ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
การค้นหาขั้นสูง

149687 กระทู้ ใน 4435 หัวข้อ- โดย 847 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: axlrose

05 พฤษภาคม 2024 | 11:09:56 AM
Thai Progressive Rock CommunityThaiProgOutside The WallBABYMETAL (CD+DVD) Unbox และ Review
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: BABYMETAL (CD+DVD) Unbox และ Review  (อ่าน 5924 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Mad..
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 184



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2014 | 12:11:04 PM »

หายหัวไปแล้วก็ไม่ได้เข้าเว็ปนี้นานเลย (ประเด็นคือจำ Password ไม่ได้) แต่ในที่สุดก็เข้าได้สักที

ที่มาวันนี้ไม่ใช่อะไร  เพราะมีอัลบัมแปลกๆอัลบัมนึงมารีวิวให้อ่านกันครับ ผมไม่ใช่คนที่รอบรู้แนวเพลงอะไรมากมาย  เลยเขียนเท่าที่ตัวเองรู้สึกได้  เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็บอกกันได้ครับ  ไม่ว่ากันๆ  ยิ้มเท่ห์




(ปกสวยกว่าแบบธรรมดามากๆ)

Unbox
[Spoiler]

[Spoiler]แผ่นพับ โปสเตอร์



CD BOOKLET (ภาพสวยอ่ะ ชอบๆ)











[/Spoiler][/Spoiler]

Review
Intro (ถ้าขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปได้นะ)

[Spoiler]

หนึ่งในกลุ่มไอดอลที่กำลังกลายเป็น Talk of The Town ในตอนนี้ (หรือจริงๆจะเรียก Talk of the world ก็ได้) เริ่มจากมิวสิควีดิโอ Gimme Chocco ที่ตอนนี้ทะลุ 8 ล้านวิวไปเรียบร้อยแล้ว อาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นปรากฎการณ์ก็คือ  การที่วีดิโอนี้ถูกแชร์ด้วยกลุ่มศิลปินและนักดนตรีระดับโลกหลายคนอย่างพีท เวยน์ มือเบสของวง fall out boy แล้วก็ ชาร์ลีน แมนสัน นักร้องสาวสุดเท่ห์แห่งวง Garbage ที่ให้คอมเมนต์ประกอบด้วยว่า 'Pure sick genius weirdness' (แปลประมาณว่า เพี้ยนหลุดโลก แต่ในแง่ของคำชมนะ) หรือแม้กระทั่ง มาตีร์ ฟรายด์แมน อดีตมือกีตาร์วง Megadeth ยังโฟสต์ลงในเฟสส่วนตัวเกี่ยวกับวงไอดอลกลุ่มนี้ด้วย  ด้วยหลายปากเล่าขานของเหล่าศิลปิน ทำให้ชื่อของกิ BABYMETAL ได้ซึมเข้าไปในฐานแฟนเพลงของศิลปินเหล่านั้น และทำให้เกิดความกระตือรือล้นอยากค้นหาว่าไอ้ Babymetal เนี่ยมันใครกัน ทำให้ถึงทำให้ศิลปินเหล่านั้นถึงกับอดไม่ได้ต้องเอามาเขียนมาแชร์ในเฟสหรือทวิสเตอร์ส่วนตัวแบบนี้  

และนั่นที่ทำให้ Babymetal กลายเป็นระเบิดลูกหนึ่งที่ถล่มใส่พวกเขาจนกระจุย  

ด้วยเสียงกีตาร์ที่สาดคิลเล่อร์ริฟท์ โซโล่กระจาย เสียงกลองสองกระเดื่องกระแทกจุกออก พังค์ ดี-บีท (จังหวะดนตรีแบบหนึ่งที่มักเล่นกันในวง Hardcore พังค์) โพสต์ฮาร์ดคอร์ อีโม-สครีมโม ดับสเต็ป อิเล็กโทรนิก้า ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องยำประกอบอาหารจานหลักนั่นคือ "ไอดอลป๊อบ" อันน่ารักสดใสประหนึ่งลูกอมแคนดี้ การผสมผสานนี้กลายเป็นรสชาติสุดประหลาดที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ง่ายๆอีกแล้ว

