Thai Progressive Rock Community

ต้องฟังนี่เลย Devil Doll

เพลงที่ได้บรรยากาศการฆาตกรรม การวางแผนอันซ่อนเงื่อนนี่ไม่แน่ใจเท่าไรนักว่าจะตรงใจพี่เจ้าของกระทู้รึเปล่า เพราะจินตนาการของแต่ละคนมันย่อมต่างกันเป็นธรรมดา แต่ผมว่าพวกศิลปินที่ทำเพลงแนว Trip-Hop หรือ IDM แบบหม่นๆอย่าง Massive Attack, Boy is Fiction, Teargas & Plateglass, Arms & Sleeper, Subheim หรือพวกโดรนแจ๊สอย่าง Bohren & Der Club of Gore, Heroin and Your Veins หรือ The Mount Fuji Doomjazz Corporation ก็ฟังแล้วได้บรรยากาศอย่างที่ว่าพอสมควรทีเดียว (หากลองเปิดใจรับฟังดูนะ) แต่ถ้าอยากลองเพลงสำหรับขณะลงมือฆาตกรรม ทรมานเหยื่อ หั่นศพ หมกส้วม หรือกระทำการสังวาสเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน ผมแนะนำงานของศิลปินแนว Harsh Noise ต่างๆ โดยเฉพาะศิลปินกลุ่ม Japanoise ทั้งหลายนั้นมันโรคจิตผิดมนุษย์ได้ใจจริงๆ หรือจะเป็นงานในกลุ่ม Gorenoise อย่าง Sexchange, Anal Birth, KKND, Unconcentrated Faeces Ontengeny, Grotesque Deformities, Epiploenterocele Pusliquid Wormschunk, Internally Mutilated etc. มันคือจุดศูนย์รวมของสุ้มเสียงแห่งความทรมาน หยดเลือด น้ำหนอง และกลิ่นเหม็นสาบความวิตถารอันชวนคลื่นเหียน ณ จุดขีดสุดของความเป็นมนุษย์แล้ว จริงๆแล้วหากลองฟังดูมันอาจจะไม่ใช่ดนตรีเลยด้วยซ้ำ แต่หากต้องการลองสัมผัสบรรยากาศต้องห้ามเหล่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องลงมือกระทำการเอง (ซึ่งหวังว่าจะไม่มีใครทำนะ) ผมว่ามันก็คุ้มค่าแก่การลองนะครับ

ส่วนเพลงที่ให้บรรยากาศนรกนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของเราแหละว่ามันเป็นนรกแบบใหน สำหรับผมแล้ว ผมชอบจินตนาการถึงโลกอนาคตยุค Post-Apocalyptic ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของความก้าวหน้าเทคโนโลยี ความทุกข์ยากจากสงครามปรมาณู บรรยากาศแร้นแค้นที่เคลือบฉาบไว้ด้วยความสะพรึงกลัวในการดำเนินชีวิตบนพื้นโลกให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ซึ่งดนตรีที่ให้บรรยากาศเหล่านั้นผมมักจะนึกถึงอัลบั้ม Molotov & Haze กับ Ghosts on Magnetic Tape ของ Bass Communion เป็นอันดับแรก ตามมาด้วยศิลปินกลุ่ม Death Industrial (ไม่ใช่ Industrial Death Metal นะ) ที่เหมือนตั้งใจทำเพลงมาเป็นซาวนด์แทร๊คให้กับนรกบนดินแบบนี้โดยเฉพาะ ศิลปินในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจก็เช่น Navicon torture Technology, Genocide Organ, Mental Destruction, Brighter Death Now, IRM, Deathpile และ Sewer Goddess เป็นต้นครับ

ขออภัยด้วยที่อาจจะหลุดประเด็นของกระทู้ไปหน่อย แต่ขอรับประกันว่างานทุกชิ้นที่ผมแนะนำมาตั้งแต่ต้นจะไม่มีแสงสว่างอันอบอุ่นเล็ดลอดมาให้ได้สัมผัสแม้แต่นิดแน่นอน

