Thai Progressive Rock Community

ใครมีแผ่น bootleg ไม่ว่าจะรูปแบบไหนของคณะ Led Zeppelin มาช่วยกันแชร์ดูได้ตรงนี้เลยครับ.

ต้องขอโทษคุณโป่งด้วยครับ ที่ยังไม่ได้ลงรูปให้
เพิ่งไปรับกล้องมาเมื่อวาน ตอนแรกคิดว่าจะถ่ายลงวันนี้ แต่ลูกค้าดันมาเรียกให้ไปพบ เสียเวลาไปทั้งวันเลยครับ
วันพรุ่งนี้ การไฟฟ้าก็จะมาปรับปรุงสายไฟในหมู่บ้าน ดับไฟอีกทั้งวัน (ครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์  ???)
คิดว่าวันพฤหัสนี้คงลงได้แล้วครับ  ;D

ไม่เป็นไรครับ นี่มันเป็นการเพิ่มความสุขของงานอดิเรก เมื่อไหร่ที่ติดงานก็ต้องเอางานหลักไว้ก่อนครับ
แล้วไอ้เรื่องไฟฟ้านี่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เหมือนกัน

ของดียังงัยๆ ก็รอได้อยู่แล้ว แต่ผมว่าน่าจะเปิดอีกกระทู้นึงนะครับ เป็น 501 Bootleg Series อะไรทำนองนี้ :-)

ผมอยากจะดูผลงานบู้ทเล็คของวง Led Zeppelin ที่สมาชิก Thai Prog. ทุกท่านมีอยู่ในกระทู้นี้ครับ เพราะว่า สรรพคุณกับชื่อเสียง ของวงนี้ ใครๆ ก็รู้ว่าเค้าเป็นเจ้าพ่อของแผ่น bootleg มาเป็นเวลานานหลายทศวรรษแล้ว

ถ้าผมจำไม่ผิด คณะ Led Zeppelin น่าจะมีผลงานที่เป็นแผ่นบู้ทเล็คจำนวนมากกว่าแผ่นบู้ทเล็คของคณะ The Beatles เสียอีก !!!

คนที่สะสมผลงานของคณะ Led Zeppelin ทุกคน ผมคิดว่าน่าจะมีเคยมีแผ่นบู้ทเล็คเก็บเอาไว้หรือไม่ก็ต้องเคยฟังบ้าง ไม่มากก็น้อย
จริงมั้ยครับ โดยเฉพาะสมัยเทป 501 นี่อย่างน้อยก็ต้องมีสาวกคนไหนซื้อมาลองซักม้วนนึงล่ะครับ.

ผมขอเริ่มเลยก็แล้วกันด้วยบู้ทเล็คชุดแรกที่ชื่อว่า The Song of Detroit ...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/TSOD.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/TSODb1.jpg)

CD1 : Dazed And Confused, Stairway To Heaven.
CD2 : Moby Dick, Heartbreaker, Whole Lotta Love, Dancing Days.

มันเป็นเรื่องน่าแปลกที่ซีดีบู้ทเล็คชุดนี้เป็น limited edition ซึ่งแผ่นที่ผมมีเก็บสะสมอยู่นั้นเหมือนกับรูปภาพทุกอย่าง ยกเว้นเพียงแต่ว่า
แผ่นของผมมันไม่มีตัวเลขปั้มด้านมุมล่างขวามือว่าเป็นก้อปปี้ที่เท่าไหร่ ?

รายละเอียดสถานที่แสดงความจริงแล้วเป็นอย่างนี้ครับ...
เพลงในแผ่นแรกเป็นคอนเสิร์ตสมัยปี ค.ศ. 1973 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม จาก Salt Palace Arena เมือง Salt Lake City ประเทศ
สหรัฐอเมริกา ส่วนแผ่นที่สองเป็นคอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ปีเดียวกันจาก Cobo Hall เมือง Detroit ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่ใช่คอนเสิร์ตจากเมือง Detroit ทั้งหมดเหมือนกับที่พิมพ์บอกเอาไว้บนหน้าปก

โปรดสังเกตุว่า artwork เลียนแบบผลงานชุด The Song Remains The Same ได้ไม่เลวเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น front หรือว่า back cover
อีกทั้งด้านหน้าของ CD ทั้ง 2 แผ่นสกรีนด้วยรูปของอัลบั้มชุด Houses Of The Holy ที่เป็นสีแดงและน้ำเงินล้วนตามลำดับ ดูแล้วสดใสดี

ซื้อมาไม่ไกล้ไม่ไกลนี่หรอกครับ มิวสิควัน นั่นเอง
เมื่อก่อนนี้ทางร้านสั่งแผ่นประเภทนี้มาขายอยู่พักนึง ราคาก็พอยอมรับได้ แต่ทุกวันนี้จำไม่ได้แล้วว่าชุดนี้ซื้อมาราคาเท่าไหร่

หน้าปกบอกว่าเป็น soundboard recording พอฟังดูแล้วก็โอเค ไม่น่าเกลียด ถ้าให้เกรดคงได้แค่ B
ก็อย่างที่คุณ Panyarak เคยบอกแล้วว่า แผ่นหน้าปกสวยๆ อย่างนี้ (ซึ่งชุดนี้ก็เข้าเค้า) คุณภาพเสียงมักจะไม่ค่อยดีนัก

สำหรับเพลงที่ดีที่สุดตามความเห็นของผมน่าจะเป็นเพลง Moby Dick เพราะว่า John "Henry" Bonham โซโล่กลองได้สะใจ Robert Plant
ถึงกับชักชวนคนดูให้โก้งโค้งคำนับเพื่อเป็นการคารวะแด่มือกลองผู้ล่วงลับคนนี้ แล้วก็พูดซ้ำอยู่หลายหนด้วย

อีกอย่างนึงที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อ 2CD's ชุดนี้ก็คือเพลงสุดท้ายในแผ่นที่สองที่ชื่อว่า Dancing Days นานๆ ถึงจะเห็นเพลงนี้เล่นสดๆ ซักที
เลยนึกอยากฟังขึ้นมา  แต่ปรากฏว่าต้องผิดหวัง เพราะในแผ่นโดนหรี่จบ มีอยู่ไม่เต็มเพลง !!!

นี่คือผลเสียของแผ่นบู้ทเล็คบางชุด ที่คนซื้อไม่สามารถเปิดฟังก่อนได้
ในกรณีของผม ร้านมิวสิควัน ใจดี อนุญาติให้ทดลองฟังได้ ...มันเป็นความผิดของผมเองแหละครับที่เกรงใจเค้าไปหน่อย.

เดี๋ยวนี้ Format ที่มีการพิมพ์ปกหายากเข้าไปทุกวัน กลายเป็นต้องไปดาวน์โหลดมาฟัง ซึ่งฟังแล้วก็ผ่านไป
แม้ว่าเสียงจะไม่ดี แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น Bootleg ต้นกำหนิด ก็ควรค่าแก่การเก็บครับ

ซีดีชุดนี้ตั้งชื่อไว้แปลกๆ ว่า Put Led In Your Pencil

หน้าปกกางออกได้ทั้ง 4 ด้านพร้อมรูปเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนรวมทั้งรูปถ่ายหมู่ของคณะ Led Zeppelin ด้วย
...อย่างนี้ผมจะเรียกว่ามันเป็น digipack ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PLIYP1.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PLIYPb1.jpg)

สำหรับคุณภาพเสียงดีกว่าแผ่นเมื่อกี้นี้พอสมควร เพราะว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เคยออกอากาศทางรายการวิทยุในเครือข่ายของ BBC
ที่ชื่อว่า Top Gear ทั้งหมดรวม 2  ครั้ง ซึ่งเป็นการเล่นสดๆ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1969 ที่ Playhouse Theater (เพลง 1-4) กับ
วันที่ 24 มิถุนายน ปีเดียวกันที่ห้องบันทึกเสียง Maida Vale Studio 4 (เพลง 5-7) ประเทศอังกฤษ

แล้วแผ่นบู้ทเล็คก็พิมพ์ข้อมูลผิดๆ มาอีกตามระเบียบว่า เพลงบางส่วนมาจากคอนเสิร์ตที่อื่นที่ไม่ใช่ Playhouse Theater กรุง London
...ผมว่าสาเหตุนึงที่มักให้รายละเอียดผิดพลาดนี่คงจะเป็นการตั้งใจ เพื่อที่แฟนเพลงบางคนที่ไม่รู้อาจจะคว้าซื้อมาทันทีเมื่อเห็นวันที่แปลกๆ

เท่าที่จำได้แผ่นนี้ซื้อมาจากพันทิพย์งามวงศ์วานครับ แค่ 300 กว่าบาทเอง

ครั้นพอคณะ Led Zeppelin ออกผลงานชุด BBC Sessions มาปรากฏว่ามีหลายเพลงที่ซ้ำกับซีดีชุดนี้ แต่ผมก็ไม่ได้เสียดายเงินหรอกครับ
เพราะถือว่าได้มาด้วยราคาพอเหมาะ เก็บเอาไว้มันไม่เสียหายอะไร

อย่างที่คุณ Polotoon บอกนั่นแหละครับ มันมีคุณค่าสมควรแก่การสะสมจริงๆ.

