ผลงานของ Renaissance ในยุคหลังจากที่มี Annie Haslam เป็นสัญลักษณ์และนักร้องนำของวงนั้นมีดังนี้คือ
Prologue (1972)
Renaissance เริ่มประเดิมผลงานชิ้นแรกด้วย LP ที่ออกแบบหน้าปกที่เห็นแล้วต้องนึกว่าเพลงข้างในต้องเป็น Progressive แหงๆ แต่จริงๆ แล้วป็นเพลงค่อนข้างไปทาง Rock หลายแนว แต่ละเพลงค่อนข้างยาว โดยมีความไพเราะในตัวของมันเองสำหรับแต่ละเพลง ผู้ที่ชอบ Rock นิ่มนวล แบบหลายเพลงของ Scorpions ก็คงจะชอบ Sound of the Sea ซึ่งให้บรรยากาศของคลื่นและทะเลได้วิเศษสุดสมชื่อ การประเดิมผลงานชุดแรกด้วยเพลงชั้นยอด อาจถือได้ว่านักดนตรี และนักร้องวงนี้มีฝีมือเข้าขั้น
Ashes Are Burning (1973)
LP ชุดนี้ยังคงบรรจุเต็มเอียดไปด้วยเพลงแสนไพเราะเช่นเดียวกับชุดแรก โดยมีการลดท่อนโชว์การบรรเลงเครื่องดนตรีลงไป แล้วหันมาเน้นเสียงร้องของ Haslam มากขึ้น ยกเว้นเพลง title track ที่เริ่มเปิดศักราชความเป็น Progressive Rock ของวง แม้ว่าปกอัลบั้มชุดนี้จะไม่ชวนซื้อเหมือนชุดแรก แต่เพลงข้างในกลับตรงกันข้ามกับหน้าปกอย่างสิ้นเชิง
ปก Lp. คู่ที่ต่อมากลายมาเป็น Cd เดี่ยว ชุด
In The Beginning ในปี 1978 บริษัท Capitol ได้นำ LP 2 ชุดนี้มารวมออกใหม่เป็นแผ่นคู่โดยตั้งชื่อว่า In The Beginning ซึ่งออกแบบปกได้สวยงามมาก เป็นรูปผู้หญิงสวยนอนใส่ชุดราตรีสีแดงอยู่ที่ชายหาด ให้บรรยากาศเพลง Sound of the Sea ทำให้ผู้เขียนเลือกซื้อ LP คู่ชุดนี้แทนแยกซื้อ 2 แผ่น ซึ่งแพงกว่ามาก
Turn Of The Cards (1974)
Renaissance ย้ายสังกัดจาก Capitol ไปอยู่ Sire ในชุดนี้มีเพลงที่ออกไปทาง Progressive ชั้นเยี่ยมอยู่ 2 เพลงคือ Black Flame กับ Mother Russia เพลงต่างๆ ใน LP ชุดนี้ฟังดูแล้วให้บรรยากาศปราสาทราชวังสมัยเก่า และนักรบในชุดเกราะเหล็กได้ดีมาก
Scheherazade And Other Stories (1975)
และนี่คือ LP แนว Progressive Rock ที่ดีที่สุดในโลกชุดหนึ่ง ในหน้า A มีเพลงที่น่ากล่าวถึงมากที่สุดคือ Ocean Gypsy
เพลงนี้กล่าวถึงชีวิตของ Ocean Gypsy ซึ่งฟังดูแล้ว ทำให้ต้องนึกถึงนางผีเสื้อสมุทร จากเรื่องพระอภัยมณีฃองท่านกวีเอกสุทรภู่ทุกที โดยเฉพาะในท่อนที่กล่าวถึงคนรักของเธอว่า "เธอได้พบกับวิญญาณที่ว่างเปล่า" ซึ่งเปรียบเสมือนเธอได้พบกับคนที่เธอรัก แต่เขาไม่ได้รักเธอ
ในท่อนนี้ Betty Thatcher ผู้แต่งเนื้อร้อง ใช้อุปมา อุปไมยว่า "เธอเป็นเพียงดวงจันทร์ที่สะท้อนแสงดวงอาทิตย์สีทองของเขา จนเธอต้องตาบอดเพราะแสงของเขา"
และในท่อนที่กล่าวถึงความตายของ Ocean Gypsy, Thatcher บรรยายว่า "เธอถูกพันธนาการด้วยคลื่น ... บางสิ่งบางอย่างหายไปจากดวงตาของเธอ นิ้วอันปราศจากชีวิตของเธอเขี่ยทรายไปมา … เธอไม่ร้องไห้อีกแล้ว น้ำตาเธอได้เหือดแห้งไป แต่มหาสมุทรกลับร้องไห้แทนเธอ"
สำหรับหน้า B นั้นมีเพลงเดียวคือ Song Of Scheherazade (ออกเสียง ชา-เฮ-รา-สาด) ซึ่งแบ่งเป็น 9 ท่อน อันเป็นเรื่องราวของ 1001 ราตรี ซึ่ง Scheherazade เป็นผู้เล่าให้สุลต่านฟังเพื่อที่สุลต่านจะได้ไว้ชีวิตเธอ เพื่อให้เธอได้เล่าเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่ดีที่สุดของคณะนี้ ซึ่งพวกฝรั่งก็มักจะรู้จัก Renaissance กันจาก LP ชุดนี้
เป็นที่น่าเสียดายว่า Renaissance ซึ่งมีความคิดริเริ่มสรางสรรค์ ในการนำเสนอเพลง Progressive Rock แบบเล่าเรื่อง โดยมีวง Orchestra เป็น Back Up กลับไม่สามารถสานต่อความคิดอันนี้ต่อไปได้ โดยปล่อยให้ LP ชุดนี้เป็น LP ประวัติศาสตร์ไป