ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149733 กระทู้ ใน 4436 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

21 พฤษภาคม 2024 | 08:59:02 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgAny Colour You Likeขอเชิญชวนชาว thaiprog ไปบริจาคโลหิตกัน
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอเชิญชวนชาว thaiprog ไปบริจาคโลหิตกัน  (อ่าน 41502 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #45 เมื่อ: 16 กันยายน 2008 | 05:15:38 PM »

ขอชื่นชมด้วยคนครับ

เอ..
ทราบว่าครั้งที่50 จะได้"อะไร"พิเศษๆ
สิ่งนั้นคืออะไรครับ ยิ้ม
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 16 กันยายน 2008 | 05:22:31 PM »

ขอชื่นชมด้วยคนครับ

เอ..
ทราบว่าครั้งที่50 จะได้"อะไร"พิเศษๆ
สิ่งนั้นคืออะไรครับ ยิ้ม
ปกติก็มีของที่ระลึก เข็ม ใบประกาศ หมวก กระปุกออมสิน ฯลฯ แต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรนอกจาก ภูมิใจ สุขใจ ที่ได้คืนอะไรให้เพื่อนร่วมทุกข์สุขบ้างครับ

เคยได้เข้าเฝ้าหม่อมโสมฯครับ เพื่อรับการประทานเกียรติพร้อมเข็ม เมื่อครั้งที่ 38 กระมังครับ ครั้งต่อไป ครั้งที่ 105 เลย ไม่รู้จะอยู่ถึงรึเปล่าครับ แต่ก็ตั้งใจอยู่นะครับ  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 19 มกราคม 2009 | 04:57:35 PM »

ไปบริจาคโลหิตครั้งที่ 51 มาหลายวันแล้วครับ ต้นปีนี้ดีใจที่ได้ยินว่ามีเพื่อนที่รู้จักไปร่วมบริจาคกันมาอีก 2 คน และก็น้องชายไปบริจาคตอนที่ญาติผู้ใหญ่ป่วยอีก 1 คน ญาติผมต้องรับเลือดไปหลายถุง รู้สึกถึงความจำเป็นและสำคัญอย่างมากเลย

ช่วยกันไปบริจาคนะครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

Nosferatu ZoDD
Three of a Perfect Pair
******
กระทู้: 1654



ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2009 | 08:23:12 AM »

แม้ว่าการบริจาคเลือดจะทำให้ผู้บริจาครู้สึกติ อิ่มเอมใจที่ได้ทำกุศล เพราะได้แบ่งปันและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกๆ คนสามารถไปบริจาคเลือดได้ เพราะว่าการบริจาคเลือดนั้นคุณต้องเสียเลือดในร่างกายจำนวนไม่น้อย ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพของคุณเองหลังบริจาคได้เหมือนกัน หรือในทางตรงกันข้ามหากว่าเลือดของคุณไม่สมบูรณ์และอาจมีเชื้อโรคก็อาจทำให้ผู้ที่ได้รับเลือดของคุณติดเชื้อที่อยู่ในเลือดของคุณตามไปด้วย แต่เมื่อมีความตั้งใจจะบริจาคแล้ว มีคำถาม 20 ข้อ ที่คุณต้องตอบตัวเองก่อนว่าสภาพร่างกายของคุณพร้อมแล้ว หรือเลือดของคุณพร้อมที่จะมอบเพื่อต่อชีวิตผู้อื่นได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ดังนี้

1. สุขภาพสมบูรณ์พร้อมที่จะบริจาคเลือด อายุระหว่าง 17-60 ปี

2. นอนหลับเพียงพอไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

3. มีอาการท้องเสีย ท้องร่วงภายใน 7 วันก่อนบริจาคเลือดหรือไม่ เพราะผู้บริจาคจะอ่อนแอรับประทานไป ส่วนผู้รับเลือดอาจได้รับเชื้อที่มากับเลือดได้ด้วย
4. ใน 3 เดือนที่ผ่านมา มีอาการน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคเบาหวาน ธัยรอยด์เป็นพิษ เครียด วิตกกังวล ก็ไม่ควรบริจาคเลือด

