ต่อไป »

[ปีศาจลายคราม]

เพื่อเป็นบรรณาการแด่ชาว Thai Prog และแฟนรายการ Top Teen Talent ของคุณวิฑูร วทัญญูในอดีต จึงขอนำบทสัมภาษณ์คุณวิฑูร วทัญญู เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย. 2553 ที่ร้าน "อร่อยแน่นอน" มาให้อ่านกัน ณ บัดนี้

ค่ำคืนของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 ถือว่ามีเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในชีวิตของผม ด้วยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า ในชีวิตนี้จะมีโอกาสได้พบบุคคลสำคัญท่านหนึ่งซึ่งเคยมีบทบาทโดดเด่นในวงการสื่อวิทยุกระจายเสียงและดนตรีแนวฮาร์ดร็อคใต้ฟากฟ้าเมืองไทย โดยมีชื่อเรียกติดปากและเป็นที่จดจำของแฟนเพลงฮาร์ดร็อคและโพรเกรสสีฟว์ร็อคในยุคที่เพลงสากลกำลังระบาดอยู่ตามหน้าปัดคลื่นวิทยุต่าง ๆ ทั้งเอเอ็มและเอฟเอ็ม และบุคคลท่านนี้เป็นนักจัดรายการที่มีแนวทางและเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเสียง ลีลาการพูดจา การตั้งฉายาให้กับวงดนตรีและศิลปินต่าง ๆ เช่น ยูรายฮีพ ผู้ฮึกเหิม, แคนซัส ผู้คึกคะนอง เป็นต้น และยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันวงดนตรีร็อคของไทยบางวงให้มีโอกาสได้ออกผลงานของตนเองอีกด้วย เช่น วง The Fox (ผลงานชุด นางแมวผี), วงเนื้อกับหนัง หรือ Flesh & Skin เป็นต้น ซึ่งนักจัดรายการท่านนี้จะเป็นใครอื่นไปเสียมิได้นอกจาก "คุณวิฑูร วทัญญู" เจ้าของรายการ "Top Teen Talent" อันโด่งดังประจำคลื่น 99.0 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งเคยออกอากาศอยู่ประมาณช่วงปี 2520 กว่า ๆ จนถึงก่อนปี 2530 นอกจากนี้คุณวิฑูร วทัญญูยังจัดรายการ "คึกคักยามบ่าย", "คึกคักยามดึก", "Oldies But Goodies"  และ "เพลงไทยชาตินิยม" ตามสถานีวิทยุช่องอื่น เช่น คลื่นทหารอากาศ 2 ทุ่งมหาเมฆ, คลื่นสทร. บางนา ฯลฯ อีกด้วย

พี่วิฑูรได้มาปรากฎตัวเมื่อเวลาประมาณหลังสี่ทุ่มครึ่งไปแล้ว ในขณะที่พวกเรา สมาชิกชาว Thai Prog อันได้แก่ คุณ Pong-Wanchai, คุณอั๋น501, ท่านผีเพลง, คุณอาโนลด์ เลย์น และผม ปีศาจลายคราม กำลังนั่งดื่มและสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ และน่าเสียดายที่คุณ panyarak และคุณโปโลตูนได้กลับบ้านไปแล้วก่อนหน้านี้ราวครึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นก็คงจะได้พบพี่วิฑูรเป็นแน่แท้ และการเดินทางมาของพี่วิฑูรครั้งนี้ก็คงเนื่องจากเป็นไปตามคำเชื้อเชิญทางโทรศัพท์ของพี่ Pong-Wanchai นั่นเอง

"อ้าว... นั่นพี่วิฑูรนี่" คุณอาโนลด์ เลย์น เป็นคนแรกที่ได้เห็นพี่วิฑูรเดินเข้ามา เราทุกคนที่โต๊ะต่างหันไปดู เห็นพี่วิฑูรกำลังวางกระเป๋าสัมภาระส่วนตัวบนโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ

"สวัสดีครับพี่วิฑูร เชิญทางนี้ครับ" พวกเราทุกคนต่างพากันเรียกพี่วิฑูรให้เข้ามานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร

"ลองแวะมาดูซะหน่อย เผื่อมีคนอยู่" พี่วิฑูรกล่าว

ผมลุกจากที่นั่ง เดินเข้าไปสวัสดีพี่วิฑูรและรีบบอกว่าเป็นแฟนรายการ Top Teen Talent อย่างเหนียวแน่นสมัยที่ผมยังนุ่งกางเกงขาสั้นเรียนหนังสืออยู่เลย นอกจากสวัสดีแล้ว ผมยังขอจับมือและกอดพี่วิฑูรให้สมกับที่ได้เจอตัวเป็น ๆ เสียที

จากนั้นพี่ Pong-Wanchai ก็เริ่มแนะนำตัวพวกเราให้พี่วิฑูรรู้จักทีละคน ซึ่งพี่วิฑูรก็ถือโอกาสตั้งฉายาให้พวกเราแต่ละคน ณ ที่นั้นด้วย โดยผมได้ฉายาที่แกตั้งให้ว่า "ไพบูลย์ (ชื่อจริงของปีศาจลายคราม) ผู้เบิกบาน"

