ต่อไป »

[kongbei]

กิจการ "รถไฟเมืองไทย" ผ่านกาลเวลามายาวนาน 120 กว่าปี ยังไม่ค่อยพัฒนาไปไกลจากคำค่อนขอด "ถึงก็ชั่ง-ไม่ถึงก็ชั่ง" แถมบางครั้งมีหมัดหนูโดยสารไปเป็นเพื่อนอีกต่างหาก ครั้นจะนั่งรถไฟฟ้ารางก็แสนสั้นวิ่งเอื่อยๆ วนไปวนมาแต่ในตัวเมือง

         วันนี้ถือโอกาสที่นิตยสารเทคโนโลยีเครื่องยนต์กลไกเล่มดังของสหรัฐอเมริกา "ป๊อปปูลาร์ เมคานิกส์" ฉบับใหม่ตีพิมพ์บทความ "สุดยอด 5 รถไฟความเร็วสูงสุดในโลก" นำเรื่องราวมาถ่ายทอดต่อให้แสบกระดองใจเล่นๆ ว่า "รถไฟต่างแดน" เขาพัฒนาไปไกลถึงไหนต่อไหนกันบ้างแล้ว!


1. Shanghai Maglev : เซี่ยงไฮ้แม็กเลฟ

 สถานที่ : นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีหลงหยาง เขตพู่ตง กับท่าอากาศยานนานาชาติพู่ตง ในอนาคตมีแผนขยายเส้นทางไปยังท่าอากาศยานหงเฉียว เชื่อมต่อไปเมืองหังโจว

         ระยะทาง : 19 ไมล์ (30 กิโลเมตร)

         ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 268 ไมล์ ต่อชั่วโมง หรือราว 431 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         ความเร็วสูงสุด : 311 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         คุณสมบัติเด่น : "เซี่ยงไฮ้แม็กเลฟ" สร้างสถิติเป็น "รถไฟฟ้าแม่เหล็กความเร็วสูง" (แม็กเลฟ) ขบวนแรกของโลกที่วิ่งให้บริการเชิงพาณิชย์ด้วยความเร็วสูงสุด

         ระบบการทำงานแตกต่างจากรถไฟรางทั่วโลก เพราะตัวรถทั้งขบวนจะถูกกลไกสนามแม่เหล็กยกให้ลอยสูงจากราง ประมาณ 1-10 มิลลิเมตรแล้วแต่จังหวะการวิ่ง จึงไม่มีล้อ ไม่มีเบรก ไม่มีเพลา ไม่มีระบบส่งกำลัง ผู้พัฒนาเรียกระบบนี้ว่า "ไกด์เวย์"

         อย่างไรก็ตาม วิศวกรบางกลุ่มมองว่า ราคาการลงทุนวางโครงข่ายรถไฟแม็กเลฟสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเกินไป และยังไม่แน่ชัดว่าถ้าวิ่งระยะยาวแล้วจะมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่



2. Alta Velocidad Espanola (AVE) : รถไฟความเร็วสูงเอวีอี

   สถานที่ : ประเทศสเปน วิ่งเชื่อมต่อเมืองใหญ่ 4 เมือง ประกอบด้วย มาดริด, เซบีญา, มาลาก้า และบาร์เซโลนา

         ระยะทาง : 410 ไมล์ (660 กิโลเมตร)

         ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 210 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 338 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         ความเร็วสูงสุด : 227 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 365 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         คุณสมบัติเด่น : ในอดีตรางรถไฟสเปนจะมีขนาดความกว้าง 1,668 มิลลิเมตร แต่รถเอวีอี ใช้รางมาตรฐาน 1,435 มิลลิเมตร ซึ่งใช้โดยทั่วไปในทวีปยุโรป

         นอกจากนั้น กลไกการทำงานหล่อเลี้ยงด้วยกระแสไฟฟ้า 25 กิโลวัตต์ (AC) เพื่อให้เข้ากับรถไฟของประเทศอื่นๆ ในยุโรปเช่นกัน แสดงถึงเป้าหมายที่ชัดเจนของสเปนที่ต้องการขยายเส้นทางเอวีอีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมืองแปร์ปินญอง ประเทศฝรั่งเศส

