panyarak
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2010 | 01:23:23 PM » |
|
ขอถามอีกครั้งครับ เฮีย mike แกโกรธเมียเก่า anita hagerland อะไรนักหนา ไม่ลง credit ลงชื่อใน box set element เลยสักคำ ลองหาดูทั่วแล้ว ทั้งๆที่มีเพลงร้องโดยเมียแกรวมอยู่ด้วย คนอื่นให้ credit ไว้หมด
ไม่มีข้อมูล แต่ถ้าให้เดา ก็น่าจะเป็นเรื่องแบ่งสมบัติตามกฎหมาย ที่ Anita ได้สมบัติที่ Mike หามาได้หลังสมรสไปครึ่งนึงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปีศาจลายคราม
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 02 มีนาคม 2010 | 09:27:23 AM » |
|
เรียนถามคุณ panyarak เกี่ยวกับคอนเสิร์ต Tubular Bells III ซึ่งมีเพลงร้องเพลงหนึ่งที่ร้องโดยนักร้องหญิงผิวสี โดยเพลงนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับ Moonlight Shadow เอามาก ๆ ไม่ทราบว่าเพลงนี้คือเพลงอะไรครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 02 มีนาคม 2010 | 09:40:00 AM » |
|
เรียนถามคุณ panyarak เกี่ยวกับคอนเสิร์ต Tubular Bells III ซึ่งมีเพลงร้องเพลงหนึ่งที่ร้องโดยนักร้องหญิงผิวสี โดยเพลงนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับ Moonlight Shadow เอามาก ๆ ไม่ทราบว่าเพลงนี้คือเพลงอะไรครับ
ขอตอบให้แล้วกันนะครับ ชื่อเพลง Man In The Rain อยู่ในอัลบั้ม TB3 นั่นแหละครับ ถ้าได้ฟังเวอร์ชั่นในอัลบั้มจะเหมือน Moonlight Shadow มากเพราะได้นักร้องที่เสียงคล้าย Maggie Reiley มาร้อง แต่ในเวอร์ชั่นแสดงสดใช้นักร้องแบ๊คอัพผิวสีร้องแทน ผมว่าเพลงนี้เป็นการก๊อปปี้ตัวเองที่ยอดเยี่ยมมากโดยเฉพาะท่อนโซโลที่เด็ดขาดไม่แพ้ Moonlight Shadow จริงๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มีนาคม 2010 | 09:43:28 AM โดย TRON »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
panyarak
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 02 มีนาคม 2010 | 09:49:05 AM » |
|
เรียนถามคุณ panyarak เกี่ยวกับคอนเสิร์ต Tubular Bells III ซึ่งมีเพลงร้องเพลงหนึ่งที่ร้องโดยนักร้องหญิงผิวสี โดยเพลงนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับ Moonlight Shadow เอามาก ๆ ไม่ทราบว่าเพลงนี้คือเพลงอะไรครับ
ขอตอบให้แล้วกันนะครับ ชื่อเพลง Man In The Rain อยู่ในอัลบั้ม TB3 นั่นแหละครับ ถ้าได้ฟังเวอร์ชั่นในอัลบั้มจะเหมือน Moonlight Shadow มากเพราะได้นักร้องที่เสียงคล้าย Maggie Reiley มาร้อง แต่ในเวอร์ชั่นแสดงสดใช้นักร้องแบ๊คอัพผิวสีร้องแทน ผมว่าเพลงนี้เป็นการก๊อปปี้ตัวเองที่ยอดเยี่ยมมากโดยเฉพาะท่อนโซโลที่เด็ดขาดไม่แพ้ Moonlight Shadow จริงๆ คนที่ร้องในอัลบั้มคือ Cara Dillon (ผิวขาว) แต่ในดีวีดีคือ Pepsi DeMacque (ผิวสี) ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปีศาจลายคราม
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 04 มีนาคม 2010 | 02:41:07 PM » |
|
สาเหตุหนึ่งที่ผมชื่นชอบผลงานของ Mike Oldfield ตั้งแต่ Tubular Bells เรื่อยมา ก็เพราะเสียงคีย์บอร์ดอันสวยงามที่มีแทรกอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะผลงานในยุคต้น คิดว่า Oldfield คงจะเหมาเล่นเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดด้วย จึงคิดว่านอกจากฝีมืออันโดดเด่นในการเล่นกีตาร์ที่ผู้คนทั่วไปมักพบเห็นบนเวทีแล้ว Mike Oldfield ยังเล่นคีย์บอร์ดได้ดีอีกด้วย
ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ เห็นกันอย่างไรบ้างเกี่ยวกับฝีไม้ลายมือในการเล่นคีย์บอร์ดของ Mike Oldfield ครับ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kongbei
|
|
« ตอบ #80 เมื่อ: 04 มีนาคม 2010 | 03:01:37 PM » |
|
สาเหตุหนึ่งที่ผมชื่นชอบผลงานของ Mike Oldfield ตั้งแต่ Tubular Bells เรื่อยมา ก็เพราะเสียงคีย์บอร์ดอันสวยงามที่มีแทรกอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะผลงานในยุคต้น คิดว่า Oldfield คงจะเหมาเล่นเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดด้วย จึงคิดว่านอกจากฝีมืออันโดดเด่นในการเล่นกีตาร์ที่ผู้คนทั่วไปมักพบเห็นบนเวทีแล้ว Mike Oldfield ยังเล่นคีย์บอร์ดได้ดีอีกด้วย
ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ เห็นกันอย่างไรบ้างเกี่ยวกับฝีไม้ลายมือในการเล่นคีย์บอร์ดของ Mike Oldfield ครับ?
