ต่อไป »

[Pong-Wanchai]

Kiss มีสตูดิโออัลบั้มออกมา 18 ชุด ไม่นับชุดล่าสุดคือ Sonic Boom ซึ่งใกล้คลอดแล้ว
ยอดจำหน่ายทั้งหมดประมาณ 60 ล้านแผ่นทั่วโลก

ผมว่ามีเพลงดีๆ เยอะในอัลบั้มแทบทุกชุดของพวกเค้านะครับ อย่างน้อยก็ 1 เพลงต่อ 1 อัลบั้ม

เมื่อก่อนก็ไม่คิดที่จะฟังเพลงของวงนี้ ไม่เคยแตะเลย เพราะไม่ชอบวงดนตรีที่ขายรูปลักษณ์
สมัยนั้นมาเปิดคอนเสิร์ตในเมืองที่ผมอยู่ยังไม่ไปดูเลย แต่ทุกวันนี้กลับเสียดายมากเพราะพลาดโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ปัจจุบันผมยอมรับฝีมือคณะ Kiss มากขึ้น เนื่องจากคิดว่าพวกเค้าต้องมีอะไรดี ไม่งั้นคงไม่สามารถรักษาระดับความดัง
และมีอายุยืนยาวถึงทุกวันนี้

อย่างที่ ท่านผี บอกก่อนข้างต้นแล้วล่ะครับ ลองเริ่มฟังจากอัลบั้มคู่ชุด Alive แล้วน่าจะประทับใจนะครับ
มันเป็นดนตรีในแบบแส่ดงสดที่ให้บรรยากาศยุค 70's จริงๆ แล้วก็เล่นไม่ "หน่อมแน้ม" ด้วย 

[Shaman]

Kiss มีสตูดิโออัลบั้มออกมา 18 ชุด ไม่นับชุดล่าสุดคือ Sonic Boom ซึ่งใกล้คลอดแล้ว
ยอดจำหน่ายทั้งหมดประมาณ 60 ล้านแผ่นทั่วโลก

ผมว่ามีเพลงดีๆ เยอะในอัลบั้มแทบทุกชุดของพวกเค้านะครับ อย่างน้อยก็ 1 เพลงต่อ 1 อัลบั้ม

เมื่อก่อนก็ไม่คิดที่จะฟังเพลงของวงนี้ ไม่เคยแตะเลย เพราะไม่ชอบวงดนตรีที่ขายรูปลักษณ์
สมัยนั้นมาเปิดคอนเสิร์ตในเมืองที่ผมอยู่ยังไม่ไปดูเลย แต่ทุกวันนี้กลับเสียดายมากเพราะพลาดโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ปัจจุบันผมยอมรับฝีมือคณะ Kiss มากขึ้น เนื่องจากคิดว่าพวกเค้าต้องมีอะไรดี ไม่งั้นคงไม่สามารถรักษาระดับความดัง
และมีอายุยืนยาวถึงทุกวันนี้

อย่างที่ ท่านผี บอกก่อนข้างต้นแล้วล่ะครับ ลองเริ่มฟังจากอัลบั้มคู่ชุด Alive แล้วน่าจะประทับใจนะครับ
มันเป็นดนตรีในแบบแส่ดงสดที่ให้บรรยากาศยุค 70's จริงๆ แล้วก็เล่นไม่ "หน่อมแน้ม" ด้วย 

60 ล้านเองเหรอครับ คิดว่าน่าจะมากกว่านั้นซะอีก คือในความคิดของผม ผมว่าวงเขาดังมากๆ (หรือเฉพาะอเมริกา) อาจจะเป็นไปได้ว่า ดังเรื่องของอิมเมจ มากกว่าดนตรี แต่ผมว่า วงที่ไม่เคยหลับไหลอย่าง KISS ขายได้ 60 ล้าน ยังน้อยไปนิด เพราะวง อย่าง Iron Maiden , Metallica นี่น่าจะขายแซงเกิน 60 ล้านไปนานแล้ว

[Pong-Wanchai]

ยังงัยๆ ก็ต้องยอมรับว่าดนตรีของคณะ Kiss มียอดขายต่ำกว่า Iron Maiden และไม่เทียบเท่า Metallica แน่นอน
แต่ยอดขายอย่างอื่นคงพอสู้ได้ครับ 

ผมว่าใครชอบวงไหนก็ฟังกันไปเถอะครับ มันส์ๆ ด้วยกันทั้งนั้น.

[panyarak]

ขอเล่าเกล็ดการไปชมคอนเสิร์ตของ KISS หลายปีก่อนที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่วงที่มีบารมีสูงถึงจะไปเล่นได้สักเล็กน้อยครับ KISS ไปเล่นที่ Tokyo Dome รอบเดียว ซึ่งผมอยากไปดูมาก แต่ไม่เสี่ยงซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะติดธุระสำคัญแล้วไปไม่ได้ บัตรราคา 10,000 เยน และบัตรก็ sold out ก่อนวันแสดงหลายวัน พอถึงวันแสดง ผมไม่ติดธุระ จึงไปแวะทานข้าวก่อน พอใกล้เวลาแสดงซึ่งกำหนดไว้ 19.00 น. ผมก็เดินไปที่หน้า Tokyo Dome มองหาพวกนำบัตรมาขายหน้างาน ซึ่งจะมี 2 พวก คือ พวกที่กว้านซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเก็งกำไร นำมาขายวันงาน (พวกนี้ดูหน้าก็รู้ ท่าทางเป็นนักเลงหรือไม่ก็ยากูซ่า) กับอีกพวกที่ตั้งใจมาดูกับเพื่อนหรือแฟน แต่เพื่อนหรือแฟนติดธุระมาดูไม่ได้ เลยต้องนำบัตรมาขายหน้างาน แล้วค่อยเข้าไปดูคนเดียว ผมเลือกคนขายประเภทหลัง เพราะพอดีไปเห็นคนนึ่งท่าทางกระวนกระวายเพราะการแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว เขาคงอยากรีบขายให้เสร็จๆ เพื่อเข้าไปดู ในขณะที่พวกนักเลงนั้นไม่เข้าไปดูอยู่แล้วและขายแพงกว่าราคาหน้าตั๋วเท่าตัว ผมก็ส่งภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ต่อราคาเหลือได้ 8,000 เยน แล้วรีบเข้าไปดู พอไปถึงที่นั่งก็ตกใจที่ได้ที่นั่งใกล้เวทีมาก คือห่างจากหน้าเวทีแค่ 10 แถว มองไปรอบๆ คนดูส่วนใหญ่มาในชุดทำงาน ซึ่งก็ตลกดีที่คนใส่สูทไปดู KISS พอได้ที่นั่งได้ไม่กี่วินาที ไฟก็ดับลง แล้ว KISS ก็ออกมาวาดลวดลายสุดมันส์ โดยมีแสงสี พลุไฟ การลอยตัวเหนือคนดู เหมือนที่เห็นในดีวีดี แต่ในขณะเดียวกัน ความมันส์บนเวทีไม่ได้ส่งผลต่อคนดูเท่าใด เพราะชาวญี่ปุ่นดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยมาก และสะท้อนความมีวินัยอย่างแท้จริง ไม่มีใครขยับออกจากที่นั่งตัวเอง ถ้ายืนก็จะยืนหน้าเก้าอี้พร้อมกันหมดทุกคน ถ้าจะเต้นไปตามเพลง ทุกคนก็จะเต้นท่าคล้ายๆ กัน ไม่มีการขว้างปาสิ่งของใดๆ (ตอนไปดู Marilyn Manson ก็เป็นแบบนี้ ผิดกับการไปชมคอนเสิร์ตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง ที่ทุกคนลุกขึ้นเดินเพ่นพ่าน คุยกันเสียงดัง และขว้างปาสิ่งของ) พอ KISS อำลาเวทีไป คนดูก็ทะยอยกันออกจากสถานที่อย่างมีระเบียบ เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ผมก็เหลียวหลังกลับไปมอง ก็พบว่า เก้าอี้ทุกตัวอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบ ไม่มีเศษขยะอยู่ตามพื้นเลย ที้เล่ามานี้ ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวคอนเสิร์ตเท่าไหร่ แต่อยากเล่าความประทับใจในความมีวินัยของชาวญี่ปุ่นให้ฟังครับ

[ไม่ประสงค์ออกนาม]

ขอเล่าเกล็ดการไปชมคอนเสิร์ตของ KISS หลายปีก่อนที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่วงที่มีบารมีสูงถึงจะไปเล่นได้สักเล็กน้อยครับ KISS ไปเล่นที่ Tokyo Dome รอบเดียว ซึ่งผมอยากไปดูมาก แต่ไม่เสี่ยงซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะติดธุระสำคัญแล้วไปไม่ได้ บัตรราคา 10,000 เยน และบัตรก็ sold out ก่อนวันแสดงหลายวัน พอถึงวันแสดง ผมไม่ติดธุระ จึงไปแวะทานข้าวก่อน พอใกล้เวลาแสดงซึ่งกำหนดไว้ 19.00 น. ผมก็เดินไปที่หน้า Tokyo Dome มองหาพวกนำบัตรมาขายหน้างาน ซึ่งจะมี 2 พวก คือ พวกที่กว้านซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเก็งกำไร นำมาขายวันงาน (พวกนี้ดูหน้าก็รู้ ท่าทางเป็นนักเลงหรือไม่ก็ยากูซ่า) กับอีกพวกที่ตั้งใจมาดูกับเพื่อนหรือแฟน แต่เพื่อนหรือแฟนติดธุระมาดูไม่ได้ เลยต้องนำบัตรมาขายหน้างาน แล้วค่อยเข้าไปดูคนเดียว ผมเลือกคนขายประเภทหลัง เพราะพอดีไปเห็นคนนึ่งท่าทางกระวนกระวายเพราะการแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว เขาคงอยากรีบขายให้เสร็จๆ เพื่อเข้าไปดู ในขณะที่พวกนักเลงนั้นไม่เข้าไปดูอยู่แล้วและขายแพงกว่าราคาหน้าตั๋วเท่าตัว ผมก็ส่งภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ต่อราคาเหลือได้ 8,000 เยน แล้วรีบเข้าไปดู พอไปถึงที่นั่งก็ตกใจที่ได้ที่นั่งใกล้เวทีมาก คือห่างจากหน้าเวทีแค่ 10 แถว มองไปรอบๆ คนดูส่วนใหญ่มาในชุดทำงาน ซึ่งก็ตลกดีที่คนใส่สูทไปดู KISS พอได้ที่นั่งได้ไม่กี่วินาที ไฟก็ดับลง แล้ว KISS ก็ออกมาวาดลวดลายสุดมันส์ โดยมีแสงสี พลุไฟ การลอยตัวเหนือคนดู เหมือนที่เห็นในดีวีดี แต่ในขณะเดียวกัน ความมันส์บนเวทีไม่ได้ส่งผลต่อคนดูเท่าใด เพราะชาวญี่ปุ่นดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยมาก และสะท้อนความมีวินัยอย่างแท้จริง ไม่มีใครขยับออกจากที่นั่งตัวเอง ถ้ายืนก็จะยืนหน้าเก้าอี้พร้อมกันหมดทุกคน ถ้าจะเต้นไปตามเพลง ทุกคนก็จะเต้นท่าคล้ายๆ กัน ไม่มีการขว้างปาสิ่งของใดๆ (ตอนไปดู Marilyn Manson ก็เป็นแบบนี้ ผิดกับการไปชมคอนเสิร์ตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง ที่ทุกคนลุกขึ้นเดินเพ่นพ่าน คุยกันเสียงดัง และขว้างปาสิ่งของ) พอ KISS อำลาเวทีไป คนดูก็ทะยอยกันออกจากสถานที่อย่างมีระเบียบ เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ผมก็เหลียวหลังกลับไปมอง ก็พบว่า เก้าอี้ทุกตัวอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบ ไม่มีเศษขยะอยู่ตามพื้นเลย ที้เล่ามานี้ ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวคอนเสิร์ตเท่าไหร่ แต่อยากเล่าความประทับใจในความมีวินัยของชาวญี่ปุ่นให้ฟังครับ

อ่านจบแล้วสนุกดีครับ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ อ่านแล้วมองย้อนมาบ้านเรา (หาได้มีเจตนาดูถูกชาติภูิมิตนเองไม่) เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ผมกับแฟนยังตะเวนดูหนังตามโรง สิ่งที่พบเห็นเป็นประจำก็ได้แก่ ไอ้ข้างหลังนั่งไขว้ห้างกระดิกเท้า(ตีน)มาโดนเก้าอี้ผมบ่อยๆ อุดมไปด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือนานาเพลง ฯลฯ แถมที่ระยำและเลวร้ายกว่านั้นคือ เคยเจอหมากฝรั่งที่คนคายไว้ (ดีนะที่ผมเห็นก่อน) ส่วนไอ้เรื่องโดนตีนมากระแทกเก้าอี้หรือโดนคุกคามในแบบต่างๆนั้น ผมว่าจะลุยหลายครั้งแล้ว แต่เตือนสติตัวเองเสมอว่า "เราเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ แต่เปลี่ยนตัวเองได้" (จำเขามาอีกที) เลยช่างหัวมัน ทำเฉยๆซะดีกว่า อีกอย่างก็อยากแก่ตายด้วย มีอยู่ครั้งนึง ไปดูเรื่องอะไรไม่รู้ มีเด็กวัยรุ่นนั่งข้างๆ พี่แกคุยกันส่งเสียงดังน่ารำคาญโคตร ไอ้ผมก็นะโมๆ หนังดำเนินไปราว 30 นาที พวกมันก็ยังไม่หยุดความชะนีง่ายๆ ก็เป็นแฟนผมนี่แหละครับ หันไปบอกนังชะนี้เหล่านั้นว่า "น้องคะ จะดูหนังกันมั๊ยคะ" (ผมก็นึกในใจนะ เอาแล้วไง หางานให้ตรูอีกล่ะ ออกไปจะมี Tekken นอกจอรึเปล่าวะ) มันถึงหยุดไปสักพัก ซึ่งก็สักพักจริงๆ เงียบไปเดี๋ยวเดียวมันเอาอีกแล้ว ผมก็กะเอาวะ ตรูลองบอกมันดู แต่ปรากฏว่าคุณพี่ท่านนึงที่นั่งหลังผมพูดขึ้นมาว่า "พวกคุณจะดูหนังรึเปล่า คุยกันอยู่ได้ คนอื่นเขารำคาญ ดูหนังไม่รู้เรื่องรู้มั๊ย ถ้าอยากคุยไม่อยากดูหนัง ก็ไปคุยกันข้างนอก" นั่นแหละครับ พวกนั้นถึงทำเป็นเนียน นั่งนิ่งๆแล้วอาศัยความเงียบลุกออกไปในที่สุด

[kongbei]

ขอเล่าเกล็ดการไปชมคอนเสิร์ตของ KISS หลายปีก่อนที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่วงที่มีบารมีสูงถึงจะไปเล่นได้สักเล็กน้อยครับ KISS ไปเล่นที่ Tokyo Dome รอบเดียว ซึ่งผมอยากไปดูมาก แต่ไม่เสี่ยงซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะติดธุระสำคัญแล้วไปไม่ได้ บัตรราคา 10,000 เยน และบัตรก็ sold out ก่อนวันแสดงหลายวัน พอถึงวันแสดง ผมไม่ติดธุระ จึงไปแวะทานข้าวก่อน พอใกล้เวลาแสดงซึ่งกำหนดไว้ 19.00 น. ผมก็เดินไปที่หน้า Tokyo Dome มองหาพวกนำบัตรมาขายหน้างาน ซึ่งจะมี 2 พวก คือ พวกที่กว้านซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเก็งกำไร นำมาขายวันงาน (พวกนี้ดูหน้าก็รู้ ท่าทางเป็นนักเลงหรือไม่ก็ยากูซ่า) กับอีกพวกที่ตั้งใจมาดูกับเพื่อนหรือแฟน แต่เพื่อนหรือแฟนติดธุระมาดูไม่ได้ เลยต้องนำบัตรมาขายหน้างาน แล้วค่อยเข้าไปดูคนเดียว ผมเลือกคนขายประเภทหลัง เพราะพอดีไปเห็นคนนึ่งท่าทางกระวนกระวายเพราะการแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว เขาคงอยากรีบขายให้เสร็จๆ เพื่อเข้าไปดู ในขณะที่พวกนักเลงนั้นไม่เข้าไปดูอยู่แล้วและขายแพงกว่าราคาหน้าตั๋วเท่าตัว ผมก็ส่งภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ต่อราคาเหลือได้ 8,000 เยน แล้วรีบเข้าไปดู พอไปถึงที่นั่งก็ตกใจที่ได้ที่นั่งใกล้เวทีมาก คือห่างจากหน้าเวทีแค่ 10 แถว มองไปรอบๆ คนดูส่วนใหญ่มาในชุดทำงาน ซึ่งก็ตลกดีที่คนใส่สูทไปดู KISS พอได้ที่นั่งได้ไม่กี่วินาที ไฟก็ดับลง แล้ว KISS ก็ออกมาวาดลวดลายสุดมันส์ โดยมีแสงสี พลุไฟ การลอยตัวเหนือคนดู เหมือนที่เห็นในดีวีดี แต่ในขณะเดียวกัน ความมันส์บนเวทีไม่ได้ส่งผลต่อคนดูเท่าใด เพราะชาวญี่ปุ่นดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยมาก และสะท้อนความมีวินัยอย่างแท้จริง ไม่มีใครขยับออกจากที่นั่งตัวเอง ถ้ายืนก็จะยืนหน้าเก้าอี้พร้อมกันหมดทุกคน ถ้าจะเต้นไปตามเพลง ทุกคนก็จะเต้นท่าคล้ายๆ กัน ไม่มีการขว้างปาสิ่งของใดๆ (ตอนไปดู Marilyn Manson ก็เป็นแบบนี้ ผิดกับการไปชมคอนเสิร์ตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง ที่ทุกคนลุกขึ้นเดินเพ่นพ่าน คุยกันเสียงดัง และขว้างปาสิ่งของ) พอ KISS อำลาเวทีไป คนดูก็ทะยอยกันออกจากสถานที่อย่างมีระเบียบ เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ผมก็เหลียวหลังกลับไปมอง ก็พบว่า เก้าอี้ทุกตัวอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบ ไม่มีเศษขยะอยู่ตามพื้นเลย ที้เล่ามานี้ ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวคอนเสิร์ตเท่าไหร่ แต่อยากเล่าความประทับใจในความมีวินัยของชาวญี่ปุ่นให้ฟังครับ

จะสังเกตพฤติกรรมคนขายบัตรหน้างานได้อย่างไรครับ พวกประเภทสองที่มาขาย จะตะโกนขายหรือทำท่าทางให้รู้ว่าขายครับ

[panyarak]

จะสังเกตพฤติกรรมคนขายบัตรหน้างานได้อย่างไรครับ พวกประเภทสองที่มาขาย จะตะโกนขายหรือทำท่าทางให้รู้ว่าขายครับ

ทั้ง 2 พวกจะพูดเหมือนกันว่า ต้องการบัตรชมคอนเสิร์ตหรือเปล่า พวกแรกจะเดินรี่เข้ามาหาและพูดเสียงดัง พอเราส่ายหน้า เขาก็รี่ไปหาคนอื่นต่อ พวกหลังจะไม่แสดงท่าทีก้าวร้าว จะถามเราเบาๆ ครับ
นอกจากนี้ คอนเสิร์ตไหนบัตรขายดีมากๆ และมีผู้ซื้อบัตรไม่ทันจำนวนมาก พวกนักเลงยังมาดักหน้างานก่อนเวลาแสดงนานๆ เพื่อขอซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในงาน เพื่อนำไปขายต่อในราคา ++ แก่ผู้ที่ซื้อบัตรไม่ทันอีกต่อครับ

[Superbad]

จะสังเกตพฤติกรรมคนขายบัตรหน้างานได้อย่างไรครับ พวกประเภทสองที่มาขาย จะตะโกนขายหรือทำท่าทางให้รู้ว่าขายครับ

ทั้ง 2 พวกจะพูดเหมือนกันว่า ต้องการบัตรชมคอนเสิร์ตหรือเปล่า พวกแรกจะเดินรี่เข้ามาหาและพูดเสียงดัง พอเราส่ายหน้า เขาก็รี่ไปหาคนอื่นต่อ พวกหลังจะไม่แสดงท่าทีก้าวร้าว จะถามเราเบาๆ ครับ
นอกจากนี้ คอนเสิร์ตไหนบัตรขายดีมากๆ และมีผู้ซื้อบัตรไม่ทันจำนวนมาก พวกนักเลงยังมาดักหน้างานก่อนเวลาแสดงนานๆ เพื่อขอซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในงาน เพื่อนำไปขายต่อในราคา ++ แก่ผู้ที่ซื้อบัตรไม่ทันอีกต่อครับ

พวกแรกนี่เหมือนในรูปรึเปล่าคับ

[kongbei]

จะสังเกตพฤติกรรมคนขายบัตรหน้างานได้อย่างไรครับ พวกประเภทสองที่มาขาย จะตะโกนขายหรือทำท่าทางให้รู้ว่าขายครับ

นอกจากนี้ คอนเสิร์ตไหนบัตรขายดีมากๆ และมีผู้ซื้อบัตรไม่ทันจำนวนมาก พวกนักเลงยังมาดักหน้างานก่อนเวลาแสดงนานๆ เพื่อขอซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในงาน เพื่อนำไปขายต่อในราคา ++ แก่ผู้ที่ซื้อบัตรไม่ทันอีกต่อครับ

พวกนี้ไปขอซื้อดีๆ หรือขู่ครับ

[panyarak]

จะสังเกตพฤติกรรมคนขายบัตรหน้างานได้อย่างไรครับ พวกประเภทสองที่มาขาย จะตะโกนขายหรือทำท่าทางให้รู้ว่าขายครับ

นอกจากนี้ คอนเสิร์ตไหนบัตรขายดีมากๆ และมีผู้ซื้อบัตรไม่ทันจำนวนมาก พวกนักเลงยังมาดักหน้างานก่อนเวลาแสดงนานๆ เพื่อขอซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในงาน เพื่อนำไปขายต่อในราคา ++ แก่ผู้ที่ซื้อบัตรไม่ทันอีกต่อครับ

พวกนี้ไปขอซื้อดีๆ หรือขู่ครับ

ขอซื้อแต่พูดไม่เพราะเลยครับ สังเกตดู ถ้าโดนถามแล้ว ชะงักนิดนึง จะโดนรุกต่อ คนส่วนใหญ่จะรีบส่ายหน้าแล้วจ้ำหนีไปเลยครับ

[panyarak]

จะสังเกตพฤติกรรมคนขายบัตรหน้างานได้อย่างไรครับ พวกประเภทสองที่มาขาย จะตะโกนขายหรือทำท่าทางให้รู้ว่าขายครับ

ทั้ง 2 พวกจะพูดเหมือนกันว่า ต้องการบัตรชมคอนเสิร์ตหรือเปล่า พวกแรกจะเดินรี่เข้ามาหาและพูดเสียงดัง พอเราส่ายหน้า เขาก็รี่ไปหาคนอื่นต่อ พวกหลังจะไม่แสดงท่าทีก้าวร้าว จะถามเราเบาๆ ครับ
นอกจากนี้ คอนเสิร์ตไหนบัตรขายดีมากๆ และมีผู้ซื้อบัตรไม่ทันจำนวนมาก พวกนักเลงยังมาดักหน้างานก่อนเวลาแสดงนานๆ เพื่อขอซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากผู้ที่กำลังเดินเข้าไปในงาน เพื่อนำไปขายต่อในราคา ++ แก่ผู้ที่ซื้อบัตรไม่ทันอีกต่อครับ

พวกแรกนี่เหมือนในรูปรึเปล่าคับ

เป็นไปได้ครับ บางคนใส่เสื้อแขนยาว แต่มองเห็นลายสักแพลมออกมา

[JKNoremorse]

ขอเล่าเกล็ดการไปชมคอนเสิร์ตของ KISS หลายปีก่อนที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่วงที่มีบารมีสูงถึงจะไปเล่นได้สักเล็กน้อยครับ KISS ไปเล่นที่ Tokyo Dome รอบเดียว ซึ่งผมอยากไปดูมาก แต่ไม่เสี่ยงซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะติดธุระสำคัญแล้วไปไม่ได้ บัตรราคา 10,000 เยน และบัตรก็ sold out ก่อนวันแสดงหลายวัน พอถึงวันแสดง ผมไม่ติดธุระ จึงไปแวะทานข้าวก่อน พอใกล้เวลาแสดงซึ่งกำหนดไว้ 19.00 น. ผมก็เดินไปที่หน้า Tokyo Dome มองหาพวกนำบัตรมาขายหน้างาน ซึ่งจะมี 2 พวก คือ พวกที่กว้านซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเก็งกำไร นำมาขายวันงาน (พวกนี้ดูหน้าก็รู้ ท่าทางเป็นนักเลงหรือไม่ก็ยากูซ่า) กับอีกพวกที่ตั้งใจมาดูกับเพื่อนหรือแฟน แต่เพื่อนหรือแฟนติดธุระมาดูไม่ได้ เลยต้องนำบัตรมาขายหน้างาน แล้วค่อยเข้าไปดูคนเดียว ผมเลือกคนขายประเภทหลัง เพราะพอดีไปเห็นคนนึ่งท่าทางกระวนกระวายเพราะการแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว เขาคงอยากรีบขายให้เสร็จๆ เพื่อเข้าไปดู ในขณะที่พวกนักเลงนั้นไม่เข้าไปดูอยู่แล้วและขายแพงกว่าราคาหน้าตั๋วเท่าตัว ผมก็ส่งภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ต่อราคาเหลือได้ 8,000 เยน แล้วรีบเข้าไปดู พอไปถึงที่นั่งก็ตกใจที่ได้ที่นั่งใกล้เวทีมาก คือห่างจากหน้าเวทีแค่ 10 แถว มองไปรอบๆ คนดูส่วนใหญ่มาในชุดทำงาน ซึ่งก็ตลกดีที่คนใส่สูทไปดู KISS พอได้ที่นั่งได้ไม่กี่วินาที ไฟก็ดับลง แล้ว KISS ก็ออกมาวาดลวดลายสุดมันส์ โดยมีแสงสี พลุไฟ การลอยตัวเหนือคนดู เหมือนที่เห็นในดีวีดี แต่ในขณะเดียวกัน ความมันส์บนเวทีไม่ได้ส่งผลต่อคนดูเท่าใด เพราะชาวญี่ปุ่นดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยมาก และสะท้อนความมีวินัยอย่างแท้จริง ไม่มีใครขยับออกจากที่นั่งตัวเอง ถ้ายืนก็จะยืนหน้าเก้าอี้พร้อมกันหมดทุกคน ถ้าจะเต้นไปตามเพลง ทุกคนก็จะเต้นท่าคล้ายๆ กัน ไม่มีการขว้างปาสิ่งของใดๆ (ตอนไปดู Marilyn Manson ก็เป็นแบบนี้ ผิดกับการไปชมคอนเสิร์ตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง ที่ทุกคนลุกขึ้นเดินเพ่นพ่าน คุยกันเสียงดัง และขว้างปาสิ่งของ) พอ KISS อำลาเวทีไป คนดูก็ทะยอยกันออกจากสถานที่อย่างมีระเบียบ เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ผมก็เหลียวหลังกลับไปมอง ก็พบว่า เก้าอี้ทุกตัวอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบ ไม่มีเศษขยะอยู่ตามพื้นเลย ที้เล่ามานี้ ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวคอนเสิร์ตเท่าไหร่ แต่อยากเล่าความประทับใจในความมีวินัยของชาวญี่ปุ่นให้ฟังครับ

อ่านแล้วสนุกดีครับ อยากให้พี่เล่าประสบการณ์การไปดูวงอื่น ๆ บ้างจัง

[ท่านผีเพลง]

ขอเล่าเกล็ดการไปชมคอนเสิร์ตของ KISS หลายปีก่อนที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่วงที่มีบารมีสูงถึงจะไปเล่นได้สักเล็กน้อยครับ KISS ไปเล่นที่ Tokyo Dome รอบเดียว ซึ่งผมอยากไปดูมาก แต่ไม่เสี่ยงซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะติดธุระสำคัญแล้วไปไม่ได้ บัตรราคา 10,000 เยน และบัตรก็ sold out ก่อนวันแสดงหลายวัน พอถึงวันแสดง ผมไม่ติดธุระ จึงไปแวะทานข้าวก่อน พอใกล้เวลาแสดงซึ่งกำหนดไว้ 19.00 น. ผมก็เดินไปที่หน้า Tokyo Dome มองหาพวกนำบัตรมาขายหน้างาน ซึ่งจะมี 2 พวก คือ พวกที่กว้านซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเก็งกำไร นำมาขายวันงาน (พวกนี้ดูหน้าก็รู้ ท่าทางเป็นนักเลงหรือไม่ก็ยากูซ่า) กับอีกพวกที่ตั้งใจมาดูกับเพื่อนหรือแฟน แต่เพื่อนหรือแฟนติดธุระมาดูไม่ได้ เลยต้องนำบัตรมาขายหน้างาน แล้วค่อยเข้าไปดูคนเดียว ผมเลือกคนขายประเภทหลัง เพราะพอดีไปเห็นคนนึ่งท่าทางกระวนกระวายเพราะการแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว เขาคงอยากรีบขายให้เสร็จๆ เพื่อเข้าไปดู ในขณะที่พวกนักเลงนั้นไม่เข้าไปดูอยู่แล้วและขายแพงกว่าราคาหน้าตั๋วเท่าตัว ผมก็ส่งภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ต่อราคาเหลือได้ 8,000 เยน แล้วรีบเข้าไปดู พอไปถึงที่นั่งก็ตกใจที่ได้ที่นั่งใกล้เวทีมาก คือห่างจากหน้าเวทีแค่ 10 แถว มองไปรอบๆ คนดูส่วนใหญ่มาในชุดทำงาน ซึ่งก็ตลกดีที่คนใส่สูทไปดู KISS พอได้ที่นั่งได้ไม่กี่วินาที ไฟก็ดับลง แล้ว KISS ก็ออกมาวาดลวดลายสุดมันส์ โดยมีแสงสี พลุไฟ การลอยตัวเหนือคนดู เหมือนที่เห็นในดีวีดี แต่ในขณะเดียวกัน ความมันส์บนเวทีไม่ได้ส่งผลต่อคนดูเท่าใด เพราะชาวญี่ปุ่นดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยมาก และสะท้อนความมีวินัยอย่างแท้จริง ไม่มีใครขยับออกจากที่นั่งตัวเอง ถ้ายืนก็จะยืนหน้าเก้าอี้พร้อมกันหมดทุกคน ถ้าจะเต้นไปตามเพลง ทุกคนก็จะเต้นท่าคล้ายๆ กัน ไม่มีการขว้างปาสิ่งของใดๆ (ตอนไปดู Marilyn Manson ก็เป็นแบบนี้ ผิดกับการไปชมคอนเสิร์ตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง ที่ทุกคนลุกขึ้นเดินเพ่นพ่าน คุยกันเสียงดัง และขว้างปาสิ่งของ) พอ KISS อำลาเวทีไป คนดูก็ทะยอยกันออกจากสถานที่อย่างมีระเบียบ เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ผมก็เหลียวหลังกลับไปมอง ก็พบว่า เก้าอี้ทุกตัวอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบ ไม่มีเศษขยะอยู่ตามพื้นเลย ที้เล่ามานี้ ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวคอนเสิร์ตเท่าไหร่ แต่อยากเล่าความประทับใจในความมีวินัยของชาวญี่ปุ่นให้ฟังครับ

อ่านแล้วสนุกดีครับ อยากให้พี่เล่าประสบการณ์การไปดูวงอื่น ๆ บ้างจัง

+1 

[Shaman]

ขอเล่าเกล็ดการไปชมคอนเสิร์ตของ KISS หลายปีก่อนที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่วงที่มีบารมีสูงถึงจะไปเล่นได้สักเล็กน้อยครับ KISS ไปเล่นที่ Tokyo Dome รอบเดียว ซึ่งผมอยากไปดูมาก แต่ไม่เสี่ยงซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะติดธุระสำคัญแล้วไปไม่ได้ บัตรราคา 10,000 เยน และบัตรก็ sold out ก่อนวันแสดงหลายวัน พอถึงวันแสดง ผมไม่ติดธุระ จึงไปแวะทานข้าวก่อน พอใกล้เวลาแสดงซึ่งกำหนดไว้ 19.00 น. ผมก็เดินไปที่หน้า Tokyo Dome มองหาพวกนำบัตรมาขายหน้างาน ซึ่งจะมี 2 พวก คือ พวกที่กว้านซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเก็งกำไร นำมาขายวันงาน (พวกนี้ดูหน้าก็รู้ ท่าทางเป็นนักเลงหรือไม่ก็ยากูซ่า) กับอีกพวกที่ตั้งใจมาดูกับเพื่อนหรือแฟน แต่เพื่อนหรือแฟนติดธุระมาดูไม่ได้ เลยต้องนำบัตรมาขายหน้างาน แล้วค่อยเข้าไปดูคนเดียว ผมเลือกคนขายประเภทหลัง เพราะพอดีไปเห็นคนนึ่งท่าทางกระวนกระวายเพราะการแสดงใกล้จะเริ่มแล้ว เขาคงอยากรีบขายให้เสร็จๆ เพื่อเข้าไปดู ในขณะที่พวกนักเลงนั้นไม่เข้าไปดูอยู่แล้วและขายแพงกว่าราคาหน้าตั๋วเท่าตัว ผมก็ส่งภาษาญี่ปุ่นงูๆ ปลาๆ ต่อราคาเหลือได้ 8,000 เยน แล้วรีบเข้าไปดู พอไปถึงที่นั่งก็ตกใจที่ได้ที่นั่งใกล้เวทีมาก คือห่างจากหน้าเวทีแค่ 10 แถว มองไปรอบๆ คนดูส่วนใหญ่มาในชุดทำงาน ซึ่งก็ตลกดีที่คนใส่สูทไปดู KISS พอได้ที่นั่งได้ไม่กี่วินาที ไฟก็ดับลง แล้ว KISS ก็ออกมาวาดลวดลายสุดมันส์ โดยมีแสงสี พลุไฟ การลอยตัวเหนือคนดู เหมือนที่เห็นในดีวีดี แต่ในขณะเดียวกัน ความมันส์บนเวทีไม่ได้ส่งผลต่อคนดูเท่าใด เพราะชาวญี่ปุ่นดูคอนเสิร์ตกันเรียบร้อยมาก และสะท้อนความมีวินัยอย่างแท้จริง ไม่มีใครขยับออกจากที่นั่งตัวเอง ถ้ายืนก็จะยืนหน้าเก้าอี้พร้อมกันหมดทุกคน ถ้าจะเต้นไปตามเพลง ทุกคนก็จะเต้นท่าคล้ายๆ กัน ไม่มีการขว้างปาสิ่งของใดๆ (ตอนไปดู Marilyn Manson ก็เป็นแบบนี้ ผิดกับการไปชมคอนเสิร์ตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง ที่ทุกคนลุกขึ้นเดินเพ่นพ่าน คุยกันเสียงดัง และขว้างปาสิ่งของ) พอ KISS อำลาเวทีไป คนดูก็ทะยอยกันออกจากสถานที่อย่างมีระเบียบ เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ผมก็เหลียวหลังกลับไปมอง ก็พบว่า เก้าอี้ทุกตัวอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบ ไม่มีเศษขยะอยู่ตามพื้นเลย ที้เล่ามานี้ ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวคอนเสิร์ตเท่าไหร่ แต่อยากเล่าความประทับใจในความมีวินัยของชาวญี่ปุ่นให้ฟังครับ

อ่านจบแล้วสนุกดีครับ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ อ่านแล้วมองย้อนมาบ้านเรา (หาได้มีเจตนาดูถูกชาติภูิมิตนเองไม่) เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ผมกับแฟนยังตะเวนดูหนังตามโรง สิ่งที่พบเห็นเป็นประจำก็ได้แก่ ไอ้ข้างหลังนั่งไขว้ห้างกระดิกเท้า(ตีน)มาโดนเก้าอี้ผมบ่อยๆ อุดมไปด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือนานาเพลง ฯลฯ แถมที่ระยำและเลวร้ายกว่านั้นคือ เคยเจอหมากฝรั่งที่คนคายไว้ (ดีนะที่ผมเห็นก่อน) ส่วนไอ้เรื่องโดนตีนมากระแทกเก้าอี้หรือโดนคุกคามในแบบต่างๆนั้น ผมว่าจะลุยหลายครั้งแล้ว แต่เตือนสติตัวเองเสมอว่า "เราเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ แต่เปลี่ยนตัวเองได้" (จำเขามาอีกที) เลยช่างหัวมัน ทำเฉยๆซะดีกว่า อีกอย่างก็อยากแก่ตายด้วย มีอยู่ครั้งนึง ไปดูเรื่องอะไรไม่รู้ มีเด็กวัยรุ่นนั่งข้างๆ พี่แกคุยกันส่งเสียงดังน่ารำคาญโคตร ไอ้ผมก็นะโมๆ หนังดำเนินไปราว 30 นาที พวกมันก็ยังไม่หยุดความชะนีง่ายๆ ก็เป็นแฟนผมนี่แหละครับ หันไปบอกนังชะนี้เหล่านั้นว่า "น้องคะ จะดูหนังกันมั๊ยคะ" (ผมก็นึกในใจนะ เอาแล้วไง หางานให้ตรูอีกล่ะ ออกไปจะมี Tekken นอกจอรึเปล่าวะ) มันถึงหยุดไปสักพัก ซึ่งก็สักพักจริงๆ เงียบไปเดี๋ยวเดียวมันเอาอีกแล้ว ผมก็กะเอาวะ ตรูลองบอกมันดู แต่ปรากฏว่าคุณพี่ท่านนึงที่นั่งหลังผมพูดขึ้นมาว่า "พวกคุณจะดูหนังรึเปล่า คุยกันอยู่ได้ คนอื่นเขารำคาญ ดูหนังไม่รู้เรื่องรู้มั๊ย ถ้าอยากคุยไม่อยากดูหนัง ก็ไปคุยกันข้างนอก" นั่นแหละครับ พวกนั้นถึงทำเป็นเนียน นั่งนิ่งๆแล้วอาศัยความเงียบลุกออกไปในที่สุด

ผมว่าอ่านอันนี้สะใจกว่า แต่ผมไม่ค่อยเจอนะครับ ในโรงหนัง ส่วนมาก ที่เจอกลุ่มคนประเภทนั้น น่าจะเป็นหนังกระแส หนังดังๆ พวกวัยรุ่นก็จะชอบจับกลุ่มกันไปดู ถ้ามันเสียงดัง รบกวน เราก็ต้องต่อว่า ด้วยความสุภาพ แต่คนบางคน มันพูดไม่รู้เรื่องแถมกวน แบบนี้น่าจบด้วยความรุนแรง

[ไม่ประสงค์ออกนาม]

^

โชคดีจัง ผมเจอประจำเลย ระยะหลังนี้ผมไม่ได้เข้าโรงหนังมา 2-3 ปีแล้ว อาศัยดูจากแผ่นเอา อยากดูแค่ไหนก็รอ ผมถึงดูหนังช้ากว่าคนอื่น 3-4 เดือน

คือ ผมก็ไม่ใช่คนขี้รำคาญอะไรหรอกนะครับ แต่ถือเป็นมารยาทในที่สาธารณะ กินขนมกัน โอเคพอรับได้ แต่คุยกันสงสัยเสียงนี่น่ารำคาญมาก แล้วยิ่งไอ้การนั่งกระดิกเท้ามาโดนเก้าอี้ด้วยแล้ว ทนไม่ไหวจริงๆ