ลงแผ่น CD ไป 2 ชุดแล้ว คราวนี้ถึงคิว LP บ้าง...
อัลบั้มคู่ชุดนี้ใช้ชื่อว่า  Persistence ครับ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PersistenceLP1.jpg)          (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PersistenceLPb.jpg)

มาฟอร์มเดิมอีกแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ การล้อเลียน หรือว่า เลียนแบบ หน้าปกชุด Presence ซึ่งผมว่าก็ใช้ได้นะ แต่เสียดายที่ซองอัลบั้มไม่ใช่แบบ gatefold เป็นเพียงแค่ single sleeve พิมพ์สี่สีอย่างดีด้วยกระดาษแข็งเหมือนปกแผ่นเสียงทั่วๆ ไป

ตัวคอนเสิร์ตเสียงไม่ค่อยชัด เพราะเป็นการแอบอัด (อย่างนี้แหละครับที่เค้าเรียกกันว่าแผ่นบู้ทเล็คของแท้) หรือที่รู้จักและ
เรียกกันว่า audience recording ส่วนทางด้านข้อมูลนั้นถูกต้อง คือเป็นการแสดงสดที่ Kezar Stadium เมือง San Francisco
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปี 1973

ถึงแม้ว่าระบบเสียงจะไม่ดีเอาเสียเลย ทว่าตั้งแต่ยุคซีดีเฟื่องฟูเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มี CD bootleg ผลิตคอนเสิร์ตเดียวกันนี้
ออกมาประมาณ 10 กว่าชุดแล้ว

นอกจากนี้ผมยังรู้มาว่า เมื่อประมาณปี 2000 มี soundboard ของการแสดงสดครั้งนี้ หลุดออกมา และ กลายเป็นแผ่นซีดี
บู้ทเล็คด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่ความยาวเพียงแค่ 60 นาทีเท่านั้น ไม่ complete เหมือนกับ audience recording ที่มีความยาว
ประมาณถึง 147 นาทีเต็ม

นี่คือรูปหน้าปกของซีดีที่ก็อปมาจาก LP ชุดนี้ แต่มีการเปลี่ยนแปลง design เล็กน้อย ซึ่งก็ดูดีไปอีกแบบนึง

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PersistenceCDf-1.jpg)         (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PersistenceCDb.jpg)

นอกเหนือจากซีดีคู่ชุดนี้ หน้าปกอื่นๆ ออกแบบกันใหม่หมด ไม่เหลือเค้าโครงเดิมจากหน้าปกแผ่นเสียงเอาไว้เลยครับ
( ภาพประกอบของ CD เวอร์ชั่น ผม "ดูด" มาจาก net ไม่มีใน collection ).

อ่านเพลินครับ :)

ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศโดยการดูหน้าปกแผ่นบู้ทเล็คที่ไม่ได้ก็อปจากใครมาเลยบ้าง...

อัลบั้มคู่ชุดนี้ชื่อ Live In Rotterdam ผลิตจาก Luxamburg ในยุค 80's ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งที่มีผลงานประเภทนี้ออกวางจำหน่ายมากประเทศนึงเลยทีเดียว

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/RotterdamLPf.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/RotterdamLPb.jpg)

รูปของ Robert Plant ถูกคัดเลือกให้นำมาขึ้นเป็นหน้าปกในแบบฉายเดี่ยว background สีม่วงสดงดงามอร่ามตา ไม่ได้มี design อะไรมาก
ส่วนด้านหลังปกออกแบบได้ดี มีภาพการแสดงสดของคณะ Led Zeppelin มาประกอบ ตัวหนังสือก็ใหญ่พอเหมาะดูเรียบง่ายไม่ใช่ artwork
ที่ต้องทุ่มไอเดียและใช้เวลานาน

แต่ก็ต้องยอมรับความเนี้ยบของซองแผ่นเสียงชุดนี้ (single sleeve) เพราะว่าพิมพ์ด้วยกระดาษแข็งอย่างดี และยังเคลือบมันอีกด้วย หาก
พิจารณาแล้วต้องบอกว่าใช้ความพิถีพิถันในการทำจริงๆ ไม่ใช่กระจอกๆ

ทางด้านตัวแผ่น vinyl ก็ไม่ใช่สีดำเหมือนปกติ...ทั้งสองแผ่นเป็น multi-colour vinyl ครับ !

...ก็ผมบอกแล้วว่าแผ่นเสียงชุดนี้มันไม่ธรรมดาเลย

เพียงแค่ไม่กี่อย่างที่ผมเอ่ยถึงก็สามารถทำให้บรรดานักสะสมที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของคณะ Led Zeppelin ตัดสินใจซื้อมาครอบครองได้อย่าง
ไม่ต้องครุ่นคิดหลายหนให้มันเสียเวล่ำเวลา

คราวนี้มาสัมผัสกับเนื้อในว่าจะเข้าข่าย...ข้างนอกสดใส ข้างในป๊ะติ้งโหน่ง...หรือเปล่า ?

...มาต่อกันเลยครับ

ระดับ Swingin' Pig ซึ่งเปรียบเสมือนหนึ่งในตองอูของผลงานบู้ทเล็คคงไม่ทำเสียชื่อแน่

เริ่มตั้งแต่วันที่การแสดงคอนเสิร์ตที่พิมพ์มาถูกต้องกับ package อันสวยหรูก็รับคะแนนไปเกินครึ่งแล้วจากนักสะสมแผ่น bootleg
และอัลบั้มนี้ยังเป็น soundboard recording ด้วย มันยิ่งทำให้ตัวผลงานชุดนี้มีคุณค่าขึ้นอีกเยอะ

พอได้เปิดแผ่นเสียงฟัง รู้สึกว่าคุณภาพไม่ดีเหมือนกับคอนเสิร์ตที่อัดมาจากการรายการวิทยุอย่าง BBC ได้เลย  ที่บอกว่า
เป็น SBD นั้น มันก็จริงอยู่ครับ แต่อาจใช้ master ที่เป็นก็อปปี้ generation ที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้มาเป็นต้นฉบับ 

ถึงแม้จะทำให้เสียอารมณ์นิดๆ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากตั้งแต่ต้นอยู่แล้วครับ ก็เลยถือว่าสอบผ่าน ปล่อยเลยตามเลยดีกว่า
อย่าซีเรียสมาก เพราะว่าเดี๋ยวจะไม่สนุกและไม่มีความสุขกับการฟังเพลง

เท่าที่ผมรู้มาเพลงที่บรรจุอยู่ในอัลบั้มคู่ชุดนี้ไม่ใช่คอนเสิร์ตเต็มๆ ของคณะ Led Zeppelin ในคืนนั้นนะครับ อันนี้เป็นเพียง
ฉบับย่อๆ ที่มีเต็มๆ ก็มี แต่ต้องตามซื้ออีกอัลบั้มนึง !!!

*#@)&^$!   ปัทโธ่เอ้ย ! ...มารู้เอาตอนหลังจากที่คว้ากลับมาบ้านแล้ว

นี่แหละครับ ที่เขาเรียกกันว่าธุรกิจดนตรี.

แผ่นบู้ทเล็คที่ผมเขียนผ่านมาทั้ง 4 ชุดนั้น 2 ชุดแรกได้มาจากเมืองไทยเรานี้แหละ ส่วนชุดที่ 3 กับ 4 ซื้อมาจากประเทศ
สหรัฐอเมริกา กับ สิงคโปร์ ตามลำดับ

เท่าที่ได้เล่าเกร็ดประวัติเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละแผ่นมา หลายคนที่ไม่ค่อยนิยมสะสมหรือเก็บแผ่นบู้ทเล็คอาจจะแคลงใจว่า...
...แล้วมีเอาไว้ทำไมหว่า ในเมื่อระบบเสียงก็ฟังไม่รื่นหูเอาเสียเลย ?

เมื่อก่อนผมก็คิดอย่างนี้แหละครับ ซึ่ง "คำตอบ" อยู่ที่อัลบั้มต่อไปที่ผมกำลังจะเขียนถึงนี่เลย

และนี่คืออัลบั้มที่ชื่อว่า White Summer ผลิตโดย The Swingin' Pig Records (TSPR)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/WhiteSummerCD.jpg)  (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/WhiteSummerCDb.jpg)

ปีที่ผลิตตามข้อมูลพิมพ์ไว้บนหลังปกคือปี 1989 ซึ่งมีการปั้มแผ่นเสียง LP ออกมาวางจำหน่ายพร้อมกันไปด้วย
... ยังกับเป็นบริษัทต้นสังกัดของคณะ Led Zeppelin เองเลยครับ

คอนเสิร์ตของซีดีชุดนี้เอามาจากแผ่นเสียง รายการ BBC Rock Hour ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนำการแสดง
สดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ปี 1969 ณ. Playhouse Theatre กรุง London ประเทศอังกฤษ มาเปิดใหม่ซ้ำอีกครั้ง เพราะฉะนั้นคุณภาพเสียง
จึงเทียบเท่ากับ official live album ทั่วๆ ไปได้อย่างสบาย

ผมอยากจะบอกนิดนึงว่า สมัยก่อนโน้นคือยุค 70's กับ 80's พ่อค้าแผ่นบู้ทเล็คส่วนใหญ่ (...ขอเน้นอีกทีว่า ส่วนใหญ่นะครับ) มักไม่ค่อย
ลงทุนกับผลงานของตัวเองมากนัก ก็เลยใช้วัตถุดิบ (หมายถึงคอนเสิร์ต) ที่ค่อนข้างจะซ้ำซาก แล้วที่สำคัญก็คือ ผลัดกันก็อปกันไปก็อป
กันมา เสร็จแล้วจึงเปลี่ยนชื่อหรือว่าข้อมูลต่างๆ กันให้ยุ่งไปหมด จะเหลือคนที่ตั้งใจทำแผ่นบู้ทเล็คมีระดับสามารถตีตรารับรองคุณภาพได้
อยู่เพียงน้อยนิด และอัลบั้มชุด White Summer ก็เป็นหนึ่งในน้อยนิดนั้นครับ

เจ้าของ TSPR คงใช้เครื่องเสียงอย่างดี (อย่าลืมว่าตอนนั้นยังไม่มี computer ใช้นะครับ) อัดจากรายการวิทยุ หรือไม่ก็ลงทุนซื้อแผ่นเสียง Radio Show LP หรือว่า Reel To Reel Tape มาทำเป็น master ของอัลบั้มชุดนี้เลยก็ได้ จึงทำให้สุ้มเสียงใกล้เคียงกับต้นฉบับมาก เรียกว่า
ถ้าใครไม่รู้อาจนึกว่าเป็นผลงานที่ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจริงๆ

ความพิเศษของอัลบั้มชุดนี้อยู่ตรงที่ว่ามันเป็นคอนเสิร์ตที่บางเพลงไม่สามารถหาฟังได้จากผลงานของทางคณะ Led Zeppelin ที่วาง
จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะเพลง How Many More Times ช่วงขึ้นต้นนั้น ยังมีการแนะนำชื่อนักดนตรีทุกคนอยู่อย่างครบถ้วน

ในหนังสือ The Illustrated Collector's Guide To Led Zeppelin (3rd Edition) ที่ผมมีอยู่ก่อนที่จะหาอัลบั้มชุด White Summer มาฟัง
คนเขียนคือ Robert Godwin เค้าแนะนำว่า "This is the best and most complete version of this material." ก็เลยทำให้ผมมีความ
พยายามตามล่าหาแผ่นนี้อยู่ได้ระยะหนึ่ง จำได้ว่านานพอสมควร จนในที่สุดไปเจอที่ประเทศสเปน !!!