คิดว่าไมค์มีความคิดสร้างสรรค์ และดัดแปลงสิ่งใหม่ๆมาใส่ให้คีย์บอร์ดได้ เห็นว่าเพลง Tubulars Bells ช่วงเริ่มก็ดัดแปลงมาจากเพลงคลาสสิค
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ǝɹoɔǝsıɐuuoʎɐɯʎɹbuɐ
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 04 มีนาคม 2010 | 03:12:03 PM » |
|
สาเหตุหนึ่งที่ผมชื่นชอบผลงานของ Mike Oldfield ตั้งแต่ Tubular Bells เรื่อยมา ก็เพราะเสียงคีย์บอร์ดอันสวยงามที่มีแทรกอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะผลงานในยุคต้น คิดว่า Oldfield คงจะเหมาเล่นเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดด้วย จึงคิดว่านอกจากฝีมืออันโดดเด่นในการเล่นกีตาร์ที่ผู้คนทั่วไปมักพบเห็นบนเวทีแล้ว Mike Oldfield ยังเล่นคีย์บอร์ดได้ดีอีกด้วย
ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ เห็นกันอย่างไรบ้างเกี่ยวกับฝีไม้ลายมือในการเล่นคีย์บอร์ดของ Mike Oldfield ครับ?
คิดว่าไมค์มีความคิดสร้างสรรค์ และดัดแปลงสิ่งใหม่ๆมาใส่ให้คีย์บอร์ดได้ เห็นว่าเพลง Tubulars Bells ช่วงเริ่มก็ดัดแปลงมาจากเพลงคลาสสิค เห็นด้วยว่าไมค์โดดเด่นที่ความสร้างสรรค์ในการคิดประดิดประดอยตัวโน้ตผ่านลิ่มคีย์บอร์ดเพื่อสร้างอารมณ์ให้กับบทเพลงมากกว่าจะโชว์ทักษะอย่างพวกยอดฝีมือครับ แต่นั่นก็จัดเป็นคุณลักษณะอย่างหนึ่งของมือคีย์บอร์ดที่ดีและเผลอๆผมจะประทับใจมือคีย์บอร์ดสไตล์นี้มากกว่ากลุ่มที่เน้นเล่นโซโล่แพรวพราวเสียอีกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 04 มีนาคม 2010 | 03:20:17 PM » |
|
เรื่องฝีมือกีตาร์น่าจะโดดเด่นกว่าคีย์บอร์ดมากนะครับ ผมมักเห็น Mike ตอนแสดงสดใน TB 2, TB 2 และ Millenium Concert ดู Mike ต้องแสร้งทำเป็นเล่นคีย์บอร์ดในบางช่วงทั้งๆที่พอจะดูออกว่าไม่ได้เล่นเองจริงๆ แต่คงต้องแสร้งทำเป็นเล่นเพื่อให้เหมือนการแสดงดูดีในบางช่วง แต่ถ้าเป็นกีตาร์นี่เล่นสดจริงๆตลอด เฉกเช่นเดียวกับ Jean Micheal Jarre ที่ผมสังเกตุเห็นเขาต้องแสร้งทำเป็นเล่นเองอยู่บ้างในบางช่วงการแสดง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #83 เมื่อ: 05 เมษายน 2010 | 11:23:03 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อาโนลด์ เลนย์
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 05 เมษายน 2010 | 11:48:24 AM » |
|
2 ชุดนี้ผม pre-order ไปแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะออกชุดอื่นมาอีกหรือเปล่า ? แต่ถ้า Japan ออกมาแบบชุดละ 3 แผ่น ราคาคงซื้อไม่ไหวแน่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 05 เมษายน 2010 | 12:45:10 PM » |
|
2 ชุดนี้ผม pre-order ไปแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะออกชุดอื่นมาอีกหรือเปล่า ? แต่ถ้า Japan ออกมาแบบชุดละ 3 แผ่น ราคาคงซื้อไม่ไหวแน่ครับ Universal จะไล่ออกทุกชุดแน่ๆครับ อยู่ที่ว่าจะทำชุดไหนเป็น Ultimate Edition, Deluxe Edition บ้างเท่านั้นเอง ส่วนแผ่นญี่ปุ่น Tubular Bell 2009 3 disc mini lp งวดที่แล้ว pre-order หมดเร็วมากและราคาพุ่งขึ้นเร็วด้วย ต้องรอดูว่า Hergest Ridge, Ommadawn จะแรงขนาดไหน สงสัยต้องซื้อเก็งกำไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dr. buska
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 07 เมษายน 2010 | 07:08:06 PM » |
|
ของไทยคงปั๊มออกมาเหมือนกัน
มี ultimate edition ด้วย
Hergest Ridge was Mike Oldfield's second album, and it has long been overshadowed by its predecessor, Tubular Bells.