หลังจากนั้นพี่วิฑุรก็พูดคุยทักทายกับน้อง ๆ อย่างเป็นกันเอง พลางก็สั่งอาหารมารับประทาน และผมมีโอกาสได้นั่งข้างพี่วิฑูรเพื่อจะขอสัมภาษณ์ในลักษณะกึ่งพูดคุย ซึ่งพี่วิฑูรก็ยินดีจะพูดคุยและให้คำตอบที่ผมอยากทราบด้วยความเต็มใจ ในขณะที่แกก็รับประทานอาหารไปด้วยความใจเย็นและไม่รีบร้อน

การสนทนากับพี่วิฑูรในค่ำคืนนั้นทำให้ผมได้ทราบข้อมูลที่ตนเองอยากทราบและยังได้รับรับรู้ความคิดเห็นที่น่าสนใจของนักจัดรายการผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้อีกด้วย และต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์สั้น ๆ ระหว่างผมกับพี่วิฑูร วทัญญู ซึ่งส่วนหนึ่งเรียบเรียงขึ้นจากความทรงจำและอีกส่วนหนึ่งจากโน้ตสั้น ๆ ที่ผมได้จดไว้ในกระดาษ คำถามและคำตอบแต่ละข้ออาจไม่เรียงกันตามลำดับเวลา แต่ก็อยู่ในห้วงเวลาของการสัมภาษณ์นั้น

ปีศาจลายคราม: "มีคนฝากถามมาว่า ถ้าพี่มีโอกาสได้กลับมาจัดรายการใหม่อีกครั้ง พี่จะยังใช้เพลง Hoedown เป็นจิงเกิ้ลเปิดรายการอยู่อีกหรือไม่?"
พี่วิฑูร: "ยังใช้อยู่แน่นอน เจ้าของเพลงหรือใครจะฟ้องร้อง ก็ให้เขาฟ้องไป"

ปีศาจลายคราม: "ตอนนี้พี่ทำอะไรอยู่ครับ ยังทำงานอยู่ในวงการวิทยุอีกหรือไม่?"
พี่วิฑูร: "ไม่ได้ทำแล้ว อยู่เฉย ๆ ให้หลานเลี้ยง แต่ก็ทำรายการวิทยุชุมชนในต่างจังหวัดบ้าง"

ปีศาจลายคราม: "ขออนุญาตถามถึงคุณสุทธิณาดา (ผู้จัดรายการ Top Teen Talent ร่วมกับพี่วิฑูร) หน่อยครับว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่"
พี่วิฑูร: "ก็แค่ช่วยงานอยู่ที่บ้าน มีลูกก็ดูแลลูกไป ตอนนี้ลูกก็โตและเรียนแพทย์จบแล้ว"
(มีบางคนที่โต๊ะสอบถามประเด็นเกี่ยวกับคุณสุทธิณาดาเพิ่มเติม คุยกันไปคุยกันมาก็ทราบว่าคุณสุทธิณาดาก็คือภรรยาของพี่วิฑูรนั่นเอง เพราะแกบอกว่าจะเอาคนอื่นมาร่วมจัดรายการทำไม มันก็ต้องใช้คนของเรา (ภรรยา) ให้เป็นประโยชน์สิ)

ต่อจากนั้นพี่วิฑูรได้พูดกับพี่ Pong-Wanchai ถึงคุณเอ็ดเวิร์ด แวนโซ ผมก็เลยมีโอกาสยิงคำถามต่อดังนี้

ปีศาจลายคราม: "พี่ยังเจอคุณธานินทร์ โชติดิลก อดีตสมาชิกวง Convention อยู่หรือเปล่าครับ? คือผมเคยเห็นภาพของเขาในนิตยสารเครื่องเสียงเล่มหนึ่งในฐานะคนเล่นเครื่องเสียงด้วย"
พี่วิฑูร: "ยังเจออยู่บ้าง ตอนนี้ธานินทร์เขาไม่ได้เล่นดนตรี เขาไปเป็นช่างไฟ ไปทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าแล้ว"

ปีศาจลายคราม: "ผมรู้สึกทึ่งมากที่ตอนนั้นพี่เปิดเพลงยาว ๆ ตั้งยี่สิบนาทีกว่า ๆ ออกอากาศ อย่างเช่นเพลง The Gates of Delirium ของ Yes ในขณะที่รายการอื่นเขาไม่ทำกัน"
พี่วิฑูร: "ตอนนั้นมันมีลูกบ้าอยู่" (หัวเราะ)

ปีศาจลายคราม: "พี่มีแนวทางหรือหาข้อมูลยังไงเกี่ยวกับเพลงที่จะนำมาเปิดออกอากาศบ้างครับ?"
พี่วิฑูร: "ตอนนั้นก็สั่งแผ่นมา ลองเปิดฟังดูหลาย ๆ เที่ยว เพลงไหนเข้าท่าก็เปิดให้ฟังเลย"

ปีศาจลายคราม: "ไม่ได้ค้นหาข้อมูลอะไรเกี่ยวกับดนตรีเลยหรือครับ?"
พี่วิฑูร: "เปล่า ก็แค่สั่งแผ่นมา เพลงไหนดีก็เอามาเปิดเล่นเลย"