ทั้งๆ ที่ตัวผมเองก็มีเทปอัดจากวิทยุเก็บเอาไว้อยู่แล้วแต่ด้วยความอยากลองเลยต้องสนองอารมณ์ตัวเองเสียหน่อย ซึ่งในที่สุดพอได้เป็นเจ้า
ของและได้สัมผัสกับมันแล้ว บอกได้คำเดียวว่า คุ้มค่าแก่การรอคอยครับ

ทุกวันนี้อาจจะมีซีดี remastered version ที่ให้สุ้มเสียงดีกว่าแผ่นนี้แล้วก็ได้ ดังนั้นถ้าใครอยากฟังก็ควรจะจำวันที่ของคอนเสิร์ตและสถานที่
เก็บเป็นข้อมูลเอาไว้ครับ เผื่อบางทีอาจจะมีโอกาศโหลดได้จากที่ไหน หรือ ส้มหล่น เจอแผ่นบู้ทเล็คเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเท่าที่ผมทราบ
เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรที่หาฟังยากๆ เหมือนสมัยก่อนนี้อีกแล้วบนโลกของอินเตอร์เน็ท

ผมจึงอยากจะบอกทุกคนที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ว่า ถ้าคุณชอบอัลบั้มชุด BBC Sessions และอยากฟังบันทึกการแสดงสดของคณะ
Led Zeppelin ในยุคปี ค.ศ. 1969 เพิ่มเติมอีก คอนเสิร์ตนี้ตอบสนองตัณหาคุณได้เต็มเปี่ยม !!!

ประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากชี้ให้เห็นก็คือ เสน่ห์ของการหาผลงานมาเก็บสะสมเอาไว้แต่ละแผ่นนี่แหละครับ ย้อนกลับไปยุคนั้นมัน
แสนลำบากลำบน ถ้า connections ของเราไม่อาจตอบสนองความต้องการได้แล้ว มันอยู่ที่ดวงและโอกาศจริงๆ นะครับกว่าจะได้
มันมาครอบครอง แต่พอได้มันมาแล้ว ถือว่าเป็นความสุขที่ยากจะลืมได้ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม.

ปก Bootleg สวยดีครับ ดูจากภาพ Bootleg การแสดงยุคหลังๆ ก็เห็นหน้าสมาชิกเริ่มแก่ขึ้น การแต่งตัวก็เปลี่ยนไป

แผ่นแสดงสด Official ของวงนี้ มิกซ์เสียงได้น่าประทับใจ แต่ Bootleg นี่ต้องลอง ไม่รู้จะดีแค่ไหน

ลองหาอัลบั้มนี้โหลดดูก็ได้นะครับ

เริ่มต้นด้วย White Summer หรือ สถานที่กับวันที่ก็ได้ เพราะว่าคอนเสิร์ตของ BBC ครั้งนี้มีคนก็อปทำแผ่นบู้ทเล็คมากมายหลายชุด
จนแทบนับกันไม่หวั่นไม่ไหว

แล้วผมคิดว่า ปัจจุบันนี้คงจะเสียงดีขี้นแล้วแน่นอนเพราะว่าเท่าที่ทราบมีการ re-broadcast ที่ต่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งพ่อค้าบู้ทเล็คก็คงจะ upgrade ระบบคุณภาพเสียงของตัวเองตามไปด้วยล่ะครับ.

ผมโหลด complete BBC ไว้ชุดหนึ่ง เสียงโอเคเลยครับ ชอบ Zep ยุค 69 เพราะเสียงร้องของแพลนต์นั้นสุดยอดไร้ขอบเขตและดนตรียังเน้นบลูส์มากๆครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบอัลบั้มคุ่ชุด BBC Sessions ของคณะ Led Zeppelin มากครับ แต่มันเป็นการรวมเพลงจากกรุของ BBC ที่ไม่ครบ
เท่าแผ่นบู้ทเล็ค และบางเพลงก็มีการ edit ออกไปเพราะตกลงกันไม่ได้เรื่องลิขสิทธิ์ (เงิน)

ถ้าไม่สนใจเรื่องบางเพลงหายไปหรือว่าโดนตัดเล็กๆ น้อยๆ แล้วล่ะก็ อัลบั้มชุดนี้น่าจะได้คะแนนเต็มร้อยไปเลย
 
สำหรับผม ถึงแม้รู้แล้วผมก็อยากจะตัดคะแนนออกเพียงแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้นเองแหละครับ
สาเหตุก็เพราะว่าอัลบั้มชุดนี้พวกเค้าเล่นได้ถึงกึ๋นจริงๆ

Live in Canada 1971

(http://i345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/DSC06412.jpg)
(http://i345.photobucket.com/albums/p371/turn_back/DSC06408.jpg)

สอยมาตอนกองอยู่ในกระบะครับ
สุ้มเสียงหายห่วงครับ


คือ ห่วงหลุด หายหมด

อ้า...ขุมทองอยู่นี่เอง ยิ่งกว่า แมคแคนน่าซะอีก !!

ผมก็มีซีดีชุดนี้ครับ เสียงมันค่อนข้างไม่ดีก็เลยผ่านไปก่อน แล้วอีกอย่างนึงก็คือ...
แผ่นของผมหน้าปกมันหายไปครับ :-(

ค้นดูใน net มันมีแต่รุ่นใหม่ ซึ่งมีคำว่า Unauthorised มาปาดเฉียงทับ artwork ทั้งหน้าปกหลังปกดูให้รกลูกกะตาเล่นๆ
(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/CanadaF.jpg)      (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/CanadaB.jpg)

ท่านผีช่วย ถ่ายเอกสารสีกางหน้าปกทั้งหมดให้ผมหน่อยนะครับ
แล้วถ้าเจอกันก็อยากจะรบกวนให้นำติดตัวมาด้วยได้มั้ยครับ ?
...อยากได้จริงๆ ง่ะ

มีเรื่องอยากถาม ท่านผี อีกนิดนึงครับว่า ผมส่องดูแผ่นของผมแล้วมันเป็นแผ่นทองอ่อนๆ
แล้วของ ท่านผี ล่ะครับ เหมือนกันหรือเปล่า ?

ยินดีครับพี่ ;D
ส่วนเรื่องสีทอง-สีเงิน
เดี๋ยวกลับบ้าน ไปเช็คให้นะครับผม

รบกวน Xerox เฉพาะปกหน้านะครับ แต่ถ่ายให้มันเหมือนต้นฉบับเลยนะครับ
ส่วนปกหลังที่มี Bar Code นั้น ผมมีอยู่แล้วกับ case ของมันเอง 
ขอบคุณล่วงหน้าจริงๆ ครับ :-)

ใครที่ยังมีเทปบู้ทเล็คยี่ห้อ 501 ของคณะ Led Zeppelin เก็บเอาไว้...ถ้ามีเวลาก็ถ่ายรูปนำมาลงในกระทู้นี้ได้เลยครับ

แล้วผมจะเปิดเผยให้ดูพร้อมรูปว่าเทปของคุณนั้นมันมีที่มาที่ไปอย่างไร รวมทั้งลงภาพหน้าปกต้นฉบับด้วยว่ารูปร่าง
หน้าตามันเหมือนกันหรือเปล่า

ผมว่านี่น่าจะเป็นกิจกรรมยามว่าง ย้อนอดีตที่น่าจะเพลิดเพลินไปอีกแบบนึงนะครับ

(วันนี้ผมเพิ่งเพิ่มเติมข้อมูลที่ได้เขียนไปแล้ว ใครเคยอ่านมาแล้วก็น่าจะย้อนไปอ่านอีกครั้งนะครับ).

ผมมีอยู่ชุดเดียวครับ เคยลงไปทีนึงแล้วในกระทู้ Grandmother ship ขอเอามาลงอีกที่ครับ
คุณโป่งช่วยเฉลยที่ครับ ว่ามาจาก LP ชุดไหนครับ  :D

Led Zeppelin/Live in Copenhagen 1971
30 Sep 1989


Live in Copenhagen July 21 1971

(http://img143.imageshack.us/img143/3844/p1040554.jpg)

(http://img294.imageshack.us/img294/6707/p1040555.jpg)

(http://img143.imageshack.us/img143/6785/p1040558.jpg)

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2552 นี้ ผมจะกลับมาพร้อมกับแผ่นต้นฉบับเทป 501 ม้วนนี้นะครับ.

คุณ Arnold Layne อยากให้เฉลยว่าเทป 501 ของคณะ Led Zeppelin ชุดนี้มาจาก LP ชุดไหน...จัดให้เลยครับ !!!