5. ภายใน 3 วันก่อนบริจาคเลือด คุณรับประทานยาแอสไพริน ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้ปวดข้อหรือไม่ เพราะอาจทำให้มีเกล็ดเลือดผิดปกติได้ เลือดแข็งตัวช้า บวมช้ำง่าย เลือดที่บริจาคไปก็จะไม่มีคุณภาพ

6. รับประทานยากแก้อักเสบภายใน 14 วัน หรือยาอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งต้องระบุ ให้ทราบ เพราะผู้บริจาคเลือดที่ได้รับยาแก้อักเสบแสดงว่ามีการติดเชื้ออยู่ ซึ่งอาจแพร่เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดของผู้รับเลือดและอาจทำให้แพ้ยาได้

7. คุณเป็นโรคหอบหืด ลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง ไอเรื้อรัง วัณโรค โรคภูมิแพ้ หรือไม่เพราะการบริจาคเลือดทำให้ต้องสูญเสียเลือดอย่างรวดเร็ว อาจจะกระตุ้นให้มีการกำเริบได้ จึงไม่ควรบริจาคเลือด โรคผิวหนังบางชนิด โรคติดต่ออย่างวัณโรค ไอเรื้อรังก็ไม่ควรบริจาคเลือด

8. เคยเป็นหรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคตับอักเสบ ผู้ที่เคยเป็นโรคตับอักเสบแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชนิดใด หรือไม่แน่ใจว่าหายขาดไม่มีเชื้อแล้วหรือไม่ ก็ควรเลื่อนการบริจาคเลือดออกไปจนกว่าจะทราบว่าเลือดของคุณปลอดเชื้อแล้ว

9. เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ไต ธัยรอยด์ มะเร็ง โรคโลหิตออกง่ายหยุดยาก เป็นต้น เพราะโรคเหล่านี้ล้วนมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งต้องใช้ยารักษาควบคุมรักษาอย่างต่อเนื่อง และถ้าไม่ดูแลตนเองให้ดี อาจมีผลข้างเคียงของยาหรือมีโรคแทรกซ้อนที่ทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ ควรพิจารณาดังนี้

- โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานอนุโลมให้บริจาคเลือดได้ ถ้าใช้ยาควบคุมได้ดีอย่างอย่างต่อเนื่องและต้องเป็นเพียงโรคใดโรคหนึ่งเท่านั้น
- โรคหัวใจทุกชนิดต้องงดบริจาคเลือด
- โรคไตชนิดเรื้อรังต้องงดบริจาคเลือด ถ้าเป็นชนิดอักเสบเฉียบพลัน และรักษาหายขาดภายใน 1 ปี สามารถบริจาคเลือดได้
- โรคธัยรอยด์ชนิดไม่เป็นพิษต้องรักษาหายแล้ว ถ้าเป็นชนิดเป็นพิษแม้รักษาหาย และหยุดยาแล้วก็ไม่ควรบริจาคเลือด
- โรคมะเร็งทุกชนิดไม่ควรบริจาคเลือด รักษาหายแล้วก็ตาม เพราะไม่สามารถทราบสาเหตุและตำแหน่งการกระจานหรือแฝงตัวของโรค
- โรคโลหิตออกง่าย-หยุดยาก เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ ควรงดบริจาคเลือด เพราะมีโอกาสเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมากและเลือดหยุดยาก
- โรคเรื้อรังอื่นๆ ควรงดบริจาคเลือด

10. ถอนฟันภายใน 3 วันที่ผ่านมา เหงือกอาจจะอักเสบและมีบาดแผลในช่องปาก เป็นทางนำเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้

11. คุณหรือคู่ของคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับผู้อื่น ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์สูง โรคบางชนิดมีระยะฟักตัวนาน อาจตรวจไม่พบเชื้อ เช่น HIV

