"อย่าอยู่เพื่อกินจงกินเพื่ออยู่" หรือ "อย่าเล่นแผ่นเสียงแล้วลืมทุกอย่างต้องเล่นได้ทุกอย่างแล้วไม่ลืมแผ่นเสียง"
เป็นคติที่ดีมากเลยครับพี่ จะจำไว้
ถ้าพี่ป่องชอบคติเตือนใจของท่านจอมยุทธไร้สำนัก อยากรู้จักไหมผมจะแนะนำให้ท่านจอมยุทธผู้นี้น้อยคนนักที่จะได้เสวนาด้วย
เป็นเพื่อนกับท่านจอมยุทธน้ำเมาคอสะท้านภพของเรา "จงเรียนรู้ในการเล่น วันนี้ไม่รู้แต่วันหน้าก็รู้เอง" เป็นคติเตือนใจให้นักเล่นกับฟอร์แม็ท
ทั้งหลายท่านจอมยุทธฝากมา
อันนี้ก็ดีครับพี่
ถ้างั้นคราวหน้าเราจัดสัมมนาหัวข้อเรื่อง "ปรัชญาการเล่นเครื่องเสียง" กันดีไหมครับ?
"ปรัชญาการเล่นเครื่องเสียง" เป็นหัวเรื่องที่น่าสนใจพี่ปีศาจฯลองเปิดประเด็นในกระทู้นี้ก่อน
ให้ผู้ร่วมสัมมนาทางกระทู้อย่างเช่น พี่ปีศาจแผ่นเสียง, คุณหมอนักเพลง, พี่ผีไฮไฟ, เดจาวูสเตริโอ และจอมยุทธไฟล์ไร้สำนัก
พี่ปีศาจฯพร้อมเมื่อไรเปิดหัวเรื่องเลยนะครับ
จะเริ่มต้นอย่างไรดี? บอกตรง ๆ ว่าผมเองก็เริ่มต้นไม่ถูก เพราะปรัชญาการเล่นเครื่องเสียงของแต่ละคนถือเป็นเรื่องปัจเจก เป็นมุมมองส่วนตัวของบุคคลผู้นั้นเป็นคน ๆ ไป ผมอาจมีมุมมองหรือปรัชญาอย่างหนึ่ง ซึ่งท่านอื่นอาจเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ และมุมมองหรือปรัชญาที่ว่านี้มันสะท้อนออกมาจากการจัดซิสเต็มส่วนตัวของแต่ละคนอยู่แล้ว พิจารณาดูได้ไม่ยากหรอกครับ
ถ้า "คุณภาพเสียงและความเป็นไฮ-ฟิเดลิตี้" คือหลักการหรือปรัชญาสูงสุดของการเล่นเครื่องเสียง นักเล่นคนหนึ่งอาจบอกว่าปรัชญาของเขาคือ ต้องใช้เครื่องและอุปกรณ์ที่ดีที่สุด แพงที่สุดเท่าที่จะหาได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงต้นทุน ในขณะที่อีกคนอาจบอกว่าอุปกรณ์ที่เล่นเป็นส่วนหนึ่ง อาจไม่จำเป็นต้องแพงเลยก็ได้ เสียงดีมันอยู่ที่การเซ็ตอัพและปรับแต่งห้องฟังให้ดีที่สุดมากกว่า บางคนอาจบอกว่าต้องทั้งสองอย่าง คือ ต้องมีเครื่องที่ดีที่สุดในห้องฟังที่ปรับแต่งอย่างเหมาะสมที่สุด ส่วนอีกคนหนึ่งอาจบอกว่า แพงไปก็เท่านั้น ฉันไม่ได้รวยอะไร ไม่มีเงินทำห้องฟัง ขอเล่นอย่างพอเพียงโดยจัดชุดประหยัดแต่คุณภาพดีสมฐานะจะดีกว่า ฯลฯ
คิดว่าจบยากนะครับ ประเด็นนี้ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นวิชาปรัชญาแล้ว น่าจะเถียงกันได้มันดี ไม่มีใครถูกใครผิด ถ้าโต้แย้งกันด้วยเหตุผลที่น่ารับฟังหรือพอรับฟังได้ครับ
ประเด็นที่พี่ปีศาจฯว่ามาก็น่าสนใจ ถือว่าเป็นการเปิดหัวเรื่องกระทู้เรื่อง "ปรัชญาการเล่นเครื่องเสียง" เดี๋ยวรอให้ผู้ร่วมวงสัมมนาเข้ามาแจมร่วมหัวเรื่อง
ด้วยก็แล้วกัน คุณหมอนักเพลงขอเชิญเป็นรายต่อไปเลยครับ ช่วงที่รอคุณหมอพี่ปีศาจฯมีอะไรจะเสริมเพิ่มเติมมาได้เลยนะครับ
ปรัชญาเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
สมัยหนึ่ง แค่มีเพลงฟังก็ดีใจแล้ว ฟังจาก format อะไรก็ได้
ต่อมาเริ่มมีกิเลส อยากฟังเพลงให้คุณภาพเสียงดีขึ้น เสาะแสวงหา Hardware Software ไม่รู้จบ