         วัตถุประสงค์เพื่อให้การเดินทางระหว่าง 4 เมืองใหญ่คล่องตัว และส่งผู้โดยสารกระจายต่อไปทั่วประเทศด้วยรถด่วนตามปกติอีกทอดหนึ่ง



3. Beijing-Tianjin Intercity Railway : รถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-เทียนสิน

สถานที่ : ประเทศจีน วิ่งระหว่างกรุงปักกิ่ง กับเมืองเทียนสิน

         ระยะทาง : 71 ไมล์ (114 กิโลเมตร)

         ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 217 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         ความเร็วสูงสุด : 245 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 394 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         คุณสมบัติเด่น : เริ่มเปิดบริการเมื่อปี พ.ศ.2551 นี่เอง ตัวรางไม่มีบัลลาสต์ ส่วนโครงสร้างฐานรางรถไฟรองรับด้วยพื้นคอนกรีต ทำให้รางแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยเสียเวลาซ่อมแซมบูรณะมากนัก

         ในอดีตการโดยสารรถไฟจากปักกิ่งไปเทียนสิน ใช้เวลา 70 นาที แต่ด้วยรถไฟสายใหม่นี้ช่วยร่นเวลาลงมาเหลือ 30 นาที ภายหลังเปิดบริการปีแรก สามารถขนส่งผู้โดยสารได้กว่า 18.7 ล้านคน



4. Train a Grande Vitesse (TGV) : รถไฟความเร็วสูงเตเจเว (ทีจีวี)
สถานที่ : ประเทศฝรั่งเศส ชุมทางตั้งต้นเริ่มจากกรุงปารีสแล่นออกสู่สถานีใน 200 กว่าเมืองทั่วประเทศ เช่น นีซ ลียง อาวินยง และดิฌอง

         ระยะทาง : 538 ไมล์ (865 กิโลเมตร)

         ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 217 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         ความเร็วสูงสุด : 356 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 572 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         คุณสมบัติเด่น : เริ่มเปิดวิ่งเป็นครั้งแรกระหว่างกรุงปารีส นครหลวงฝรั่งเศส กับเมืองลียง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ต่อมาจึงขยายเส้นทางอย่างรวดเร็ว สร้างตำนานเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ชาวโลกได้ยินชื่อคุ้นหูมากที่สุด และยังวิ่งข้ามไปยังชาติเพื่อนบ้าน เช่น วิ่งลอดอุโมงค์ใต้ทะเลไปอังกฤษ

         ระบบไฟฟ้าสลับสับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ ทั้งกระแสไฟมาตรฐานในยุโรป 25 กิโลวัตต์ (AC) และระบบไฟ 1.5 กิโลวัตต์ (DC) ของฝรั่งเศส ปัจจุบันครองตำแหน่งแชมป์รถไฟที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามตารางเวลาเร็วที่สุดในโลก 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



5. Nozomi Shinkansen : รถไฟความเร็วสูง "โนโซมิ ชินคันเซ็น"

  สถานที่ : ประเทศญี่ปุ่น ให้บริการเส้นทางสายโทไกโด/ซันโย ชินคันเซ็น จากโตเกียวไปฮากาตะ

         ระยะทาง : 664 ไมล์ (1,068 กิโลเมตร)

         ความเร็วขณะวิ่งให้บริการ : 186 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 299-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         ความเร็วสูงสุด : 275 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 442 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

         คุณสมบัติเด่น : "โนโซมิ" เป็นชื่อรุ่นรถไฟในเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง (ชินคันเซ็น) ของญี่ปุ่น ซึ่งทำความเร็วสูงที่สุดในกลุ่ม

         ความเร็วของ "โนโซมิ" แต่ละรุ่น หรือแต่ละซีรีส์ไม่เท่ากัน โดยบางรุ่นวิ่งได้ถึง 442 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปัจจุบันการโดยสารโนโซมิจากกรุงโตเกียว ไปยังนครโอซากา ระยะทาง 515 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเศษ

         จุดเด่นรถไฟไฮเทครุ่นนี้ คือ ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ติดตั้งกระจกโพลีคาร์บอเนตซึ่งแตกยาก-ทนทานต่อแรงกระแทกสูง และมีระบบ "แอร์สปริง" ใช้แรงอัดอากาศช่วยประคองสมดุลขบวนรถเวลาเข้าโค้ง





































































































6. รถไฟไทย...





