ไม่ได้อ่านนิตยสาร Audiophile มาหลายเดือนแล้ว เพราะระยะหลังมานี้ก็ซื้อหาเอาตามความสะดวกมากกว่า ถ้าเดินผ่านแผงหนังสือแล้วเจอก็จะซื้อ ถ้าไม่เจอก็แล้วไป ล่าสุดเล่มที่ซื้อมามีปกออกสีดำมืด ดูเหมือนจะเป็นรูปลำโพง B&W รุ่นอะไรไม่ทราบ หนังสือดูเหมือนจะหนาและหนักมากขึ้น แต่พอเปิดเข้าไปอ่านเนื้อในก็เป็นไปตามคาด ตามที่ผมได้เคยอภิปรายไว้แล้วก่อนหน้านี้แล้ว ว่าเนื้อในส่วนใหญ่มีแต่โฆษณาสารพัด ฉะนั้น จึงอยากบอกว่า หนังสือหรือนิตยสารบางเล่มอาจไม่ได้หนักสาระ แต่อาจจะหนักอย่างอื่นที่ไม่ใช่สาระก็ได้ ดังนั้น น้ำหนักของหนังสือจึงไม่ได้เป็นตัวกำหนดสาระของหนังสือเล่มนั้น เมื่อมองย้อนหลังไปสักสิบปี ตอนที่นักเขียนคนเก่า ๆ ยังอยู่ เปรียบเทียบกับตอนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ผมเห็นว่าเนื้อหาสาระของนิตยสาร Audiophile ในยุคก่อนนั้นยังดูเข้มข้นกว่าที่เป็นอยู่ในยุคนี้เสียอีก บางคนที่เป็นพรรคพวกหรือแฟน ๆ ของนิตยสารฉบับนี้อาจรู้สึกเคืองที่ผมแสดงความเห็นตรงไปตรงมาเช่นนี้ แต่เชื่อเถอะครับว่าผมแสดงความเห็นโดยสุจริตในฐานะที่เป็นแฟนเก่าแก่ของนิตยสารเล่มนี้กับเขาอยู่เหมือนกัน เมื่อพิจารณาว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไปอยู่เรื่อย ๆ ไม่พ้นแม้วงการเครื่องเสียง แนวทางของหนังสือหรือนิตยสารก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย ผมก็ต้องพยายามทำใจให้เข้าใจสถานการณ์ครับ
ปัจจุบันหนังสือเครื่องเสียงบนแผงในบ้านเรานั้นจะเหลือกันจริงๆอยู่ 4 ฉบับ และจะฉบับที่มียอดขายดีจริงๆอยู่แค่ 2 ฉบับเท่านั้น
ผมก็เป็นแฟนหนังสือของบ้านเราทุกฉบับ ทุกวันซื้อหมดทั้ง 3 ฉบับได้ฟรี 1 ฉบับ ทุกวันนี้คนทำธุรกิจหนังสือเครื่องเสียงจะให้อยู่รอดได้
ต้องพึ่งโฆษณาครับ ผมเข้าใจพี่ปีศาจฯ และผมในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของหนังออดิโอไฟล์(เป็นนักเขียนอิสระ)ไม่ได้รู้สึกเคืองอะไรหรอกครับ
และไม่ได้เชียร์หนังสือด้วย เป็นการยากมากๆในภาวะปัจจุบันที่จะทำให้หนังสือถูกใจกับทุกๆคนคงเป็นไปไม่ได้ แนวทางของหนังสือ
จะถูกปรับเปลี่ยนเสมอเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เพื่อความอยู่รอดอย่างเดียวก็ต้องคงไว้ในสาระข้อมูลต่างๆให้กับผู้อ่านด้วย
เรียกว่าต้องทำสมดุลทั้ง 2 อย่างไม่ใช่เรื่องง่ายๆครับ ยิ่งในเวลานี้กระแสการเปลี่ยนแปลงของดิจิตอลกำลังมาแรง การกลับมาของอนาล็อก
แผ่นเสียงสวนกระแสก็ยังมีอยู่ หนังสือมีเนื้อหาที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบก็เป็นเรื่องปกติครับ ไม่ใช่แต่หนังสือออดิโอไฟล์เพียงฉบับอย่างเดียว
ฉบับอื่นๆก็เป็นเช่นนี้ หากทำหนังสือในลักษณะเดิมๆหนังสือก็อยู่ไม่รอดครับ ฉะนั้นทุกฉบับก็ต้องปรับตัวด้วยกันทั้งนั้น อย่าลืมหนังสือเครื่องเสียง
ในวันนี้อยู่ในสถานะการณ์ต่างจากอดีตมากครับ เพราะต้องต้องแข่งกับโลกแห่งอินเตอร์เน็ตด้วย ผมไม่อยากให้หนังสือเครื่องเสียงในบ้านเรา
มีชะตากรรมเดียวกับหนังสือดนตรี ถ้างั้นผมว่าคงไม่มีหนังสือเครื่องเสียงในบ้านจะถูกใจพี่ปีศาจฯหรอกครับ