12. ได้รับการผ่าตัดใหญ่ภายใน 6 เดือนหรือผ่าตัดเล็กภายใน 1 เดือน เนื่องจากการผ่าตัดใหญ่ทำให้มีการเสียเลือดมาก ร่างกายต้องใช้เวลาและสารอาหารในการซ่อมแซม ควรงดบริจาคชั่วคราว ส่วนผ่าตัดเล็กที่เสียเลือดไม่มาก ควรรอให้แผลหายก่อนค่อยบริจาคเลือด

13. เจาะหู สัก ลบรอยสัก ฝังเข็ม ในระยะ 1 ปี มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อโรคติดเชื้อที่มีการส่งต่อทางเลือดและน้ำเหลือง ซึ่งผู้ที่ได้รับเลือดอาจติดไปด้วย

14. เคยมีประวัติยาเสพติดหรือพ้นโทษในระยะ 3 ปี มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อโรคที่มีการส่งต่อทางเลือดและน้ำเหลือง

15. เคยเจ็บป่วยและได้รับเลือดจากผู้อื่นในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับเลือดคนอื่นจะมีการสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาในระบบโลหิต ถึงแม้จะมีการตรวจหากลุ่มเลือดหลักที่เข้ากันได้ แต่กลุ่มย่อยที่ไม่สามารถหาได้ตรงกันหมด ก็ยังคงเป็นปัญหาของผู้ได้รับเลือด

16. เคยฉีดวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือฉีดเซรุ่มในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา การฉีดวัคซีนเป็นการกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันโรคในช่วง 14 วัน จึงควรให้ร่างกายได้ทำงานเต็มที่ การฉีดเซรุ่มต้องติดตามดูโรคนั้นๆ 1 ปี

17. เคยเข้าไปในพื้นที่ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุมในระยะ 1 ปี หรือป่วยเป็นมาเลเรียในระยะ 3 ปี ถ้าไม่ได้รักษาให้หายขาด เชื้อสามารถแอบแฝงอยู่ในร่างกายโดยไม่ได้แสดงอาการรุนแรง

18. คุณผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างรอบเดือน ไม่ควรให้ร่างกายมีการเสียเลือดซ้ำซ้อน ควรรอให้หมดประจำเดือนก่อน

19. คนที่คลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา จะมีการเสียเลือดมาก ร่างกายต้องการเวลาในการปรับตัวและสร้างเลือดขึ้นมาใหม่ ควรงดบริจาค 6 เดือน

20. อยู่ในระหว่างให้นมบุตรหรือตั้งครรภ์ น้ำนมผลิตขึ้นมาจากเลือด การเสียเลือดในการบริจาคจะทำให้น้ำนมลดน้อยลงหรือหมดไป

ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2009 | 06:54:42 PM »

ลอกมาให้อ่านครับ เป็นประโยชน์ดี  ยิ้ม






เลือด 1 ถุง 350 - 400 ซีซี ของคุณสามารถช่วยใครได้บ้าง?


เลือดที่ได้รับบริจาค 1 ถุง (300-450 มล.) สามารถนำไปปั่นแยก ...ด้วยเครื่องปั่นชนิดพิเศษ ...ซึ่งจะได้ส่วนประกอบต่าง ๆ ตามต้องการ 2-4 ชนิด ได้แก่

**เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (Packed Red Cells)

**เลือดที่มีเม็ดเลือดขาวน้อย (Leukocyte Poor Blood)

**เกร็ดเลือดเข้มข้น (Platelet Concentrate)

**พลาสมา-สดแแช่แข็ง (Fresh Frozen Plasma)

**ไครโอปริซิปิเตท (Cryoprecipitate)

**พลาสมา (Plasma) – ส่วนน้ำที่เหลือ...จากการแยกเม็ดเลือดแดงเข้มข้น... ออกจากเลือด ....มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ ....โปรตืนและน้ำ...


ดังนั้น... การปั่นแยกเลือด 1 ถุง ....จึงเป็นการใช้เลือดอย่างคุ้มค่า ....เพื่อให้ผู้ป่วยแต่ละโรค ที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน.... (คุณสามารถช่วยชีวิต/ยืดชีวิตคน ได้อีกหลายคน) ......อีกทั้งยังช่วยลดปัญหา...การขาดแคลนเลือด .....ทั้งยังทำให้ผู้ป่วย.....ได้เฉพาะส่วนที่ตนเองต้องการเท่านั้น ....เพราะถ้าได้ส่วนอื่น ....ก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด



บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2009 | 06:55:02 PM »



การให้เลือดและส่วนประกอบชนิดต่าง ๆ ของเลือด แก่ผู้ป่วย


*เลือด*

ใช้สำหรับผู้ป่วยที่เสียเลือดมาก จนเกิดภาวะช็อคและอาจเสียชีวิตได้ มีสาเหตุมาจาก

-การผ่าตัดใหญ่ อุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน หรือ ในโรงงานอุตสาหกรรม

-โดนยิง โดนแทงด้วยของมีคม การตกเลือด การแท้ง

-โรคตับแข็ง มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร โรคไข้เลือดออก โรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ


*เม็ดเลือดแดงเข้มข้น*

ผู้ป่วยมีการเสียเลือดอย่างเรื้อรัง และร่างกายสร้างไม่ได้

-โรคโลหิตจาง (Aplastic Anemia), โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia), โรคธาลัสซีเมีย

-โรคไตวายเรื้อรัง โรคตับแข็ง และโรคมะเร็ง

-เลือดออกในกระเพาะอาหาร / ลำไส้ ฯลฯ


*เกร็ดเลือดเข้มข้น

การที่จำนวนเกร็ดเลือดต่ำกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะเลือดออกไม่หยุดที่อวัยวะต่าง ๆ ได้แก่

-โรคโลหิตจาง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

-โรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง

(อาเจียนและถ่ายเป็นเลือด ถ้าได้รับเกร็ดเลือดทดแทนไม่ทัน ...อาจเสียชีวิตได้)

-การผ่าตัดหัวใจ และ ผู้ป่วยที่เกร็ดเลือดไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อาจเป็นโดยกำเนิด ฯลฯ


*พลาสมา-สดแช่แข็ง

-โรคฮีโมฟีเลียทุกชนิด, โรคไข้เลือดออก, โรคตับแข็ง

-มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร, การผ่าตัดหัวใจ / ตับ ฯลฯ


*ไครโอปริซิปิเตท

-โรคฮีโมฟีเลีย เอ, การตกเลือดภายหลังคลอด, การผ่าตัดหัวใจ


*พลาสมา


สำหรับผู้ป่วยบางโรค ที่มีการสูญเสียน้ำอย่างมากจนเกิดภาวะช็อค

-แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, ไข้เลือดออก, โรคไต โรคตับ (ที่มีอาการบวมมาก)



***ภาวะที่ร่างกายมีเลือดน้อย***

อาการที่เกิดขึ้นก็คือ


*หน้ามืด

*หายใจไม่ค่อยออก

*สมองชา มึน (คิดอะไรไม่ค่อยออก)

*ตัวเย็นเฉียบ (หนาวมากด้วย)

*ตาพร่ามัว

*เหงื่อออกท่วมตัว (จริง ๆ )

*ปวดหัวมาก (เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ )

*ลำไส้บิดมวน บีบจนเจ็บ-- จำเป็นต้องอาเจียน (แม้จะมีแต่น้ำ และสุดท้าย คือน้ำลาย)


นี่คืออาการ...ที่เกิดขึ้น ของผู้ป่วยที่รอรับบริจาคเลือดครับ
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2009 | 06:58:22 PM »

 




เกี่ยว กับการบริจาคโลหิต มีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่เข้าใจถูกต้องว่า ความจริงเป็นการบริจาคโลหิตเพียงส่วนหนึ่งของจำนวนเลือดสำรองที่ร่างกายมี สำรองไว้เท่านั้น ไม่ใช่บริจาคส่วนที่ร่าง กายจำเป็นต้องใช้อยู่ ปัญหาที่ผู้อยู่ในวงการธนาคารเลือดได้ยินได้ฟังเป็นประจำ และควรให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการบริจาคโลหิตเพื่อความเข้าใจถูกต้องของ ประชาชน ได้แก่



    ๑. ทำไมเราจึงต้องบริจาคเลือด?

การให้เลือดเพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป เป็นหนทางเดียวที่จะแก้ไขภาวะช็อค (shock) เนื่องจากการเสียเลือด ในสถานที่ที่ไม่มีเลือดเพียงพอความต้องการ เนื่องจากไม่มีโรงงานสร้างเลือด เลือดจึงต้องได้มาจากการบริจาค โดยศรัทธาจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น

    ๒. การบริจาคเลือดมีอันตรายเกิดขึ้นได้หรือไม่?

ผู้ที่เคยบริจาคเลือด ย่อมสามารถยืนยันได้ว่าการบริจาคเลือดนั้นไม่มีอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งนี้เนื่องจากการบริจาคเลือดครั้งหนึ่ง ๆ นั้น ผู้ บริจาคเลือด จะเสียสละเลือดส่วนสำรองเพียงบางส่วนเท่านั้น ตามปกติร่างกายมีเลือดสำรองเก็บไว้ประมาร 4 ส่วนของเลือดที่มีอยู่ในร่างกายทั้งหมด 12 ส่วน แต่ในการบริจาคเลือดครั้งหนึ่งนั้น ผู้บริจาคได้บริจาคได้เพียง 1 ส่วนของจำนวนเลือดที่มีสำรองไว้เท่านั้น

    ๓. ท่านจะต้องมีคุณสมบัติเช่นไรบ้าง?

จึงจะสามารถบริจาคเลือดได้ผู้ใดก็ตามที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปีบริบูรณ์ มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี เมื่อผ่านการตรวจสุขภาพที่จำเป็นก่อนการบริจาคเลือด เช่น วัดอุณหภูมิของร่างกาย ชีพจร ความดันโลหิต ความเข้มข้นของเลือด ก็สามารถบริจาคเลือดได้ แต่เลือดของท่านอาจมีอันตรายต่อผู้ป่วยได้ หากท่านเป็นหรือเคยเป็นโรคตับอักเสบ หรือ ดีซ่าน โรคมาเลเรีย และ โรคซิฟิลิส

    ๔. การบริจาคเลือดครั้งหนึ่ง ๆ นั้น ใช้เวลานานเท่าใด?

เวลาที่ใช้จริง ๆ ในการบริจาคเลือดนั้นประมาณไม่เกิน 10 นาที แต่ถ้ารวมเวลาที่เสียไปในการลงทะเบียน ตรวจร่างกายนั่งพักผ่อน ดื่มเครื่องดื่มภายหลังบริจาคเลือดด้วยแล้ว จะใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณไม่เกิน 45 นาที

    ๕. หมู่เลือดของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่?

หมู่เลือดเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวซึ่งได้รับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์มาจาก บรรพบุรุษ ดังนั้นจึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้แต่ในบางโอกาสซึ่งพบได้น้อยมาก อาจมีการรายงานหมู่เลือดผู้บริจาคเลือดผิดพลาดไปได้ เนื่องจากการตรวจผิดหรือลงผลผิด

    ๖. หมู่เลือดมีความสำคัญในการให้เลือดหรือไม่?


เกี่ยวกับการให้เลือด หมู่เลือดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูเลือดระบบเอบีโอ มีความสำคัญมาก ต้องเลือดหมู่เลือดเอบีโอชนิดเดียวกัน (บางที หมู่เลือดอาร์เอ็ชด้วย) ที่ตรวจแล้ว พบว่าเข้ากันได้ ก่อนที่จะให้เลือดทุกครั้งบางคราวแม้จะมีเลือดเอบิโอชนิดเดียวกับผู้ป่วย ก็ยังอาจเสียชีวิตจากการให้เลือดได้ เนื่องจากเข้าไม่ได้ในหมู่เลือดระบบอื่น ๆ ซึ่งมีความสำคัญทางคลี

    ๗. หมู่เลือดที่มีความสำคัญที่สุด มีอะไรบ้าง?

