ตอนที่3
หลังจากที่ผมย้ายบ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์ห้องฟังเพลงห้องที่3 มาเป็นบ้านเดีียวพอมีพื้นที่ให้หายใจหายคอบ้างแต่ก็มีข้อจำกัดอีกเพราะเป็นบ้าน
จัดสรรไม่ได้เป็นบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นเอง มีข้อจำกัดพื้นที่ใช้สอยเหมือนกัน ผมต้องเอาแบบบ้านมาดูว่าจะทำห้องฟังเพลงไว้ตรงส่วนใดของบ้าน
และต้องไม่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว ลักษณะบ้านของผมก็เหมือนกับบ้านจัดสรรทั่วๆไปมีสามห้องนอนสองห้องน้ำหนึ่งห้องครัว
ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นชั้นล่างสามารถแบ่งพื้นที่เป็นห้องรับประททานอาหารได้ด้วยและโรงรถ ผมดูพื้นที่ส่วนต่างของบ้านแล้วชั้นบนที่มีห้องนอน
สามห้องเริ่มจากห้องนอนใหญ่ที่สุดของบ้านและห้องนอนที่ขนาดเล็กลงตามเนื้อที่อีกสองห้อง ดูๆแล้วห้องที่ทำห้องฟังเพลงได้คงต้องใช้ห้องนอนใหญ่
ผมเลยต้องคุยกับเมียก่อนว่าห้องที่ผมต้องการทำห้องฟังเพลงนั้นต้องใช้ห้องใหญ่สุดของบ้าน ซึ่งเมียผมเขาเข้าใจดีว่าถ้าไม่ใช้ห้องนอนใหญ่ทำห้องฟัง
เพลงผมก็ต้องใช้พื้นที่ชั้นล่างซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นเป็นห้องศูนย์กลางของครอบครัวแทน มันก็ยิ่งไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวงจะเหมือนกับห้องฟัง
เพลงห้องที่สามจากบ้านทาวน์เฮาส์หลังเก่า เมียผมก็เห็นด้วยว่าต้องใช้ห้องนอนใหญ่ทำแล้วเราก็ไปนอนห้องนอนเล็กแทนซึ่งก็มีข้อดีเหมือนกัน
ทำให้ใช้แอร์ขนาดเล็กไม่เปลืองไฟ ผมสรุปใช้ห้องนอนใหญ่ทำขนาดของห้องกว้างประมาณ3.6 ม.คูณ7.10ม.ความกว้างอาจเล็กไปหน่อยแต่ความยาว
ใช้ได้เมื่อมีพื้นที่เท่านี้ก็ต้องทำเท่าที่มี ผมเป็นคนที่ชอบในเรื่องอคูสติกส์อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเมื่อมีโอกาสทำห้องฟังเองก็เป็นไม่เรื่องยากสำหรับผม
เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครจะรู้ดีว่าเราชอบฟังเสียงอะไรชอบดูอะไรชอบรสชาติอะไรมากกว่าตัวเราเอง การฟังเพลงของผมไม่เหมือนใครและคนอื่นๆ
ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนผมด้วย ผมถึงจะต้องออกแบบห้องฟังเอง
ผมเริ่มจากต้องก่อปิดประตูกระจกที่ระเบียนประตูห้องน้ำและก่อปิดหน้าต่างทั้งหมดทุกด้าน รื้อฝ้ายิปซั่มทิ้งทั้งหมดเพื่อทำฝ้าเพดานใหม่หมด