ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149733 กระทู้ ใน 4436 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

20 พฤษภาคม 2024 | 10:09:24 AM
หน้า: 1 2 3 [4]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Your Top Albums of 2010??  (อ่าน 30340 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #45 เมื่อ: 08 มกราคม 2011 | 10:06:42 AM »

ก่อนอื่นต้องกราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน ณ ที่นี้ครับ ผมเลือกมาทำท็อปอัลบั้มหลังปีใหม่นี่ก็เพราะว่าก่อนสิ้นปีนี่มีงานอะไรดีๆออกมามากมายเกินรับไหว จนก่อนหน้านี้ทั้งผมกับ Lilium เองก็ได้ลิสต์อัลบั้มที่น่าสนใจประจำปีก่อนออกมาได้เป็นร้อยอัลบั้มทีเดียว ซึ่งถ้าหากใครมีอัลบั้มในดวงใจชุดไหนก็มาแจมกันได้ทุกเมื่อครับ

1. Pain of Salvation – Road Salt One

งานชุดนี้บ้างก็ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับทางวง (เพราะความเคยชินที่ได้ฟังวงนี้เล่นเมทัลมาในชุดก่อนๆ) แต่ผมกลับชอบเอามากๆเลยละ และก็มีหลายๆเพลงที่ทำให้ผมเสียน้ำตาเอาได้ง่ายๆโดยเฉพาะสามแทร็คสุดท้ายของอัลบั้ม และจุดแข็งอีกอย่างของอัลบั้มนี้ก็คือการพาเราย้อนยุคไปราวๆสามสิบเพื่อให้เห็นความรุ่งเรื่องของดนตรีโปรเกรสสีฟร็อค รวมถึงฮาร์ดร็อคในแบบของ Led Zeppelin หรือแม้แต่บลูส์ร็อคก็ยังมี ส่วนน้ำเสียงขอแดเนียลนั้นก็ยังคงหนักแน่นและเน้นโทนอารมณ์ได้ดีเช่นเดิม (หรืออาจจะดีกว่าเดิมเสียอีก) และด้วยความที่ผมชอบอะไรหม่นๆอยู่แล้ว งานชุดนี้จึงอาจจะกลายเป็นงานที่โปรดที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำไปเลยโดยปริยาย

2. Anathema – We’re Here Because We’re Here

การกลับมาของ Anathema ครั้งนี้อาจสร้างความประหลาดใจเล็กน้อยให้กับแฟนเพลงยุคเก่าๆของวง แต่มันก็เป็นนิมิตหมายที่ดี และตอนนี้พวกเขาก็ได้มาอยู่ภายใต้อาณัติของ Kscope อันเป็นสังกัดที่เต็มไปด้วยศิลปินอาร์ตๆเรียบร้อยแล้ว ท่านๆอาจทราบกันนั่นละครับว่างานชุดนี้โปรดิวซ์โดยพี่สตีแว่น วิลสันแห่ง Porcupine Tree ผลที่ออกมาก็คือ งานดนตรีร็อคสไตล์อังกฤษที่ไพเราะและชวนฝันทั้งดนตรีและเนื้อหา ซึ่งผมว่าชุดนี้สามารถเอาไปฟัดกับเหล่าวงบริทป็อปดังๆได้อย่างสบายๆทีเดียว สำหรับผมแล้ว นี่คือหนึ่งในมาสเตอร์พีซของอาร์ตร็อคประจำปี

3. The Ocean – Heliocentric/Anthropocentric

อันนี้ก็ไม่รู้ว่าคิดอย่างไรเหมือนที่ออกสองอัลบั้มมาติดๆกัน แต่พอผมได้เข้าไปดูคอนเซ็ปต์คร่าวๆของสองอัลบั้มนี้แล้วถึงจะเข้าใจ ว่าสองงานนี้ต้องเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Counterpart ของกันและกัน และด้วยความขัดแย้งนี้เองจึงทำให้งานดนตรีของทั้งคู่มีโทนที่แตกต่างกันพอควร อย่างฝั่ง Helio… นี้จะเน้นความละเลียดและหม่นหมองพอควร (สังเกตได้จาก Ptolemy Was Wrong) และ Anthropo… ก็จะเพิ่มดีกรีความหนักหน่วงขึ้นมาหน่อย แถมมีงานโพสร็อคสวยๆอย่างเพลง Wille Zum Untergang มาโชว์อีกด้วย งานทั้งสองชุดนี้มีความหลากหลายและลึกล้ำจนพวกเขาถูกนิยามให้เป็นโปรเกรสสีฟเมทัลไปเรียบร้อยแล้ว (ส่วนเนื้อหาเต็มๆนั้นรออ่านได้จากรีวิวของ Lilium ครับ)