เครดิต http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8384349/E8384349.html

[♫ phil_wc ♫]

ว่าแล้วต้องมีมุกนี้

[lalink]

ก็ไม่เลวนะคับ

รถไฟไทยติดอันดับที่ 6 แน่ะ


แต่ดูหน้าตาแล้ว มันแปลกๆ อยู่นา

[ไอแอมตองสาม]

ก็ไม่เลวนะคับ

รถไฟไทยติดอันดับที่ 6 แน่ะ


แต่ดูหน้าตาแล้ว มันแปลกๆ อยู่นา

Vintage ขอรับ 

[JM-Sarn]

เห็นแล้วนึกถึงอันที่เขา่เอารถตำรวจแต่ละประเทศมาให้ดูกันจริงๆ

[tisanai]

รถไฟไทย
เป็นที่เร็วรองมาจาก รถไฟญี่ปุ่น
พบเห็นตามต่างจังหวัด รถไฟมีสีฉูดฉาด(รึป่าว)
มีความเร็วมาก(ขับรถเร็วกว่า)
เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว+ขอทาน
มีความคลาสสิกในตัวไม่ใหม่ยังไงก็ยังงั้นหวนให้คิดถึงเวลาเก่าๆ
นี้แล คือความ เทพของรถไฟไทย

[Shineon]

     แม่เคยเล่าว่านั่งรถไฟข้ามประเทศ  ถ้าจำไม่ผิดทางยุโรปครับ บอกว่าหรูมากๆ เคยถ่ายรูปมาให้ดูเป็นเห็นนอนเลยครับ  ผมเคยนั่งจากหัวลำโพงไปเชียงใหม่  นอนไม่หลับเลย กลิ่นก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ   เคยมีญาติฐานะดีครับขับ เบนซ์ S500  เขาไปเที่ยวหัวหิน  ขับตรงทางลัดเข้าเมือง  เวลาผมไปเที่ยวผมก็ขับประจำ แล้วมืดมากๆครับเป็นเขาขึ้นๆลงๆด้วย  มีทางรถไฟผมก็เคยนึกว่าถ้ารถไฟมาจะรู้ไหมน่า  สรุปหลังจากนั้นเกือบครึ่งปี  ญาติเขาขับไปตรงนั้น ขากลับตอนกลางคืน โดนรถๆฟชนลากไปเกือบครึ่งกิโล   ก็ลูกเขาเสียชีวิตเลยครับ  แล้วตอนหลังมีการมาทำการิดสัญญาณ(วัวหายล้อมหอกเหมือนเดิม)
     ถ้าจำไม่ผิดเคยมีคนบอกว่าในไทยมีอีก 1500แห่งที่ยังไม่ได้สร้างที่กั้นหรอครับ  เขาบอกที่ไม่สร้างเพราะ 1 แห่งใช้งบ เป็นล้านเลยหรอครับ  ปกติขนาดนั้นเลยหรอครับ

[panyarak]

เคยขึ้นแต่ Shinkansen ของญี่ปุ่นตั้งแต่รุ่นแรกสุดตอน 8 ขวบ และรุ่นต่อๆ มาจนปัจจุบัน รุ่นหลังๆ ที่นั่งสบาย เหมือนที่นั่งชั้นธุรกิจในเครื่องบิน ห้องน้ำสะอาดมาก เก็บเสียง ของกินอร่อย (มาก)

[อาโนลด์ เลนย์]

ทำไม ? อันดับ 5 ทิ้งห่างจาก อันดับ 6 ไกลมากเลย.....

[panyarak]

ทำไม ? อันดับ 5 ทิ้งห่างจาก อันดับ 6 ไกลมากเลย.....

ขอปลอบใจด้วยระบบขนส่งมวลชน (น่าจะเรียกว่ามหาชน) อันดับ 7 ครับ ตอนไปอินเดีย ผมก็เห็นภาพเหล่านี้ เห็นแล้วรักเมืองไทยมากขึ้นเป็นกอง

[ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ]

เคยขึ้นแต่ Shinkansen ของญี่ปุ่นตั้งแต่รุ่นแรกสุดตอน 8 ขวบ และรุ่นต่อๆ มาจนปัจจุบัน รุ่นหลังๆ ที่นั่งสบาย เหมือนที่นั่งชั้นธุรกิจในเครื่องบิน ห้องน้ำสะอาดมาก เก็บเสียง ของกินอร่อย (มาก)

อยากทราบว่า Shinkansen ที่ญี่ปุ่นตอนนี้มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีบริการแตกต่างกันอย่างไรครับ? นอกจากความเร็วที่ต่างกัน (ผมเคยนั่งแต่แบบที่ความเร็วกลางๆน่ะครับ)

[ท่านผีเพลง]

ได้ทั้งความรู้
และ
อย่างฮา



ส.ว.ชอบรถไฟไทยครับ
เร็วมากไม่ดี
ปวดหู ปวดตา คลื่นไส้

แถม ไม่ได้ซื้อของกินแปลกๆ
สัมผัสกลิ่นแปลกๆ
และที่สำคัญ
อดมองสาวๆ เล่นน้ำในลำธารด้วย

[panyarak]

เคยขึ้นแต่ Shinkansen ของญี่ปุ่นตั้งแต่รุ่นแรกสุดตอน 8 ขวบ และรุ่นต่อๆ มาจนปัจจุบัน รุ่นหลังๆ ที่นั่งสบาย เหมือนที่นั่งชั้นธุรกิจในเครื่องบิน ห้องน้ำสะอาดมาก เก็บเสียง ของกินอร่อย (มาก)

อยากทราบว่า Shinkansen ที่ญี่ปุ่นตอนนี้มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีบริการแตกต่างกันอย่างไรครับ? นอกจากความเร็วที่ต่างกัน (ผมเคยนั่งแต่แบบที่ความเร็วกลางๆน่ะครับ)

เป็นคำถามที่อธิบายให้เข้าใจยากเหมือนกันครับ
ขอแบ่งตาม series หรือรุ่นที่ผลิตก่อนครับ

สาย Tōkaidō และ Sanyō Shinkansen - สายที่วิ่งระหว่างโตเกียวกับภาคตะวันตก เช่นโอซากา และเลยไป
0 series เป็นรุ่นแรกสุด เริ่มวิ่งปี 1964 และถอนออกไปเมื่อปี 2008 ความเร็วสูงสุด 220 km/h
100 series รุ่นต่อมา (หัวจะแหลมกว่ารุ่น 0 เล็กน้อย) เริ่มวิ่งปี 1985 บางตู้มี 2 ชั้น และเริ่มมีรถเสบียง ความเร็วสูงสุด 230 km/h วิ่งเฉพาะสาย Sanyō Shinkansen ที่จอดทุกสถานี (Kodama)
Doctor Yellow ไม่ใช้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร แต่ใช้ทดสอบระบบราง ไฟฟ้า และวิศวกรรม
300 series รุ่นต่อมาเริ่มวิ่งปี 1992 ใช้วิ่งสำหรับขบวนที่จอดน้อยสถานี (Nozomi) ความเร็วสูงสุด 270 km/h
500 series รุ่นหัวจรวดที่สวยที่สุด ใช้วิ่งสำหรับขบวนที่จอดน้อยสถานี (Nozomi) ตั้งแต่ปี 1997 ความเร็วสูงสุด 300 km/h และเริ่มนำไปวิ่งในขนวนที่จอดทุกสถานี (Kodama) ตั้งแต่ปี 2008
700 series รุ่นปากเป็ด เริ่มวิ่งปี 1999 ความเร็วสูงสุด 285 km/h ใช้วิ่งทั่วไปทั้ง Nozomi, Hikari, and Kodama  มี 2 สี แบบสีขาวคาดน้ำเงิน
กับเทาคาดเหลือง ที่มีชื่อเฉพาะว่า Rail Star
923 Doctor Yellow ไม่ใช้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร แต่ใช้สำหรับทดสอบระบบราง ไฟฟ้า และวิศวกรรม
N700 series รุ่นใหม่ล่าสุด คล้ายรุ่นปากเป็ด แต่ออกเหลี่ยมนิดๆ เริ่มวิ่งปี 2007 ความเร็วสูงสุด 300 km/h วิ่งขบวนที่จอดน้อยสถานี
(หมายเหตุ - ชื่อที่ใช้แบ่งขบวนรถว่าจอดบ่อยแค่ไหน Kodama - จอดทุกสถานี หรือรถด่วน
Hikari - จอดน้อยสถานีกว่า Kodama หรือรถด่วนมาก
และ Nozomi จอดน้อยสถานีที่สุด เท่ากับเป็นรถด่วนที่สุด)