เริ่มต้นจากหน้าปกก่อนที่นำภาพมาจากแผ่นเสียง bootleg ขนาด 10" ของคณะ Led Zeppelin ในชื่อเดียวกันของสังกัด
Rock Solid Records (USA)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ZeppelinEPf.jpg)  (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ZeppelinEPb.jpg)

เนื่องจากว่าเจ้าของเทปต้องการปกเทปที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้ดูสมกับคุณค่าของยี่ห้อ 501 ก็เลยนำรูปจาก
หน้าปกแผ่นเสียงบู้ทเล็คที่ดูเข้าท่ามาใช้ซะเลย รวมทั้งรายละเอียดของคอนเสิร์ตที่พิมพ์อยู่บนหลังปกด้วย

แต่ปรากฏว่า "เนื้อใน" กลับเอาผลงาน Radio Show 2LP's มาเป็นต้นฉบับแทนครับ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LZWW1LP.jpg) (นี่คือภาพสแกนของ vinyl พร้อม label)

ดังที่จะเห็นได้จากรูป...
แผ่นเสียงที่ผลิตเป็นรายการส่งให้กับสถานีวิทยุนั้นส่วนมากจะไม่มีหน้าปก

และนี่คือเหตุผลที่ทำไมเทป 501 ถึงได้ออกแบบปกชุดนี้เอง !!!

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LZWW1cue.jpg) (Cue Sheet มีเอาไว้ไห้ดีเจดูรายละเอียดเวลาของรายการ)

สำหรับอัลบั้มชุดนี้นั้นเป็นแผ่นเสียง 2 แผ่นของรายการ In Concert ซึ่งผลิตโดยบริษัท Westwood One Radio Networks 
(โชว์นัมเบอร์ IC 86-07 ) กำหนดการกระจายเสียงออกอากาศทางสถานีวิทยุในเครือข่ายเมื่อวันที่ 14 เมษายน ปี 1986
เฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว หลังจากนี้แล้ว ออกอากาศซ้ำประมาณปีละครั้งมาจนถึงทุกวันนี้

ความยาวของรายการก็ประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่ว่าในเทป 501 ม้วนนี้คัดเลือกเพลงมาให้พอดีกับเทปม้วนเดียวเท่านั้น
ส่วนตัวผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงไม่ผลิตเทปออกมา 2 ม้วนเหมือนที่เคยทำแทบทุกชุด

ตามความคิดของผมน่าจะเป็นเพราะว่าอัลบั้มเทปคู่ของคณะ Led Zeppelin 2-3 ชุด ที่ออกขายก่อนหน้านี้คงไม่ค่อยประสบ
ความสำเร็จเท่าที่ควร (อันมีผลมาจากเสียงที่ไม่ดีด้วย) ครั้นพอได้แผ่น Radio Show ที่มีคุณภาพเสียงไร้ที่ติก็เลยตัดสินใจ
ลองดูอีกสักครั้ง เพื่อเอาใจแฟนๆ ของวงดนตรี Hard Rock ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกคณะนี้

อีกอย่างที่ไม่ต้องคิดก็สามารถฟันธงได้เลยว่า ข้อมูลรายละเอียดของคอนเสิร์ตมันต้อง "บิดพริ้ว" และ "ผิด" อย่างมหันต์
เพราะว่าดันลอกมาจากหลังปกแผ่นเสียง 10" (red vinyl) เฉยๆ ซะยังงั้นแหละ ราวกับว่า คนออกแบบปก กับ คนอัดเทป
ที่ทำ master นั้นเป็นคนละคนเลย (ตามความจริงแล้วเป็นคนเดียวกัน หรือไม่ก็จงใจทำแบบนี้)

...เรียกว่า ต่างคนต่างทำอาจไม่มีการนัดแนะอะไรกันไว้ก่อนว่าจะเอาแผ่นเสียงต้นฉบับชุดไหนมาอัดกันแน่ ?!?!?!

นี่คือข้อเท็จจริงของผลงานประเถทบู้ทเล็คบางเสี้ยวที่มักจะเป็นอย่างนี้ คือว่า ตีพิมพ์ข้อมูลบนปกมั่วกันไปหมด

ความจริงแล้วข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นอย่างนี้ครับ...
เพลงทั้งหมด 7 เพลงไม่ได้เป็นการแสดงสดที่เมือง โคเปนเฮเกน แต่เป็นกรุง London ในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ที่
Playhouse Theatre (เพลง 1-2) กับ Paris Theatre (เพลง 3-7) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ปี 1969 กับ 1 เมษายน ปี
1971 ตามลำดับ และเป็นลิขสิทธิ์ของ BBC เค้า

ถ้าใครมี CD ชุด BBC Sessions อาจจะลองเปิดฟังเทียบดูได้ ซึ่งทุกเพลงก็มีอยู่ในอัลบั้มคู่บันทึกการแสดงสดชุดนี้แล้ว
เช่นกัน ซึ่งก็เป็นเวอร์ชั่นเดียวกันด้วยครับ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/BBCSessionsCD.jpg)

มาถึงปัจจจุบัน บู้ทเล็คชุดนี้กลับมาเกิดใหม่ได้ เพราะว่ามีทาง upgrade คุณถาพเสียงถึงระดับ 100% เต็ม...

แค่เปิดฟังอัลบั้มชุด BBC Sessions ในขณะเดียวกันก็นึกถึงหน้าปกเทป 501 ไปด้วย
...ทำแบบนี้สามารถมีความสุขกับเสียงเพลงย้อนอดีตได้แล้วครับ.

นอกจากเทป 501 ชุด Led Zeppelin นี้แล้ว
เท่าที่ผมจำได้ 501 ยังมี bootleg series ของทางคณะออกมาอีกถึง 2 ชุด (6 ม้วน) ด้วยกัน คือ...

Led Zeppelin Reunion Live 1988 Part 1 & 2 (2 ม้วน) และ...
On The Road Part 1 - 4  (4 ม้วน)
(บางทีอาจจะมีมากกว่า 2 ชุดนี้ก็ได้)

แล้วก็น่าจะมีผลงานในนาม Solo Tour ของ Jimmy Page หรือว่า Robert Plant อีก (หรือเปล่า ?)

ยังงัยๆ ถ้าใครมีเทปดังกล่าวก็ช่วยถ่ายรูปมาลงที่กระทู้นี้หน่อยนะครับ แล้วผมจะนำแผ่นเสียงต้นฉบับมาให้ดูกันอีก.

ผมได้นำภาพหน้าปกแผ่นเสียงต้นฉบับของเทป 501 Bootleg Series ทั้งหมด 4 ม้วนชุด On The Road จากคณะ Led Zeppelin
มาลงให้ดูเพลินๆ ตาครับ

ทั้งสามชุดเป็นอัลบั้มคู่เรียงตามลำดับได้ดังนี้...
เริ่มต้นด้วย Platinum แล้วก็ต่อด้วย Moonlight สุดท้ายคือ Dinosaur

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PlatinumLP.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/MoonlightLP.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/DinosaurLP.jpg)

มันเป็นความกล้าหาญชาญชัยมากที่ 501 สามารถออกเทปของคณะ Led Zeppelin มาขายเป็น collection เดียวถึง 4 ม้วนพร้อมๆ กัน
และผมคิดว่า มีน้อยคนที่จะเก็บสะสมผลงานชุดนี้เอาไว้ครบทุกตลับ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ReUnion501.jpg)

สำหรับเทป 501 ชุด Reunion Live 1988 นั้นมาจากแผ่นเสียงอัลบั้มคู่ชุด After The Crash Volume 2

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ATClpF.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/ATClpB.jpg)

แผ่นเสียงต้นฉบับทั้ง 2 แผ่นมีหน้าปกที่ "ยับเยิน" เสียแล้ว เพราะว่ามีเทปปิดรอบๆ ขอบทั้งสามด้าน เนื่องจากมันโดนกางออก
ตอนอยู่โรงพิมพ์เพื่อถ่ายรูปทำเพลตสี ครั้นพอได้คืนกลับมาก็มีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

ผมไม่ทราบว่าคอนเสิร์ตในอัลบั้มคู่ชุด After The Crash Volume 1 ซึ่งเป็นการแสดงสดของ Robert Plant ในฐานะศิลปิน
เดี่ยว (ปี 1988) นั้น มีเทป 501 ออกมาด้วยหรือเปล่า ?

วันนี้ได้ไปแวะร้าน Musicland มาแล้วก็ขอยืมหน้าปกเทป 501 ที่คุณเหน่งเคยเก็บไว้มาดูเพื่อย้อนความจำเล่นๆ
...ผมเลยจะทะยอยสแกนรูปมาให้คนที่เข้ามาที่กระทู้นี้ได้ดูกันไปด้วยนะครับ

น่าเสียดายที่อีกพับนึงของปกมันโดนกาวติดเอาไว้ ผมไม่กล้าแกะครับ กลัวปกมันขาด เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีเฉพาะ
รายละเอียดของเพลงกับด้านหน้าเท่านั้น พับในของปกทั้งหมดไม่สามารถนำมาโชว์ได้

โปรดทราบโดยทั่วกันว่า กระทู้นี้จะโชว์เฉพาะเครือข่ายของวงเรือเหาะว่องเวหาเท่านั้นนะครับ ถ้าเป็นวงอื่นต้องเข้าไปดูใน
กระทู้ของคุณ Arnold Layne ชื่อว่า "Unmasked : The Bootlegs of 501" ที่ห้อง Treasure Boxes
หรือว่า เฉพาะวง Pink Floyd ก็ห้องเดียวกัน แต่กระทู้ชื่อว่า "Pink Floyd Bootleg Series(Cassette)"

และนี่คือภาพหน้าปกของคณะ Led Zeppelin ที่ผมเอ่ยถึง...ครบถ้วนทั้ง 4 ชุด ไม่ขาดไม่เกิน

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/OnTheRoad5011.jpg)
(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/OnTheRoad5012.jpg)

ใครใจป้ำควักเงินซื้อมาหมด 4 ตลับก็ช่วยนำมา กางโชว์ ให้ชมกันเต็มๆ เป็นบุญตาหน่อย !!!

ในที่สุดก็มีจริงๆ
...เทปสมัย Outrider Tour ของ Jimmy Page เมื่อครั้งยังเป็นศิลปินเดี่ยว

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Outrider501.jpg)

วันหลังจะกลับมาเล่าต่อครับ.

วันนี้ลงรูปที่ค้างไปแล้ว เชิญกลับไปดูกันได้เลย...

...แต่ผมลืม Radio Show 2LP's อีกรูปนึง จึงต้องรอถ่ายรูปอีกครั้งก่อน แล้วจะนำมาลงให้ในภายหลัง รอไม่นานหรอกครับ.

ผมสแกนรูปของแผ่นเรดิโอโชว์ลงไปแล้วในกระทู้ครับ ใครอยากดูก็ย้อนกลับไปได้เลย :-)

กลับมาแล้วครับ แต่ยังไม่เล่าต่อ เพราะว่าหิวข้าว แล้วเดี๋ยวต้องไปขับรถอีก
มีแต่รูปแผ่นเสียงต้นฉบับของ The Outrider Tour ทั้ง 2 ม้วนมาโชว์ก่อนครับ...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/OutriderLPf.jpg) (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/OutriderLPb.jpg)

อัลบั้มคู่ชุดนี้ตั้งชื่อเอาไว้แปลกๆ ว่า The Return of The Led Gremlin

ผมเองพยายามแปลอยู่หลายตลบก็ตีความหมายไม่ได้ซักกะทีว่า ชื่อนี้มันหมายความว่าอย่างไร ?
(บางทีอารมณ์ขันของฝรั่งคนไทยเราก็เข้าใจยากอยู่เหมือนกัน)

จำได้ลางๆ ว่าเจ้าตัว Gremlins นี่เป็นสัตว์ประหลาด ซึ่งทำเป็นภาพยนต์ในปี 1984 และที่จำได้ดีก็เพราะมี Phoebe Cates
เล่นเป็นนางเอก ; )-

...มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Outrider501.jpg)

ตั้งแต่หน้าปกของเทป 501 ทั้งสองม้วนที่ไม่เหมือนกับแผ่นเสียงต้นฉบับ เพราะเจ้าของเทปแกออกแบบเอง โดยนำ
รูปจาก Outrider Tour Program มาทำเป็นหน้าปก ซึ่งพอแล้วเสร็จกลับดูสวยกว่าหน้าปก 2LP's เสียอีก ทั้งๆ ที่หน้า
ปกของแผ่นเสียงและเทปเอารูปภาพมาจากแหล่งเดียวกัน

...งานนี้ต้องขอยกนิ้วให้เต็มๆ (ไม่ใช่นิ้วกลาง แต่เป็นนิ้วหัวแม่โป้งนะครับ) กับคนออกแบบหน้าปกเทป 501 ด้วยความจริงใจ

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/OutriderTheTourBook.jpg) (Outrider Tour Program)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/JPTourBook1.jpg) (รูปภาพหน้า 2)   (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/JPTourBook2.jpg) (รูปภาพหน้า 23)

ถ้าใครได้มีโอกาศอ่านหนังสือ Voice ที่คุณ onemanshow ช่วยนำมาลงให้ได้อ่านกันในห้อง Treasure Boxes จะเห็น
ได้ว่าสมัยนั้น Jimmy Page เพิ่งอยู่ในระหว่างการตระเวณแสดงทัวร์ ซึ่งในหนังสือได้มีรายงานคอนเสิร์ตให้ได้อ่านกันแล้ว
ส่วนเทป 501 ก็ผลิตเทปบู้ทเล็คอัลบั้มคู่ออกมาให้นักฟังเพลงได้สัมผัสกันด้วยในเวลาใกล้เคียงกัน

ผมว่ามันเป็นความว่องไวมากในสมัยยังไม่มีอินเตอร์เน็ตที่สามารถทำได้แบบนี้ เพราะปกติแล้วกว่าจะได้ฟังผลงานใหม่
แต่ละชุดของศิลปินจากต่างประเทศนั้น อย่างน้อยต้องรอกันประมาณ 2-3 เดือน

ด้วยความสงสัยในกลยุทธิ์การตลาด ผมก็เลยถามเจ้าของเทปว่าทำไมได้ "ของ" มาเร็วดีเหลือเกิน ซึ่งแกก็ตอบว่าต้อง
ลงทุนหน่อยโดยการส่งทาง Express Mail Service (EMS) หมดทุกอย่าง !

พี่ชายส่งทัวร์โปรแกรมมาจากนิวยอร์ค สำหรับแผ่นเสียงบู้ทเล็คมีเพื่อนอยู่ที่ L.A.(ไม่ใช่ร็อยเอ็ดนะครับ) หรือ นครลอส
แอนเจลิส ช่วยหาซื้อมาให้ เรียกว่า มือซ้าย มือขวา ของเทปยี่ห้อ 501 ใครๆ ได้ยินในตอนนั้น ถ้าเป็นบริษัทผลิตเทปคู่
แข่งก็คงต้อง เกรง และ ขนลุกซู่ ขึ้นมาบ้างล่ะครับ

แต่ดีที่เทป 501 ไม่มีคู่แข่งเพราะว่าเค้าเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ออกเทปสะแปะสะปะเพื่อแข่งขันหรือว่าสู้กับใคร ดังที่
นักฟังเพลงสมัยนั้นรู้จักกันดีว่า เทปยี่ห้อนี้มีอัลบั้มไม่ซ้ำกับยี่ห้ออื่นเป็นส่วนมาก

ผมว่าถ้าจะมีคู่แข่งก็คือตัวของเค้าเองนี่แหละครับ ศัตรูตัวสำคัญเลย คือสู้กับตัวเองมากกว่าว่าจะทำยังไงให้กิจการมันดี
และ ติดตลาด มีนักฟังเพลงคอยให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

กลับมาที่ตัวเทปกันอีกทีครับ...

เท่าที่ผมรู้แผ่นเสียงบู้ทเล็คชุดนี้เป็นรุ่นแรกๆ เลยที่มีให้ได้ซื้อกันสมัย Outrider Tour ของ Jimmy Page หลังจากนี้แล้ว
จึงค่อยมีแผ่นซีดีทะยอยออกมาขายในตลาดมืด

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LAForum.jpg)

วันที่ของคอนเสิร์ตถูกต้องแล้วคือ วันที่ 7 เดือนตุลาคม ปี 1988 ส่วนสถานที่เป็น arena ขนาดใหญ่จุคนดูได้ประมาณ
เกือบ 20,000 คน มักรู้จักกันในชื่อว่า The Forum หรือ Inglewood Forum บางที่ก็เรียกกันว่า LA Forum ซึ่งตั้งอยู่
ในเมือง Inglewood เขต Los Angeles county ประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง

(ยังมีต่ออีกครับ)...

แก้ข่าวหน่อยนะครับ ผมไม่ได้เป็นคนเอา Voice มาลงหรอกครับ แค่ตามอ่านและให้ความเห็นครับ....

แหม จะมีความเป็นไปได้ไหมนี่ ที่จะมีผู้ใจบุญ transfer เทป 501 เหล่านี้เป็น mp3 (อีกทั้งยังใช้โปรแกรมใหม่ๆในการ"รีมาสเตอร์"ให้เสียงดีขึ้นกว่าเดิมไปอีก! ::))

Gremlin ตามตำนานมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกยานเวหาทั้งหลาย น่าจะเป็นการล้อไปกับชื่อ Zeppelin กระมังครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Gremlin (http://en.wikipedia.org/wiki/Gremlin)

(มาต่อตรงนี้เลยครับ)...

สมาชิกนักดนตรีมีด้วยกันสี่คน คือ John Miles เป็นนักร้องนำ ( สมัยก่อนดังจากเพลง High Fly กับ Music เมื่อปี 1975 )
Jason Bonham รับตำแหน่งมือกลอง ( ลูกชาย John Bonham ) Durban Laverde ทำหน้าที่มือเบส และ มี Jimmy Page
ลีดกีตาร์ ( หัวหน้าวงด้วย )

คุณภาพเสียงเป็น audience recording ระดับเกรด B+ พอฟังได้ไม่น่าเกลียดซักเท่าไหร่นัก และเป็นคอนเสิร์ตเต็มๆ
ที่ไม่มีการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น
 
เพลงสุดท้าย คือเพลง Stairway To Heaven เหมือนกับที่คุณ Winston บอกเลยว่าไม่มีนักร้องนำแต่ให้คนดูช่วย
กันร่วมขับร้องไปด้วยพร้อมๆ กัน มันได้บรรยากาศคลาสสิคดีเหลือเกินสำหรับเพลงอมตะอย่างนี้ครับ คล้ายกับคอนเสิร์ต
ของคณะ Rossington Collins Band ที่บรรเลงเพลง Free Bird โดยปราศจากนักร้องนำเพื่อเป็นการระลึกถึง Ronnie
Van Zant และ เพื่อนๆ ในวง แต่แตกต่างกันตรงที่เพลง STH นี้ Robert Plant ยังมีลมหายใจอยู่ครบถ้วน

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/jpout06_.jpg) (รูปภาพหน้า 6)(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/JPTourBook3.jpg) (รูปภาพหน้า 3)

ต่อมาได้มีผลงานประเภทบู้ทเล็คจากทัวร์เดียวกันนี้ผลิตออกมามากมาย ส่วนมากจะเป็นการแอบอัด แต่พอมี Radio Show
รายการ Superstar Concert Series (SCS) ของ Westwood One (WW1) ถ่ายทอดกระจายเสียงคอนเสิร์ตออกอากาศ
ทางสถานีวิทยุในเครือข่ายทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ตั้งแต่วันนั้นแหละครับได้มี Bootleg CD ผลิตออกมาแอบวาง
จำหน่ายในตลาดมืดหลายต่อหลายชุดด้วยกัน

WW1 บันทึกเสียงการแสดงสดอย่างเป็นทางการของ Jimmy Page เอาไว้เมื่อวันที่ 21 เดือนตุลาคม ปี 1988 ณ. Hara
Arena ในเมือง Dayton มลรัฐ Ohio และออกอากาศ 2 ครั้งด้วยกันคือ วันที่ 25 พฤศจิกายน ปี 1988 กับ วันที่ 21
กรกฎาคม ปี 1989 ด้วยความยาวประมาณ 90 นาทีเต็ม (รวมโฆษณา และ เสียงดีเจผู้จัดรายการ)

หากใครที่ไม่ค่อยพอใจกับคุณภาพเสียงของเทป 501 ทั้งสองม้วนนี้ ผมว่าน่าจะลองไปหาซื้อซีดีชุด Midnight Moonlight
มาฟังดูนะครับ เพราะว่าผลงานชุดนี้เป็นการก็อปปี้แผ่น Radio Show ที่ผมกล่าวถึงมาอีกทีนึง แต่ว่าความยาวของคอนเสิร์ต
สั้นกว่าปกตินะครับ เพราะว่ามีบางเพลงถูกตัดออกไป

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/MidnightMoonlightCDf.jpg)  (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/MidnightMoonlightCDb.jpg) (วันที่ของซีดีผิดนะครับ)

ก็อย่างว่าล่ะครับ ได้อย่างก็ต้องยอมเสียอีกอย่างนึง มันเป็นสัจธรรมบนโลกมนุษย์นี้ครับ.

อ้าว...ขอโทษทีครับ

ผมจำผิด !!!

ต้องเป็นคุณ onemanshow ถึงจะถูกที่นำหนังสือ Voice เล่มเก่าๆ มากางโชว์ให้ได้อ่านกันในห้อง Treasure Boxes ผมก็เลย
แก้คำผิดเรียบร้อยแล้วครับ


ผมยินดีที่จะนำแผ่นต้นฉบับเหล่านี้มาอัดลง CD-R ให้ครับ แต่ต้องมีคนมา "รีมาสเตอร์" ให้เสียงดีขึ้นกว่าเดิมไปอีก แล้วมาเปิด
website โหลดกันฟรีๆ ไปเลย หน้าปกก็ต้องมีคนออกแบบให้เหมือนเดิมนะครับ แต่ต้องเป็น CD Version ถึงจะเท่ห์ จะได้โหลด
ได้ด้วย เหมือนกับบู้ทเล็ค website อื่นๆ แต่นี่เป็นของคนไทยแล้วก็ใช้ชื่อ 501 เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าของ แล้วถ้าใครมีอะไรเพิ่ม
เติมก็มาลงตรงนี้ได้เลย แต่ต้องไม่ใช่ official album นะครับ เพราะว่าเดี๋ยวโดนจับ !!!

ถ้าจะทำจริงๆ จังๆ ไม่มีปัญหาหรอกครับ วัตถุดิบมีอยู่ในมืออยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามีใครมีเวลามากพอที่จะสละมาทำตรงนี้หรือเปล่า ?
หรือไม่ก็ค่อยๆ ทำกันไปเรื่อยๆ ก็ได้

อย่างนี้ต้องมานั่งจับเข่าคุยกันครับ ผลประโยชน์ไม่เอา เอาแต่ความมันส์ :-)

อ่านมันส์ (ขำ ๆ) ดีครับพี่โป่ง ไม่คิดว่าเทป 501 มันจะมีตำนานมากมายขนาดนี้ ข้อมูลแน่นปึ้กเจง ๆ  :D

ผมว่าบาสทำได้นะ รีมาสเตอร์เนี่ย :)

เห็นว่าทำงานอยู่จังหวัดสระบุรี แม้แต่เวลามาเล่นเว็ปนี้ยังน้อยลงเลยครับ

แต่ถ้าอยาก "รีมาสเตอร์" ก็ได้ ผมจะได้อัดแผ่น CD-R ให้ซักแผ่นนึงก่อน  ;)

โอว...ขอบคุณครับ

ผมว่าน่าจะใช่นะ

เปลี่ยนจาก Zeppelin เป็น Gremlin เพื่อล้อเลียนเล่นๆ อย่างงั้นเอง...นี่แหละคือชื่อผลงานบู้ทเล็คขนานแท้ !

พี่ทำ digital transfer copy (เรียกซะหรู) ไว้ก่อนก็เยี่ยมนะครับ ;)

ส่วนตัวผมเองถ้าจะให้"แต่งเสียง" (เรียกแบบบ้านๆเลย) เทปเหล่านี้ ก็มีปัญญาแค่ ปรับ gain, แต่ง EQ และก็ compress อะไรนิดหน่อยล่ะครับ

เพลง Midnight Moonlight เพราะดีครับ เป็นเพลงของ The Firm ที่ผมชอบที่สุด..

เพลง Midnight Moonlight เป็น unreleased song สมัย Led Zeppelin โน่นเลยครับ (เพลงเก่าชื่อว่า Swan Song)
ซึ่ง Jimmy Page นำบางส่วนมาขัดเกลาใหม่ร่วมกับ Paul Rodgers แล้วก็เปลี่ยนชื่อเพลงด้วย.

วันนี้มีโอกาสถ่ายรูปอีกหนึ่งเซ็ทก็เลยนำแผ่นเสียง 3 ชุดของคณะ Led Zeppelin มาโชว์ให้ดูแบบเต็มๆ ตากันไปเลย...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/PlatinumLPf.jpg)

สำหรับเทปทั้ง 4 ม้วนจากต้นฉบับทั้งหมดนี้ เอาไว้ว่างๆ ก่อนนะครับ แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังกัน.

สวยมากๆครับ!

Box Set ของคณะ Led Zeppelin ผมก็พอจะมีเก็บสะสมอยู่บ้าง

อย่างเช่นชุด Destroyer ซึ่งน่าจะเป็นผลงานบู้ทเล็คที่โด่งดังมากในอดีต...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/DestroyerBoxLP.jpg)

วัสดุของการทำกล่องดีมากครับ ผมจำได้ว่าซื้อมาจากประเทศเยอรมันนีเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว.

เห็นยกย่องกันว่าเป็น boot ที่ยอดที่สุดของพวกเขา? ผมเคยฟังคร่าวๆ ดุเดือดถึงใจดีครับ ฟังงานพวกนี้ถึงเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนบอกว่า The Song Remains The Same เป็นไลฟ์ที่งั้นๆของพวกเขา... :)

เอ่อ.. พี่โป่งครับ
ระวังกระเบื้องหินอ่อนที่บ้าน จะร้าว จะแตกมั่งนะครับ


(ตะกั่วเยอะจัง)

ช่วยแนะนำน้ำยายีห้อดีๆ มาทาถูทาถูให้หน่อยซิ จะได้ให้เด็กมาช่วยกันขัดร่องให้ดูแจ่มไปเลย !!!

มิบังอาจแนะนำดอกครับพี่
ท่านน่ะ ระดับอาจารย์ เขายังต้องเรียก ส.ว.

หยั่งผมน่ะ มีแต่ยาขัดหินแข็ง ใจอ่อน
ไอ้ใจแข็ง หินอ่อน
ไม่มีครับโผ๊ม...
 ;D

ยังงี้ต้องพิสูจน์กันหน่อย  :o  :o  :o

ผมยังมี Box Set ของคณะ Led Zeppelin มาให้ดูอีกหนึ่งชุด...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/BrussellAffairLP.jpg)

แผ่นเสียงสีสวยมาก (เข้าใจว่าเป็นแม่สีทั้งสามสี) ส่วนคุณภาพเสียงพอใช้ได้

ปัจจุบันนี้มีซีดีเวอร์ชั่นทำขายเรียบร้อยโรงเรียนเรือเหาะแล้วครับ

...ผมเคยเห็นบนเว็ปไซท์ไหนจำไม่ได้แล้ว !?!?!

สองรูปนี้เป็นภาพหน้ากล่องและหลังกล่อง 3-LP Box Set ครับ ซึ่งยังใหม่เอี่ยมอ่องอยู่เลย

ผมได้มาจากประเทศสิงคโปร์ และจำได้ว่าเคยเปิดฟังแค่หนเดียว

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/BrussellAffairBox.jpg)    (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/BrusselsAffairLPboxB.jpg)

กลับมาอ่านกระทู้ Led Zeppelin ของตัวเองในอดีต ปรากฏว่ายังเขียนค้างอยู่อีกพอสมควร รูปภาพที่เคยถ่ายเอาไว้ก็ยังมีอีกตั้งเยอะแยะ
ผมกะว่า เมื่อไหร่มีเวลา เมื่อนั้นก็จะมาร่ายต่อ ตามความเหมาะสม...

เอาไว้ว่างๆ จะมาเขียนต่ออีกก็แล้วกันนะครับ  :D

พี่โป่งเห็นแผ่นนี้แล้วจะอดใจไหวไหมครับ ทำเป็น mini lp เสียด้วย แต่เป็นของรัสเซียนะครับ

(http://i324.photobucket.com/albums/k328/sithichai/lzreunionins.jpg)

ผมเพิ่งได้มา ยังไม่ได้เปิดฟังเลยครับ

อดไหวครับ เพราะว่าผมมีดีวีดีแผ่นคู่อีกชุดหนึ่งแล้ว ซึ่งภาพถึงแม้จะไม่ใช่ Pro-Shot แต่ว่าได้รวบรวมกล้องถ่ายวิดิโอ 15 กล้องมา
ตัดต่อให้เป็นคอนเสิร์ตเดียว จึงมีหลายหลายมุมมาก และชัดพอสมควร  :D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/LedZeppelinReunionDVD3.jpg)

สำหรับเสียงนั้นใช้ได้เลยครับ และคงจะใกล้เคียงหรือเหมือนกันกับซีดีคู่ที่ คุณTRON ได้นำภาพมาลงให้ดู ผมก็เลยฟังซาวด์
แทร็คและได้ดูคอนเสิร์ตอย่างเต็มตาไปพร้อมๆ กัน ไม่จำเป็นต้องมาเสียเงินซื้อ Mini LP อีกชุดนึง  ;D  ;D  ;D

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/ru.jpg)

เปิดฟังแล้วครับ เสียงเป็นแบบอัดมาจากดีวีดีอีกทีหนึ่ง ต้องเร่ง volume มากหน่อย เป็น mini lp แผ่นคู่ที่สมราคา $15.99 ดีครับ

ลืมไปครับว่าพี่โป่งสนใจแต่เนื้อในมากกว่าแพ๊คเกจ mini lp พอดีผมเห็นว่า mini lp ที่ทำออกมาโดยรัสเซียทำออกมาได้สวยดีครับ

ยังจำแผ่นบู้ทเล็คที่ได้รับการยกย่องจากบรรดาแฟนเพลงซึ่งชื่นชอบผลงานนอกสารบบว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดชุดนึงของคณะ
Led Zeppelin กันได้หรือเปล่าครับ ?

