ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149721 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

16 พฤษภาคม 2024 | 06:34:14 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgOutside The Wallแปลเพลงโปรด...ได้ที่นี่
หน้า: 1 2 [3] 4
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: แปลเพลงโปรด...ได้ที่นี่  (อ่าน 28140 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
eric
Selling England By The Pound
**
เพศ: ชาย
กระทู้: 197


เละเทะ


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: 12 เมษายน 2011 | 05:51:46 PM »

เพลงนี้ผมชอบมากๆเลยครับ
The Burden is Mine - GREEN CARNATION

I feel the blood under my skin
ผมรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของผม
like so many times before
เหมือนก่อนหน้านั้น ที่เคยเป็นมา
this journey got the best of me
นี่คือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว
and I am sorry I couldn't wait anymore
และผมขอโทษ ที่ผมไม่อาจรอคุณได้แล้ว
The burden is mine... alone
เพราะจุดหมายของผมนั้นคือ.....ความเดียวดาย
I feel the blood under my skin
ผมรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของผม
and I hate every part of me
และผมเกียดอดีตของผมเหลือเกิน
how could I lose the only thing worth keeping
จะไม่ให้เกียดได้อย่างไร ก็เมื่อผมได้สูญเสียสึ่งหนึ่ง ที่ควรจะเก็บรักษาไว้ได้
now I'm sorry I didn't wait for you
ผมขอโทษ ที่ผมไม่อาจรอคุณได้แล้ว
The burden is mine... alone
เพราะจุดหมายของผมนั้นคือ.....ความเดียวดาย
บันทึกการเข้า

My Life in room
panyarak
The Snow Goose
**********
กระทู้: 9716



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: 12 เมษายน 2011 | 06:34:59 PM »

เพลงนี้ผมชอบมากๆเลยครับ
The Burden is Mine - GREEN CARNATION
I feel the blood under my skin
ผมรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของผม
like so many times before
เหมือนก่อนหน้านั้น ที่เคยเป็นมา
this journey got the best of me
นี่คือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว
and I am sorry I couldn't wait anymore
และผมขอโทษ ที่ผมไม่อาจรอคุณได้แล้ว
The burden is mine... alone
เพราะจุดหมายของผมนั้นคือ.....ความเดียวดาย
I feel the blood under my skin
ผมรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของผม
and I hate every part of me
และผมเกียดอดีตของผมเหลือเกิน
how could I lose the only thing worth keeping
จะไม่ให้เกียดได้อย่างไร ก็เมื่อผมได้สูญเสียสึ่งหนึ่ง ที่ควรจะเก็บรักษาไว้ได้
now I'm sorry I didn't wait for you
ผมขอโทษ ที่ผมไม่อาจรอคุณได้แล้ว
The burden is mine... alone
เพราะจุดหมายของผมนั้นคือ.....ความเดียวดาย

ขอเสนอคำแปลที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นในบางท่อนนะครับ

The burden is mine ... alone - ภาระทั้งหมดตกเป็นของผม...เพียงลำพังคนเดียว

and I hate every part of me - และผมเกลียดทุกส่วนในตัวผม
บันทึกการเข้า

eric
Selling England By The Pound
**
เพศ: ชาย
กระทู้: 197


เละเทะ


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: 12 เมษายน 2011 | 10:18:08 PM »

เพลงนี้ผมชอบมากๆเลยครับ
The Burden is Mine - GREEN CARNATION
I feel the blood under my skin
ผมรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของผม
like so many times before
เหมือนก่อนหน้านั้น ที่เคยเป็นมา
this journey got the best of me
นี่คือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว
and I am sorry I couldn't wait anymore
และผมขอโทษ ที่ผมไม่อาจรอคุณได้แล้ว
The burden is mine... alone
เพราะจุดหมายของผมนั้นคือ.....ความเดียวดาย
I feel the blood under my skin
ผมรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ใต้ผิวหนังของผม
and I hate every part of me
และผมเกียดอดีตของผมเหลือเกิน
how could I lose the only thing worth keeping
จะไม่ให้เกียดได้อย่างไร ก็เมื่อผมได้สูญเสียสึ่งหนึ่ง ที่ควรจะเก็บรักษาไว้ได้
now I'm sorry I didn't wait for you
ผมขอโทษ ที่ผมไม่อาจรอคุณได้แล้ว
The burden is mine... alone
เพราะจุดหมายของผมนั้นคือ.....ความเดียวดาย