ปีศาจลายคราม: "เพลงบางเพลงหรืออัลบั้มบางชุดก็หายากและคนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักกัน อย่างเช่นเพลงของ White Witch เนี่ย พี่ได้มายังไงครับ?"
พี่วิฑูร: "สมัยก่อนมันมีซัพพลายเออร์ แผ่นพวกนี้ราคาเหรียญเดียวเอง และเราก็ได้งบจากสถานีเป็นสปอนเซอร์เดือนละแปดพันบาทเพื่อซื้อแผ่น ถ้าไม่พอเราก็ออกเงินเพิ่ม สั่งแหลกเลย ซื้อมาเยอะ ๆ แล้วก็มานั่งฟังและคัดเลือกดู เพลงไหนเข้าท่าก็นำมาเปิด"

ปีศาจลายคราม: "ตอนนั้นมีการเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากการเปิดเพลงบ้างหรือเปล่าครับ?"
พี่วิฑูร: "ตอนนั้นไม่มี แต่ถ้าเป็นตอนนี้ก็จะมีหน่วยงานเก็บค่าลิขสิทธิ์อยู่"

ปีศาจลายคราม: "ทำไมพี่ถึงใช้เพลง Hoedown ของ ELP เป็นจิงเกิ้ลเปิดรายการล่ะครับ?"
พี่วิฑูร: "เป็นความชอบส่วนตัว"

ปีศาจลายคราม: "มีน้อง ๆ หลายคนเขาอยากฟังเพลง "นางแมวผี" ของ The Fox และเพลงของวงเนื้อกับหนัง พี่ไม่คิดจะนำผลงานพวกนี้มา reissue ออกขายใหม่อีกครั้งหรือครับ?"
พี่วิฑูร: "กำลังคิดจะทำอยู่ ขอให้ติดตามความคืบหน้าไปเรื่อย ๆ ก่อน"

(พอถึงช่วงที่พี่วิฑูรพูดถึงคำว่า Marmalade Club ผมก็นึกถึงคุณอภิพันธ์ วงศ์ยฤทธิ์ นักจัดรายการคลื่นเอเอ็มอีกท่านหนึ่งในยุคนั้น พี่วิฑูรนึกชื่อไม่ออกว่าเจ้าของรายการ Marmalade Club คือใคร ผมจึงรีบถามว่า คุณอภิพันธุ์ วงศ์ยฤทธิ์ ใช่ไหม? พี่วิฑูรจึงตอบว่าใช่)

ปีศาจลายคราม: "ตอนนี้คุณอภิพันธ์ทำอะไรอยู่ และพี่มีโอกาสได้เจอเขาบ้างไหมครับ?"
พี่วิฑูร: "ก็ได้เจอกันอยู่บ้าง ตอนนี้เขาก็ทำวิทยุชุมชนอยู่ต่างจังหวัด"

ปีศาจลายคราม: "รู้สึกอย่างไรที่มีบางคนตั้งฉายาให้พี่ว่า "ดีเจก๊อดฟาเธอร์" ครับ?"
พี่วิฑูร: "เป็นเกียรติ และขอขอบคุณ"

ปีศาจลายคราม: "เห็นพี่มีลีลาสำนวนการพูดจาเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง อย่างเช่น ชอบใช้คำว่า "ครับท่าน" อันนี้มีที่มาที่ไปยังไงครับ?"
พี่วิฑูร: "เราต้องสุภาพและให้เกียรติคนฟัง เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและมีอายุแค่ไหน เราต้องให้เกียรติทุกคนที่ฟังเรา"

ปีศาจลายคราม: "จำได้ไหมครับว่าจัดรายการ Top Teen Talent อยู่นานกี่ปี?"
พี่วิฑูร: "ก็ราว ๆ 12 ปีเห็นจะได้ ในช่วงหลัง ๆ กระแสเพลงไทยมันแรงก็เลยแบ่งเวลาบางส่วนไปช่วยเหลือพวกที่จัดเพลงไทยด้วย"

ปีศาจลายคราม: "ถึงได้มีรายการเพลงไทยชาตินิยมใช่ไหมครับ?"
พี่วิฑูร: "ใช่แล้ว" (พยักหน้า)

ปีศาจลายคราม: "มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับดีเจหรือนักจัดรายการสมัยนี้บ้างครับ?"
พี่วิฑูร: "หลายคนชอบใช้ภาษาวิบัติ เพี้ยน ๆ อย่างนักร้องบางคนก็ร้องเพลงออกเสียงเพี้ยน ๆ ประหลาด เน้นปลายเสียง ส เสียง ช มากจนเกินไป เราเป็นคนไทยควรใช้ภาษาไทยและออกเสียงให้ถูกต้อง การสอบเป็นผู้จัดรายการในสมัยก่อนมันถึงยากไง"

ปีศาจลายคราม: "สมัยก่อนพี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักจัดรายการเครือ Nite Spot บ้างมั้ยครับ?"
พี่วิฑูร: "ไม่ได้เกี่ยวข้อง คือว่า Top Teen Talent เป็นรายการอิสระ"

ปีศาจลายคราม: "รายการเปิดเพลงเยอะ แต่โฆษณาไม่มากเลยนะครับ"
พี่วิฑูร: "ชั่วโมงนึงโฆษณาแค่สองสามเบรคเอง"

ปีศาจลายคราม: "พี่ยังเก็บแผ่นเสียงไว้อยู่หรือเปล่าครับ?"
พี่วิฑูร: "ยังเก็บไว้อยู่"