Babymetal เริ่มต้นในปี 2010 จากการเป็นเพียงยูนิตย่อยของซากุระกาคุอิน กลุ่มไอดอลซึ่งใช้ธีมของนักเรียนหญิงมัธยมต้นเป็นธีมหลักของกลุ่ม ซึ่งการที่ Babymetal เกิดขึ้นก็มาจากกิจกรรมโปรโมตอย่างหนึ่งของกลุ่ม นั่นคือการให้สมาชิกในวงสร้าง กลุ่มย่อย หรือ ชมรม ขึ้นมาแล้วทำกิจกรรมนั่นก็คือการร้องและเต้นเพลงของชมรม โดย Babymetal ในตอนนั้นก็คือกลุ่มของชมรม จูอนบุ (ชมรมดนตรีหนัก ตรงข้ามกับ เคอนบุ ที่เป็นดนตรีเบาๆ) ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คนคือ Suzuka Nakamoto, Moa Kikuchi และ Yui Mizuno  โดยการทำกิจกรรมครั้งนั้นทำให้เกิดเป็นเพลง "Doki Doki Morning" อันถือเป็นซิงเกิลเปิดตัวด้วย ซึ่งแม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างอะไรนัก แต่ด้วยความแปลกของดนตรีที่มีการนำริฟฟ์สากๆกับบีทกลองสองกระเดื่องเข้ามาประสานกับเพลงป็อปน่ารักๆกับท่าเต้นโยกหัวมันๆ  ทำให้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรตกค้างอยู่ในใจและทำให้ชื่อของ BABYMETAL เริ่มมีการพูดถึงกันมากขึ้น  

อีกทั้งหลังจากนั้น กลับกลายเป็นว่าซิงเกิลต่อๆมาของพวกเธอ "Babymetal x Kiba of Akiba" , "Headbangeeeeerrrrr!!!!!" และเมเจอร์ซิงเกิลแรก "Ijime, Dame, Zettai" นั้นสามารถทำอันดับได้สูงยิ่งกว่าซิงเกิลของวงแม่อย่าง ซากุระกาคุอิน เสียอีก ซ้ำเมื่ออัลบัมแสดงสดของพวกเธอ Live: Legend I, D, Z Apocalypse นั้นทำยอดขายได้ถึงอันดับ 7 ใน Oricon Weekly Blu-ray Disc Chart , ในที่สุดแล้ว BABYMETAL จึงถูกผลักดันจากซับยูนิตจนกลายเป็นวงหลักเต็มตัว  ซึ่งพวกเธอก็ตอกย้ำความสำเร็จด้วยซิงเกิลเมเจอร์ที่สองอย่าง "Megitsune" ที่ขึ้นถึงอันดับ 7 ใน  Oricon Weekly Single Chart ในสัปดาห์แรก


Loud Park Line Up 2013


วง Metallica มาดูพวกเธอแสดงที่เวที

ไม่เพียงความสำเร็จด้านยอดขายอัลบัมเท่านั้น Babymetal ยังสร้างชื่อในฐานะวงแสดงสดอีกด้วย  หลังจากที่ได้กลายเป็นวงหลักเต็มตัว การแสดงของพวกเธอก็เปลี่ยนจากการที่จะร้องและเต้นตาม Backing Track เหมือนวงไอดอลทั่วไปเป็นการเล่นกับวงดนตรีจริงๆ ไม่เพียงเท่านั้น พวกเธอยังได้ทำสิ่งที่เรียกว่าแปลกประหลาดมากสำหรับการเป็นวงไอดอล นั่นคือการตระเวนทัวร์ตามคลับและไลฟ์เฮาส์ร่วมกับวงร็อคอย่าง TM Revolution และ SUG , จากนั้นก็เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลดนตรีร็อคอย่าง Inazuma Rock Fest 2013 และเทศกาลระดับโลกอย่าง Summer Sonic 2013 ทั้งที่ Tokyo และ Osaka (ซึ่งในเวทีที่โอซาก้า  สมาชิกของวง Metallica ได้มาดูพวกเธอกับวงเล่นด้วย โดยที่พวกเธอไม่รู้เลยว่าพวกเขาเป็นใคร) และปิดท้ายด้วยการทำให้ทุกคนต้องตะลึงแบบตาค้างด้วยการเข้าร่วมเทศกาลดนตรีเมทั่ลระดับโลกของญี่ปุ่น Loud Park 2013 ซึ่งในการเล่นในเทศกาลร็อค-เมทั่ลมากมายนั้นเองที่ทำให้พวกเธอไม่เพียงกลายเป็นวงไอดอลที่อายุน้อยที่สุดที่ขึ้นเล่นกับวงร็อค-เมทั่ลเท่านั้น  แต่ยังทำให้ผู้คนจดจำพวกเธอได้ในฐานะวงดนตรีไอดอลวงแรก (และอาจจะวงเดียวในโลก) ที่เล่นคอร์นเสิร์ตแล้วมีมอชพิซชนิดที่วงร็อคหลายวงยังต้องอายกันเลยทีเดียว


อันดับหนึ่งในชาร์ตเมทั่ล (WTF!?)