4. Eluvium – Similes/Static Nocturne

ปีนี้ดูศิลปินแต่ละคนจะออกอัลบั้มกันมากกว่าหนึ่งพอสมควรเลย ไม่เว้นแม้แต่นายแมตต์คนนี้ Similes นั้นคืองานโดรนขนาดสั้นที่มีความนุ่มนวลพลิ้วไหวและเหมาะสำหรับการล้างหูยามฟังเพลงหนักๆมามากเลยละ และสามารถฟังได้เรื่อยๆจนจบโดยไม่ต้องมีโฆษณาขั้น (ฮา..) ส่วน Static Nocturne นั้นเป็นอัลบั้มเพลงเดียวที่ยาวเหยียบห้าสิบนาที และห้าสิบนาทีนั้นก็เต็มไปด้วยนอยส์ แต่เป็นนอยส์ลอยๆนุ่มหรือที่เรียกว่า “ไวท์นอยส์” แต่แม้จะเป็นไวท์นอยส์ก็ต้องใช้เวลาตั้งใจฟังกันพอสมควรละ แต่ว่าทั้งสองงานนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

5. Buffalo Daughter – The Weapons of Math Destruction

อีกหนึ่งในแกนนำแห่งสาย Shibuya-Kei ได้กลับมาแล้ว โดยคราวนี้ทั้งสามสาวก็ได้พกความหลากหลายทางดนตรีมาด้วย โดยเฉพาะความหนักแน่นแบบร็อคที่ผสานซาวด์อิเลกโทรนิกที่หลากหลายจนบางเพลงดูป่วงไปเลยก็มี ซึ่งถ้าจะให้นิยามงานของพวกเธอละก็ คงจะเป็นงานร็อคทดลองที่ฟังได้สนุกในหลายๆอารมณ์ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมต้องการซาวด์แบบนี้เพื่อมาแทนที่แนวเมทัลบ้างแล้ว ฉะนั้นงานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งงานโปรดที่หาจับตัวยากอีกชุดหนึ่ง

6. Amia Venera Landscape – The Long Procession

อีกหนึ่งวงม้ามืดที่ Lilium แนะนำมาให้รู้จัก โดยเป็นวงมาจากอิตาลีที่เคยร่วมเวทีกับวงดังๆมาแล้วมากมาย แต่แนวดนตรีของพวกค่อนข้างจะแตกต่างกับวงร่วมเวทีอยู่มากทีเดียว เพราะงานของพวกเขาเป็นโปรเกรสสีฟเมทัล/โพสเมทัลที่ผสมอารมณ์แบบโพสฮาร์ดคอร์ลงไปเล็กน้อย แต่จริงๆพวกเขาไม่ธรรมดาเลยครับเพราะมีมาแทบทุกแนว บทจะโหดก็โหดได้ซับซ้อนเหลือหลาย บทจะลอยก็กลายเป็นแอมเบียนท์ไปเสียจริงๆเลย และแต่ละเพลงในอัลบั้มนี้ก็มีความล้ำลึกอยู่ในอยู่แล้ว ถ้าจะไม่ให้คะแนนเต็มก็ไม่ได้ ว่าไหมละครับ

7. Boom Boom Satellites – To the Loveless

เคยบรรยายไว้ใน Best 12 Songs ของกลุ่ม Allmusiclovers ไว้ได้สักพักหนึ่งแล้วว่าวงนี้เพิ่งจะมาได้ฟังปีนี้เอง แถมซาวด์ก็ดีดดิ้งและโดนใจเข้าจังๆเสียด้วยด้วย และเพลงส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับที่สามารถโยกตามได้ไม่ยากเลย ส่วนที่โดดเด่นของอัลบั้มนั้นก็คือการใช้เสียงกับ Sustain ให้เป็นประโยชน์เพื่อสร้างกำแพงเสียบควบคู่ไปกับเสียงซินธ์ รวมถึงบีทกลองย้ำๆในบางเพลงที่เข้ากับกำแพงเสียงของกีต้าร์กับซินธ์ได้ดีอย่างน่าประหลาด และอย่างที่เคยบรรยายเอาไว้แล้วใน Best 12 Songs ก็คือ งานของพวกเขาจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะฟังภาษาญี่ปุ่นรู้เรื่องหรือไม่ งานชุดนี้ยิ่งฟัง ก็ยิ่งสนุกเพลิดเพลิน

8. Jonsi – Go

หนุ่มเกย์อัจฉริยะแห่ง Sigur Ros ได้ฤกษ์เปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้เขาได้ทำงานแชมเบอร์โดรนคู่กับ Alex Somers แฟนหนุ่มมาได้พักใหญ่ ซึ่งงวดนี้เขาก็ได้แฟนหนุ่มมาช่วยเช่นเดิม รวมถึงซี้ย้ำปึ้กอย่างสี่สาวจาก Amiina ด้วย โดยงานที่ออกมานั้นก็จะเป็นดรีมป็อปที่คึกคักและสดใส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของพ่อหนุ่มคนนี้ไปเสียแล้ง และยิ่งฟังไปเรื่อยก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในวันเดอร์แลนด์เลยละ แต่ช่วงครึ่งหลังๆของอัลบั้มก็มีให้ผ่อนคลายบ้าง สรุปแล้วงานชุดนี้น่าจะเป็นงานที่สว่างสดใสเกินหน้าเกินตาที่สุดแห่งปีก็เป็นได้ (ฮา)

9. Alcest – Ecailles De Lune

งานชุดนี้ท่าน Neige กะทำออกมาฆ่าผมตายหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ โดยเฉพาะกับเพลง Sur L’ocean Couleur de Fer ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ฟังบ่อยมากในปีก่อน พอมาฟังเพลงนี้กับ Tir Nan Og จากชุดก่อนแล้วผมอยากจะตั้งฉายาให้พ่อหนุ่มคนนี้จริงๆว่า “เจ้าพ่อแทร็คสุดท้าย” แต่ว่าเพลงอื่นๆในอัลบั้มนี้ก็ใช่ย่อย เพราะล้วนเป็นชูเกซผสานแบล็คเมทัลที่ให้ความรู้สึกที่จรรโลงโลกมากกว่าที่จะทำลายโสต และก็ดีอย่างที่ชุดนี้เขาไม่ต้องมาเหนื่อยคนเดียวเพราะมี Winterhalter จาก Les Discrets มาช่วยตีกลองให้ด้วย และถ้าจะบอกว่าท่าน Neige ทำ “แบล็คเมทัลที่หวานที่สุดในโลก” ก็ไม่น่าจะผิด (ทั้งๆที่งานของเขาก็เป็นชูเกซละเนอะ)

10. Julie Christmas – The Bad Wife

หลังจากไม่ได้ติดตามข่าวของเจ๊จูลี่สุดที่เลิฟมานาน พอเห็นอัลบั้มใหม่โผล่มาปุ๊บก็เพิ่งจะทราบว่าที่แท้เธอก็ซุ่มทำงานเดี่ยวอยู่นี่เอง ซึ่งด้วยความที่เป็นงานเดี่ยวนี่เอง เธอจึงสามารถใส่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในทุกด้าน ซึ่งภาคดนตรีงวดนี้ก็ได้เพื่อนร่วมก๊วนจาก Made Out of Babies กับ Spylacopa มาร่วมสังคายนาจนออกมาเป็นงานดนตรีที่หนักหน่วงแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่ถี่ยิบจนน่าจะเรียกว่าเป็นโพสเมทัลได้อย่างสบายๆแล้วกระมัง แต่ด้วยอารมณ์เพลงที่หลากหลายในอัลบั้มจึงทำให้เสียงร้องของเธอมีบทบาทมากขึ้น ตั้งแต่ผมได้ฟังชุดนี้มาก็ทำให้ผมรู้สึก “รัก” ดนตรีของเธอมากกว่าเดิมเสียอีก

11. อารักษ์ อมรศุภศิริ – ออโต้อีโรติก

ไปๆมาๆผมกลับรู้สึกชอบคุณเป้ตอนที่ทำงานเดี่ยวนี้มากกว่าตอนที่ออกกับสเลอหลังจากออกงานชุดนี้เสียอีก เพราะเป็นงานที่เขาทำออกมาได้อย่างตรงไปตรงมาและไม่เกรงใจใครดี และงานชุดนี้ก็เป็นการให้โอกาสเขาได้แสดงฝีมือในการเกากีต้าร์พร้อมกับการเป่าฮาร์โมนิกาไปด้วย และงานเพลงแบบเขานั้นเรียบง่ายไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเพราะก็ดูเท่ห์ได้ มันคือความเรียบง่ายที่ลงตัวอีกแบบหนึ่งนั่นเอง

12. Phil_wc – Science Series 1: Quasar

จากงานโดรนชุดแรก [A.M.] เจ้าฟิวทำออกมาได้กดประสาทอยู่พอสมควร แต่มาหลังๆนี่เขาเริ่มหันเหมาหาทิศทางที่นุ่มนวลกว่าเดิม แม้คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นไซไฟ แต่งานก็ไม่ได้ลดทอนความงดงามแต่อย่างใด แถมงานชุดนี้แลจะมีรายละเอียดมากขึ้นอีกด้วย และยังมีความเป็นมินิมัลมากขึ้นตามคอนเซ็ปต์ โดยสามพาร์ตแรกนั้นจะมีเลเยอร์ที่หลากหลายมาก แต่พาร์ตสุดท้ายกลับปิดได้อย่างไพเราะราวกับลุงอีโนมาจุติ โดยได้คุณ Agent Fox Mulder แอดมินจากเว็บ Thaiprog มาร่วมแจมกีต้าร์ (หรืออาจเป็น Lap Steel) ด้วย แต่มีโบนัสแทร็คครับ ซึ่งเขาเอาเพลงที่แสดงสดจากมีตติ้งของสมาชิกเว็บครั้งก่อนมาให้ฟังซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นดาร์คแอมเบียนท์ทีเดียว งานชุดนี้คงจะบอกได้ว่าอนาคตของฟิวยังสามารถไปได้อีกไกลเป็นแน่

13. The Shadow Theory – Behind the Black Veil

วงนี้เป็นวงใหม่ แต่พอมาฟังเข้าจริงๆก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย เพราะแน่นอนว่าสมาชิกวงก็เป็นที่รู้จักกันดีนสาขาโปรเกรสสีฟเมทัลอยู่แล้ว ซึ่งทีแรกทาง Inside Out ก็ปล่อยให้เข้าใจผิดอยู่นานว่าวงนี้เป็นของนายดิเรก เชอริเนียน อดีต Dream Theater แต่มาตอนนี้พอได้เห็นหน้าแล้วก็ถึงบางอ้อโดยเฉพาะพี่เหม่งเดอวอน เกรฟส์ และคริสตอฟเฟอร์ กิลเดนโลว์ ยอดมือเบสที่เป็นน้องชายของแดเนียล ณ Pain of Salvation นั่นเอง และงานชุดนี้ก็มาติดชาร์ตด้วยแม้จะออกมาปลายปี ด้วยความโดดเด่นของดนตรีที่น่าจับตารวมถึงเป็นการผสานเคมีใหม่ทางดนตรีที่ลงตัวโดยแท้จริง

14. Corinne Bailey Rae – The Sea

หลายๆคนอาจจะรู้จักเธอในฐานะสาวอาร์แอนด์บีแนวสดใสจากอัลบั้มแรก แต่ชุดนี้เธอเองแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในชุดนี้ กับภาคดนตรีที่เน้นดนตรีสดล้วนๆ แม้เนื้อหาของเธอจะดูเศร้าสลดกว่าชุดก่อนก็ตาม เพราะเธอได้เสียสามีไปในช่วงที่กำลังทำงานชุดนี้อยู่นั่นเอง แม้เพลงส่วนใหญ่ของเธอจะอยู่ในโทนนี้ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะมีเพลงสนุกๆเอาไว้ให้กำลังใจตัวเองและคนรอบข้างอีกด้วย สรุปแล้ว คอรินน์เป็นนักแต่งเพลงคนหนึ่งที่สามารถหยิบประสบการณ์ชีวิตมาบอกเล่าได้อย่างเข้มข้นและมีความละเอียดอ่อน

15. John Zorn – What Thou Wilt

หลายๆคนอาจจะไม่เชื่อว่าเฮียซอร์นผู้นี้ก็ได้เขียนบทเพลงคลาสสิกเอาไว้ด้วย ซึ่งก็เขียนเอาไว้นานมากแล้ว ตั้งแต่ Tour of the Millenium ซึ่งดูจะหลุดไปจากงานที่ได้ฟังอยู่พอสมควรทีเดียว และงานชิ้นนี้แกก็ทำร่วมกับซิมโฟนี่ออร์เคสตร้าเสียด้วย ทั้งสามเพลงในอัลบั้มล้วนมีความซับซ้อนในทุกๆด้าน แต่ก็ไม่ได้มีความหนักหน่วงมากจนเกินไป จนถึงตอนนี้แล้ว ถ้าจะนับพี่ซอร์นเป็นคีตกวีแห่งศตวรรษที่ 21 ก็น่าจะสมเหตุสมผลแล้ว เพราะแกเป็นยอดในเกือบทุกแนวดนตรีจริงๆ

16. Yazima Beauty Salon - おかゆいところはございませんか?

ผมเคยเห็นชื่อวงนี้อยู่ผ่านๆในห้องเพลงเอเชียของบอร์ดพันทิพย์มาก่อน แต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจจะฟังมากนัก แต่พอได้มาฟังแทร็คแรกแล้วรู้สึกว่า...เฮ่ย...นี่มันผู้หญิงจริงๆหรือ...ทำไมมีแต่เสียงผู้ชายร้องเพลงล่ะ พอได้อ่านประวัติก็ถึงบางอ้อกันเลยทีนี้ ว่าเป็นโปรเจ็คเฉพาะกิจที่ทำกันเป็นเรื่องเป็นราวของสามหนุ่มใหญ่แห่งวงการบันเทิงญี่ปุ่นซึ่งนำโดย ดีเจออซม่า โปรดิวเซอร์รุ่นใหญ่ พ่วงด้วย โนริตาเกะ คินาชิ (หรือโนริมาโร ณ Marvel Super Heroes vs Street Fighters นั่นเอง) และ ทากาอากิ อิชิบาชิ ซึ่งงานของพวกเขาก็จะเป็นวาไรตี้ป็อปที่ออกไปทางย้อนยุคเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ฟังได้สนุกสนานและเพลิดเพลินดี ยิ่งแทร็คแรกๆนี่จะชวนเต้นดิสโก้แบบสาวแตกกันให้ได้เลยละ เรียกว่าน้าๆทั้งสามมากันอย่าง Be Cool จริงๆ

17. Miho Fukuhara – Music is My Life

ถ้าไม่ได้ Lilium แนะนำมานี่ผมอาจจะไม่ได้ฟังเสียงใสๆสวยๆและเข้มข้นของมิโฮะจังคนนี้ก็เป็นได้ เธอคนนี้ต้องเรียกว่านักร้องที่มีพรสวรรค์มากคนหนึ่งทีเดียว เพราะสามารถร้องอาร์แอนด์บีได้เทียบเท่าคนผิวสีเลยทีเดียว (แต่บางช่วงจะออกจะทางคริสติน่า อากิเลร่านิดหน่อย) แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถร้องเสียงใสๆสไตล์เจป็อปได้ด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ อัลบั้มนี้ก็ได้ฉายแววการร้องของเธอได้ชัดเจนมากทีเดียว แต่นอกจากเธอจะโดดเด่นเรื่องการร้องในสองแนวข้างต้นแล้ว อีกแนงที่น่าจับตาไม่น้อยตือ โพสร็อค กับเพลง Apologies ซึ่งได้ Sleepy.ab มาช่วยประสานงานให้ทั้งดนตรีกับร้องดูเอ็ต ซึ่งทางฝั่งนักร้องนำของวงนั้นก็ร้องได้ไพเราะนุ่มนวลเช่นกัน และเพลงนี้เองก็เป็นเพลงโปรดของผมด้วย

18. Kokia – Real World
จริงๆเจ๊คนนี้ก็อยู่ยงคงกระพันในวงการมานานพอสมควรละนะฮะ แต่ผมเพิ่งมารู้จักเอาปีนี้อีกแหละ และชุดนี้เลย ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังกับงานดนตรีที่มีความลุ่มลึกและละเมียดละไม วิธีการร้องเพลงของเธอนั้นอาจจะออกไปทาง Tradiontional นิดๆแต่ก็สามารถผสานภาคดนตรีได้อย่างลงตัวดีมาก และเพลงเอกในใจผมก็มีอยู่สองเพลง คือ Love is Us, Love is Earth ที่เป็นราวกับเพลงนางฟ้าประทานความรักมาให้ และ Dugong no Sora ที่เป็นมีภาคดนตรีที่งดงามและละเมียดละไม และยังใกล้เคียงความเป็นไซเบียนท์อยู่พอสมควรด้วย อัลบั้มนี้คือ Love is First Listen ทั้งอัลบั้มจริงๆครับ

19. Alex Band – We’ve All Been There

อีกหนึ่งเรื่องน่าเซอร์ไพรส์ประจำปีก็เห็นจะเป็นเฮียอเล็กซ์นี่ละครับที่กลับมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยพร้อมกับงานเดี่ยวและสังกัดของตัวเองด้วย นายคนนี้อันที่จริงก็หายไปนานโขอยู่เพราะหมดสัญญากับค่ายใหญ่ไปนานแล้ว ทีนี้เขาก็จำต้องหาสังกัดใหม่เพื่อดูแลด้านการตลาดให้อัลบั้มนี้ละ ในเมื่อเขาออกมาบินเดี่ยวแล้ว เขาก็สามารถทำอะไรได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และสิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนนอกจากความหล่อก็คือเสียงร้องที่สดใสและกังวานมากขึ้น รวมถึงความหลากหลายของการใช้เสียงด้วย แถมในชุดนี้อเล็กซ์จะได้โชว์เสียงสูงๆให้เป็นที่ประจักษ์กันด้วยในบางเพลง เรียกว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าที่เขาที่ผ่านมรสุมมามากมายจริงๆ แม้งานจะไม่ได้เข้าชาร์ตไหนเป็นพิเศษแต่ก็ถือเป็นอีกชุดหนึ่งที่ประทับใจมาก

20. Sade – Soldier of Love

อาเจ๊คนนี้ก็หายไปนานเป็นปีเลยกว่าจะกลับมา ปล่อยให้เพื่อนซี้อย่างเฮียแม็กซ์เวลล์ออกมาก่อนด้วย แต่การที่ทิ้งช่วงไปนานของเจ๊แกนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำเพลง ซึ่งแกก็ทำได้ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และดูเหมือนว่าในชุดนี้แกพยายามจะเน้นความหลากหลายมากขึ้น แต่ก็มีความละเลียดมากขึ้นด้วยเช่นกัน เรื่องคุณภาพระดับเจ๊ชาเดแล้ว แกสามารถทวงบัลลังก์เจ้าแม่นีโอโซลกลับคืนได้อย่างแน่นอน

21. Yuji Ohno & The Lupintic Five & Friends – The Last Job

อัลบั้มนี้ขอยกให้เป็นหนึ่งในความทรงจำในช่วงชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะมันทำให้ผมกลับมาจับแซกโซโฟนอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม เพราะแต่ละเพลงในอัลบั้มนี้ฟังแล้วอยากจะเล่นโซโลตามไปด้วยชะมัดเลย พับผ่าเถอะ อย่างแทร็คแรกนี่ก็เปิดตัวอลังการแบบบิ๊กแบนด์กันทีเดียวแถมเครื่องเป่าแต่ละเครื่องก็โซโลกันดุเดือดและไม่ยอมแพ้กันเลย เพลงเหล่านี้ก็เป็นเพลงที่เอามาจากการ์ตูนรุ่นเก๋าอย่างจอมโจรลูแปง (คออนิเมรุ่นเก่าน่าจะรู้จักกันดีครับ) ถ้าเกิดว่าเอาเพลงราวๆนี้ไปเปิดเรื่องนี่คงจะเท่ห์มาก เพราะบรรยากาศในเรื่องมันให้จริงๆครับ แต่ที่แน่ๆก็ต้องขอบคุณชุดนี้ที่ทำให้ผมกลับมา “แจ๊ส” อีกครั้ง

22. Year of No Light – Ausserwelt

กลับมาคราวนี้พวกเขาเปลี่ยนแนวไปอย่างสิ่นเชิงเลยทีเดียว จากสลัดจ์/โพสเมทัลที่มีเสียงคำราม คราวนี้พวกเขาหันมาบรรเลงเป็นโพสร็อคกึ่งโพสเมทัลยาวๆเต็มเหนี่ยวเลย และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ทำให้ได้เห็นทิศทางใหม่อีกด้วยคือการที่พวกเขาได้สร้างสรรค์เมโลดี้ที่เรียบง่ายแต่ลงตัว สอดประสานผ่านกำแพงเสียงของริฟฟ์ที่หนาแน่น ในขณะเดียวกันกันนั้นเอง พวกเอาก็ดึงเอาอิทธิพลของโดรนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ดีอีกด้วยในหลายๆช่วงของอัลบั้ม สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้นได้ทำให้ผม (รวมทั้ง Lilium) ได้ตั้งฉายาให้อัลบั้มนี้ว่าเป็น Mono แห่งโพสเมทัล ด้วยประการละฉะนี้

23. Envy – Recitation

โพสร็อค/สครีโมรุ่นเก๋าจากแดนอาทิตย์อุทัยกับงานที่เอนไปทางโพสร็อคมากกว่าสครีโมเสียอีก สังเกตได้จากไลน์กีต้าร์ประสานที่ละเลียดและดูหวานหยดย้อยมากขึ้นกว่าชุดก่อนหน้า แต่ก็นั่นละครับ ไลน์กีต้าร์ของพวกเขาในชุดนี้มีความงดงามดุจงานศิลป์ บางช่วงนั้นก็มีการประสานที่ไพเราะและอลังการราวกับมีออร์เคสตร้าเพิ่มมาอีกนับสิบชิ้น ส่วนเมโลดี้นั้นเดิมทีก็มีความไพเราะอยู่แล้วก็เติมความซับซ้อนเข้าไปอีกเสียหน่อยจะเป็นไร แต่จะว่าไป ท่อนที่เป็นสครีโมพวกเขาก็ยังทำได้หนักแน่นเช่นเดิม โดยรวมแล้ว ชุดนี้คือการทดแทนความหนักหน่วงด้วยความละเอียดอ่อนของกีต้าร์แบบโพสร็อคนั่นเอง

24. Loscil – Endless Falls

เท่าที่ได้รู้จักกับนายคนนี้จากอัลบั้ม Plume มา งานเขาในชุดนั้นออกจะเป็นโดรนกึ่งๆ IDM นิดๆ แต่พอมาชุดนี้ เขาเปลี่ยนไปแล้ว แถมเปลี่ยนไปในทางที่ละเมียดละไมกว่าเดิมเสียด้วย โดยงานชุดนี้เขาได้นำเครื่องสายเล็กๆน้อยๆมาประสาน แถมบีทในชุดนี้ก็แลจะลุ่มลึกกว่าชุดก่อนด้วย เรียกว่างานของเขามีการเติบโตขึ้นมากจากชุดก่อนอยู่มากโข

25. Kaipa – In the Wake of Evolution

งานชุดนี้คืองานชุดที่สองของไลน์อัพใหม่ที่ไร้เงาของน้ารอนที่มีพัฒนาการขึ้นในทุกด้าน และนักดนตรีแต่ละคนได้โอกาสแสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะซาวด์กีต้าร์ของ Per (จาก Scar Symmetry) ซึ่งเริ่มจะปรับตัวเข้ากับองต์ประกอบโดยรวมของวงได้แล้ว ทำให้งานมีสุ้มเสียงหนาแน่นและกลับมามีแสงสว่างอีกครั้ง คงต้องบอกได้คำเดียวละครับว่า Kaipa กลับมาแล้ว แม้จะเป็นเหมือนคนละวงกับยุคแรกๆก็ตาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2011 | 11:01:24 PM โดย Fog » บันทึกการเข้า

ShadowServant
Images & Words
****
กระทู้: 631


TROLLKASTEL!


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #46 เมื่อ: 09 มกราคม 2011 | 12:58:08 PM »

ว๊ากๆๆๆๆ เดี๋ยวไว้ว่างแล้วจัดมั่งนะฮะ ฟังไม่เยอะเท่า Lilium กับ Fog นะฮะๆๆๆ
บันทึกการเข้า



กลับมาด้วยความเพี๊ยนกว่าเดิม
ShadowServant
Images & Words
****
กระทู้: 631


TROLLKASTEL!


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #47 เมื่อ: 09 มกราคม 2011 | 01:43:16 PM »

ปอปแมทเทอร์จัดถึง 70 อันดับๆๆๆๆ
http://www.popmatters.com/pm/feature/134604-the-best-70-albums-of-2010/P0

คัดมาแต่ที่น่าสนใจฮะ


65
The Radio Dept.
Clinging to a Scheme


63
Agalloch
Marrow of the Spirits


57
Los Campesinos!
Romance Is Boring


53
Belle and Sebastian
Belle and Sebastian Write About Love


49
Owen Pallett
Heartland


42
Midlake
The Courage of Others


40
Vampire Weekend
Contra


31
Neil Young
Le Noise


24
Grinderman
Grinderman 2


13
Joanna Newsom
Have One on Me


12
Deerhunter
Halcyon Digest


5
Arcade Fire
The Suburbs


2
The National
High Violet
บันทึกการเข้า



กลับมาด้วยความเพี๊ยนกว่าเดิม
Shaman
Wish You Were Here
*****
กระทู้: 943


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 10 มกราคม 2011 | 05:53:32 PM »

จำไม่ได้ว่า งานในปี 2010 ฟังอะไรไปบ้่าง ที่นึกออกตอนนี้และฟังบ่อยๆ ก็มี
Accept - Blood Of The Nations
Rotting Christ - Aeolo
Watain - Lawless Darkness
Iron Maiden - The Final Frontier
Megadeth - Rust In Peace Live
Over Kill - Iron Bound

++ Asphyx - Death The Brutal Way
++ Necrophobic - Death To All

อันนี้ออกปี 2009 แต่เพิ่งได้ฟังปี 2010 ฮ่าๆ
บันทึกการเข้า
喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2011 | 03:29:43 PM »

เพลงยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคม ปี 2011 ผมขอเลือก Destroyer - Kaputt  ส่วนอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคมขอยกให้ Falkenbach - Tiurida .


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Pf-ONpLXzGs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Pf-ONpLXzGs</a>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 มีนาคม 2011 | 09:57:50 PM โดย B ? e m ? s h » บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2011 | 05:14:52 PM »

Chief - Modern Rituals อัลบั้มเยี่ยมจากปี 2010 ที่ผมเพิ่มได้ฟัง และติดใจในเวลาอันรวดเร็ว เยี่ยมทุกเพลง.

   
บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2011 | 12:26:54 AM »

มาอัพเดท ขอเพิ่มอีกหนึ่ง กับ Beach House - Teen Dream (2010) ถูกจริต ถูกจิต ถูกใจ แหล่ม แจ่ม แจ๋ว สุโก่ยย ฯ

บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 08 มีนาคม 2011 | 10:46:18 PM »

เพลงยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภา - มีนา ของผมครับ ยกให้เพลง Blue Skies ของ Noah And The Whale [The First Days Of Spring]
ออกปี 2009 แต่ผมเพิ่งได้ฟัง ชอบครับ ฯ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=HoXX8TJGR8U" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=HoXX8TJGR8U</a>
บันทึกการเข้า

.. polotoon ..
The Snow Goose
**********
กระทู้: 18602



ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 09 มีนาคม 2011 | 07:37:55 PM »

เพลงนี้ น่ารัก เพราะดีครับ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

喜 ? 多 ? 郎
Tubular Bells
****
กระทู้: 883



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 08 เมษายน 2011 | 08:39:06 AM »

Casiokids - Topp Stemning Pe Lokal Bar ขอมาเพิ่มอีก 1 ชุดครับ สำหรับปี 2010 ฯ

บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery