ไม่คิดว่ากระทู้นี้จะทำให้เรื่องราวในอดีตของหลายท่านพรั่งพรูได้ขนาดนี้ครับ
เรื่องที่ไม่เคยทราบมาก่อนเช่นพี่ตั๊มเป็นส่วนหนึ่งของการก่อเกิดเทป 501 (โดยไม่ได้ตั้งใจ)
บางท่านเคยพบคุณพัณณาศิสตัวจริงมาแล้ว บางท่านติดต่อคุณพัณณาศิสได้ทันทีเมื่อต้องการ
ก่อนที่จะตั้งกระทู้นี้ผมได้สืบค้นชื่อพัณณาศิสใน thaiprog.net ก็จะมีชื่อพัณณาศิสเข้าไปปะปนกับกระทู้ต่างๆ (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ราว 40 กระทู้
กระจัดกระจายกันไป เลยคิดว่าน่าจะตั้งกระทู้ tribute ให้ตรงประเด็นกันสักกระทู้เลย และผมมีวาระ (ซ่อนเร้น) บางประการในการเปิดกระทู้นี้
ยืนยันว่าเป็นเรื่องเชิงบวกน่ะครับ ซึ่งผมจะแถลงเมื่อผมโพสต์เดินตามร่องยุคพัณณาศิสฉบับสุดท้ายเสร็จ
ขอบคุณคุณอั๋น 501 ที่เชิญชวนทุกท่านมาีร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ครับ คือผมไม่กล้าเชิญชวนเองกลัวจะหน้าแตก
เพราะหลายท่านคงไม่คุ้นเคยกับผม แต่คิดว่าตั้งกระทู้นี้แล้วคงไม่เหวอเพราะได้เจอพี่ตั๊มมาแล้วหนึ่งครั้งตอนมีทติ้ง#8
ก็เลยคิดว่าอย่างน้อยพี่ตั๊มคงเข้ามาช่วยเติมอรรถรสให้กับกระทู้นี้ได้
ปิดท้ายด้วยคำถามเชิงสำรวจว่าทุกท่านเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่ถ้าจะทำ Voice ทั้ง 8 ฉบับให้อยู่ในรูป E-books
แล้วนำมาเผยแพร่ (ไม่ได้ขาย) ให้เฉพาะคนที่รักจะเก็บจริงๆ เพราะกระทู้ "Voice นิตยสารในตำนาน" เกิดวิวาทะ
ดุเดือดเลือดพล่านมากครับ
ผมรู้สึกดีใจที่ได้เห็นหัวเรื่องกระทู้นี้ ทำให้ผมได้คุยกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอมานานมากและอาจจะได้เจอกันอีกด้วย
อันที่จริงแล้วอาจจะบอกได้ว่าในเว็บไทยพร็อกฯเรานี้มีพี่ตั๊มและผมเท่านั้นที่รู้จักและสนิทกับคุณพัณณาศิส เป็นการส่วนตัว
ในฐานะเพื่อนไม่ใช่แค่คนรู้จักหรือเคยเจอ ต้องขอบคุณพี่ตั๊มที่ช่วยกระตุ้นให้ผมติดต่อคุณพัณณาศิส หลังจากที่ไม่ได้คุยกัน
มานานและว่าจะ...โทรไปหาอยู่นั่นล่ะ เป็นวิถีชีวิตของแต่ละคนที่ทำให้ผมไม่ได้เจอเพื่อนเก่า ไม่ใช่แต่แค่คุณพัณณาศิส คนเดียว
ผมมีเพื่อนๆเก่ามากมายที่ไม่ได้เจอกันมานานเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้ยังมีเพื่อนเก่ามาเจอกันในเว็บไทยพร็อกฯเราเลย
กระทู้เรื่องหนังสือ Voice เกิดวิวาทะอะไรหรือครับ จำไม่ได้แล้วว่าเคยอ่านหรือป่าว ผมจะขอบอกเลยว่าหนังสือ Voice ไม่มีใครจะรู้
ข้อมูลดีเท่าผมหรอกครับ เพราะผมเป็นคนร่วมทำหนังสือกับคุณพัณณาศิสอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้นไม่นับบทความของนักเขียนสนับสนุน
ที่ได้เข้ามาช่วยเขียนให้อย่างเช่นพี่ตั๊ม อาจารย์แดง ฯลฯ (หนังสือ Voice ผมกับคุณพัณณาศิส เป็นหุ้นส่วนกันคนละครึ่ง) ส่วนเรื่อง E-book
นั้นคงจะไม่ทำหรอกครับ ปล่อยให้หนังสืออยู่กับความทรงจำในอดีตไว้ดีกว่า คนรุ่นใหม่ๆไม่อ่านหนังสือแบบนี้กันแล้วครับ