สมัยเด็กๆ ตอนผมยังเป็น ด.ช. อยู่ ประมาณ ม.ต้น เห็นจะได้ ตอนนั้นปลาบปลื้มกับอัลบั้ม Wish You Were Here มาก และแน่นอนว่าเหตุผลหลักมาจากเพลง Shine On You Crazy Diamond ในอัลบั้มนั้น ปัจจุบัน เพลงนี้ยังเป็นเพลงที่ผมรักที่สุดในชีวิตการฟังเพลงของผม และปรารถนาที่จะเล่นเวอร์ชั่นเต็มแบบสดๆ ของมันเสมอ (ตั้งแต่ Part 1-9 เลย)
ผมได้ยินเสียงสไลด์กีตาร์แบบ Lap Steel แล้วประทับใจแบบสุดๆ ครั้งแรกก็จากเพลง Shine On Part 6 มันช่างเป็นเสียงที่แปลก จะว่าเสียงมันคล้ายกีตาร์มันก็ไม่ใช่ เสียงคีย์บอร์ดก็ไม่เชิง ที่ทำให้ผมรู้สึกอินเป็นพิเศษคือมันเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียง Sustain ที่ยาวมากกว่าเสียงกีตาร์ทั่วๆ ไปเกินที่จะให้ได้ ในตอนนั้น ผมไม่มีอะไรนอกไปจากกีตาร์ไฟฟ้าทรง Strat ตัวเก่าๆ ยี่ห้อหนึ่ง สิ่งที่ผมทำได้คือ เปิดเพลงนี้ให้ดังๆ แล้วเอากีตาร์ไฟฟ้าตัวนั้นมาวางบนโต๊ะกินข้าว แล้วเอาก้อนไฟฉายขนาด AA มาทำเป็นแท่งสไลด์ มือขวาจับปิ๊ก และแล้วก็พยายามสร้างเสียงแบบสไลด์กีตาร์ให้ดังออกมาจากแอมป์ของผมให้ได้.......
เวลาผ่านไป 10 ปี ตอนนี้ ด.ช. คนนั้น กลายมาเป็น ว.ศ.บ. แต่ก็ยังอยากที่จะสร้างเสียงสไลด์กีตาร์ให้ได้อยู่เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง และก็พยายามศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสไลด์กีตาร์มาตลอด ได้มีโอกาสเล่นสไลด์กีตาร์เป็นท่อนสั้นๆ บนเวทีบ้าง ปรกติผมเป็นคนที่ชอบเล่นสไลด์บนกีตาร์ปรกติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยไม่ต้องใช้เวลาฝึกมาก พอนานๆ เข้า ก็กลายเป็นว่าเล่นสไลด์กีตาร์แบบ Lap ถนัดกว่าสะพายกีตาร์ปรกติเล่นเสียอีก คงเป็นเพราะสามารถควบคุมตำแหน่งของแท่งสไลด์ได้ง่ายกว่า และเล่นแล้วรู้สึกแตกต่างไม่เหมือนใคร (แต่แค่เหมือนเดฟก็พอใจ)
เมื่อซักสองสามปีก่อนผมมีสไลด์กีตาร์ตัวแรกเป็นของตัวเอง ด้วยการไปหาซื้อกีตาร์ไฟฟ้าตัวเล็กๆ มาโมดิฟายด์ด้วยการปรับตั้งแอคชั่น และเพิ่มขาตั้งเข้าไปให้มัน จนกระทั่งมันกลายเป็นสไลด์กีตาร์ที่้งานได้จริง เคยยกไปห้องซ้อมบ้าง น้องๆ หลายคนก็คงเคยเห็น แม้ว่าจะมีข้อติติงเรื่องของขาตั้งบ้าง ที่เวลานั่งเล่นจะลำบากนิดนึง เพราะขาซ้ายจะติดและขยับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ก็เป็นกีตาร์อีกตัวหนึ่งที่ผมรักมาก
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ของที่สั่งก็มาถึงแล้ว มันเป็น Lap Steel ราคาย่อมเยาว์ (แต่รวมค่าส่งแล้วก็ไม่ค่อยย่อมเยาว์เท่าไหร่) ที่ผมสั่งมาจากอินเตอร์เน็ท สมัยก่อนผมจำได้แม่นเลยว่า ไปเดินแถวซอยเวิ้งนาครเกษมกับคุณพ่อ เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ เพื่อตามหา "Lap Steel" เกือบสิบร้าน ไม่มีร้านไหนมีซักร้าน เลยฝังใจตั้งแต่วันนั้นว่า ชีวิตนี้ต้องมี Lap Steel เล่นให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม และนี่คือความฝันที่เป็นจริงแล้ว เกิดมาผมเองยังไม่เคยได้เห็นหรือสัมผัส Lap Steel ซักตัวในเมืองไทยเลยครับ ดูแต่ในวีดีโอ อินเตอร์เน็ทมาตลอด
ตอนนี้ผมมี Slide Guitar หรือ Lap Steel สองตัวแล้ว ตัวนึงคือตัวล่าสุดที่เพิ่งซื้อมาใหม่ เป็น Lap Steel จริงๆ ที่ทำรูปทรงเลียนแบบ Lap Steel ของ Fender ในยุค 50's ส่วนอีกตัวเป็น Slide Guitar ติดขาตั้ง ซึ่งติดตั้งปิ๊คอัพแบบ Humbucker ไว้ เสียงหนาและร็อคกว่า ซึ่งตัวเก่านี้จะเอาไว้เล่นเพลงที่ใช้ Distortion อย่าง One of These Days, Shine On Part 6, High Hopes รวมไปถึงเล่นสไลด์กีตาร์สไตล์ David Lindley ก็ได้ ส่วนตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา จะเหมาะกับซาวน์ใสๆ เนียนๆ เอื่อยๆ อย่าง Breathe, Great Gig เพลงคันทรีทั่วๆ ไป อย่างสไตล์ของ Ben Keith ก็โอเคอยู่
วันนี้เอาภาพของเจ้าสองตัวนี้มาให้ชมกันเล่นๆ ครับ
ภาพคู่ของทั้งสอง สีน้ำเงินเหมือนกันเลย
ThaiProg
