ต่อไป »

[.. polotoon ..]

[.. polotoon ..]

[อั๋น501]

Deja Vu(2006)   หนังทริลเลอร์ของผุ้กำกับ Tony Scott  เป็นหนังเกี่ยวกับการเดินทางย้อนอดีตของหน่วยงานของเอฟบีไอเพื่อตามหามือวางระเบิด
เรือรบ USS Mimitz ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย  พระเอกของเรื่องรับบทโดย Denzel Washington ได้สืบสวนหามือระเบิดโดยเดินทางย้อนเวลา
ไปในช่วงก่อนเรือรบจะระเบิด แล้วไปเกิดหลงรักผู้หญิงที่ตายในช่วงเวลานั้น  พระเอกต้องการจะเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในอดีตเพื่อช่วยชีวิตคน
และชีวิตสาวที่เค้าหลงรักเป็นหนังแอ๊คชั่นทริลเลอร์สนุกดีครับ  เมื่อวันก่อนผมได้ดูที่เป็นฟอร์แม็ตบูลเรย์คุณภาพของภาพดีมากๆต่างกับที่เคยดู
จากฟอร์แม็ตดีวีดีแผ่นแท้โซน 1 มากครับ

[อั๋น501]

อัลบั้ม Soundtrack จากภาพยนต์เรื่องนี้มีผู้ทำดนตรีประกอบคือ Jerry Goldsmith กับ Tangerine Dream แปลกไหมครับ
ผมถึงรอถามพี่ตั๊มมาช่วยขยายความอัลบั้มชุดให้หน่อย  พี่ตั๊มน่าจะขยายความอัลบั้มชุดนี้ได้ดีกว่าผม แถมให้อีกนิดอัลบั้มของ Tangerine Dream
มีศิลปินดังๆมาร่วมแจมด้วยครับ

[panyarak]

ผมได้ดู Legend ในโรงตอนออกฉายที่อเมริกา ซึ่งออกฉายหลังจากยุโรประยะหนึ่ง หนังที่ออกฉายในยุโรปใช้ดนตรีประกอบของ Jerry Goldsmith ซึ่งก็ไพเราะดี แต่พอนำไปทดลองฉายในอเมริกา กลับถูกสับเละ Ridley Scott จึงไปจ้าง Tangerine Dream ให้มา่ช่วยทำดนตรีประกอบใหม่ รวมทั้งตัดต่อภาพยนตร์ใหม่ใหัสั้นลง 20 นาที นับเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่มีดนตรีประกอบ 2 แบบ
ดนตรีประกอบแบบของ Tangerine Dream ใช้เพลงร้อง Is Your Love Strong Enough ของ Bryan Ferry เป็นเพลงไตเติ้ลหนัง ซึ่งเป็นเพลงรักธรรมดาในสไตล์ถนัดของ Ferry ในขณะที่เพลงตอนจบและต่อด้วยเครดิตตอนท้ายใช้เพลงที่ Tangerine Dream แต่งดนตรีชื่อ Loved by the Sun โดยมี Jon Anderson แต่งเนื้อร้องและร้องนำ ในสไตล์ prog แบบเทพนิยาย ตอนหนังจบ พวกฝรั่งเดินออกกันหมด มีผมเหลืออยู่ในโรงคนเดียวเพื่อฟังเพลงนี้ให้จบ ซึ่งไพเราะเพราะพริ้งมาก Jon Anderson ไม่เคยนำเพลงนี้ออกเล่นสดเลย ในขณะที่ Tangerine Dream นำเพลงนี้ออกเล่นสดแบบบรรเลง แต่ลดดีกรีความเป็น prog จนเหลือศูนย์ จนแทบจำของเิดิมไม่ได้ ส่วนดนตรีประกอบแบบ electronic ambient ของ Tangerine Dream ก็เข้ากับตัวภาพยนตร์ได้ดี เวลาผ่านไปหลายปี จนกระทั่งมีการนำภาพยนตร์เรื่องนี้มาออกเป็นดีวีดี ซึ่งทำทั้ง 2 version ออกขายอยู่ในกล่องเดียว ผมถึงได้ดู version ที่ Jerry Goldsmith ทำดนตรีประกอบ (แต่เคยฟังจากแผ่นมาก่อนแล้ว) ซึ่งก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร มีเพลงร้องเพราะๆ แบบเทพนิยายด้วยครับ

[ท่านผีเพลง]

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่ให้พี่ตั๊มเล่าเบื้องหลังครับ 

ถ้าจำไม่ผิด...
หนังเรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องแรก ที่ถ่ายทำในโรงถ่ายไพน์วู๊ดทั้งเรื่อง
ไม่มีฉากเอ้าดอร์เลย
ผมดูแล้วอึดอัดน่าดู แบบว่าบรรยากาศมืดๆทึมๆ ทั้งเรื่อง
แต่เห็นด้วยว่า นางเอกน่ารัก ขนาดจอมปีศาจยอมตายได้น่ะ 

[ท่านผีเพลง]

เรื่อง Source Code

ตอนแรกคิดว่าไม่สนุก
ไอเดีย ประมาณ กราวด์ฮ็อกเดย์+เมทริกซ์+เดจาวู
แต่ตอนจบ ดีกว่าสามเรื่องที่ว่าครับ ซึ้งดี
 .
.
(คนตายไปแล้ว ยังมีประโยชน์ มากกว่าตัวกรูซะอีก )

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NkTrG-gpIzE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NkTrG-gpIzE</a>

[TRON]

Source Code ชอบมากเหมือนกัน ถึงแม้ไม่ใช่เป็นการย้อนเวลา แต่เป็นทฤษฎีจักรวาลคู่ขนานแทนซึ่งผมกำลังสนใจเรื่องนี้มาก

[TRON]

/////

[panyarak]

Looper - ทำได้ซับซ้อน แต่อุดช่องโหว่ต่างๆ ได้ดีครับ

[TRON]

เป็นไปตามที่ผมคาดเดาสำหรับหนังเรื่องต่อไปของโนแลนเจ้าแห่งความซับซ้อน หลังจากทำเรื่องความฝันได้สุดยอดใน Inception มาแล้ว คราวนี้มาจับทฤษฎีการเดินทางผ่านกาลเวลาตามที่ผมหวังไว้

http://www.interstellar-movie.com/

[kongbei]

เป็นไปตามที่ผมคาดเดาสำหรับหนังเรื่องต่อไปของโนแลนเจ้าแห่งความซับซ้อน หลังจากทำเรื่องความฝันได้สุดยอดใน Inception มาแล้ว คราวนี้มาจับทฤษฎีการเดินทางผ่านกาลเวลาตามที่ผมหวังไว้

http://www.interstellar-movie.com/

มี countdown ด้วย ถ้าออกมาไม่ดีสมกับการที่ต้องมานับถอยหลังจะเป็นยังไง

[TRON]

About Time

[ปีศาจลายคราม]

ภาพยนตร์แนวนี้ เท่าที่นึกออกตอนนี้มีอยู่สองเรื่องที่ผมชอบ เรื่องแรกคือ เทียนฟง คนตรงสามพันปี หรือ Terracotta Warrior (1989) พระเอกเป็นทหารสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งมีความรักความผูกพันกับนางในราชสำนักนางหนึ่ง แม้ร่างตัวจะถูกกลบฝังดินและถูกทำให้มีชีวิตเป็นอมตะข้ามเวลามาสามพันกว่าปีจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งนางอันเป็นที่รักได้กลับชาติมาเกิดใหม่ แต่เธอก็จำคู่รักเมื่ออดีตในยุคโบราณไม่ได้เสียแล้ว โครงเรื่องคร่าว ๆ เท่าที่จำได้มีเท่านี้ เพราะผมได้ดูเรื่องนี้นานมาแล้ว แต่ประทับใจครับ

[ปีศาจลายคราม]

The Highlander (1986) เรื่องนี้ผมว่าน่าจะเป็นผลงานการแสดงที่ดีที่สุดและสร้างชื่อที่สุดของ Christopher Lambert และผมว่าเขาเล่นเรื่องนี้ได้เท่ห์มาก โดยแสดงเป็นนักรบสกอตต์โบราณที่ชื่อแม็คคลาวด์ ซึ่งไปรบแล้วบาดเจ็บปางตาย แต่กลับไม่ตาย มีชีวิตเป็นอมตะ ไม่ยอมตายและไม่ยอมแก่ จนถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ถูกตามล่าตามล้างโดยคู่แข่งคนหนึ่งที่หมายหัวเขามาตลอดเส้นทาง จนกระทั่งไปพบกับนักรบคนหนึ่งที่ชื่อ รามิเรซ (แสดงโดย ฌอน คอนเนอรี่) ซึ่งสอนวิชาดาบและวิธีการเอาตัวรอดให้มีชีวิตอยู่ยงคงกระพัน เหตุการณ์ผ่านไปราวห้าร้อยปีจนถึงยุคปัจจุบัน (1980's) แม็คคลาวด์ยังมีชีวิตอยู่และไม่ยอมแก่ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ถูกตามล่าข้ามภพโดยศัตรูตัวเอ้ไม่ยอมหยุดหย่อน หากใครตัดหัวใครได้ก่อน ผู้นั้นย่อมมีชีวิตอมตะเป็นนิรันดร์ There can be the only one!

มีอยู่ฉากหนึ่งในเรื่องนี้ที่ชอบมาก คือ แม็คคลาวด์ได้ช่วยเด็กหญิงคนหนึ่งให้พ้นจากเงื้อมมือทหารนาซี แล้วเก็บเด็กผู้หญิงคนนั้นมาเลี้ยงจนโตถึงวัยกลางคน โดยให้ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัว เพราะแม็คคลาวด์เป็นเศรษฐีมีคฤหาสน์หลังใหญ่อยู่ (อันนี้เขารวยมาจากไหน ผมไม่ทราบ) เด็กหญิงที่เก็บมาเลี้ยงโตเป็นสาววัยกลางคน แต่เจ้านายผู้อุปการะยังหนุ่มอยู่ เธอเสนอตัวให้ เพราะรู้ว่าเจ้านายเหงา แต่เจ้านายปฏิเสธ เดาว่าเพราะคงเห็นเธอเหมือนลูกครับ