ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149690 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

07 พฤษภาคม 2024 | 01:24:39 PM
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: MYSTIC DREAM ฮิฮิ  (อ่าน 8214 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไอแอมตองสาม
Close To The Edge
******
กระทู้: 1492


aka TONG MAYER


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2009 | 10:38:05 AM »

ลองเปิดกระทู้ดูเผื่้อสนใจกัน เป็นผลงานเก่าๆ ของวงที่ เคยทำกันมา มีสองเพลงครับ

http://www.4shared.com/file/99180918/3810c615/_2__01__-_Mystic_Dream.html
ิอันนี้ชื่อเพลง พฤติกรรม จะอยู่ในอัลบั้ม โรงเรียนปีนี้ล่ะครับ แต่เอามาแจกเฉพาะ ที่นี่นะ  ยิงฟันยิ้ม

http://www.4shared.com/file/108688947/2635112f/01_Unknown_Artist_-_Track01__2_.html
อันนี้เพลง ไม่มีหัวใจ อัลบั้มที่แล้วครับ แจกเฉพาะที่นี่เหมือนกัน

ตอนนี้เปลี่ยนนักร้องแล้วครับ (คนเก่าหนีไปอยู่เตรียมอุดม) เดี๋ยวปีหน้าถ้ามีงบ น่าจะทำเพลงอีกครับ

http://www.youtube.com/watch?v=2OcPRfbrtOI&eurl=http%3A%2F%2Fpramoolmusic.com%2F%2Fcontest%2Findex.php%3Fp%3Dview_clip.php%26vdo%3D00000037&feature=player_embedded
ตัวอย่างนักร้อง ใหม่ (ผู้ชายนะ 555)

ลองฟังดูครับ ติชมได้นะครับ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ขออภัย ต่อไปจะไม่ล่้วงเกิน.
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2009 | 11:22:51 AM »

http://www.4shared.com/file/108688947/2635112f/01_Unknown_Artist_-_Track01__2_.html
อันนี้เพลง ไม่มีหัวใจ อัลบั้มที่แล้วครับ แจกเฉพาะที่นี่เหมือนกัน


pop ดีนะครับ น่าสนับสนุน เสียดายนักร้องที่ย้ายไปจัง  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2009 | 01:17:05 PM »

ฟังแล้วทั้งสองเพลงครับ มาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครับ โดยเฉพาะนักร้องสาวน้อยคนนั้นที่หนีไปอยู่เตรียมใหญ่แล้ว คือเป็นคนที่เสียงร้องมีคุณภาพดี ฟังดูแล้วเสียงเหมือนผู้ใหญ่ เสียงไม่แง้วๆ เหมือนเด็ก แล้วที่สำคัญคือร้องชัดเจนฟังดูไม่ดัดจริตเหมือนนักร้องหญิงสมัยใหม่นี้ เนื้อร้องก็เข้าใจว่าเขียนเองด้วยใช่ไหมครับ ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับที่ใกล้เคียงเพลงจากค่ายในปัจจุบัน โดยเฉพาะ "พฤติกรรม" ที่มีการทิ้งประโยคส่งที่ดี คือฟังไม่กี่ครั้งก็จำเนื้อร้องได้แล้ว "หัดสังเกตดูพฤติกรรมของเธอเอง หัดสังเกตดูหัวใจของเธอเอง" นี่ขนาดผมแก่เกินวัยนี้ไปแล้ว ฟังประโยคนี้แล้วยังอินเลย ยิ้มเท่ห์ แล้วก็ชอบตรงที่มีการคิดไลน์ Backing Vocal อัดเสียงประสานคู่กับตัวเอง ซึ่งก็ทำได้ดีมาก ถ้าหัดเองโดยไม่ได้เรียนมานี่ถือว่ายอดจริงๆ ครับ คือต้องฟังเพลงมาเยอะพอสมควรและต้องฟังละเอียดด้วย

นักร้องคนใหม่นี่ยังตอบอะไรได้ไม่มากครับ เพราะฟังจาก youtube เสียงมันไม่ชัดเท่าไหร่ ต้องอัดมาแบบเดียวกันถึงจะเทียบได้ ว่าแต่คนนี้ใช่คนเดียวกับที่เคยลากมาคุย MSN กับพี่เรื่องซื้อกีตาร์หรือเปล่าครับ?

น่าอิจฉาตองครับ ที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำตั้งแต่เด็ก อายุน้องก็ยังน้อย เทียบกับสิ่งที่ทำได้มาแล้วถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ ถึงจะเล่นเพลงตลาดหน่อย แต่ก็ยังได้แสดงออก ได้มีโอกาสทำเพลงสมัยไฟแรงอยู่ก็น่าชื่นใจแล้วครับ สมาชิกในวงก็มีฝีมือกันพอสมควรทีเดียว จะทำอะไรก็รีบทำก่อนแก่นะครับ ยิ้มกว้างๆ

ตัวพี่เองแก่แล้ว หมดไฟแล้ว เป็นคนที่อยากทำเพลงสร้างสรรค์ผลงานเหมือนกัน มีไอเดียโน่นนี่มากมาย สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังเป็นพวกอนุรักษ์นิยมจัด คือจะเอาสไตล์ไหนก็สไตล์นั้น มีลิสต์เพลงเป็นหางว่าว มีไอเดียอยู่เป็นสิบเพลง แต่ก็ได้แค่เขียนใส่กระดาษเท่านั้นเองครับ คาดว่าอีกหน่อยคงลืมหายไปหมดแน่เลย
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
ไอแอมตองสาม
Close To The Edge
******
กระทู้: 1492


aka TONG MAYER


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2009 | 06:55:21 PM »

ฟังแล้วทั้งสองเพลงครับ มาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครับ โดยเฉพาะนักร้องสาวน้อยคนนั้นที่หนีไปอยู่เตรียมใหญ่แล้ว คือเป็นคนที่เสียงร้องมีคุณภาพดี ฟังดูแล้วเสียงเหมือนผู้ใหญ่ เสียงไม่แง้วๆ เหมือนเด็ก แล้วที่สำคัญคือร้องชัดเจนฟังดูไม่ดัดจริตเหมือนนักร้องหญิงสมัยใหม่นี้ เนื้อร้องก็เข้าใจว่าเขียนเองด้วยใช่ไหมครับ ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับที่ใกล้เคียงเพลงจากค่ายในปัจจุบัน โดยเฉพาะ "พฤติกรรม" ที่มีการทิ้งประโยคส่งที่ดี คือฟังไม่กี่ครั้งก็จำเนื้อร้องได้แล้ว "หัดสังเกตดูพฤติกรรมของเธอเอง หัดสังเกตดูหัวใจของเธอเอง" นี่ขนาดผมแก่เกินวัยนี้ไปแล้ว ฟังประโยคนี้แล้วยังอินเลย ยิ้มเท่ห์ แล้วก็ชอบตรงที่มีการคิดไลน์ Backing Vocal อัดเสียงประสานคู่กับตัวเอง ซึ่งก็ทำได้ดีมาก ถ้าหัดเองโดยไม่ได้เรียนมานี่ถือว่ายอดจริงๆ ครับ คือต้องฟังเพลงมาเยอะพอสมควรและต้องฟังละเอียดด้วย

นักร้องคนใหม่นี่ยังตอบอะไรได้ไม่มากครับ เพราะฟังจาก youtube เสียงมันไม่ชัดเท่าไหร่ ต้องอัดมาแบบเดียวกันถึงจะเทียบได้ ว่าแต่คนนี้ใช่คนเดียวกับที่เคยลากมาคุย MSN กับพี่เรื่องซื้อกีตาร์หรือเปล่าครับ?

น่าอิจฉาตองครับ ที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำตั้งแต่เด็ก อายุน้องก็ยังน้อย เทียบกับสิ่งที่ทำได้มาแล้วถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ ถึงจะเล่นเพลงตลาดหน่อย แต่ก็ยังได้แสดงออก ได้มีโอกาสทำเพลงสมัยไฟแรงอยู่ก็น่าชื่นใจแล้วครับ สมาชิกในวงก็มีฝีมือกันพอสมควรทีเดียว จะทำอะไรก็รีบทำก่อนแก่นะครับ ยิ้มกว้างๆ

ตัวพี่เองแก่แล้ว หมดไฟแล้ว เป็นคนที่อยากทำเพลงสร้างสรรค์ผลงานเหมือนกัน มีไอเดียโน่นนี่มากมาย สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังเป็นพวกอนุรักษ์นิยมจัด คือจะเอาสไตล์ไหนก็สไตล์นั้น มีลิสต์เพลงเป็นหางว่าว มีไอเดียอยู่เป็นสิบเพลง แต่ก็ได้แค่เขียนใส่กระดาษเท่านั้นเองครับ คาดว่าอีกหน่อยคงลืมหายไปหมดแน่เลย

พี่ที่ลาก มาคุยเรื่องกีตาร์ เป็นคนเล่นเบสในเพลง ไม่มีหัวใจครับ
ส่วนนักร้องคนใหม่ปีหน้าน่าจะได้มีโอกาส อัดผลงานบ้างครับ
ส่วน เรื่องเนื้อร้องหลักๆ นักร้องจะคิดครับ แล้วพวกผมมาแก้ ใส่ทำนองอีกที
Backing Vocal ทำโดยการนำ ไลน์ร้องหลัก มาจูนให้เข้าอีกทีครับ ไม่ได้อัดซ้ำแต่อย่างใด แต่เป็นความประสงค์ของผมตั้งแต่แรกแล้วครับ

ปล. เอารูปอดีต นักร้องมาฝากด้วย http://i23.photobucket.com/albums/b368/nnamezaa/IMG_3136-3.jpg

เครดิต พี่เนม bdz ครับ พอทเทรต เทพ 555
บันทึกการเข้า

ขออภัย ต่อไปจะไม่ล่้วงเกิน.
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009 | 01:19:02 PM »

ฟังแล้วทั้งสองเพลงครับ มาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครับ โดยเฉพาะนักร้องสาวน้อยคนนั้นที่หนีไปอยู่เตรียมใหญ่แล้ว คือเป็นคนที่เสียงร้องมีคุณภาพดี ฟังดูแล้วเสียงเหมือนผู้ใหญ่ เสียงไม่แง้วๆ เหมือนเด็ก แล้วที่สำคัญคือร้องชัดเจนฟังดูไม่ดัดจริตเหมือนนักร้องหญิงสมัยใหม่นี้ เนื้อร้องก็เข้าใจว่าเขียนเองด้วยใช่ไหมครับ ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับที่ใกล้เคียงเพลงจากค่ายในปัจจุบัน โดยเฉพาะ "พฤติกรรม" ที่มีการทิ้งประโยคส่งที่ดี คือฟังไม่กี่ครั้งก็จำเนื้อร้องได้แล้ว "หัดสังเกตดูพฤติกรรมของเธอเอง หัดสังเกตดูหัวใจของเธอเอง" นี่ขนาดผมแก่เกินวัยนี้ไปแล้ว ฟังประโยคนี้แล้วยังอินเลย ยิ้มเท่ห์ แล้วก็ชอบตรงที่มีการคิดไลน์ Backing Vocal อัดเสียงประสานคู่กับตัวเอง ซึ่งก็ทำได้ดีมาก ถ้าหัดเองโดยไม่ได้เรียนมานี่ถือว่ายอดจริงๆ ครับ คือต้องฟังเพลงมาเยอะพอสมควรและต้องฟังละเอียดด้วย

นักร้องคนใหม่นี่ยังตอบอะไรได้ไม่มากครับ เพราะฟังจาก youtube เสียงมันไม่ชัดเท่าไหร่ ต้องอัดมาแบบเดียวกันถึงจะเทียบได้ ว่าแต่คนนี้ใช่คนเดียวกับที่เคยลากมาคุย MSN กับพี่เรื่องซื้อกีตาร์หรือเปล่าครับ?