This May, that's all going to change, as we release three brand spanking new editions of Hergest Ridge! Mike Oldfield has remixed the album specially for the occasion, and on the Deluxe and Ultimate Editions, we will be including masses of new demo material.
As well as all the material included in the other editions, the Hergest Ridge Ultimate Edition also includes an LP, a build it yourself model glider, an additional CD of remixes by DJ Dizzy-Heights and a special hardback book.
We will be launching the re-releases with a special event on May 22nd, on Hergest Ridge in Herefordshire. Activities will be going on all day and will include a chance to try model glider flying and a sampling of local beers and cheeses.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 07 เมษายน 2010 | 09:03:25 PM » |
|
เข้าใจว่าข่าว ultimate edtion เป็นข่าวหลอกวัน April Fool's นะครับ คงมีแต่ deluxe edition กับแผ่นธรรมดาที่ทำออกมา Welcome to Hergest Ridge 2010 - an April Fools' Day joke from tubular.net This site was just a bit of April Fools' Day fun. Hergest Ridge will be re-released in May, but the rest of the information here - from the Ultimate Edition through to the Hergest Ridge Pizza - is pure fantasy. http://www.hergestridge2010.com/
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 เมษายน 2010 | 09:12:51 PM โดย TRON »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TRON
|
|
« ตอบ #88 เมื่อ: 07 เมษายน 2010 | 09:25:51 PM » |
|
ว่าไปการที่ไมค์เอางานเก่ามาค่อยๆไล่ออกใหม่แบบนี้มันดูน่าตื่นเต้นกว่าตอนแกออกอัลบั้มใหม่ๆในยุคหลังๆเสียอีก แฟนๆรอเสียตังค์ซื้องานเก่าออกใหม่แถมต้องจ่ายแพงระดับ deluxe edtion หรือ ultimate edtion อีกต่างหาก การตลาดสุดยอดมาก หากินได้ตลอดชาติจริงๆ
แต่มันก็เป็นโอกาสอันดีกับแฟนเพลงอย่างผมที่ไม่เคยเก็บซีดีงานของแกในยุคแรกๆจริงๆจังๆมาก่อน มีแต่เทปเก่าๆและแผ่นเสียงเก่าๆของพวกพี่ๆเก็บอยู่ที่บ้าน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 เมษายน 2010 | 10:06:34 PM โดย TRON »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
panyarak
|
|
« ตอบ #89 เมื่อ: 09 เมษายน 2010 | 11:19:55 AM » |
|
เรียนถามคุณ panyarak หน่อยครับว่า Mike Oldfield มีสายสัมพันธ์อะไรกับสมาชิกวง Gong บางคน (Pierre Moerlen และ Benoit Moerlen) หรือเปล่าครับ? เพราะเห็นมาช่วยงานทั้ง studio albums และงานแสดงสดในยุคปลาย 70 ถึงต้น 80 พอสมควรน่ะครับ
เพราะ Mike Oldfield เคยมีสายสัมพันธ์อยู่กับวงการ Canterbury Scene อยู่พักนึง ซึ่งเป็นแขนงดนตรีที่มีสมาชิกไม่มาก จึงมีความเกี่ยวข้องโยงใยและสนิทนสมกันเป็นครอบครัวหลวมๆ จุดกำเนิดของ Canterbury Scene อยู่ที่วง Wilde Flowers ซึ่งมี Daevid Allen และ Kevin Ayers เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้ง พอ Kevin Ayers ออกไปตั้งวงของตัวเอง ก็ได้ Mike Oldfield ไปเล่นกีตาร์ให้ด้วย ส่วน Daevid Allen ก็ไปบุกเบิกวง Gong ที่ฝรั่งเศส การที่ Mike Oldfield ได้เฉี่ยวเข้าไปเกี่ยวข้องกับ Kevin Ayers ซึ่งต่อมาได้เข้าร่วมกับ Gong ด้วย ทำให้เขาได้รู้จักกับนักดนตรีสาย Canterbury Scene หลายคนไปโดยปริยาย รวมทั้ง Pierre และ Benoit Moerlen หลังจากนั้นหลายปี Kevin Ayers ก็ได้รับเชิญให้ไปร้องนำเพลง Flying Start ในอัลบั้ม Islands ของ Mike Oldfield ด้วย เพลง title track ในอัลบั้ม Downwind ของ Pierre Moerlen's Gong ฟังยังไงก็เป็นเพลงของ Mike Oldfield มากกว่าเพลงของ Pierre Moerlen's Gong แถมมี Mike Oldfield เล่นกีตาร์และร่วม produce ด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|