ระยะเริ่มต้นเน้นความคุ้มค่า
แต่ทำไปทำมา ก็ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้อีก ทำตามความพอใจ ความอยากได้
ก็อยากจะฟังเพลงแบบเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน แต่ทำไม่ได้
ปรัชญาการเล่นของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ลำดับต่อไปขอเชิญผู้ร่วมสัมมนาพี่ผีไฮไฟ หรือท่านอื่นๆจะอยากแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้
แล้วพี่ปีศาจฯมีอะไรจะเพิ่มเติมก็ได้นะเจ้าของหัวเรื่อง
ใจจริงอยากตั้งกระทู้ใหม่เสียด้วยซ้ำ -- ว่าด้วยเรื่องปรัชญาล้วน ๆ ครับ
หลักการหรือปรัชญาการเล่นเครื่องเสียงของผมไม่เหมือนของคุณ The Black Tulip เพราะการเล่นของผมไม่เคยเปลี่ยนแนวทางหรือหลักการเลย
เครื่องเสียงชุดแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้เล่นคือ สเตริโอรีซีฟเวอร์ยี่ห้อ Silvano พร้อมลำโพง Pioneer หนึ่งคู่ ซึ่งแม่ซื้อให้เมื่อตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
และหลังจากนั้น ผมก็เล่นเครื่องเสียงในแนวนี้มาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยน
สมการการเล่นเครื่องเสียงจึงเป็นดังนี้
แอมป์ + ลำโพง + แหล่งโปรแกรม (แผ่นเสียง, ซีดี, เทป) = เสียงเพลงหรือดนตรีที่ได้ยินถ้าเอา "เสียงดนตรี" เป็นที่หมายที่เราจะเดินทางไปถึง เครื่องเสียงราคาถูกหรือแพงก็สามารถพาเราไปถึงที่หมายนั้นได้เช่นกัน เปรียบเสมือนขับรถช้ากับรถเร็ว รถเก่ากับรถใหม่ รถญี่ปุ่นกับรถฝรั่ง ฯลฯ ในที่สุดมันจะต้องพาเราไปถึงที่หมายที่เราต้องการจะไปจนได้
ดังนั้น จะจ่ายแพงไปทำไม? เพราะไหน ๆ ก็จะไปถึงจุดหมายปลายทางเหมือนกันแม้จะจ่ายไม่แพง แต่ก็ต้องรู้จักเลือกของดีมีคุณภาพสมราคาและคุ้มค่า เพื่อจะได้ใช้กันทน ๆ และนาน ๆ
หากเสียงดนตรีคือเสียงที่เกิดจากการกระทบกันของวัตถุ เช่น มือหรือไม้ที่ใช้ตีกลอง, นิ้วหรือปิ๊คที่ใช้ดีดสายกีตาร์ ฯลฯ ดังนั้น เสียงดนตรีที่แท้จริงก็จะต้องมาจากแหล่งกำเนิดแบบ "อะนาล็อก" เท่านั้น เช่น เสียงจากปลายเข็มที่ครูดไปตามร่องแผ่นเสียง, เสียงจากเทปที่เคลื่อนผ่านหัวเทป เป็นต้น ไม่ใช่จากแหล่งกำเนิดเสียงระบบเลขฐานสอง (ดิจิตอล) คือ 0 กับ 1 และแสงเลเซอร์ที่ใช้อ่านสัญญาณ เพราะไม่ใช่การสัมผัสระหว่างวัตถุตามธรรมชาติด้วยเหตุนี้ อะนาล็อกจึงต้องเป็นหัวใจของแหล่งกำเนิดเสียงดนตรีของผม
จึงสรุปออกมาเป็นสมการง่าย ๆ ว่า
"อะนาล็อก สองแชนแนล เรียบง่าย ใช้ของไม่แพง และรู้จักพอเพียง"สำหรับผม เงินทองหายาก ต้องรู้จักใช้ให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
และคนอย่างผม พวกพ่อค้าเครื่องเสียงไม่อยากคบหาหรือไม่ค่อยชอบหน้าสักเท่าไรหรอกครับ เพราะซื้อของเขายาก(ส์)
เอาไว้ว่าง ๆ จะเข้ามาอธิบายสมการให้ละเอียด หรือไม่ก็จะยกเรื่องนี้ไปไว้ในหัวข้อ "กรุสมบัติฯ" ส่วนตัวของผมครับ