น่าอิจฉาตองครับ ที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำตั้งแต่เด็ก อายุน้องก็ยังน้อย เทียบกับสิ่งที่ทำได้มาแล้วถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ ถึงจะเล่นเพลงตลาดหน่อย แต่ก็ยังได้แสดงออก ได้มีโอกาสทำเพลงสมัยไฟแรงอยู่ก็น่าชื่นใจแล้วครับ สมาชิกในวงก็มีฝีมือกันพอสมควรทีเดียว จะทำอะไรก็รีบทำก่อนแก่นะครับ ยิ้มกว้างๆ

ตัวพี่เองแก่แล้ว หมดไฟแล้ว เป็นคนที่อยากทำเพลงสร้างสรรค์ผลงานเหมือนกัน มีไอเดียโน่นนี่มากมาย สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังเป็นพวกอนุรักษ์นิยมจัด คือจะเอาสไตล์ไหนก็สไตล์นั้น มีลิสต์เพลงเป็นหางว่าว มีไอเดียอยู่เป็นสิบเพลง แต่ก็ได้แค่เขียนใส่กระดาษเท่านั้นเองครับ คาดว่าอีกหน่อยคงลืมหายไปหมดแน่เลย

พี่ที่ลาก มาคุยเรื่องกีตาร์ เป็นคนเล่นเบสในเพลง ไม่มีหัวใจครับ
ส่วนนักร้องคนใหม่ปีหน้าน่าจะได้มีโอกาส อัดผลงานบ้างครับ
ส่วน เรื่องเนื้อร้องหลักๆ นักร้องจะคิดครับ แล้วพวกผมมาแก้ ใส่ทำนองอีกที
Backing Vocal ทำโดยการนำ ไลน์ร้องหลัก มาจูนให้เข้าอีกทีครับ ไม่ได้อัดซ้ำแต่อย่างใด แต่เป็นความประสงค์ของผมตั้งแต่แรกแล้วครับ

ปล. เอารูปอดีต นักร้องมาฝากด้วย http://i23.photobucket.com/albums/b368/nnamezaa/IMG_3136-3.jpg

เครดิต พี่เนม bdz ครับ พอทเทรต เทพ 555
เห็นแค่ ลูกตากับมือถือไมค์เองจ้า
ผลงานเยี่ยมครับน้องตอง เอาอีกๆๆ แนวนี้แหละ ดีที่สุดแล้ว


หมดกัน ลง โมลเดอร์/เฟนเดอร์ แก่ซะแล้ว จะเหลือใครล่ะนี่
บันทึกการเข้า

Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009 | 07:35:03 PM »

The Child is grown. The Dream is gone.

คำว่าแก่แล้วในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่าอายุผมมากหรอกนะครับ แต่หมายถึง ผมได้รับรู้ถึงความเป็นจริงแล้วว่าสิ่งที่เคยวาดฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆ มันไม่ได้เป็นความจริงบนโลกปัจจุบันอีกต่อไปแล้ว

สมัยนี้ทุกอย่างเดินด้วยเงิน ไม่มีเงิน คุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย ปัจจุบันนี้ทุกคนเข้าใจคำว่าศิลปินผิดกันไปหมดแล้ว เข้าใจกันว่า AF, The Star คือศิลปิน ซึ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับของพวกนี้ มันก็เดินด้วยกลไกทางการตลาด การลงทุน การประเมินผลกำไร การสร้างงานทุกอย่างคือการสร้างตาม Demand ของตลาด

ผมเคยวาดฝันงานอัลบั้มของตัวเองเอาไว้ ว่ามันจะต้องมีองค์ประกอบอย่างโน้นอย่างนี้ ผมเพ้อฝันตั้งแต่อยู่ ม.4 ม.5 ม.6 จนเข้าปี 1 ปี 2 นั่งรถตู้ไปมหาลัยก็คิดไปเรื่อย จะแต่งยังไง จะเล่นยังไง จะใช้เครื่องดนตรียังไง ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรที่เ็ป็นจริงได้เลย ผมเองเป็นคนจุกจิกมาก เวลาจะทำอะไรต้องเช็คให้เป๊ะๆ ทุกอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องดนตรี เผอิญว่าผมคิดจริงจังเกินไป แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องปัญญาอ่อนอย่างที่เห็นๆ กันอยู่ แล้วเนื้อเพลงก็ค่อนข้างเครียด(จัด) มาก นำเสนอโลกผ่านมุมมองของผมในสไตล์ของ Roger Waters, John Lennon, Bob Dylan ที่ผมเคารพรัก บางทีก็ลงทุนซื้อเอฟเฟคต์ราคาเกือบหมื่นมา โดยมีความตั้งใจว่าจะใช้เล่นในเพลงโน้นเพลงนี่ของผม สุดท้ายนี่ผมเข้าวัยทำงานแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

ลองคิดดูนะครับ ในแง่ของคนฟังกับคนเล่นลงทุนต่างกันมากพอสมควร อย่างถ้าผมเป็นนักฟังเพลง ผมเดินไปซื้อแผ่น CD ฟัง แผ่นละ 400 บาท สมมุติว่าเป็นอัลบั้ม The Division Bell ของพิงค์ฟลอยด์ แผ่้นนึงมี 10 เพลง ก็ตกเพลงละ 40 บาท แต่ถ้าในแง่ของนักดนตรี เกิดผมชอบเพลง Marooned ม๊ากมาก และอย่างเล่นเพลงนี้ให้ได้แบบเค้า ผมก็ไปลงทุนซื้อเอฟเฟคต์ที่เดฟใช้ในเพลงนี้ ซึ่งมันมีการเล่นโน๊ต Pitch-Bend ด้วยเอฟเฟคต์ Whammy ผมก็ลงทุนไป 9000 บาท เพื่อซื้อเอฟเฟคต์ตัวนึง มาเล่นเพลงๆ นี้เพลงเดียว ผมต้องกินแกลบไปหลายเดือนเลยครับ ผมเองเป็นคนที่ซีเรียสกับซาวน์มาก แล้วก็ละเอียดอ่อนกับเรื่องพวกนี้มาก เลยเสียเงินมากตามไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีฐานะมากอะไร

เรื่องเนื้อเพลงก็เช่นกัน ผมคิดว่าทางที่ดีศิลปินควรจะแต่งเนื้อร้องเอง ยกเว้นศิลปินบางประเภทที่โชว์การเล่นดนตรีจริงๆ เนื้อเพลงของผมก็มีเพลงรักบ้าง แต่ก็น้อย เห็นจะๆ ก็มี Fairy Tale Blues เพลงเดียวที่เป็นเพลงรัก นอกนั้นเป็นเรื่องซีเรียสเสียส่วนใหญ่ ความจริงผมไม่ได้รังเกียจเพลงรักนะครับ แต่ผมเห็นว่าในวงการเพลงไทยมีเพลงรักมามากพอแล้ว เลยขอเป็นอีกด้านนึงบ้าง

ผมเคยคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เค้าบอกผมว่า การจะแต่งเพลงที่ดีได้ จะต้องแต่งให้คนฟังหมู่มากได้รับประโยชน์จากมันและเข้าใจมันด้วย ไม่ใช่แต่งเนื้อร้องเข้าใจยากแบบ Jon Anderson แล้วคนฟังไม่เข้าใจ พากันตีความกันไปต่างๆ นานา ผมเคยคิดว่าถ้าผมได้ออกอัลบั้ม เวลาทำ Booklet จะทำสองด้าน ด้านนึงเป็นความเรียงที่บอกเล่าเนื้อหาของเพลงนั้นๆ เพื่อให้ผู้ฟังได้อ่านและสามารถเข้าใจเนื้อหาในเพลงได้มากขึ้น และรับประโยชน์จากเพลงนั้นมากขึ้นด้วย แต่ละเพลงจะบอกถึงการบันทึกเสียง อุปกรณ์ที่ใช้ เอฟเฟคต์ที่ใช้ ผมคิดถึงขนาดการทำอาร์ตเวิร์ค หน้าปกอัลบั้ม จะไปถ่ายที่ไหน ยังไง จ้าง Storm Thogerson มาถ่ายดีไหม (อันนี้ล้อเ่ล่นนะครับ) ถ้าผมมีเพลง 10 เพลง ผมจะทำอาร์ตเวิร์คให้กับเพลงทุกๆ เพลง เหมือนกับงานอัลบั้มของ Peter Gabriel นั่นแหละครับ ที่มีเพลงกับ Artwork ให้ดูประกอบกันทุกเพลง
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009 | 07:43:54 PM »

เห็นด้วยกับพี่บาสเป็นอย่างยิ่งเรื่องความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในวงการดนตรียุคปัจจุบันที่อะไรๆก็เป็น "ธุรกิจ" และต้องทำทุกอย่างเพื่อ "ตลาด" ไปเสียหมด ผมเองก็เลิกแต่งเพลงมาได้สักระยะนึงแล้วก็เพราะแบบนี้แหละครับ แล้วก็คิดว่าจะไม่แต่งอีกแล้วด้วย เพราะแต่งไปมันก็ได้แค่นั้นแหละ......ล่าสุด (ค่อนข้างนานแล้ว) ผมได้ลองแต่งเพลงคู่มหากาพย์เอาไว้ชุดนึง มีชื่อว่า "18" และ "81" โดยจินตนาการไว้เลยว่าถ้ามันสามารถบันทึกเสียงออกมาได้จริงๆก็อยากจะให้มันมีความยาวเพลงละ 30 นาทีขึ้นไปเลย (แบบว่าชุดนึงมีแค่สองเพลง) แต่แล้วก็ล้มเลิกไปหลังจากแต่งไปแล้วเกือบๆสามหน้ากระดาษ (เกินครึ่งไปนิดนึง) ตั้งแต่เมื่อผมเห็นที่บ้านผมแห่กันเฝ้าหน้าจอดูประกวด The Star แล้วชื่นชมกันว่าผู้ประกวดเหล่านั้นเป้นศิลปินคุณภาพ และเห็นน้องผมฟังเพลงตลาดจากค่ายยักษ์ใหญ่และเทิดทูนวงเหล่านั้นว่าเป็นวงที่สุดยอด (แถมวงของเขายังแต่งเพลงใหม่ออกมาในสไตล์ของเพลงเหล่านั้นเป๊ะๆเลยด้วย ต้องเลียนแบบสไตล์ดนตรีและเสียงร้องให้ใกล้เคียงที่สุด) หลังจากนั้นผมก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยากไปเลย แล้วก็ล้มเลิกความคิดที่จะแต่งเพลงนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มิถุนายน 2009 | 08:01:50 PM โดย Lilium Bloody Lilium™ » บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009 | 07:53:04 PM »