ด้วยความแรงแบบฉุดไม่อยู่นี้เองที่ ทำให้หลังจากสองซิงเกิลเมเจอร์ แล้วก็มิวสิควีดิโอ Gimme Chocco ที่กำลังดัง  แทนที่จะปล่อยซิงเกิลใหม่ พวกเธอกลับปล่อยเป็นอัลบัมเต็ม BABYMETAL ออกมาแทน  และอัลบัมนี้เองที่ได้สร้างปรากฎการณ์ BABYMETAL DESU ขึ้นมา  เพราะไม่เพียงจะเป็นอัลบัมที่ขึ้นอันดับต้นๆในบ้านเกิดแล้ว   อัลบัมนี้ยังขึ้นติด TOP 200 ใน Billboard ชาร์ต US อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ  ใน iTunes Heavy Metal chart ของ US, UK and CANADA อัลบัมนี้ยังเคยขึ้นถึงอันดับหนึ่งอีกด้วย จนทำให้เหล่าเมทั่ลเฮดต่างงุนงงกันเป็นการใหญ่ว่านี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นในโลกกันแน่ (วะ)  เรียกได้ว่าแรงจนกลายเป็นพายุเลยทีเดียว  และยิ่งแรงขึ้นไปอีกเมื่อพวกเธอได้กลายเป็นวงที่อายุน้อยที่สุดที่ขึ้นแสดงที่ Bodukan เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา  ตามด้วยประกาศ World Tour ซึ่งพวกเธอกลายเป็นหนึ่งในวงของเวทีหลักของเทศกาลดนตรีร็อคอังกฤษ SONISPHERE ตามด้วยการไปเล่นที่ Electric Ballroom ในลอนดอนซึ่งบัตร Sold Out ในเวลาไม่ถึง 24 ชม. ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าตอนนี้พวกเธอไปไกลเกินกว่าคำว่า "วงไอดอลธรรมดาๆ" ไปไกลโขหลายปีแสงแล้ว (และคิดว่าจากนี้ พวกน้องคงไม่มีทางกลับไปเป็นไอดอลธรรมดาได้อีกแล้วล่ะ)

[/Spoiler]

Album Review

เอาสั้นๆสำหรับคนที่ขี้เกียจอ่าน เป็นอัลบัมของกลุ่มไอดอลที่ โหด-มันส์-ฮา แล้วก็คาวาอี้เป็นที่สุด เหมาะสำหรับการเปิดฟังตอนเช้าก่อนไปทำงานอย่างหรือฟังในรถอย่างมาก 555+

ฉบับเต็มสำหรับคนขยัน

[Spoiler]Back Ground Album  

ก่อนจะมาพูดถึงตัวอัลบัม  ขอพูดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังอัลบัมนี่้กันก่อนว่ามีใครบ้างที่น่าสนใจ

KOBAMETAL โปรดิวเซอร์ของวง  ผู้ผลักดันให้เกิด BABYMETAL ตั้งแต่ที่เป็นยังเป็นแค่ยูนิตย่อยของซากุระกาคุอินเลยทีเดียว  ด้วยความที่เป็นเมทั่ลเฮดเต็มตัวแต่ดันทำงานอยู่กับเอเจนซี่ของวงไอดอล (เหลือเชื่อ) ทำให้เขาเกิดดำริ (หรืออุตริ) อยากเอาความเป็นเมทั่ลของตัวเองมาใช้กับวงไอดอลในนิยามของ เมทั่ลกำเนิดใหม่ อันเป็นที่มีของคำว่า BABY ใน BABYMETAL นั่นเอง (ถ้าใครซื้อซีดีชุดนี้จาก HMV จะมีโปสเตอร์ของวงแถมให้ ซึ่งในหน้าหลังของโปสเตอร์นี้จะมีวงที่โปรดิวเซอร์คนนี้บอกว่ามีอิทธิพลต่อตัวเอง 50 อัลบัม มีตั้งแต่เฮฟวี่ธรรมดายันเดธเมทั่ลเลยทีเดียว)

Narasaki แห่งวงแนว shoegaze metal Coaltar Of The Deepers. ซึ่งเขาคนนี้เองก็เป็นเมทั่ลเฮดอีกคน  แต่ BABYMETAL นั้นไม่ใช่วงแรกที่เขาทำงานด้วย ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานร่วมกับวงไอดอลมาแล้วคือ  Momoiro Clover Z ในเพลง “Pinky Jones”, “Kuroi Shuumatsu”, และ “Birth O Birth”.  
 
Yuyoyuppe สุดยอดโปรดิวเซอร์อีกคนสำหรับขา Vocaloid น่าจะรู้จักกันดีในฐานะผู้ใช้ Megurine Luka ที่โด่งดังที่สุด  เขาเป็นอีกคนที่มีความชื่นชอบในดนตรีร็อคและเมทั่ล และเพลงที่เขาแต่งให้กับ BABYMETAL อย่าง "Rondo of Nightmare" ( Akumu no Rondo) ก็ถือเป็นหนึ่งเพลงที่หนักและมืดมนที่สุดของอัลบัมอีกด้วย

Takeshi Ueda สมาชิกของอดีตวงอิเล็กโทรนิคร็อค/พังค์ Mad Capsule Markets ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังเพลงดัง Gimme Chocco ซึ่งก็เป็นเพลงสไตล์เดียวกันกับวง Mad Capsule Markets ของเขา

Norimetal หรือ Norizo จากวง Dugout ซึ่งก็เป็นอีกคนดังจากสาย  Vocaloid ซึ่งเขาคนนี้เองที่เขียนเพลง Migitsune ที่หลายๆคนชื่นชอบ

Tatsuo จากวง  Everset ซึ่งเป็นคนในสาย Visual Kei / J-Rock เป็นคนที่เขียนเพลง "Headbanger” และ “Ijime, Dame, Zettai" ซึ่งมีอิทธิพลของวงแนว Visual Kei / J-Rock อย่างมาก

Track by Track Review Mad..
 
ก่อนอื่นสำหรับใครที่จะอ่านรีวิวนี้  ขอให้ลบความคิดที่ว่านี่เป็น "อัลบัมเพลงเมทั่ล" ออกไปก่อน (ไม่ว่าจะเป็น เฮฟวี่ หรือ คาวาอี้ เมทั่ลก็ตาม) เพราะถ้าคุณอ่านรีวิวหรือฟังอัลบัมนั้นด้วยความคิดดังกล่าว  คุณจะรู้สึกว่ามันขัดใจไปหมดและจะเกลียดอัลบัมนี้ แต่ถ้าคุณกำลังหาอัลบัมป็อปลูกผสมแหวกๆไว้ฟัง (และรับได้หรือไม่แคร์กับการที่จะมีเสียงร้องงุ้งๆงิ้งๆแทรกเกือบตลอดอัลบัม) ละก็เข้ามาได้เลย  นี่เป็นอัลบัมที่มีไว้เพื่อการนั้นแท้ๆเลย

1) Babymetal Death
เปิดอัลบัมอย่างอลังการณ์และโคตรฮึกเหิมโดยฝีมือของ Yuyoyuppe กับแธรช/โกเธนเบิร์กเมโลดิกเดธเมทั่ลที่ปั่นคิลเล่อร์ริฟฟ์กันคอหัก  ตามบลาสบีทกับท่อนโซโลสุดจี้ด  ประสานกับเนื้อร้องที่ร้องว่า DES! ที่ฟังแล้วคล้ายกับ Death!ที่ทำให้นึกถึงโคตรวงเมโลดิกเดธ Inflame สุดๆ  ถ้าจะหาเพลงสักเพลงในอัลบัมนี้ให้เหล่าเมทั่ลเฮดฟัง  นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดและเป็นเพลงธีมที่สามารถนำไปเปิดในงานคอร์นเสิร์ตเมทั่ลได้ๆ  โดยเฉพาะถ้าใครมีวงแล้วอยากหาเพลงสักเพลงไว้วอร์มเครื่องดนดูละก็  แกะเพลงนี้ไปเล่นได้เลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

2) Megitsune
เมทั่ลร็อคผสมดนตรีพื้นบ้านญี่ปุ่นที่ชวนให้นึกวงรุ่นพี่ร่วมบ้านอย่าง Onmyouza มากๆ  เริ่มต้นเป็นเพลงด้วยจังหวะสุดโจ๊ะกับเสียงร้องของสองสาวน้อยที่จะชวนให้คุณลุกขึ้นมากระโดดกันสนุกสนาน  ตามด้วยท่อนฮุคที่ยังไงก็โดนแน่ๆถ้าคุณชอบเพลง J-Rock เสียงร้องของ SU ฉายแววความเป็นร็อคเกอร์เล็กๆให้เห็นและทำให้เราต้องจับตามองเธออย่างไม่คลาดสายตา  กลางเพลงชะลอจังหวะลงเล็กน้อยและใส่อินเฮลวอยซ์เข้าไป (Inhale Voice : เสียงร้องแบบสูดลมเข้าที่จะให้เสียงต่ำ  นิยมใช้กันในวงดนตรีแนวเดธเมทั่ล) ประสานกับเสียงร้องลอยๆ  ก่อนจะตบท้ายด้วยการกระโดดยับและเร่งสปีดหนีตายกันจนจบเพลง  สำหรับคอ J-Rock เพลงนี้คือเพลงที่คุณไม่ควรพลาดเลย

3) Gimme Chocco
เพลงที่ทำให้ชื่อของ BABYMETAL เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก  กับดนตรีอิเล็กโทนิก้าพังค์ร็อคแรงๆที่ฟังยังไงก็ The Mad Capsule Markets ชัดๆ  (ไม่เชื่อลองเอาเพลงนี้ไปเปิดต่อกับเพลง Good Girl ของวงนี้ดูสิ เข้ากันเป๊ะเลยล่ะ)  แต่ถึงอย่างนั้น  ด้วยท่อนฮุคน่ารักๆและติดหูชนิดที่ฟังครั้งเดียวก็ร้องตามได้ (และแน่นอน ท่าเต้นด้วย)  ทำให้ไม่แปลกเลยที่เพลงนี้จะกลายเป็นเพลงดังที่สุดของพวกเธอ

4) Iine!
หลังจากอัดมันส์กับเพลงร็อคมาสามเพลง  ก็ถึงเวลากับขาแดนซ์บ้างแล้วกับอิเล็กโทรนิก้าดับสเต็ปที่ตื้ดกันสุดๆ  ชนิดที่ถ้าเอาไปรีมิกซ์ (หรือไม่ต้องก็ได้) แล้วละก็สามารถเอาไปเปิดในผับย่านรัชดาได้เลย  ทว่าก่อนที่เราจะรู้สึกเพลงนี้มันง่ายๆและจะแหวกอารมณ์สามเพลงที่ผ่านมาเกินไป  หลังจากท่อนแร็ปที่ฟังดูแล้วง้องแง้งไปหน่อย (ตอนเล่นสด  ท่อนจะเปลี่ยนเป็นการเรียกเสียงจากคนดูให้ร้อง WOW แทน ซึ่งส่วนดูคิดว่าดีแล้ว) ก็จะมาถึงท่อนเบรคดาวน์เคารพเทพจิ้งจอกในแบบฉบับโพสต์ฮาร์ดคอร์ ตามด้วยเสียง ว๊าก! ของ SU ที่จะนำคุณกลับไปแดนซ์กันอีกครั้งจนจบเพลง  โดยส่วนตัว แทร็กนี้เจ๋งมากในแง่ความลงตัวการผสานดนตรี 2 แนวที่น่าจะเข้ากันไม่ได้ให้เข้ากันได้ (แต่ยังไงก็เสียตรงท่อนแร็ปนั่นอยู่ดี) ถ้าใครฟังเพลงนี้แล้วชอบและอยากเพลงแนวนี้มาฟังอีก  แนะนำให้หางานของวง Enter Shikari , Blue Stahli หรือ Cellwelder มาฟังได้เลย แนวเดียวกัน

5) Akatsuki
เพลงเดี่ยวเพลงแรกของ SU ซึ่งไม่ว่าจะมองยังไง นี่คือเพลง Tribute แด่ X-Japan ทั้งดนตรีและเนื้อหา เพลงๆนี้แทบจะเป็นภาคต่อของเพลง Kurenai ได้เลยทีเดียว  และเป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นแววความเป็นร็อคของ SU เสียงร้องของเธออาจะไม่ทรงพลังมากแต่ก็รู้สึกได้ว่ามี Vibrato เล็กๆอยู่  ถ้าจับไปเทรนด์เพิ่มเติม  เธอคนนี้สามารถเป็นร็อคเกอร์ได้เลย

6) Doki Doki Morning
เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่มีความสำคัญมาก เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของ BABYMETAL เมนหลักๆของเพลงนั้นยังเป็นไอดอลป็อบใสๆแบบเดียวกับวงไอดอลป็อบหลายพันวงทั่วญี่ปุ่น แต่กระนั้น  ด้วยความแปลกของการนำริฟฟ์กีตาร์สากๆกับกลองเบิ้ลกระเดื่องมันๆเข้าไปก็ทำให้เพลงนี้สะดุดหูอย่างมาก  แน่นอน  รวมถึงท่อนฮุคที่ร้องว่า RIN RIN RIN ที่ชวนให้อมยิ้มสุดๆนั่นด้วย  แต่กระนั้น การที่เพลงนี้ถูกวางต่อจากเพลงเยี่ยมๆอย่าง  Akatsuki ก็ทำให้เพลงนี้ฟังดูแล้วอ่อนด้อยไปมาก  ซึ่งอันนี้ต้องโทษคนวางเพลงล่ะ

7) Onedari Daisakusen
เพลงดูอัลของสองสาวน้อย YUI กับ MOA สำหรับคนที่อ่านผ่านมา 6 เพลงแล้วคิดว่าผมเขียนรีวิวนี้เพื่ออวยอัลบัมของน้องๆเขา  ขอบอกเลยนะว่าไม่ใช่  ผมมีเพลงที่ไม่ชอบอยู่เหมือนกัน  และที่สุดของความไม่ชอบในอัลบัมนี้ก็คือเพลงนี้  กับดนตรี Nu-Metal ที่ฟังยังไงก็ Limp Bizkit ชัดๆ (โดนเฉพาะท่อน โว้ว ตอนกลางเพลงนี่แหละ ชัดเจนเลย) มันโคตรจะไม่เข้ากันเลยกับเสียงร้องแร็ปแบบเด็กๆของน้องทั้งสองคน ยิ่งในแสดงสดยิ่งไม่ชอบเลยกับท่าเต้นแบบเพลง Rolling ที่ให้น้องๆเขาเต้น  สำหรับผม นี่คือเพลงที่เป็นจุดบอดของอัลบัมที่หากไม่มีอารมณ์จริงๆ  ผมกดข้ามตลอด

8 ) 4 no Uta
ดูเอลเพลงที่สองของสาวน้อย YUI กับ MOA ซึ่งต่างจากเพลงที่แล้วราวกับฟ้ากับเหว  เพราะมันเข้าท่ากว่ามากๆ  ไม่ใช่แค่ดนตรีที่เป็นแธรชเมทั่ลมันๆเท่านั้น  แต่เสียงร้องของน้องๆยังฟังดูแล้วเป็นธรรมชาติกว่าใน Onedari Daisakusen มากเลย และที่สำคัญถ้าใครถามว่าไอ้เนื้อเพลงเด็กๆที่มีแค่นับเลขวนไปวนมานี่ใครแต่ง  ก็น้องสองคนนี้เองแหละครับ รวมถึงเมนพาร์ทของเพลงเองก็เอามาจากจังหวะที่ทั้งสองคนใช้ปรบมือเวลาที่ร้องเพลงนี้ด้วย (ทั้งสองคนแต่งเพลงนี้ตอนไปเล่นสิงค์โปร์) ท่อนกลางเพลงแทรกด้วยเรกเก้เบาๆสองท่อนก่อนจะอัดกลับแธรชเมทั่ลปิดท้ายอีกครั้งกับเสียงหัวเราะที่ฟังดูแล้วหลอนอย่างไม่น่าเชื่อ  สรุปง่ายๆสำหรับเพลงนี้  มันคือ Metallica version ลูกกรอกดีๆนี่เอง

9) Uki Uki Midnight
เพลงที่เป็นเหมือนภาคต่อของ Doki Doki Morning (ต่อจากกลางวันก็ต้องเป็นกลางคืนละนะ) และเป็นอีกเพลงที่เป็นดับเสต็ปบีทสไตล์ Skillex ผสมโพสต์ฮาร์ดคอร์ แม้จะไม่ตื้ดเท่า Iine! แต่ก็เป็นอีกเพลงที่ทั้งดิ้นทั้งโยกได้สบายๆ และเหมือนเดิม ถ้าชอบเพลงนี้ ก็หาวงที่เขียนไว้ในเพลง Iine! มาฟังต่อได้เลยเช่นกัน

10) Catch Me If You Can
เพลงเล่นวิ่งไล่จับที่พอมาประสานเข้ากับดนตรีอิเล็กโทนิก้าพังค์/เรฟแรงๆแล้วฟังดูหลอนได้ไม่น้อยเลย  แต่ก่อนจะหลอนเกินไป  ท่อนฮุกน่ารักๆก็จะช่วยเหลือเราให้สนุกสนานเพลิดเพลินกับมันได้ (รวมถึงท่าเต้นที่น่าเต้นตามสุดๆ) เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการผสมดนตรีสองแนวเข้าด้วยกันอย่างลงตัว  โดยส่วนตัว  จะสนุกมาเลยถ้าเอาเพลงนี้ไปเล่นวนคู่กับ Run With Wove ของ The Prodigy (หมาป่าวิ่งไล่ หนูน้อยวิ่งหนี 555+)

11) Akumu no Rondo
หลังจากผ่านมาค่อนอัลบัมที่คงทำให้ขาแดนซ์สนุกแต่ขาร็อคอาจจะเริ่มเบื่อๆกันแล้ว ก็มาถึงเพลงที่ดาร์คที่สุดของอัลบัมโดยฝีมือของ  Yuyoyuppe เริ่มด้วยกระเดื่องกับริฟฟ์ที่กระแทกจนฝาบ้านสะเทือนแต่กลับมีบีทที่ช้ามาก (เมืองนอกเขาเรียกดนตรีแนวนี้ว่า เจน (Djen)) ประสานกับเสียงเปียโนหวานปนหลอนที่ทำให้เพลงนี้ฟังแล้วเหมือนอยู่ในโบสถ์ร้างหรือป่าช้า  และที่สำคัญที่สุด  เสียงร้องของ SU ในเพลงนี้จัดว่าเยี่ยมที่สุดในอัลบัม  โดยเฉพาะในท่อนฮุกกึ่งบัลลาดที่จะพาให้วิญญาณหลุดจากร่างลอยล่องเข้าไปในป่าอันเย็นเยียบ   และยังชวนให้นึกว่าถ้าเพลงนี้มี KYO จาก  Dir En Grey มาว๊ากด้วยละก็  คงกลายเป็นเพลงป่าช้าแตกได้เลยล่ะ สำหรับผม เพลงนี้เยี่ยมสุดๆและกลายเป็นเพลงที่มีข้อเสียสุดๆเช่นกัน นั่นคือมันสั้นไป (ไม่ถึง 4 นาที) ลำบากที่จะต้องกดวนแทร็กกลับฟังอีกรอบ

ถ้า Fatal Frame ออกภาคใหม่แล้วอยากได้เพลงประกอบละก็  นี่แหละเพลงที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

12) Head Bangya!!
ซิงเกิลที่สองกับดนตรีแบบเมทั่ลร็อคที่ชวนโดดและเต้น โดยเฉพาะท่าเต้น Headbanger ที่เรียกว่าใครทำตามได้ตลอดเพลงนี่นับถือเลย  (โยกคอออกข้างไม่พอ  ยังต้องกระโดดด้วยอีก) กลางเพลงก็มาชาบูเทพกันอีกรอบด้วยเบรคดาวน์สนุกๆชวนโยกหัว สรุปก็คือเป็นเพลงมันส์ๆอีกเพลงครับ

13) Ijime Dame Zettai
แล้วก็มาถึงเพลงปิดอัลบัมซึ่งถ้าเคยได้อ่านสัมภาษณ์ของน้องๆจะรู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่น้องๆเขาคิดว่าดีที่สุดของตัวเอง  กับดนตรีสปีดเมทั่ลสไตล์ X-JAPAN ผสม Dragonforce ซึ่งในคอร์นเสิร์ต  หลังจากท่อนเริ่ม กลายเป็นข้อตกลงกันในหมู่แฟนเพลงไปแล้วว่า เมื่อ SU ร้อง AHH! ขึ้นนำดนตรีเมื่อไร นั่นจะเป็นสัญญาณของการทำ Wall of Death และ Mostpit ของเพลง  เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เป็นเมทั่ลเพียวๆที่น่าจะเหมาะกับชาวร็อคได้ไม่ยาก

DVD
ประกอบด้วยมิวสิควีดิโอทั้ง 5 เพลง พร้อมคอมเมนต์ของน้องๆ (น่ารักอ่ะ) แล้วก็ Live จากเทศกาลดนตรี Summer Sonic ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่า BABYMETAL เล่นไลฟ์ได้มันขนาดไหน  ก็ดูได้จากตรงนี้แหละ

โดยสรุปหลังจากที่ฟังอัลบัมนี้มาเกือบเดือน อัลบัมนี้เป็นอัลบัมป๊อบลูกผสมที่เข้าท่าดีทีเดียว ผมฟังแล้วนึกไปถึงวงรุ่นพี่ร่วมชาติของน้องๆอย่าง Orange Range, High and Mighty Color แล้วก็ Maximum The Hormone ที่ทำดนตรีลูกผสมเหมือนกัน เป็นอัลบัมนำดนตรีสารพัดชนิด (โดยเฉพาะสายหนักๆอย่างร็อคหรือเมทั่ล) มารวมเข้ากันเพลงป็อบไอดอลได้เข้ากันอย่างมาก  แม้จะไม่ถึงกับเข้าได้หมดเป๊ะ แต่ก็ไม่ประดักประเดิกอีหลักอีเหลิกจนทนฟังไม่ได้ กลับกัน มันกลับเป็นอัลบัมที่ฟังลื่นอย่างเหลือเชื่อ อีกทั้งถ้าคุณฟังอัลบัมนี้อย่างตั้งใจ  คุณจะพบว่านี่ไม่ใช่อัลบัมที่ทำแบบสุกเอาเผากิน ด้วยอิทธิพลของโปรดิวเซอร์และนักแต่เพลง  อัลบัมนี้ถือเป็นคู่มือเล่มเล็กๆฉบับพกพาที่จะแนะนำดนตรีแนวหนักหัวตั้งแต่ยุค 90-2000s ได้ส่วนหนึ่งเลยสำหรับผู้ที่ไม่เคยและไม่คิดจะฟังมาก่อน  

แล้วน้องทั้งสามคนนั้นล่ะ  สมควรจะให้เครดิตด้วยหรือเปล่า  ถ้าถามผม  จริงอยู่ว่าพวกเธอไม่ได้แต่งเพลงเองแล้วก็มีหน้าที่ร้องเท่านั้น  แต่ถ้าคุณเคยดูน้องๆเขาร้องและเต้นบนเวที  ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะน้องสามคนนี้  BABYMETAL ก็จะเป็นแค่วงร็อคแปลกๆที่ดังในระดับหนึ่งเท่านั้น  การได้น้องๆน่ารักๆมาพาคนไม่ค่อนสันทัดดนตรีหนักกระโหลกพร้อมกับมีท่าเต้นสนุกๆดูเพลินตา ย่อมได้ผลกว่าเอาผู้ชายหนวดครึ้มหน้ายังกับปีศาจมานำทัวร์อยู่แล้ว  เหมือนหนังสือที่มีภาพประกอบสวยๆกับหนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือเต็มพรืด  อย่างไหนมันจะอ่านแล้วเพลินกว่ากันล่ะ

แล้วสำหรับคนที่สันทัดดนตรีอยู่แล้วล่ะ   ...  ก็ถ้าใจแข็งพอปฏิเสธน้องๆ(หรือสำหรับบางคนก็เป็นรุ่นลูก) ที่น่ารักแบบนี้ได้ก็ไม่ว่ากัน  แต่สำหรับผม  ใจมันไม่แข็งพอนี่สิ เลยลำบากต้องคอยติดตามน้องๆในเฟสแทบทุกฝีก้าวแบบนี้ 555+[/Spoiler]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 พฤษภาคม 2014 | 12:13:05 PM โดย Mad.. » บันทึกการเข้า
Fog
Blade Runner
*******
เพศ: ชาย
กระทู้: 2071



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2014 | 11:26:10 PM »

วงนี้ ผมว่าน่าจะครอบจักรวาลในสาขาเมทัลเลยนะครับ และล่าสุดเพิ่งดูพรีวิว World Tour ไป นักดนตรีแบ็คอัพก็ไม่ธรรมดาเลย ผมว่า โหดจริง...
บันทึกการเข้า

ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
The Snow Goose
**********
เพศ: ชาย
กระทู้: 8547


nagoya_mega_snake@windowslive.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2014 | 11:32:52 PM »

บอกตามตรงว่าส่วนตัวชอบแค่ Megitsune กับ Akumu no Rondo ครับ เพลงอื่นๆเหมือนยังคั่วไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ เช่นเดียวกับวงอย่าง BiS ที่พยายามทำงานเกิร์ลกรุ้ปแปลกๆออกมาเหมือนกัน แต่อัลบั้มเต็มชุดล่าสุดผมไม่ปลื้มอย่างแรง
บันทึกการเข้า


Stay cheap, praise the explicit, embrace the scuzz, be true to art and yourself, eat shit, keep music evil.
lilivm's self-indulgence: https://rateyourmusic.com/~potatahtapapoh
Mad..
Selling England By The Pound
**
กระทู้: 184



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2014 | 06:46:30 PM »

ครับ
วงนี้ ผมว่าน่าจะครอบจักรวาลในสาขาเมทัลเลยนะครับ และล่าสุดเพิ่งดูพรีวิว World Tour ไป นักดนตรีแบ็คอัพก็ไม่ธรรมดาเลย ผมว่า โหดจริง...

ครับ  และไม่ว่าตั้งใจหรือไม่  ตอนนี้พวกเธอก็สั่นทะเทือนวงการเมทั่ลไปแล้วล่ะครับ  เพราะมันทำให้มีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงมากๆเรืองความเป็นเมทั่ลไม่เมทัล  ซึ่งครั้งล่าสุดที่เคยเกิดการโต้เถียงกันหนักขนาดนี้ก็น่าจะย้อนไปถึงสมัย Nu-Metal นู่เลยครับ 

แล้วตอนนี้ ไม่ว่าชอบหรือชัง พวกเธอกฌได้เป็นหนึ่งในวงที่ได้ไปเล่นในเวทีหลักของ SONISPHERE แล้วก็ Heavy Montreal ของแคนนาดาไปแล้วล่ะครับ




ไม่ว่าจะออกมาดีหรือไม่ แต่ปีนี้ต้องเป็นปีที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์แน่นอน

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป:  

ThaiProg.net Ver 4.0 by tisanai,Shineon,kongbei
Top 10 Best Sellers in Kindle eBooks Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers In Automotive Parts And Accessories Reviewer 2016 Top 10 Best Sellers in Tools and Home Improvement Under $10, Reviewer 2016
Top 10 Best Sellers in Clothing for 2017 Top 10 Best Sellers in Clothing Best Sellers in Clothing
Top 10 Best Sellers in Books reviewer 2017 Top 10 Best Sellers in Books Best Sellers in Books
Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Reviewer 2017 Top 10 Best Sellers In Best Sellers In Grocery Best Sellers In Grocery