Thai Progressive Rock Community

ผมเห็นแผ่นยุคหลังๆของ Nektar ใน ebay อยู่
รบกวนช่วยแนะนำซักนิดครับ
ขอบคุณครับ

ผมฟังแล้ว ยังชอบผลงานยุคเก่ามากกว่าครับ การเรียบเรียงเสียงประสานของอัลบั้มใหม่มันกระเดียดออกไปทาง Neo-prog ครับ สรุปคือ ถ้าใครชอบ Nektar ในยุค Seventies น่าจะไม่ชอบ Nektar ในยุคใหม่ครับ

เห็นด้วยกับคุณ panyarak ดนตรีของ Nektar ในยุค 70's นั้นยอดเยี่ยมและคลาสสิกจริง ๆ โดยเฉพาะอัลบั้ม Remember The Future ซึ่งทำให้ Nektar ดังระเบิดในอเมริกาเลยทีเดียว

กระทู้เก่าที่เกี่ยวข้องครับ

http://www.forumtown.net/viewtopic.php?t=368&highlight=yellow+magic+orchestra&mforum=progrockthai

ผมชอบอัลบัมJourney to The Centre of The Eye
อ่าครับ

อัลบั้มแสดงสดชุดใหม่จากปี 2008 ของ Nektar แต่เลิกตามเก็บแล้วครับ

(http://i709.photobucket.com/albums/ww97/tanbeemkarn/0nek.jpg)

ชอบวงนี้ครับ แต่ยอมรับว่าพักนี้ไม่ค่อยได้หยิบมาฟัง ขอใช้ความทรงจำที่มีอยู่ให้หัวเอานะครับ ชุดแรก Journey to The Centre of The Eye ค่อนข้างฟังยากและออกไปทาง Psychedelic เสียด้วยซ้ำ แต่อัลบั๊มถัดๆมา ผมว่ายิ่งออกยิ่งดีตามลำดับ ทั้ง A Tab in the Ocean / Sounds Like This / Remember the Future หลายคนจะยกย่องชุดนี้ แต่โดยส่วนตัวผมชอบชุด Recycled มากกว่า

ได้ฟัง Remember the Future เยี่ยมทีเดียว
ปกชุดใหม่ ดูเป็น Metal ยังไงชอบกล  :D

+1 ชอบชุด Recycled เช่นกันครับ เป็นชุดที่เปิดฟังบ่อยที่สุดแล้ว ฟังได้เพลินๆดีครับ ปกอัลบั้มสวยสะดุดตาดีด้วย  :D

(http://tralfaz-archives.com/coverart/N/Nektar/nektar_recyclef.jpg)

(http://tralfaz-archives.com/coverart/N/Nektar/nektar_recycleb.jpg)

ผลงานของ Nektar ในยุคปี 2000 อย่างเช่นชุด Evolution และ Book of Days ยังกระเดียดไปทาง neo-prog อย่างที่คุณ panyarak ได้บอกไว้ใช่ไหมครับ? ไม่ทราบว่ามีใครเคยฟังแล้วบ้างครับ?

ผมมี แอลพี ชุดนี้ครับ...

(http://www.uppicfree.com/images/870_NektarDownToEarthLP.jpg) (http://www.uppicfree.com/view-870_NektarDownToEarthLP.jpg)

ซื้อมาตั้งแต่ประมาณปี 1979 เพิ่งฟังไปครั้งเดียว จำไม่ได้แล้วครับ ว่าดนตรีเป็นยังงัย  
...จำได้ว่าหน้าปกเป็น gatefold แบบกระดาษแข็งแผ่นเดียว ;D  ;D  ;D

รู้สึกเง็ง เอ๊ย งงกับคำว่าหน้าปก gatefold กระดาษแข็งแผ่นเดียวของพี่นี่แหละ -- นั่นมัน single cover ไม่ใช่หรือครับ ???

คือมันเปิดได้แต่ว่ากระดาษมันอ่อนน่ะครับ เหมือนกับ LP (USA) ชุด Sweet Freedom ของคณะ Uriah Heep.

