ว่าจะเลิกอ่านหนังสือเครื่องเสียงที่เคยซื้ออ่านประจำแล้ว เพราะแม้ว่าหนังสือจะหนา พิมพ์ด้วยกระดาษอาบมัน ดูดีมีราคาก็จริง แต่รู้สึกว่าจำนวนหน้าโฆษณามันจะมากกว่าหน้าที่เป็นสาระและความรู้ เหมือนซื้อมาเพื่อดูแต่โฆษณาเสียเป็นส่วนใหญ่ และพอมาเจอนักเขียนบางคนที่เขียนสไตล์น้ำท่วมทุ่งเข้าไปอีก ก็เสร็จกันพอดีครับ
อย่าพึ่งเลิกอ่านเลย หนังสือเครื่องเสียงบ้านเราทั้งหมดทุกฉบับหน้าโฆษณาเป็นรายได้หลักของหนังสือ หากไม่มีหน้าโฆษณาแล้วหนังก็อยู่ไม่ได้
ลำพังอาศัยยอดขายหนังสือเพียงอย่างเดียวรายได้ไม่พอหรอกครับ แต่บางเล่มอาจจะมีหน้าโฆษณาแยะก็เพราะร้านค้าเห็นว่าหนังสือเครื่องเสียงเล่ม
นั้นๆมีกลุ่มเป้าหมายตรงกับสินค้าของบริษัท ผมเองจะซื้อหนังสือเครื่องเสียงทุกฉบับของบ้านเราบางฉบับไม่ชอบยังซื้อเลยครับ เพราะต้องการให้
หนังสือเครื่องเสียงของบ้านเราอยู่ได้ไม่อยากให้หายไปแบบหนังสือดนตรี เพราะทุกวันนี้โลกไร้พรมแดนอยากจะอ่านอะไรแค่ปลายนิ้วรวดเร็วไม่ต้อง
รออ่านเป็นเดือนจึงทำให้หนังสือนิตยสารรายเดือนเกี่ยวกับดนตรี เครื่องเสียงฯลฯ จะอยู่ลำบาก
ผมบ่นไปยังงั้นเองแหละครับ ก็คิดว่ายังคงกัดฟันซื้ออ่านอยู่ ถึงแม้เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปเกือบร้อยบาทเพื่อให้ได้หนังสือมาในแต่ละเดือนกับจำนวนบทความที่สนใจอ่านจริง ๆ ในเล่ม ดูแล้วมันช่างไม่คุ้มเอาเลยก็ตาม เพราะบทความหรือข้อเขียนบางเรื่องหรือหลายเรื่องนั้น มันก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเรา ก็ต้องข้ามไป ดังนั้นจึงคงต้องพยายามทำใจเสียว่า ถ้าหนังสือเล่มนั้นไม่มีบทความหรือข้อเขียนที่เป็นสาระอะไรก็ต้องดูหน้าโฆษณาแก้เซ็งไป อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ว่าตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใดหรือรุ่นใดเข้าสู่ตลาดมาแล้ว
อีกเรื่องหนึ่งคือ หลายครั้งที่ผมรู้สึกรำคาญสำนวนของนักเขียนนักวิจารณ์บางคนซึ่งบรรเลงกันเป็นน้ำท่วมทุ่ง เสียพื้นที่ไปหลายหน้ากระดาษกว่าจะได้เข้าเรื่องที่เป็นสาระของเครื่องเสียงจริง ๆ เสียที ในเรื่องนี้ผมไม่ได้ยกย่องชมเชยหนังสือเครื่องเสียงต่างประเทศหรอกนะครับ แต่ผมเคยอ่านหนังสือพวกนี้มาแล้ว อย่าง Hi-Fi Choice, Hi-Fi World หรือ What Hi-Fi? ของอังกฤษเนี่ย เขาเขียนบทวิจารณ์เครื่องเสียงแต่ละตัวได้กระชับมาก และใช้พื้นที่เพียงไม่กี่ย่อหน้าก็จบและรู้เรื่องแล้ว มีบทขึ้นต้น บทดำเนินเรื่อง และบทสรุปและความเห็น แต่หนังสือของพี่ไทยเนี่ยเล่นกันเป็นลิเกเลย กว่าจะออกแขก กว่าจะดำเนินเรื่องไปจนจบ สังเกตดูสิครับว่าเสียพื้นที่หน้ากระดาษไปอย่างน้อยสองสามหน้าสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ แต่จับความเอาสาระจริง ๆ ได้ไม่กี่ย่อหน้าเท่านั้นเอง เวลาผมอ่านบมความพวกนี้ ผมจะอ่านแค่บทนำ ข้อกำหนดหรือสเป็คของสินค้า และบทสรุปตอนท้ายเท่านั้น เพราะตรงกลางบทความมันมีแต่น้ำท่วมทุ่งครับ