ของใครหรือ........ฯ

Devil Doll เป็นวงโปรเกรสสีฟสายมืดจากสโลวีเนียที่ทำเพลงมีกลิ่นอายของดนตรีคลาสสิคและกอธิค เกือบทุกอัลบั้มจะมีแค่เพลงเดียวตลอดความยาวกว่าชั่วโมง แต่ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะและการเปลี่ยนจังหวะดนตรีอันน่าตื่นตาตื่นใจทำให้ฟังไม่น่าเบื่อ ส่วนเนื้อหาเป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรม มนตร์ดำ อาคม ผีสาง และวิญญาณได้อย่างน่าติดตาม เข้ากับธีมของดนตรีได้ดีมากครับ

เขียนได้ได้ดี อย่างกะเป็นนักเขียน หะ หะ หะ ผมชอบสำนวน "หรือกระทำการสังวาสเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน"

ทำให้นึกถึงนิยายเรื่อง คินดะอิจิ ยอดนักสืบ ตอน บทเพลงปีศาจ ขึ้นมาทันใด นิยายชุดนี้ มันบ่งบอกรสนิยมทางเพศคนญี่ปุ่น

แปลกประหลาย น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ ตลอดเวลาที่ผมอ่านนิยายชุดนี้ มักเปิดเพลง Astral Voyage กับ Silence ไปด้วยเสมอๆ

มันได้บรรยากาศ ความลึกลับ ซ้อนปม หรือคำสาป และการสืบค้นแบบนิยายสืบสวนสอบสวนดี ฯ

- ที่ว่ามาทั้งหมด ไม่รู้จักสักวง เด่วลองหาฟังพวกโรคจิตแนวญี่ปุ่นตามนั้นที่ยูทูปดู เผื่อจะมี

แต่ผมไม่ค่อยชอบฟังอะไรที่ให้บรรยากาศ คลื่นเหียน วิตถาร น่ารังเกียจนะ ชอบที่มันเป็นงานเพลงที่เป็นศิลปะัเนียนๆจริงๆ ฯ

-อีกคนที่ชอบพวกหนังฆาตกรรม Horror สยองขวัญและทำตัวเพี้ยนๆ ก็ Buckethead แต่งานของแก ถ้าเกี่ยวด้วยสยองขวัญ

ดู็ออกจะทำเอาขำๆ โปกฮา เนื้อๆที่เป็นเพลงฆาตกรรม เป็นชิ้นเป็นอันดูจะไม่มีเท่าไหร่ บางทีเพลงออกจะดี แต่ทะลึ่งทำสั้นๆ

ไม่กี่นาที ฯ

ฮ่า ฮ่า ถ้างั้น เข้ายูทูปก่อนเลย....................ทดสอบๆ เผื่อจะถูกจริต ฯ

เป็นวงกอธิคสุดโปรดของผมเลยล่ะ

อีกเพลงที่ผมนึกถึง เพลง Dreamcatcher ของ Secret Garden บรรยากาศมันเหมือนเพิ่งผ่านพ้น

จากห่วงเวลาแห่งความเศร้าสลด ความพลัดพราก.............อะไรทำนองนั้น ฯ

อย่างนั้นหรือ แต่แนวกอธิคนี่ ผมไม่ค่อยถูกจริตเอาเสียเลย ยังไงเสีย ของสักสองเพลง ที่เป็นเพลงเด็ด

ของวงนี้หน่อยสิครับ จะลองฟังดู ฯ

งั้นลอง Devil doll - Dies Irae อัลบั้มนี้ดู ยูทูบมีนะ
มันไม่เชิงกอธิคเพียวๆ แต่มีกลิ่นของคลาสสิก และค่อนข้างโปรแกรสสีฟ ทำให้ผมชอบวงนี้ครับ

ผมชอบเพลงบรรยากาศ Nostalgic แบบนั้นเหมือนกันครับ และก็ชอบหลายๆเพลงของ Secret Garden เหมือนกันด้วย มาตอนนี้ก็นึกถึงอัลบั้ม Visual: An Ambient Experience ของ Øystein Sevåg & Lakki Patey ขึ้นมาทันใด มันเป็นอัลบั้มที่บรรเลงอคูสติกกีตาร์เบาๆคลอไปกับเสียงคีย์บอร์ดเยือกเย็นและซาวนด์แอมเบียนท์อันเปราะบางได้เข้มลึกถึงอารมณ์มาก ถึงแม้ว่าปกอัลบั้มจะห่วยไม่ชวนให้ฟังแค่ใหน แต่ท่วงทำนองและบรรยากาศข้างในมันสะกิดต่อมน้ำตาเข้าเต็มๆครับ งานนี้ Windham Hill สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพอีกแล้วครับท่าน

(http://mp3.uzhgorod.name/uploads/posts/2009-07/1247909613_1237925879_oystein-sevag-lakki-patey-visual.jpg)

Devil Doll - Dies Irae - Part 12 ไปทดสอบฟังมาแล้ว เพลงนี้เข้าท่าดี เล่นซะตกใจหมด หะ หะ

แบบนี้แหละที่ต้องการ ฯ http://www.youtube.com/watch?v=4mxY7Jy4rlk

เพลงออกแนวนิวเอจ แบบนี้ เพราะดี ผมก็ชอบฟังนะ แบบ Bandari ไรพวกนี้ แต่เพลงจำพวกนี้

ผมฟังแล้วเบื่อง่ายมากๆ ฟังไม่ได้นาน ฯ

ชุด Dies Irae นี่ยังปราณีหน่อยที่ซอยย่อยเป็นพาร์ทๆให้ได้ใจชื้นบ้าง (แต่ก็ย่อยซะจนฟังแยกแล้วไม่อินเลย) ส่วนชุดอื่นนี่ยาวเป็นพรืดเลยครับ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ฟังแบบตั้งแต่ต้นจนจบรวดเดียวเลยทุกที ก็เพลงมันทำได้น่าติดตามซะขนาดนั้นนี่ครับ หยุดฟังครึ่งๆกลางๆไม่ได้หรอก

ผมว่างานเค้าหม่นเศร้าและนิ่งกว่า Bandari เยอะนะครับ (โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบ Bandari ครับ) ยิ่งฟังแบบรวดเดียวทั้งอัลบั้มนี่ยิ่งดำดิ่งเลย ผมมักจะเปิดชุดนี้ฟังเมื่ออยู่คนเดียวตอนเย็นๆเวลาที่แสงโพล้เพล้ มันทำให้ผมได้ย้อนคิดอะไรหลายๆอย่างครับ

ไปตามฟังวงนี้ The Mount Fuji Doomjazz Corporation ซึ่งผมคิดว่าน่าจะถูกจริต

แต่ดันไปเจอวงนี้ The Kilimanjaro Darkjazz Ensemble วีดีโอข้างๆ ดูจะถูกจริตดี ฯ

ผมไปลองฟังที่ยูทูป คงเป็นงานชุดอื่นละมั้งครับ ส่วน Bandari ผมก็แทบไม่ได้ฟังเลย แม้จะหามาเก็บไว้แยะ ฯ

สองวงนี้จริงๆแล้วก็คือวงเดียวกันแหละครับ เพียงแต่ื The Mount Fuji.... จะค่อนไปทางโดรน/ดาร์กแอมเบียนท์ค่อนข้างมาก คือจะเน้นหนักที่บรรยากาศเคร่งเครียดกดดันมากกว่า (บางทีก็ออกแนวสั่นประสาท) ขณะที่ The Kilimanjaro... ยังพอสัมผัสจังหวะจะโคน พอหายใจหายคอได้บ้าง ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วผมก็ชอบ The Mount Fuji... มากกว่า The Kilimanjaro... เล็กครับ (แต่จริงๆงานเค้าก็คล้ายๆกันนั่นแหละ)

อ๋อครับ หะ หะ เด๋วถ้าว่างๆ จะหาฟัง แต่ตอนนี้ เล่นไปเล่นมา ตีสองซะแระ นอนดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ครับ ฯ

ผมเองก็ลืมเวลาไปเหมือนกัน เอาไปเอามากลายเป็นกระทู้นี้วิ่งเร็วมากเลย ทั้งๆที่ตอบกันแค่สองสามคนเอง  :D

อย่างว่าแหละครับ....ยิ่งดึก ยิ่งฟังเพลงได้เพราะ ถ้าไม่ง่วงซะก่อนอ่ะนะ

งั้นคืนนี้ ผมขอปิดท้ายด้วย เพลงของญี่ปุ่นที่เรียกว่า Gagaku ละกัน ผมละชอบไอ้เสียงขลุ่ยนั่นจริงๆ

ใครมีข้อมูลเด็ด เกี่ยวกับดนตรี Gagaku ก็ช่วยแบ่งปันให้อ่านด้วยนะครับ พี่ตั้ม ปัญญรักษ์ น่าจะ ๆ...............ฯ

อีกเพลงละกัน เพลง Osore Zan Mountain of Fear ของ Geinoh yamashirogumi เปิดเพลงมาเจอเสียง กรีดร้องเลย เข้าท่าดี ฯ

