ตามหัวข้อล่ะครับ เราจะจำแนกแยกได้อยางไร แล้วที่มันว่าเป็นร็อค ร็อคแอนด์โรล์ ป็อปร็อค บูลร็อค บัลลาดสต์ร็อค โปรเกสซีฟร็อค แล้วยังคราสสิคร็อคอีก และอีกมากมาย มันใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานในการแยกประเภทครับ ใช้ยุคสมัย การแต่งตัว หรืออะไรยังไง
(ยัง งงๆ และยังคงจะ งง อยู่ต่อไป ถ้าท่านไม่ชี้แนะ)
ผมนั่งอ่านอยู่หลายวัน
ถึงจะตระหนักว่า นี่คือปัญหาสำหรับคนฟังเพลง(ใหม่ๆ)อย่างหนึ่ง (
-ผมก็เคยเป็น เลยพอจะเข้าใจนะ )
อันที่จริง ก็เป็นอย่างที่ทุกๆท่าน ตอบมาแหละครับ
"ฟังแล้วจำ, ฟังเยอะๆ, ฟังไปก่อน, ฟังแล้วใช้ความรู้สึก..."ฟังดูง่ายๆ เหมือนไม่ได้ความกระจ่างใดๆ
แต่จริงๆแล้วนั่นคือ
ถ้าฟังเพลงมากๆ จะไม่สนใจไปเองครับ ว่ามันเป็นเพลงแนวอะไรพอฟังเพลง จนถึงขั้นเป็น นักฟังเพลงจริงๆ ไม่ใช่ฟังเพลงตามเขาว่า หรือตามกระแส
ในโลกใบนี้จะมีเพลงเพียง 2แนวเท่านั้นเองครับ (ง่ายไหม
)
คือ
เพลงที่เพราะ กับ
เพลงที่ไม่เพราะแล้วเพลง 2แบบที่ว่า ก็เป็นอนิจจังอีก คือไม่แน่นอนทั้งตัวเราเอง และต่อผู้อื่น
เช่นตัวเราว่าเพราะ แต่คนอื่นเขาอาจจะบ่นว่าฟังเพลงอะไรหนวกหู
พอเวลาผ่านไปนานๆ เพลงที่เราเคยชอบ อาจทนฟังไม่ได้ซะเอง เป็นต้น
ทีนี้ ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ซะหน่อย เข้าใจว่าการแบ่งประเภทเพื่อที่จะได้สื่อสารกับคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
ที่ถามมา ที่จริงก็เรื่องเพลงร็อคเท่านั้น ที่นี่ก็มีกูรูร็อคหลายคน ผมขอตอบแบบชาวบ้านนะครับ
1. ร็อคแอนด์โรล์ อันนี้เป็นพ่อของร็อคทั้งหลาย มี12ห้อง คอร์ด I IV Vวน พวกคนดำ์ว่าเอาเพลงพวกเขามาเร่งจังหวะดื้อๆ สเกลเพนตาโทนิค นับถือชัค เบอรี่เป็นพระเจ้า ถ้านึกอะไรไม่ออก ก็นึกถึงหนังเรื่อง Back to the future ละกัน
2. ร็อค ต่อจากร็อคโรล์ข้างบน ตัดการวนเวียนคอร์ดที่คนฟังจำทางได้ ตัดหรือเพิ่มจำนวนห้อง ที่คนฟังจับได้อีกนั้นแหละ อาจจะมีท่อนฮุคเพิ่มขึ้นมาแก้เบื่อก็ได้ เสียงต้องเน้นกลอง-เบส เป็นพิเศษ นึกไม่ออก ก็ต้องดูหนังเรื่อง The spinal tap ชัวร์ป้าบ มีครบทุกแนวเพลง (เฉพาะร็อคนี่ มีลูกหลานแตกออกไปอีก 108แนวมั๊ง..)
3. ป็อปร็อค เหมือน2.ร็อค แต่เน้นท่อนฮุคหรือท่อนแยก ต้องโดน คนฟังต้องจดจำหรือร้องตามได้โดยไม่ต้องใช้ความคิด(มาก) ก่อนจบ ท่านว่าให้ร้องซ้ำๆ วนไปวนมา จนกว่าผู้ฟังจะทนไม่ได้ ต้องควักตังค์ซื้อหรือโทรไปขอดีเจ
4. บูลร็อค ย้อนกลับไปหา 1. ใหม่ แต่ยึดโครงสร้างความรู้สึกแแบบบลูส์ คือมีบลูส์-โน้ตผ่าน แทบจะเหมือนบลูส์ ต่างกันตรงการเอื้อน(Slur) ทั้งจังหวะและเมโลดี้ ลองฟังเพลงของแกรี่ มัวร์ เทียบกับคุณฟ็อกซ์ดู
http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=1970.0 ถือเป็นเพลงอกหักฝ่ายชาย(ที่ถือกีต้าร์ ฮา)
ที่จริงก็อยากได้ตังค์เหมือน3. ป็อปร็อค แหละครับ แต่มีฟอร์มมากกว่านิ๊ดนึง..
5. บัลลาดสต์ร็อค ไอ้เจ้าบัลลา์ดร็อคเนี่ยเป็นน้องสาวของ3. ป็อปร็อค อีกที คืออยากดัง อยากเข้าชาร์ทป็อบเหมือนกัน
คอร์ดแนวเศร้าเคล้าไมเนอร์ เล่นในจังหวะช้าถึงปานกลาง เรียกว่าเป็นเพลงอกหักฝ่ายหญิง เช่น Total Eclipse of the Heart ของ บอนนี่ ไทเล่อร์ แต่พักหลังๆนี้ พวกร็อคผู้ชายก็มาหากินแนวนี้จนโด่งดังแทบทุกวง (Styx, Jouney, Scorpion และ jonas bros. -เกี่ยวไหมเนี่ย
)
6. โปรเกสซีฟร็อค คือ2. ร็อค ที่ตรงข้ามกับ3. ป็อปร็อค คือเปลืองความคิดว่างั้นเถอะ ถึงจะเข้าใจในความงาม และความไพเราะ
(โปรดเข้าเว็บนี้บ่อยๆ เดี๋ยวก็รู้เอง)7. แล้วยังคราสสิคร็อคอีก อันนี้หมายถึง ร็อคคลาสสิครึเปล่า ซึ่งหมายถึงเพลงร็อคที่ผ่านการยอมรับว่าเยี่ยนเป็นอมตะ
คลาสสิคร็อค คือเพลงร็อคที่แข็งกระด้าง มาผสมกับความละมุนของเพลงคลาสสิคได้อย่างลงตัวในส่วนผสมที่ขัดแย้ง นิยมเครื่องดนตรีอคูสติค และมักจะเป็นวงจากยุโรป ที่เคยเล่นเพลงคลาสสิคมาก่อน ลองตามกระทู้ของคุณปีศาจลายครามดูนะครับ
8. และอีกมากมาย ไอ้นี่แหละครับ ตัวทำให้งง
อย่างเพลง Bohemian ของควีน หรือ Kilroy Was Here ของ สติกซ์ ก็เรียกเป็น ร็อคโอเปร่า ทำไมไม่ถือเป็นโปรก เพียงแค่พวกเขาเคยร้องเพลงแนวร็อคอ่อนๆ หรือเพลงป๊อบมาก่อนกระมัง
นี่แหละที่ทำให้ คนที่ไม่ได้ตามลายแทง หรือไม่ได้สนใจว่าศิลปินคนนั้น มีการเริ่มต้นอาชีพที่เขารักอย่างไร จะเกิดความสับสน เพราะยุคนี้การข้ามพรมแดน(Cross-Over)ทางด้านดนตรี มีเยอะมาก จนเป็นเทร็นด์ไปแล้วครับ แถมมีการตั้งชื่อให้กับแนวเพลงของตัวเองเสียอีก
แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมในแบ่งประเภทเพลง คือ
"เพลงที่เพราะ" กับ "เพลงที่ไม่เพราะ"
แล้วก็ออกไปหามา "ฟัง" กัน
จะว่า มันก็เหมือนๆกับ การกินข้าว อ่านหนังสือ สอบ ทำงาน ถ่าย อย่างว่า นอนพักผ่อน ฯลฯ แหละเนาะ
-อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดีทั้งนั้น-
(ดีแต่แนะนำคนอื่น ล่อซะยาวเลยนะเอ็งไอ้ผีฯ)