ปีศาจลายคราม: "แล้วตอนที่พี่จัดรายการอยู่ มีคนฟังเขียนจดหมายมาหาเยอะมั้ยครับ?"
พี่วิฑูร: "เยอะสิ กองเป็นตั้ง ๆ ยังงี้เลย (ทำท่าให้ดู) ไม่รู้จะทิ้งยังไง"
(ผมรีบบอกว่า ไม่ควรทิ้ง เก็บไว้เป็นที่ระลึกจะดีกว่า)

ปีศาจลายคราม: "แล้วพี่มีความเห็นอย่างไรกับสื่อในการฟังเพลงสมัยนี้ ทั้งอะนาล็อกและดิจิตอล อย่างเช่น แผ่นเสียง ซีดี ไฟล์เพลง พี่ชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ?"
พี่วิฑูร: "ชอบทุกอย่างที่นำมาใช้ประโยชน์ได้"

ผมหมดคำถามที่ชวนคุยเพียงเท่านี้ จากนั้นก็เป็นการพูดคุยสัพเพเหระและเรื่องสรวลเสเฮฮาทั่วไประหว่างพี่วิฑูรกับน้อง ๆ ทุกคน ทั้งยังมีการแจกลายเซ็นบนปกแผ่นซีดี (copy) ที่คุณอาโนลด์ฯและคุณ panyarak นำมาแจกน้อง ๆ อีกด้วย แต่ผมได้ขอให้พี่วิฑูรเซ็นหลังปกแผ่นเสียงชุด Down To Earth ของวง Nektar ที่ผมนำติดตัวมาจากออฟฟิศเลย และพี่วิฑูรก็เซ็นให้ที่ด้านหลังปกอย่างระมัดระวัง ด้วยเกรงว่าจะทำให้แผ่นเลอะเทอะเกินไป แล้วจะดูไม่งาม

นับเป็นความยินดีและภาคภูมิใจของผมเป็นอย่างยิ่งที่ผมได้มีโอกาสได้พบเห็นและพูดคุยกับพี่วิฑูรย์ วทัญญูในค่ำคืนวันที่ 5 พ.ย. 53 ซึ่งเป็นค่ำคืนที่อากาศเย็นสบายและน่าจดจำ ทุกคนได้สังสรรค์และสนทนาอย่างเป็นกันเองกับพี่วิฑูรจนลืมเวลาว่าร้านปิดแล้ว (ตีหนึ่ง) พวกเราน้อง ๆ จึงเห็นเป็นอันสมควรแก่เวลา และขอลาพี่วิฑูรและพี่ Pong-Wanchai เพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่พี่วิฑูรและพี่ Pong-Wanchai ยังนั่งคุยกันอยู่

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่ Pong-Wanchai ในการโทรติดต่อให้ผมและเพื่อน ๆ บางคนได้มีโอกาสได้พบพี่วิฑูร วทัญญู ในค่ำคืนอันแสนสดชื่นและเบิกบานใจครับ

จัดทำบทสัมภาษณ์โดย ปีศาจลายคราม
วันที่ 7 พ.ย. 53 เวลา 4.10 น.

[ปีศาจลายคราม]

ภาคผนวก
บันทึกจากความทรงจำซึ่งเขียนไว้ในกระทู้เรื่อง "เปิดใจ วิฑูรย์ วทัญญู" เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2553 เวลาประมาณห้าทุ่มเศษ
.................................................................

ไม่ทราบว่าจนถึงขณะนี้การสัมภาษณ์คุณวิฑูรย์ วทัญญู ผ่านทาง facebook ได้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ช่าง คืนนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมาเป็นพิเศษ ผมจะขออนุญาตทบทวนความทรงจำของตนเองในการฟังรายการวิทยุเพลงฝรั่งในอดีตและ จดจารไว้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์สั้น ๆ ณ ที่แห่งนี้ ก่อนที่จะหลงลืมไปตามกาลเวลาและด้วยโรคส.ว.

ผมเริ่มฟังเพลงฝรั่ง เมื่อครั้งยังเรียนชั้นประถมต้น ประมาณปี 2518-2519 ก็เริ่มรู้จัก The Beatles, The Carpenters และซิงเกิ้ลเพลงฮิตอื่น ๆ หลายเพลงในยุคนั้นแล้ว จะเรียกว่ามีหัวก้าวหน้ากว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนก็ว่าได้ สมัยนั้นเพลงฝรั่งหรือเพลงสากลมันฮิตระบาดทั่วบ้านทั่วเมืองกันจริง ๆ กระแสดนตรีดิสโก้และจังหวะบั๊มพ์ก็กำลังเริ่มก่อตัวและถาโถมเข้ามา แต่ที่บ้านผมนั้นยังไม่มีเครื่องเล่นเทปคาสเสทหรือแผ่นเสียง ก็ได้แต่อาศัยฟังเพลงจากวิทยุทรานซิสเตอร์และมีเทปโอเพ่นรีลโมโนเครื่องเล็ก ๆ ซึ่งใช้รีลขนาด 5 นิ้วของคุณพ่อไว้คอยอัดเพลงที่ชื่นชอบจากวิทยุเพื่อเอาไว้ฟัง นักจัดรายการวิทยุหรือดีเจบางคนใจดี พูดแนะนำเพลงก่อนจะเปิดเพลงให้ฟัง แต่มีอีกหลายคนที่มักจะพูดแทรกตอนต้นหรือกลางเพลง ทำให้เสียอารมณ์ในการอัดเพลงของเด็กเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเรา (ถ้าเป็นสมัยนี้ก็อาศัยโหลดฟรี แต่ถ้าเป็นสมัยก่อน อยากฟังเพลงฟรีก็ต้องอาศัยอัดเพลงเอาตามรายการวิทยุ)