Kyūshū Shinkansen - สายเกาะคิวชู
800 series เริ่มวิ่งปี 2004 ขบวน Tsubame ความเร็วสูงสุด 260 km/h

Tōhoku, Jōetsu, and Nagano Shinkansen - สายตะวันออกเฉียงเหนือ
200 series เป็นรถรุ่นแรกสำหรับสาย Tōhoku และ Jōetsu Shinkansen ตั้งแต่ปี 1982 หน้าตาเหมือนรุ่น 0 แต่คาดสีเขียว ความเร็วสูงสุด 240 km/h ยังพอมีให้เห็นบ้าง
E1 series เป็นแบบตู้ 2 ชั้นทั้งขบวน เริ่มปี 1994 ความเร็วสูงสุด 240 km/h สำหรับตู้ 2 ชั้นนี้ บางคนนั้งชั้นล่างแล้วจะเวียนศรีษะและไม่เห็นวิวเลย มีพ่นสี 2 แบบ
E2 series เริ่มให้บริการปี 1997 ความเร็วสูงสุด 275 km/h
E4 series เป็นหัวรถปากเป็ดแบบตู้ 2 ชั้น เริ่มปี 1997 ความเร็วสูงสุด 240 km/h
E5 series กำลังผลิตอยู่เพื่อใช้วิ่งในปี  2011 ความเร็วสูงสุด 320 km/h

Yamagata and Akita Shinkansen - สายเหนือ
400 series เป็น Mini-shinkansen (ต้องใช้ขบวนเล็ก ตู้รถแคบ เนื่องจากภูมิประเทศเป็นป่าเขาคดเคี้ยว) เริ่มวิ่งปี 1992 สำหรับขบวนที่ชื่อ Tsubasa แม้ว่าจะวิ่งได้เร็วกว่านี้ แต่ถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 130 km/h
E3 series  เริ่มวิ่งปี 1997 สำหรับขบวน Akita Shinkansen Komachi และ Yamagata Shinkansen Tsubasa
E6 series กำลังผลิตอยู่เพื่อออกวิ่งปี 2013 สำหรับขบวน Akita Shinkansen Komachi ความเร็วสูงสุด 320 km/h

บริการก็ยอดเยี่ยมเหมือนกันหมด เกือบทุกขบวนมีตู้ชั้นหนึ่งซึ่งเขาใช้ชื่อว่า Green Car ซึ่งค่าโดยสารแพงกว่าปกติ เท่าราคาเครื่องบินในระยะทางเท่าๆ กัน ที่นั่งกว้างขวางกว่า และบางขบวนมีบางตู้ที่ให้สูบบุหรี่ได้ ซึ่งเดินผ่านเข้าไปแทบจะสำลักควันตาย

[kongbei]

อยากทราบว่า รถไฟไืทย ที่สยามประเทศตอนนี้มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีบริการแตกต่างกันอย่างไรครับ? นอกจากความเหม็นที่ต่างกัน (ผมเคยนั่งแต่แบบที่ความเร็วต่ำๆน่ะครับ)

[kongbei]

รถไฟฟ้า BTS กับรถไฟฟ้าใต้ดินของไทย วิ่งได้กี่ km/h ครับ