เห็นว่าในงานมีแผ่นเสียงจำหน่ายด้วย ไม่ทราบเท่าที่คุณอั๋น501เคยเห็นเคยสัมผัสมา ส่วนใหญ่เป็นเพลงแนวไหนครับ? ผมขอสันนิษฐานไว้ก่อนว่าส่วนใหญ่ต้องเป็นแนว audiophile แน่เลย เพราะพวกที่ไปเดินดูของในงานส่วนใหญ่จะต้องเป็นเหล่า audiophile ทั้งนั้น ถ้าให้ผมไปเดินในงานก็คงต้องกลับบ้านมือเปล่าครับ
เฮียน่าจะสันนิษฐานผิดแฮะ ปัจจุบันนี้ต่างจากงานเครื่องเสียงเมื่อสมัยก่อนมากแล้ว แผ่นเสียงที่ขายดีไม่ใช่แผ่นเสียงแนว audiophile เลยแฮะ
เชื่อไหมว่างานเครื่องเสียงช่วง 1-2 ปีหลังเนี่ยแผ่นเสียงกับขายดีกว่าซีดีมากมายนัก มีร้านแผ่นเสียงมาออกงาน 5-6 ร้านเลย แข่งกันขาย ทั้งร้าน
แผ่นเสียงที่ขายแผ่นใหม่และแผ่นเก่า แผ่นเสียงที่ขายดีคือทุกแนวทั้งร็อค, คลาสสิคร็อค แจ๊ส, บูล, ป็อปยุดปี 80-90, เพลงยุด 60 แผ่นเพลงไทย
หรือแม้แต่แนวโปรเกรสซีฟร็อค เว้นแต่แผ่นแนว audiophile ขายไม่ดี เสียดายพี่ปีศาจฯ ไม่ได้เล่นเฟชบุ๊คจะรู้ว่าเมื่อเดือนก่อนมีงานแผ่นเสียงแฟร์
ครั้งแรกของเมืองไทยจัดที่ MBK ชื่องาน Bangkok Analog Fest #1 (30 - 31 สิงหาคม) ร้านแผ่นเสียงมากมายไปรวมตัวกันออกร้าน เรียกว่ายุดนี้มีร้านขายแผ่นเสียงในบ้านเรามากกว่าสมัยก่อนยุดแผ่นเสียงเบิกบานของบ้านเราเสียอีก 555 เหลือเชื่อ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมจึงลมหวนกลับมาเล่นแผ่นเสียงอีกครั้งเพราะ มันหาซื้อง่ายเหมือนสมัยผมเล่นดีวีดี ไม่ต้องยากลำบากในการหาซื้อแผ่นเสียงอย่างเช่นสมัยก่อนอีกแล้ว แถมแผ่นเสียงราคาถูกกว่าซีดีอีก หากเทียบตามค่าครองชีพในอดีตยุดแผ่นเสียงเบิกบานเงินเดือนปริญญาตรีเดือนละ 2000-3000 บาท แผ่นเสียงราคา 190-300 บาท ปัจจจุบันเงินเดือนของเฮียคงหลายๆหมื่นผมก็ยังหาซื้อแผ่นเสียงในราคาค่าเฉลี่ย 300-500 บาทว่ากันเฉพาะแผ่นเสียงเพลงสากลที่ผมฟังเท่านั้นหากเป็นแผ่นเสียงประเภทนักเล่นเครื่องเสียงชอบพวกแผ่นหัวๆราคาก็จะแพงเว่อร์เหมือนกัน และแผ่นเสียงเพลงไทยเก่าๆเมื่อสมัยก่อนไม่มีราคาเพราะแผ่นผลิตมาจำนวนน้อยขายไม่ได้แยะ จึงกลายเป็นของหายากมีราคาแพงเว่อร์ เจอพวกพ่อค้าปั่นราคาอีกกลายเป็นกระแสแผ่นเสียงเพลงไทยฟรีเวอร์ไงล่ะ โชคดีผมไม่ฟังเพลงไทยเลยไม่ต้องจ่ายแพงแฮะ
http://www.youtube.com/watch?v=XO143VvAQSU
[/quote]
ชื่นใจจริงครับที่รู้ว่าอะนาล็อกยังไม่ตายและจะไม่มีวันตาย นี่ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ผมได้คิดไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนนั้นได้รับการพิสูจน์แล้ว เมื่อครั้งที่เริ่มเล่นเครื่องเสียงอย่างจริงจังด้วยเงินเดือนของคนจบปริญญาตรีใหม่ ๆ เดือนละ 6000 บาท เมื่อครั้งที่แผ่นซีดีครองตลาดส่วนใหญ่ และคนส่วนใหญ่คิดว่าแผ่นเสียงได้ตายไปแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่าถึงแม้ซีดีจะเป็นฟอร์แมทยอดนิยมและเสียงดีที่สุด ยังไงก็ต้องคงให้มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงไว้ในซิสเต็ม โดยเริ่มจากเครื่องเล่น direct drive ของญี่ปุ่นราคาไม่แพง แล้วก็พัฒนาเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาตามกำลังทรัพย์ แผ่นเสียงในยุคนั้นรู้สึกว่าหายาก เพราะซีดีกำลังครองตลาด หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะว่าเราไม่ทราบแหล่งซื้อเองก็ได้ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งซื้อหาไม่ง่ายเหมือนทุกวันนี้ เพราะยังไม่มีอินเทอร์เน็ต ต้องไปเดินตะลอนหาแถวย่านสะพานเหล็ก และมักจะได้แผ่นที่เราไม่อยากจะได้ติดมือกลับบ้าน แต่เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นว่าหาเงินไม่ทันซื้อแผ่นและบ้านไม่ค่อยมีพื้นที่จะเก็บแผ่น จะซื้อบ้านใหม่ให้ใหญ่กว่าเก่ารึก็คงไม่ไหว เพราะอายุงานเหลือไม่เท่าไรก็เกษียณแล้ว มีอยู่ทางเดียวคือ เก็บเงินไว้ปรับปรุงและขยายห้องว่างชั้นบนเพื่อทำเป็นห้องฟังและเก็บแผ่นเสียงครับ