อันนี้ลิสต์เมทัลนะครับ
Lilium's 20 Favorite Albums of 2012 (Metal)Abominable Putridity - The Anomalies of Artificial Originบรูทัลเดธไฟแรงเลือดรัสเซียที่กลับมาพร้อมกับดนตรีสแลมอันเนี้ยบนิ้ง สะอาดหูกว่าที่เคย ฟังเพลินไร้รอยต่อตั้งแต่ต้นจนจบ อีกทั้งยังได้จอมสำรอกเลือดระดับตำนานของ Matti Way มาสังฆกรรมด้วย นอกจากนี้ปกอัลบั้มฝีมือ Par Olofsson ยังงดงามเกินห้ามใจ แบบนี้จะไม่ให้เป็นสุดยอดอัลบั้มแห่งปีนี้ได้อย่างไรกัน
Gnaw Their Tongues - Eschatological Scatologyหากใครที่เคยติดตามโปรเจคต์ของนาย Mories คนนี้มาก่อน ก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับดนตรี Black Noise/Ambient สุดสยองที่ทำเอาขนลุกเกรียวได้ทุกครั้งที่ฟัง แต่คราวนี้มันกลับมาแปลกด้วยการทำเพลงแบล็คเมทัลเน้นๆ กลองโปรแกรมอัดรัว แต่ก็ยังมีซาวนด์บรรยากาศชวนสะพรึงคอยหลอกหลอนอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้น การบันทึกเสียงแบบโลไฟยิ่งทำให้อัลบั้มนี้ฟังดูเข้มข้นและชั่วร้ายขึ้นมาก ซึ่งก็พอจะสรุปได้ว่าไม่ว่า Mories จะทำเพลงแบบใหน มันก็ยังเขย่าขวัญคุณได้เช่นเดิม
Devour the Unborn - Consuming the Morgue Remainsแม้จะเป็นผลงานเปิดตัวชุดแรก แต่ขุนพลบรูทัลจากเท็กซัสกลุ่มนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยความยึดมั่นในอุดมการณ์การเล่นสแลมเดธจังหวะเรียบง่าย นวดคลึงไปเรื่อยๆแทบจะทั้งอัลบั้ม ไม่มีลูกโซโล่เด็ดๆหรือเทคนิคแพรวพราวใดๆให้ได้ยิน แต่ก็ฟังเมามันถึงใจคอสแลมเป็นที่สุด
Begging For Incest Orgasmic Selfmutilationเช่นเดียวกับงานชุดข้างบน อัลบั้มชุดนี้มีทุกอย่างที่คนเกลียดสแลมจะเกลียดเข้าไส้ และมีทุกอย่างที่คอสแลมจะรักจนถึงตายเช่นกัน ความโหดเถื่อนรากเลือดและฝีมืออันเหนือชั้นไม่ใช่จุดขายของงานนี้ จะมีก็แต่โครงสร้างดนตรีอันเรียบง่ายตรงไปตรงมาที่ฟังแล้วสามารถโยกหัวตามได้อย่างไม่รู้เหนื่อยเท่านั้น
Epicardiectomy - Abhorrent Stench of Posthumous Gastrorectal Desecrationระหว่างที่รออัลบั้มใหม่ของ Cephalotripsy ที่ไม่ยอมออกสักที อัลบั้มชุดแรกของทริโอบรูทัลเลอร์วงนี้ก็ถือว่าเป็นงานที่ใช้ฟังแก้ขัดได้ดี ตั้งแต่ปกอัลบั้มที่มาแนวเดียวกันเป๊ะ บทเพลงสแลมบรูทัลชนิดเหนียวหนืดราวกับกาละแมยัดไส้กาวตราช้างที่มาพร้อมริฟฟ์หนักๆทื่อๆเหมือนค่อยๆหั่นด้วยมีดที่ไม่ได้ลับ ทั้งหมดนั้นช่วยสร้างบรรยากาศเหม็นเน่าได้ใจไม่แพ้อัลบั้มของ Cephalotripsy อันเป็นสุดที่รักเลยทีเดียว
Stoma - The Glorification of Sexual Depravationช่วงเวลาเจ็ดปีที่ห่างหายไปจากการออกอัลบั้มเต็ม ไม่ได้ทำให้กอร์ไกรนด์สี่ชิ้นจากแดนกังหันลมวงนี้ทำงานต่ำกว่ามาตรฐานไปเลย งานชุดนี้อาจจะไม่หนักโหดหรือกดดันชวนอ้วกขนาดกอร์ต้นตำรับ แต่ความมันแบบเน้นๆก็เป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้งานของ Stoma ฟังได้ไม่รู้เบื่อจริงๆ
Inopexia - Myocardical Biopsy Had a Lethal Outcomeอีกหนึ่งงานเด็ดจากรัสเซียที่น่าจะทำให้เหล่ากอร์เฮดน้ำแตกด้วยความสะใจเป็นแน่แท้ เวลา 21 นาที กับ 33 เพลงในชุดนี้ พวกมันใส่เกียร์ห้าเดินหน้าถล่มด้วยความเถื่อนสถุลอันสุดหฤหรรษ์แบบต่อเนื่องทั้งชุด เสียงบลาสต์สแนร์กระป๋องกระแป๋ง ผสานเสียงร้องสำรอกแบบอาจมท่วมปาก คือส่วนผสมที่บริโภคได้อย่างเอร็ดอร่อยราวกับอาหารจานเลิศก็มิปาน
7H Target - Fast-Slow Demolitionรัสเซียนสแลมเดธวงนี้ได้ใจผมไปเต็มๆด้วยการทำเพลงบนคอนเซปต์ภาพยนตร์ไซเบอร์พังค์สยองชวัญสุดคัลท์ที่ผมโปรดปรานอย่าง Tetsuo: The Iron Man ไม่เพียงแค่เนื้อหาเท่านั้น พวกมันยังตั้งใจเลือกเสียงกลองป๋องแป๋งเหมือนหวดโลหะ สร้างจังหวะสแลมพิลึกๆ และแทรกซาวนด์สังเคราะห์และแซมปลิงเข้ามาได้อย่างเฉียบ จนฟังแล้วรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังโดยที่ไม่ต้องดูภาพเลย
Animals Killing People & Andromorphus Rexalia - Phylum Morph-Apokalupsis (Split)นี่คือการจับมือกันเพื่อร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเหล่าสัตว์อันเคียดแค้นที่กลายพันธุ์มาบริโภคเนื้อคน และเหล่าเอเลี่ยนกระหายเลือดที่มองมนุษย์ไม่ต่างจากผักปลา ซึ่งดนตรีที่พวกมันนำเสนอก็เป็นบรูทัลเดธชนิดอภิมหาโกลาหล เดินหน้าถล่มแบบไร้ความปราณีใดๆทั้งปวง งานนี้คอซาดิสต์น่าจะถูกใจเป็นบ้ากันเลยทีเดียว
Witchrist The Grand Tormentorโคตรอัลบั้มแบล็ค/เดธแห่งปีที่ไม่จำเป็นต้องดาหน้าอัดด้วยความเร็วสูง ในทางกลับกัน ความหม่นหนืดของอัลบั้มชุดนี้มันยิ่งเพิ่มพูนความกดดันให้ดนตรีที่หนักกบาลอยู่แล้วยิ่งทวีความขลังข้นคลั่กเข้าไปอีก นอกจากนี้ ใครจะไปคิดเล่าว่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ที่เราชาวไทยรู้จักกันดีมันจะเข้ากับดนตรีแบบนี้ได้อย่างลงตัวชะมัด
Septic Autopsy & Hydropneumothorax - Chronic DIsseases Examiners (Split)งานสปลิทกอร์ไกรนด์กลองโปรแกรมอร่อยลิ้นตั้งแต่หน้าปกยันเนื้อใน เป็นการจับคู่ระหว่างสองวันแมนแบนด์ที่เข้ากันกลมกลืนดี สำหรับคนที่ไม่ใช่คอแนวนี้ นี่ก็คืองานขยะดีๆนี่เอง แต่แฟนๆของวงไซเบอร์กอร์อย่าง Lymphatic Phlegm หรือCatasexual Urge Motivation ก็คงจะเข้าใจดีว่างานชิ้นนี้มันเลิศรสเพียงใด
Hydrocele EP 1 & 2ไซด์โปรเจคต์สายกอร์นอยส์ของสมาชิกวง Sacrococcygeal Teratoma และ Purulent Jacuzzi ที่เชื่อว่าน่าจะได้อิทธิพลจาก Last Days of Humanity มาไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะการบลาสต์สแนร์กระป๋องเร็วจี๋แบบระนาบเดียวทั้งชุด บวกกับเสียงสำรอกชักโครกสุดเน่าเฟะ นี่คืองานดนตรีสำหนับกอร์เฮดเฉพาะกลุ่มจริงๆ
Meatus - The Triumphal Chariot of Antimonyดิบ ดิบ แล้วก็ดิบชนิดพยาธิตัวตืดไต่ชอนไชยั้วเยี้ยจริงๆ สำหรับงานของกอร์ไกรนเดอร์จากแดนเมเปิ้ลที่คงอุดมการณ์การอัดเสียงดิบหยาบแบบ Rehearsal และยังมีกลิ่นอายความเป็นน้อยส์คอร์เจืออยู่ด้วย งานนี้ใครที่ชอบงานเนี้ยบนิ้งคงต้องรีบถอยห่างหรือเขวี้ยงทิ้งถังขยะลงโดยพลันเลยทีเดียว
Sexcrement - Sloppy Secondsการกลับมาอีกครั้งของเดธเมทัลพันธุ์แปลกที่กล้าบอกว่าตัวเองได้อิทธิพลมาจาก Cannibal Corpse, Skinless, Kiss และ Motley Crue!!? ซึ่งจริงๆมันก็เป็นไปตามนั้นแหละ เพราะเดธเมทัลในแบบของพวกมันมีกรูฟสนุกๆเต็มไปหมด เหมาะเปิดในงานปาร์ตี้เป็นยิ่งนัก แต่อย่างไรพวกมันก็มีชั้นเชิงทางดนตรีมากพอตัว ทำให้งานชุดนี้ฟังดูมีเนื้อมีหนัง ไม่ได้กลวงโบ๋ไร้สาระไปซะเดียว
