ศิลปิน: Premiata Forneria Marconi (PFM)
ชื่ออัลบั้ม: Storia Di Un Minuto
รูปแบบสื่อ: แผ่นเสียง (LP)
หมายเลขแผ่น: K28P-734 Crime European Rock Collection Series, Made in Japan
ปีที่แรกออก/ปีที่ย้อนออก: 1972/1988
ระดับการให้คะแนนส่วนตัว: ****
Premiata Forneria Marconi หรือที่เรียกโดยย่อว่า PFM (มีความหมายแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Award Winning Marconi Bakery") ถือเป็นหนึ่งในสามของสุดยอดวงโพรเกรสสีฟว์ร็อคอิตาลี (อีกสองวงคือ Le Orme และ Banco Del Mutuo Soccorso) เดิม PFM เป็นวงดนตรีแนวบีท/ไซคีเดลิกที่มีชื่อว่า Quelli ซึ่งเล่นคัฟเวอร์เพลงของศิลปินอื่นและเป็นนักดนตรีประจำห้องบันทึกเสียง ต่อมาประมาณปลายปี 1970 Franz Di Cioccio (กลอง), Franco Mussida (กีตาร์), Giorgio Piazza (เบสส์) และ Flavio Premoli (คีย์บอร์ด) ได้ร่วมกันก่อตั้ง PFM โดยเรียกตามชื่อร้านค้าที่อยู่ชั้นบนเหนือสถานที่ซึ่งพวกเขากำลังฝึกซ้อมดนตรีกันอยู่ ต่อมา Mauro Pagani (ไวโอลิน, ฟลุท) ก็เข้ามาสมทบเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่งซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในระยะแรก PFM เล่นดนตรีเป็นวงสนับสนุนให้แก่วงอังกฤษ เช่น Yes, Deep Purple โดยเล่นคัฟเวอร์เพลงของ King Crimson และ Jethro Tull และใช้เวลาพัฒนาฝีไม้ลายมือในการเล่นดนตรีอยู่ราว 2 ปี จนกระทั่งปี 1972 จึงได้มีโอกาสออกผลงานชุดแรกที่ถือเป็นผลงานยอดเยี่ยมและสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกโพรเกรสสีฟว์ร็อคอิตาลี นั่นคือ Storia Di Un Minuto โดยในผลงานชุดแรกนี้ สมาชิกวงแต่ละคนได้ประสานทักษะการเล่นดนตรีอันเยี่ยมยอดเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์และเสียงร้องนำของ Franco Mussida คีย์บอร์ดสารพัดชนิด (ออร์แกน เมลโลทรอน moog เปียโน และฮาร์พซิคอร์ด) โดย Flavio Premoli ซึ่งผสานกลมกลืนเข้ากับสำเนียงและลีลาการเล่นฟลุทและไวโอลินของ Mauro Pagani ผนวกเข้ากับริธึ่มเซ็คชั่นอันแม่นยำของมือกลอง Franz Di Cioccio และมือเบสส์ Giorgio Piazza ผลลัพธ์ที่ได้คือสำเนียงดนตรีอันสุนทรีย์ ซับซ้อน และอุดมไปด้วยทักษะและศิลปะชั้นสูง และดูเหมือนแนวดนตรีของ PFM ในผลงานชุดแรกนี้จะได้รับอิทธิพลบางส่วนจาก Genesis และ King Crimson ยุค Greg Lake แต่กระนั้น ดนตรีของ PFM ก็ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของความเป็นอิตาลีอยู่ดี
เปิดอัลบั้มร่องแรกด้วยเพลงอินโทรสั้น ๆ ซึ่งมีเสียงอะคูสติกกีตาร์ เสียงร้องฮัมคลอเบา ๆ อย่างร่าเริงและสดใส และเสียง mellotron ราวกับจะนำผู้ฟังเข้าสู่โลกอันบรรเจิดของ symphonic progressive แล้วจู่ ๆ เสียงแซ็กโซโฟนก็แผดดังขึ้นพร้อม ๆ กับกลองในสไตล์ของ Michael Giles (King Crimson) ในลักษณะขัดกัน นำเราเข้าสู่เพลง Impressioni Di Septembre ซึ่งถือเป็นเพลงที่แสนรักเพลงหนึ่งของ PFM (และของผู้เขียน) ซึ่งจะว่าไปแล้ว เพลงนี้อาจสำคัญเทียบเท่ากับเพลง The Musical Box ของ Genesis และ And You And I ของ Yes เลยก็ว่าได้ -- ต้องลองฟังดู -- ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียงร้องที่ได้อารมณ์โรแมนติก (ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าละม้ายคล้ายคลึงกับเสียงของ Justin Hayward ของ The Moody Blues เอามาก ๆ) ไม่ว่าจะเป็นจังหวะจะโคนที่สลับสับเปลี่ยนไปมาระหว่างความอ่อนโยนของ acoustic ballad กับความดุเดือดของริธึ่มเซ็คชั่นและความกราดเกรี้ยวโหยหวนของเสียง moog ปิดท้ายด้วยความสงบเยือกเย็น สดชื่นและสวยงาม เพลงถัดไปคือ E Festa ซึ่งให้ท่วงทำนองและจังหวะจะโคนที่คึกคัก สนุกสนาน รื่นเริง และเร้าใจตามความหมายของไทเทิลเพลง ซึ่งแปลว่า celebration แล้วบรรยากาศก็สงบลงอีกครั้งด้วยเพลงสุดท้ายของแผ่นเสียงหน้าแรก คือ Dove... Quando... Part 1 ซึ่งให้บรรยากาศซาบซึ้งและหม่นเศร้า เมโลดี้ไพเราะและสวยงาม
พลิกแผ่นไปหน้าสองเพื่อเล่นกันต่อด้วย Dove... Quando... Part 2 ซึ่งเป็นท่อนบรรเลงล้วน ๆ โชว์ทักษะการเล่นดนตรีทุกชิ้นโดยมีองค์ประกอบของความเป็นแจ๊สส์ร็อคและคลาสสิคอลที่กลมกลืน เพลงต่อมาคือ La Carozza Di Hans ซึ่งเริ่มต้นอย่างหนักหน่วงและค่อย ๆ แผ่วลงด้วยสำเนียงดนตรีอะคูสติกและเสียงร้องประสาน และเพลงปิดท้าย Grazie Davvero ซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยจะเข้ากับเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มนี้เท่าใดนัก เพราะเป็นการทดลองเล่นกับเครื่องลมทองเหลือง (brass) และเป็นเพลงเดียวที่ผู้เขียนไม่ค่อยจะปลื้มนัก แต่ก็พอทนฟังไปจนจบได้
หากจะนับ In the Court of the Crimson King เป็นผลงานเริ่มต้นที่กรุยทางให้ King Crimson ก้าวไปสู่ความสำเร็จและชื่อเสียงในโลกดนตรีร็อค Storia Di Un Minuto ของ PFM ก็เช่นเดียวกัน และในปีเดียวกัน (1972) ความสำเร็จของ PFM ก็ได้ถูกตอกย้ำให้หนักแน่นยิ่งขึ้นอีกครั้งด้วยผลงานชุด Per Un Amico
หลายคนอาจมองว่า Storia Di Un Minuto เป็นผลงานชุดแรกที่เป็นมาสเตอร์พีซของ PFM แต่ผู้เขียนให้เรตติ้งส่วนตัวสี่ดาว (****) สำหรับผลงานชุดนี้ โดยหักคะแนนเนื่องจากอัลบั้มสั้นไปหน่อย เพลงสุดท้าย Grazie Davvero ที่ดูไม่ค่อยกลมกลืนกับเพลงอื่น ๆ และการผลิตและคุณภาพเสียงซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยจะ "แน่น" เมื่อเทียบกับ Per Un Amico ซึ่งมีภาษีในด้านนี้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมเบ็ดเสร็จก็หนึ่งคะแนนครับ