ศิลปะไม่มีมูลค่า แต่ก็มีต้นทุนนะครับ
งานศิลปะหลายประเภทใช้ต้นทุนต่างกัน บางประเภทใช้มาก บางประเภทใช้น้อย งานเขียน วรรณกรรม แทบไม่ต้องมีอะไรเลย มีกระดาษ ปากกา คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด ก็สร้างสรรค์ผลงานได้แล้ว
งานศิลปะดนตรีใช้ต้นทุนสูงพอดู ขึ้นกับรูปแบบของแนวดนตรีและการนำเสนออีกต่างห่าง ถ้าอย่างอัลบั้ม The Freewheelin' Bob Dylan ก็คงใช้ต้นทุนไม่มาก แค่หยิบมือกับการใช้จ่ายค่าบันทึกเสียงและกีตาร์โปร่ง แต่ถ้าเป็นอัลบั้มอย่าง The Six Wives of Henry VIII ของริก เวคแมน (เราคงยังไม่ต้องพูดไปถึงอัลบั้ม Journey to the Centre of the Earth หรอกนะครับ) ก็คงใช้ต้นทุนไม่น้อย ซึ่งหนักไปทางเครื่องดนตรี ไหนจะลองคิดถึงอัลบั้มอย่าง Abbey Road นี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ
กลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงครับ การทำเพลงสมัยนี้ก็มีต้นทุน อย่างเพลงพฤติกรรมของ Mystic Dream ก็มีต้นทุนครับ เพลงละ 5000 บาท ถึงจะได้ซาวน์ที่ผ่านการมิกซ์มาอย่างดีอย่างที่เราได้ยินกันในเพลงของน้องเค้า เป็นเพลงป๊อบร็อคธรรมดา แล้วถ้าผมอยากทำเพลง Prog ล่ะ จะใช้ทุนต่อเพลงเท่าไหร่กัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วการสร้างสรรค์งานดนตรีในปัจจุบัน ถ้าจะเอาอย่างทำเป็นการเป็นงานหาเลี้ยงชีพแล้วล่ะก็ เลิกคิดไปได้เลยครับ เพราะเราไม่มีทุน ยกเว้นว่ามีความคิดแบบผม คือคิดว่าจะทำงานหาเงิน ด้วยอาชีพธรรมดาๆ แล้วเอาเงินที่ได้มาสร้างสรรค์งานดนตรีแล้วฟังกันเองเพื่อความบันเทิง คือประมาณว่าทำเอง ฟังเองนั่นแหละครับ แล้วก็จะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร ไม่ต้องแคร์ว่าจะขายได้หรือเปล่า
คนที่เป็น The Star, AF พอผ่านการแข่งขัน ก็มีคนมาเทรนให้ มีทีมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์พร้อม หยั่งกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฉีกซอง แล้วเติมน้ำร้อนได้ยังไงอย่างงั้นแหละครับ ผ่านไปเดือนสองเดือนก็ออกอัลบั้มได้แล้ว มีมิวสิควีดีโอพร้อมโปรโมต ที่ผมพูดไม่ได้รังเกียจเค้านะครับ เพราะผมเองก็ชอบพวก J-Pop เหมือนกัน แต่ผมคิดว่า มันควรจะให้โอกาสคนอื่น แนวทางอื่นๆ เสียบ้าง คือเหมือนถ้าคุณอยากจะเป็นศิลปิน คุณมีทางเดียวเท่านั้น หน้าตาไม่ดีหมดสิทธิ์ ไม่หล่อ ไม่ขาว หมดสิทธิ์ ดูอย่าง The Star นี่ ลองนึกดูครับว่า ตอนนี้ใครดังสุดใน The Star ก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบี้ เดอะสตาร์ แล้วคนที่เคยเป็น The Star คนแรกล่ะ อย่างสน ตอนนี้หายไปไหนครับ เคยออกมากี่อัลบั้มแล้วครับ อย่างที่บอก ผมไม่ได้รังเกียจคนหน้าตาดีนะ แต่ผมว่ามันน่าจะให้โอกาสคนที่หน้าตาไม่ดีบ้างน่ะครับ
ขอเอาเนื้อเพลงของผมมาแปะหน่อยครับ เข้ากับเนื้อหาที่เราคุยกันอยู่นี้ดีครับ เพลงนี้ผมกับสันกับเหม่งลองเอามาเล่นตอนซ้อมครั้งล่าสุดแล้วครับ แต่งไว้เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
Lookin' GoodWords & Music by Agent Fox MulderVerse 1-1
Walking' round my old town
Sittin' on my own ground
What I had found?
There're some people talking out loud
Verse 1-2
A whole world has been change
Everything happen is the trend
Which is make me feel so insane
Like I stand alone in the rain
Pre-Chorus 1 : Instrumental
Verse 1-3
A man hold a gun in his hand
Acting like he's the best in this land
A pretty girl talking near the place where he stands
Acting as good as she can
Chorus 1
He said "Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know she's lookin' good ?"
"Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know she's lookin' good ?"
Verse 2-1
That pretty girl sittin' with a new man
She's crying out loud as she can
Telling him "I'm not the one that he want now!"
"Could you please give me your hand ?"
Verse 2-2
Next day, she talked to me 'bout her "Lookin' good boy"
Told me "He's a really nice guy"
And then she said with her eyes open wide
"Well, at least I think he can heal my pain."
Chorus 2
She say "Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know he's lookin' good ?"
"Don't you know I'm lookin' good ?"
"Don't you know he's lookin' good ?"
Outro
Lookin' so good, but not really good
Lookin' so good, but not really good
.......
....
ขอกลับมาที่ข้อความของพี่แจ๊คครับ
ถ้าการเล่นดนตรีของพวกเรา สร้างความสุข สร้างสุนทรีย์ และจรรโลงจิตใจอันห่อเหี่ยว ได้สดชื่น สดใสเบิกบานขึ้นมา ก็ถือว่า การเล่นดนตรีนั้น มีคุณค่าอย่างสูงสุดแล้ว
ส่วนเรื่อง "ลาภ ยศ สรรเสริฐ" เป็นสิ่งมายา(Illusion) ครับ ไม่มีประโยชน์ใดๆปัญหาตอนนี้คือการเล่นของเรา หากเราจะทำให้มันเป็นชิ้นเป็นอัน โดยที่ไม่แคร์ลาภ ยศ สรรเสริฐอะไรทั้งสิ้น มันก็ต้องใช้ "ต้นทุนของศิลปะ" ที่สูงอยู่ดีครับ
คุยกันสบายๆ นะครับ ไม่เครียดนะครับพี่แจ๊ค