^^^
อ๋อ เข้าใจแล้ว ผมเคยเห็นฝรั่งเขาเรียกว่า fragile gatefold jacket น่ะครับ (แต่ปกอัลบั้ม Sweet Freedom ของ Uriah Heep ที่ทำในญี่ปุ่นนี่แข็งเอาเรื่องเลยทีเดียวนะครับ)

ไม่เคยได้ลูบคลำ Sweet Freedom แผ่นพี่ยุ่นเลยไม่ทราบครับ  :-\

คุณปีศาจฯ เคยฟังอัลบั้มที่ผมมีของคณะ Nektar มั้ยครับ ผมลืมไปแล้วจริงๆ ว่าดนตรีเป็นแบบไหน ความจำไม่
ค่อยดี แต่รู้ว่าพอเปิดเมื่อก่อนเพลงมันไม่สนุกก็เลยเก็บตายเข้ากรุ  ???

Down To Earth เป็นผลงานที่ออกในปี 1974 ตามหลังชุด Remember The Future (1973)
ผมไม่เคยฟัง Down To Earth (ชุดที่พี่โป่งมีอยู่) หรอกครับ แต่เห็นเขาว่าได้มาตรฐานระดับเดียวกับ Remember The Future แต่อาจจะอ่อนกว่าหน่อยหนึ่ง เพราะ Remember The Future ได้ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอผู้เชี่ยวชาญวง Nektar อย่างคุณ panyarak มาตอบดีกว่าครับ

(http://www.vintageprog.com/nek4.jpg)

หน้าปกชุดนี้ไม่ได้ออกแบบโดย Helmut Wenske เหมือนอัลบั้มชุดอื่นอีกหลายชุดของ Nektar นะครับ

^^ จำรายละเอียดไม่ได้แล้วครับ ขอกลับไปฟังใหม่อีกหนครับ ส่วนหน้าปก เห็นแล้วไม่น่าซื้อเลย

^^ หยิบมาฟังอีกหนแล้วถึงได้รู้ว่าทำไมจำอะไรเกี่ยวกับชุดนี้ไม่ได้เลย มันค่อนข้างไร้ทิศทาง และหลากหลายแนว บางเพลงก็ทำให้นึกถึง Hawkwind บางเพลงก็มาแบบ krautrock บางเพลงก็อัดเครื่องเป่าเข้ามาเต็มที่ ฯลฯ ที่ชอบอย่างเดียวคือ ท่อนอินโทรของเพลงแรกที่ทำเหมือนกำลังจะได้ดูละครสัตว์ ส่วนปกเป็น gatefold กระดาษเป็น texture แบบแผ่นเสียง ปกหน้าค่อนข้างแข็งครับ

ผลงานการแสดงสดของ Nektar ชุด Sunday Night at London Roundhouse (1974) น่าสนใจไหมครับ?

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/549/cover_262371592007.jpg)

ชอบชุดนี้ครับ

เมื่อคืนไปค้นเจอแผ่นเสียงอัลบั้ม Sunday Night at London Roundhouse ซุกอยู่ในลังเพราะซื้อไว้นานมากแล้วและได้ฟังไปครั้งเดียวจึงจำรายละเอียดไม่ได้ และเป็นแผ่นที่ดูเหมือนจะถูกลืม แผ่นนี้เป็นแผ่นตรา Bacillus/Bellaphon ของเยอรมนีที่เห็นเขาว่าตอนนี้ราคาค่อนข้างแพง (เคยเห็นขายในอีเบย์ราคา 50 เหรียญ แต่ผมซื้อในเมืองไทย จำราคาแน่นอนไม่ได้ แต่คงไม่เกิน 500 บาท) ก็เลยจับมาเล่นดูอีกครั้ง สังเกตว่าดนตรีชุดนี้จะเน้นการ jamming ที่ออกแนว psychedelic และเสียงลีดกีตาร์และร้องนำของ Roye Albrighton จะโดดเด่นกว่าเพื่อน ในขณะที่เสียงคีย์บอร์ดไม่ค่อยโดดเด่นเท่าที่ควร

ผมฟังชุด Remember the Future อีกครั้ง ก็รู้สึกว่าไม่ได้เน้นคีย์บอร์ดมากนัก เด่นแต่เสียงกีตาร์ เสียงร้องนำ และเสียงประสาน ทำให้รู้สึกว่าพอฟังได้แต่ไม่ค่อยประทับใจเท่าที่ควร บางครั้งเหมือนได้ยินองค์ประกอบบางอย่างจากวง Yes ด้วยแต่ก็ไม่มากนัก

สรุปว่าไม่ค่อยประทับใจ Nektar สองชุดนี้เพราะเสียงคีย์บอร์ดไม่โดดเด่นมากครับ

เห็นบางคนบอกว่าอัลบั้มคู่ "...Sounds Like This" ของ Nektar นั้นฟังแล้วค่อนข้างน่าเบื่อและไร้ทิศทาง -- จริงหรือเปล่าครับ?

(http://www.vintageprog.com/nek3.jpg)

ผมได้ฟังชุด Recycled แล้ว ซาวน์ดออกจะทันสมัยกว่าชุด Remember the Future อย่างเห็นได้ชัด (แต่ถ้าพูดถึงในแง่ความคลาสสิก ผมชอบ Remember the Future มากกว่า) Recycled Part 1 เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจ แต่พอถึง Part 2 ฟังแล้วกลับรู้สึกแปลก ๆ ที่มีซาวน์ดในสไตล์ละตินบราซิลเลี่ยนปะปนเข้ามาด้วย -- ชุดนี้น่าจะจัดเป็นอัลบั้ม "ครึ่ง ๆ กลาง ๆ" ชุดหนึ่งได้เลยครับ

แผ่นเสียงอัลบั้ม Remember the Future ซึ่งออกในอเมริกาโดย Passport และเวอร์ชั่นนี้ remix โดย Robert (Bob) Ludwig เสียงกีตาร์โดดเด่นเป็นพิเศษ กลบเสียงคีย์บอร์ด (ออร์แกน) เสียแทบหมด แผ่นอเมริกาที่ผมเคยเห็นมีขายทั่วไปในอีเบย์ ส่วนใหญ่สภาพปกไม่ค่อยจะสวย แต่นี่คือ copy ที่ดีที่สุดทั้งปกและแผ่นเท่าที่ผมพอจะหาได้ ซึ่งไม่ค่อยง่ายนัก (สงสัยจังว่าทำไมพวกฝรั่งถึงมือหยาบนัก ไม่ค่อยทนุถนอมแผ่นเสียงเอาเสียเลย)

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/Nektar%20LP/DSC00449.jpg)

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/Nektar%20LP/DSC00451.jpg)

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/Nektar%20LP/DSC00452.jpg)

คราวนี้มาดูแผ่นเยอรมันของอัลบั้มเดียวกันเปรียบเทียบดูบ้าง แผ่นที่ได้มานี้มีสภาพปกยับเยินเล็กน้อย แต่แผ่นไวนิลสภาพเรียบร้อยดี บันทึกเสียงระบบสเตริโอสี่ช่อง หรือในระบบ SQ Quadraphonic แต่เล่นกับระบบสเตริโอสองช่องได้ ไม่มีปัญหา อัลบั้มที่ทำในเยอรมนีชุดนี้กลับมีเสียงออร์แกนโดดเด่นและมีรายละเอียดหยุมหยิมอื่น ๆ อย่างที่ไม่เคยได้ยินจากแผ่นอเมริกา -- เซอร์ไพรส์จริง ๆ ครับท่าน

สรุปว่าใครที่เก็บแผ่นเสียงชุดนี้ ควรต้องมีทั้งแผ่นอเมริกาและแผ่นเยอรมันไว้คอยฟังเปรียบเทียบครับ

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/Nektar%20LP/DSC00458.jpg)

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/Nektar%20LP/DSC00455.jpg)

(http://i321.photobucket.com/albums/nn367/paiboonp/Nektar%20LP/DSC00457.jpg)

ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ

สังเกตจากร้านแผ่นเสียงมือสองในอเมริกากับญี่ปุ่น จะเห็นชัดครับ ในอเมริกาส่วนใหญ่จะไม่มีซองพลาสติกสวมทับกันปกช้ำ ยิ่งพวกแผ่นที่ขายตาม record convention จะใส่กล่องกระดาษวางทับๆ กัน สภาพปกจะชอกช้ำยับเยินจนไม่อยากจับ ในขณะที่ในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใส่ซองพลาสติกทับอีกชั้นหนึ่งครับ