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/DestroyerBoxLP.jpg)

จากคำวิจารณ์ของบรรดาพ่อค้าใต้ดิน ต่างยกย่องชมเชยว่า Maximum Destroyer ชุดนี้สมบูรณ์แบบจริงๆ ไม่อิงนิยาย...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/LedZeppelinMaximumDestroyerCD1.jpg)

มีซีดี 3 แผ่น และเป็น DVD-Audio อีก 2 แผ่น รวมเป็น 5 แผ่น สนนราคา ประมาณ US$120.- ถ้วน ซึ่งก็น่าจะแพงอยู่เหมือนกันสำหรับ
แผ่นนอกสารบบแบบนี้  :o  :o  :o

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Surasee_Kaleidoscope/LedZeppelinMaximumDestroyerCD2.jpg)

...มีใครอยากลองฟัง จะมาร่วม "หุ้น" กันซื้อมาเป็นเจ้าของกับผมมั้ยครับ ?   ;D  ;D  ;D

2 แผ่นที่เป็น DVD-Audio นั้นน่าสนใจมาก  ทำไมแผ่นนอกสารบบแบบนี้จึงทำเป็น DVD-Audio ได้ล่ะน่าแปลกใจมาก

หุ้นกัน5คน ได้กันไป คนละแผ่น ก็ดีครับ
ลงทุนคนละ 24 บาท
จัดเลย ผม1

  ถ้าผมให้ 25 บาท ขอปกด้วยได้ไหมครับ  :D

พี่โป่งมี bootleg ที่มีเพลง Carouselambra แบบเต็มเพลงบ้างมั้ยครับ

ผมคิดว่าใน LP ชุด In Through The Out Door (1979) ของคณะ Led Zeppelin นั้น ด้วยความยาวของเพลงประมาณ
10:32 นาที น่าจะเต็มเพลงแล้วนะครับ ผมไม่ทราบว่ามีเวอร์ชั่นที่ยาวกว่านี้ด้วย...ช่วยบอกทีซิครับ !  :D

สำหรับผลงานประเภทบู้ทเล็คผมมีเป็นแผ่นเสียงทั้งหมด 3 ชุดด้วยกัน คือ Out Through The Back Door, In Through The
Out Take, และ In Through The Out Door Sessions ซึ่งมีชุดแรกเท่านั้นที่เป็นแผ่นคู่และมีเพลงบรรจุอยู่มากที่สุด ที่
เหลืออีก 2 แผ่นนั้น มีเพลงเหมือนกันหมดครับ แต่น้อยกว่าแผ่นแรก  >:(  ???  >:(  ???

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinOutThroughTheBackDoorLP1.jpg)

สรุปแล้วคือผมมีเวอร์ชั่น บรรเลง หรือว่า Instrumental (10:37) แล้วก็อีกเวอร์ชั่่นนึงในแผ่นเดียวกัน (8:30) ซึ่งเป็นการ
ซ้อมของวง ณ. Polar Music Studios ช่วงระหว่างเดือน Nov.-Dec. 1978 ครับ   ;D

เท่าที่ทราบมามีเพลง Corouselambra "หลุด" ออกมาให้ฟังถึง 3 Takes ด้วยกัน แต่ที่ผมมีเป็นเพียงแค่ Take 2 แค่นั้นเอง
อีก 2 Takes ที่เหลือน่าจะหาฟังได้ใน CD Version ซึ่งผมไม่ได้ติดตามซื้อมาเก็บไว้   :-X  :-X  :-X

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinInThroughTheOutDoorSessionsCD1.jpg)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinInThroughTheOutDoorSessionsCD2.jpg)

ผมหมายถึง Carouselambra แสดงสดแบบเล่นเต็มเพลงครับ

โอว...ว...ว  อย่างนี้ไม่มีแน่ๆ ครับ  ;D

เพราะเท่าที่ผมทราบมา ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาด คณะ Led Zeppelin ไม่เคยนำเพลง Carouselambra นี้มาเล่นบนเวทีแสดงสดซักกะครั้ง
เดียวตั้งแต่ออกอัลบั้มกันมาจนถึงปี ค.ศ. 1980

จะมีก็แต่สมัย Page & Plant เท่านั้นที่เคยนำเพลงนี้มาเล่นกันสดๆ เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1996 เมื่อตอนตระเวณแสดงทัวร์ในประเทศ
ออสเตรเลีย และมีแผ่นบู้ทเล็คผลิตออกมาขายด้วย แต่ผมไม่ทราบว่าได้เล่นกันเต็มเพลงหรือไม่ ?

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinNightFlightOfTheSwanCD1.jpg)   (http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinAnotherEveningInSydneyCD1.jpg)

...ในที่สุดก็ "หมดตัว" จนได้...  :-[  :-[  :-[

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD1.jpg)

ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเจ้าของเจ้าแผ่นเสียงบู้ทเล็คชื่อเสียงระดับ "อมตะ" ชุดนี้มาแล้วก็ตามที...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerLP3.jpg)

ตัวไหนหรือครับพี่ อย่างพี่โป่ง ไม่มีวันหมดหรอกครับ   ;)

ไม่ต้องแปลกใจเลยครับ เพราะว่า "ต้นฉบับ" หรือเจ้าตัว "มาสเตอร์เทป" ของบันทึกการแสดงสดจากอัลบั้มชุด
Maximum Destroyer ชุดนี้ มันมาจากคนที่ชื่อว่า Bill Bratton ผู้ที่เคยรับตำแหน่ง VDO Director อย่างเป็นทาง
การให้กับคณะ Led Zeppelin มาแล้วระหว่างช่วงตระเวณแสดงทัวร์เมื่อสมัยปี ค.ศ. 1977

เท่าที่ผมทราบมา คุณบิล คนนี้ได้บันทึกทั้งวีดีโอและเสียงของคอนเสิร์ตจากคณะ Led Zeppelin เก็บเอาไว้หลาย
ครั้ง และการแสดงสดในเมือง Richfield มลรัฐ Ohio ของผลงานชุดนี้ก็มาจากฝีมือของผู้กำกับ "ตลาดมืด" คนนี้นั่นเอง

ผมไม่ทราบว่าทาง Bootlegger ได้ติดต่อ Bill Bratton กันยังงัย ไปๆ มาๆ มาสเตอร์เทปยี่ห้อ Maxell ถึงได้ถูกนำมา
เป็นต้นฉบับของการรีมาสเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ...กลายเป็น DVD-Audio สีเขียวสวยงามอย่างที่เห็นตามภาพ
ข้างล่างครับ...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD2.jpg)

ดูซิครับ ด้านในปกมีภาพของแผ่นเสียงชุดนี้พิมพ์เอาไว้ให้ดูต่างหน้าด้วย...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD3.jpg)

...พอผมได้รับแผ่น 3CD/2DVD ชุดนี้ก็รีบเปิดฟังทันที  ::)

ผลปรากฏว่า...ไม่ผิดหวัง แม้แต่นิดเดียวในเรื่องของระบบเสียง ชัดเจน แจ่มแจ้ง และ สดใส มากๆ ครับ !!!

จะมีที่ติก็ตรงที่ว่า ตอนเริ่มต้นเพลง The Song Remains The Same นั้นหายไป กลายเป็นเพลงค่อยๆ Fade In เข้ามา แล้วก็มีช่วง
นึงของเพลง No Quarter ที่ถูกตัดต่อ และ ตอน Encore เพลง Rock And Roll นั้นขาดเสน่ห์ Intro. เสียงกลองของ John Bonham ไป  ???  ???  ???

แต่คงจะไม่มีเวอร์ชั่นไหนสมบูรณ์แบบไปกว่านี้อีกแล้ว เนื่องจากว่า มาสเตอร์เทป มันก็เป็นอย่างนี้ สาเหตุอาจมาจากการกลับเทป
และการอัดเทปตอนแรกและตอนจบที่ช้าเกินไปของ Mr. Bill Bratton นั่นเอง !

ถ้าพูดถึงเรื่อง performance แล้ว พอจะฟัดกับ How The West Was Won ได้ไหมครับ?

คงจะสู้ไม่ได้กระมังครับ เพราะว่า How The West Was Won มีการตัดต่อเสริมแต่งนำหลายคอนเสิร์ตมารวมเป็น
เพลงเดียว แต่ The Maximum Destroyer เป็นการเล่นสดๆ ที่ไม่มี Overdub ใดๆ ทั้งสิ้น.

ครับผม ได้ฟิลล์ดิบ ๆ สุด ๆ ไปเลย

ในที่สุดผมก็หา 4-LP Boxset ของอัลบั้มชุด Destroyer ซึ่งเป็นผลงานนอกสารบบเจอจนได้ครับ  :)  :)  :)

ผมตั้งใจหาอยู่เป็นเวลา 2-3 เดือนแต่ก็ไม่เจอจนอดนึกสงสัยไม่ได้ว่ามันจะหายไปไหนได้ยังงัยกัน?  ???

อยู่ดีๆ ก็เจออยู่ในห้องนอนของผมเองนั่นแหละครับโดยไม่ได้ตั้งใจ!

เมื่อครั้งที่ซื้อซีดีชุด Destroyer มาใหม่ๆ กำลัง "เห่อ" อย่างมากเพราะ "ทึ่ง" ในระบบคุณภาพเสียงของแผ่นบู้ทเล็คและใจ
กล้ามากในการทำฟอร์แม็ต DVD-Audio ออกมาขายได้อย่างหน้าตาเฉย...

มาวันนี้ก็เลยถ่ายรูปคู่กันเป็นที่ระลึกเก็บเอาไว้หน่อยเพราะถือว่าเป็นพวกเดียวกัน  :D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinDestroyerLP1.jpg)

ผมยังจำได้ว่าคราวที่แล้วไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูแต่ใช้การสแกนภาพมาลงแทนซึ่งไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจ
นำมาลงให้ดูอีกครั้งหลังจากกดชั้ตเตอร์เป็นบ้างแล้วนิดหน่อย  :D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD1-1.jpg)

โอโฮ...เหมือนกับบรรดาเหล่า สว. ใส่แว่นสายตายาวดูแบบเห็นอย่างแจ่มแจ้งและชัดเจนจริงๆ ครับ แตกต่างจากครั้งที่แล้ว
ซึ่งค่อนข้างเบลอและมัวไปหมด  ???

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD2-1.jpg)

Fat Box กล่องนี้มีซีดี 3 แผ่นกับ DVD-Audio อีก 2 แผ่น  :o

ผมค่อยๆ เปิดออกมาอย่างช้าๆ จะเห็นได้ว่าคนขายค่อนข้างระมัดระวังในการขนส่ง เพราะว่าได้นำ Bubbles ชิ้นเล็กๆ มากันแผ่น
เอาไว้เผื่อในตอนเดินทางไกลอาจหลุดออกจาก Tray ได้ และมีผลทำให้แผ่นเกิดมีรอยขูดขีดหรือว่าชำรุดเสียหาย  :)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD3-1.jpg)

พลิกพลาสสิคใสที่รองแผ่นซีดีทางด้านซ้ายมาทางด้านขวามือจะเห็นภาพดั้งเดิมของหน้าปก Destroyer ครับ พร้อมด้วยซีดีอีก 1 แผ่น...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD4.jpg)

ไอ้ Fat Box แบบนี้มันเปิดได้ทั้งสองข้างนะครับเพราะความจริงแล้วสามารถจุแผ่นซีดีได้ถึง 6 แผ่นเลยทีเดียว  :o

คราวนี้ผมมาเปิดจากด้านหลังของกล่องบ้าง ซึ่งเก็บแผ่นดีวีดีออดิโอเอาไว้อย่างดีอีกเช่นกัน...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD5.jpg)

จาก Tray ด้านขวาเปิดออกมาจะเจอภาพหน้าปก Destroyer อีกเวอร์ชั่นนึงครับ และยังมีที่ว่างให้ใส่แผ่นซีดีอีกหนึ่งแผ่นด้วย...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD6.jpg)

ลักษณะของกล่องเมื่อเปิดออกมาหมดจะเป็นอย่างนี้ครับซึ่งก็ยังใส่เพิ่มได้อีก 2 แผ่นนะครับเป็น 8 แผ่นถ้าหากทำถาดพลาสติครอง
อีกสองอันใส่ตรงด้านในของปกหน้าและปกหลังตามลำดับ  ::)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD8.jpg)

นอกจากจะเห็นแล้วชวนให้น่าเก็บสะสม เรื่องคุณภาพเสียงยังค่อนข้างสมบูรณ์อีกด้วย ชื่อเสียงของบู้ทเล็คชุดนี้ล่ำลือมานานแล้วว่า
อยู่ในระดับท็อป 5 ของบรรดาผลงานนอกสารบบทั้งหมดในโลกีย์ ผมจึงมีอยู่ในคอลเล็คชั่นจนได้ โดยรอมานานกว่าจะเจอเวอร์ชั่น
ที่ถูกใจสุดสุด  8)

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/Kaleidoscope/LedZeppelinDestroyerCD7.jpg)

อย่างไรก็ดี ผมไม่มีทางทิ้งแผ่นไวนิลโดยเด็ดขาด เพราะจำได้ว่าซื้อมาจากประเทศเยอรมันนีในราคาที่ถูกพอสมควร พร้อมๆ กับอัลบั้ม
ของคณะ Nazareth อีกหลายแผ่นซึ่งได้โชว์ไปแล้วเนื่องจากราคาตอนนี้สูงเอาการเกือบทุกชุดเลยทีเดียว!

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinDestroyerLP3.jpg)

สภาพกล่องยังเกือบใหม่เอี่ยม หรือภาษาอังกฤษต้องบอกว่า Near Mint แล้วล่ะครับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  :D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinDestroyerLP2.jpg)

ไหนๆ ก็หยิบแผ่นไวนิลมาแล้ว ขอถ่ายรูปอีกซักครั้งเพื่อเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์สำหรับเว้ปนี้...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinDestroyerLP4.jpg)

เท่าที่ผมทราบ แผ่นบู้่ทเล็คของจริงไม่มีโปสเตอร์แถมมาให้นะครับ แต่ก็อปปี้ของผมเจ้าของคนเก่าคงนำมาใส่ไว้ในกล่องเองเพราะอาจ
ได้แถมมาจากหนังสือหรือว่าแม็กกาซีนเล่มใดเล่มหนึ่ง เพราะอีกด้านเป็นภาพบนเวทีของคณะ The Sweet ผมเลยไม่ถ่ายรูปมาให้ดู...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinDestroyerLP5.jpg)

เลเบิ้ลของไวนิลแผ่นแรกโดนปู้ยี่ปู้ยำออกแบบโดยเจ้าของ "มือบอน" คนเก่าซึ่งน่าจะเป็นชาวเยอรมัน แต่คงจะขี้เกียจเลยทำแค่แผ่นเดียว
อีก 3 แผ่นที่เหลือทิ้งไว้ให้โล่งตาเหมือนเก่า  ;D

ดูกันเอาไว้ครับ นี่แหละของแท้และดั้งเดิม!

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinDestroyerLP6.jpg)

อีกซักหนึ่งชุดจาก Swinging' Pig Records บริษัทผลิตแผ่นบู้ทเล็ครายใหญ่ในสมัยนั้น...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinBrusselsAffairBoxsetLP1.jpg)

เมื่อตอนไปประเทศสิงคโปร์หลายสิบปีที่แล้วมีแผ่นเสียงขายเยอะมาก ผมเดินทางไปค่อนข้างบ่อยเพื่อซื้อแผ่น อีกทั้งราคาก็เป็น
กันเอง ซึ่งเจ้าของร้าน Da Da Records เดี๋ยวนี้อายุมากเลยเลิกกิจการ ขายร้านไปแล้ว น่าเสียดายจริงๆ ครับ  :-[

ครั้งนึงผมเคยเชียร์เขียนถึงร้านแผ่นเสียงนี้ลงในหนังสือสตาร์พิคส์ด้วยแต่จำไม่ได้แล้วว่าปีไหนฉบับไหนกันแน่  ???

ผมยิ่งซื้อก็ยิ่งลดราคา เรียกว่า ทั้งลดแลกแจกแถมมากมายเหลือเกิน และแผ่นบู้ทเล็คชุดนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ แผ่นนั้นนั่นเอง...

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinBrusselsAffairBoxsetLP2.jpg)

ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยเปิดฟังเลยจริงๆ สภาพยัง "นิ้ง" อยู่แถมเป็น Coloured Vinyl แม่สีอีกต่างหาก  :D  :D  :D

(http://i991.photobucket.com/albums/af31/Pong-Wanchai/LedZeppelinBrusselsAffairBoxsetLP3.jpg)

น่าอิจฉาคนมีของหายากก ....  ;D

ที่หายากก็เพราะว่าห้องมัน "รก" น่ะครับ ท่านJKNoremorse!  5555+

เมื่อต้นปี ไม่รู้อะไรดลใจผมให้กลับมาสนใจงาน Bootlegs พวกนี้อยู่
ส่วนนึงอาจจะมาจากห้องที่คุยกัน facebook ที่เรื่องนี้ที่มัน feed มาตรงหน้าผมพอดี เข้าไปดูปุ้บ เป็นเรื่องเลย

ปีที่แล้ว เดือน กันยาฯ ผมไปทำงานที่ Osaka แล้วพบว่า ยังมีร้านค้าจำหน่ายของแนวนี้ อีกเยอะ!
ผมก็คิดว่า ชิบ..Hai ทำไมมันยังมีร้านขายแผ่นแบบนี้อีกวะ กองกันเป็นขยะเลย เยอะมาก แพงด้วยนะจ้าา
จำนวนร้านค้าพอกับพวกขาย official ด้วยซ้ำ
คนญี่ปุ่นยังเสพฯ สะสมของพวกนี้อยู่อีกหรอวะ
(ในขณะที่ผมก็ฟังเพลงจาก apple music ด้วย ค่าบริการเดือนละ 129 บาท)

เช็คไป เช็คมา... คร่าว ๆ มีเว็บจำหน่าย bootlegs อีกเพียบในญี่ปุ่น
ซึ่งเค้าก็จำหน่ายโดยเฉพาะในประเทศเค้าเท่านั้น ไม่ส่ง worldwide จะมีไม่กี่ร้านที่ส่งออกนอกประเทศได้

สิ่งหนึ่ง ที่ของพวกนี้ยังทำให้ผมควักตังต์จากกระเป๋าอันแบบฟีบของผมได้ คือ เรื่องอาร์ตเวริ์คปก สกรีน คอนเทนต์อะไรต่างๆ
ทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว บางเว็บฯนี้ดูเพลินเลย หลังๆ ผมให้เพื่อนร่วมงานขนมาตอนมันมี biz-trip ที่นี่
ล่าสุด เลื่อน เพราะไอ้โกวิท-19 ตามระเบียบ

ผมสังเกตทุก ๆ เว็บที่ขาย ก็จะเน้นงานของพวก classic bands ร็อคขึ้นหิ้ง
พวก Led Zeppelin, Beatles, Bod Dylan, Pink Floyd, Queen นี่เพียบเลย
ดูไปดูมา ดูว่าจะทำกันออกมาเยอะกว่าแต่ก่อนซะอีกครับ

ยกตัวอย่าง Paul McCartney ไปเล่นที่ญี่ปุ่นไม่กี่ปีที่ผ่านมา เล่นไป 10 โชว์ ก็มีขายทุกโชว์เลยว่างั้น