ทุกวันนี้ผมลงทุนกับอุปกรณ์กีตาร์-เครื่องดนตรีไปแล้วไม่ต่ำกว่าแสนกว่าบาท ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยหาเงินมาได้จากมันเลยซักบาทเดียว ยังไม่เคยได้เงินตามงานอะไรเลย (เคยเล่นตามงานมาก่อนสมัยเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้เล่นพิงค์ฟลอยด์ สมัยนั้นยังเล่น Beatles อยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เคยได้ตังค์อยู่ดี) เอฟเฟคต์บอร์ดนั้นก็ต้องมีซัก 5 หมื่นแล้ว ลงทุนทุกอย่างให้วง Phi มีซาวน์กีตาร์ที่เหมือน ท้ายที่สุดวงเรายังไม่ได้เล่นตามงานไหนซักงานเลยครับ จะไปให้ประกวดวงดนตรีมันก็ไม่ใช่ เพราะวงเราไม่ได้มีจุดประสงค์ไปประกวด วงเราเน้นการ "ถ่ายทอด" เป็นหลัก ไม่ได้เน้นเทคนิคอะไรแบบนั้นครับ เวทีก็ไม่มี ไม่รู้จะไปเล่นที่ไหน จะเล่นตามงานมีตติ้งก็เกรงใจกัน เพราะว่าบางท่านอาจจะเป็นเน้นไปทางเก็บแผ่นมากกว่า แล้วก็ถ้าจะเล่นจริงก็ต้องเช่าเครื่อง เช่า PA อะไรกันอีก ราคาก็คงแพงหูฉี่
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009 | 08:38:49 PM »

ลองทำเดโมดูซักเพลงสิครับ เอาแค่เพลงเดียวแบบเน้นๆ อย่าไปมองเป็นอัลบั้มหรือคอนเซ็ปท์อะไร ทำเหมือนตอนที่ Mike Oldfield ทำ Tubular Bells เพลงเดียว อย่างน้อยเหมือนได้เริ่มอะไรบางอย่าง
บันทึกการเข้า
ไอแอมตองสาม
Close To The Edge
******
กระทู้: 1492


aka TONG MAYER


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2009 | 05:01:20 AM »

ลองทำเดโมดูซักเพลงสิครับ เอาแค่เพลงเดียวแบบเน้นๆ อย่าไปมองเป็นอัลบั้มหรือคอนเซ็ปท์อะไร ทำเหมือนตอนที่ Mike Oldfield ทำ Tubular Bells เพลงเดียว อย่างน้อยเหมือนได้เริ่มอะไรบางอย่าง

ครับ ปิดเทอมว่างๆ พวกพี่ๆ มาช่วยกันบันทึกเดโมซักหนึ่งเพลง น่าจะดีนะครับ เป็นการเริ่มต้น  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ขออภัย ต่อไปจะไม่ล่้วงเกิน.
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2009 | 10:38:53 AM »

เห็นด้วยกับพี่บาสเป็นอย่างยิ่งเรื่องความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในวงการดนตรียุคปัจจุบันที่อะไรๆก็เป็น "ธุรกิจ" และต้องทำทุกอย่างเพื่อ "ตลาด" ไปเสียหมด ผมเองก็เลิกแต่งเพลงมาได้สักระยะนึงแล้วก็เพราะแบบนี้แหละครับ แล้วก็คิดว่าจะไม่แต่งอีกแล้วด้วย เพราะแต่งไปมันก็ได้แค่นั้นแหละ......ล่าสุด (ค่อนข้างนานแล้ว) ผมได้ลองแต่งเพลงคู่มหากาพย์เอาไว้ชุดนึง มีชื่อว่า "18" และ "81" โดยจินตนาการไว้เลยว่าถ้ามันสามารถบันทึกเสียงออกมาได้จริงๆก็อยากจะให้มันมีความยาวเพลงละ 30 นาทีขึ้นไปเลย (แบบว่าชุดนึงมีแค่สองเพลง) แต่แล้วก็ล้มเลิกไปหลังจากแต่งไปแล้วเกือบๆสามหน้ากระดาษ (เกินครึ่งไปนิดนึง) ตั้งแต่เมื่อผมเห็นที่บ้านผมแห่กันเฝ้าหน้าจอดูประกวด The Star แล้วชื่นชมกันว่าผู้ประกวดเหล่านั้นเป้นศิลปินคุณภาพ และเห็นน้องผมฟังเพลงตลาดจากค่ายยักษ์ใหญ่และเทิดทูนวงเหล่านั้นว่าเป็นวงที่สุดยอด (แถมวงของเขายังแต่งเพลงใหม่ออกมาในสไตล์ของเพลงเหล่านั้นเป๊ะๆเลยด้วย ต้องเลียนแบบสไตล์ดนตรีและเสียงร้องให้ใกล้เคียงที่สุด) หลังจากนั้นผมก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยากไปเลย แล้วก็ล้มเลิกความคิดที่จะแต่งเพลงนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาครับ
ทุกวันนี้ผมลงทุนกับอุปกรณ์กีตาร์-เครื่องดนตรีไปแล้วไม่ต่ำกว่าแสนกว่าบาท ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยหาเงินมาได้จากมันเลยซักบาทเดียว ยังไม่เคยได้เงินตามงานอะไรเลย (เคยเล่นตามงานมาก่อนสมัยเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้เล่นพิงค์ฟลอยด์ สมัยนั้นยังเล่น Beatles อยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เคยได้ตังค์อยู่ดี) เอฟเฟคต์บอร์ดนั้นก็ต้องมีซัก 5 หมื่นแล้ว ลงทุนทุกอย่างให้วง Phi มีซาวน์กีตาร์ที่เหมือน ท้ายที่สุดวงเรายังไม่ได้เล่นตามงานไหนซักงานเลยครับ จะไปให้ประกวดวงดนตรีมันก็ไม่ใช่ เพราะวงเราไม่ได้มีจุดประสงค์ไปประกวด วงเราเน้นการ "ถ่ายทอด" เป็นหลัก ไม่ได้เน้นเทคนิคอะไรแบบนั้นครับ เวทีก็ไม่มี ไม่รู้จะไปเล่นที่ไหน จะเล่นตามงานมีตติ้งก็เกรงใจกัน เพราะว่าบางท่านอาจจะเป็นเน้นไปทางเก็บแผ่นมากกว่า แล้วก็ถ้าจะเล่นจริงก็ต้องเช่าเครื่อง เช่า PA อะไรกันอีก ราคาก็คงแพงหูฉี่

โอ้โฮ...

สองหนุ่มนี่จริงจังน่าดูนะครับ
เขียนมาซะยาวเชียว

ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่จะมีความจริงใจในการทำอะไร เพราะอย่างน้อย ก็ดีกว่าการทำไปสั่วๆ หรือแบบขอไปที

แต่ว่าศิลปะ คือสุนทรียภาพ(Aesthetics) มันมีมุมมอง มีบริบท และเป็นนามธรรมครับ
อย่าเครียดกันถึงขนาดนั้นเลย

อย่างที่เขาว่ากัน
กองขยะมองให้ดีก็มีศิลป์
ดังนั้นศิลปะจึงไม่มีมูลค่า(Cost) หากแต่มีคุณค่า(Value) ต่างหาก

ถ้าการเล่นดนตรีของพวกเรา สร้างความสุข สร้างสุนทรีย์ และจรรโลงจิตใจอันห่อเหี่ยว ได้สดชื่น สดใสเบิกบานขึ้นมา ก็ถือว่า การเล่นดนตรีนั้น มีคุณค่าอย่างสูงสุดแล้ว

ส่วนเรื่อง "ลาภ ยศ สรรเสริฐ" เป็นสิ่งมายา(Illusion) ครับ ไม่มีประโยชน์ใดๆ
บันทึกการเข้า

ไอแอมตองสาม
Close To The Edge
******
กระทู้: 1492


aka TONG MAYER


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2009 | 05:52:47 PM »

เห็นด้วยกับพี่บาสเป็นอย่างยิ่งเรื่องความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในวงการดนตรียุคปัจจุบันที่อะไรๆก็เป็น "ธุรกิจ" และต้องทำทุกอย่างเพื่อ "ตลาด" ไปเสียหมด ผมเองก็เลิกแต่งเพลงมาได้สักระยะนึงแล้วก็เพราะแบบนี้แหละครับ แล้วก็คิดว่าจะไม่แต่งอีกแล้วด้วย เพราะแต่งไปมันก็ได้แค่นั้นแหละ......ล่าสุด (ค่อนข้างนานแล้ว) ผมได้ลองแต่งเพลงคู่มหากาพย์เอาไว้ชุดนึง มีชื่อว่า "18" และ "81" โดยจินตนาการไว้เลยว่าถ้ามันสามารถบันทึกเสียงออกมาได้จริงๆก็อยากจะให้มันมีความยาวเพลงละ 30 นาทีขึ้นไปเลย (แบบว่าชุดนึงมีแค่สองเพลง) แต่แล้วก็ล้มเลิกไปหลังจากแต่งไปแล้วเกือบๆสามหน้ากระดาษ (เกินครึ่งไปนิดนึง) ตั้งแต่เมื่อผมเห็นที่บ้านผมแห่กันเฝ้าหน้าจอดูประกวด The Star แล้วชื่นชมกันว่าผู้ประกวดเหล่านั้นเป้นศิลปินคุณภาพ และเห็นน้องผมฟังเพลงตลาดจากค่ายยักษ์ใหญ่และเทิดทูนวงเหล่านั้นว่าเป็นวงที่สุดยอด (แถมวงของเขายังแต่งเพลงใหม่ออกมาในสไตล์ของเพลงเหล่านั้นเป๊ะๆเลยด้วย ต้องเลียนแบบสไตล์ดนตรีและเสียงร้องให้ใกล้เคียงที่สุด) หลังจากนั้นผมก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยากไปเลย แล้วก็ล้มเลิกความคิดที่จะแต่งเพลงนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาครับ
ทุกวันนี้ผมลงทุนกับอุปกรณ์กีตาร์-เครื่องดนตรีไปแล้วไม่ต่ำกว่าแสนกว่าบาท ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยหาเงินมาได้จากมันเลยซักบาทเดียว ยังไม่เคยได้เงินตามงานอะไรเลย (เคยเล่นตามงานมาก่อนสมัยเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้เล่นพิงค์ฟลอยด์ สมัยนั้นยังเล่น Beatles อยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เคยได้ตังค์อยู่ดี) เอฟเฟคต์บอร์ดนั้นก็ต้องมีซัก 5 หมื่นแล้ว ลงทุนทุกอย่างให้วง Phi มีซาวน์กีตาร์ที่เหมือน ท้ายที่สุดวงเรายังไม่ได้เล่นตามงานไหนซักงานเลยครับ จะไปให้ประกวดวงดนตรีมันก็ไม่ใช่ เพราะวงเราไม่ได้มีจุดประสงค์ไปประกวด วงเราเน้นการ "ถ่ายทอด" เป็นหลัก ไม่ได้เน้นเทคนิคอะไรแบบนั้นครับ เวทีก็ไม่มี ไม่รู้จะไปเล่นที่ไหน จะเล่นตามงานมีตติ้งก็เกรงใจกัน เพราะว่าบางท่านอาจจะเป็นเน้นไปทางเก็บแผ่นมากกว่า แล้วก็ถ้าจะเล่นจริงก็ต้องเช่าเครื่อง เช่า PA อะไรกันอีก ราคาก็คงแพงหูฉี่




ดังนั้นศิลปะจึงไม่มีมูลค่า(Cost) หากแต่มีคุณค่า(Value) ต่างหาก



โดนใจครับ พี่แจ๊ค  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

ขออภัย ต่อไปจะไม่ล่้วงเกิน.
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2009 | 07:05:34 PM »

ศิลปะไม่มีมูลค่า แต่ก็มีต้นทุนนะครับ

งานศิลปะหลายประเภทใช้ต้นทุนต่างกัน บางประเภทใช้มาก บางประเภทใช้น้อย งานเขียน วรรณกรรม แทบไม่ต้องมีอะไรเลย มีกระดาษ ปากกา คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด ก็สร้างสรรค์ผลงานได้แล้ว

งานศิลปะดนตรีใช้ต้นทุนสูงพอดู ขึ้นกับรูปแบบของแนวดนตรีและการนำเสนออีกต่างห่าง ถ้าอย่างอัลบั้ม The Freewheelin' Bob Dylan ก็คงใช้ต้นทุนไม่มาก แค่หยิบมือกับการใช้จ่ายค่าบันทึกเสียงและกีตาร์โปร่ง แต่ถ้าเป็นอัลบั้มอย่าง The Six Wives of Henry VIII ของริก เวคแมน (เราคงยังไม่ต้องพูดไปถึงอัลบั้ม Journey to the Centre of the Earth หรอกนะครับ) ก็คงใช้ต้นทุนไม่น้อย ซึ่งหนักไปทางเครื่องดนตรี ไหนจะลองคิดถึงอัลบั้มอย่าง Abbey Road นี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ

กลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงครับ การทำเพลงสมัยนี้ก็มีต้นทุน อย่างเพลงพฤติกรรมของ Mystic Dream ก็มีต้นทุนครับ เพลงละ 5000 บาท ถึงจะได้ซาวน์ที่ผ่านการมิกซ์มาอย่างดีอย่างที่เราได้ยินกันในเพลงของน้องเค้า เป็นเพลงป๊อบร็อคธรรมดา แล้วถ้าผมอยากทำเพลง Prog ล่ะ จะใช้ทุนต่อเพลงเท่าไหร่กัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วการสร้างสรรค์งานดนตรีในปัจจุบัน ถ้าจะเอาอย่างทำเป็นการเป็นงานหาเลี้ยงชีพแล้วล่ะก็ เลิกคิดไปได้เลยครับ เพราะเราไม่มีทุน ยกเว้นว่ามีความคิดแบบผม คือคิดว่าจะทำงานหาเงิน ด้วยอาชีพธรรมดาๆ แล้วเอาเงินที่ได้มาสร้างสรรค์งานดนตรีแล้วฟังกันเองเพื่อความบันเทิง คือประมาณว่าทำเอง ฟังเองนั่นแหละครับ แล้วก็จะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร ไม่ต้องแคร์ว่าจะขายได้หรือเปล่า

คนที่เป็น The Star, AF พอผ่านการแข่งขัน ก็มีคนมาเทรนให้ มีทีมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์พร้อม หยั่งกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฉีกซอง แล้วเติมน้ำร้อนได้ยังไงอย่างงั้นแหละครับ ผ่านไปเดือนสองเดือนก็ออกอัลบั้มได้แล้ว มีมิวสิควีดีโอพร้อมโปรโมต ที่ผมพูดไม่ได้รังเกียจเค้านะครับ เพราะผมเองก็ชอบพวก J-Pop เหมือนกัน แต่ผมคิดว่า มันควรจะให้โอกาสคนอื่น แนวทางอื่นๆ เสียบ้าง คือเหมือนถ้าคุณอยากจะเป็นศิลปิน คุณมีทางเดียวเท่านั้น หน้าตาไม่ดีหมดสิทธิ์ ไม่หล่อ ไม่ขาว หมดสิทธิ์ ดูอย่าง The Star นี่ ลองนึกดูครับว่า ตอนนี้ใครดังสุดใน The Star ก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบี้ เดอะสตาร์ แล้วคนที่เคยเป็น The Star คนแรกล่ะ อย่างสน ตอนนี้หายไปไหนครับ เคยออกมากี่อัลบั้มแล้วครับ อย่างที่บอก ผมไม่ได้รังเกียจคนหน้าตาดีนะ แต่ผมว่ามันน่าจะให้โอกาสคนที่หน้าตาไม่ดีบ้างน่ะครับ

ขอเอาเนื้อเพลงของผมมาแปะหน่อยครับ เข้ากับเนื้อหาที่เราคุยกันอยู่นี้ดีครับ เพลงนี้ผมกับสันกับเหม่งลองเอามาเล่นตอนซ้อมครั้งล่าสุดแล้วครับ แต่งไว้เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว

Lookin' Good
Words & Music by Agent Fox Mulder

Verse 1-1
Walking' round my old town
Sittin' on my own ground
What I had found?
There're some people talking out loud

Verse 1-2
A whole world has been change
Everything happen is the trend
Which is make me feel so insane
Like I stand alone in the rain

Pre-Chorus 1 : Instrumental

Verse 1-3
A man hold a gun in his hand
Acting like he's the best in this land
A pretty girl talking near the place where he stands
Acting as good as she can

Chorus 1
He said "Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know she's lookin' good ?"
"Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know she's lookin' good ?"

Verse 2-1
That pretty girl sittin' with a new man
She's crying out loud as she can
Telling him "I'm not the one that he want now!"
"Could you please give me your hand ?"

Verse 2-2
Next day, she talked to me 'bout her "Lookin' good boy"
Told me "He's a really nice guy"
And then she said with her eyes open wide
"Well, at least I think he can heal my pain."

Chorus 2
She say "Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know he's lookin' good ?"
"Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know he's lookin' good ?"

Outro
Lookin' so good, but not really good
Lookin' so good, but not really good
.......
....

ขอกลับมาที่ข้อความของพี่แจ๊คครับ

ถ้าการเล่นดนตรีของพวกเรา สร้างความสุข สร้างสุนทรีย์ และจรรโลงจิตใจอันห่อเหี่ยว ได้สดชื่น สดใสเบิกบานขึ้นมา ก็ถือว่า การเล่นดนตรีนั้น มีคุณค่าอย่างสูงสุดแล้ว

ส่วนเรื่อง "ลาภ ยศ สรรเสริฐ" เป็นสิ่งมายา(Illusion) ครับ ไม่มีประโยชน์ใดๆ


ปัญหาตอนนี้คือการเล่นของเรา หากเราจะทำให้มันเป็นชิ้นเป็นอัน โดยที่ไม่แคร์ลาภ ยศ สรรเสริฐอะไรทั้งสิ้น มันก็ต้องใช้ "ต้นทุนของศิลปะ" ที่สูงอยู่ดีครับ

คุยกันสบายๆ นะครับ ไม่เครียดนะครับพี่แจ๊ค ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มิถุนายน 2009 | 08:27:14 AM โดย Agent Fox Mulder » บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2009 | 09:34:07 AM »

ฮาฮา
ไม่เครียดอยู่แล้ว
บาสกับเหม่งก็รู้นี่นา
ถ้าเรื่องแค่ถึงพี่นะ ชิลๆ
ที่ทำเครียดเพราะ "กลัวไปกระทบคนอื่น" ต่างหาก
ใช่เปล่า  ยิงฟันยิ้ม



อย่างแรก ต้องขอบอกว่า "พี่อิจฉาพวกน้องๆครับ"
ซึ่งเคยพูดกับ ฟิลและสัน ตอนกลับบ้านคราวนู้น

คือเลือดที่สูบฉีด มันไม่ค่อยจะมีฮีโมโกลบิน ไม่เหมือนเลือดวัยระเริง อย่างพวกน้องๆ
วัยรุ่นอายุขนาดนี้
แค่"คิด" ได้ ก็เก่งแล้ว
แต่นี่ ยังลงมือ"กระทำ" ได้อีก ก็ถือว่า"เยี่ยม"ละ

พี่หวังว่าน้องๆ ยัง้อยากทำอะไร ทำไปเลย ลุยโลด
อย่าให้เวลาผ่านไป 10ปี 20ปี แล้วมานั่งนึกเสียดาย
อยากย้อนเวลากลับ แบบผู้ใหญ่น่าเบื่อบางคน (ข้าพเจ้าเองแหละ ฮิฮิ)

Ars longa, vita brevis (Life is short , art is long)
ชีวิตสั้น ศิลปะยืนยาว

-แองจิโล่ ต้องทะเลาะกับ สันตะปาปา ขณะเขียนรูปที่โบสถ์เพรสทีน (สันตะปาปาสมัยก่อน สามารถไล่กษัตริย์ออกจากประเทศได้นะ) เขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนรูปแบบ

-แวนโก๊ะ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนวิธีวาดรูปเป็นแนวตลาด แม้จะอดอยากยากจนสุดๆ

-เบโธเฟ่นปฏิเสธการอุปถัมภ์จากเจ้าครองนคร ขออดมื้อกินมื้อ แต่งเพลง ขายแผ่นโน้ตเพลง ก็พอ

แต่ทั้งหมด ก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์ เฟอร์เฟ็คไปซะทุกเรื่อง

ที่จริงน้องๆ ก็มีฝีมือที่เก่งๆกันอยู่แล้ว
ถ้ายิ่งได้ทัศนคติที่ถูกต้องชัดเจน
พี่ว่าผลงานที่ลงมือทำ มันก็ไม่เห็นว่าจะด้อยกว่าคนอื่น แต่อย่างใดนี่ครับ

เพียงแค่ว่า เราอย่าหันหลังกลับไปดูมัน ให้บ่อยนัก
เอ..จะเข้าใจไหมครับเนี่ย

เปรียบงานดนตรีของเรา เหมือนขับรถไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยที่สระบุรีละกัน
ยิ่งเราออกจากเมืองเท่าไหร่ ก็ยิ่งใกล้จุดหมายขึ้นเท่านั้น
แถมระหว่างทางที่ไป
อาจแวะเที่ยวเก็บดอกทานตะวันสวยๆ ก็ยิ่งดี
พบเจอของกินอร่อยๆ
เที่ยวถ้ำคูภูผาแปลกๆ

เวลานั้น เราไม่สนใจว่ามันจะไกลจากเมืองกรุงแล้วเท่าไหร่
ไม่สนใจว่ายานพาหนะที่เรานั่งมา จะบดแหวนเปลี่ยนวาล์ว เทอร์โบอัดกี่ปอนด์ จ่ายตังค์ค่าสี ค่าสติกเกอร์ ค่าช่าง ค่าเครื่องยนต์ มาแล้วเท่าไหร่

สนใจแค่ว่า ถ้าถึงที่ ก็ได้ลงน้ำเล่นเย็นใจร่วมมิตรสหายสังสรรค์
ใช่ไหมครับ

"การไปถึงจุดมุ่งหมายหรือความฝันนั้น... ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่การเดินทางนั้น... มันสนุกสนานยิ่งกว่า"
 ยิ้ม
บันทึกการเข้า

KoOk_drum
In The Court Of The Crimson King
*
กระทู้: 50



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2009 | 10:30:57 PM »

ลองทำเดโมดูซักเพลงสิครับ เอาแค่เพลงเดียวแบบเน้นๆ อย่าไปมองเป็นอัลบั้มหรือคอนเซ็ปท์อะไร ทำเหมือนตอนที่ Mike Oldfield ทำ Tubular Bells เพลงเดียว อย่างน้อยเหมือนได้เริ่มอะไรบางอย่าง

เห็นด้วยครับ ... ลองทำดูครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มิถุนายน 2009 | 12:15:16 AM โดย deep purple » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery