นี่คือลิสต์ที่ผมเขียนไว้สำหรับกิจกรรม Best Song 0f 2010 ของกรุ้ป AllMusicLovers แล้วอยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆพี่ๆชาวไทยพร๊อกบางท่านที่ไม่ได้เล่นเฟซบุคได้อ่านกันด้วยครับ
Noisy Noisery's Best of 2010:
สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบพระคุณพี่หมอ Winston ก่อนเลยที่ให้โอกาสผมโพสต์เปิดกิจกรรมพิเศษครั้งนี้ครับ ซึ่งจริงๆแล้วกิจกรรม Best of 2010 ของ AML ได้กำหนดให้เลือกเพลงที่ถูกใจมากที่สุดในรอบปีของแต่ละคนโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นงานที่ออกในปี 2010 เท่านั้น ...แต่สำหรับผมแล้ว ลำพังปี 2010 ปีเดียวก้มีงานเยี่ยมๆออกมาให้ฟังกันมากมายจนเลือกกันแทบไม่หวาดไม่ใหวแล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับลิสต์ยอดเยี่ยมของผมประจำปีนี้ก็จะเป็นงานที่ออกในปี 2010 ล้วนๆครับ ซึ่งจะมีเพลงอะไรบ้าง จะตรงใจใครท่านใหนบ้างหรือเปล่า ก็ลองชมลองฟังกันดูนะครับ
1. Here Sometimes - Blonde Redhead
แม้ว่าพวกเขา (และเธอ) จะลดดีกรีความดิบของดนตรีลงไปเรื่อยๆจนแทบไม่เหลือแล้วในชุดนี้ แต่ซาวนด์ซินธ์ป๊อปลอยๆหวานๆของวงในปัจจุบันก็ยังคงมัดใจผมได้เสมอ อย่างในเพลงนี้ที่ทุกอย่างมันช่างกลมกล่อมลงตัวมากๆ ทั้งความอ่อนดยนละมุนละไมของภาคดนตรี กับเสียงร้องฝันๆเจืออารมณ์หมองเศร้าเล็กน้อยของเจ๊ Kazu Makino ทำให้บทเพลงนี้ควรค่าแก่การเปิดฟังซ้ำไปซ้ำมาตลอดทั้งปี (และอาจจะอีกหลายปี) เลยจริงๆ
http://www.youtube.com/watch?v=_1E_y4g-3mM2. The Waiting's Over - Raised by Swans
หากทีการจัดอันดับที่หมองเศร้าทุกข์ระทมระทวย ที่สุดประจำปีนี้ อัลบั้ม No Ghostless Place ของ Raised by Swans ก็น่าจะติดอันดับต้นๆกับเขาด้วยแน่นอน ด้วยดนตรีอินดี้ป๊อปนวยนาดเชื่องช้า เจือท่วงทำนองลอยหม่นของดนตรีโพสต์ร๊อค และการเรียบเรียงดนตรีแบบ "Less is More" ทำให้ได้อารมณ์เศร้าล้ำลึกแบบหนังเมโลดราม่าชั้นดี อย่างในเพลงนี้ที่เล่นเรียบๆนิ่งๆเจื้อแจ้วไปเรื่อยๆ แต่พอถึงตอนท้ายสุด น้ำตาก็นองหน้าโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว ...ซึ่งสำหรับผมแล้ว นี่คือบทเพลงที่ทำให้ต่อมน้ำตาของผมสั่นใหวได้มากที่สุดในรอบปีนี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=phNo1TPUvWg3. Shadows in Bloom - Games
จริงๆ แล้วหากจะบอกว่า Games เป็นวงหน้าใหม่ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะมันคือการร่วมงานกันเฉพาะกิจระหว่าง Dan Lopatin แห่ง Oneohtrix Point Never กับ Joel Ford แห่ง Tiger City นี่เอง ซึ่งอีพีชุดแรกของพวกเขาก็ทำให้ผมต้องตกตะลึง เข้าอย่างจัง ด้วยซาวนด์ดนตรีซินธ์ยุค 80's แบบเน้นๆขลังๆไม่เจือสารหนู โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ผมต้องย้อนกลับมาฟัง ซ้ำแล้วซ้ำอีกนับครั้งไม่ถ้วน แม้มันจะมีความยาวเพียงสองนาทีกว่าๆเท่านั้น แต่ทุกๆสุ้มเสียงที่ทั้งสองบรรจงปั้นแต่งขึ้นมาอย่างบรรจง มันทิ่มแทงทะลุเข้าไปในทุกโสตประสาทในร่างกาย เกิดเป็นความรู้สึกเหนือคำบรรยาย เหมือนได้เข้าไปล่องลอยอยู่ในความฝันอันสวยงามแห่งยุค 80's จริงๆเลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=SBbrSJv3_S04. IHNFSA - Kyte
ความหนานุ่มของซินธ์และท่วงทำนองสังเคราะหืคือเสน่ห์อันเย้ายวนของบทเพลงนี้อย่างแท้จริง แล้วพอมาเจอกับเสียงร้องที่อ่อนโยนแต่แฝงความเศร้าหมองเอาแบบปิดไม่มิดอย่างนี้ มันจึงเป็นส่วนประกอบของบทเพลงที่ถูกสรรค์สร้างมาให้ผมหลงรักโดยแท้ แม้ในทุกวันนี้แนวทางดนตรีของวงจะเปลี่ยนแปลงไปจากโพสต์ร๊อคลอยๆในอัลบั้มแรกๆอยู่พอสมควร แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวข้องที่จะทำให้ผมรักบทเพลงของพวกเขาน้อยลงอยู่ดี
http://www.youtube.com/watch?v=uuDAyrMi3j85. Albatross - Sambassadeur
สวีดิชป๊อประดับเยี่ยม ที่ชื่อค่าย Labrador ก็คงพอการันตีความเนี้ยบได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่สำหรับเพลงนี้ ผมถือว่าพวกเขาทำการเรียบเรียงดนตรีออกมาได้งดงามและโดดเด่นอย่างแท้จริง คือเอาแค่เสียงเครื่องสายก็แทบละลายแล้วครับ ยิ่งมาเข้าท่อนร้องที่ประกอบไปด้วยเมโลดี้และเสียงร้องสุดไพเราะที่ทำให้ผมนึกถึงบทเพลงของ Julee Cruise ได้ในทุกหางเสียงแบบนี้ หากไม่รักก็เกินไปหน่อยแล้วล่ะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=n2BgNKoa2RA6. เพลงส่วนตัว - Inspirative
ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ถือว่ามีผลงานเพลงไทยเยี่ยมๆออกมาให้ฟังกันไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หากจะให้ผมเลือกสักเพลงเข้ามาติดในลิสต์นี้ ผมขอเลือกบทเพลงจากวงโพสต์ร๊อคเลือดไทยที่ทำให้ผมรู้สึกว่างานเพลงของบ้านเราก็สามารถเอาไปเทียบกับนานาประเทศได้อย่างไม่น้อยหน้า ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าผมชอบผลงานชิ้นนี้มากกว่าโพสต์ร๊อคจากต่างประเทศอีกหลายต่อหลายวงเสียอีก ด้วยการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกว่างเปล่าปนสับสนและสิ้นหวังผ่านทางตัวโน้ตดนตรีได้อย่างประณีตละเอียดอ่อนและงดงาม แม้จะมีเสียงร้องประกอบอยู่บ้าง แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและใกล้ชิดแบบแปลกๆได้อยู่เหมือนกัน ซึ่งจากผลสรุปที่ออกมา มันแสดงให้เห็นถือความตั้งใจในการทำงานแบบเกินร้อยของสมาชิกวง จนได้ออกมาเป็นผลงานดนตรีระดับคุณภาพที่ควรได้รับการสนับสนุนอย่างมากจริงๆครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Z4YW_xOqPq87. Þau hafa sloppið undan þunga myrkursins - Olafur Arnalds
ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดศิลปินจากประเทศไอซ์แลนด์แล้ว เราคงพอจะคาดหวังความงดงามดั่งสวงสวรรค์ในงานประพันธ์ของเขาได้แน่ๆ ซึ่งบทเพลงที่เขานำเสนอนั้นเป็นโมเดิร์นคลาสสิคัลที่ดำเนินเรื่องด้วยเสียงเปียโนอันพลิ้วไหวและเครื่องสายสวยจับจิต ร้อยบรรเลงตัวโน้ตที่ถูกคัดสรรเรียบเรียงมาอย่างดี แล้วโปะเข้าไปด้วยการบิวด์อารมณ์แบบดนตรีโพสต์ร๊อค ทำให้งานชิ้นนี้ฟังแล้วราวกับเป็น Sigur Ros ภาคคลาสสิคัลยังไงยังงั้น ซึ่งหากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลและอยากไปสัมผัสกับบรรยากาศอันสุดแสนจะบรรยายของประเทศไอซ์แลนด์สักครั้งในชีวิต บทเพลงของ Olafur Arnalds จะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นที่จะช่วยเพิ่มความอยากของคุณให้เป็นทวีคูณครับ
http://www.youtube.com/watch?v=IZ46TN7uxwc8. Light and Solitude - Envy
บทเพลงจากอัลบั้มใหม่แกะกล่องของวงโพสต์ร๊อค/โพสต์ฮาร์ดคอร์เลือดซามูไรที่ทำดนตรีได้อ่อนหวานขึ้นทุกอัลบั้ม และเพลงนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการเรียบเรียงดนตรีโพสต์ร๊อคที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนละมุนละไมจากกีตาร์สองตัวที่สอดประสานความหวานใสเข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งตัวโน้ตที่หลอมรวมความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวและแสงสว่างแห่งความหวังอันอบอุ่นไว้ด้วยกันสมกับชื่อเพลง ก่อนจะไประเบิดอารมณ์พรั่งพรูอย่างหนักหน่วง กราดเกรี้ยว แต่เปี่ยมล้นอารมณ์ความรู้สึกในช่วงท้ายของบทเพลง ทำให้ทุกๆท่วงทำนองของเพลงนี้จะดังก้องระงม ประทับอยู่ในหัวจิตหัวใจของคุณไปตราบนานเท่านาน
http://www.youtube.com/watch?v=94_uWL3zfMI9. High Hopes - Team Ghost
โปรเจคต์ใหม่เอี่ยมอ่องของ Nicolas Fromageau อดีตสมาชิก M83 ผู้มากความสามารถ กับบทเพลงชูเกส/โพสต์ร๊อคที่ยังคงความล่องลอยเวิ้งว้างอลังการในแบบของวงเก่าของเขาไว้อย่างเต็มเปี่ยม แต่มีการเพิ่มเติมบรรยากาศเศร้าสลดเข้าไปอยู่ หลายขนานพอสมควร แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอุปาทานรึเปล่า แต่ผมฟัง High Hopes ของวงนี้ทีไรแล้วจะต้องนึกถึง High Hopes ของ Pink Floyd ไปด้วยทุกที ด้วยอารมณ์ของเพลงที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่ต่างรูปแบบแนวทางของดนตรีกันไปเท่านั้นเอง
http://www.youtube.com/watch?v=e9zmKQFmliE10. So Sad - RiLF
เมื่อสมาชิกจากยอดวงแห่งซีนอินดี้ญี่ปุ่นอย่าง Anoice กับ Matryoshka มารวมตัวกันทำงานเพลง ผลที่ได้ก็คือบทเพลงระดับมหาเสน่ห์ที่เฉียบไปเสียทุกแง่มุมจริงๆ ซึ่งในเพลงนี้คุณจะได้พบกับดนตรีอินดี้ป๊อปชั้นเลิศที่หยิบยืมความหม่นมืดและเข้มขลังในแบบโพสต์พังค์เก่าๆเข้ามาได้อย่างแนบเนียน อีกทั้งยังมีเวียงไวโอลินสุดหยาดเยิ้มบาดหัวจิตหัวใจแทรกเข้ามาอีก แล้วในเมื่อส่วนประกอบต่างๆมันยอดเยี่ยมขนาดนี้ จะห้ามใจไม่ให้รักยังไงใหว?
http://www.youtube.com/watch?v=fwaXu0BdvLA11. My Piggish Girl Died Miserably - My Dead Girlfriend
บทเพลงแสนไพเราะจากวงชูเกสพันธุ์แท้แดนปลาดิบ ดนตรีไม่มีอะไรใหม่ แต่เล่นเคารพวงรุ่นเดอะอย่าง My Bloody Valentine และ Slowdive ได้อย่างงดงามหมดจด ด้วยกำแพงกีตาร์ที่ทั้งหนาแน่น ล่องลอย บ้าคลั่ง และรกหูในเวลาเดียวกันแบบที่คอชูเกสคุ้นเคยกันดี กับเสียงร้องลอยละล่องสุดขอบฟ้าที่ตัดกับดนตรีแบบสุดขั้ว เป็นเสน่ห์แสนล้ำเลิศที่คอดนตรีแนวนี้ยากจะปฏิเสธได้ลงคอจริงๆ
http://soundcloud.com/noiseviscerated-lilium/06-my-piggish-girl-died-miserably-112. Two Roses - Matsui Jurina & Matsui Rena (from SKE48)
บอกไว้ก่อนว่านี่คือความคลั่งใคล้ส่วนตัวนะครับ ...คือขบวนการสาวเจป๊อป SKE48 ก็ออกซิงเกิ้ลในปีนี้มาจำนวนหนึ่ง แต่แทรํคที่ประทับใจผมมากที่สุดกลับเป็นเพลงคู่ของสองสาวนามสกุลเดียวกัน (แต่ไม่ได้เป็นญาติกัน) ที่กำลังฮอตเกินหน้าเกินตาเพื่อนๆในกลุ่มในช่วงนี้ และบทเพลงที่เธอทั้งสองได้รับมอบหมายให้ร้องนั้นก็เป็นอีเลกโทรป๊อปที่ยอดเยี่ยมเกินคาด มีการเรียบเรียงดนตรีที่งดงามหรูหราและฟังดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บวกกับเอ็มวีที่ทำออกมาแบบเรียบๆแต่สวยงามน่าชม มันจึงเข้าป้ายเพลงโปรดอันดับหนึ่งประจำแคมป์ SKE48 ประจำปีนี้ของผมแบบนอนมาเลยทีเดียวครับ
http://v.youku.com/v_show/id_XMjE3ODk4ODI0.htmlก็จบแล้วครับ สำหรับลิสต์ของผม ขอบคุณทุกท่านที่คอยตามอ่านตามฟังมาถึงตรงนี้ ...แล้วต่อไปนี้ผมจะเป็นฝ่ายรอติดตามชมลิสต์ของท่านบ้างล่ะครับ
Source:
http://www.facebook.com/photo.php?pid=255231&o=all&op=1&view=all&subj=267068439104&aid=-1&id=100001117803357&oid=267068439104#!/photo.php?fbid=150678334979426&set=t.100001117803357
ไม่ได้เข้ามานานเลยฮะๆๆๆ เพิ่งจะเห็นของ Lilium/Noisy จัดก็ที่นี่แหละ AML ว่างๆ ถึงได้เข้าไปเล่น