เริ่มต้นจากรายการวิทยุเพลงสากลคลื่นเอเอ็มในยุคนั้น เท่าที่ผมจำได้และฟังเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม ก็มีอย่างเช่น

- รายการ "จิ๊กโก๋ยามบ่าย" จัดโดยคุณนฤชา เพ่งผล ที่สถานีวิทยุทหารอากาศ สะพานแดง บางซื่อ คลื่นความถี่ 954 กิโลเฮิร์ตซ เวลา 14.00 - 15.00 น. วันธรรมดา นอกจากนี้ คุณนฤชาแกยังไปจัดรายการ "จิ๊กโก๋ยามดึก" ที่ช่องทหารอากาศ 01 ดอนเมือง ประมาณสี่ทุ่มถึงห้าทุ่มอีกด้วย

- รายการ "มาร์มาเลด คลับ" จัดโดยคุณอภิพันธ์ วงศ์ยฤทธิ์ (ไม่แน่ใจว่าจะสะกดชื่อและสกุลถูกหรือไม่) ที่สถานีเดียวกันกับรายการจิ๊กโก๋ยามบ่าย (วิทยุทหารอากาศ สะพานแดง บางซื่อ) มีสามช่วงเวลาด้วยกัน คือ 15.00 - 16.00 น., 16.30 - 17.00 น. และ 19.30 - 20.00 น. วันธรรมดา นอกจากนี้ รายการ "มาร์มาเลด คลับ" ยังมีจัดอยู่ที่คลื่น วปถ.8 (ตอนนั้นสถานีตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนเตรียมทหาร สวนลุมพินี) ในวันธรรมดา เวลา 18.15 -18.30 น. (แต่จัดแบบแห้ง คือ อาศัยเปิดเทปอัดเสียงดีเจพูดไว้ล่วงหน้าแล้วคนคุมเครื่องจะเปิดเพลงซิงเกิ้ล ให้ฟัง) และมีจัดอยู่ที่สถานีวิทยุจังหวัดสมุทรสาคร (จำคลื่นไม่ได้) ทุกวันอาทิตย์ ตลอดช่วงบ่าย คือ 13.00 - 18.00 น. ซึ่งนับว่านานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว โดยช่วงชั่วโมงสุดท้าย เวลาประมาณ 17.00 - 18.00 น. จะจัดเพลงเฮฟวี่และฮาร์ดร็อค เช่นเพลงของวง UFO, Deep Purple, Led Zeppelin เป็นต้น (เข้าใจว่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากรายการ "คึกคักยามบ่าย" ของคุณวิฑูรย์ที่คลื่นเอฟเอ็ม)

- รายการเพลง "แป้งน้ำสมใจนึก" จัดโดยคุณณรงค์ มานแมน ณ สถานีวิทยุสทร. (เสียงจากทหารเรือ) ซึ่งรายการนี้จะมาดึกสักหน่อย คือ 23.00 - 24.00 น.

- รายการเพลง "T.J. Song" จัดโดยคุณประภา ชาตินุกูล (จำคลื่นไม่ได้) ช่วงสาย ๆ ทุกวันอาทิตย์

เอา แค่รายการวิทยุคลื่นเอเอ็มที่ยกมาเป็นตัวอย่างข้างต้น จะพบว่าในยุคนั้น มีเพลงสากลให้ฟังแทบจะตลอดเวลาเลยจริง ๆ พอหมดรายการคลื่นหนึ่งก็หมุนไปฟังต่อคลื่นอื่นได้แทบจะทั้งวันเลยทีเดียว และผมก็เป็นเด็กที่ติดรายการเพลงฝรั่งทางวิทยุเอเอ็มไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมใหญ่ จะมีความสุขมาก เพราะได้ฟังเพลงตั้งแต่ช่วงบ่ายยันเที่ยงคืนกันเลย เพลงที่เปิดออกอากาศส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงฮิตติดตลาดในยุคนั้นและเพลงจังหวะ ดิสโก้ เช่น Bonney M, ABBA, Tina Charles เป็นต้น ส่วนสปอนเซอร์ยอดฮิตของรายการวิทยุเหล่านี้ก็ได้แก่ ร้านตัดเสื้อ กางเกงยีนส์ยี่ห้อต่าง ๆ เครื่องสำอาง น้ำมันเครื่อง เป็นต้น