Dehumanized - Controlled Eliteเมื่อปี 1998 อัลบั้ม Prophecy Foretold ของพวกเขาจัดเป็นผลงานอันเดอร์กราวด์นิวยอร์คบรูทัลระดับขึ้นหิ้งชุดหนึ่งที่เดธเมทัลเฮดควรขวนขวายหามาฟัง หลังจากนั้น 14 ปีผ่านไปพวกเขาก็กลับมาอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อกับอัลบั้มเต็มลำดับที่สองที่แม้จะไม่มีอะไรแปลกใหม่ แถมไลน์อัพยังเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ความโหดคลาสสิคแบบนิวยอร์คสไตล์นั้นยังมีอยู่ครบถ้วน เลือด ตับ ไต เครื่องใน ไม่ต้องเยอะ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งมันน่ะชุดนี้
Hail Spirit Noir Pneumaนี่ก็เป็ยอีกหนึ่งวงแบล็คสุดสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างความแตกต่างจากความจำเจในกรอบของแนวดนตรีได้ แหละสำหรับวงนี้ พวกมันเลือกที่จะเอาดนตรีโปรเกรสสีฟร็อคและไซคีเดลิกแบบต้นยุค 70s แท้ๆมาผสมอย่างไม่เคอะเขิน และได้อารมณ์แบบวงยุคนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงพยายามทำเหมือน ชนิดที่สามารถเรียกว่าเป็นวง Procol Harum, The Doors หรือ Atomic Rooster เวอร์ชันโดนซาตานเข้าสิงก็ไม่ผิดนัก
Thy Art is Murder Hateนี่คือตัวอย่างของวงเดธคอร์ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดียว ความโหดนั้นอยู่ในระดับที่น่าดูชม ส่วนภาคเทคนิคก็ใส่เข้ามาได้อย่างน่าฟัง ไม่ล้น ไม่แหว่ง ท่อนเบรคดาวน์ก็มาแบบเนียนๆ รู้จักพอประมาณ ฟังไม่เสียอารมณ์เลย ทำให้รู้สึกว่า เออ ไอ้พวกนี้มันเขียนเพลงได้ดีนะ จริงๆฝีมือขนาดนี้ ผมว่าพวกมันน่าจะดังกว่านี้ได้อีกมากเลย
Hacktivist Hacktivist EPสองสามปีให้หลังมานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดนตรี Djent นั้นเป็นที่นิยมมากขึ้นผิดหูผิดตา มีวงหน้าใหม่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ดังนั้นวงที่จะอยู่รอดหรือถีบตัวมาเป็นที่รู้จักได้ก็ต้องรู้จักสร้างความแตกต่างแบบ Hacktivist นี่แหละ ที่ฉลาดเอาสองแรปเปอร์มาฝอยน้ำลายโชกบนกรูฟโยกๆที่มีทั้งเทคนิคซับซ้อนและซาวนด์บรรยากาศลอยละล่อง ฟังแล้วก็อดอุทานไม่ได้ว่า แม่งเท่โคตรๆเลยว่ะ!
Katatonia Dead End Kingsยอมรับว่าตอนแรกไม่คิดจะใส่อัลบั้มนี้เข้ามาเลยด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกว่าจับจุดเด่นอะไรไม่ได้ และไม่ค่อยมีเพลงติดหู แต่เมื่อยิ่งฟังนานเข้าๆก็ยิ่งเข้าถึงอัลบั้มนี้มากขึ้น เริ่มเห็นจุดเด่นในการเรียบเรียงดนตรีอันประณีตและลึกซึ้งกว่าที่เคย เป็นการต่อยอดจากร็อคหดหู่ไปสู่เส้นทางสายโปรเกรสสีฟอย่างสง่าผ่าเผย และปัจจุบันผมก็ตกหลุมรักอัลบั้มนีเข้าเต็มๆซะแล้ว
Circus Maximus Nineในอัลบั้มเต็มชุดที่สามนี้ ขุนพลโปรเกรสสีฟเมทัลจากนอร์เวย์กลุ่มนี้ก็ได้ยืนยันให้เราเห็นว่าพวกเขามีดีกว่าเป็นวงที่คอยแต่ลอกเลียนแนวทางดนตรีของ Dream Theater ไปวันๆ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นอายแบบ DT ยังคงมีอยู่ แต่พวกเขาก็ฉลาดพอที่จะใส่บทเพลงแบบเมโลดิกเมทัลที่สั้นกระชับและติดหูเป็นอย่างยิ่งเข้าไปเพื่อสร้างความแตกต่างและความอ่อนหวานให้กับบทเพลง นอกจากนี้พวกเขายังมีทีเด็ดที่เสียงร้องของ Michael Eriksen ที่ทั้งไพเราะและมีมิติ และตอนนี้ผมก็ชอบอัลบั้มนี้มากกว่าผลงานหลายๆชุดของ DT แล้วครับ