ผมก็เพิ่งได้ฟังอัลบั้ม Down to Earth ไปเมื่อสามสี่วันก่อนนี้เองครับ (หลังจากที่ปลื้มลายเซ็นพี่วิฑูร วทัญญู ที่เซ็นไว้ให้บนหลังปกอัลบั้มชุดนี้อยู่หลายวัน) เห็นว่าผลงานชุดนี้ถ้าฟังครั้งเดียว รับรองไม่ "เก็ท" แน่นอน อาจต้องฟังซ้ำหลายเที่ยว หรือไม่ก็ไม่ต้องฟังเลยเพราะว่าไม่ชอบ แฟน Nektar บางคนอาจชอบผลงานชุดนี้ แต่บางคนอาจไม่ชอบไปเลยก็ได้ เพราะมันเหมือนมีดนตรีหลายแนวใส่ไว้ในอัลบั้ม บางครั้งก็ทำให้นึกถึงดนตรีร็อคเยอรมันอย่างที่คุณ panyarak บอก และบางครั้งก็มีธีม (theme) ของละครสัตว์ (circus) โผล่มาให้ได้ยินครับ

(http://www.vintageprog.com/nek4.jpg)

จากประสบการณ์ในการสั่งซื้อแผ่นเสียงในอีเบย์ บ่อยครั้งพบว่าคนขายที่เป็นฝรั่งมักจะทำการ grading แผ่นได้หยาบกว่าคนญี่ปุ่น บางทีแผ่นอยู่แค่ระดับ VG+ หรือ VG++ แต่กลับเคลมว่า Near Mint หรือ Mint- เฉยเลย (ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น โดยมากถ้าเขาบอกว่า near mint ก็ near mint จริง ๆ) แม้แต่ในเรื่องการส่งของก็มักไม่ใช้ความประณีตและระมัดระวังในการจัดส่งเท่าที่ควร เช่น ไม่ดึงแผ่นออกมาจากซองนอก (jacket) ก่อนจะทำการแพ็คใส่กล่องเพื่อส่ง พอแผ่นมาถึงมือเรา บางทีตะเข็บของ jacket แตกปริหรือเกือบจะแตกปริ กลายเป็นปกไม่สวยเลย ต้องหากาวอัดหรือซ่อมตะเข็บกันจ้าละหวั่น บางทีก็ใช้กล่องบรรจุที่ไม่แข็งแรงใส่แผ่นเสียงส่งมาให้เรา ทำให้ปกหรือ jacket ยับยู่ยี่ หรือบางทีก็มุมปกยับย่น มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่มือของคนนำส่งจะปราณีครับ

เห็นด้วยครับ ในทางกลับกันผมมักพบว่าคนขายชาวญี่ปุ่นมักให้เกรดที่ต่ำกว่าของจริงด้วยซ้ำเช่นเขียนว่า Near Mint แต่สภาพจริง Mint เหมือนใหม่มาก หรือเขียนว่า Excellent สภาพจริงเรียกว่า Near Mint ได้เลยเป็นต้น

ขอเรียนถามคุณ panyarak ว่าอัลบั้ม Magic Is a Child เป็นอย่างไรบ้าง? ยังน่าซื้ออยู่หรือเปล่าครับ? เห็นเขาว่าชุดนี้เสียเอกลักษณ์ของวงไปแล้วเนื่องจากไม่มี Roye Albrighton มือกีตาร์และร้องนำน่ะครับ
ถ้ายังพอใช้ได้อยู่ ผมจะได้ซื้อเก็บไว้ครับ

(http://www.vintageprog.com/nek12.jpg)

Magic is a Child เปรียบได้กับ Reel to Reel ของ Starcastle ครับ

ขอบคุณครับ
ผมเห็นราคาแผ่นเสียงชุดนี้มันถูกดี และกำลังลองชั่งใจอยู่ว่าจะ bid มาฟังดีหรือไม่ ถ้า bid ได้แล้วก็จะให้คนขายส่งมาพร้อม ๆ กับชุด Journey to the Centre of the Eye กับ ...Sounds Like This... ไปเลยครับ

เพิ่งมีโอกาสได้ฟังชุด A Tab in the Ocean และ Journey to the Centre of the Eye ก็รู้สึกไม่ผิดหวังครับ โดยเฉพาะเพลง A Tab in the Ocean และ Desolation Valley นั้นเยี่ยมมาก เผลอ ๆ ผมจะหลงรักสองชุดนี้มากกว่า Remember the Future เสียอีก

ส่วนชุด Down to Earth นั้น ฟังซ้ำไปมาก็ชักจะเข้าท่าเช่นกันครับ

เอ...ผมว่าผมมีอัลบั้มรวมเพลงของคณะ Nektar อยู่ในกรุเหมือนกันนะครับ เป็นแผ่นเสียงคู่แบบ gatefold sleeve แต่ต้องไปเช็คในแน่นอน
ก่อนว่ายังอยู่หรือไม่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อว่า Thru The Ears (1978)   :)  :)  :)

A1   Do You Believe In Magic  3:46  
A2   The Dream Nebula (Parts 1 & 2)  4:40  
A3   It's All In The Mind  3:22  
    Producer - Dieter Dierks  
A4   King Of Twilight  4:18  
A5   Wings  3:48  

  Remember The Future (Part 1) (16:38)
B1a   Images Of The Past    
B1b   Wheel Of Time    
B1c   Remember The Future    
B1d   Confusion    
  -
C1   That's Life  6:35  
C2   Desolation Valley  9:45  

D1   Astral Man  3:15  
D2   Fidgety Queen  3:40  
D3   Good Day  6:51  
D4   It's All Over  5:20  

(http://www.uppiczz.com/pic/in/nektarthrutheears.lp.1.jpg) (http://www.uppiczz.com/pic/show.php?id=10c8ad322db096c4a66409fae6b8472c)

มีความเห็นเป็นยังงัยบ้างครับ ?

^^^
เท่าที่ทราบ แผ่นรวมเพลงของพี่โป่งเป็นแผ่นที่ออกเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีอัลบั้มรวมเพลงที่เป็น official อยู่อีกชุดหนึ่งที่ชื่อ Nektar ครับ (แผ่นเดี่ยว)

(http://www.vintageprog.com/nek11.jpg)

ผมก็มีแผ่นเสียงชุด Thru the Ears อยู่ แต่จำไม่ค่อยได้แล้วครับว่า การเรียงเพลงกลมกลืนกันดีรึเปล่า

ได้ฟังชุด Journey to the Centre of the Eye ไปหลายเที่ยวแล้ว รู้สึกว่าเป็น space/psychedelic rock ที่บางส่วนคล้ายผลงานของ The Moody Blues ยุคแรก และบางส่วนทำให้นึกถึงผลงานชุด Inside ของ Eloy แต่ทว่า Journey... เป็นผลงานที่ออกมาก่อน Inside ครับ

(http://www.vintageprog.com/nek1.jpg)

(http://www.vintageprog.com/eloy2.jpg)

คุณ panyarak มี CD ชุด Journey to the Centre of the Eye ไหมครับ? คือว่าผมมีแผ่นเสียงชุดนี้ แล้วเพลง The Dream Nebula Part 1 ซึ่งเป็น track สุดท้ายในหน้าแรกมันจบเอาดื้อ ๆ แล้วค่อยไปต่อ Part 2 ซึ่งเป็นเพลงแรกในหน้า 2 โดยเสียงจะค่อย ๆ ดังขึ้นมา (คล้ายเพลง Karn Evil 9 Fisrt Impression Part 2 ของ ELP) แต่ผมไม่ทราบว่าเพลง The Dream Nebula ในอัลบั้ม CD จะถูกตัดต่อให้กลมกลืนเป็นเพลงเดียวกันหรือเปล่าน่ะครับ

ขอกลับไปฟังแล้วจะมารายงานผลครับ

ในซีดีก็เป็นแบบแผ่นเสียงครับ

ไม่เห็นเหมือน Karn Evil 9 First Impression Part 1 & 2 เลยนะครับ พอเอามาทำเป็นซีดี เพลงสองส่วนนี้ถูกนำมาต่อซะเนียนจนเป็นเพลงเดียวกันไปเลย

สังกัด Longhair (Germany) ได้มีแผ่นเสียง reissue ของ Nektar จำนวนสองอัลบั้ม คือ Journey to the Centre of the Eye และ A Tab in the Ocean ออกมาแล้ว ผมคิดว่าในอนาคตต่อไปคงมีชุดอื่นรีอิชชู่ออกมาอีก

Album is remastered from the original master tape and sounds brilliant. There is an insert with band story and rare photos. A must have!!

ผมมีแผ่นเสียงชุด Marburg ของ Pell Mell ซึ่งรีอิชชู่โดย Longhair เป็นแผ่นที่มีความหนาปกติ ไม่ใช่แผ่น 180 กรัม งานผลิตและอาร์ตเวิร์คประณีตเรียบร้อยดีมาก

แม้จะมีแผ่นออริจินัลทั้งสองชุดของ Nektar ดังกล่าวข้างต้นอยู่แล้วก็ตาม สงสัยคงจะต้องเสียเงินให้แผ่นรีอิชชู่ของ Longhair อีกแล้วล่ะครับ ;D

ชุด live in new york เป็นอย่างไรบ้างครับ

เป็นอัลบั้มคู่บันทึกการแสดงสดเมื่อปี 1974 แต่ออกจำหน่ายในปี 1977 คุณภาพเสียงไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับอัลบั้มคู่แสดงสดชุดถัดมา คือ More Live in New York (1978) ซึ่งดูจะดีกว่าครับ

(http://www.vintageprog.com/nektar10.jpg)  (http://www.vintageprog.com/nektar11.jpg)

สังกัด Long Hair (Germany) นำเอา 2 อัลบั้ม คือ Journey to the Centre of the Eye และ A Tab in the Ocean มาทำแผ่นเสียง remastered & reissued ออกจำหน่ายได้ไม่ทันไร ได้ข่าวมาว่า เดือน พ.ย. นี้ สังกัด Missing Vinyl แห่งประเทศกรีซ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ได้นำเอาอัลบั้มเอกของ Nektar จำนวน 3 ชุดมาทำแผ่นเสียงรีมาสเตอร์และรีอิชชู่ออกจำหน่ายเช่นกัน ได้แก่ผลงานชุด Journey to the Centre of the Eye, A Tab in the Ocean (เหมือนที่ Long Hair ได้ทำออกมา) และ Remember the Future โดยแผ่นเสียงที่ทำออกมานี้เป็นแผ่นแบบ Limited, deluxe 2LP gatefold cover ซึ่งแต่ละอัลบั้มที่ทำเป็นแผ่นคู่ (ของเดิมเป็นแผ่นเดี่ยว) นี้มี previously unreleased bonus tracks แถมมาให้ด้วย

เพิ่งซื้อแผ่นของ Long Hair มาได้ไม่ทันไร สงสัยคงได้เตรียมตัวเทกระเป๋าซื้อแผ่นของ Missing Vinyl อีกแล้วครับท่าน ::)

http://www.veamusic.com/catalogue/ownlabel.php

ได้ฟังแผ่นเสียง Journey to the Centre of the Eye ฉบับรีมาสเตอร์โดย Long Hair แล้ว เมื่อเทียบกับต้นฉบับที่เคยฟัง พบว่าฉบับของ Long Hair ให้เสียงที่สดขึ้น ปลายเสียงแหลมทอดไปไกลและระยิบระยับกว่า พื้นเสียงสงัดและสะอาดกว่า และรู้สึกว่าจะได้ยินรายละเอียดบางอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย ในขณะที่แผ่นต้นฉบับที่ออกโดย Bellaphon เมื่อปี 1971 นั้นเสียงดูจะดิบและหม่นกว่าเล็กน้อย และ background noise จะเยอะกว่า เพราะเป็นแผ่นเก่าครับ (ผมมีแผ่น original ชุดนี้อยู่ 4 ก็อปปี้)

(http://www.vintageprog.com/nek1.jpg)

เดี๋ยวคืนนี้จะกลับไปฟังชุด A Tab in the Ocean (remastered) ครับ ;D

ชุด sunday night at the london roundhouse 1974 ,released 2002 มีเฉพาะซีดีใช่มั้ยครับ หรือมีแผ่นเสียงด้วยครับ

ถ้าอยากได้แผ่นเสียง ให้ลองเสิร์ชหาดูในอีเบย์ดอทคอม หรืออีเบย์เยอรมัน www.ebay.de ก็ได้
ชุดนี้ผมมีแผ่นเสียงอยู่ ซื้อไว้นานแล้วในบ้านเรานี้เองครับ

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/549/cover_262371592007.jpg)

ขอบคุณมากครับ คือ ผมดูในเว็ป พบว่าreleased 2002 เป็นอัลบั้มคู่ มีเพลงมากกว่า original ก็เกิดความสนใจครับ แต่ไม่มั่นใจว่าผลิตแผ่นเสียงหรือไม่ครับ

ซีดีรุ่นใหม่คงให้เพลงแถมมาด้วย แต่แผ่นเสียงเดิม ๆ เป็นแผ่นเดี่ยว มีไม่กี่เพลงเท่านั้นครับ

อัลบั้มใหม่เล่นเพลง cover ล้วนๆ จะออกเป็นแผ่นเสียงแผ่นคู่ด้วยครับ

(http://i236.photobucket.com/albums/ff271/panyarak/ne.jpg)

หมายความว่าในอัลบั้ม A Spoonful of Time นี้ Nektar เล่นคัฟเวอร์เพลงของศิลปินวงอื่นหรือครับ?

รายชื่อเพลงครับ

1. Sirius featuring Michael Pinnella (Symphony X)

2. Spirit Of The Radio featuring Mark Kelly (Marillion)

3. Fly Like An Eagle featuring Geoff Downes (Asia / Yes) Joel Vandroogenbroek (Brainticket)

4. Wish You Were Here featuring Edgar Froese (Tangerine Dream)

5. For The Love Of Money featuring Ian Paice (Deep Purple) Nik Turner (Hawkwind)

6. Can't Find My Way Home featuring Steve Howe (Yes) Derek Sherinian (Dream Theater/Black Country Communion) Mel Collins (King Crimson)

7. 2000 Light Years From Home featuring Simon House (Hawkwind)

8. Riders On The Storm featuring Billy Sheehan (Mr. Big) Rod Argent (The Zombies / Argent)

9. Blinded By The Light featuring Joakim Svalberg (Opeth) Ginger Baker (Cream)

10. Out Of The Blue featuring Simon House (Hawkwind)

11. Old Man featuring David Cross (King Crimson)

12. Dream Weaver featuring Jerry Goodman (Mahavishnu Orchestra)

13. I'm Not In Love featuring Rick Wakeman (Yes) Joel Vandroogenbroek (Brainticket)

14. Africa featuring Bobby Kimball (Toto) Patrick Moraz (The Moody Blues)

แหม.. เพลงเด็ดๆ เทพๆ ทั้งนั้นเลยครับ  :D

ได้แผ่นมาแล้ว ยังไม่ทันเปิดฟัง เห็นสติกเกอร์ก็เริ่มจิตตกแล้ว เพราะมันคือรายชื่อนักดนตรีชื่อดังที่อยู่ในแก็งค์ทำเพลงคัฟเวอร์ของ Billy Sherwood ทั้งนั้น พอเปิดดูข้างใน ความคาดหวังก็เป็นศูนย์ทันทีเมื่อพบชื่อ Billy Sherwood เล่นทั้งเบส คีย์บอร์ด กีตาร์ ร้องประสาน แถมเป็นคนมิกซ์เสียงด้วย เปิดฟังไป 3 รอบแล้ว ยังหาจุดเด่นของอัลบั้มไม่เจอ เพลงที่แย่ที่สุดน่าจะเป็นเพลงที่ 4 ส่วนที่พอรับได้คือ 13 ครับ

พี่ตั๊ม ยังคงต้องเจอกับ อีตาเชอวูด อีกนานหละครับ
เพราะรู้สึกว่า แกจะตั้งหน้าตั้งตา ทำซ้ำ ศิลปินทุกวงในโลกนี้ (ฮา)

อยากถาม คุณPanyarak ว่าเคยเล่นเครื่องเสียงยี่ห้อ Sherwood บ้างมั้ยครับ 555+  :D

ขออนุญาตแจมครับ... เมื่อยี่สิบปีก่อน ผมเคยเกือบจะซื้ออินทิเกรตเตดแอมป์ยี่ห้อ Sherwood (จำชื่อรุ่นไม่ได้ แต่สีดำสนิท) แต่พอลองฟังเสียงเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้ว รู้สึกเสียง Sherwood มันแข็งไปหน่อย (สไตล์อเมริกัน?) จึงเลือกยี่ห้ออื่นแทนครับ

เคยมีวิทยุเทปติดรถยนต์ครับ เล่นเพลงร็อคได้หนักแน่นดีครับ

ถ้าอย่างงั้นลองไปหาซื้อเครื่องเสียงยี่ห้อ Sherwood มาฟังใหม่โดยเปิดผลงานของ Billy Sherwood เป็นหลัก
บางทีอาจทำให้ฟังเพลงของเค้าไพเราะขึ้นบ้างก็ได้นะครับ เพราะว่ามันเป็นพรรคพวกเดียวกัน  อิ...อิ...อิ  ;D  ;D  ;D

Nektar เพิ่งออกอัลบั้มใหม่ในปี 2013 ชื่อชุด Time Machine ซึ่งหน้าปกดูสวยดี แต่ที่น่าทึ่งและอึ้งคือมี Klaus Schulze เล่นคีย์บอร์ด และ Billy Sherwood เล่นเบสส์ ไม่ทราบมีใครได้ลองแล้วยังครับ?

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/549/cover_58396752013_r.jpg)

ยังไม่วางจำหน่ายเลยครับ เห็นชื่อมือเบสแล้ว ขอผ่านครับ

ฝีมือไม่เข้าขั้นหรือครับ?

เขาถนัดในการทำให้ดนตรีดีๆ ฟังดูแย่ไปเลยครับ

อัลบั้ม Time Machine กำหนดออกวางตลาด 18 มิ.ย. 2013 งานนี้ (ตามข้อมูลจาก progarchives) นอกจาก Derek Moore (เบสส์) ซึ่งถูกแทนที่ด้วย Billy Sherwood แล้ว ผมยังงง ๆ อยู่เลยครับว่า ปรมาจารย์ electronica อย่าง Klaus Schulze มารับหน้าที่เล่นคีย์บอร์ดแทน Allan Freeman ได้ยังไง

ขอแก้ข้อมูลเกี่ยวกับมือคีย์บอร์ดในชุด Time Machine ซึ่งเดิมผมเห็นระบุไว้ใน progarchives ว่าเป็น Klaus Schulze แต่ต่อมาพอกลับเข้าไปดูอีกครั้งกลับพบว่าเป็นชื่อ Klaus Henatsch ครับ

(http://www.klaus-henatsch.de/images/Klaus_Henatsch_30-kl.jpg)

เริ่มฟังไปบ้างแล้ว สมชื่อ Billy Sherwood จริง ๆ

Roye Albrighton มือกีตาร์/ร้องนำของ Nektar เสียชีวิตด้วยวัย 67 เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2016 วงการดนตรีร็อคได้สูญเสียนักดนตรีฝีมือดีไปอีกคนหนึ่งแล้ว และในสายตาของผม Roye Albrighton เป็นมือกีตาร์ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งและน่าจะอยู่ในแถวหน้าของสุดยอดมือกีตาร์ของโลก ใครที่เคยฟังผลงานของ Nektar โดยเฉพาะผลงานในยุค 70's ก็คงประจักษ์ดีครับ

(http://assets.teamrock.com/image/485c1911-04c9-456c-9ad7-6384229ce3bf?w=800)

นอกจากฝีมือกีตาร์แล้ว ผมยังชอบเสียงร้องและท่วงทำนองการร้องเพลงของ Roye Albrightton ด้วยครับ

ไลน์อัพ Nektar ชุดเก่า ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ที่เก่าสุดน่าจะเป็น Klaus Henatsch มือคีย์บอร์ด (แต่ในสายตาผมก็ยังถือว่าใหม่อยู่ดี) ไลน์อัพใหม่ใช้ชื่อว่า (New) Nektar ซึ่งมี Che Albrighton บุตรชายของ Roye Albrighton อดีตมือกีตาร์และร้องนำผู้ล่วงลับ เป็นมือกลอง ผลงานที่กำลังจะออกในวันที่ 7 ธันวาคม 2018 คือชุด Megalomania อ่านข่าวแล้วเห็นว่าจะทำออกมาจำหน่ายในหลายสื่อ รวมทั้ง CD และ LP ด้วย ใครที่เป็นแฟนวงนี้ก็รอฟังแล้วกันครับว่าไลน์อัพใหม่จะมีฝีมือเจ๋งแค่ไหน

https://www.musictap.com/2018/10/31/new-nektar-album-megalomania-to-be-released/

ผลงานแสดงสดของ Nektar ชุด Live in Bremen เมื่อปี 2015 ก่อนที่ Roye Albrighton (กีตาร์และร้องนำ) จะเสียชีวิตเมื่อปี 2016 สมาชิกไลน์อัพเดิมทั้ง 4 คนยังอยู่ครบ พร้อมนักร้องและนักดนตรีเสริมอีกจำนวนหนึ่ง มีซีดีแผ่นคู่และ triple LP ออกจำหน่ายแบบ limited edition โดย Sireena เมื่อปี 2017 ครับ

เครดิตภาพ www.progarchives.com

(http://www.progarchives.com/progressive_rock_discography_covers/549/cover_454616572017_r.jpg)