จำเนียรกาลผ่านไปหลายปี ผมสอบเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งได้ ตอนนั้นก็ประมาณปี 2523-2524 รายการเพลงฝรั่งทางวิทยุเอเอ็มเหล่านี้ก็ค่อย ๆ หดหายไป ตอนนั้นผมเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดรายการวิทยุเหล่านี้จึงค่อย ๆ หายไปจากหน้าปัดคลื่นวิทยุ และมาทราบภายหลังถึงเหตุผลที่สำคัญประการหนึ่งคือ กระแสเพลงสตริงของไทยที่เริ่มตั้งเค้าและถาโถมเข้าสู่ตลาด และได้รับการต้อนรับจากสังคมในยุคนั้นเป็นอย่างดี และตลาดเพลงสากลก็ค่อย ๆ เริ่มหดตัวลง ส่วนผมเองเมื่อไม่ได้ฟังเพลงจากคลื่นวิทยุที่คุ้นเคยก็เริ่มรู้สึกเคว้ง ไม่ทราบว่าจะไปหาฟังเพลงฝรั่งที่คลื่นใดดี พอดีว่าช่วงนั้น ประมาณปี 2524-2525 คุณพ่อได้ซื้อวิทยุเอเอ็ม/เอฟเอ็มเครื่องใหม่มาให้อีกเครื่อง ผมจึงมีโอกาสได้ฟังเพลงฝรั่งจากรายการวิทยุ เช่น ไนท์สปอต ที่คลื่น 94.0 เมกะเฮิร์ตซ ซึ่งจัดแทบจะทั้งวัน โดยมีดีเจชื่อดังหลายคนสลับผัดเปลี่ยนกันมาจัดเป็นช่วง ๆ เช่น คุณวาสนา วีระชาติพลี, วิโรจน์ ควันธรรม, ม.ร.ว.รุจิยาภา อาภากร, สรพันธ์ ปัทมสุคนธ์ (เข้าใจว่าได้เปลี่ยนนามสกุลนานแล้ว) เป็นต้น ส่วนคุณธเนศ วรากุลนุเคราะห์นั้นก่อนจะเป็นนักร้องก็เคยอยู่สังกัดไนท์สปอตเช่นกันโดยได้ จัดรายการที่มีชื่อว่า "Pop Avenue" โดยเพลงที่เปิดในรายการนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงฮิตติดชาร์ตล้ำสมัยทั้งสิ้น (แต่ผมจำคลื่นสถานีวิทยุที่แกจัดไม่ได้) นอกจากนี้ ยังมีรายการจัดอันดับเพลงยอดฮิตทุกวันอาทิตย์อีกรายการหนึ่งที่คนสมัยนั้น รู้จักกันดี คือ Sunday Gap ดำเนินรายการโดยคุณพิศาล (จำนามสกุลไม่ได้) ใครอยากรู้ว่าเพลงที่ตัวเองชื่นชอบสัปดาห์นี้ขึ้นหรือลงไปอยู่อันดับที่ เท่าไร จะต้องคอยฟังรายการนี้

ณ เวลานั้นผมยังไม่ค่อยรู้จักรายการ Top Teen Talent และ คึกคักยามบ่าย ของคุณวิฑูรย์สักเท่าไร เป็นเพียงแต่เคยหมุนคลื่นผ่านไปฟังเป็นครั้งคราวที่วิทยุทหารอากาศ ทุ่งมหาเมฆ ดูเหมือนจะเป็นคลื่น 102.0 หรือ 102.5 อะไรประมาณนี้ (ตอนนั้นผมพักอยู่ย่านสาทรซึ่งใกล้กับทุ่งมหาเมฆ ทำให้สามารถรับคลื่นช่องนี้ได้ชัดเจนมาก) สารภาพตามตรงว่าคุณวิฑูรย์แกเปิดเพลงฟังแล้วเหนื่อยหูจริง ๆ

ต่อมาผม กำลังจะเรียนจบชั้นม.3 และเริ่มรู้สึกว่ารายการวิทยุที่คุ้นเคยของไนท์สปอตก็ค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อย -- รู้สึกว่าไม่มีอะไรฟังอีกแล้ว -- เผอิญหมุนคลื่นหาเพลงไปเจอ Top Teen Talent ช่วงที่คุณสุทธิณาดาจัด ตั้งแต่ 16.00 น.เรื่อยไปจนถึง 21.00 น. หลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงที่คุณวิฑูรย์มาจัดรายการต่อจนถึงเที่ยงคืน (หลังจากนั้นแกก็จะจัดรายการ "เพลงไทยชาตินิยม" ที่คลื่นเดียวกันจนถึงตีสอง) ฟังไปฟังมาชักเริ่มรู้สึกว่าเข้าท่า เริ่มจะรับเพลงแนวเฮฟวี่และ progressive rock ได้ รายการอะไรไม่รู้เปิดเพลงยาว ๆ อย่าง And You And I, The Gates of Delirium ของวง Yes ความยาวสิบกว่านาทีโดยไม่มีการตัดทอนเลย ซาวน์ดเพลงพวกนี้มันแปลกใหม่สำหรับผม ก็เลยติดรายการ Top Teen Talent เสียงอมแงมเรื่อยไปจนไปเข้าเรียนเตรียมอุดมฯพญาไท ต่อเนื่องเรื่อยไปจนเรียนมหาวิทยาลัยประมาณปีสอง ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้น ประมาณปี 2529-2530 รายการวิทยุในสังกัดคุณวิฑูรย์เริ่มประสบภาวะขาลง สังเกตว่าส่วนใหญ่จะจัดรายการแห้ง คือ เปิดเทปที่เตรียมไว้ล่วงหน้าจนกระทั่งคนฟังอย่างผมเริ่มจับไต๋ได้ แต่ก็ทนฟังต่อไปจนกระทั่งไม่มีให้ฟังอีกต่อไปเพราะถูกถอดออกจากผังรายการของ สถานี โดยที่แฟนรายการอย่างผมไม่ทันได้ตั้งตัว (อีกแล้ว)

สุดท้ายนี้ ขอสรุปรายการในสังกัด Top Teen Talent ของดีเจก๊อดฟาเธอร์ คุณวิฑูรย์ วทัญญู จากความทรงจำของผมที่ได้เคยฟังตามสถานีวิทยุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัย และท่านผู้รู้กรุณาท้วงติงหรือช่วยแก้ไขมาก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง ด้วยเพราะกาลเวลามันได้ล่วงเลยมายี่สิบกว่าปีแล้ว

- Top Teen Talent คลื่น ททท. 99.0 เมกะเฮิร์ตซ จัดโดยสุทธิณาดา โลกวัฒน์ และวิฑูรย์ วทัญญู 16.00 - 24.00 น. วันธรรมดา
- เพลงไทยชาตินิยม คลื่น ททท. 99.0 เมกะเฮิร์ตซ จัดโดยวิฑูรย์ วทัญญู หลังเที่ยงคืนถึงตีสอง วันธรรมดา
- Top Teen Talent คึกคักยามดึก คลื่น สทร. 93.0 เมกะเฮิร์ตซ จัดโดยวิฑูรย์ วทัญญู หลังเที่ยงคืนถึงตีสอง วันธรรมดา
- Top Teen Talent คึกคักยามบ่าย คลื่น วิทยุทหารอากาศ ทุ่งมหาเมฆ 102.0 (102.5???) เมกะเฮิร์ตซ จัดโดยวิฑูรย์ วทัญญู ในช่วงบ่าย วันธรรมดา

ส่วนรายการอื่นในสังกัด Top Teen Talent ที่นอกเหนือไปจากนี้ จะมีอยู่อีกหรือไม่ -- ผมไม่ทราบ -- หากใครทราบ ก็โปรดช่วยเสริมด้วย

ขอบคุณครับ

[blueframe]

ขอขอบพระคุณสำหรับบทสัมภาษณ์มากครับ

[ปีศาจลายคราม]

หมายเหตุท้ายบทสัมภาษณ์:

1. การพบกับพี่วิฑูรครั้งนี้ถือเป็นการได้รับของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากวันคล้ายวันเกิดของผมใกล้เข้ามาแล้วในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ก็ขอขอบคุณพี่ Pong-Wanchai สุดเลิฟ ซึ่งมีส่วนช่วยในการให้ของขวัญชิ้นนี้มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

2. พี่วิฑูรไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ จึงไม่สามารถนำรูปมาลงให้ดูได้

3. ตอนที่สัมผัสมือกับพี่วิฑูรเมื่อแรกพบและร่ำลาจากกัน พี่วิฑูรได้ทัักผมถึงสองหนว่า "เนื้อมือเยอะดีนี่ แสดงว่าเป็นคนมีสตางค์"

สาธุ... ขอให้สมพรปากเถอะครับพี่

[ปีศาจลายคราม]

ขอขอบพระคุณสำหรับบทสัมภาษณ์มากครับ

คุณ blueframe เคยได้มีโอกาสฟังรายการ Top Teen Talent หรือรายการในเครือ TTT ของคุณวิฑูร วทัญญู บ้างไหมครับ?

[Pong-Wanchai]

คลื่นทุ่งมหาเมฆคือช่อง 102.5 ครับ...ฟันธงได้เลย 

ผมอยากให้คุณปีศาจฯ นำรูปลายเซ็นต์ของ คุณวิทูร วทัญญู ถ่ายหรือสแกนมาให้สมาชิกทุกท่านได้ดูหน่อยซิครับ ?

[blueframe]

ขอขอบพระคุณสำหรับบทสัมภาษณ์มากครับ

คุณ blueframe เคยได้มีโอกาสฟังรายการ Top Teen Talent หรือรายการในเครือ TTT ของคุณวิฑูร วทัญญู บ้างไหมครับ?

ผมโตไม่ทันฟังรายการของคุณวิฑูรย์ครับ แต่ถ้าผมอยู่กรุงเทพฯก็ไม่แน่ครับ เพราะสมัยเด็กๆช่วงประมาณ 8-10 ขวบ
ผมได้รู้จักฟังเพลงสากลครั้งแรกๆเลยจากรายการบันเทิงคดีทางช่อง 5 ถ้าอยู่กรุงเทพฯผมคงได้ฟังเพลงร็อคจากคลื่นวิทยุก็ได้

มีอีกครั้งนึงสมัยช่วงเรียนม.ปลาย ประมาณพ.ศ. 2536-2537 ตอนนั้นพี่ชายผมเข้าไปเรียนในกรุงเทพฯแล้ว เล่าให้ฟังว่าเปิดวิทยุฟัง
แล้วหมุนไปเจอรายการวิทยุที่จัดเพลงร็อค พี่ชายผมเล่าว่าผู้ดำเนินรายการน่าจะเป็นคุณวิฑูรย์ เพราะจัดไปก็จะพูดชื่อวงต่อด้วยฉายา
แต่จำไม่ได้ว่ามี "ครับผม , ครับท่าน" ด้วยรึเปล่านะครับ แต่ก็ไม่ทราบจริงๆว่าใช่รายการของคุณวิฑูรย์หรือไม่

[ปีศาจลายคราม]

คลื่นทุ่งมหาเมฆคือช่อง 102.5 ครับ...ฟันธงได้เลย 

ผมอยากให้คุณปีศาจฯ นำรูปลายเซ็นต์ของ คุณวิทูร วทัญญู ถ่ายหรือสแกนมาให้สมาชิกทุกท่านได้ดูหน่อยซิครับ ?

