ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149687 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

05 พฤษภาคม 2024 | 02:07:25 PM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgKeep Talkingกิจกรรม : Thaiprogers Top 2008 Albums
หน้า: 1 2 [3] 4
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: กิจกรรม : Thaiprogers Top 2008 Albums  (อ่าน 46239 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
GÒNG
Tubular Bells
****
เพศ: ชาย
กระทู้: 883


Death to All


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2008 | 04:25:31 PM »

Fantastic



1. Origin - Antithesis [Technical Brutal Death Metal]
ผมอยากให้อัลบั้มนี้ติด Best Metal Performance of the Year จริงๆสิพับผ่า (ถ้าเป็นไปได้นะ) ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือแพ็คเกจ สวยงามมากครับแบบว่าตั้งใจทำกันจริงๆ งานศิลปะนี่เหมือนหลุดมาจากพวกหนังไซไฟอวกาศอะไรอย่างนั้นเลย รู้สึกคุ้มกับที่ลงทุนไปจริงๆครับ(นี่ขนาดเป็นแค่เวอร์ชั่น CD ธรรมดานะเนี่ย) เรื่องดนตรีคงต้องเรียกว่า"อลหม่านอย่างเป็นระบบ" ครับ มีทั้งความโหดเหี้ยมดุดันแต่แฝงไว้ในโครงสร้างที่ดี ผมว่าอัลบั้มนี้เสหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวมาเล่นก็ไม่ปาน เพราะดนตรีแกนี่อย่างกับไม่ได้มาจากสถานที่ๆเรียกว่าโลกใบนี้เลย คงไม่เวอร์เกินไปนะครับ อิอิ



2. Hour of Penance - The Vile Conception [Brutal Death Metal]
นี่ถ้าไม่มีอัลบั้มของ Origin ข้างบนนี้ ผมว่าผลงานของวงจากอิตาลีชุดนี้น่าจะได้ตำแหน่งนั้นไปครองแทน ด้วยเสียงและการผลิตที่ใสชัดเจนกว่า ใส่กันไม่ยั้งไม่ต้องโชว์เทคนิคและโดยเฉพาะนักร้องนี่ผมว่ารุ่งแน่ๆครับถ้ายังร้องสไตล์นี้ต่อไปนะ



3. Krisiun - Southern Storm [Death Metal]
เป็นงานชุดแรกของ Krisiun ที่ผมได้ฟังเต็มๆแล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ หลังจากห่างหายไปสองปีหลังจากอัลบั้ม AssassiNation ในที่สุดสามหนุ่มสามมุมจากแดนอเมริกาใต้กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ที่ดีกว่าเดิม อัดกันเมามันส์ 13 เพลงซึ่งหนึ่งในนั้นเป็น cover เพลง Refuse/Resist ของวงบ้านใกล้เรือนเีคียง Sepultra ในเวอร์ชั่นที่ดุดันกว่า เป็น Death Metal ที่คุณไม่ควรพลาดจริงๆ



4. Cynic - Traced in Air [Technical Progressive Death/Fusion]
นี่เป็นเพียงแค่อัลบั้มที่สองของ Cynic เท่านั้นเองโดยปล่อยให้แฟนๆรอกันถึง 15 ปี แล้วก็คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปจริงๆ เป็นผลงานที่วิจิตร,สวยงาม,ประณีตบรรจง,ฯลฯ ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายดีครับ แถมแพ็คเกจที่ทำมานี่ก็สวยงามน่าเก็บสะสมจริงๆครับแถมได้โปสเตอร์สุดงามมาติดฝาผนังบ้านอีกต่างหาก คุ้มเกินคุ้มครับ

Notable Mention



5. Metallica - Death Magnetic [Heavy Metal]
ผมว่าชุดนี้นี่เป็นการกลับมาอย่างยอดเยี่ยมครับ แต่เสียดายเรื่องเสียงอย่างเดียว



6. Pathosray - Pathosray [Progressive Metal]
ผลงานชุดแรกของวงครับ แล้วก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว เป็นโปรเกรสซีพที่ฟังเพลินแล้วก็มีลูกล่อลูกชนเยอะครับ



7. Infinitum - Behold Eradication [Technical Brutal Death Metal]
บรูทัลเดทสุดโนเนมจากออสเตรเลียผู้มาพร้อมกับอัลบั้มแรกของตัวเองครับ ถึงแม้จะเป็นอัลบั้มแรกแต่เพราะทั้งฝีมือ ความสร้างสรรค์ ความหนักหน่วง ฯลฯ มีอยู่เต็มเปี่ยม ดังนั้นพวกเค้่าสมควรติด Top 10 ของปีนี้สำหรับผมครับ ยิ้มเท่ห์



8. Hollenthon - Opus Magnum [Symphonic Death Metal]
เป็น melodic death metal (นักร้องและมือเบสมาจากวง Pungent Stench) ที่ผสมความเป็น Symphonic, Orchestral, Folk ซึ่งตอนแรกก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะถูกหูรึเปล่า แต่พอฟังก็รู้สึกลงตัว เป็น death metal ที่ให้ความรู้สึกอลังการดีครับ ยิงฟันยิ้ม



9. Decrepit Birth - Diminishing Between Worlds [Brutal Death Metal]



10. Banishment - Cleansing The Infirm [Technical Brutal Death metal]
เบียด The Faceless หลุดอันดับ 10 ไปได้เนื่องจากยังไม่ได้ฟังเลยอัลบั้มนั้นเลย แลบลิ้น แต่ผมว่าเดทเมทัลหน้าใหม่ที่แสนจะโนเนมวงนี้นี่มีอะไรหลายๆอย่างที่ชวนให้ผลงานนี้ควรติด Top 10 จริงๆครับ ด้วยความหนักหน่วงและชั้นเชิง ดูๆแล้วเหมือนกับไม่น่าจะออกอัลบั้มเป็นครั้งแรก แต่พวกเค้าก็ทำได้ดีน่ายกย่องจริงๆครับ



ปล. เพิ่มจนได้ 10 อันดับแล้วครับ อันที่ไม่มีบรรยายใต้ภาพคือยังไม่ได้ฟังเต็มๆนะครับ เพราะแผ่นคงมาหลังปีใหม่แหงมๆ แลบลิ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มกราคม 2009 | 06:21:35 PM โดย Gong » บันทึกการเข้า

☆Wicked Man☆™オタク
Wish You Were Here
*****
กระทู้: 921


People who love real music to be understood.

incubus_funky@hotmail.com onelastbullet@
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 11:10:22 AM »

ศิลปินหน้าใหม่...คงยังไม่มี โดนใจมากนัก แต่ถ้าเป็นเบอร์เก่าๆ ที่ออกผลงานในปีนี้ล่ะ น่าชิม เออตามจริงก็ชิมไปบ้างแล้วล่ะ น่าสนใจหลายงานเชียวครับ  ขยิบตา
บันทึกการเข้า

Keep Music in the Life

Whether time is long over, but the world is how to end the war is not always the end when we give open minded people together defeated.



.... ดนตรีเค้าเอาไว้เป็นเพื่อนมนุษย์นะไม่ใช่เป็นชนวนสงคราม ... ดนตรีเป็นงานศิลป์ให้คนเสพอย่าคิดมากดิ ไม่ใช่แฟชั่นเสียหน่อย ...

Music is not fashion. But art is also of the planet.
http://twitter.com/T_Prasertphak
http://www.facebook.com/char.aznabal
http://wickedman.hi5.com/
Do it Yourself
.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 11:29:07 AM »




Enya / And Winter Came - ผมได้ฟังชุดนี้เพราะพี่ panyarak พูดถึงไว้ แล้วก็ไม่ผิดหวัง ปกติชอบฟังเพลงคริสต์มาสอยู่ แต่เพลงของ Enya ก็ไม่ค่อยได้ตามเพราะไม่คิดว่าจะมีอะไรแปลกไปจากเดิมนัก แต่ชุดนี้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไม่จำเจกับท่วงทำนองเพลงคริสต์มาสที่ได้ฟังอยู่บ่อยๆ ฟังแล้วมีพลัง อบอุ่นใจในยามอากาศเย็นๆดีจังครับ ใครที่คิดจะเมินหนี ขอให้ลองเปิดฟังสักหน่อย สบายใจดีแท้ครับ  ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 ธันวาคม 2008 | 12:04:48 PM โดย polotoon » บันทึกการเข้า

TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 11:56:19 AM »

อยากจะร่วมกิจกรรมนี้ แต่ผมพบว่าผมไม่ได้ติดตามงานที่ออกมาปีนี้อย่างจริงจังเสียเท่าไหร่ มัวแต่ไปขุดของเก่าๆที่ไม่เคยฟังมาเสียส่วนใหญ่ ผมพบว่างานที่ผมรู้สึกว่าชอบจริงๆที่ออกในปีนี้มีเพียงอัลบั้มใหม่ของ Sigur Ros กับ Metallica เท่านั้นครับ ที่เหลือไม่ค่อยโดนมากเท่าไหร่ อาจเพราะฟังไม่มากด้วยครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Layla F Mulder
Administrator
Blackfield
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 3604


Without appreciation, the music isn't worth.

basnaphon@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 01:38:00 PM »

Enya มาแรงนะครับ ติดอยู่ในลิสต์ของพี่ตั๊ม พี่โปโล และของผมด้วย
บันทึกการเข้า

 
Tsundere (ツンデレ?) (pronounced /(t)sʌnˈdɪə(r)/ in English or /t͡sun.de.ɽe/ in Japanese) is a Japanese concept of a character archetype which describes a person with a conceited, irritable, and/or violent personality that suddenly becomes modest and loving when triggered by some sort of cause (such as being alone with someone)
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #35 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 02:05:04 PM »

อยากจะร่วมกิจกรรมนี้ แต่ผมพบว่าผมไม่ได้ติดตามงานที่ออกมาปีนี้อย่างจริงจังเสียเท่าไหร่ มัวแต่ไปขุดของเก่าๆที่ไม่เคยฟังมาเสียส่วนใหญ่ ผมพบว่างานที่ผมรู้สึกว่าชอบจริงๆที่ออกในปีนี้มีเพียงอัลบั้มใหม่ของ Sigur Ros กับ Metallica เท่านั้นครับ ที่เหลือไม่ค่อยโดนมากเท่าไหร่ อาจเพราะฟังไม่มากด้วยครับ  ยิ้มกว้างๆ


น่าเสียดายจังเลย ยังหวังว่าจะได้เห็นลิสต์ของพี่นะเนี่ย  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 02:17:06 PM »

อยากจะร่วมกิจกรรมนี้ แต่ผมพบว่าผมไม่ได้ติดตามงานที่ออกมาปีนี้อย่างจริงจังเสียเท่าไหร่ มัวแต่ไปขุดของเก่าๆที่ไม่เคยฟังมาเสียส่วนใหญ่ ผมพบว่างานที่ผมรู้สึกว่าชอบจริงๆที่ออกในปีนี้มีเพียงอัลบั้มใหม่ของ Sigur Ros กับ Metallica เท่านั้นครับ ที่เหลือไม่ค่อยโดนมากเท่าไหร่ อาจเพราะฟังไม่มากด้วยครับ  ยิ้มกว้างๆ


น่าเสียดายจังเลย ยังหวังว่าจะได้เห็นลิสต์ของพี่นะเนี่ย  ยิ้มกว้างๆ

ต้องขออภัยด้วยครับ ไปดูที่พวกใหม่ๆที่ชอบๆนี่ออกปีที่แล้วทั้งนั้นเลย ของปีนี้ไม่ค่อยโดนอย่าง Coldplay, Keane, Travis พวกนี้ก็เฉยๆครับ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
TRON
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 12866



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2008 | 02:17:50 PM »

Enya มาแรงนะครับ ติดอยู่ในลิสต์ของพี่ตั๊ม พี่โปโล และของผมด้วย

ว่าจะลองฟังอีกรอบครับ
บันทึกการเข้า
♫ phil_wc ♫
Phi
Blade Runner
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 2083


นักดนตรีบ้าบอ

chupawicht@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #38 เมื่อ: 01 มกราคม 2009 | 04:46:08 PM »

Enya มาแรงนะครับ ติดอยู่ในลิสต์ของพี่ตั๊ม พี่โปโล และของผมด้วย

ว่าจะลองฟังอีกรอบครับ
วันนี้เพิ่งไปซื้อแผ่นมาครับ(จากแม่สายเชียว)
บันทึกการเข้า

ไอแอมตองสาม
Close To The Edge
******
กระทู้: 1492


aka TONG MAYER


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: 01 มกราคม 2009 | 07:47:08 PM »

ของผม มั่วๆ หน่อยนะครับ Top 5 ละกัน

1. Where The Light Is Live In Los Angelis : John Mayer



ได้ดูครั้งแรกในไฟล์ .mkv blu ray rip 1080p ภาพชัดสุดๆ และเป็นครั้งแรกทีี่สัมผัสงานของมือกีตาร์หนุ่มผู้นี้ บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมาก ทั้ง Acoustic , Trio Set และ Full Band เป็นคอนเสิร์ตที่ควรมีติดบ้านไว้ทุกคนครับ !

2. Viva La Vida Or Death And All Of His Friend : Coldplay



เป็นอัลบั้มที่ฟังต่ิอกันได้ตลอดและไม่เบื่อเลย อารมณ์หม่นๆ แต่ชวนตื่นเต้นในบางเพลง และผมหลงรักเสียง Chris Martin ซะแล้ว 555 เนื้อร้องที่กลั่นกรองมาจากสมองของตานี่ มันช่างเจ๋งจริงๆ

3. Death Magnetic : Metallica



กลับมาลบคำสบประมาทไว้อย่างยิ่งใหญ่ อัลบั้มนี้ทำให้ผมต้องโยกหัวเกือบทุกเพลงเลยล่ะ ของเขาดีจริงๆ  เพลงอย่าง Cyanide ที่ผมว่ามันลงตัวจริงๆ มันส์ครับมันส์ และยังมี ท่อน Riff เท่ๆ จาก The End Of The Line แสดงให้เห็นว่า พวกลุงๆ ยังฟิตกันอยู่จ้า

4. All Hope Is Gone : Slipknot



"...แม่งมันส์ว่ะ"

5. Dig Out Your Soul : Oasis



ฟังตอนแรกๆ ก็ไม่ค่อยโดน ตอนหลังลองฟังตั้งใจๆ พบว่างานอย่าง Bag It Up ที่ผมชื่นชอบสุดๆ และหลายๆ เพลงที่เจ๋งแบบง่ายๆ อธิบายไม่ถูก และ Oasis ก็ยังเป็นวงที่มีผลงานดีทุกอัลบั้ม แม้นักวิจารณ์จะไม่ค่อยชอบยุคใหม่ๆ ก็ตาม (แต่ผมชอบทุกชุดอ่ะ 55)

บันทึกการเข้า

ขออภัย ต่อไปจะไม่ล่้วงเกิน.
Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #40 เมื่อ: 03 มกราคม 2009 | 09:38:04 AM »

Hollenthon นี่ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมมาก มีทั้งเมโลดิกเดธ โฟล์ค และซิมโฟนิก รวมในหนึ่งเพลง
บันทึกการเข้า

kongbei
Administrator
The Snow Goose
*****
เพศ: ชาย
กระทู้: 6534


ขงปี่

pink_floyd@thaiprog.net
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 03 มกราคม 2009 | 04:00:19 PM »

1.Coldplay - Viva La Vida or Death And All His Friends
The New Revolution Of Coldplay

2.Oasis - Dig Out Your Soul
ถ้าพูดถึงคนที่หายไปนาน แล้วกลับมาอีกทีญาติๆจำไม่ได้ เพราะเปลี่ยนแปลงไปมาก นั่นแหละใช่เลย

3.Metallica - Death Magnetic
ความแก่ไม่ใช่อุปสรรค เป็นงานที่ต่อยอดกับ And Justice For All ได้ดีเยี่ยม

4.David Gilmour - Live In Gdansk
Live Album ที่ฟังบ่อยที่สุดในรอบปี ขนเพลงดีๆมาครบครัน มิกซ์เสียงโอเค

5.The Mars Volta - The Bedlam in Goliath
มันส์แบบโกลาหล

6.Muse - HAARP Live From Wembley Stadium
ดุดิบ มัน มิกซ์ซาวน์มาแบบสดมาก ตอนยังไม่ได้ฟังนึกว่าจะมิกซ์มาแบบเนี๊ยบๆ นักดนตรีเล่นดี

7.Opeth - Watershed
ฟังแล้วเหมือนทะลุออกไปในจักรวาล

8.Beck - Modern Guilt
ฟังแล้วนึกถึง Syd Barrett แต่แน่นอน คงสู้ Syd ไม่ได้

9.Sigur Ros - Með suð í eyrum við spilum endalaust
งดงาม ไร้ที่ติ ฟังในบรรยากาศฝนพรำ หรือตอนกลางคืน หรือระหว่างการเดินทาง ก็ได้อารมณ์โหยหวนล่องลอยครับ

10.Steven Wilson - Insurgentes
ฟังอัลบั้มนี้แล้วเหมือนเราไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง

11.U2 - War (Deluxe Edition)
ความดีงามของอัลบั้มีนี้คงไม่ต้องพูดถึงกันมาก คราวนี้กลับมาพร้อมกับเสียงที่ดีขึ้น และเพลงแถม

12. No-Man - Schoolyard Ghosts
อัลบั้มที่ฟังแล้วเศร้า แต่ก็ยังมีความสุขลึกๆ

13.Big Blue Ball - Big Blue Ball
Peter Gabriel ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

14. Brett Anderson - Wilderness
หม่นหมองจริงๆ

15. Moderndog - ทิงนองนอย
ทำให้ผมรู้ว่า วงการเพลงไทยยังมีสิ่งดีๆอยู่ จากหลายๆวงที่พูดว่าตัวเองเป็นอินดี้ แต่เพลงของวงนั้นๆก็ตลาด อตก. ทั่วๆไป
นี่คือนิยามของคำว่า อินดี้ ร๊อค เด็กแนว อะไรก็แล้วแต่ ที่วัยรุ่นสมัยนี้เห็นว่าเป็นแฟชั่น แต่ไม่เข้าใจอะไรเลย

16.Snow Patrol - A Hundred Million Suns
ลื่นๆดีครับ

17. Kings Of Leon - Only By The Night
อัลบั้มนี้ไม่ถึงขั้นดีเยี่ยม แต่ก็นับเป็นชิ้นงานที่ดีในปี 2008

18. B.B. King - One Kind Favor
จะมีคนอายุ 80 กว่าสักกี่คน ที่ยังเข็นงานดีๆออกมาอยู่ ถึงแม้จะไม่จัดจ้าน แต่ก็ได้ความเนี๊ยบ
บันทึกการเข้า
ShadowServant
Images & Words
****
กระทู้: 631


TROLLKASTEL!


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #42 เมื่อ: 03 มกราคม 2009 | 09:45:42 PM »

มาแว้วว...กับ TOP 10 Non-Prog of 2008

ปีนี้เป็นปีของความสิ้นหวัง ... วง Prog หลายวงไม่อาจทำให้ถึงขั้นประทับตรึงจิตมิดทรวงในได้ (จริง ๆ คือมันอาจจะมี แต่ไอ่หมอคนเขียนนี้แหละมันหาไม่เจอเอง แฮ่ ๆ) ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันขาด ๆ หาย ๆ บางอัลบั้มก็ดีแล้ว แต่มันยังไม่ Fear of Blank Planet พอ

จริง ๆ พวก Non-prog ก็พอ ๆ กัน โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก วงอินด้งอินดี้หลายวงที่เริ่มเป็นที่กล่าวขานนั้นพอลองมาฟังจริง ๆ แล้ว...ก็ทำให้รู้สึกอยากกระโดดกัดคอไอ่คนเขียนชมวงมันจริง ๆ (Woof! Woof!) ไม่ว่าจะสุดสัปดาห์ผีดูดเลือดหรืออะไรประมาณนี้ก็ตาม (Pitchfork กับ NME ระวังไว้ Woof! Woof!) สิ้นหวังแล้ว !!!

แต่ก็ใช่ว่าจะสิ้นหวังไปเสียหมด ยังพอมีบางอัลบั้มที่เล็ดลอดผ่านฟ้าฝนอันมืดครึมของดนตรีปี 2008 ผู้ที่ไม่มีรสนิยม R&B กับ Hip-Hop อย่างข้าพเจ้าจึงยังไม่เป็นฮิคิโคโมริ (ถึงจะเสี่ยงเป็นโอตาคุบ้าง-อย่างไรเดี๋ยวรู้กัน) เพราะเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อินดี้แล้วก็เหลือสองแนวที่ว่าครองเมือง จนบางครั้งก็แอบหมั่นไส้ หมั่นพุง!

บ่นยาวไปแล้ว แจววกทวนมาดู 10 อัลบั้มที่เล็ดลอดผ่านเป็นอัลบั้มโปรดของ ShadowServant ในปี 2008 กันดีกว่า

Note I : ผมยังไม่ได้ฟัง Insurgentes ของ Steve Wilson
Note II : บางอัลบั้มที่น่าจะอยู่ในนี้ ผมลากมันไปเป็น Prog เรียบร้อยแล้ว
Note III : ผมกะจะใส่วงไทยวงหนึ่งไปด้วย แต่ถอนออกด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาเดินพลาดไปจริง ๆ หรือแค่มีความคิดของตัวเองกันแน่ไม่อาจรู้ได้ ผมทั้งแอบเอาใจช่วยและแอบด่าวงนี้อยู่ห่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน


อันดับที่ 10

Album : Folklore and Superstitsion
Artist : Black Stone Cherry

Genre : Hard Rock , Southern Rock


ในลิสท์ Non-Prog นี้ ผลงานของ Black Stone Cherry เป็นผลงานล่าสุดที่มีโอกาสได้ฟังและกลายเป็นผลงานที่แทรกเข้ามาอยู่ระหว่าง Top 10 ได้ อย่างสวยงาม

Folklore and Supertitsion จะทำให้ท่านได้พบกับ Hard Rock ที่จะว่าย้อนยุคก็ไม่ใช่ จะใหม่ก็ไม่เชิง บางเพลงก็ออกสำเนียงแบบ American Rock ในยุคปัจจุบัน (ซึ่ง Cheesy น่าดู) แต่บางเพลงกลับโชว์ความเป็น Southern Rock ได้สุดสะเด่า อย่างเพลง Devil's Queen (กรุณาอย่าเอาไปเทียบกับเพลงขึ้นหิ้งอย่าง Freebird เชียว)

ขณะที่หลายเพลงก็เล่นหลีดได้เร้าใจ โครงสร้างบางเพลงก็มีลูกเล่นยิบย่อยที่ไม่ทำให้เบื่ออยู่ แต่เพลงที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ น่าเป็น Blind Man เพลงแรกเท่านั้น เสียกันตรงนี้แหละ เพราะเพลงหลัง ๆ มันน่าเบื่อลงเรื่อย ๆ จนรู้สึกอยากเลื่อนให้มันกลับไปเพลงแรก ๆ อยู่บ่อย ๆ


อันดับที่ 9

Album : Dig Out Your Soul
Artist : Oasis

Genre : Britpop


"Dig your own soul...with the body of the others"

ย้อนไปในยุคที่วงนี้ยังคงอยู่ในสถานะแบบ Underdog (ไม่รู้จะอธิบายเป็นภาษาไทยยังไง) ใกล้ ๆ กับติดดิน แต่ไม่คลุกโคลน เพลงของพวกเขามันช่างป็อบเข้าถึงง่าย แต่ก็มีมุมที่คมคายแฝงอยู่โดยที่ไม่เชิดหัวเหยียดคนฟัง และไม่ว่าจะผ่านมากี่อัลบั้ม ผมก็ยังยืนยันว่าผมชอบ Champaign Supernova ที่สุด ฟังทีไรนึกถึงอดีตช่วงกระโปรงบานขาสั้น กับอารมณ์แบบโรแมนติดที่เย็นชุ่มและละเมียดละไม

แม้อะไร ๆ จะเปลี่ยนแปลง ก็ไม่ได้สลัดคราบไปเสียหมด วงที่พยายามเป็นเดอะบีเทิลล์แห่งยุค 90's-2000's นี้ ผสมกับวงบริท ๆ อีกบางวง จนนักวิจารณ์บางที่หมั่นไส้ ไม่ก็รำคาญอิทธิพลของเต่าทองในแอ่งน้ำกลางทะเลทราย เลยจิกกัดทุบตีเสียให้อยู่หมัด

กับคนฟังนั้นเป็นอีกเรื่อง พวกเขาอาจจะรู้สึกในทางตรงกันข้ามคือรับได้กับการที่วงวัยรุ่นยุค 90 's พยายามเป็นร่างทรงของวงที่เกิดก่อนมานาน กับคนฟังอีกบางจำพวกคือคนที่ไม่ได้เป็นแฟนเพลงวงเต่าทอง ก็เป็นไปได้สองทางคือ "อะไรของมันวะ" กับ "ก็น่าฟังดีนะ" สำหรับผมเป็นอย่างหลัง

อาจจะเสียดายพลังแบบวัยรุ่นที่หลงเหลืออยู่ในวงนี้ไปเสียหน่อย อาจจะเป็นเพราะผมเอง Nostalgia (กับอัลบั้มแรก ๆ) มากเกินไป เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าอัลบั้มนี้กระแทกจิต กระทบใจมากนัก อยู่ในระดับที่น่าฟังแบบของ Oasis และคิดว่าหากพวกเขาคิดจะขุด "จิตวิญญาณ" ของใครมาจริง ๆ ล่ะก็ ขุดเข้าไปให้มากกว่าสไตล์ของเขาก็คงดี ...หรืออาจไม่จำเป็นด้วยซ้ำ เพราะ Oasis ก็มีจิตวิญญาณของพวกเขาเอง แต่ก็ลืมมันไปบ้างเท่านั้น


อันดับที่ 8

Album : Perfectly Clear
Artist : Jewel

Genre : Contemporary Country / Pop


"Clearly Perfect!"

หันซ้าย แลขวา แล้วพยายามกระซิบดัง ๆ ว่า จีเวล เป็นหนึ่งในศิลปินที่ผมชื่นชอบ....ในอัลบั้มเดียวคือ Piece of you ! แม้เธอจะดู "เด็ก ๆ" มากทั้งเนื้อหาและตัวดนตรี แต่ก็ไม่ใช่เพลงสมองกลวงแต่อย่างใดเลย เนื้อเพลงแกพูดถึงมนุษย์อย่างมีมิติและน่าสนใจด้วยซ้ำ บางเพลงอาจฟังดู "สะอาด" ไปหน่อยจนนักคิด Realist บางคนรับไม่ได้เพราะคิดว่าสิ่งสกปรกคือความจริง ฮ่า ๆ ขำก๊าก นักมนุษย์นิยมยังบอกเลยว่า มนุษย์ไม่ได้สะอาดหรือสกปรกหรอก แต่มนุษย์น่ะ "โอเค"

หลังจากที่เธอเป็นบ้าเป็นหลังอะไรไปไม่รู้อยู่พักหนึ่ง ใน Perfectly Clear เธอก็กลับมาอีกครั้งในมาดคันทรี่ป็อบร่วมสมัย ซึ่งอัลบั้มนี้ทำให้ผมแพ้ใจเธออีกแล้ว ในช่วงเวลาที่รอคอย Sarah Watkins และ Nickel Creek กลับมารวมกันอีกครั้ง (อาจเป็นไปไม่ได้แล้ว...สิ้นหวังแล้ว...) หาแนวคันทรี่บลูกราสส์ร่วมสมัยที่ถูกใจไม่ค่อยเจอ คุณเธอจีเวลก็เข้ามาทำให้รู้สึกว่าได้รับความรู้สึกทดแทนอย่างสมใจ

คนเซนซิทีฟ แอนด์ เซนติเมนทอล อย่างผมชื่นชอบ Piece of You ขนาดไหนก็จำไม่ได้ แต่พอจะเข้าใจตัวเองอยู่หน่อยว่าอัลบั้มนี้ทำให้ผมหลงพอ ๆ กับ Piece of You เลยนั่นแหละ แต่ทว่าถึงแม้ Jewel จะยังไม่ทิ้งความหวานนุ่มสุทธิไป Perfectly Clear ก็มีจังหวะจะโคน มีความชีวิตชีวามากขึ้นกว่า Piece of You

เป็นเรื่องน่ายินดีหลังจากที่เธอเตลิดไปเป็นอะไรมาก็ไม่รู้ ในที่สุด Perfectly Clear ก็ทำให้ Jewel กลับมาเป็น Jewel อีกครั้ง


อันดับที่ 7

Album : Sayonara Zetsubou Sensei - Best Album - Zetsubou Daisatsukai
(Various Artist)

Genre : Rock and Roll ,  J-pop , J-Rock , Alternative Metal , Neo-Psychedelic , Post-Punk , Cybergrind
Genre : Parody


"This album will leave you in despair!"

ซาโยนาระ คุณครูผู้สิ้นหวัง (Sayonara Zetsubou Sensei) เป็นการ์ตูนแนวล้อเลียน เสียดสี ตลกร้าย ที่ออกเป็น Anime มาสองซีซั่นแล้ว คิดว่าในหนังสือการ์ตูนทำได้บ้าขนาดไหนล่ะก็ Anime บ้ากว่าสองเท่า ทั้งวิธีการเล่าเรื่อง ลำดับเรื่อง รวมถึงเพลงเปิดปิดประกอบเรื่องที่สุดยอดมาก มีตั้งแต่ Rock and Roll โจ๊ะ ๆ ปนกลิ่นฟังค์และไซคิเดลิคใหม่ กับการร้องแบบเสียงประสานที่มีทั้งเสียงแบบน่ารัก ๆ และเสียงสาวห้าว ๆ ปนกัน (Seiiyuu คนที่พากษ์เป็นเด็กนักเรียนในเรื่องนี้เป็นคนร้องเองนั่นแหละ) ไปจนถึง Alternative Metal ห่าม ๆ ที่...โดยรวมทั้งหมดแล้ว มันไม่ได้แสดงแนวเพลงชัดเจนอะไรมาก พูดให้ตรงประเด็นคือ มันเอามาใช้กึ่ง ๆ ล้อเลียนไปงั้นแหละฮ่า ๆ

อัลบั้ม Sayonara Zetsubou Sensei - Best Album - Daisatsukai  เป็นอัลบั้มรวม OP , ED และเพลงประกอบอื่น ๆ ทั้งสองซีซั่น และอาจรวม Image Song ของ Character บางตัวไปด้วยมั้ง เพราะบางเพลงไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย

Hito Toshite Jiku ga Bureteiru กับ Kuusou Rumba เป็นเพลงเปิด Anime แนวอัลเตอร์ฯ ที่ห่ามสุดสวิงมาก ๆ เพลง Koiji Romanesque เป็นเพลงปิดของซีซั่นสองที่ใน ED ล้อเลียนการ์ตูนตาหวานของผู้ใหญ่ (Josei) แต่เพลงมันเป็นร็อคปนกลิ่นเซ็กซี่ ๆ ที่น่าฟังมาก วันดีคืนดีแทร็กแปลก ๆ ก็โผล่มาอย่าง Lilicure Go! Go! เพลงเปิดล้อเลียนการ์ตูนแนวสาวน้อยพลังวิเศษ (Mahou Shoujo) ที่ฟังไปจะว่าฮาก็ฮา จะว่าน่ารักก็น่ารัก และที่ฮาอย่างสุดทัดทานไหวคือเพลงสุดท้าย Buta No Gohan (น่าจะแปลว่า "ข้าวหน้าหมูทอด" หรือไม่ก็ "อาหารหมู") ที่ระห่ำไปด้วยดนตรีสังเคราะห์โหด ๆ กับเสียงสำรอก (เพี้ยน ๆ) ล้อเลียนแนว Cybergrind/Grindcore

ฟังเอามันส์ก็พอได้ ฟังเอาโจ๊ะค่อยได้อรรถรสหน่อย แต่ถ้าให้ดีที่สุดเวลาสิ้นหวัง....ก็เอาไอ้นี่แหละมาฟังเอาฮา!


อันดับที่ 6

Album : Darkness and Starlight
Artist : The Black Mages

Genre : Symphonic Rock/Metal


วงนี้ฟอร์มขึ้นโดย Nobuo Uematsu คนทำดนตรีฉบับดั้งเดิมให้กับไฟนอล แฟนตาซี และเนื่องจากผมไม่มีความเห็นเป็นอื่นเมื่อเวลาผันผ่าน จึงของก็อบจากที่เคยรีวิวไว้มาดัดแปลงเลย

The Black Mages เป็นวงซิมโฟนิคร็อค/เมทัล ที่เน้นเล่นคัฟเวอร์เพลงจากเกมส์ไฟนอล แฟนตาซีเท่านั้นออกมาอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่สามแล้วครับและสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในอัลบั้มนี้ก็คือการเอาเพลงโอเปร่าจากฉากสำคัญในโรงละครโอเปร่าในภาค 6 มาทำในแบบฉบับ The Black mages เป็นเพลงยาว 15 นาทีชื่อเดียวกับอัลบั้มคือ Darkness and Starlight

แต่กลายเป็นว่าพอลองฟังแล้วกลับไม่โปรดซะงั้น ไปชอบเพลงอื่นเสียมากกว่าเพราะข้อแรกคือ...โอเปร่าที่ร้องด้วยภาษาญี่ปุ่นมันไม่เวิร์กเอาซะเลยข้อต่อมาคือเสียงร้องยังไม่ถึงขั้นแฮะ น่าจะดีกว่านี้ดนตรีและบรรยากาศโอเค (ปรับจากเสียงอิ๊ด ๆ อ๊อด ๆ แบบเกมส์ยุคนั้นได้ดี)

แม้ The Black Mages จะเป็นร็อค/เมทัล แต่ดูเหมือนว่าคีย์บอร์ดจะเป็นพระเอกแทบทุกเพลงคอยเดินเมโลดี้ทั้งไพเราะและบางเพลงก็ซับซ้อนจนมีคนเทียบเป็น Progressive ได้ (เคยได้ยินว่า บางเพลงในไฟนอล Nobuo แกได้แรงบันดาลใจมาจากวง ELP ด้วย)

Darkness and Starlight จึงเป็นร็อคเมโลดี้เจ๋ง ๆ ที่คีย์บอร์ด/ออร์แกน เป็นผู้กล้า กีต้าร์เป็นจอมเวทย์ Support เท่านั้น จะมีก็เพลง Kurayaminokumo (Cloud of Darkness) ที่กีต้าร์มีบทบาทออกลุยบ้าง

อ้อ !ไม่ได้มีเพลงแนวบุกป่าล่ามังกรอย่างเดียวนะครับ เพลง Distant Worlds ก็เป็น Instrumental Ballad ที่ เพราะโคตร!! (และติด Nostalgia หน่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเล่นภาคของเพลงนี้เลยนะ)

เพลง Life ~in Memory of Keiten~ นี้ Nobuo บอกว่าแกเขียนให้กับเด็กชายคนหนึ่งที่เป็นโรคหนังเกาหลี (ลูคิเมีย) ตั้งแต่เด็กแกเป็นแฟนตัวยงของไฟนอล แฟนตาซี และเคยมาดูคอนเสิร์ทของ The Black Mages ซึ่งจากเดิมที่เด็กคนนี้เคยดูอ่อนแอกลับดูมีพลัง มีชีวิตชีวาขึ้น ใครจะคิดล่ะว่าแกกลับมาเสียชีวิตในเดือนมกราปีนี้เอง ลุง Nobuo แกเลยแต่งเพลงสั้น ๆ ปิดท้ายอัลบั้มเพลงนี้ให้


อันดับที่ 5

Album : Parade
Artist : Chihara Minori

Genre : J-Pop , Seiyuu


"Forgive me...I'm now really into it"

บางอัลบั้มฟังแล้วตกหลุมรักแรกพบ แต่กับบางอัลบั้มมันต้องใช้เวลากว่าจะรักอย่างลึกซึ้ง (ขโมยวิธีการเปรียบเปรยของคุณ Analog Kid มา แฮ่ ๆ) โดยเฉพาะพวกซึนเดเร่ (ปากไม่ตรงกับใจ) ที่กำลังฮิตกันในการ์ตูนยุคนี้ ก็ต้องอาศัยเวลากันหลายตอน บางทีข้ามซีซั่นไปสองสามซีซั่นแล้วกว่ามันจะรักกับพระเอกได้ (นี้ตูกำลังเขียนอะไรอยู่เนี่ย)

ที่ซึนเดเร่ไม่ใช่อัลบั้มนี้ครับ แต่เป็นตัวผมเอง (เหวอ ! โมเอะอิ๊บอ๋ายเป็นชายทั้งดุ้นมาทำซึนเดเร่) ฟังตอนแรกก็เหอ เหอะ ๆ สู้ อัลบั้ม Contact ไม่ได้ร็อก อัลบั้มนี้ก็ขายอะไรเดิม ๆ อีกสินะ เห็นไหมดนตรีแบบนี้อีกแล้ว ฯลฯ

แต่พอลองฟังหลาย ๆ รอบแล้วกลับพบว่ายิ่งรักอัลบั้มนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ (ส่วนมิโนรินคนร้องนี้รักแกอยู่แล้วล่ะครับ นักพากษ์การ์ตูนบ้าอะไรฟะหน้าอย่างกับนางเอกหนังกำลังภายใน...จริง ๆ รักน้อยกว่า Mamiko Noto ฮ่า ๆ) หลายเพลงนี้โดดเด้งกว่า Contact มาก ถึงจะมีดนตรีแบบมิโนริ้น~~~ มิโนริน ที่อาศัยอิทธิพลจาก Contact เป็นพื้นฐานแล้วต่อยอดไปจนเป็นป็อบที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้

เพลงอย่าง Aoi Kotou นี้น้อง ๆ จะเป็น Crossover Prog เลยอย่างไงอย่างงั้น เพลงโปรโมททั้งหลายทำได้ดีมากอย่าง Paradise Lost , Voyager Train และต้องไม่ลืม Ameakari no hana yo sake ที่แสนสดใส และเป็นน้อยเพลงที่แกร้องด้วยเสียง "น่ารัก"

น้ำเสียงของมิโนรินหลายคนคงพอแบ่งได้แล้วว่ามีเสียงแบบซีเรียสในเพลงช้า ๆ เสียงแบบอีพิกในเพลงที่มีจังหวะจะโคนหน่อย กับเสียงแบบ "น่ารัก"  ถ้าให้พูดถึงรวม ๆ แล้ว Parade มันคือ Contact ที่บวกเพิ่มพลังลงไปในดนตรีและลดความ "น่ารัก" ลง เลยอาจไม่ปิ๊งในสดับแรก แต่มาได้ปลื้มเอาเมื่อลองฟังมากกว่าหนึ่งรอบแล้ว



อันดับที่ 4

Album : Good Thing Going
Artist : Rhonda Vincent

Genre : Contemporary Bluegrass


ครับ Bluegrass ที่ค่อนข้างมีคนฟังเฉพาะกลุ่ม ดนตรีที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของคันทรี่และโฟลค์ยุโรป  อัลบั้มนี้ก็เป้นอลบั้ม Bluegrass ที่ดีและเหมาะแต่การพักผ่อนกายใจ

(ด้วยความขี้เกียจส่วนตัว ขอก็อบที่เคยรีวิวมาไว้ก่อนหน้านี้เลยแล้วกัน ฮ่า ๆ)

Rhonda Vincent อัลบั้มนี้คุมโทนดนตรีลงตัวดีมากครับ ไม่หวือหวาเท่าวงอย่าง Nickel Creek (ที่เขาบอกว่าจะยุบแยกย้ายกันไปชั่วคราว T-T) และอาจไม่หวานเยิ้มขนาด Alison Krauss แต่ก็ฟังสบาย ๆ ดีครับ มีท่าทีแบบ Traditional มาปน ๆ กับความร่วมสมัยได้กลมกลืนมาก บางเพลงก็ได้จังหวะจะโคนหน่อย เครื่องสาย ดีดสีอะไรทั้งหลายทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง ไม่ขาดไม่เกิน

อันดับที่ 3

Album : Viva La Vida or Death and all his friend
Artist : Coldplay

Genre : Britpop / Alternative


"Don't care what you musculine apes said. What's good is good"

Coldplay อาจโดนอะไร ๆ หลายข้อหา แต่ไม่ทำให้ศรัทธาของผมเสื่อมลงเลย กับอัลบั้มป็อบที่มีเนื้อหนังในยุคนี้ บางวงอาจมัวพยายามรีโทรหาของเก่า หรือไม่ก็พยายามทดลองแบบเกินตัว (ไม่เมพเลยท่าน ไม่เมพเลย) ผลออกมาคือน่าเบื่อทั้งคู่ แต่ Coldplay ก็ยังเป็น Coldplay ทดลองอะไรจิ๊ด ๆ พอไม่ให้ถูกด่า (แต่ก็โดนด่าอยู่ดี ฮ่า ๆ) โดยไม่ลืมว่าคนจะฟัง Coldplay นั้นเขาจะฟังอะไร

โอเคว่ามันไม่หวาน (สำหรับบางคนอาจเป็นเลี่ยน) แบบ X&Y ไม่ สะแด่วโจ๋เท่าอีกสองอัลบั้มที่เก่ากว่า หรือไม่ว่าจะเจอข้อหาลอกอะไรมาก็ตาม ก็ขอบอกว่า ไอ่คริส เอ็งลอกได้เจ๋งมาก (ไม่ได้ประชด) จากเมโลดี้กะหลั่ว ๆ ของวงที่ไม่มีใครรู้จักมาเป็นเพลงที่สุดแสน Uplift ฟังดูเป็นผู้ใหญ่ และฟังได้ไม่รู้เบื่ออย่าง Viva La Vida หรือถ้ารังเกียจรังงอนอคติเพลงนี้นัก อย่าลืมว่า Lovers in Japan ก็ช่างแสนสุขสมระทมใจ (ความรู้สึกนี้จริง ๆ นะ แม้คำมันจะดูลักลั่นย้อนแย้ง) และ 42 แม้จะไม่จิ๊ดเท่า Radiohead แต่ก็เอาความเรียบง่ายมาทำให้มีมิติ น่าสนใจกว่าป็อบทั่ว ๆ ไป จะเกลียดก็ไอ่เพลง Lost! ที่รู้สึกมันมาอยู่ผิดที่ผิดทางเหลือเกิน

มีฝรั่งจากอิงงึลันโดะ (อังกฤษ-กรุณาออกเสียงแบบ Ana Coppola ใน Ichigo Mashimaro) บอกว่า ฉานม่ายชอบโคลด์เพลย์ มันเหมือนเด็กพู่หยิง

ขออภัยที่ยุคนี้แม้แต่สาวดุ้นก็ยังมีชัย (มุขโอตาคุ ไปจำเขามาใช้ อย่าถือสา) เด็กผู้หญิงที่ฉกาจกว่าเหล่าชายอกสามตารางวา-ยาราไนก้า ก็มีอยู่ถมไป และ Coldplay ก็เป็นหนึ่งใน "เด็กผู้หญิง" เหล่านั้น ลืมลิงขั้วโลก เสียเถิด พระเจ้า H ให้อภัย NME แล้ว


อันดับที่ 2

Album : Payment of Existence
Artist : Communic

Genre : Eclectic Metal


"Sacrifice! Sacrifice!"

บางคนกำลังจะยกมือถามว่า "อาจารย์ครับ/เคอะ อัลบั้มนี้มันมาได้ไงครับ/เคอะ" มันมาของมันแล้วล่ะครับ พูดถึงเมทัลแล้วปีนี้มัวหาของเก่าฟังซะเยอะรู้ตัวอีกที "อ้าวแม่ม...เหลืออยู่จ่อยร่อยที่เป็นอัลบั้มปี 2008" อัลบั้มอื่นที่ฟังมันก็อะไรก็ไม่รู้ครับ เลยไม่ค่อยคิดถึงมันเลย มีเจ้า Payment of Existence นี้แหละที่พอจะฉุดจากความสิ้นหวังได้ อย่างน้อยก็พูดได้ว่าเป็นดนตรีที่มีการก้าวไปข้างหน้า

จาก Conspiracy in Mind ที่โดนคณะตรวจสอบประเมินว่า "เนเวอร์มอร์ ! เนเวอร์มอร์!" มาถึง Waves of Visual Decay ที่หลุดร่องหลุดรอยไปหน่อย แต่ก็มีความพยายามที่จะออกจากเงาวงรุ่นก่อนได้อย่างน่าชื่นชม (โดยส่วนตัวผมไม่เคยเห็นว่าวงนี้มันจะเนเวอร์มอร์ตรงไหนเลย เสียงร้องเด็ดกว่าด้วยซ้ำ)

Payment of Existence ได้ทำให้เห็นว่าดนตรีของ Communic มีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ความมันส์ที่กระหน่ำอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ก็ไม่ใช่ดนตรีที่ขาดมิติ ว่างโหวง มันกลบอัดแน่นไปด้วยพลัง ทั้งการสอดประสานสามชิ้นที่เด็ดดวง บวกกับ element ของ Progressive ที่ยังไม่มัวเล่นกับความซับซ้อนจนลืมใส่อารมณ์ความรู้สึกเต็มเหนี่ยวลงไป ทั้ง On Ancient Ground และ Stone Carved Eyes ต่างฉีกกระชาก ปลดเปลื้องโทสะได้อย่างมีชั้นเชิง เพลงที่เล่นในระดับกลาง ๆ ก็ยังชวนให้ฟังได้ไม่เบื่อ

จะฟังเอาโยกหัวก็ได้ หรือจะฟังแบบดื่มด่ำเอาความหนักแบบข้นลึกก็ดี อาจไม่ลึกเท่าวง Prog. Metal เพียว ๆ แต่ก็ทดแทนไปได้หลายน้ำ ปลดเปลื้องความสิ้นหวังด้วยโทสะที่มีมิติ เป็นที่มาให้มันมาอยู่ในอันดับสองของลิสท์ ShadowServant ปีนี้


อันดับที่ 1

Album : Darling
Artist : Horie Yui

Genre : J-Pop , Seiyuu



"Who dare to say anime music and Seiyuu music have no soul? WHO DARE!?"

ไอ่คนเดิมที่ยกมือถามเมื่อครู่หันกลับมาบอกว่า "ตูว่าแล้ววว!!!" อันดับหนึ่งมันไม่หนีไปไหนเลย นอกจากเจ๊คนนี้ ผมขอแก้ตัวสักเล็กน้อย (ปรับไมค์ วิ๊ง ๆๆ วึ๊ง ๆๆ) "เอ่อ ท่านผู้มีเกียรติ์ทั้งหลาย จริง ๆ แล้วข้าพเจ้าอยากให้อันดับหนึ่งเป็น Flower ของ Orikasa Fumiko หรือไม่ก็ Ho? จากเจ๊ Horie คนเดียวกันนี้มากกว่า แต่ปัญหาคือทั้งสองอัลบั้มที่กล่าวมามันออกมานานแล้วข้าพเจ้าดันเพิ่งมีโอกาสได้ฟัง" (บูววว เสียงโห่ไล่จากท่านผู้มีเกียรติ์)

ไม่ได้หมายความว่า Darling จะเช้งวับไม่มีที่ติใด ๆ นะครับ มีบางเพลงที่ผมไม่ค่อยชอบความประดิษฐ์เกินเหตุของมันคือ Time Machine กับ Hikari ที่เปิดมาถึงทีไรจะ Skip ประจำ แต่ถ้าให้เทียบกับความชอบเพลงอื่น ๆ ถือว่าให้อภัยได้ พอเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เอายายไปสวนได้ เพราะหลาย ๆ เพลง  เรียบเรียงออกมาได้ดีมาก ใส่อะไร ๆ ลงไปก็เข้ากันพอเหมาะ ไม่รู้ทำไมไม่ค่อยเจอเพลงจาก Seiyuu คนอื่น ๆ ที่เหมาะเจาะขนาดนี้บ้าง (เท่าที่เจอก็ Minorin กับ Orikasa Fumiko นี่แหละ)

รวม ๆ แล้วอัลบั้มนี้ดีเทียบเท่ากับอัลบั้มแรกของเธอคือ Mizutamari ni Utsuru Sekai ที่ไม่ซีเรียสเท่า Rakuen แล้วก็ไม่หลากสีสันเท่า Ho? มีสัดส่วนของ Pop-Rock ที่พอดิบพอดี เพลงที่เด่นหน่อยก็ Love me do ที่ใส่อะไรมากรก แต่รกได้เบิกบานสราญรมย์มาก เพลงที่ผมชอบมาก ๆ อีกเพลงคือ Lalala Ai No Uta เป็นป็อบใส ๆ ฟังสบายหู เสียง Choir ที่เป็นหลังช่วยเป็นเบาะกันกระแทกจากจังหวะสังเคราะห์ได้อย่างดี Koisuru Tenkizu ก็สดใสรับวันใหม่ อีกเพลงหนึ่งที่เป็นสุดยอดความประทับใจคือ Zutto (แปลว่า ตลอดไป ในความหมายของ "Always") ที่ทุกอย่างร้อยเรียงทั้งจังหวะและท่วงทำนองออกมาเป็นป็อบดี ๆ ที่เน้นความติดตรึงใจไม่จำเป็นต้องแอ็คเท่ดูถูกคนฟัง ยอมรับว่าไม่ได้เจออะไรแบบนี้มานานแล้ว มันหาได้ใน Seiyuu Pop นี่แหละ !


ปล. 1 สมาคมนักเขียนโชริวเคน ขอมอบรางวัล "สมาธิสั้นดีเด่น" ให้กับผู้เขียน
ปล. 1.1 อนึง สมาคมนักเขียนโชริวเคน จนบัดนี้ยังไม่ทราบเลยว่า สมาธิสั้น จริง ๆ แล้วมันแปลว่าอะไร
ปล. 1.2 อ้ะ-สอง บอสใหญ่ของสมาคมนักเขียนโชริวเคน (ผู้ผูกขาดสมาคมเกี่ยวกับนักเขียนในประเทศนี้) ใช้อีเมลล์ไม่เป็น เน้น ! ใช้อีเมลล์ไม่เป็น ฉะนั้นถ้าอยากส่ง Spam มาให้ส่งมาทางไปรษณีย์พร้อมติดแสตมป์ตามกฏหมายอย่างเรียบร้อย  (ตู้ไปรษณีย์ของบอสอัพเกรดแอนตี้ไวรัสแล้ว ไม่ต้องห่วง)


...ก็อบมาทั้งดุ้นจาก Blog ของตัวเอง สนใจเข้าไปฟังตัวอย่างเพลงใน Blog ได้ครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=shadowservant&month=12-2008&date=29&group=1&gblog=40
บันทึกการเข้า



กลับมาด้วยความเพี๊ยนกว่าเดิม
PaNn™
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 148



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 05 มกราคม 2009 | 08:01:48 PM »

black stone cherry ชุดที่แล้วยังจำได้ไม่ลืมเลือนครับ ชอบมากโดยเฉพาะ lonely train , rain wizard และเพลงปิดท้ายอัลบั้มอย่าง rollin' on
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 มกราคม 2009 | 08:04:54 PM โดย PaNn™ » บันทึกการเข้า
ท่านผีเพลง
Voyage Of The Acolyte
*********
กระทู้: 4733


Phantom of the Paradise


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #44 เมื่อ: 10 มกราคม 2009 | 12:24:14 AM »

ขอร่วมกิจกรรมตามคำสั่งท่านมดครับ


Steven Wilson : Insurgentes
หนึ่งเดียวของปี ๒๕๕๑
คือ คำตอบที่ไม่ต้องอธิบาย

แต่ถ้าให้ขยาย อาจบอกได้ว่า
อัลบั้มนี้คือ ความงามของดนตรี ที่ผ่านสุนทรีย์ของโสตเสียงโดยแท้

สตีเฟ่น วิลสันไม่ได้แต่งเพลงให้เรา้ฟัง
หากแต่ประดิษฐ์เสียงอันแสนวิเศษ ห่อหุ้มอนุสติของเราไปพร้อมๆกับบรรยากาศรอบข้าง พาให้เราตกอยู่ในภวังค์อันเคว้งคว้าง ไร้สิ่งยึดเหนี่ยว ไร้สภาวะ
ลิ้มรสกล่อมกล่อมอย่างบาดคอ
สัมผัสอ่อนหวานจนปวดร้าว

ด้วยลีลาที่หยอกเอินล้อเล่นกับความเป็น"ร็อค"อยู่ตลอดเวลา
ด้วยการเอาใจใส่ต่อรูปแบบของ"เสียง" ในบทบาทของ"สื่อ"
ทำให้เรารู้ได้ว่า นี่คือผลงานที่มาจาก"มันสมอง" ไม่ใช่"คอมพิวเตอร์" อย่างแน่นอน
From Creative to Progressive (or vice versa)

นี่คือผลงานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดในรอบปีนี้ครับ
ไต่ฟ้าคว้าดาวมาประดับให้เธอ

ปล.เดือนก.พ.นี้ เธอจะออกเวอร์ชั่นย่อมเยาว์เบากระเป๋าลงมา แค่ ๑๔ปอนด์ - ห้ามพลาดนะครับ  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery