JKNoremorse
|
|
« เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 08:53:45 AM » |
|
by...Hungry For More => Manager.co.th ใครเลยจะลืมความมันระดับสุดยอดที่ผลงานชุดที่ 2 อย่าง Ascendancy เมื่อปี 2005 ได้มอบไว้ได้ เป็นงานเมทัลคอร์ที่ลงตัวในทุกๆ ทาง แต่ที่เหลือเชื่อขึ้นไปอีกก็คือมันเป็นผลงานของนักร้อง,มือกีตาร์ และมือแต่งเพลงที่ตอนนั้นยังอายุเพียงแค่ 19 ปีอย่าง Matthew Kiichi Heafy จึงไม่ต้องสงสัยว่าคนในวงการจะฝากความหวังเอาไว้ที่ Trivium แค่ไหน จะด้วยความห้าวหรืออะไรก็แล้วแต่ Trivium ได้เข็นอัลบั้มชุดที่ 3 ออกมาอย่างรวดเร็วในปีถัดมาในชื่อ The Crusade ซึ่งทางวงได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในชุดนี้ ทั้งการหันมาจูนเสียงกีตาร์ตามมาตรฐานทั้งๆ ที่ชุดก่อนหน้านั้นตั้งเสียงแบบ Drop D ทุกเพลง แต่ที่เล่นเอาแฟนๆ รับกันไม่ค่อยได้คือแนวเพลงที่วงพยายามจะเป็น Metallica วงที่ 2 ร่วมไปถึงการเลิกว้ากของนายแม็ตที่ถือเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของวงแล้วหันมาร้องเสียงปกติซะแทน (ซึ่งเป็นการกินแรงเพื่อนตอนอยู่บนเวทีด้วย) ทำให้ผลงานชุดนั้นดูด้อยลงไปถนัดใจ จนหลายคนเริ่มสงสัยแล้วว่า Ascendancy เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวหรือเปล่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ย้อนกลับมาสู่วงเอง เมื่อแม็ตออกมายอมรับเองว่าความล้มเหลวของ The Crusade ส่วนหนึ่งมาจากการเร่งสานต่อความสำเร็จของชุดที่ 2 เร็วเกินไป ดังนั้นชุดถัดไปที่จะตามมาทางวงจะต้องมีความพร้อมในวัตถุดิบจริงๆ ซึ่งการหาความแปลกใหม่ที่ว่าต้องแลกมาด้วยการแยกทางกันเดินระหว่างวงและโปรดิวเซอร์ Jason Suecof ที่เคยร่วมงานกันมา 2 ชุดเพื่อหันมาพึ่งประสบการณ์ของ Nick Raskulinecz (Foo Fighters, Velvet Revolver, Marilyn Manson, Shadow Fall, Rush) สำหรับการเติมเต็มไอเดียใหม่ๆ สำหรับงานเพลงของวง จนเกิดมาเป็น Shogun ผลงานที่ทิ้งห่างชุดที่แล้ว 2 ปีพอดี
นอกจากตัวโปรดิวเซอร์แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนในชุดนี้ก็คือการกลับมาว้ากอีกครั้งของแม็ตแบบไม่กลัวคอพัง ซึ่งทำให้ความเป็น Trivium ที่แฟนๆ คุ้นเคยกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่ซาวด์การตั้งเสียงกีตาร์ยังเน้นแบบมาตรฐานเป็นหลัก น่าสงสัยว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแม็ตได้ใช้เวลากลับไปซึมซับวัฒนธรรมที่บ้านเกิดของเขาอย่างมากมายเพียงไร ถึงได้มีอิทธิพลของความเป็นญี่ปุ่นแผ่ซ่านในชุดนี้อย่างมากมายเช่นนี้ ตั้งแต่ปกซีดีและซิงเกิลทุกแผ่นของชุดนี้, ชื่ออัลบั้ม และซิงเกิลเปิดตัวเพลงแรกอย่าง Kirisute Gomen ซึ่งเป็นคำที่ซามูไรจะพูดก่อนสังหารศัตรู (ขอหัวท่านให้ข้าเถอะ หรือที่ร้องในเพลงว่า We take their fucking heads) ที่เป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่ทรงพลัง เน้นการเปลี่ยนริธึมของเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Trivium ไปแล้ว ส่วนซิงเกิลที่ 2 อย่าง Into the Mouth of Hell We March ก็เดินตามรอยทั้งเนื้อหาและความมันที่ไม่มีตก เลือดซามูไรยังคงเดือดพล่านในเพลงที่เป็นเอ็มวีตัวแรกอย่าง Down from the Sky เพลงที่ตั้งสายกีตาร์ที่ B tuning เพลงนี้ที่ธีมเกี่ยวข้องกับระเบิดปรมาณู (อาวุธที่ทำให้ญี่ปุ่นประกาศความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2) ซึ่งในเอ็มวีจะเห็น Dean Guitar ของแม็ตเป็นลายธงชาติญี่ปุ่นที่เคยใช้ในการทำสงครามอีกด้วย เป็นเพลงที่แม็ตว้ากได้สะใจมากๆ ท่อนคอรัสโดดเด่นทีเดียว แต่เพลงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในช่วงต้นของอัลบั้มคือเพลงที่ถูกขนาบข้างด้วยซิลเกิลทั้ง 2 อย่าง Torn Between Scylla and Charybdis ที่โชว์ทีมเวิร์คในการบรรเลงท่อนโซโลที่ยาวนาน แนวเบสแอบมีกลิ่นของ Ytse Jam ของ Dream Theater หน่อยๆ ด้วย ในช่วงกลางของอัลบั้มจะเห็นได้ถึงผลงานที่ผสมผสานระหว่างความเป็น Ascendancy และ The Crusade ได้อย่างลงตัว ทั้งเนื้อดนตรีที่แน่นกับท่อนคอรัสที่สวยงาม จนกลายมาเป็น Insurrection กระแทกหูด้วยแทรช/เดธ เมทัลอันดุเดือด Calamity เหมือนการคารวะ Machine Head หนึ่งในวงที่เป็นเบ้าหลอมทางดนตรีให้กับพวกเขา Of Prometheus and the Crucifix ท่อนโซโลอารมณ์แบบโอลด์สคูลดีจริงๆ Like Callisto to a Star in Heaven ก็ว้ากได้มันไม่แพ้ดนตรีที่กระแทกกระทั้นจนจบเพลง ที่ท้าทายที่สุดของชุดนี้คงเป็นเพลงปิดท้ายความยาวเกือบ 12 นาทีอย่าง Shogun ซึ่งมหากาพย์เล็กๆ ในสไตล์ของ Trivium เพลงนี้โชว์กึ๋นในการแต่งเพลงของวงอย่างชัดเจน เริ่มต้นด้วยท่อนริฟฟ์อันดุดันส่งผ่านไปยังคอรัส เข้าสู่ท่อนกลางที่หม่นหมอง ก่อนที่ความบ้าคลั่งของดนตรีจะค่อยๆ โหมขึ้นเรื่อยๆ เข้าสู่ไคลแม็กซ์ของเพลงที่กลายเป็นธีมเดียวกับท่อนอคูสติกเปิดตัวของอัลบั้มอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเทียบกับอายุเด็กไทย ในวัย 22 ของแม็ตก็คงจะใกล้จะจบปี 4 พอดี การมาถึงของ Shogun ก็ไม่ต่างจากผลงานพิสูจน์การจบการศึกษาในศาสตร์แห่งเมทัลคอร์ของเขา อีกคนที่ทำให้การกลับมาครั้งนี้สมบูรณ์แบบก็คือลวดลายในเชิงกีตาร์ของ Corey Beaulieu ที่เป็นผู้นำความหลากหลายมาสู่งานชุดนี้อย่างดี ไม่เสียแรงที่เป็นหนึ่งในผู้สานตำนาน Razorback V ของ Dimebag Darrell ผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยการผสมผสานกันอย่างลงตัวจากอิทธิพลที่ได้มาจาก Machine Head และ Metallica งานชุดนี้ถือเป็นผลงานเมทัลที่เรียกได้ว่าเกือบๆ จะแกร่งทั่วแผ่น ซึ่งเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่าเส้นทางในวงการดนตรีในวันข้างหน้าของ Trivium จะยิ่งใหญ่ไปได้อีกเท่าไหร่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JKNoremorse
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 09:05:43 AM » |
|
ทีแรกผมดันไปอ่านว่า โชกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 09:13:36 AM » |
|
อัลบั้มนี้เหมือนอยู่ตรงกลางระหว่าง Ascendancy กับ The Crusade ครับ แต่ผมว่ามันไม่เข้มข้นเท่า Ascendancy และไม่แธรชเท่า The Crusade มันกลางๆ ก็ถือว่าโอเคครับ แต่สู้สองชุดนั้นไม่ได้แน่นอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JKNoremorse
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 10:18:54 AM » |
|
ผมไม่เคยฟังชุด Ascendancy อย่างจริงจังซะด้วย เคยฟังแต่แกเล่นไลฟ์ประมาณ 3-4 เพลง ซึ่งก็โอเคเป็นเมทัลคอร์แบบสลับจังหวะผ่อนหนักเบาและมีชั้นเชิง โซโล่คู่แจ๋ว กลอง เบส เด่นกันทุกคน ส่วน The Crusade ก็น่าสนใจที่ทางวงมาเล่นแธรชกันแบบรวดเร็ว และแหกปากร้อง (ช่วงนั้นแกทัวร์กับ Met ด้วยมั๊งเลยซึบซับอิทธิัพลมาเต็ม ๆ ) แต่ดันทำเพลงออกมาซะเยอะ เลยขาดเสน่ห์ไปโดยเฉพาะ 4-5 เพลงหลังนี่ผมต้องกดข้ามไปฟังเพลงบรรเลงเพลงสุดท้ายทุกที (แต่ 5-6 เพลงแรกนี่มันส์จริง ๆ ) ชุดนั้นถ้าพิถีพิถันไม่รีบทำออกมา แล้วเน้นทำดี ๆ ซัก 8-10 เพลง คงจะดี
ถ้าบอกว่างานชุดนี้อยู่ระหว่างกลางระหว่าง Ascendancy กับ The Crusade ก็น่าสนครับ พวกเขาจะได้มองเห็นแนวทางที่เป็น เอกลัีกษณ์ของตัวเองซะที คงเป็นแนว "แธรช-คอร์"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 10:33:58 AM » |
|
ไม่รู้สินะ สำหรับผมเองคิดว่าอยากให้พวกเขากลับไปทำงานแบบ Ascendancy มากกว่าครับ เพราะผมคิดว่านั่นเป็นเทรดมาร์กของวงจริงๆ และแธรชคอร์ที่เจ๋งๆนั้นมันมีอยู่แล้วอย่างวง Lamb of God ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเป็นวงที่เล่นได้มันส์มากๆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JKNoremorse
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 10:44:06 AM » |
|
Lamb of God กับ Shadow Falls ใครเจ๋งกว่ากันครับ? (ผมยังไม่เคยฟัง LOG เลยครับ) Shadow Falls : The War Within เป็นงานเมทัลคอร์ที่โดนใจผมเต็ม ๆ เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 10:45:44 AM » |
|
Lamb of God กับ Shadow Falls ใครเจ๋งกว่ากันครับ? (ผมยังไม่เคยฟัง LOG เลยครับ) Shadow Falls : The War Within เป็นงานเมทัลคอร์ที่โดนใจผมเต็ม ๆ เลย Shadows Fall จะเป็นเมโลดิคมากกว่าและซับซ้อนกว่า Lamb of God จะหนักกว่าและเป็นแธรชเข้มข้นมากกว่า สองวงนี้เจ๋งกันคนละแบบครับ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JKNoremorse
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 11:06:54 AM » |
|
Shadow Falls งานชุดหลัง ๆ นี่ความเข้มข้นลดลงไปเยอะเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 11:12:45 AM » |
|
Shadow Falls งานชุดหลัง ๆ นี่ความเข้มข้นลดลงไปเยอะเลยครับ
ใช่ครับ แต่ยอมรับว่าไลน์กีตาร์ของวงนี้มันเมโลดิกมากจริงๆ กลิ่นอายของ At The Gates คลุ้งไปหมดเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
picky
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 03:52:37 PM » |
|
Shogun ฟังแล้ว ผมว่าเจ๋งพอๆกับสองชุดที่แล้วครับ *"แธรช-คอร์" เอาแค่ Metalcore ตัวตนมันก็เบาบางพออยู่แล้วครับ แถมนับวันมันยิ่งมั่วกันไปใหญ่ พอๆกับคำว่า emo ...อย่างใน Last.fm tag กันมั่วไปหมด Hatebreed วง Hardcore ขนานแท้มันยัง tag Metalcore * Shadow Falls ดีครับ ชุดใหม่(2007)โคตรเงียบเลยครับ 555 ว่าแล้วก็เอามาฟังหน่อย จริงๆลืมไปแล้ว * Lamb of God ก็เล่นดีครับ แต่สำหรับผม มันหนืดและทื่อไปหน่อย พวกไม่โซโล่กันเลย ...ก็นะตามสไตล์เค้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 03:59:11 PM » |
|
ผมเองไม่ประสีประสาแนวเมทั่ลคอร์หรือฮาร์ดคอร์เลยครับ ไม่ใช่ว่าแอนตี้เมทัลลูกผสมนะครับ เพียงแต่ไม่ค่อยได้ฟังเท่านั้นเอง เลยออกความเห็นอะไรมากไม่ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
picky
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 06:54:23 PM » |
|
รู้ครับว่าไม่ได้แอนตี้ ไม่เห็นต้องออกตัวเลย ...เคยอ่านกระทู้ A7X แถวนี้ ตอนเข้ามาใหม่ๆ อือหือ ที่นี่เค้าแรงกันจัง ไม่ค่อยจะเหยียดกันเลย เพลงที่เค้าฟังคงเทพน่าดู(ฮา) เหมือนเหยียบให้จมดิน แล้วพาออกทะเล 555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2008 | 07:05:19 PM » |
|
รู้ครับว่าไม่ได้แอนตี้ ไม่เห็นต้องออกตัวเลย ...เคยอ่านกระทู้ A7X แถวนี้ ตอนเข้ามาใหม่ๆ อือหือ ที่นี่เค้าแรงกันจัง ไม่ค่อยจะเหยียดกันเลย เพลงที่เค้าฟังคงเทพน่าดู(ฮา) เหมือนเหยียบให้จมดิน แล้วพาออกทะเล 555 ตอนนี้กลายเป็นว่าผมโคตรชอบ Chapter Four ของ A7X เลยล่ะ เป็นเพลงที่ท่อน Pre-Chorus เพราะกว่าท่อน Chorus ซะอีก "Raise your head and taste the courage Fall from grace, unholy night!!!!!"
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ตุลาคม 2008 | 07:08:08 PM โดย LiliumNation™ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JKNoremorse
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2008 | 10:29:01 AM » |
|
ผมชอบ The Crusade มากกว่า Shogun ครับ
ความจริงดนตรีงาน Shogun ถือว่าดีทีเดียว มีความซับซ้อนมากกว่าอัลบั้ม The Crusade แต่ผมไม่ชอบเสียงของ Matt ตอนสำรากเลย ร้องโหด ๆ ฟังชัด ๆ ยังดีซะฝ่า
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ธันวาคม 2008 | 04:46:26 PM โดย jknoremorse »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JKNoremorse
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 27 มีนาคม 2020 | 03:16:07 PM » |
|
ยังมีใครติดตามผลงานของพวกเขาอยู่บ้างไหมครับ ชุดล่าสุดที่ผมฟัง Silence in the Snow รวม ๆ ก็ดูฟังง่ายครับ ส่วน 2 ชุดหลังจากนั้นยังไม่ได้ฟังเป็นจริงเป็นจังเลย เพราะมีความรู้สึกว่าวงเล่นออกมาแนว ๆ เดิมตลอด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|