หมู่เลือดที่มีความสำคัญที่สุด ได้แก่ หมู่โอ พบได้ประมาณร้อยละ 38 ของประชากรไทย หมู่เอ พบได้ประมาณร้อยละ 20 ของประชากรไทย หมู่บี พบได้ประมาณร้อยละ 35 ของประชากรไทย หมู่เอบี พบได้ประมาณร้อยละ 7 ของประชากรไทย หมู่เลือดเอบีโอแต่ละชนิด จะพบว่าประมาณ 1 ถึง 3 คน ใน 1,000 คน เป็นหมู่เลือดอาร์เอ็ชลบ

    ๘. เลือดสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานเท่าใด?

เลือดภายในร่างกาย เม็ดเลือดแดงเม็ดหนึ่ง ๆ มีอายุอยู่ในกระแสโลหิตได้ประมาณ 120 วัน
 
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2009 | 09:38:10 AM »

ไปบริจาคโลหิตครั้งที่ 53 มา ได้ขอให้กุศลกรรมครั้งนี้ส่งถึงพี่จู ( J.U.) ด้วยครับ ขอให้สุขภาพดีขึ้นๆนะครับพี่  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #53 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2009 | 01:39:29 PM »

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เสียสละด้วยครับ

หากไม่มีพวกท่าน
ผมอาจต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักของผมไปก็ได้

ก็หลายปีแล้วหละ ที่แฟนผมเขาเป็นไข้เลือดออก
แต่กว่าจะทราบว่า นั้นคือการเป็นครั้งที่สอง
หลังจากที่เคยเป็นมาแล้วตอนเด็กเล็กๆ

ค่ำคืนแห่งวิกฤติ
เกร็ดเลือดของคนไข้ ตกลงไปเกินระดับที่ร่างกายจะทนรับไว้
หากไม่ได้เกร็ดเลือด ๗ ถุงนั้น
ป่านนี้จะเป็นเช่นไร ก็ไม่รู้

และอีกอย่างที่เธออาจจะโชคดีกว่าคนอื่นๆ นิดนึง
เพราะกรุ๊ปเลือด AB ของเธอนั่นเอง

ดังนั้น ผมจะสามารถขอบคุณเจ้าของเลือด ทุกคน ทุกกรุ๊ปเลือด ได้อย่างเต็มปากจริงๆ
= ขอบคุณมากครับ =

แล้วแต่ละท่าน มีกรุ๊ปเลือดอะไรกันบ้างครับ
เพราะ สิ่งนี้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความจำเป็น ที่ท่านอาจจะต้องสนใจ เมื่อเกิดความจำเป็น ในอนาคตก็เป็นได้นะครับ
กรุ๊ปเลือดผม B ครับ
บันทึกการเข้า

Nosferatu ZoDD
Three of a Perfect Pair
******
กระทู้: 1654



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2009 | 02:39:16 PM »

กรุ๊ปเลือดผม B ครับ

+1
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2009 | 03:07:28 PM »

O  for everyone.  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2009 | 01:24:10 PM »

ไปบริจาคโลหิตครั้งที่ 54 มาครับ ไปเช้าวันธรรมดา คนไม่ค่อยมากเลยครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2009 | 03:17:46 PM »

มีข่าวว่ากำลังต้องการโลหิต Group A ด่วนครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 11 มกราคม 2010 | 10:35:06 AM »

ไปบริจาคโลหิตครั้งที่ 55 มาครับ ขออุทิศผลบุญในครั้งนี้ส่วนหนึ่งให้พี่จูด้วยครับ
บันทึกการเข้า

JKNoremorse
Voyage Of The Acolyte
*********
เพศ: ชาย
กระทู้: 4654


8 years later, woke up with two kids

jknoremorse@hotmail.com
ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 12 มกราคม 2010 | 04:22:16 PM »

ไปบริจาคโลหิตครั้งที่ 55 มาครับ ขออุทิศผลบุญในครั้งนี้ส่วนหนึ่งให้พี่จูด้วยครับ

ปกติไปบริจาคที่ไหนครับ ผมอยากไปบริจาคบ้างอีกครั้งครับ (ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery