี้ถือเป็นของขวัญวันปวดใจสำหรับเรื่องราวที่ เกิดขึ้นกับผมในปลายปีนี้ด้วย

8. Kalafina – After Eden
หลังจากที่ได้รู้จักพวกเธอจากอัลบั้มก่อน (Red Moon) แถมยังติดใจเพลงของพวกเธออยู่หลายเพลงพอควร โดยเฉพาะ Hikari no Senritsu และ Lacrimosa (เพลงหลังเป็นเพลงจบจากอนิเมเรื่อง พ่อบ้านปิศาจ) ซึ่งชุดนั้นก็เน้นบรรยากาศแบบกอธิคอยู่พอควร แต่มาชุดนี้งานของพวกเธอแลจะสว่างไสวมากขึ้น รวมถึงเสียงร้องประสานก็มีความโดดเด่นและงดงามขึ้นด้วย ถ้าจะให้บรรยายอัลบั้มชุดนี้เพียงหนึ่งคำ ผมขอเรียกอัลบั้มว่า “เสียงสวรรค์”

9. Nujabes – Spiritual State
ไม่รู้ว่ามารู้จักยอดดีเจอย่างจุน เซบะ ช้าไปหรือเปล่า เพราะได้ฟังเพลงของเขาครั้งแรกจากอนิเมซามูไรยุคเอโดะอย่างซามูไรแชมป์ลู ที่นำเพลงที่มีบีทเรียบแต่หรูของจุนซังมาผสมกับเนื้อเรื่องได้อย่างกลมกลืน แต่เอาเข้าจริงๆ งานของเขาก็มีความเป็นทริปฮอพและแจ๊สอยู่มากพอสมควร โดยบางครั้งเขาก็จะนำแซมเปิ้ลจากศิลปินรุ่นเก่าๆ (โดยเฉพาะในสาขาคูลแจ๊ส) มาใส่ลงไปในเพลงด้วย สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยาก ในหมู่ศิลปินฮิพฮอพด้วยกัน และงานชุดนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ Spiritual สมชื่ออัลบั้ม แม้เขาจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปีก่อน เขาก็ยังทิ้งผลงานดีๆไว้ให้ฟังเป็นชุดสุดท้ายก่อนที่จะลาจากวงการเพลงไปตลอด กาล ขอให้ไปสู่สุคตินะครับ...จุนซัง...

10. Pat Metheny – What’s It All About
งวดนี้น้าแพทมาแบบเปลือยเปล่าสุดๆกับกีต้าร์โปร่งเพียงตัวเดียว (แต่อาจจะมีโชว์บรรเลงปิกัสโซกีต้าร์ด้วย) และแม้จะเป็นเพลงคัฟเวอร์ทั้งหมด แกก็สร้างอัตลักษณ์ในแต่ละเพลงได้อย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องอารมณ์ที่ค่อนข้าง Abstract อันเด่นชัดอยู่พอสมควร ซึ่งน่าจะสังเกตได้ในบางเพลงอย่างเช่น The Girl from Ipanema ที่แต่เดิมเป็นบอสซาโนวา แต่เวอร์ในอัลบั้มนี้ค่อนข้างล่องลอยเอาการ อย่างไรก็ตาม งานชุดนี้ก็ถือเป็นอัลบั้มบรรเลงกีต้าร์ที่น่าฟังที่สุดอีกหนึ่งชุดเท่าที่ ได้ฟังมา

11. Explosions in the Sky – Take Care, Take Care, Take Care
งานชุดนี้มาแบบไม่ค่อยฟุ้งกระจายเหมือนชุดก่อน จึงมีอารมณ์ก็มีความใกล้เคียงกับ The Earth is Not a Cold Dead Place อยู่พอสมควร แม้งานชุดนี้จะพีคไม่สุดเท่าสองชุดก่อน พวกเขาก็มีความเรียบง่ายแต่ลงตัวเข้ามาแทนที่ จึงทำให้งานชุดนี้มีความรู้สึกผ่อนคลายและนุ่มนวลขึ้น

12. Ketil Bjornstad & Svarte Henryson – Night Song
“A Melancholic Serenade…”

13. Acid Mothers Temple SWR & Umezu Kazutoki – Sax & the City
ความทรงจำเมื่อครั้งคอนเสิร์ตที่ AMT มาแสดงเมื่อปีก่อนยังไม่จางหาย คราวนี้พวกเขาก็ออกอัลบั้มมาให้หายคิดถึงกันอีกแล้ว ซึ่งก็มีชุดนี้กับอัลบั้มที่เป็นของไลน์อัพหลักอีกหนึ่งชุด (AMTSWR คือไลน์อัพที่มาเล่นที่บ้านเราเมื่อปลายปีก่อนโดยมีน้าอุจิฮาชิ คาซึฮิสะ มาแจมด้วย) โดยความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ฟังชุดนี้จบไปก็คือ “บ้าคลั่ง” และ “ปั่นประสาท” ถึงขนาดที่ว่าผมเอาไปเปิดที่สถานีวิทยุออนไลน์แห่งหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามละกัน) แล้วถึงกับโดนด่าทันที่ว่าเปิดเพลงประสาอะไร น่ารำคาญ อะไรทำนองนี้ แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกครับ เพราะงานชุดนี้คือสุดยอดแห่งความเพี้ยนโดยแท้จริง

14. Fjordne – Charles Rendition
ชุนอิจิโร ฟุจิโมโตะ หรือ Fjordne ได้รังสรรค์งานมินิมัลอิเลกโทรอะคูสติกที่ไพเราะนุ่มนวลมาตลอด มาชุดนี้เขาเปลี่ยนมุมมองใหม่ด้วยการใช้เปียโนเป็นหลัก โดยเขาได้รับอิทธิพลจากนิยายชื่อดังของชาร์ลส ดิคเคนส์ อย่าง Great Expectations ที่เคยนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ไลน์เปียโนของเขานั้นจะเน้นทางแจ๊สเป็นหลัก โดยมีเครื่องเป่าและเครื่องสายคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง โดยมีความรู้สึกที่เลื่อนลอยหงอยเหงาแฝงอยู่ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ติดตัวเขาตลอดมา และงานชุดนี้อาจจะเป็นอัลบั้มที่ตอบโจทย์คำว่า Postmodernism ได้อย่างดี

15. Sunn O))) Meets Nurse with Wound – The Iron Soul of Nothing
การร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการร่วมงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสาขาโดรน เลยก็เป็นได้ เมื่อวงโดรนรุ่นหนุ่มจากเมืองลุงแซมโคจรมาพบกับวงโดรนรุ่นเก่าจากแดนผู้ดี ผลออกมาก็คือ งานโดรนแอมเบียนท์ที่มืดมิดและดำดิ่ง ซึ่งดูเป็นกลางที่สุดสำหรับทั้งสองวง นอกจากนี้แต่ละเพลงก็ยังมีความละเลียดอยู่ในตัว จึงทำให้เกิดสุ้มเสียงที่ดูลึกลับและชวนค้นหา และถึงงานชุดนี้จะมีความมืดมน แต่กลับให้ความรู้สึกที่นิ่งสงบอย่างน่าประหลาด

16. Fennesz & Sakamoto – Flumina
หลังๆมานี้ น้าริวอิจิเริ่มเดินทางเข้าสู่สายมินิมัลมากขึ้น เนื่องด้วยเครือข่ายรอบๆตัวแกก็มีแต่บุคคลในสาขานี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Alva Noto ซึ่งแกก็ได้ร่วมงานด้วยอีกครั้งหนึ่งในช่วงต้นปี หรือน้าคริสเตียน เฟนเนสซ์ มินิมัลลิสต์รุ่นเก๋าจากออสเตรีย ที่ได้ร่วมงานในชุดนี้ที่จะเน้นแอมเบียนท์ผสานมินิมัลเปียโนที่เลื่อนลอย แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ “ออร์แกนิก” (ราวกับตัวเพลงนั้นมีชีวิตอยู่) อย่างน่าอัศจรรย์ และการเดินคอร์ดของน้าริวนั้นก็เป็นไปอย่างเยือกเย็น คลอไปกับ Soundscapes ที่นิ่งสงบจากน้าเฟนเนสซ์ และด้วยจำนวนเพลงที่มากถึง 24 เพลง (แบ่งเป็นสองซีดี) เราจึงสามารถสัมผัสกลิ่นอายของธรรมชาติจากจินตนาการของพวกเขาได้อย่างเต็ม อิ่ม

17. Liliuminarium – Demolished Territory/Surgery & Mudai EPs
“The Destroyer’s Noise!!”

18. Kreng – Grimoire
มืดมน งดงาม และ คลาสสิก...

19. Sleepsmakeswaves - …And So We Destroyed Everything
ผมขอยกสี่หนุ่มจากแดนจิงโจ้กลุ่มนี้เป็นอีกหนึ่งวงม้ามืดในสาขาโพสร็อค ถึงแม้ช่วงนี้ผมจะไม่ค่อยได้ฟังวงที่มีท่อนหนักๆมากนัก แต่พวกเขาก็ทำงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เนื่องด้วยการที่มีเครื่องสายและเครื่องเป่ามาแซมอยู่ในดนตรี และสุ้มเสียงของพวกเขาที่มีความหนักแน่นน้องๆโพสเมทัลกันเลยทีเดียว (อิทธิพลของพวกเขาค่อนข้างเปิดกว้าง) นอกจากนี้ พวกเขายังสร้างทำนองออกมาได้เข้มข้นและทรงพลังอีกด้วย เพียงเท่านี้พวกเขาก็สามารถครองใจผมได้อย่างอยู่หมัดแล้ว

20. Vampillia – Alchemic Heart
แม้วงนี้จะเป็นวงรวมดาราที่ทำงานค่อนข้างป่วนประสาทมาก่อน แต่เมื่อมาทำงานโดรน พวกเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน รวมถึงการได้นักดนตรีระดับหัวกะทิเช่น จาร์โบ (อดีต Swans) Merzbow และวง Inswarm ที่มาเสริมทัพในส่วนของริฟฟ์กีต้าร์หนืดๆยานๆในครึ่งหลังของทั้งสองเพลง แต่งานชุดนี้ไม่ได้เป็นเพียงโดรนเมทัลเท่านั้น เพราะยังมีกลิ่นอายดนตรีคลาสสิกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องสายและเปียโน การอิมโพรไวส์เสียงร้องของจาร์โบทซึ่งเสริมสร้างบรรยากาศของดนตรีให้ดูหลอน ขึ้นมาแบบพอหอมปากหอมคอ และเสียงนอยส์พื้นหลังโดย Merzbow ผลที่ออกมาก็คือ งานชุดนี้เป็นงานที่มีความลึกล้ำและชวนต้นหาในตัวมันเอง

21. Cicada – Pieces
...(ไร้ซึ่งคำบรรยายใดๆ ให้เพลงช่วยบอกเล่าแทนผมก็ละกัน)...

22. Spangle Call Lilli Line – Piano Lesson
งานที่เรียบง่าย น่ารักน่าหยิก และชวนพริ้มแบบนี้ ผมคงไม่อยากบรรยายอะไรมากอีกแล้ว...

23. Dustin O’Halloran – Lumiere
ดัสติน โอ แฮลโลแรน คือ นักเปียโนที่สามารถเรียกน้ำตาของผมออกมาได้...

24. Dragonland – Under the Grey Banner
วงนี้เป็นวงที่ค่อนข้างจะมาแรงแซงโค้งสำหรับผม แม้ว่าจะได้ยินชื่อเสียงของพวกเขามานาน และเพื่อนๆที่รู้จักบางส่วนก็ชื่นชอบฝีไม้ลายมือของวงอยู่พอสมควร ตัวผมเองก็เพิ่งได้รู้จักกับพวกเขาครั้งแรกกับอัลบั้มนี้ ซึ่งถือเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคอาณาจักรมังกร (Dragonland Chronicles Trilogy) ซึ่งเนื้อหาในชุดนี้ก็จะต่อจากสองอัลบั้มแรกสุด สำหรับดนตรีนั้นคงไม่ต้องบรรยายกันมากนัก เพราะพี่ท่านเล่นจั่วหัวกล่องอัลบั้มไว้เลยว่า “สำหรับแฟนเพลงของ Rhapsody of Fire และ Kamelot” ซึ่งก็น่าจะเดาทางดนตรีได้ไม่ยากเลย สิ่งที่ทำให้ผมติดใจในอัลบั้มนี้ก็คือสุ้มเสียงที่แข็งแกร่งทรงพลังและความ ต่อเนื่องของแต่ละเพลงที่ทำให้ดูเป็นอีปิกยิ่งขึ้น สองสิ่งนี้ทำให้อัลบั้มได้ขึ้นมาอยู่ในลิสต์นี้อย่างเป็นเอกฉันท์

25. ENO - -t
อีกหนึ่งผลิตผลที่หามาได้จาก Bandcamp พวกเขาเป็นวงดูโอจากสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลุงไบรอัน อีโน แต่อย่างใด (แล้วชื่อนี้พวกท่านได้แต่ใดมา...) ทางวงมาพร้อมกับดนตรีโพสร็อคที่แสนจะละเลียด โดยได้อิทธิพลจากวงรุ่นพี่หลายๆวงเช่น Mono, Mogwai และ Gregor Samsa เป็นต้น แม้สมาชิกจะมีเพียงสองคือกลองและกีต้าร์ แต่รายละเอียดที่ออกมานั้นสามารถเทียบได้กับฟูลแบนด์ได้เลย โดยเฉพาะส่วนของกีต้าร์นั้นแลจะมีเลเยอร์ที่หลากหลาย เมโลดี้ที่ไพเราะชวนฝัน และการเรียบเรียงเพลงที่ชาญฉลาด ทำให้งานมีความไหลลื่นชวนติดตาม และด้วยความที่งานของพวกเขาไม่ได้เน้นพีคมากนัก จึงให้ความรู้สึกที่เบาสบายราวกับนั่งอยู่บนปุยเมฆ  

26. Steve Hackett – Beyond the Shrouded Horizon
สดใส ไพเราะ อลังการ และ อีปิกตลอดอัลบั้ม...


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: Fog ที่ 26 ธันวาคม 2011 | 04:35:37 PM
27. Karmakanic – In a Perfect World
Karmakanic เป็นอีกหนึ่งวงที่ทำงานได้ดีมาตลอด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไลน์อัพอยู่บ่อยครั้งก็ไม่มีผลกระทบต่อภาคดนตรีเท่าใดนัก เพราะสมาชิกแต่ละคนที่มาอยู่ในวงก็จะเป็นเครือข่ายคนกันเองทั้งนั้น งานดนตรีของพวกเขาก็ยังคงเน้นความสวยงาม โดยเสริมความหนักแน่นจากภาคกลองของมาร์คัส ลิลีควิสต์ และการมีมือคีย์บอร์ดคนที่สองเข้ามาทำให้งานดูมีมิติและสีสันมากขึ้น ผมขอนิยามงานชุดนี้ไว้สั้นๆว่า “In a Perfect Mood” ก็ละกันครับ

28. 3 – The Ghost You Gave to Me
หลังจากที่พวกเขาพยายามที่จะดันตัวเองให้เป็นโปรเกรสสีฟเมทัลแต่ทำไม่สำเร็จในชุด The End is Begun แล้วจึงหันมาทำงานที่เน้นอะคูสติกแทนในชุดก่อนอย่าง Revisions แต่มาชุดนี้พวกเขามาเลือกเดินทางสายกลาง โดยนำส่วนอะคูสติกจากชุดก่อนมาผสานกับส่วนที่เป็นเมทัลไว้อย่างสมดุลย์ ซึ่งโดยส่วนที่เป็นเมทัลนั้นพวกเขาทำออกมาได้สะอาดกว่าในชุด The End… มาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความหนักแน่น เรียกได้ว่าพวกเขามาถูกทางแล้วจริงๆ

29. Theocracy – As the World Bleeds
วงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวงเลือดใหม่ที่น่าจับตามอง โดยฉพาะในส่วนของพัฒนาการ ทั้งด้านการเพิ่มจำนวนสมาชิกและผลงานที่คุณภาพดีไม่มีตก งานชุดนี้จึงกลายสมบูรณ์แบบจนน่าจะสามารถเรียกว่ามาสเตอร์พีซได้อีกหนึ่งชุดเลยละ

30. Harold Budd – In the Mist
หลังจากที่สองจิตสองใจอยู่นานว่าจะเลือกงานชุดไหนดี เพราะปีนี้ลุงแฮโรลด์ บัดด์ออกงานมาถึงสามชุดด้วยกัน สุดท้ายผมจึงมาเลือกงานเดี่ยวของแกนี่ละ เนื่องจากงานที่ทำกับพี่โรบิน กุธรี (เจ้าประจำ) ก็แลจะฟุ้งไปหน่อย ส่วนงานที่มีเอรัลโด เบร์นอชชี มาร่วมด้วยนั้นก็เพิ่งจะออกมาไม่นาน สุดท้ายผมจึงเลือกชุดนี้ ด้วยสุ้มเสียงที่เยือกเย็นและเหมาะกับบรรยากาศหน้าหนาวในช่วงนี้ดีนั่นเอง แต่บางครั้งมันก็เย็นยะเยือกเสียจนน่าขนลุกเลยละ ซึ่งนี่ก็เสน่ห์ในไลน์เปียโนของลุงคนนี้นี่เอง

Albums Yet to Be On the List
Steven Wilson – Grace for Drowning
Bass Communion – Cenotaph
Origin – Entity
Ozric Tentacles – Paper Monkeys
Pain of Salvation – Road Salt Two
Leprous – Bilateral
Dream Theater – A Dramatic Turn of Events
Mastodon – The Hunter
Wilco – The Whole Love
White Lies – Ritual
Dale Cooper Quartet & the Dictaphones – Metamanoir
The Kilimanjaro Darkjazz Ensemble – From the Stairwell
48V – South II
Abruptum – Potestates Apocalypsis
Aethenor – En Form For Bla
New Risen Throne – Loneliness of Hidden Structures


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: raylee ที่ 20 มกราคม 2012 | 10:47:28 PM
ชอบ destroyer / kaputt ครับ ขอบคุณน้องเหม่งที่แนะนำดนตรีดีๆ อีกเช่นเคยครับ


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: PANTERISTA ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2012 | 04:41:43 AM
\m/ MY BEST 5 ALBUM OF 2011 \m/
1.ANDY JAMES : ANDY JAMES
2.ANIMETAL USA : ANIMETAL USA
3.EUROPE : LIVE @ SHEPHERDS BUSH LONDON/LIVE LOOK @ EDEN
4.MACHINE HEAD : UNTO THE LOCUST
5.WHITESNAKE : FOREVERMORE


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: .. polotoon .. ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012 | 06:57:58 PM
ชอบ destroyer / kaputt ครับ ขอบคุณน้องเหม่งที่แนะนำดนตรีดีๆ อีกเช่นเคยครับ
เพลงอะไร ทำไม เพราะจัง ..


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: Layla F Mulder ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012 | 07:07:07 PM
AFM's 12 Favourite Albums of 2011 (Not in Order)

1. Wynton Marsalis and Eric Clapton - Play The Blues (Live from Jazz At Lincoln Center)
Old School Blues/Jazz tunes are amazing. And Clapton played 335!!
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51rpf7gst1L._SL500_AA300_.jpg)

2. Warren Haynes - Man In Motion
I love your bending!!
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/61S6ARsyRcL._SL500_AA300_.jpg)

3. Tedeschi Trucks Band - Revelator
A bit too much funky for my taste. But it's still great. Grammy awards winner!!
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51Qdo3JVr4L._SL500_AA300_.jpg)

4. Gregg Allman - Low Country Blues
Another album from Allman family. T-Bone Burnett on producer, Dr. John on piano & Doyle Bramhall II on guitar.
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/61vFEkoZxwL._SL500_AA300_.jpg)

5. Joe Bonamassa, Beth Hart - Don't Explain
Bonamassa at his best along with soulful voice by Ben Hart. Highly recommended.
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/61qVggqisvL._SL500_AA300_.jpg)

6. Alison Krauss and Union Station - Paper Airplane
Still at their/her standard. Grammy awards winner!!
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51N73-LcYoL._SL500_AA300_.jpg)

7. Gillian Welch - The Harrow & The Harvest
Best Folk album of the year.
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/61pAfk0RnzL._SL500_AA300_.jpg)

8. Vince Gill - Guitar Slinger
Well produced. His vocal is great too.
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51IHvnJyCSL._SL500_AA300_.jpg)

9. Starbucks 40 - A 40th Anniversary Collection
Nice compilation album. Please continue buy 1 get 1 campaign. And I love "Blended Java Chip".
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/516Gc0-ZnfL._AA300_.jpg)

10. Opeth - Heritage
Mellotron, Wurlitzer, Rhodes, Piano & Hammond with Leslie. I need more of this!!!
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51akMW7F8gL._SL500_AA300_.jpg)

11. The Civil Wars - Barton Hollow
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/51rBGPLTlCL._SL500_AA300_.jpg)

12. Willie Nelson, Norah Jones, Wynton Marsalis - Here We Go Again: Celebrating the Genius of Ray Charles
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/41Tty3Es17L._SL500_AA300_.jpg)

Best moment of the year
David Gilmour appeared on top of the wall on 12-May. Sung and played on Comfortably Numb with Roger Waters at O2 arena, London.
http://www.youtube.com/watch?v=hUYzQaCCt2o


หัวข้อ: Re: Best Albums of 2011 !
เริ่มหัวข้อโดย: TRON ที่ 27 เมษายน 2012 | 10:07:07 PM
เมื่อใกล้สิ้นปีแล้ว ก็เช่นเคยครับ  :D

Noisy's 30 Favourite Albums of 2011 (Not in Order)

11. M83 - Hurry Up, We're Dreaming
 
Genre: Synthpop / Dreampop
 
ไม่แน่ใจว่างานนี้พวกเขาอยากจะทำ Mellon Collie and the Infinite Sadness ฉบับซินธีไซเซอร์รึเปล่า แต่ที่แน่ๆต้องนับว่าหาญกล้ามากครับ ที่ริทำอัลบั้มแผ่นคู่เพลงเยอะๆแบบนี้ แล้วมันก็ฟังไพเราะดีทุกเพลงตั้งแต่ต้นแ่ผ่นแรกยันท้ายแผ่นสองเลยทีเดียว ซาวนด์อนาล็อกซินธ์พร้อมเมโลดี้หวานๆชวนฝันหอมฟุ้งกระจายทั่วอัลบั้มไปหมด นี่คือเสียงดนตรีจากสวรรค์โดยแท้

(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/386020_274339219280003_100001117803357_719660_204735250_n.jpg)


เพิ่งมาค้นเจอว่าน้องเหม่งเขียนถึงอัลบั้มนี้ไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ผมเพิ่งไล่ฟังวงนี้แล้วชอบมาสั่งซีดีหลายชุดรวมทั้งชุดนี้มาฟัง กลายเป็นวงโปรดไปแล้วครับ อัลบั้มนี้ยอดเยี่ยมมากมาย มีซาวนด์ 80's ที่เรียบเรียงออกมาในแบบแปลกๆ เป็นอัลบั้มที่ต้องฟังต่อเนื่องกันเพราะแต่ละเพลงเหมือนเรียงร้อยต่อกันอย่างแนบเนียน