จัดให้เลยครับพี่





ลายเซ็นหลังปกแผ่นเสียงชุด Down To Earth ของ Nektar มีข้อความที่พี่วิฑูรได้เขียนไว้คือ

ขอ(บ)ใจในไมตรีจิต
(ลายมือชื่อ) วิฑูร วทัญญู
ศุกร์ 5.11.2553

สันนิษฐานว่าตอนนั้นมันคงมืด พี่เค้าเลยเขียนคำว่า "ขอบใจ" ตกตัว บ ใบไม้ ไปครับ

[ปีศาจลายคราม]

สังเกตว่าพี่วิฑูรรักการใช้ภาษาไทยมาก เวลาพูดจาแกมักจะใช้คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำ หนักแน่น สั้น กระชับ ออกเสียงอักขระชัดเจนถูกต้อง แม้แต่ตัวเลข แกก็ยังเขียนด้วยเลขไทยเลย และมีข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งว่าแกไม่ใคร่พูดมาก ชอบพูดสั้น ๆ ตรงไปตรงมา และได้ใจความ ดังที่ปรากฎอยู่ในบทสัมภาษณ์ข้างต้นนี้ครับ

[.. polotoon ..]

ปากกาอะไรครับ ดู ขลัง มาก

[ปีศาจลายคราม]

ปากกาอะไรครับ ดู ขลัง มาก

เหมือนปากกาเมจิกที่ใช้เขียนไว้ท์บอร์ด หมึกสีบรอนซ์ทอง ต้องคอยเขย่าปากกาให้หมึกออกน่ะครับ (ผมเองก็เรียกไม่ค่อยถูก)

[blueframe]

ปากกาอะไรครับ ดู ขลัง มาก

เหมือนปากกาเมจิกที่ใช้เขียนไว้ท์บอร์ด หมึกสีบรอนซ์ทอง ต้องคอยเขย่าปากกาให้หมึกออกน่ะครับ (ผมเองก็เรียกไม่ค่อยถูก)

ปากกาสีน้ำมันครับ ก่อนใช้ต้องเขย่าเพื่อให้หมึกไม่นอนก้น และโช้คหัวปากกาเพื่อให้หัวสักกะหลาดชุ่มด้วยน้ำหมึกแล้วก็เขียนได้ครับ

[ปีศาจลายคราม]

ปากกาอะไรครับ ดู ขลัง มาก

เหมือนปากกาเมจิกที่ใช้เขียนไว้ท์บอร์ด หมึกสีบรอนซ์ทอง ต้องคอยเขย่าปากกาให้หมึกออกน่ะครับ (ผมเองก็เรียกไม่ค่อยถูก)

ปากกาสีน้ำมันครับ ก่อนใช้ต้องเขย่าเพื่อให้หมึกไม่นอนก้น และโช้คหัวปากกาเพื่อให้หัวสักกะหลาดชุ่มด้วยน้ำหมึกแล้วก็เขียนได้ครับ

ขอบคุณครับ คุณ blueframe นี่สิถึงรู้จริง

[Pong-Wanchai]

ปากกาอะไรครับ ดู ขลัง มาก

เหมือนปากกาเมจิกที่ใช้เขียนไว้ท์บอร์ด หมึกสีบรอนซ์ทอง ต้องคอยเขย่าปากกาให้หมึกออกน่ะครับ (ผมเองก็เรียกไม่ค่อยถูก)

ปากกาสีน้ำมันครับ ก่อนใช้ต้องเขย่าเพื่อให้หมึกไม่นอนก้น และโช้คหัวปากกาเพื่อให้หัวสักกะหลาดชุ่มด้วยน้ำหมึกแล้วก็เขียนได้ครับ

ขอบคุณครับ คุณ blueframe นี่สิถึงรู้จริง

ใครนำปากกามาด้วยครับ ของคุณปีศาจฯ หรือเปล่า ?

[ปีศาจลายคราม]

ปากกาอะไรครับ ดู ขลัง มาก

เหมือนปากกาเมจิกที่ใช้เขียนไว้ท์บอร์ด หมึกสีบรอนซ์ทอง ต้องคอยเขย่าปากกาให้หมึกออกน่ะครับ (ผมเองก็เรียกไม่ค่อยถูก)

ปากกาสีน้ำมันครับ ก่อนใช้ต้องเขย่าเพื่อให้หมึกไม่นอนก้น และโช้คหัวปากกาเพื่อให้หัวสักกะหลาดชุ่มด้วยน้ำหมึกแล้วก็เขียนได้ครับ

ขอบคุณครับ คุณ blueframe นี่สิถึงรู้จริง

ใครนำปากกามาด้วยครับ ของคุณปีศาจฯ หรือเปล่า ?

ของพี่วิฑูรนำมาเองครับ
พี่เค้าคงจะนำปากกาติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะทราบว่าจะต้องมีแฟน ๆ ขอลายเซ็นแน่นอนครับ