ขอบคุณครับ ที่คุณอั๋น บอกว่า
เวลาไม่เคยรอใคร .....ทุกคนมีเวลาในชีวิตเท่ากันหมด คือ 24 ชั่วโมง .....ถ้าผมมัวมานั่งรอให้ ประสิทธิภาพของ ตา และ หู ลดลง แล้วค่อยมา
เริ่มต้น เอาจริง กับการดูหนังฟังเพลงนี่ .....มันคงเปล่าประโยชน์จริงๆนะครับ
......อีกอย่างหนึ่งของผมคือ
หนังสือ ครับ ต้องเริ่มเอาจริงซะตั้งแต่ตอนนี้ซะแล้ว ที่เก็บสะสมเอาไว้ก็เข้า หลัก เป็นพันเล่มเช่นกันครับ
ความสุข ไม่ใช่สิ่งที่วาดฝันในอนาคต
แต่คือสิ่งจับต้องได้ ในปัจจุบันต่างหากครับ
ผมก็เชื่อเฮียอั๋น เมื่อต้องไปผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา เมื่อช่วงปีใหม่ครับ
แถมการขับรถก็แย่ลง
ไม่รู้จะมีความยืนยงซักเท่าไหร่
ถ้าไม่เบียดเบียน หรือโกงใคร หรือโกงประเทศชาติ
แค่จัดหาสิ่งที่เรารัก เราชอบ คงไม่ผิดอะไรมากมายมังครับ
เพียงให้รู้ทันว่า สิ่งเหล่านั้น มันเป็นมายา เป็นกิเลส
ก็ลองเล่นกับไฟดูซักตั้งครับ...
เรื่องห้องฟังเพลงดูหนังนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการฟังเพลงหรือดูหนัง อย่างที่ผมเคยบอกว่าการที่เรื่องห้องฟัีงเพลงนั้น
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการฟังเพลงแบบที่ได้คุณภาพเสียง ไม่ใช่ฟังเพลงแบบอะไรก็ได้ถ้าแบบนั้นก็ไม่ต้องไปดิ้นรนหาซื้อชุดเครื่องเสียงดีๆ
มาฟังหรอกครับ ฟังเพลงจากวิทยุเครื่องเล็กๆหรือจากชุดคอมพิวเตอร์ก็ได้ไม่ก็จากโทรศัพท์มือถือก็ยังได้ คนที่เล่นเครื่องเสียงแทบทุกคน
ผมว่าต้องการคุณภาพเสียงจากชุดซีสเต็มที่เราซื้อมาเล่นทั้งนั้น ไม่งั้นจะลงทุนเสียเงินซื้อเครื่องมาทำไม การมีห้องฟังเพลงที่เป็นสัดส่วน
เป็นเรื่องเป็นราวนั้นก็เหมือนกับว่าเรามีห้องส่วนตัวอาจจะใช้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนก็ได้ทุกๆคนต้องการทั้งนั้น ไม่มีใครอยากจะไปใช้ห้องรวม
กับผู้อื่นเพื่อทำกิจกรรมส่วนตัวหรอกครับ ที่ผมบอกแบบนี้อยากจะให้เห็นว่าห้องฟังเพลงนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับห้องส่วนตัวหรือห้องนอนที่ทุกคน
ต้องการจะมี แต่ว่าอาจจะไม่มีเพราะพื้นที่อาศัย บ้านหรือคอนโด ห้องเช่าอะไรก็แล้วแต่ไม่มีพื้นที่เหลือจะให้ใช้เป็นห้องส่วนตัวหรือห้องฟังเพลง
อันนี้ก็แล้วแต่ปัจจัยรอบข้างของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันอันนี้เข้าใจครับ แต่อยากมาบอกว่าห้องฟังเพลงนั้นไม่สำคัญอย่างนี้ผมว่าไม่ใช่แน่
ถ้าเราไม่สามารถทำห้องฟังเพลงแบบที่ควบคุมจัดการเสียงด้วยอะคูสติกได้การที่ลงทุนซื้อชุดซีสเต็มแพงๆนั้นก็เปล่าประโยชน์ ทำไมผมจึงบอก
เช่นนี้ก็เพราะอะคูสติกเสียงในห้องที่เราใช้ฟังเพลงซึ่งอาจจะเป็นห้องอะไรก็ได้ที่เราใช้ฟังเพลงอยู่ จะส่งผลกับแหล่งกำเนิดเสียงคือชุดเครื่องเสียง
อย่างมากยิ่งห้องที่มีสภาพแวดล้อมไม่ดีทำให้เกิดการสะท้อนเสียงซึ่งไร้ทิศทางไปมาบนพื้นผิววัสดุต่างๆรอบข้างทำให้เกิดเรโซแนนซ์ เราต้องทนฟัง
อยู่กับปัญหาของเสียงซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ บางคนยอมลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์ข้างเคียงมากมายใช้เงินไม่รู้เท่าไรเพื่อต้องการเสียงแบบที่ตัวเองอยากได้โดยไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆอยู่ที่สภาพอะคูสติกของห้อง เมื่อวันก่อนผมไปร้านเครื่องเสียงเจ้าประจำบังเอิญได้เจอผู้ชายกับผู้หญิงน่าจะเป็นเมีย
มาด้วยกัน ผู้ชายนั้นลักษณะเป็นคนต่างจังหวัดเดินทางมาเพื่อมาหาซื้อชุดเครื่องเสียงผมเห็นเค้าเล็งๆดูเพาเวอร์แอมป์กับปรีแอมป์ยี่ห้อ Magnet
น่าจะเป็นรุ่น MA 400 กับ PV 01เป็นเครื่องมือสอง เค้าขอให้เจ้าของร้านเปิดเครื่องเพื่อลองฟังเสียงหน่อย ผมก็ยืนฟังเสียงอยู่ด้วยยังได้พูดคุย
กับเค้าว่าทำไมถึงอยากซื้อยี่ห้อนี้ เดี๋ยวจะกลับมาเล่าต่อในตอนต่อไป
กลับมาเล่าต่อ ผมถามเค้าว่าทำไมถึงเลือกสนใจเพาเวอร์แอมป์กับปรีแอมป์ยี่ห้อ Magnet เค้าตอบผมว่า "ประทับใจกับน้ำเสียงที่เทียบกับราคาค่าตัว
คุ้มค่ามากกว่าของนอกที่ราคาเท่ากัน" ยิ่งเค้าบอกว่างบลงทุนเล่นเครื่องเสียงมีไม่มากต้องการเน้นคุณภาพเสียงกับราคาที่เหมาะสม อันนี้ผมเห็นด้วย
ยี่ห้อ Magnet เป็นชื่อยี่ห้อของบ้านเราที่ผมกล้าบอกได้เลยยี่ห้อของนอกราคาเท่ากันนั้นไม่ได้เหนือกว่าเลยครับ อุปกรณ์ที่ใช้เป็นของดีเกินกว่าราคา
เมื่อเทียบกับยี่ห้อของนอกอย่างเช่นเมื่อวันก่อนผมกับพี่ผีได้ไปบริษัท Magnet ได้มีโอกาสลองฟังเพาแอมป์รุ่นใหม่ของ Magnet ราคาประมาณ
ห้า่หมื่นบาทมีลดบ้าง เห็นอุปกรณ์ในเครื่องแล้วต้องยอมรับเลยว่าใช้ของดีหม้อแปลงภาคจ่ายไฟขนาดเท่าหม้อข้าวกับกำลัง 200 วัตต์ ถ้าเทียบ
กับแอมป์ระดับไฮเอ็นด์จะต้องจ่ายเป็นแสนบาทครับ ประเด็นที่ผมเล่านั้นไม่ได้อยู่ว่าเค้าผู้นี้ซื้อเพาเวอร์กับปรีแอมป์ Magnet แต่เค้าบอกผมว่า
ที่เลือกซื้อเครื่องเสียงในงบประมาณขนาดนี้นั้นเป็นเพราะว่า เค้าแบ่งเอาเงินที่มีอยู่อีกบางส่วนไปลงทุนทำห้องฟังเพลงครับโดยใช้เงินประมาณ
เท่าๆกับการลงทุนซื้อเครื่องเสียง ผมฟังจากที่เค้าอธิบายความมานี่ผมเข้าใจเลยว่าคนที่ฟังเพลงเป็นและต้องการคุณภาพเสียงที่ดีโดยที่ไม่ได้
เอาเงินไปลงทุนกับการซื้อเครื่องเสียงอย่างเดียวโดยไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่องกับอะคูสติกของห้องฟังว่าเป็นเช่นใด เค้าบอกผมว่าเงินที่เค้าซื้อชุดซีสเต็ม
เพาแอมป์กับปรีแอมป์รวมกันแล้วประมาณสองหมื่นกว่าบาท ยังไม่สามารถซื้อสายสัญญาณ ,สายลำโพงหรืิอแม้แต่สายไฟของพวกที่เล่นชุดไฮเอ็นด์
ได้เลยเค้าลงทุนทำห้องปรับอุปกรณ์อะคูสติกของเสียงโดยใช้เงินไม่กี่หมื่นบาท แต่ให้คุณภาพเสียงที่ได้มาคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปอีก ผมจะขออธิบายให้เพิ่มเติมให้อ่านหน่อย อย่างเช่นเรามีงบซื้อชุดเครื่องเสียงประมาณ 100,000 บาทแต่ถ้าเราแบ่งงบออกเป็นซื้อเครื่องเสียง 60,000 บาท
และที่เหลืออีก 40,000 บาทเอามาลงทุนซื้ออุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกเสียงใช้ของบ้านเราหรือทำเอง(ถ้าพอมีฝีมือ) เป็นวิธีคิดของคนที่เข้าใจ
เรื่องเสียงขนาดเค้าเล่นเครื่องเสียงราคาแค่ไม่กี่หมื่นบาทยังใส่ใจกับเรื่องอะคูสติกเลยครับ ไม่ใช่มาบอกว่าห้องฟังไม่สำคัญ ทำห้องฟังเพลงต้องลงทุน
มากมายเป็นหลักแสนหรือหลักล้าน ผมจะบอกให้คนที่กล้าทำห้องฟังเพลงลงทุนเป็นหลักแสนๆหรือหลักล้านบาทนั้นมีปัญญาทำห้องฟังด้วยเงิน
ขนาดนี้ได้ รับรองได้ว่าต้องมีปัญญาซื้อชุดซีสเต็มแพงๆได้แน่ ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็อยากแสดงให้เห็นว่าการมีห้องฟังเพลงนั้นมันสำคัญขนาดไหน
อย่าไปคิดว่าชุดซีสเต็มของเราราคาไม่แพงนั้นไม่จำเป็นจะต้องมีห้องฟังเพลง ผมจะบอกให้จากประสบการณ์อันยาวนานของการเล่นเครื่องเสียง
เคยฟังเครื่องเสียงระดับไฮเอ็นด์กับห้องฟังที่สภาพแวดล้อมไม่ดีให้คุณภาพของเสียงยังสู้ชุดซีสเต็มระดับแค่กลางๆกับห้องฟังเพลงที่ออกแบบ
อะคูสติกเสียงมาอย่างดีไม่ได้เลยครับ แปลว่าอะไรแสดงว่าห้องฟังเพลงที่ดีมีส่วนสำคัญมากครับ เดี๋ยวว่างๆจะมาว่าต่อเพราะนี่เป็นหัวเรื่องกระทู้
"อยากทำห้องฟังเพลงครับ" ถ้าใครไม่อยากทำหรือไม่สนใจเรื่องห้องฟังเพลงไม่ต้องมาอ่านหรือมาตอบกระทู้ก็ได้ก่อนตอบกระทู้อ่านหัวเรื่องกระทู้
ก่อนนะจะบอกให้
มาอย่างดีไม่ได้เลยครับ