รอให้แขนผมหายดีก่อนครับ แล้วผมจะมาเล่าเรื่องห้องฟังเพลงห้องที่4(ห้องฟังเพลงปัจจุบัน)ให้อ่านกัน
ทำไมผมถึงบอกว่าห้องฟังนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการฟังเพลง ถ้าไม่มีห้องฟังที่ดีแล้วจะเล่นชุดซีสเต็มดีแค่ไหนก็ไม่สามารถบรรลุถึงขีดสุดของชุดซีสเต็มนั้นได้
เหมือนกับชุดซีสเต็มเกิดปัญหาว่าฟังจากห้องฟังที่ร้านซึ่งตกแต่งอคูสติกมาอย่างดีให้คุณภาพเสียงที่ดี แต่เวลามาฟังที่บ้านแล้วชุดซีสเต็มนั้นเสียงกลับไม่ดี
ต้องมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเปลี่ยนลำโพงหรือแอมป์ แทนที่จะมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
ในฐานะที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องเครื่องเสียงมาตลอด ผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องที่ว่าห้องฟังมีส่วนสำคัญมาก และอาจสำคัญที่สุดต่อการเล่นเครื่องเสียงเลยก็ว่าได้ แต่ผมเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกครับที่จะต้องมีห้องฟัง การที่คนเราจะมีห้องฟังได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าเขาพอใจและพร้อมหรือมีปัญญาแค่ไหนต่างหาก อย่างในกรณีของคนที่ไม่มีเงินหรือไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนักแต่ชอบฟังเพลงและพอจะมีชุดเครื่องเสียงไว้ฟังกับเขาบ้าง จะให้คน ๆ นั้นต้องตะเกียกตะกายหาเงินหรือเป็นหนี้เป็นสินเพื่อให้บรรลุถึงขีดสุดของการเล่นเครื่องเสียงหรือครับ? ผมคิดว่าคุณอั๋น501ก็คงไม่เห็นด้วยในข้อนี้ใช่ไหมครับ
ผมเชื่อว่านักเล่นเครื่องเสียงทุกคนยอมรับความสำคัญของห้องฟัง แต่หลักการข้อนี้ หลายคนเขาคงปฏิบัติตามไม่ได้หรอกครับ เพราะขีดความสามารถและความจำเป็นของแต่ละคนไม่เท่ากัน แทนที่จะตะเกียกตะกายเพื่อบรรลุถึงซึ่ง "ออดิโอ นิพพานัง" สู้รู้จักประมาณตนและทำอะไรแต่พอดี (ยอมรับข้อเสียข้อด้อยที่อาจมีอยู่บ้าง) ผมว่าน่าจะมีความสุขในการฟังเพลงและเล่นเครื่องเสียงมากกว่านะครับ ใครจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นข้อนี้หรือไม่ก็ตาม แต่ผมยืนยันว่าทุกวันนี้ผมมีความสุขกับชุดเครื่องเสียงเล็ก ๆ ในห้องฟังที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลยมาเป็นเวลาเกือบยี่สิบปีแล้ว คงเป็นเพราะผมไม่ได้ร่ำรวยเหมือนนักเล่นเครื่องเสียงคนอื่นที่เงินไม่ใช่ปัญหา แต่ความสุขของผมเกิดจากการได้ฟังดนตรีที่เราชอบด้วยความประมาณตนมากกว่าครับ
[/quote]
เรื่องของห้องฟังเพลงนั้น ไม่ใช่ว่าทุกๆคนจะมีได้มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างทั้งความพร้อม ความต้องการและเรื่องเงินอันนี้สำคัญที่สุด
มันก็เหมือนกับบางคนที่มีชุดซีสเต็มระดับไฮเอ็นด์ซึ่งตัวเราเองนั้นไม่มีปัญญาจะซื้อมาเล่น เราก็แค่ดูไว้เป็นแนวทางการเล่นเครื่องเสียงเท่านั้น
ที่ผมนำเรื่องราวเกี่ยวกับห้องฟังเพลงของผมมาเล่าสู่กัน ก็เพราะอาจจะมีบางคนสนใจเอาข้อมูลจากประสพการณ์ของผมนำไปใช้ถ้าเขามีโอกาส
ทำห้องฟังเพลง อย่างเช่นคุณDeja Vu กำลังจะทำห้องฟังเพลงก็เอาข้อมูลจากผมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ครับ ผมนั้นเข้าใจดีเรื่องความต้องการ
ความพร้อมของแต่ละคนที่จะมีห้องฟังเพลงซึ่งไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ ผมถึงได้บอกว่าวิถีการฟังเพลงของผมย่อมไม่เหมือนกับคนอื่นๆ
และคนอื่นๆก็ไม่เหมือนผมเช่นกัน อย่างบางท่านชอบที่จะเก็บสะสมแผ่นเสียงหรือซีดีโดยการลงทุนซื้อมากกว่าที่จะลงทุนกับเครื่องเสียง
มันก็ไม่แปลกอะไร ถ้าผมจะสนใจกับเรื่องอคูสติกเสียงมากกว่าการเน้นเก็บสะสมซีดีหรือแผ่นเสียงมันก็เป็นวิถีทางการฟังเพลงของผม สิ่งเหล่านี้
ก็เป็นความสุขของแต่ละคนอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าการที่ผมนำเอาประสพการณ์การทำห้องฟังเพลงมาเล่าให้อ่านกันนั้นมันทำให้คุณปิศาจลายคราม
อ่านแล้วไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วย เมื่อมีเพื่อนๆสมาชิกท่านอื่นอย่างเช่นท่านผีอยากให้ผมเล่าการทำห้องฟังเพลงห้องที่4 แสดงว่า
อย่างน้อยๆก็มีคนสนใจเรื่องห้องฟังเพลงเหมือนกัน เห็นไหมครับมีคุณDeja Vuอีกคนสนใจเรื่องห้องฟังเพลง แล้วแบบนี้ผมจะตอบคำถาม
เกี่ยวกับห้องฟังเพลงได้ไหมครับ
[/quote]
ขอเรียนว่าผมไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจอะไรกับความเห็นของคุณอั๋น501ในเรื่องห้องฟังหรอกครับ เพราะคุณอั๋น501มีแง่มุมและแนวคิดที่น่าสนใจหลายอย่างจากการที่ผมได้ติดตามความเห็นของคุณอั๋น501มาตั้งแต่ต้น เพียงแต่ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าการเล่นเครื่องเสียงนั้นมันมีหลายมิติให้ต้องคิด จริงอยู่ที่นักเล่นเครื่องเสียงต่างยอมรับความสำคัญของห้องฟังด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวผมเอง จึงขอสรุปสั้น ๆ อีกครั้งว่า ใครที่พร้อมด้วยปัจจัยในการทำห้องฟังก็ทำไปเลยเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดที่เขาควรจะได้ แต่ถ้าใครไม่พร้อม การเสาะแสวงหาหรือไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงที่ดีที่สุดโดยต้องแลกกับความลำบากยากเข็ญของตน เช่น การเป็นหนี้เป็นสิน การเบียดเบียนเนื้อที่ใช้สอยของคนอื่นในบ้าน ฯลฯ ผมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรสนับสนุน และควรจะเล่นกันอย่างพอเพียงโดยยอมแลกกับคุณภาพเสียงที่ลดลง แล้วคนผู้นั้นจะเล่นเครื่องเสียงด้วยความสุขครับ