ถ้าชอบซาวด์แบบสั่นประสาท  ลองหาฟัง OST.  LOST HIGHWAY 

ผมว่าฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็สั่นประสาทดี 

Stalker - Recoil
Want - Recoil
The Downward Spiral - Nine Inch Nails

นึกออกแค่ Finally Free - Dream Theater ที่มีซาวนด์เอฟเฟกต์เสียงปืน และคนกรีดร้อง

จริงๆถ้าไม่ไปสนใจเนื้อหาและใช้จินตนาการเป็นหลักในการฟัง ผมว่าอัลบั้ม Liquid กับ Unsound Methods ของ Recoil ก็ให้บรรยากาศแบบนั้นเกือบทั้งชุดเลยนะครับ จริงๆแล้วต้องบอกว่าศิลปินแนว Trip-Hop กว่า 75% ก็ทำเพลงได้บรรยากาศอย่างที่ว่าแทบทั้งนั้นเลย

หรืออย่างอัลบั้ม 1.Outside ของ David Bowie ก็มีคอนเซปต์หลักของเรื่องเกี่ยวกับศิลปะการฆาตกรรมในโลกอนาคตที่มืดมนเช่นกัน ถ้าแยกฟังเป็นเพลงๆอาจไม่รู้สึกอะไรนัก แต่ถ้าฟังแบบยกชุดนี่มันจะอินมากเลยครับ

ถ้ารวมบรรยากาศแบบอาถรรพ์ด้วย ผมว่าเพลงข้างล่างน่าจะได้นะครับ เป็นบรรยากาศแห่งพิธีกรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ครับ


Volcano the Bear - She vang moon
http://www.youtube.com/watch?v=HRAowwuXqBo

ถ้าบรรยากาศอาถรรพ์แบบโบราณๆ วงแนว Neo-Folk หรือ Medieval-Folk ทางฝั่งยุโรปเกือบทุกวงก็น่าจะเข้าข่ายนะครับ

Suicide? - Barclay James Harvest

เพลงจากอัลบั้ม Octoberon ของ BJH สังเกตว่า Suicide จะต้องมี question mark ด้วย ผสมกับการดำเนินเรื่องราวและการขมวดปมตอนท้ายเพลงที่มีประโยคว่า Just in time ฟังแล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าผู้ชายที่โดดตึกตายคนนี้แกจะโดดลงมาเองหรือถูกใครบางคนผลักให้ตกตึกกันแน่ ส่วนใครที่ชัวร์ก็ช่วยคอนเฟิร์มหน่อยก็จะดีครับ แต่โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเขาโดนผลักตกตึกครับ

Suicide?

I woke up to a feeling, it was cold by my side
You had gone with the sunrise, leaving tears in my eyes
I got up with a feeling of an emptiness inside
To the noise of the sidewalk and the silence of my mind
Well I walked out this morning, down a street with no name
To a club called "The Loser", like a dog that's gone lame
Took the club elevator to the floor with a view
I took out life subscription - it's the only one they do

I stepped out on the guard rail, saw the crowds slowly part
Heard a voice shouting "Don't jump, please for God's sake let me move my car!"
Felt a hand on my shoulder, heard a voice cry "Just in time!"
Felt the quick push, felt the air rush
Felt the sidewalk, fell in line

[John Lees, © RAK Publishing Ltd]

ตามไปฟังแล้วครับ เพลงก็เพราะใช้ได้ แต่ผมว่าดนตรีมันออกจะเรียบๆ ไม่ได้ลึกลับ ซ่อนปมอะไร

จะมีก็ีแ็ต่ตอนท้ายที่มีเสียงฝีเท้าเท่านั้น ฯ

ดนตรีที่มีเนื้อร้องจะต่างกับดนตรีบรรเลงก็ตรงนี้แหละครับ เพราะถ้าดนตรีเข้มข้นจนออกนอกหน้า มันก็อาจจะดึงความสนใจเราไปอยู่ตรงนั้นหมด จนไม่ได้สนใจกับคำร้องเป็นเรื่องเป็นราวที่ศิลปินต้องการจะสื่อสักเท่าไรนัก (อย่างเพลง Suicide? ผมว่าเค้าเน้นตรงจุดนี้มากครับ) และบางทีดนตรีเรียบๆแบบนี้มันก็มีเสน่ห์ในความง่ายของมันอยู่ (Less is More) ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของเราแล้วล่ะครับ เพราะการฆาตกรรมก็ไม่จำเป็นต้องมีบรรยากาศลึกลับซ่อนเงื่อนเสมอไปนี่นา

คงจะเช่นนั้น เห็นด้วยครับ แต่ถ้าการฆาตกรรมที่ไม่ซ่อนเงื่อน มันก็ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้นสิครับ ยกตัวอย่าง คดีฆ่าเพราะ บันดาลโทสะธรรมดา คือ พวกเดินเหยียบตีน พวกก็ชักปืนมายิงดื้อๆ คนเห็นกันทั้งงาน กับ คดีหมอฆ่าแฟน แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
อำพรางศพ ผมว่าความสนใจ ของคนเราในการเสพข่าว แตกต่างกันนะครับ ปล.ผมแค่พูดเล่นสนุกๆนะครับ ฯ
วันสองวันมานี้ ผมฟัง Devil Doll - Dies Irae part 12 หลายรอบที่เดียว ชอบท่อนแรกๆ กับท่อนสุดท้าย ฯ

ความเห็นของคุณ lilium ตรงใจผมมากครับ

แม้เพลง Suicide? เพลงนี้อาจจะจะดูเรียบจนน่าเบื่อไปหน่อย แต่ถ้าฟังดูดี ๆ เพลงนี้มีนัยที่แดกดัน คือ หนึ่ง ฆ่าตัวตายจริงหรือ? สอง "มาทันเวลา (ผลักคนตกตึก) พอดี" ผมว่าเนื้อเพลงที่เรียบง่ายแบบนี้และเอฟเฟ็คท์อีกเล็กน้อยก็สามารถสร้างบรรยากาศได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีหรือเทคโนโลยีใด ๆ หรอกครับ และเพลงนี้ก็ถือว่าตรงที่สุดต่อกระทู้ที่ถามอีกด้วย

กำแพงแห่งภาษา คงปิดกั้นผมจากส่่วนนั้นครับ ฯ

ยังมีประเด็นที่แดกดันแบบตลกเจ็บปวดอยู่อีกสองวรรคในเพลง Suicide? ซึ่งประทับใจผมมาก คือ

I stepped out on the guard rail, saw the crowds slowly part
Heard a voice shouting "Don't jump, please for God's sake let me move my car!"

ลองนึกภาพตามนะครับ คนกำลังจะโดดตึกอยู่รอมร่อ แต่มีคนข้างล่างตะโกนขึ้นมาว่า "อย่าเพิ่งโดด ให้ตายซิ ขอเลื่อนรถไปให้พ้นก่อน" (ทำนองว่า เดี๋ยวจะโดดลงมาโดนรถของเขา ทำให้รถเสียหาย)

Danny Elfman - Main Titles , Red Dragon Ost. (ให้บรรยากาศ ตื่นเต้น แรงเร้า แฝงปม และ การสืบสวนดี)

http://www.youtube.com/watch?v=dJpryO8hn5c

Mark Snow - Materia Primoris The-X Files Theme (ให้บรรยากาศ.........พิศวงๆดี)

http://www.youtube.com/watch?v=NREx7z6z_V4

Halloween ของพี่หัวกระป๋อง ก็เจ๋งโคตร.......ฯ

http://www.youtube.com/watch?v=ZofYCpGF5Tg

ผมไปฟังเพลงนี้อีกที เพราะมากทีเดียว รู้สึกคุ้นหูมากๆ ด้วย แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าคล้ายเพลงของใคร

หรือว่าคล้ายเพลง John Lennon นะ ฯ

จำได้แหละ เคยฟังเพลง Wanderlust ของ Paul Mccartney (ปกติไม่ฟัง) พอมาฟังเพลงนี้ Barclay James Harvest - Suicide? เลยรู้สึกคุ้น พอทดลองเปิดเทียบดู ผมก็ว่ามีส่วนคล้ายกันมากทีเดียว ฯ

http://www.youtube.com/watch?v=MsRmsolrwNI      [Suicide?]

http://www.youtube.com/watch?v=EJSztSTErus        [Wanderlust]

David Bowie ยกมือขึ้น!

Outside เป็นอัลบั้มแรกของลุงแกที่ผมซื้อเลย
ด้วยความที่ชื่อชั้น Producer อย่าง Brian Eno
ผมเห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ฟังการสุมหัวทำงานของทั้งสอง

บางเพลงในอัลบั้มก็บีทเท่มากกกก
บางเพลงก็โคตะระเครียดด้วยเสียงหลอนๆ และคอร์ดแบบกัดกัน

ฟังแล้วได้อารมณ์โรคจิตพอประมาณ
ยิ่งถ้าดู Youtube เพลง "The Hearts Filthy Lesson" ประกอบด้วย
บวกคะแนนความรู้สึกโรคจิตเพิ่มได้อีกมากโข  ;D

จากที่ลองๆฟังหลายๆวงมางานนี้น่าจะพอเข้าข่าย

http://www.youtube.com/watch?v=ew29h4nBjnI

แต่มันเป็นงาน Sound Installation มากกว่าถ้าแค่ตัวเสียงอย่างเดียว

น่าจะออกแนว Sound Scape มากว่าเป็นเพลงมีการนำบางท่อนของศิลปินดังๆมาซ่อนไว้ด้วย
 
ส่วนภาพมาทีหลังเสียง

ปล ปิดไฟให้หมดทุกดวงก่อนรับชมจะเยี่ยมมาก

เพลง The Musical Box จากอัลบั้ม Nursery Cryme ของ Genesis ครับ เพลงนี้เป็นนิทานเหนือจริงเกี่ยวกับหญิงพี่เลี้ยงเด็กที่ฆาตกรรมทารกที่ตนเลี้ยงโดยทำให้เด็กหัวขาด (ดูตามหน้าปกอัลบั้ม) ต่อมาวิญญาณเด็กคนนั้นเข้าไปสิงในกล่องดนตรี วันดีคืนดีกล่องดนตรีถูกเปิดเล่น วิญญาณเด็กก็โผล่ออกมาราวกับยักษ์ในตะเกียงวิเศษ แต่คราวนี้กลายเป็นผู้ชายที่โตแล้วและได้ทำการข่มขืนพี่เลี้ยงของตนเอง บรรยากาศของเพลงนี้ช่วงแรกจะมีลักษณะแผ่วเบาและเขย่าประสาท อย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า creepy ควรดูช่วงท้ายที่เป็นไคลแม็กซ์ของเพลงนี้ซึ่ง Peter Gabriel หยิบหน้ากากปีศาจออกมาสวมใส่ ร้องและร่ายรำบนเวที เป็นที่น่าประทับใจยิ่ง ในไลฟ์โชว์ปี 1973 ตามลิงค์จากยูทู้บข้างล่างนี้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=AFBY4dvoISc

(http://www.vintageprog.com/gen3.jpg)

บางช่วงของเพลง Atom Heart Mother  ของ Pink Floyd ผมจินตนาการเป็นพิธีกรรม บูชาทางไสยศาสตร์ครับ

The Cask of Amontillado เพลงจากอัลบั้ม Tales of Mystery and Imagination ของ The Alan Parsons Project ถ้าใครเคยอ่านนิยายเรื่อง The Cask of Amontillado ของ Edgar Allan Poe ก็คงจะทราบดีหรือจำได้ว่ามีตัวละครที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้เล่าเรื่องถูกฆ่าโบกปูนในตอนจบครับ

เพลง The Tell-Tale Heart ในชุด Tales of Mystery and Imagination นี่ก็ใช่คอนเส็พท์ฆาตกรรมอำพราง เพราะแต่งมาจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันของ Edgar Allan Poe เรื่องมีอยู่ว่าชายหนุ่มคนหนึ่งรู้สึกกวนใจมากกับนัยน์ตาสีขุ่น ๆ ประหลาดข้างหนึ่งของคนแก่ที่เขาเฝ้าแอบดูตรงประตูอยู่ทุกคืน จนในที่สุดทนไม่ไหว จึงฆ่าหั่นศพคนแก่นั้นเสียแล้วเอาชิ้นส่วนซ่อนไว้ใต้กระดานพื้นห้อง

เครดิตภาพ www.sffaudio.com

(http://www.sffaudio.com/images13/TheTellTaleHeartIllustratedByVirgilFinlay565.png)

เสียงร้องนำทั้งในเพลง The Cask of Amontillado และ The Tell-Tale Heart ฟังดูแล้วชั่วร้ายพอ ๆ กัน ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของ Arthur Brown หรือเปล่า ถ้ามีใครทราบก็วานบอกด้วยครับ