ขอเสนอคำแปลที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นในบางท่อนนะครับ

The burden is mine ... alone - ภาระทั้งหมดตกเป็นของผม...เพียงลำพังคนเดียว

and I hate every part of me - และผมเกลียดทุกส่วนในตัวผม


ขอบคุณครับพี่ที่ช่วยชี้แนะ
ผมก็ไม่ค่อยเก่งภาษาหรอกครับ
บันทึกการเข้า

My Life in room
喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 13 เมษายน 2011 | 12:57:20 AM »

ดูจากเนื้อเพลง น่าจะหมายถึง God อย่างที่พี่โป่งว่า แต่ถ้าต้องการทราบจากเจ้าตัว พี่โป่งต้องเล่นผีถ้วยแก้วครับ

พอดีผมมี บทสัมภาษณ์ ของ Ronnie James Dio เกี่ยวกับความหมายของเพลงนี้จากแผ่นเรดิโอโชว์รายการที่ชื่อ
ว่า Metalshop (The Only Show With Teeth!) ครับ...

เท่าที่จำได้ RJD บอกว่าไม่ใช่เกี่ยวกับ God แต่เป็นคนนุ่งขาวห่มขาวอาศัยอยู่บนฟากฟ้า เวลาคนขอร้องให้ช่วยเหลือ
ก็จะร้องเรียกหาหรือว่าไหว้วานโดยการพนมมือและตะโกนขี้นไปบนท้องฟ้า

...ซึ่งผมเองพอฟังแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็น พระผู้เป็นเจ้า หรือ God นั่นเอง ทว่า RJD กลับปฎิเสธเสียงแข็งกับพิธีกรว่าไม่ใช่

ผมเลยต้องเดาเอาว่าเป็น คาร์เร็คเตอร์ นุ่งขาวห่มขาว ที่เค้าตั้งขึ้นมาเอง ไม่รู้จะเอาอะไรมาอ้างอิงอีกแล้วครับ นอกจาก
พระอินทร์ !!!

แนวคิดแบบพระเจ้า ผมคิดว่าวัฒนธรรมแถบบ้านเรา ไมีมี คงมีแต่เทพเจ้า่ คือพวกเทวดาทั้งหลาย แล้วภาษาอังกฤษ ศัพท์ว่า พระเจ้า กับ เทพเจ้า ต่างกันป่าวครับ ? ส่วนที่พูดถึงนั้น เค้าพูดถึงเทพเจ้าที่มาจากแนวคิดอื่น ที่ไม่ใช่จากคริสตศาสนาก็ได้ครับ ฯ
บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 13 เมษายน 2011 | 01:41:00 AM »

แล้วพี่ตั้ม พอจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับอัลบั้มนี้บ้างมั๊ยครับ ที่เดวิดเค้าพูดถึง เกี่ยวกับแนวคิด หรือแรงบัลดาลใจ อะไรแบบนี้ครับ ฯ

ดูจากบทสัมภาษณ์ เขาบอกแต่ว่า มันคือการระบายและปลดปล่อยความคับข้องใจทั้งหมดที่มีต่อกระบวนการที่นำไปสู่การหย่าร้างกับ Ingrid มันเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสับสนในอารมณ์มากที่สุดในชีวิตโดยยังมองไม่เห็นแสงไฟที่ปลายอุโมงค์ ส่วนบทเพลงที่ปรากฎออกมาเป็นอัลบั้ม Blemish นั้น เขาถีบตัวเองให้ก้าวไปไกลกว่าอารมณ์เศร้านั้นไปอีกหลายขุม ดังนั้น เนื้อร้องของเพลงใน Blemish จะไม่ใช่เรื่องชีวิตครอบครัวที่กำลังนำไปสู่การหย่าร้าง หากแต่ปัญหาชีวิตครอบครัวในขณะนั้น โดยเฉพาะความเหงาอันเกิดจากการขาดเพื่อนคู่คิด เป็นแรงผลักดันอันสำคัญที่ทำให้เขาผลิตงานที่แสนรันทดออกมา ซึ่งเมื่ออัลบั้มวางตลาด คนทั่วไปยังไม่ทราบถึงปัญหาชีวิตครอบครัวของเขาเท่าใดนัก ซึ่ง Ingrid ก็ได้ฟังผลงานขั้นสุดท้ายเมื่อออกจำหน่ายแล้ว และรู้สึกเจ็บเมื่อได้ฟังเพลงเศร้าๆ เหล่านั้น โดยยอมรับว่า Blemish เป็นผลงานที่ทรงพลังมากที่สุดที่ David Sylvian เคยผลิตมาครับ

สุดท้ายแล้วครับ สำหรับชุด Blemish, A fire in the forest เป็นเพลงแรกๆที่ผมฟังแล้วทำให้ชื่นชอบเดวิด ซิลเวียน แต่ไม่แน่ใจว่าฟังก่อนหรือหลัง Forbidden Colours

A Fire In The Forest

There is always sunshine
Above the grey sky
I will try to find it
Yes, I will try

My mind has been wandering
I hardly noticed
It's running on its own steam
I let it go
Oh here comes my childhood
A penny for your secrets
It's standing in the window
Not out here where it belongs

There's a fire in the forest
It's taking down some trees
When things are overwhelming
I let them be
I would like to see you
It's lovely to see you
Come and take me somewhere
Come take me out

There is always sunshine
Far above the grey sky
I know that I will find it
Yes, I will try

ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ          ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 เมษายน 2011 | 12:41:36 PM โดย B L ? M ? S H » บันทึกการเข้า

panyarak
The Snow Goose
**********
กระทู้: 9716



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #35 เมื่อ: 13 เมษายน 2011 | 10:26:40 AM »

ดูจากเนื้อเพลง น่าจะหมายถึง God อย่างที่พี่โป่งว่า แต่ถ้าต้องการทราบจากเจ้าตัว พี่โป่งต้องเล่นผีถ้วยแก้วครับ

พอดีผมมี บทสัมภาษณ์ ของ Ronnie James Dio เกี่ยวกับความหมายของเพลงนี้จากแผ่นเรดิโอโชว์รายการที่ชื่อ
ว่า Metalshop (The Only Show With Teeth!) ครับ...

เท่าที่จำได้ RJD บอกว่าไม่ใช่เกี่ยวกับ God แต่เป็นคนนุ่งขาวห่มขาวอาศัยอยู่บนฟากฟ้า เวลาคนขอร้องให้ช่วยเหลือ
ก็จะร้องเรียกหาหรือว่าไหว้วานโดยการพนมมือและตะโกนขี้นไปบนท้องฟ้า

...ซึ่งผมเองพอฟังแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็น พระผู้เป็นเจ้า หรือ God นั่นเอง ทว่า RJD กลับปฎิเสธเสียงแข็งกับพิธีกรว่าไม่ใช่

ผมเลยต้องเดาเอาว่าเป็น คาร์เร็คเตอร์ นุ่งขาวห่มขาว ที่เค้าตั้งขึ้นมาเอง ไม่รู้จะเอาอะไรมาอ้างอิงอีกแล้วครับ นอกจาก
พระอินทร์ !!!

แนวคิดแบบพระเจ้า ผมคิดว่าวัฒนธรรมแถบบ้านเรา ไมีมี คงมีแต่เทพเจ้า่ คือพวกเทวดาทั้งหลาย แล้วภาษาอังกฤษ ศัพท์ว่า พระเจ้า กับ เทพเจ้า ต่างกันป่าวครับ ? ส่วนที่พูดถึงนั้น เค้าพูดถึงเทพเจ้าที่มาจากแนวคิดอื่น ที่ไม่ใช่จากคริสตศาสนาก็ได้ครับ ฯ

พระเจ้า = God (G ตัวใหญ่ มีแต่ชาย)
เทพเจ้า = god, goddess (g ตัวเล็ก มีทั้งชายและหญิง)
บันทึกการเข้า

panyarak
The Snow Goose
**********
กระทู้: 9716



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #36 เมื่อ: 13 เมษายน 2011 | 10:36:39 AM »



A Fire In The Forest - ไฟไหม้ในป่า



There is always sunshine - มีแสงแดดอยู่เสมอ
Above the grey sky - เหนือท้องฟ้าสีเทา (ในภาษาอังกฤษ ท้องฟ้าสีเทาคืออุปสรรคขวากหนาม)
I will try to find it - ฉันจะพยายามหามัน
Yes, I will try - แน่นอน ฉันจะพยายาม

My mind has been wandering - ใจของฉันมันท่องเที่ยวไป
I hardly noticed  - ฉันแทบจะไม่รับรู้เลย
It's running on its own steam - มันวิ่งไปตามแรงขับเคลื่อนของมันเอง
I let it go - ฉันปล่อยมันไป
Oh here comes my childhood - โอ นี่มันวัยเด็กของฉันนี่ (น่าจะหมายถึง ใจวิ่งกลับไประลึกถึงวัยเด็ก)
A penny for your secrets - เหรียญรางวัลสำหรับการเก็บความลับ
It's standing in the window - มันวางอยู่ริมหน้าต่าง
Not out here where it belongs - ไม่ใช่ตรงนี้ ซึ่งเป็นที่ของมัน

There's a fire in the forest - มีไฟไหม้อยู่ในป่า
It's taking down some trees - มันเผาผลาญต้นไม้ไปหลายต้น
When things are overwhelming - เมื่อมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย
I let them be - ฉันปล่อยให้มันเกิด
I would like to see you - ฉันอยากพบคุณ
It's lovely to see you - มันดีมากที่ได้พบคุณ
Come and take me somewhere - จงมาพาผมไปที่ใดสักที่
Come take me out - จงมารับผมออกไป

There is always sunshine - มีแสงแดดอยู่เสมอ
Far above the grey sky - เหนือท้องฟ้าสีเทา
I know that I will find it - ฉันรู้ว่าฉันจะหามันให้พบ
Yes, I will try - แน่นอน ฉันจะพยายาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤษภาคม 2011 | 11:12:02 AM โดย panyarak » บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 14 เมษายน 2011 | 12:31:15 PM »

วันนี้ สะดวกป่าวครับ  ยิงฟันยิ้ม ขอ  Brilliant Trees ครับ

When you come to me
I’ll question myself again
Is this grip on life still my own ?
When every step I take
Leads me so far away
Every thought should bring me closer home

And there you stand
Making my life possible
Raise my hands up to heaven
But only you could know

My whole world stands in front of me
By the look in your eyes
By the look in your eyes
My whole life stretches in front of me
Reaching up like a flower
Leading my life back to the soil

Every plan I’ve made ’s
Lost in the scheme of things
Within each lesson lies the price to learn
A reason to believe
Divorces itself from me
Every hope I hold lies in my arms

And there you stand
Making my life possible
Raise my hands up to heaven
But only you could know

My whole world stands in front of me
By the look in your eyes
By the look in your eyes
My whole life stretches in front of me
Reaching up like a flower
Leading my life back to the soil
บันทึกการเข้า

panyarak
The Snow Goose
**********
กระทู้: 9716



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #38 เมื่อ: 14 เมษายน 2011 | 12:58:51 PM »



Brilliant Trees - ต้นไม้พราวแสง

When you come to me - เมื่อคุณมาหาฉัน
I’ll question myself again - ฉันจะถามตัวเองอีกครั้ง
Is this grip on life still my own ? - ว่า การยึดมั่นอยู่กับชีวิตนี้ยังเป็นของฉันอยู่จริงๆ รึเปล่า
When every step I take - ในเมื่อทุกย่างก้าวของฉัน
Leads me so far away - นำพาฉันไปสู่หนทางที่ยิ่งห่างไกลออกไป
Every thought should bring me closer home - ทุกความคิดน่าจะนำพาฉันให้เข้าใกล้บ้านมากขึ้น

And there you stand - และคุณก็ยืนอยู่ที่นั่น
Making my life possible - ทำให้ชีวิตของฉันมีความหวัง
Raise my hands up to heaven - ชูมือของฉันสู่สรวงสวรรค์
But only you could know - แต่คุณเท่านั้นที่จะทราบ

My whole world stands in front of me - โลกทั้งใบวางอยู่ตรงหน้าฉัน
By the look in your eyes - จากแววตาของคุณ
By the look in your eyes - จากแววตาของคุณ
My whole life stretches in front of me - ชีวิตของฉันทั้งหมดแผ่ขยายอยู่ตรงหน้าฉัน
Reaching up like a flower - ชูช่อขึ้นมาดุจดอกไม้
Leading my life back to the soil - นำพาชีวิตของฉันกลับสู่ผืนดิน

Every plan I’ve made ’s - ทุกแผนการที่ฉันวางไว้
Lost in the scheme of things - ถูกกลืนหายไปกับแผนการที่ใหญ่กว่า
Within each lesson lies the price to learn - ทุกบทเรียนมีราคาแพง
A reason to believe - เหตุผลที่ทำให้เชื่อ
Divorces itself from me - ทำให้มันแยกขาดออกจากฉัน
Every hope I hold lies in my arms - ทุกความหวังที่ฉันมี อยู่ในอ้อมกอดของฉัน

And there you stand - และคุณก็ยืนอยู่ที่นั่น
Making my life possible - ทำให้ชีวิตของฉันมีความหวัง
Raise my hands up to heaven - ชูแขนของฉันสู่สรวงสวรรค์
But only you could know - แต่คุณเท่านั้นที่ทราบ

My whole world stands in front of me - โลกทั้งใบวางอยู่ตรงหน้าฉัน
By the look in your eyes - จากแววตาของคุณ
By the look in your eyes - จากแววตาของคุณ
My whole life stretches in front of me - ชีวิตของฉันทั้งหมดแผ่ขยายอยู่ตรงหน้าฉัน
Reaching up like a flower - ชูช่อขึ้นมาดุจดอกไม้
Leading my life back to the soil - นำพาชีวิตของฉันกลับสู่ผืนดิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 เมษายน 2011 | 02:19:30 PM โดย panyarak » บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 14 เมษายน 2011 | 01:20:13 PM »

เด๋ว เอาไปเก็บอีกกระทู้ครับ.........เพลงนี้ สงสัยแต่งตอนชีวิตรักกำลังเบ่งบานแน่เลย ฯ
บันทึกการเข้า

Erwin Rommel
Moving Pictures
***
กระทู้: 500



ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 26 เมษายน 2011 | 11:28:11 PM »

ถ้าคุณ B l e m ? s h ลองแปลเองดู คงได้ความหมายอีกมุมหนึ่งแน่ครับ เหมือนขาวเป็นดำ หยินหยาง ม้าลาย
บันทึกการเข้า
เมตัลลิก้าเมก้าเดธ
Fragile
***
เพศ: ชาย
กระทู้: 347



ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2011 | 01:43:44 PM »

เพลง ONE  วง Metallica ครับ - -ผมแปลออกมางงๆ

I can't remember anything
Can't tell if this is true or dream
Deep down inside I feel the scream
This terrible silence stops it there

Now that the war is through with me
I'm waking up, I cannot see
That there's not much left of me
Nothing is real but pain now

Hold my breath as I wish for death
Oh please god, help me

Back in the womb it's much too real
In pumps life that I must feel
But can't look forward to reveal
Look to the time when I'll live

Fed through the tube that sticks in me
Just like a wartime novelty
Tied to machines that make me be
Cut this life off from me

Hold my breath as I wish for death
Oh please god, wake me

Now the world is gone I'm just one
Oh god, help me

Hold my breath as I wish for death
Oh please god, help me

Darkness imprisoning me
All that I see
Absolute horror
I cannot live
I cannot die
Trapped in myself
Body my holding cell

Landmines has taken my sight
Taken my speech
Taken my hearing
Taken my arms
Taken my legs
Taken my soul
Left me with life in hell
บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2011 | 01:51:37 PM »

เพลง ONE  วง Metallica ครับ - -ผมแปลออกมางงๆ

I can't remember anything
Can't tell if this is true or dream
Deep down inside I feel the scream
This terrible silence stops it there

Now that the war is through with me
I'm waking up, I cannot see
That there's not much left of me
Nothing is real but pain now

Hold my breath as I wish for death
Oh please god, help me

Back in the womb it's much too real
In pumps life that I must feel
But can't look forward to reveal
Look to the time when I'll live

Fed through the tube that sticks in me
Just like a wartime novelty
Tied to machines that make me be
Cut this life off from me

Hold my breath as I wish for death
Oh please god, wake me

Now the world is gone I'm just one
Oh god, help me

Hold my breath as I wish for death
Oh please god, help me

Darkness imprisoning me
All that I see
Absolute horror
I cannot live
I cannot die
Trapped in myself
Body my holding cell

Landmines has taken my sight
Taken my speech
Taken my hearing
Taken my arms
Taken my legs
Taken my soul
Left me with life in hell


เพลงนี้ผมก็ชอบ ถ้าอ่านและแปลแล้วจะพอเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเหล่าทหารที่ผ่านศึกสงครามทั้งหลาย โดยผู้แต่งไม่เจาะจงว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง และมีชิวิตเหมือนรอความตายหรือไม่ก็กลายเป็นคนพิการทั้งทางกายและจิตใจ เขารู้สึกเหมือนสงครามพรากเขาไปจากโลกหรือชีวิตที่เขาเคยมี จึงรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวบนโลก ตอนท้ายร่ำร้องให้ความตายมาเอาชีวิตเขาเพื่อที่จะหลุดพ้นจากชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น
บันทึกการเข้า
เมตัลลิก้าเมก้าเดธ
Fragile
***
เพศ: ชาย
กระทู้: 347



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2011 | 02:09:41 PM »

เพลงนี้ผมก็ชอบ ถ้าอ่านและแปลแล้วจะพอเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเหล่าทหารที่ผ่านศึกสงครามทั้งหลาย โดยผู้แต่งไม่เจาะจงว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง และมีชิวิตเหมือนรอความตายหรือไม่ก็กลายเป็นคนพิการทั้งทางกายและจิตใจ เขารู้สึกเหมือนสงครามพรากเขาไปจากโลกหรือชีวิตที่เขาเคยมี จึงรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวบนโลก ตอนท้ายร่ำร้องให้ความตายมาเอาชีวิตเขาเพื่อที่จะหลุดพ้นจากชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น

ผมก็แปลมาได้ประมาณนั้น ชอบเพลงนี้ที่สุดแล้ว  อยากได้ละเอียดๆหน่อย

สงครามในที่นี้หมายถึงสงคราม เวียดนามรึปล่าวไม่แน่ใจ ที่แน่ผมว่า เมทแต่งเพลงด่า รัฐบาลสมัยนั้นแหงม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2011 | 02:14:11 PM โดย MetallicaMegadeth » บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2011 | 02:23:42 PM »

เพลงนี้ผมก็ชอบ ถ้าอ่านและแปลแล้วจะพอเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเหล่าทหารที่ผ่านศึกสงครามทั้งหลาย โดยผู้แต่งไม่เจาะจงว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง และมีชิวิตเหมือนรอความตายหรือไม่ก็กลายเป็นคนพิการทั้งทางกายและจิตใจ เขารู้สึกเหมือนสงครามพรากเขาไปจากโลกหรือชีวิตที่เขาเคยมี จึงรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวบนโลก ตอนท้ายร่ำร้องให้ความตายมาเอาชีวิตเขาเพื่อที่จะหลุดพ้นจากชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น

ผมก็แปลมาได้ประมาณนั้น ชอบเพลงนี้ที่สุดแล้ว  อยากได้ละเอียดๆหน่อย

สงครามในที่นี้หมายถึงสงคราม เวียดนามรึปล่าวไม่แน่ใจ ที่แน่ผมว่า เมทแต่งเพลงด่า รัฐบาลสมัยนั้นแหงม

ปกติศิลปินเขาไม่ค่อยมาบอกความหมายชัดเจนหรือละเอียดมากหรอกครับ สมัยเพลงนี้ออกมาสงครามเวียดนามจบมานา่นแล้ว เท่าที่จำได้ก็ไม่เห็นมีสงครามอื่นหลังจากนั้นที่สร้างบาดแผลให้ชาวอเมริกันได้ลึกเท่าสงครามเวียดนามที่สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เจมส์คงจะเขียนจากประสบการณ์ของคนรอบข้างที่ผ่านสงครามหรือไม่ก็ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือที่เขาอ่านอะไรแบบนี้ เพราะอย่างที่บอกเรื่องนี้มันฝังอยู่ในใจของชาวอเมริกันทุกคนอยู่แล้ว และอาจเผอิญว่าอัลบั้ม ...And Justice For All เ็ป็นครั้งแรกที่ทางวงต้องการเขียนเพลงที่มีสาระมากขึ้นโดยจะตีแผ่ ระบบการปกครอง การเมือง สงคราม เลยเลือกที่จะแต่งเพลงเกี่ยวกับสงครามเพื่อให้เข้ากับธีมของอัลบั้มด้วย ผมก็มั่วไปเรื่อยนะครับ ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2011 | 02:34:50 PM โดย TRON » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery